ลงทุนอย่าง "นเรศ งามอภิชน"

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
Introverted investor
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 68
ผู้ติดตาม: 1

ลงทุนอย่าง "นเรศ งามอภิชน"

โพสต์ที่ 1

โพสต์

................................................................

🔥ผมเป็นคนที่มั่นใจกับชีวิตการลงทุนในตลาดหุ้นมาก หากไม่มีสถานการณ์อะไรที่พาลทำให้คิดว่าตลาดจะย่ำแย่ยาวนาน ผมจะลงทุนในหุ้น 100% ตลอดเวลา ไม่ว่าวัฏจักรตลาดหุ้นจะเป็นอย่างไรก็ตาม อาจมีการปรับพอร์ตเพิ่มลดสัดส่วนหุ้นแต่ละบริษัทในพอร์ตการลงทุนบ้างตามแต่ปัจจัยแวดล้อมสนับสนุน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจระดับมหภาคมากนัก นี่คือแนวทางการลงทุนส่วนตัว ผมเติบโตมาจากธุรกิจกงสี ด้วยความที่เป็นธุรกิจครอบครัว ทำงานเหน็ดเหนื่อยมายาวนานแต่เงินเดือนก็น้อย เงินเก็บก็ไม่ค่อยมี ก่อนที่จะตัดสินใจลาออกจากกงสี และหันเหสู่โลกแห่งการลงทุนในเวลาต่อมา
............................

🔥ตลอดชีวิตการลงทุน 30 กว่าปี มีเพียง 4 ปี (1994) ช่วงเวลาก่อนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง (1997) ที่ผมขายหุ้นล้างพอร์ตและนำเงินออกจากตลาดไป ก่อนที่จะกลับมาอีกครั้งในปี 1999 ด้วยเงิน 5 ล้านบาท (ตลาดหุ้นไทยยังดิ่งลงต่อไป จนเงินต้นเหลือ 3 ล้านบาท) ช่วงเวลานอกเหนือจากนั้นผมลงทุนในหุ้น 100% ตลอดเวลา (จากเงิน 5 ล้านกลายเป็นมูลค่า 100 กว่าล้านบาทภายใน 1 ปี ด้วยหุ้นสามัญและ Warrant หรือใบสำคัญแสดงสิทธิในการซื้อหุ้น)
............................

🔥หลายคนมักพูดว่า “การที่เราจะร่ำรวยจากหุ้น อย่างผมหรือใครอีกหลายคนทำสำเร็จในอดีต มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว ณ ปัจจุบัน คงต้องรอคอยให้เกิดวิกฤตครั้งใหญ่เหมือนในอดีตแล้วค่อยกลับเข้ามาเล่น” ส่วนตัวนั้นผมคิดว่าโอกาสมันมีเสมอและตลอดเวลา จำนวนบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์มีเกือบพันบริษัท ในสถานการณ์ที่ทุกอย่างดูย่ำแย่เราก็ยังสามารถมองเห็นหุ้นซึ่งสร้างผลตอบแทนมหาศาล ไม่ใช่เพียงแต่เรื่องของส่วนต่างราคา (Capital Gain) เพียงด้านเดียว เรายังมีผลตอบแทนจากเงินปันผล ตลาดหุ้นไทยเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับต่างประเทศ ถือว่าเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงไม่เลว เฉลี่ยประมาณ 3% กว่าๆ ถือว่าดีกว่าการนำเงินไปฝากธนาคารหลายเท่าตัว
............................

แต่ละบริษัทที่ผมเข้าซื้อลงทุนนั้นผ่านการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานมาดีแล้วว่า ณ ช่วงเวลานั้นๆ เป็นอย่างไร ทั้งจากตัวเลขทางการเงิน ความสามารถในการทำกำไร มาประกอบกัน และสิ่งที่ผมให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ความสามารถรวมถึงความซื่อสัตย์ของผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัท และโอกาสการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต สุดท้ายคือ “มูลค่าพื้นฐาน” ว่าคุ้มค่า มีโอกาสเพิ่มมากขึ้นหรือไม่?
............................

🔥ผมเริ่มต้นลงทุนด้วยเงินน้อยมากๆ อีกทั้งยังมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว จากประสบการณ์ของผมนั้น “ตลาดหุ้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์” หากเราพร้อมที่จะมุ่งมั่นศึกษา เรียนรู้ ความยากง่ายและโอกาสที่จะประสบความสำเร็จมันมีไม่มากหรือน้อยไปกว่าการทำธุรกิจเลย ทักษะในการลงทุนอยู่ที่กระบวนการเรียนรู้ การมุ่งมั่นพัฒนาชุดความรู้ที่ตนเองมีอยู่ ตราบใดที่เรามีความพยายามมากพอ ก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้เสมอ แต่ถ้าคุณไม่จริงจังมันก็ไม่มีวันสำเร็จหรอก โดยเฉพาะวงการตลาดหุ้นซึ่งมีภาพทับซ้อนอยู่หลายชั้น หากเรารู้แค่เพียงภาพใดภาพหนึ่งมันไม่เพียงพอ “คุณต้องสนุกกับการเรียนรู้”
............................

🔥สำหรับนักลงทุนมือใหม่ จากประสบการณ์ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าเราควรเริ่มต้นที่ “ความเชื่อมั่น” เชื่อว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีเป็นอันดับต้นๆของสินทรัพย์การลงทุนทั้งหมด เมื่อมีความเชื่อแล้วก็ต้องศึกษา ขวนขวายเรียนรู้เรื่องราวที่เป็นพื้นฐานสำคัญ หากเราศึกษามาเป็นอย่างดีแล้ว ผมเชื่ออีกเช่นกันว่าชีวิตเราสามารถประสบความสำเร็จ (มีความมั่นคงทางการเงิน) ได้ และให้ผลตอบแทนงดงาม
............................
🔥ปัจจุบันชีวิตประจำวันของผมก็เป็นวงจรเหมือนคนทำงานประจำทั่วไป เช้าก็เข้าออฟฟิศ (บริษัทหลักทรัพย์) ตกเย็นก็กลับบ้าน เมื่อกลับมาถึงบ้านแต่ในหัวสมองยังคงคิดวนเวียนถึงแต่เรื่องการลงทุน การใช้จ่ายในชีวิตก็เหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้มากมายอะไร ต้องเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ผมลงทุนในหุ้น 100% อยู่เสมอ เมื่อได้รับเงินปันผลจากหุ้นทุกครั้งหลังจากที่กันเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อใช้จ่ายในชีวิต ก็จะนำส่วนที่เหลือทั้งหมดกลับไปลงทุนต่อ ส่วนราคาหุ้นจะขึ้นหรือลงในระหว่างทางนั้นผมไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก เป็นเพียงตัวเลข “ผมลงทุนด้วยความสนุกและตื่นเต้น”
............................

ระหว่างทางเงินปันผลเกือบทั้งหมดถูกนำกลับไปยังตลาดหุ้นเพื่อสร้างผลตอบแทนแบบทวีคูณ และผมก็ใช้ชีวิตแบบปกติสามัญต่อไป ตราบใดที่ยังลงทุนแล้วมีความสุข มีความกระหายที่จะพัฒนาตนเองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งผมมักเปรียบเทียบตนเองกับตลาดหรือคนส่วนใหญ่ หากเราวิเคราะห์แล้วว่าวิธีคิด หลักการลงทุนของเรายังมีความก้าวหน้า ใช้แล้วประสบความสำเร็จ มีกระบวนการพัฒนาต่อเนื่อง ผมก็จะยังคงลงทุนเช่นนี้ ใช้ชีวิตแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ
............................

🖊นเรศ งามอภิชน
...........................................................

ขอขอบคุณภาพประกอบและข้อมูลบางส่วนจาก
...
🔗คุยเรื่องลงทุนกับคนคุ้นเคย, Money Chat Thailand, 2019
..........................................................
🟩“Fun fact”🟩
...
📌ข้อมูล ณ ปี 2019 “นเรศ งามอภิชน” ได้รับเงินปันผลจากหุ้น เป็นจำนวน 178 ล้านบาท หรือประมาณ 15 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งจำนวนเงินเกือบทั้งหมดถูกนำกลับไปลงทุนต่อ โดยกันเงินเพียงส่วนหนึ่งไว้สำหรับค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
...
📌ปัจจุบัน ณ ปี 2023 “นเรศ งามอภิชน” ถือครองพอร์ตการลงทุนในหุ้นมูลค่ากว่า 2,300 ล้านบาท (เฉพาะหุ้นที่มีรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่เปิดเผยต่อสาธารณะ และไม่นับรวมทรัพย์สินอื่น) ประกอบไปด้วยหุ้น 7 บริษัท (TPIPL, MACO, BAM, TPIPP, AJ, PORT, STARK) ซึ่ง TPIPL เขาถือครองหุ้นเป็นมูลค่าสูงที่สุดกว่า 55% จากพอร์ตรวมทั้งหมด
............................

ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 🙂
Try to be : Full Time Investor, Reader, Writer, Learner & Cultural observer.
......................................
I have a passion for keeping things simple.
......................................
https://www.facebook.com/Introverted.investor
โพสต์โพสต์