ถามคนที่เข้าตลาดตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปจนถึง ตั้งแต่วันตลาดเปิด

[9A]

วันตลาดเปิดตอนปี 19-20 ปานนี้ยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือไม่ก็รวยไปแล้วเลิกเล่น

คำถามคือว่า ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะเข้ามาในตลาดแห่งนี้หรือเปล่าและถ้าย้อนเวลาได้อีก ก่อนเข้าจะต้องทำอะไรก่อนที่จะลงทุนหรือเปล่า

ผมก็จะสองปีแล้ว กว่าจะตัดสินใจจะเข้าได้ก็ศึกษาทั้งขอดีและขอเสีย ขอดีผ่านครับ และคิดว่าตัวสินใจเข้าเพราะข้อดี แต่ขอเสียผมประเมิณพลาดไปเยอะครับ ก็เลยคืนขอดีและค่าวิชาที่มาก พอควรไปให้ตลาดแล้ว

มานั่งคิดดูอีกที่ คิดว่าปีหน้าจะยากกว่านี้มากๆ และตัวเองก็รู้ทั้งข้อดีข้อเสียของตลาดและตัวเองแล้ว ใช้เวลาเรียนรู้เกือบปี เต็ม คิดว่ายังไม่พอ
ก็เลยมานั่งถามตัวเองว่า ถ้าเราย้อนเวลาได้ น่าเสียดายที่ตอนเรียนไม่มีโอกาศได้รับรู้เลย (ผมเรียนทางวิทยาศาสตร์) นะครับ เสียดายอีกอย่างตอนทำงานมีเงินก็ไม่ได้สนใจด้านนี้เท่าที่ควร ผมทำงานไม่เกี่ยวกับเรื่องการเงิน และตัดสินใจศึกษาเรียนรู้ ลองผิดลองถูกก่อนที่จะลงมือ 6 เดือนเอง น้อยไปหรือเปล่าครับ ขอบคุณพี่ๆ ที่ให้ความกระจ่างนะครับ

[นักดูดาว]

เฮียคลายเครียด ผู้ที่ผมนับอาจารย์ท่านหนึ่ง เคยสอนไว้ว่า
"อย่าให้ความโลภขึ้นไปเกินความรู้"
ซื้อหุ้นด้วยหลักการนี้ ยังไม่เคยเสียใจครับ

ปีหน้าอย่าไปคิดว่ายากครับ เพราะมันยังมาไม่ถึง ผมยังมองในแง่ดีว่าเวลาที่คนทิ้งตลาดหุ้นกันเยอะๆเพราะคิดว่ายาก น่าจะเป็นสัญญาณดีในการเริ่มมองหาหุ้นเก็บเข้าพอร์ต

[CK]

วันที่คุณคิดว่าคุณรู้แล้ว คือวันสุดท้ายในชีวิตครับ

ชีวิตคือการเรียนรู้ เรื่องลงทุนผมยังอยู่ป.1 อยู่เลย กำลังพยายามสอบ
เพื่อขึ้นชั้นป.2 บางทีนึกว่าจบป.6 แล้วก็โดนเด้งกลับไปเรียน
อนุบาลใหม่ เพิ่งจะกลับมา ป.1 ได้เมื่อสองวันก่อน

ขาดทุนไม่เป็นไรครับ เพราะโอกาสข้างหน้ายังมีอีกยาวไกล
สำคัญกว่าคือ เมื่อวานคุณเรียนรู้อะไรได้บ้าง วันนี้คุณจะปรับตัว
อย่างไร

ส่วนพรุ่งนี้ฝากไว้กับพระเจ้า

[Mon money]

เริ่มต้นสองปีไม่ถือว่านานครับ สองปีนี้หากมีอะไรผิดพลาดถือเป็นเรื่องดีครับ เราได้รู้เท่าทัน และปรับตัวปรับอะไรต่อมิอะไรได้มากๆ เพียงแต่ว่าต้องจำบทเรียนที่ราคาแพงนี้เอาไว้ อย่าลืม

[Blueblood]

ผมก็เล่นมา 2 ปีกว่าเกือบ 3 ปีแล้วครับ คิดว่าถ้าย้อนเวลาได้ก็จะเข้ามาลงทุนในตลาดอยู่ดีครับ พอดีช่วงที่ผมเข้ามาตลาดเป็นขาขึ้นเลยยังไม่ได้พิสูจน์เท่าไหร่ แต่ก็หวังว่าผมจะไม่ได้อยู่ในตลาดขาลงครับ

[PaZZaHut]

ผมเป็นเด็กน้อย(ท่าทางอาจน้อยสุดในเวปนี้ครับ)--->>18 ขวบครับ

พึ่งเข้าตลาดมาแค่ เกือบปี แต่ผมว่ามันทำให้ผมรู้จักการใช้เงินมากขึ้นรู้จักคุณค่าของเงินมากขึ้น จากสมัยก่อนผมเองเวลาซื้อ ของต่างๆๆมักไม่ค่อยคิด แต่เดี๋ยวนี้ก่อนจะซื้อคิดก่อนว่ามันคุ้มมั้ย จำเป็นมั้ย ถ้าเอาไปซื้อของชิ้นนี้เรามีการเสยโอกาสนะ จากการที่เงินเราสามารถโตขึ้นได้อีกในอนาคต

ผมว่าตลาดหุ้นมันก็มีประโยชน์นะครับ ผมไม่เคยเสียใจที่เข้ามาในตลาดหุ้นแต่กลับขอบคุณตลาดหุ้นที่ทำให้ผมเรียนรู้

[Dech]

ผมเข้าตลาดมา 1 ปี กะ ประมาณ 1 เดือน

ไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

[Dr.T]

26 ธันวานี้จะครบปีครับ
ไม่เคยเสียใจที่เข้าตลาด แต่หากย้อนเวลาได้คงจะไปนั่งหัดแกะงบ + ฝึกใจตัวเองไม่ให้เล่นหุ้น IPO ให้ดีกว่านี้
ตลาดหุ้นสอนให้ผมใช้เงินอย่างระวังขึ้นเหมือนน้อง pazzahut ครับ
อีกบทเรียนที่เพิ่งได้เรียนจาก PL (จริง ๆ ก็ควรจะซึ้งตั้งนานแล้ว) ว่าทุกอย่างของธุรกิจมันเชื่อมกันหมด น้ำมันแพงยังไปเข้าเต๊นท์รถอีก

[Paul]

ตลาดเปิด เมื่อ 30เมษ 2518 ครับ ผมเข้าหลังจากนั้น แต่ก่อนที่จะเกิดวิกฤตราชาเงินทุน เป็นช่วงที่ใครต่อใครเข้าตลาด เพราะว่าได้เงินกันทุกคน ก็เหมือนกับ วิกฤตทุกครั้งทั่วโลก ที่เมื่อใดคนขับแท็กซี่ พูดถึงหุ้นในตลาด เมื่อนั้น เตรัยมตัวหนีตายได้ ไม่ว่า ที่นี่ ฮ่องกง หรือ ในนิวยอร์ค

ผมก็เข้าๆออกๆ อยู่กับตลาดหลักทรัพย์ มานาน เรียนทุกกระบวนวิชา สรุปได้ว่า ผู้ที่ได้เงินจากตลาดนั้นคือ

insiders โบรคเกอร์ และผู้ที่มีดวงในการเสี่ยงโชคครับ

[Tongue]

PaZZaHut

ผมว่าตลาดหุ้นมันก็มีประโยชน์นะครับ ผมไม่เคยเสียใจที่เข้ามาในตลาดหุ้นแต่กลับขอบคุณตลาดหุ้นที่ทำให้ผมเรียนรู้

เป็นประโยคที่ฟังแล้วรู้สึกดี๊ดี

น้อยคนมากที่จะมีมุมมองกับตลาดหุ้นอย่างนี้ ผมชอบ Web นี้จัง

ผมก็เข้าๆออกๆ อยู่กับตลาดหลักทรัพย์ มานาน เรียนทุกกระบวนวิชา สรุปได้ว่า ผู้ที่ได้เงินจากตลาดนั้นคือ

insiders โบรคเกอร์ และผู้ที่มีดวงในการเสี่ยงโชคครับ

เป็นข่าวดีสำหรับผมเลยนะเนี่ย เพราะผมกำลังจะไปเป็น มาร์ ครับ

มีเพื่อนเป็นมาร์ ผมเลยไปสมัครขอเป็นฝ่าย reserch อยากเรียนรู้เพิ่ม แต่หัวหน้าเขาว่ามี แต่ มาร์ ว่าง ให้ทำก่อนดูตลาดไปก่อน แล้วค่อยว่ากัน

แต่ผมกลับรู้สึก หนาวๆ ไงไม่รู้ เพราะคุยๆ กับ เพื่อนๆ และ พวก มาร์ แล้ว มันคนละทางเลย

ผมแยปไปว่า มีฐานลูกค้าเก่าไหม มีแนวทางหาลูกค้าใหม่ยังไง เขาก็ฮุค กลับว่าส่วนใหญ่เขาก็อยากให้เรามีฐานเรามาเองด้วย

เอาประมาณ 20 ล้านต่อเดือนนะ ไม่งั้นเขาเรียกว่า underperform

แล้วผมแนวนี้ จะให้ทำยังไง คนรอบข้างก็แนะนำแต่แบบนี้ อยู่จะให้เชียร์ซื้อๆ ขายๆ มันแปร่งๆ

เกิดทนแรงกดดันไม่ไหว ไปเล่นเองนี่ มีหวัง

อยากได้คำแนะนำเหมือนกันว่าผมจะวางตัวยังไงดี
พี่ CK และ ท่านอื่นๆ ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ โจทย์นี้ อึดอัดนัก

[CK]

เป็นมาร์ค่อนข้างลำเค็ญครับ ชีวิต

ต้องพยายามเชียร์ให้ลูกค้าซื้อหรือขายตลอดเวลา
เดือนไหนได้เกิน 20 ล้านก็เสมอตัว ต่ำกว่ามากๆ
หลายๆ เดือนก็มีสิทธิ์โดนออก

ลูกค้าก็ต้องหาเองครับ มาร์เก่าๆ ก็หวงลูกค้ายิ่งกว่า
อาร์เซนอลหวงวิเอร่า

หาได้ก็ต้องเชียร์ซื้อ เชียร์ขาย

เชียร์แล้วลูกค้าได้ตังค์ก็เสมอตัว พลาดก็โดนด่า

พวก research พวกข่าวประจำวันก็ต้องอ่านทุกวัน
ไม่งั้นลูกค้าถามแล้วตอบไม่ได้จะแย่

แถมมี internet trading มาเป็นคู่แข่งสำมะคัญเสียอีก

[ปรัชญา]

วันตลาดเปิดตอนปี 19-20 ปานนี้ยังอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้ หรือไม่ก็รวยไปแล้วเลิกเล่น

รวยแล้วเลิก ยังไม่เคยมีครับ

รวยแล้วยิ่งโลภ เจอประจำ

อยากบอก ขอบอก

หุ้นเป็นสิ่งเสพติด

ไม่เลิกถ้าไม่เจ๊ง
ถึงเจ๊ง แล้วก็พยายามหามาเล่นอีก
เห็นอย่างนี้เยอะแยะ

รวมถึงตัวเองที่เคยเจ๊งตั้ง2รอบ
ก็ยังกลับมาเล่นหุ้นอีก

คำตอบง่ายๆ
มีอาชีพไหนที่ซื้อมา ขายไปในวันเดียวกำไรได้เยอะๆแยะ
และหันภาพกลับทาง
มีอาชีพไหนซื้อมา ขายไป ในวันเดียวขาดทุน(แทบฆ่าตัวตาย)

อยากเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้
คำว่ารวย คุณใช้ตัวเลขที่เท่าไหร่

[yoyo]

2 ปีเหมือนกันครับ
กับชีวิตในตลาดหุ้น ... ได้อะไรดีๆจากตลาดมาเยอะ
ทั้งความรู้ทั้งค่าขนม ฝึกให้เป็นคนใช้เงินเป็นมากขึ้น
ไม่เสียดายจริงๆครับ ถ้าย้อนเวลาไปได้จริง
จะไปซื้อปูนใหญ่ครับ 555

คุณ tongue ครับ
เป็น VI แล้วจะไปเป็นมาร์นี้ผมว่าต้องคิดดีๆเลยนะครับ
ผมเองก็เคยอยากจะเป็นมาร์เหมือนกัน ตอนที่เพิ่งเข้าตลาดมาใหม่ๆ
รู้สึกว่าจะได้ทำงานกับสิ่งที่ตัวเองชอบ
แต่พอได้ลองไปคุยกับโบรกจริงๆแล้ว เค้าก็บอกเหมือนกับที่คุย tongue ได้ยินมานั่นแหละครับ
ควรจะมีฐานลูกค้าเอง ต้องทำ vol ให้ได้ตามเกณ
และประเด็นสำคัญ ผมทำใจไม่ได้ครับ ให้บอกลูกค้าให้ซื้อขายบ่อยๆ
จะทำลงได้ไง ในเมื่อใจมันบอกว่า "พี่ซื้อแล้วถือยาวไปเลย"

[Tongue]

ขอบคุณครับคุณ Yoyo

ก็เนี่ยครับกำลังหาทางวางตัวให้เหมาะๆอยู่ ให้มันได้ทั้งเรา ทั้งเขา

จริงๆ แล้ว ก็ดูๆ อย่างอื่นไว้เหมือนกันครับ มีญาติให้ไปเป็นอาจารย์ ที่สกล
ไปเปิด Tutor ก็น่าสนใจอยู่ แต่ต้องเริ่มเทอมหน้า

บังเอิญที่นี่เรียกก่อน
ยังไงก็คงลองไปก่อนแหละครับ ดีไม่ดี ก็เป็นประสบการณ์
เป็นโอกาสหลายๆอย่าง ดีกว่าอยู่ว่างๆ

warren buffet เคยพูดว่า

ถ้าคุณมีเงินสัก 1 ล้านเหรียญ พร้อมกับข้อมูลเยอะขนาดนั้น คุณจะหมดตัวได้ง่ายๆ :lol: :lol: :lol:

[sunrise]

ผมไม่ถึงปีนะครับ

คิดว่าตลาดให้อะไรเยอะครับ
ตั้งแต่ลงทุน ใช้เงินน้อยลง คิดมากขึ้น
ตอนแรกตั้งใจจะเอาเงินเก็บไปซื้อจอ lcd
พอรู้จักการลงทุน
ตรูจะไปซื้อทำไมว้า จอเก่าก็ยังชัดเจน
ทำไห้เห็นคุณค่าของเงิน

เริ่มตามข่าวสารเศรษฐกิจ
เริ่มมองธุรกิจ เปิดโอกาสให้กับตัวเอง
ผมว่านี่ก็อย่างดีแล้วครับ

ดีกว่าวันๆ เข้าไปป่วนใน เฉลิมไทย(พันทิป)อย่างเดียว

[kenguy]

ผมว่าตราบใดที่ทักษินยังเป็นรัฐบาล เป็นโอกาสดีครับที่จะอยู่ในตลาด
กลุ่มทุนใหม่ต้องหาเงินจากตลาดครับ ตามเซียนไปครับรับรองมีเงินเก็บ

[kriser]

อย่าเลยครับ เพราะว่าถ้าจะมาเป็น มาร์ นะครับ แนว Value อยุ่ได้ยากส์ครับ กลัวอดตายก่อน ถ้ามีอาชีพอื่นที่ดีกว่าไปทำอาชีพอื่นเหอะครับแล้วเอาเงินมาลงทุนดีกว่า

[phoenix]

ยังไม่ได้เข้าครับ แต่มาอ่านทุกวัน ชอบเว็บนี้ครับ ผมว่าได้อะไรมากกว่าเรื่องหุ้นนะครับ ไม่ว่าจะเป็นแนวทางและปรัชยาการใช้ชีวิตของแต่ละท่าน ซึ่งบางอย่างผมก็เก็บมาใช้เป็นประโยชน์แก่ชีวิตของผมเองได้อย่างดีเลยครับ

[Viewtiful Investor]

ผมเข้ามา กุมภา ปีนี้ สนุกมากครับ โดนหมัดไปหลายๆ ดีที่มีปันผลมาหนุน
การลงทุนให้ความรู้+ประสบการณ์ดีๆเยอะครับ

ผมกะชนะ Index 15-20% เป้าอยู่อีกแค่เอื้อม.....ต้องหาคนมาปั่น MFC แล้ว

[buglife]

ผมเข้าตลาดมา 1 ปี กะ ประมาณ 1 เดือน

ไม่ได้พัฒนาอะไรขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ

เข้าพอๆ กับผมเลย แถมผมไม่มีการพัฒนาด้วย

[9A]

ขอบคุณทุกท่านนะครับที่เข้ามาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เพราะเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ผมมีกำลังใจได้ในตลาดแห่งนี้ จะออกก็หลายครั้งแล้วแต่ผมคิดว่า "นิผมจะทิ้งโอกาศอันนี้ไปเลยหรือ น้อยมากนะที่จะได้เรียนรู้ในแง่มุมที่ยังไม่ได้เห็น" ผมเข้ามาตอนที่ SET วิ่งมาก็กลางๆ แล้ว และ Peak สุดๆ จริงๆ คราวนั้นเพราะความโลภ และความด้อยประสบการณ์และความกระหายที่จะเรียนรู้ให้ลึกซึ้ง จริงไม่ออก และพร้อมที่จะเจอตลาดหมีเพื่อเป็นประสบการณ์ที่ดี แล้วมันก็ดีจริงๆ ครับ ตามที่เค้าว่ากันว่า กำไรคืนหมดพร้อมค่าวิชชาที่แสนแพง

แต่ผมก็ดีใจนะครับที่ผ่านมาได้ เหมือนจะไม่ได้อะไรเลย ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ประสบการณ์การเล่นหุ้น มันเป็นประสบการณ์ที่จับต้องไม่ได้จริง มันเป็นวิชชาที่ต้องทะลวงจุดเพื่อให้สำเร็จเป็นขั้นๆ ไป ทะลวงจุดที่ก็เจ็บที โหดดีครับ

ปีนี้ผมบอกตัวเองว่าจะไปทดสอบตัวเองในปีหน้า และจะมารายงานนะครับ ว่าปีหน้าเป็นอย่างไรต่อไปแต่ผม ก็ขอตะลุยยุทธจักร เพื่อความเป็นหนึ่งในยุทธจักร ปีหน้าใครๆก็ว่าหิน แต่ มีแต่จอมยุทธที่สามารถเท่านั้นที่จะอยู่รอด

ขอบคุณครับ

[HI.ผมเอง]

แต่ผมก็ดีใจนะครับที่ผ่านมาได้ เหมือนจะไม่ได้อะไรเลย ปีกว่าๆ ที่ผ่านมา ประสบการณ์การเล่นหุ้น มันเป็นประสบการณ์ที่จับต้องไม่ได้จริง มันเป็นวิชชาที่ต้องทะลวงจุดเพื่อให้สำเร็จเป็นขั้นๆ ไป ทะลวงจุดที่ก็เจ็บที โหดดีครับ

5ปีเต็มสำหรับการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์
สิ่งที่ผมรู้สึกว่ามีค่ามากกว่ากำไร คือ

ได้รู้จักอารมณ์ ตัวเอง

รู้ว่าตอนไหน โลภ สุดๆ.....

รู้ว่าตอนไหน กลัวสุดๆ........

ซึ่ง ส่วนใหญ่จะรู้

หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นๆไปแล้ว

แต่ที่ดีใจก็คือ
เริ่มตระหนักรู้จักอารมณ์ตัวเองบ้างแล้ว

[อินทรีทอง]

8) สวัสดีครับ ผมเข้าใจความรู้สึกนี้ดีครับ สำหรับผมเองก็ลงทุนในตลาดประมาณ 4 ปีครับ แรกๆที่เริ่มลงทุน ก็ไม่ได้ศึกษาอะไรมากมาย คิดว่าการลงทุนในหลักทรัพย์นั้น ก็เหมือนกับที่คนส่วนมากคิดกันซึ่งไม่ต่างไปกับการเล่นการพนัน ในเวลานั้นผมคิดเองง่ายๆว่า ของดีๆใครจะเอามาแบ่งในตลาด ผมไม่คิดว่าผมลงทุนนะครับ คือคิดว่า ถ้าหุ้นขึ้นเราก็กำไร ถ้าหุ้นลงเราก็ขาดทุน ทีนี้เวลาผ่านไปประมาณครึ่งปี ผมมาดูผลงานของผม ปรากฏว่า ผมขาดทุนประมาณเกือบๆครึ่งนึง ตอนนั้นผมรู้สึกตกใจและใจเสียปนกับสงสัยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไปหรือเปล่า ตอนนั้นผมก็เลยเริ่มมาศึกษาอย่างจริงๆจังๆว่าการลงทุนในตลาดหุ้น เราควรทำอย่างไร แน่นอนว่า ทุกคนย่อมต้องหวังกำไรจากการลงทุน แต่ทีนี้เราจะทำอย่างไรที่จะไม่ลงทุนแบบ temple boxing ผมลองมาทุกอย่างทั้งทาง technical analysis จนมาถึง value investing ก็พบว่าทั้งคู่ ก็มีข้อดีข้อเสียในตัวเอง แต่สำหรับตัวผมเองแล้วผมคิดว่าก่อนที่เราจะลงทุนเราต้องสำรวจความพร้อมของตัวเองก่อนว่าตัวเราเองเหมาะกับการลงทุนในแบบไหนซึ่งเราจะไม่รู้เลยถ้าเราไม่ได้ลองดู ผมโชคดีที่มีโอกาสได้อ่านหนังสือ ตีแตก ของ ดร.นิเวศน์ ในตอนนั้น (ประมาณ 3 ปี กว่าๆ) ผมก็ตัดสินใจเป็นส าวกเต็มตัวของหงส์แดง เอ็ยยย ของการลงทุนในแบบเน้นคุณค่า ก็พยายามที่จะหาความรู้เพิ่มเติมขึ้นเรื่อยๆจากหนังสือที่มีออกมาใหม่ๆ อ่านบทวิเคราะห์ของโบรคเกอร์ต่างๆ รวมถึงความรู้ที่ได้จากเว็ปแห่งนี้ ยอมรับว่าตอนแรก คันไม้คันมือมากๆ อดไม่ได้ที่จะต้องเทรด ทนไม่ได้ที่จะต้องถือหุ้นไว้เฉยๆในขณะนั้นเราก็รู้สึกว่ากดดันตัวเองพอควร เพราะอยู่ดีๆเงินเก็บก็หายไปครึ่งนึง มีความรู้สึกว่าทำอย่างไรจึงจะเอาคืนได้เร็วที่สุด ในช่วงแรกต้องเอาชั้นหนังสือเกี่ยวกับ value investing มาไว้ใกล้ๆที่นอน รวมถึงที่โต๊ะทำงาน โดยเฉพาะหนังสือ The Warren Buffett Way ที่มีรูปหน้าปก ช่วยเตือนสติผมได้มากทีเดียว ก็ดีใจและภูมิใจในระดับนึงว่าเราก็สามารถทำเงินได้จากการลงทุนในตลาดทุนเหมือนกัน ในความคิดส่วนตัวของผมเองนะครับหลังจากที่ผมได้เรียนรู้หลักสูตรการลงทุนผ่านขั้นอนุบาล1 มา ผมว่าปัจจัยที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนนั้นน่าจะประกอบด้วย เงินเย็น (ต้องเย็นจริงๆนะครับ) ข้อมูลที่เพียงพอ ความสามารถในการวิเคราะห์ การเรียนรู้ ไม่โลภ กล้าตัดสินใจ โชค และที่สำคัญมากคือ ความอดทน (อดทนที่จะถือหุ้นเฉยๆ อดทนต่อความผันผวนของตลาด และ อาศัยความผิดปกติวิสัยของ mister market มาใช้ให้เป็นประโยชน์) ยังไงก็ขอขอบคุณทุกๆท่านในเว็บนี้นะครับสำหรับข้อมูล ประสบการณ์ และความเห็นอันมีค่ายิ่งครับ ขอให้พี่ๆน้องๆ เพื่อนๆ ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ 8)