sunrise เขียน:
ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างครอบครัว สร้างอนาคต
มาทำงานต่างประเทศ เพื่อเก็บเงิน และอนาคตที่สดใส
สรุป แฟนทิ้งครับ เพราะว่าห่างกันเกินไป
เลยไม่รู้ว่า เป้าหมายที่อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น มันจะเป็นไปได้อีกหรือเปล่าครับ
ยินดีล่วงหน้ากับคุณวัวแดงด้วยครับ
เสียใจด้วยครับ
แต่ เดี๋ยวมันก็มีมาใหม่ เรื่อย ๆ แหละครับ
เอาไว้ให้อ่านเล่นครับ เป็น FW mail ที่ผมชอบที่สุดเลย
--------------------------------------------------------------------------------
เคยสงสัยไหม ว่าทำไมเรามักจะไม่ได้รู้จักกับคนที่เราอยากรู้จัก
และคนที่เรารู้จักมักจะไม่มีใครน่าสนใจ หรือไม่ก็ไม่ใช่สเป๊กเรา
เคยได้ยินเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง... มีผู้ใหญ่เขาเล่นกับเด็ก
ผู้ใหญ่กำเหรียญอยู่ในมือ แล้วถามเด็กว่าอยากรู้ไหม ในมือของ ท่านมีอะไร ถ้าอยากรู้ให้เขกพื้น 5 ที เด็กก็เขก แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ยอมบอก แล้วก็ถามอีกว่าอยากรู้จริงๆ ไหม ถ้าอยากรู้จริงๆ ให้เขกพื้นอีก 10 ที เด็กก็เขกอีกด้วยความอยากรู้ คราวนี้ผู้ใหญ่แบมือให้ดู เด็กก็ได้พบว่าเป็นแค่เหรียญธรรมดาเหรียญหนึ่งเท่านั้น
ต่อมาผู้ใหญ่กำมืออีก แล้วถามอีกเหมือนเดิมว่าอยากรู้ไหมว่ามือท่านมีอะไร คราวนี้เด็กไม่สนใจ ไม่อยากรู้แล้ว จริงๆ ก็คือ เมื่อเด็กได้รู้แล้วว่าในมือผู้ใหญ่เป็นแค่เหรียญธรรมดาเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษเลย เขาก็เลยไม่สนใจอีก...
นี่แหละ คนเราก็เป็นแบบนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ไขว่คว้าเพื่อให้ได้รับรู้ เมื่อเราได้รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันเป็นยังไง เราก็ไม่สนใจมันอีก ถามว่าเหรียญในมือเปลี่ยนไปไหม ค่ามันน้อยลงไหม เปล่าเลย ค่าของมันเท่าเดิม ยังคงเป็น เหรียญๆเดิม ทั้งก่อนและหลังที่เราเห็น แต่ความรู้สึกของเราต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป
ก็เป็นเพราะความรู้สึกที่เอื้อมไม่ถึงไปไม่ถึงนั่นแหละที่ทำให้เราเห็นคุณค่าของสิ่งที่อยู่ไกล ต่อเมื่อได้สิ่งนั้นมาแล้ว ได้รู้จักแล้ว เราก็ไม่รู้สึกเป็นพิเศษอีก
บางคนที่เราแอบประทับใจ หรือแอบปลื้มมานาน พอได้รู้จักพูดคุยกันแค่ไม่กี่คำก็รู้แล้วว่าคนนี้ไม่ใช่ คิดอะไรไม่เหมือนกัน มองกันคนละด้าน บรรดาคนของสังคม เป็นขวัญใจของคนมากมาย เพราะดูดี มีอารมณ์ขัน ทำให้ใครต่อใครพากันปลื้มจนออกนอกหน้า แต่หากได้มานั่งจับเข่าคุยกันแล้ว ถ้าเขาไม่ได้มีความคิดหรือความเป็นตัวของตัวเองที่โดดเด่น เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ความคิดก็เหมือนคนอื่นๆ ความรู้สึกประทับใจในตอนแรกก็กลายเป็นเฉยๆไป ในทางกลับกัน บางครั้งกับคนที่เหมือนไม่มีอะไรน่าสนใจ หน้าตาธรรมดา มีชีวิตอย่างเรียบง่าย
แต่แค่ได้คุยกันครั้งเดียวกลับรู้สึกดี รู้สึกว่าคนนี้มีอะไรไม่ธรรมดา รู้สึกว่าน่าสนใจและอยากเจอเขาอีกเรื่อยๆ ความดีในตัวต่างหากที่สำคัญ เมื่อได้เรียนรู้กันและกันแล้ว ความน่ารัก ความมีน้ำใจ ความเสียสละต่างหากที่จะทำให้ไม่รู้จักเบื่อ สิ่งเหล่านี้ต่างหากที่ทำให้อีกฝ่ายอยากค้นหา ติดตาม เห็นคุณค่า และไม่ยอมปล่อยให้หลุดมือไป ไม่ใช่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก ที่เมื่อได้มาแล้วก็เท่านั้น เหมือนเดิม ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ไม่มีอะไรให้น่าที่จะรัก น่าที่จะค้นหาอีก
ในความเป็นจริงเราอาจได้เจอสิ่งที่อยู่ในมือที่แตกต่างกันออกไป
บางครั้งเราอาจพบเพชรแท้และเรียนรู้ค่าที่ไม่มีวันสิ้นสุดของมัน
หรืออาจได้เจอเหรียญสลึงที่ไม่มีคุณค่ามากมายให้ค้นหา หรือเจอเพียงมือที่กำความว่างเปล่าไว้ภายใน แต่บางครั้งเราอาจจะพลาดไม่รู้จักคุณค่าของเพชรที่เราได้เห็น หรือเห็นว่าเหรียญสลึงในมือนั้นมีคุณค่าเกินกว่าที่มันเป็น
ในชีวิตหนึ่งของคนเราสามารถปิ๊งคนได้หลายคน ประทับใจใครได้หลายหน แต่จะมีสักกี่คนที่ใช่ ที่ตรงกับเรา ไม่มีใครสามารถบอกได้ว่าในชีวิตจะได้พบกับคนที่ "ใช่เลย" ไหม
บางครั้งเราอาจกำลังแอบปลื้มคนๆหนึ่งที่เราเพิ่งได้รู้จัก อยากคุยอยากเจอหน้าตลอดเวลา แต่พอเจอปัญหา มีเรื่องอยากเล่า เรากลับรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่เราต้องการ เรากลับเลือกที่จะคุยกับคนอีกคนที่เราสนิทมานาน เพราะความรู้สึกมันบอกเองว่าคนๆนี้แหละถึงจะเป็นคนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่อง เข้าใจเรา
เขา.. ก็ยังคงเป็นเขาอย่างที่แล้วๆมา ไม่มีอะไรหวือหวา
ทุกอย่างเป็นของมันอย่างนี้มานานจนกลายเป็นเรื่องธรรมดา จนไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เราต้องการจริงๆ
แปลกคนที่ใกล้ชิดกับเราที่สุดมักถูกมองข้ามไปเสมอ
คุณเคยปล่อยเพชรให้ผ่านไปไหมหรือเคยคว้าเศษฝุ่นไว้ไหม
เคยได้ยินไหมที่ผู้ใหญ่มักจะบอกว่าถ้าจะรักใคร คิดจะแต่งงานกับใคร ถ้าเป็นผู้ชายให้นึกถึงตอนที่ผู้หญิงคนนั้นหน้ามันอยู่ในครัว นั่งเลี้ยงลูก ไม่ได้แต่งหน้า ไม่น่ามอง ถ้าเป็นผู้หญิง ให้นึกถึงตอนที่ผู้ชายคนนั้นหัวล้าน อ้วนพุงพลุ้ย นุ่งกางเกงขาสั้นอยู่กับบ้าน ไม่หล่อไม่เท่อีกต่อไป เรารับได้ไหม เรายังจะรักเขาอยู่ไหมเพราะเมื่อถึงตอนนั้น ความสวยงาม ภายนอกจะค่อยๆ หมดไป ความรู้สึกเป็นพิเศษกับคนๆ นี้จะถูกความเคยชินเข้ามาแทนที่ แต่เราจะยังรักเขาอยู่ได้ก็ด้วยความดี ในตัวเขา ความเข้าใจ ความเอื้ออาทรต่อกัน
มีคนเคยกล่าวไว้อีกว่าถ้าจะรักใครสักคนให้พยายามใช้สมองในอัตราที่ใกล้ๆ กับการใช้หัวใจ อย่ารักจนหลง อย่าให้ความรักทำให้เราตาบอด ให้มองด้วยสายตาคนภายนอกซึ่งเป็นคนที่ปรารถนาดีต่อเราว่าเขามีความเห็นอย่างไร การปรึกษาผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนยังคงได้ผลดีอยู่เสมอ อย่าหลงคนที่ตอนจีบตอนเพิ่งคบกันเขามาคอยเอาใจ เพราะไม่มีใครทำอะไรโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ถ้าเราไม่รักไม่สนใจเขาไม่เคยดีกับเขาเลย วันนี้เขาอาจยังอยู่กับเราและดีกับเรา แต่ถ้าวันหนึ่งเขาเจอคนที่ดีกับเขามากๆอย่างที่เขาดีกับเราวันนี้ เขาจะยังทนเราอยู่ไหม... อย่าหลงคนที่วันนี้เขาอดทนกับเราเหลือเกิน เพราะความอดทนทุกคนมีขีดจำกัด อย่าหลงคนที่ดีผิดปกติและทำกับเราอย่างคนพิเศษจนน่าใจหาย เพราะไม่มีใครทำอย่างนี้ในเราได้ตลอดเวลาไปตลอดชีวิต แต่ให้เห็นค่าของคนที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่าเขาพยายามและอยากจะทำอะไรให้เราอย่างน้อยก็เกือบๆ เท่ากับที่เขาอยากทำให้ตัวเขาเองเพราะคนที่ให้เราได้ขนาดนี้หรือมากกว่านี้ก็คงมีแต่พ่อกับแม่เท่านั้น ถ้าได้เจอคนแบบนี้ อย่าปล่อยให้ผ่านไป และรู้ไว้ ด้วยว่าเราคือคนที่โชคดีที่สุดแล้ว
ในบางครั้งเมื่อเรารอความรักเรากลับหามันไม่พบ
แต่เมื่อเราไม่ต้องการมันกลับเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด ดังคำที่ว่า
Love is something, That can't be predicted,
It comes as a surprise, when you least expect it.
ไม่มีใครรู้หรอกว่าความรักที่แท้จริงจะมาถึงเมื่อไหร่
เราจะได้เจอคนนั้นเมื่อไหร่หรือคนนี้ที่เจอจะใช่คนที่เรารอไหม
บางคนอาจได้เจอคนๆนั้นตั้งแต่ยังเด็กเป็นเพื่อนเล่นกันมา
ในขณะที่บางคนกลับใช้เวลารอคอยครึ่งค่อนชีวิตกว่าจะได้เจอ
บางคนคิดว่าใช่แน่นอนแล้ว แต่สุดท้ายกลับต้องแยกจากกัน
บางคนรู้จักกันมานานไม่ได้คิดอะไรกลับได้ลงเอยกันในที่สุด
ความรักไม่ใช่เรื่องของการชั่งน้ำหนักว่าใครดีกว่าใคร แต่เป็นเรื่องของใครเหมาะสำหรับเรามากกว่า
ความรักขึ้นอยู่กับ โอกาส เวลา สถานการณ์
ถ้าคนที่เหมาะสมก้าวเข้ามาในชีวิตเราในเวลาที่เหมาะสม เราพร้อม เขาพร้อม นั่นก็เป็นโชคของเราเป็นสิ่งดีๆในชีวิต
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร คนๆนั้นจะต้องยอมเสียสละ ยอมปรับตัวให้เข้ากับเรา ทำเพื่อเรา ในขณะเดียวกัน เราจะต้องเห็นค่าของเขามากพอที่เราจะเสียสละและปรับตัวเพื่อเขาเช่นกัน
คู่ของใครก็สำหรับคนนั้น
ถ้าคนๆนี้ของเราเขาทำเพื่อเราทุกอย่าง ถึงเราจะไม่สวย ไม่หล่อ ไม่โดดเด่นกว่าใครๆ เขาก็ยังคงมองเราเพียงคนเดียว ปฏิบัติต่อเราอย่างเสมอต้นเสมอปลาย และทำให้เรารู้สึกว่าเรามีค่าสำหรับเขาซะเหลือเกิน..ถึงตอนนั้นคนรอบข้างเราจะดี จะน่ารัก จะเป็นยังไงไม่สำคัญแล้ว ไม่ต้องพิจารณาแล้ว... เพราะถ้าเราได้เจอคนที่เหมาะสม ที่เข้ากับเราได้ คนที่เราแน่ใจว่าเขามีค่าสำหรับเราจริงๆเราก็ไม่จำเป็นต้องมองใครแล้วในโลกนี้...
ถ้าหากไม่เจอคนๆนั้น หรือไม่เจอคนที่เห็นค่าของเรา ก็ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
เพราะเรามีค่า และเราควรจะรู้ว่าค่าของตัวเองมีมากเพียงใด.
"เพชร" ไม่ว่าจะมีคนพบหรือไม่ก็ยังเป็นเพชร ธาตุแท้ของเพชรไม่เคยเปลี่ยน
"เรา" ไม่ว่าจะได้เจอคนๆ นั้นหรือไม่ เราควรจะรู้ค่าของตนเอง เห็นค่าของตนเอง และรู้ด้วยว่าคุณค่าของเราไม่เคยเปลี่ยนไปเช่นกัน
เหมือนเหรียญในมือไม่ว่าเราจะอยากดูหรือไม่ ผู้ใหญ่จะแบมือให้ดูหรือไม่
เหรียญก็ยังคงเป็นเหรียญๆ เดิม และค่าของมันก็ไม่เคยเปลี่ยนไปจากเดิมเลย