หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 9:17 am
โดย hot
1.ยาง
2.ข้าว
อะไรจะขึ้นดีกว่ากัน
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 9:24 am
โดย mrdew
น่าจะแพงทั้งคู่
ที่แต่แพงขึ้นมากกว่า น่าจะเป็นข้าว เพราะพื้นที่ปลูกข้าวตอนนี้เสียหายหนัก ด้วยเหตุความแห้งแล้ง ดังที่ติดตามจากข่าว
ยางพาราเค้าจะไม่กรีดกันในฤดูหนาวและฤดูแล้งอยู่แล้วเป็นปกติ ราคาไม่น่าจะเพิ่มขึ้นแรงมากนัก เพราะก็คงจะปรับตัวกันได้ เมื่อรู้ว่ากำลังเข้าฤดูที่ไม่สามารถกรีดยางได้
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 9:28 am
โดย ch_army
ยางนี่ หน้าหนาวเค้ากรีดไม่ใช่เหรอครับ เห็นเพื่อนผมทางใต้เค้าบอกมาหรือว่า ผมจำมาผิด
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 9:31 am
โดย mrdew
ฤดูหนาวยางมันจะพลัดใบน่ะครับ ใบมันจะร่วงหมด กรีดตอนนั้นยางจะตาย กรีดอีกที ก็ต้นฝนโน่นแหละ
บ้านผมปลูกยางครับ อยู่จันทบุรี
เอ...หรือว่ายางภาคตะวันออกกับภาคใต้ไม่เหมือนกันหว่า?? อันนี้ก็ไม่ทราบแฮะ
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 10:20 am
โดย CK
ภาคใต้ฝนตกตลอดปีมั้ง :lol:
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 10:48 am
โดย วัวแดง
ยืนยัน ที่ใต้กรีดได้ทั้งปี
ยกเว้นตอนฝนตก
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 11:50 am
โดย NanBKK
ยืนยันอีกทีครับ บ้านอยู่ใต้และทำสวนอยู่ด้วย
ฤดูหนาว (พย - มค) เป็นฤดูที่น้ำยางออกมากที่สุดครับ ชาวสวนชอบมากและฝนก้เริมซาแล้วด้วย (ยกเว้นเดือนพย. ที่ยังตกอยู่) จะสังเกตด้ว่าช่วงนี้ของทุกปี ราคายางจะลงหรือทรง ๆ อยู่ เพราะผลผลิตออกมามาก และส่วนใหญ่ 80%ไปหยุดตอนที่ต้นยางผลัดไป ตั้งแต่ กลางเดือน กพ ถึง ต้นเมษายน เพื่อให้ต้นยางผลิตใบไม้ชุดใหม่ขึ้นมาก่อนค่อยกรีดใหม่ แต่บางท่านก็ยังกรีดอยู่ โดยจะกรีด วันเว้นวัน เพื่อไม่ให้ยางโทรมหรือตายไปก่อน น้ำยางที่ออกมาก็น้อยครับช่วงนี้ ช่วงนี้ราคายางก็จะขึ้นราคาครับ เพราะแทบจะไม่ค่อยมีผลผลิตออกมาเท่าไร ส่วนภาคอื่น ๆ ไม่ค่อยแน่ใจครับ น่จะคล้าย ๆ กัน
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 12:01 pm
โดย harry
นอกจากศึกษาวัฎจักร และสาขาวิชาการเกษตรด้วยครับ จะได้เข้าใจการปลูกข้าวและยาง หรือลองไปคุยกับชาวนา ชาวสวนดูครับ
และก็ศึกษาเรื่องตราสารอนุพันธ์ด้วย เพราะตลาดสินค้าเกษตรเป็นสัญญาฟิวเจอร์สครับ
ผมไปอบรมที่ตลาดฯจัด ผมว่าดีทีเดียวนะ กลางปีหน้าจะมีคอร์สระดับสูงหลายๆแบบ ก็จะปีอีก ที่สำคัญฟรีด้วย
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 12:25 pm
โดย mrdew
เอ่อ...แปลกดี แถว ๆ จันทบุรี เค้ากรีดในฤดูฝนอ่ะ พอหมดฤดูฝนจะเข้าหน้าหนาว ดินมันจะแห้ง ๆ อ่ะ ใบยางมันจะเหลืองทั้งต้น แล้วใบมันก็ร่วงหมดเลย ช่วงนี้แถวบ้านผมจะหยุดกรีดกันหมด แล้วก็ต้องเอายามาทาหน้าแผลยาง
แล้วต้องระวังไฟไหม้ด้วย เพราะใบยางที่ร่วงจะเป็นเชื้อไฟได้อย่างดี
ถ้าข้าง ๆ สวนไฟไหม้เมื่อไหร่ ต้องรีบไปกวดใบยางเพื่อไม่ให้ไฟมันลามหรือรีบไปดับไฟ
ยางมันจะไม่มีใบอยู่ช่วงนึงอ่ะครับ แล้วมันก็จะแตกใบอ่อนออกมา แล้วมันก็จะใบเต็มต้นสุด ๆ ก็เดือนใกล้ ๆ หน้าฝนอ่ะ พอฝนตกได้สักไม่กี่วัน แถว ๆ บ้านผมก็จะไปเปิดหน้ายางกันอ่ะ
ผมก็เข้าใจมาตลอดว่าที่เค้าไม่กรีดหน้าหนาวกับหน้าแล้ง ซึ่งเป็นช่วงที่มันพลัดใบ เพราะช่วงนั้นมันไม่มีใบ และก็ดินไม่ค่อยมีน้ำ แล้วมันจะเอาใบที่ไหนสังเคราะห์แสง ถ้าไม่สังเคราะห์แสง จะเอาน้ำยางมาจากไหน???
สงสัยฤดูกาลไม่เหมือนกันมั้งครับ เพราะภาคใต้ฝนแปดแดดสี่นี่นา
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 12:34 pm
โดย CK
เวลากรีดน้ำหวานจากต้นเมเปิ้ล เขาจะกรีดกันช่วงปลายหนาวเข้าใบไม้ผลิ
ใช่ไหมครับ
คิดว่ายางน่าจะเหมือนกัน คือตอนผลัดใบ น้ำยางจะไม่ถูกส่งขึ้นไปตามลำ
ต้น เพราะไม่มีใบให้เลี้ยง ก็เลยไม่กรีดกันมั้ง
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 12:34 pm
โดย mrdew
วัวแดง เขียน:ยืนยัน ที่ใต้กรีดได้ทั้งปี
ยกเว้นตอนฝนตก
เดี๋ยวผมย้ายไปอยู่ใต้มั้งดีกว่าจะได้กรีดยางทั้งปี
555555
เพราะช่วงที่ไม่ได้กรีดยาง ที่บ้านผมก็จะปลูกผักขายอ่ะนะ พวกคะน้า กวางตุ้ง ผักชี แตงกวา พริก ฯลฯ อะไรเงี่ยะ แล้วแต่สถานการณ์ราคาพืชผัก เพราะมีที่ดินอเนกประสงค์อยู่จำนวนนึง
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 1:32 pm
โดย วัวแดง
เดี๋ยวผมย้ายไปอยู่ใต้มั้งดีกว่าจะได้กรีดยางทั้งปี
555555
มาซิครับ บ้านผมอยู่เมืองคนดี(สุราด)
แต่ผมอยากมีที่แถวระยองอ่ะ อยากเลี้ยงวัว ใกล้ตลาดดี
เดี๋ยวนี้ชาวสวนยางสุขใจกันถ้วนหน้า สังเกตจากรถป้ายแดง 8)
ส่วนผมตอนนี้ยังอยู่กรุงเทพ หาลู่ทางทำเงินอยู่
8)
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 1:51 pm
โดย ลูกอิสาน
แต่ละภูมิภาคอากาศคงไม่เหมือนกันครับ
จากที่มีประสบการณ์ จะเหมือนที่คุณ NanBKK ว่ามาครับ
คือทางใต้กรีดยางได้ทั้งปี ยกเว้นตอนฝนตกต้นเปียก และตอนยางผลัดใบ
แต่หากราคายางดีตอนยางผลัดใบ ก็พยายามกรีดแบบวันเว้นวันครับ
แต่ทางใต้ฝั่งตะวันตก จะกรีดยางได้เฉพาะหน้าแล้งและหนาวเท่านั้น หรือช่วงรอยต่อฤดูที่ฝนไม่ตก สรุปว่าทั้งปีจะกรีดยางได้ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น สำหรับฝั่งตะวันตก ปัจจุบันชาวสวนก็เลยหันไปปลูกปาล์มกันมาก เพราะราคาดี ไม่ต้องวิตกเรื่องฝน (ต้นปาล์มชอบฝน) และไม่ต้องตื่น ตี 1 ตี 2 ไปกรีดยาง..
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 2:13 pm
โดย NanBKK
เพิ่มเติมอีกนิดนะครับ สวนยางส่วนใหญ่เป็นของนายทุน (น่าจะเกิน 50% ของทั้งหมดนะ) จะจ้างคนกรีดครับ แรงงานสมัยก่อนก็มาจากทางอิสานเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันทางอิสานปลูกยางได้เองแล้ว รัฐบาลส่งเสริมด้วย ดังนั้นแรงงานจึงกลายเป็นพม่าแทน โดยเฉพาะแถวระนอง ชุมพรและด้านตะวันตกพม่าทั้งนั้น ชาวพม่าจะขยันครับ หน้าแล้งก็ยังกรีดยางอยู่ เพราะมีรายได้เข้ามา ยกเว้นวันที่ฝนตกแล้วต้นยางเปียกนะครับ เพราะถ้าไปกรีดเข้าจะเกิดโรคเชื้อราครับ ทำให้เปลือกยางเน่าได้ หรือถ้าหน้ามรสุมก็จะไม่เสี่ยงที่จะกรีดแม้ว่าเปลือกยางจะแห้งก็ตามที เพราะโอกาสที่รุ่งเช้าหลังจากกรีดเสร็จแล้ว ฝนจะเทลงมาใส่ถ้วยที่รับน้ำยางก่อนที่ชาวสวนจะไปเก็บน้ำยางกลับมาก็มีสูง กลายเป็นวันนั้นทำงานฟรีไป ได้น้ำปนน้ำยางกลับมา ซึ่งแทบจะไม่มีราคาเลย เหนื่อยครับ อาชีพนี้ เพราะต้องอาศัยธรรมชาติพอสมควร ไหนยังเรื่องไฟไหม้หน้าแล้งอีก แต่ราคาอย่างตอนนี้ก็พอไหวอยู่ แต่อย่างว่าละครับ เมื่อไปเทียบกับเงินเฟ้อและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นแล้ว ชาวสวนก็ได้ไม่มากอย่างที่คิดกันหรอกครับ (น่าจะดีกว่าปลูกข้าวหรือผลไม้กระมัง) เล่าสู่กันฟังครับ ปัจจุบันผมทำงานอยู่กรุงเทพครับ อนาคตยังคิดจะเก็บเงินไปซื้อสวนเอาไว้เลยครับ แล้วให้น้องชายที่อยู่ที่นั่นดูแล แต่ตอนนี้เริ่มคิดเหมือนกันว่าจะแบ่งอัตราส่วนในการลงทุนในหุ้นกับในที่สวนอย่างไรดี คิดไม่ตกครับ สวนปาล์มก็มีอนาคตนะครับ ช่วงนี้มาแรงพอ ๆ กับยางเลยละครับ
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 2:35 pm
โดย CK
น่าจะพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้กรีดยางได้อัตโนมัตแม้ในหน้าฝนนะครับ
เช่นเป็นเข็มเล็กๆ เจาะเข้าไป มียางหุ้มกันน้ำด้านนอก ให้น้ำยางไหลไป
เข้าขวดโหลสูญญากาศ ตั้งเวลาเปิดปิดได้ เป็นต้น
คงจะเพิ่มผลผลิตและลดค่าแรงได้เยอะ
ตลาดเกษตรล่วงหน้า
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 02, 2004 2:44 pm
โดย วัวแดง
น่าจะพัฒนาเทคโนโลยีที่ทำให้กรีดยางได้อัตโนมัตแม้ในหน้าฝนนะครับ
เช่นเป็นเข็มเล็กๆ เจาะเข้าไป มียางหุ้มกันน้ำด้านนอก ให้น้ำยางไหลไป
เข้าขวดโหลสูญญากาศ ตั้งเวลาเปิดปิดได้ เป็นต้น
คงจะเพิ่มผลผลิตและลดค่าแรงได้เยอะ
ถ้าให้ดี ต่อท่อจาก ขวดสูญญากาศ มาท่อเมน ไหลมารวมกันที่บ่อเก็บ 8)
แต่คงทำได้ยากครับ