สัมมนา วีไอภาคใต้ กับ อาจารย์ โจ ลูกอีสาน 5 มีนาคม 2566
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 06, 2023 11:22 am
อาจารย์โจ ลูกอีสาน มาให้คำแนะนำในงานวีไอภาคใต้ว่า
มือใหม่ยังไม่ต้องหาความสมบูรณ์แบบในการลงทุน มางานแล้ว ไม่ควรอาย ถามคำถามกับอาจารย์โจ
หรือนักลงทุนท่านอื่นได้ สิ่งที่เรียนรู้จะติดตัวไปตลอดชีวิต ขนาดอาจารย์ลงทุนมา23ปียังรู้อะไรไม่หมดเลย
ยังมาหาคำตอบในงานนี้เหมือนกัน
เงินถึงจุดหนึ่งก็ต้องใช้บ้าง อาจารย์เสริม ว่า อาจารย์ใช้จ่ายพอสมควร เทียบกับดร นิเวศน์ที่ใช้จ่ายน้อย
ตามหลักการวีไอ เหมือน วอร์เรน บัฟเฟตต์
นอกจากนี้สังเกตได้ว่า ไม่เคยได้ยินว่า ดร นิเวศน์ สนใจลงทุนหุ้นIPO ถึงแม้ว่าซื้อแล้วได้กำไรมาก็ตาม
คิดว่า ไม่อยากให้บริษัทเอาไปใช้หาประโยชน์
วิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ถึงแม้จะถึงเป้าหมายช้าหน่อย แต่ก็ไม่ด่างพร้อย
-เชื่อมั่นว่า อาจารย์โจภูมิใจในจุดนี้ ความด่างพร้อยน้อยมาก ไม่ใช้insider ไม่ไปcompany visit 7-8ปี
อาจารย์อยากจะเลี่ยง กลัวอดใจไม่ไหวถ้าผู้บริหารบอกข้อมูลสำคัญออกมา เลยไม่ไปcompany visit
สถานการณ์ตลาดหุ้นปีนี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี หลังจากปีที่แล้ว ลงแรงมาก
ส่วนตลาดหุ้นไทย ไม่คิดว่าจะลงในปีนี้ แต่ถ้าคิดย้อนหลังปีที่แล้วตลาดหุ้นก็ขึ้นมา เทียบกับตลาดต่างประเทศที่ลงไปเยอะ
หุ้นแอปเปิ้ลขึ้นมาเกือบ20% เป็นหุ้นที่อาจารย์ถืออยู่
เรื่องที่เสียเวลา การลงทุนในหุ้น แต่ไปดูสภาวะเศรษฐกิจ วีไอจะไปดูคุณภาพของบริษัท ถ้าบริษัทเราดี ถึงแม้เศรษฐกิจไม่ดี หุ้นก็ขึ้นเอง ฟันธงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือ หาหุ้นเจอหรือเปล่า
หุ้นที่ดี ประกอบด้วย
1.หุ้นที่แข่งขันได้ดี มีความสามารถในการสร้างกำไร การสร้างกำไรต่อเนื่องอย่างยาวนาน
2.ซื้อในราคาที่ดีด้วย
เหมือนกับการไปซื้อของที่โลตัส แมคโคร อย่างเช่น น้ำมันถั่วเหลืองแต่ละยี่ห้อ คุณภาพใกล้เคียง ดังนั้นตัวตัดสินก็คือราคา
แต่หุ้นจะไม่เหมือนกับน้ำมันถั่วเหลือง มีคุณภาพต่างกัน ดังนั้นนอกจากซื้อในราคาที่ดี คุณภาพของการสร้างกำไรของบริษัทต้องดีด้วย ต้องแยกแยะให้ถูก
ราคาไม่แพงเกินไป ก็ดูจากPE = Price/ Earning
โดย Earning คือ กำไรที่คาดหมายว่าเป็นกำไรในอนาคต
อาจารย์แนะนำหนังสือ One Up on Wall street ซึ่ง ดร นิเวศน์ เป็นคนแปลมาแจกสำหรับมือใหม่ที่มางานนี้ด้วย
อาจารย์เข้าวงการหุ้นตั้งแต่ตอนเรียนม4ที่กรุงเทพ โดยอ่าน นสพ กรุงเทพธุรกิจ ที่คุณน้าซื้อมาอ่าน แต่ไม่ชอบตาราง
หุ้นใน นสพ แต่จริงๆไม่ซับซ้อน มีอัตราส่วนทางการเงินแบบง่ายๆ
อาจารย์ตี้มาเสริมว่า เมื่อก่อน ก็ศึกษาหุ้นแต่ละตัว โดยเอาตารางหุ้นในนสพ กรุงเทพธุรกิจมาแปะข้างฝาบ้าน
เวลาอ่านจบหนึ่งบริษัท ก็ขีดฆ่าออกไป รู้สึกว่า ขยันสุดๆ เลย กว่าจะทำหมดก็คงใช้เวลาเยอะ
อาจารย์ตี้ลงทุนมา25ปี ที่เหมือนกับอาจารย์โจ คือมีภรรยาเป็นอาจารย์อยู่ที่ หาดใหญ่เหมือนกัน
สงสัยต้นแบบวีไอไทยรุ่นสอง ต้องมีแฟนเป็นอาจารย์ที่มอ ซะแล้วครับ
วันงาน ยังเจอน้องCharoensak คนนี้ก็พึ่งแต่งานเมื่อ15มค และภรรยาคืออาจารย์ที่มอ เห็นออกกำลังกายอยู่ที่มอ ประจำ
รูปแบบคล้ายอาจารย์โจเลย เสียดายว่า ไม่ทันแล้วคงได้แต่เอาหลักการมาใช้แทน อิอิ
นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า เป็นคนที่เอื้อเฟื้อกับเพื่อนจริงๆ คนที่โชคดีมาร่วมงานได้เช่น น้องเอ๊ะ ยังนำคำถามจากคนที่พลาดมาถามอาจารย์โจให้เลย
เช่น คำถามเรื่องการบริหารจิตใจอย่างไร ในสภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี อาจารย์บอกว่า นักลงทุนต้องมีแก่นการลงทุน
ก่อน ต้องยึดมั่น ทำให้เรามีหลักยึดเวลาตลาดหุ้นตกลง20-30% ไม่สติแตก
เวลาทีสถานการณ์ตลาดที่ผันผวน เราจะมีที่ยึดเหนี่ยวได้
สังเกตเวลาหุ้นตกหนัก ก็จะมีอาจารย์โจมาให้สัมภาษณ์และให้กำลังใจนักลงทุนเคียงคู่กับดร นิเวศน์ตลอดมา
เดี๋ยวผมจะไปสรุปเนื้อหาของหนังสือ One Up on Wall Streetมาฝากก่อนไปเนื้อหาสัมมนาต่อนะครับ
มือใหม่ยังไม่ต้องหาความสมบูรณ์แบบในการลงทุน มางานแล้ว ไม่ควรอาย ถามคำถามกับอาจารย์โจ
หรือนักลงทุนท่านอื่นได้ สิ่งที่เรียนรู้จะติดตัวไปตลอดชีวิต ขนาดอาจารย์ลงทุนมา23ปียังรู้อะไรไม่หมดเลย
ยังมาหาคำตอบในงานนี้เหมือนกัน
เงินถึงจุดหนึ่งก็ต้องใช้บ้าง อาจารย์เสริม ว่า อาจารย์ใช้จ่ายพอสมควร เทียบกับดร นิเวศน์ที่ใช้จ่ายน้อย
ตามหลักการวีไอ เหมือน วอร์เรน บัฟเฟตต์
นอกจากนี้สังเกตได้ว่า ไม่เคยได้ยินว่า ดร นิเวศน์ สนใจลงทุนหุ้นIPO ถึงแม้ว่าซื้อแล้วได้กำไรมาก็ตาม
คิดว่า ไม่อยากให้บริษัทเอาไปใช้หาประโยชน์
วิธีการลงทุนแบบเน้นคุณค่า ถึงแม้จะถึงเป้าหมายช้าหน่อย แต่ก็ไม่ด่างพร้อย
-เชื่อมั่นว่า อาจารย์โจภูมิใจในจุดนี้ ความด่างพร้อยน้อยมาก ไม่ใช้insider ไม่ไปcompany visit 7-8ปี
อาจารย์อยากจะเลี่ยง กลัวอดใจไม่ไหวถ้าผู้บริหารบอกข้อมูลสำคัญออกมา เลยไม่ไปcompany visit
สถานการณ์ตลาดหุ้นปีนี้
ตลาดหุ้นต่างประเทศ ปรับตัวขึ้นตั้งแต่ต้นปี หลังจากปีที่แล้ว ลงแรงมาก
ส่วนตลาดหุ้นไทย ไม่คิดว่าจะลงในปีนี้ แต่ถ้าคิดย้อนหลังปีที่แล้วตลาดหุ้นก็ขึ้นมา เทียบกับตลาดต่างประเทศที่ลงไปเยอะ
หุ้นแอปเปิ้ลขึ้นมาเกือบ20% เป็นหุ้นที่อาจารย์ถืออยู่
เรื่องที่เสียเวลา การลงทุนในหุ้น แต่ไปดูสภาวะเศรษฐกิจ วีไอจะไปดูคุณภาพของบริษัท ถ้าบริษัทเราดี ถึงแม้เศรษฐกิจไม่ดี หุ้นก็ขึ้นเอง ฟันธงจากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ปัญหาคือ หาหุ้นเจอหรือเปล่า
หุ้นที่ดี ประกอบด้วย
1.หุ้นที่แข่งขันได้ดี มีความสามารถในการสร้างกำไร การสร้างกำไรต่อเนื่องอย่างยาวนาน
2.ซื้อในราคาที่ดีด้วย
เหมือนกับการไปซื้อของที่โลตัส แมคโคร อย่างเช่น น้ำมันถั่วเหลืองแต่ละยี่ห้อ คุณภาพใกล้เคียง ดังนั้นตัวตัดสินก็คือราคา
แต่หุ้นจะไม่เหมือนกับน้ำมันถั่วเหลือง มีคุณภาพต่างกัน ดังนั้นนอกจากซื้อในราคาที่ดี คุณภาพของการสร้างกำไรของบริษัทต้องดีด้วย ต้องแยกแยะให้ถูก
ราคาไม่แพงเกินไป ก็ดูจากPE = Price/ Earning
โดย Earning คือ กำไรที่คาดหมายว่าเป็นกำไรในอนาคต
อาจารย์แนะนำหนังสือ One Up on Wall street ซึ่ง ดร นิเวศน์ เป็นคนแปลมาแจกสำหรับมือใหม่ที่มางานนี้ด้วย
อาจารย์เข้าวงการหุ้นตั้งแต่ตอนเรียนม4ที่กรุงเทพ โดยอ่าน นสพ กรุงเทพธุรกิจ ที่คุณน้าซื้อมาอ่าน แต่ไม่ชอบตาราง
หุ้นใน นสพ แต่จริงๆไม่ซับซ้อน มีอัตราส่วนทางการเงินแบบง่ายๆ
อาจารย์ตี้มาเสริมว่า เมื่อก่อน ก็ศึกษาหุ้นแต่ละตัว โดยเอาตารางหุ้นในนสพ กรุงเทพธุรกิจมาแปะข้างฝาบ้าน
เวลาอ่านจบหนึ่งบริษัท ก็ขีดฆ่าออกไป รู้สึกว่า ขยันสุดๆ เลย กว่าจะทำหมดก็คงใช้เวลาเยอะ
อาจารย์ตี้ลงทุนมา25ปี ที่เหมือนกับอาจารย์โจ คือมีภรรยาเป็นอาจารย์อยู่ที่ หาดใหญ่เหมือนกัน
สงสัยต้นแบบวีไอไทยรุ่นสอง ต้องมีแฟนเป็นอาจารย์ที่มอ ซะแล้วครับ
วันงาน ยังเจอน้องCharoensak คนนี้ก็พึ่งแต่งานเมื่อ15มค และภรรยาคืออาจารย์ที่มอ เห็นออกกำลังกายอยู่ที่มอ ประจำ
รูปแบบคล้ายอาจารย์โจเลย เสียดายว่า ไม่ทันแล้วคงได้แต่เอาหลักการมาใช้แทน อิอิ
นักลงทุนแบบเน้นคุณค่า เป็นคนที่เอื้อเฟื้อกับเพื่อนจริงๆ คนที่โชคดีมาร่วมงานได้เช่น น้องเอ๊ะ ยังนำคำถามจากคนที่พลาดมาถามอาจารย์โจให้เลย
เช่น คำถามเรื่องการบริหารจิตใจอย่างไร ในสภาวะที่เศรษฐกิจไม่ดี อาจารย์บอกว่า นักลงทุนต้องมีแก่นการลงทุน
ก่อน ต้องยึดมั่น ทำให้เรามีหลักยึดเวลาตลาดหุ้นตกลง20-30% ไม่สติแตก
เวลาทีสถานการณ์ตลาดที่ผันผวน เราจะมีที่ยึดเหนี่ยวได้
สังเกตเวลาหุ้นตกหนัก ก็จะมีอาจารย์โจมาให้สัมภาษณ์และให้กำลังใจนักลงทุนเคียงคู่กับดร นิเวศน์ตลอดมา
เดี๋ยวผมจะไปสรุปเนื้อหาของหนังสือ One Up on Wall Streetมาฝากก่อนไปเนื้อหาสัมมนาต่อนะครับ