สรุปความรู้บางส่วนจาก Seminar Thaivi 19 ,Part อ.นิเวศน์/อ.ไพบูลย์ (10 Jun 23)
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2023 10:14 am
เนื่องด้วยมีโอกาสร่วมงาน Seminar Thaivi 19 ในวันที่ 10/6/23 ที่ผ่านมา จึงอยากจะสรุปความรู้ที่ได้จากงานครั้งนี้บางส่วนเผื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนนักลงทุนท่านอื่นๆที่ไม่ได้มาร่วมงานนี้ครับ
Part (ก้าวเล็กๆในตลาดหุ้น ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต และลงทุนอย่างไรให้ใจสงบ)
วิทยากร ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวารกร 2.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
1.ถ้ามีโอกาสเริ่มต้นใหม่ เพื่อมาให้ถึงจุดทุกวันนี้ เราต้องเลือกเป็นนักเลือก โดยเลือกให้ถูกต้องว่าจะทำอะไร จะไปยังไง จากนั้นหาวิธีทำ (อย่าปล่อยให้วิถีชีวิตนำเราไป)
2.เวลาเลือก ถ้ามองว่า Chance (โอกาส) ที่ต่ำกว่า 50% อย่าไปทำ ควรจะเลือกในสิ่งที่มีโอกาสสูงๆเช่น 70-80% ขึ้นไป
3.นักลงทุนควรจะรู้เรื่อง “ยีน” ให้เยอะ เพราะ ถ้ารู้เรื่องยีน จะทำให้เรารู้และเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์
ซึ่งโดยหลักยีนของมนุษย์ตั้งแต่อดีตมานั้นจะสั่งให้ เรารู้จักเอาตัวรอด และหาวิธีในการเผยแพร่เผ่าพันธุ์
นอกจากนี้โดยธรรมชาติของยีนเป็น 10000 ปีมาแล้วนั้นมนุษย์มักจะขี้ตกใจ เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าอยากเข้าใจในเรื่องประวัติศาสตร์ แนะนำให้ลองศึกษาจากหนังสือ Homo Sapiens หรือลองศึกษาเรื่องยีนเพิ่มเติมจากหนังสือ The Selfish Gene
4.ตัวอย่างเสาหลักความรู้ในการลงทุน
1.)เข้าใจทฤษฏีการลงทุน (Ex. วิธีการลงทุนที่สามารถเอาชนะตลาด, Earning ของกิจการ, คุณภาพของบริษัท)
2.)กิจการ ต้องรู้ Business ของบริษัทและพยายามมองหาบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคนอื่น โดยต้องพยายามเข้าใจธุรกิจแบบนี้ อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญ เช่นบางบริษัท Marketing เป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่บางบริษัทการมีขนาด (Economy of Scale) ที่ใหญ่ จะเป็นสิ่งสำคัญ พยายามมองหาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจ Strategy ของธุรกิจเพื่อเข้าใจความสามารถแข่งขันในระยะยาว , Model ในการเติบโตของกิจการในระยะต่อๆไป จะมาจากทางไหน?
3.)เข้าใจประวัติศาสตร์
5.เวลาเห็นนักลงทุนบางคนที่ประสบความสำเร็จ ควรจะมองไปถึง Key Success Factor ว่าคือยังไง เพราะบางอย่างวิธีการนี้อาจจะทำได้แค่ไม่กี่คนหรือเพียงแค่คนเดียว ซึ่งเราควรจะลองหาต้นแบบวิธีการที่จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จที่เหมาะกับตัวเรา
6.นักลงทุนต้องแยกระหว่าง “มูลค่า” กับ “คุณค่าที่แท้จริง” ซึ่งคนส่วนใหญ่มักสนใจแค่มูลค่า
และนอกจากนี้ VI เองต้องมองระยะยาว เพราะโดยส่วนใหญ่บางธุรกิจจะดีแค่ชั่วคราว
7.หลักๆ พฤติกรรมของคนทั่วโลกเหมือนกัน แต่ Detail บางอย่างอาจจะแตกต่าง ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อาจทำให้เกิด Behavior เกิดขึ้น
ความแตกต่างหลักของทั่วโลกคือระดับรายได้ ยกตัวอย่างเช่นบางประเทศ เช่น Korea, Japan มีรับรายได้ที่สูง ในระดับสหภาพยุโรป ก็จะส่งผลให้พฤติกรรมโดยส่วนใหญ่คล้ายคลึงกัน
8.ตลาดหุ้นที่ดีเลิศ คือ ตลาดของประเทศที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่พอ + เศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว ยกตัวอย่างเช่นในอดีตประเทศ USA ที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และเติบโตจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทำให้ภาพใหญ่ตลาดสามารถเติบโตได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องระบบการเมืองที่เป็นระบบทุนนิยมที่จะเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างนึง
9.เวลาเราจะเชื่ออะไร อย่าเชื่อแค่สิ่งที่มาจากการพรรณนา แต่ขาดสิ่ง,ข้อมูลหลักฐานที่เป็นหลักวิทยาศาสตร์
และเวลาฟัง/ลงทุนอะไร อย่าไปตามกระแส หากแต่เราเองต้องมีการคิดวิเคราะห์อย่างดี ในบางทีเราอาจจะต้องมีความคิดบางอย่างที่เป็น Contrarian (ตรงกันข้าม)
(หมายเหตุ ในบางช่วงคนส่วนใหญ่อาจจะแห่ขาย ซึ่งถ้าเราเข้าใจธุรกิจที่ดีพอว่าจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงก็อาจจะเป็นโอกาสการลงทุน)
10.ในตลาดหุ้นนั้น ระยะเวลาแค่ 10 ปี อาจจะยังไม่สามารถนับได้ว่านักลงทุนประสบความสำเร็จ เพราะบางทีอาจถือว่าเป็นโชคดีมากกว่า ซึ่งในประวัติศาสตร์ทั่วโลกก็มีอยู่บ่อยมากที่ระยะเวลา 10 ปีเป็นช่วงปีทอง ตลาดสามารถโตได้ในระดับ 15-20% ติดต่อกัน
และนอกจากนี้การลงทุนบางอย่าง เช่น ลงทุนในหุ้นตัวเดียว+ใช้ Margin เต็มที่ ต่อให้ได้กำไรสูงๆ เช่นปีละ 300% ก็อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากฝีมือการลงทุนแต่อาจจะมาจากโชคดี (Lottery Luck)
(หมายเหตุ เราเองก็ควรจะต้องระวังให้ดีเพราะอาจจะไม่ยั่งยืนหรือมีโอกาสที่จะประสบการขาดทุนอย่างหนักได้เช่นกัน)
11.คนที่มีเชื้อสายยิวเอง จริงๆแล้ว IQ อาจจะไม่ได้สูงกว่าคนเชื้อชาติอื่นๆ แต่ส่วนหนึ่งที่มีคนเก่งๆเยอะ นั้นส่วนหนึ่งมาจากวิธีการคิด, วิธีการอบรมที่แตกต่าง โดยในแต่ละวันบางบ้านจะตั้งคำถามให้ทุกคนตอบ (Critical Thinking) ว่ามีวิธีอะไรที่แตกต่าง ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนกล้าคิด,กล้าทำ
12. Key ในการเลือกกิจการ 1.)Megatrend 2.)เป็นผู้นำ 3.)ราคาไม่แพง
13.ระวังการให้ความสำคัญกับเงินจนเกินไป เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
14.การลงทุนที่ทำให้ใจสงบ
1.)ลงทุนไม่ใช่เก็งกำไร
2.)ลดการใช้ Leverage (Ex.การใช้ Margin)
3.)ลดการกระจุกตัว มีปริมาณหุ้นที่ถือที่เหมาะสมกับตัวเรา (เช่นถือหุ้นอย่างน้อย 5 บริษัทขึ้นไป)
4.)ลดความเสี่ยง โดยพยายามให้ Optimize กับผลตอบแทนที่เหมาะสม
พยายามอย่าเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนกับคนอื่น และกับตัวเอง
15.ตัวอย่างหลักธรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิต
พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
โลกธรรม 8 มีลาภ เสื่อมลาภ/มียศ เสื่อมยศ/มีทุกข์ มีสุข/สรรเสริญ นินทา
ทาน ศีล ภาวนา (ทาน คือแบ่งปัน, ศีลคือไม่ทำผิด, และเรียนรู้วิธีการภาวนา)
16.ช่วงเริ่มต้น มองว่าหุ้นต้องเป็นส่วนนึงของการออมเงิน พยายามลงทุนให้เร็ว และมีระยะเวลาในการทบต้นให้ยาวนานพอ และหาความรู้อย่างถูกต้อง เรียนรู้จากความผิดพลาด Port ก็จะโตไปเรื่อยๆ
ผมขออนุญาตเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ตามที่ผมเข้าใจครับ รวมไปถึงอาจจะอธิบายเพิ่มเติมในบางจุดเพื่อให้เพื่อนๆท่านอื่นๆเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นครับ ซึ่งลำดับของเนื้อหาอาจจะไม่ตรงกับที่ทางวิทยากรได้พูด ในกรณีที่อาจจะไม่ตรงกับเนื้อหาที่วิทยากรต้องการสื่อสาร ผมขอความกรุณาเพื่อนๆท่านอื่นที่ไปฟังในวันดังกล่าวช่วยแนะนำเพิ่มเติมหรือแก้ไขให้ด้วยครับ
ขอขอบคุณวิทยากรทุกๆท่าน (ดร.นิเวศน์, ดร.ไพบูลย์) ที่กรุณาให้ความรู้คำแนะนำในด้านการลงทุนแก่ผมและนักลงทุนท่านอื่นๆเป็นอย่างสูงครับ
ขอขอบคุณพี่ๆทีมงานที่จัดงานทุกท่านครับ
และขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านครับที่ช่วยแนะนำความรู้ในด้านการลงทุนให้ผมอยู่เสมอๆ
ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
earthcu/ 11 Jun 23
Part (ก้าวเล็กๆในตลาดหุ้น ก้าวที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต และลงทุนอย่างไรให้ใจสงบ)
วิทยากร ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวารกร 2.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา
1.ถ้ามีโอกาสเริ่มต้นใหม่ เพื่อมาให้ถึงจุดทุกวันนี้ เราต้องเลือกเป็นนักเลือก โดยเลือกให้ถูกต้องว่าจะทำอะไร จะไปยังไง จากนั้นหาวิธีทำ (อย่าปล่อยให้วิถีชีวิตนำเราไป)
2.เวลาเลือก ถ้ามองว่า Chance (โอกาส) ที่ต่ำกว่า 50% อย่าไปทำ ควรจะเลือกในสิ่งที่มีโอกาสสูงๆเช่น 70-80% ขึ้นไป
3.นักลงทุนควรจะรู้เรื่อง “ยีน” ให้เยอะ เพราะ ถ้ารู้เรื่องยีน จะทำให้เรารู้และเข้าใจพฤติกรรมของมนุษย์
ซึ่งโดยหลักยีนของมนุษย์ตั้งแต่อดีตมานั้นจะสั่งให้ เรารู้จักเอาตัวรอด และหาวิธีในการเผยแพร่เผ่าพันธุ์
นอกจากนี้โดยธรรมชาติของยีนเป็น 10000 ปีมาแล้วนั้นมนุษย์มักจะขี้ตกใจ เวลาเกิดเหตุการณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าอยากเข้าใจในเรื่องประวัติศาสตร์ แนะนำให้ลองศึกษาจากหนังสือ Homo Sapiens หรือลองศึกษาเรื่องยีนเพิ่มเติมจากหนังสือ The Selfish Gene
4.ตัวอย่างเสาหลักความรู้ในการลงทุน
1.)เข้าใจทฤษฏีการลงทุน (Ex. วิธีการลงทุนที่สามารถเอาชนะตลาด, Earning ของกิจการ, คุณภาพของบริษัท)
2.)กิจการ ต้องรู้ Business ของบริษัทและพยายามมองหาบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันสูงกว่าคนอื่น โดยต้องพยายามเข้าใจธุรกิจแบบนี้ อะไรที่เป็นสิ่งสำคัญ เช่นบางบริษัท Marketing เป็นสิ่งสำคัญ ในขณะที่บางบริษัทการมีขนาด (Economy of Scale) ที่ใหญ่ จะเป็นสิ่งสำคัญ พยายามมองหาว่าใครจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว นอกจากนี้ยังต้องเข้าใจ Strategy ของธุรกิจเพื่อเข้าใจความสามารถแข่งขันในระยะยาว , Model ในการเติบโตของกิจการในระยะต่อๆไป จะมาจากทางไหน?
3.)เข้าใจประวัติศาสตร์
5.เวลาเห็นนักลงทุนบางคนที่ประสบความสำเร็จ ควรจะมองไปถึง Key Success Factor ว่าคือยังไง เพราะบางอย่างวิธีการนี้อาจจะทำได้แค่ไม่กี่คนหรือเพียงแค่คนเดียว ซึ่งเราควรจะลองหาต้นแบบวิธีการที่จะนำไปสู่การประสบความสำเร็จที่เหมาะกับตัวเรา
6.นักลงทุนต้องแยกระหว่าง “มูลค่า” กับ “คุณค่าที่แท้จริง” ซึ่งคนส่วนใหญ่มักสนใจแค่มูลค่า
และนอกจากนี้ VI เองต้องมองระยะยาว เพราะโดยส่วนใหญ่บางธุรกิจจะดีแค่ชั่วคราว
7.หลักๆ พฤติกรรมของคนทั่วโลกเหมือนกัน แต่ Detail บางอย่างอาจจะแตกต่าง ขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อมต่างๆที่อาจทำให้เกิด Behavior เกิดขึ้น
ความแตกต่างหลักของทั่วโลกคือระดับรายได้ ยกตัวอย่างเช่นบางประเทศ เช่น Korea, Japan มีรับรายได้ที่สูง ในระดับสหภาพยุโรป ก็จะส่งผลให้พฤติกรรมโดยส่วนใหญ่คล้ายคลึงกัน
8.ตลาดหุ้นที่ดีเลิศ คือ ตลาดของประเทศที่ขนาดเศรษฐกิจใหญ่พอ + เศรษฐกิจที่เติบโตเร็ว ยกตัวอย่างเช่นในอดีตประเทศ USA ที่มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่และเติบโตจากจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลาทำให้ภาพใหญ่ตลาดสามารถเติบโตได้เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน และนอกจากนี้ยังมีปัจจัยเรื่องระบบการเมืองที่เป็นระบบทุนนิยมที่จะเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างนึง
9.เวลาเราจะเชื่ออะไร อย่าเชื่อแค่สิ่งที่มาจากการพรรณนา แต่ขาดสิ่ง,ข้อมูลหลักฐานที่เป็นหลักวิทยาศาสตร์
และเวลาฟัง/ลงทุนอะไร อย่าไปตามกระแส หากแต่เราเองต้องมีการคิดวิเคราะห์อย่างดี ในบางทีเราอาจจะต้องมีความคิดบางอย่างที่เป็น Contrarian (ตรงกันข้าม)
(หมายเหตุ ในบางช่วงคนส่วนใหญ่อาจจะแห่ขาย ซึ่งถ้าเราเข้าใจธุรกิจที่ดีพอว่าจังหวะนั้นเป็นช่วงที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงก็อาจจะเป็นโอกาสการลงทุน)
10.ในตลาดหุ้นนั้น ระยะเวลาแค่ 10 ปี อาจจะยังไม่สามารถนับได้ว่านักลงทุนประสบความสำเร็จ เพราะบางทีอาจถือว่าเป็นโชคดีมากกว่า ซึ่งในประวัติศาสตร์ทั่วโลกก็มีอยู่บ่อยมากที่ระยะเวลา 10 ปีเป็นช่วงปีทอง ตลาดสามารถโตได้ในระดับ 15-20% ติดต่อกัน
และนอกจากนี้การลงทุนบางอย่าง เช่น ลงทุนในหุ้นตัวเดียว+ใช้ Margin เต็มที่ ต่อให้ได้กำไรสูงๆ เช่นปีละ 300% ก็อาจจะไม่สามารถบอกได้ว่ามาจากฝีมือการลงทุนแต่อาจจะมาจากโชคดี (Lottery Luck)
(หมายเหตุ เราเองก็ควรจะต้องระวังให้ดีเพราะอาจจะไม่ยั่งยืนหรือมีโอกาสที่จะประสบการขาดทุนอย่างหนักได้เช่นกัน)
11.คนที่มีเชื้อสายยิวเอง จริงๆแล้ว IQ อาจจะไม่ได้สูงกว่าคนเชื้อชาติอื่นๆ แต่ส่วนหนึ่งที่มีคนเก่งๆเยอะ นั้นส่วนหนึ่งมาจากวิธีการคิด, วิธีการอบรมที่แตกต่าง โดยในแต่ละวันบางบ้านจะตั้งคำถามให้ทุกคนตอบ (Critical Thinking) ว่ามีวิธีอะไรที่แตกต่าง ซึ่งจะช่วยให้ทุกคนกล้าคิด,กล้าทำ
12. Key ในการเลือกกิจการ 1.)Megatrend 2.)เป็นผู้นำ 3.)ราคาไม่แพง
13.ระวังการให้ความสำคัญกับเงินจนเกินไป เงินไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต
14.การลงทุนที่ทำให้ใจสงบ
1.)ลงทุนไม่ใช่เก็งกำไร
2.)ลดการใช้ Leverage (Ex.การใช้ Margin)
3.)ลดการกระจุกตัว มีปริมาณหุ้นที่ถือที่เหมาะสมกับตัวเรา (เช่นถือหุ้นอย่างน้อย 5 บริษัทขึ้นไป)
4.)ลดความเสี่ยง โดยพยายามให้ Optimize กับผลตอบแทนที่เหมาะสม
พยายามอย่าเปรียบเทียบผลตอบแทนการลงทุนกับคนอื่น และกับตัวเอง
15.ตัวอย่างหลักธรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับชีวิต
พรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
โลกธรรม 8 มีลาภ เสื่อมลาภ/มียศ เสื่อมยศ/มีทุกข์ มีสุข/สรรเสริญ นินทา
ทาน ศีล ภาวนา (ทาน คือแบ่งปัน, ศีลคือไม่ทำผิด, และเรียนรู้วิธีการภาวนา)
16.ช่วงเริ่มต้น มองว่าหุ้นต้องเป็นส่วนนึงของการออมเงิน พยายามลงทุนให้เร็ว และมีระยะเวลาในการทบต้นให้ยาวนานพอ และหาความรู้อย่างถูกต้อง เรียนรู้จากความผิดพลาด Port ก็จะโตไปเรื่อยๆ
ผมขออนุญาตเรียบเรียงเนื้อหาใหม่ตามที่ผมเข้าใจครับ รวมไปถึงอาจจะอธิบายเพิ่มเติมในบางจุดเพื่อให้เพื่อนๆท่านอื่นๆเข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นครับ ซึ่งลำดับของเนื้อหาอาจจะไม่ตรงกับที่ทางวิทยากรได้พูด ในกรณีที่อาจจะไม่ตรงกับเนื้อหาที่วิทยากรต้องการสื่อสาร ผมขอความกรุณาเพื่อนๆท่านอื่นที่ไปฟังในวันดังกล่าวช่วยแนะนำเพิ่มเติมหรือแก้ไขให้ด้วยครับ
ขอขอบคุณวิทยากรทุกๆท่าน (ดร.นิเวศน์, ดร.ไพบูลย์) ที่กรุณาให้ความรู้คำแนะนำในด้านการลงทุนแก่ผมและนักลงทุนท่านอื่นๆเป็นอย่างสูงครับ
ขอขอบคุณพี่ๆทีมงานที่จัดงานทุกท่านครับ
และขอขอบคุณกัลยาณมิตรทุกท่านครับที่ช่วยแนะนำความรู้ในด้านการลงทุนให้ผมอยู่เสมอๆ
ขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูงครับ
earthcu/ 11 Jun 23