SBL อีกช่องทางการหารายได้จากการลงทุนระยะยาว
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 30, 2004 8:55 am
จาก www.bangkokbiznews.com ครับ
----------------------------------------------------------------------
"เอสบีแอล"ทางเลือก-เครื่องมือกันเสี่ยงหุ้นสวิง
หนุนเสริมสภาพคล่องซื้อขาย บล.พัฒนสินระบุ นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจ "เอสบีแอล" จำนวนมาก เหตุปีหน้าหุ้นผันผวนหนัก
"เอสบีแอล" ทางเลือกช่วงตลาดหุ้นผันผวน และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่เล็งเห็นความสำคัญ เพราะช่วยป้องกันความเสี่ยงให้ลูกค้าช่วงหุ้นขาลง และสร้างรายได้รับค่าบริการให้ยืมหุ้น ด้าน "พัฒนสิน" เผยรายย่อยสนใจ ขณะที่ "เคจีไอ" ผู้นำผลักดันเอสบีแอลเชื่อว่า จะช่วยเสริมสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ผู้บริหารโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ต่างเห็นสอดคล้องกัน ว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นปีหน้าค่อนข้างผันผวน จากปัจจัยลบรอบด้านที่อยู่เหนือการควบคุม ทำให้ทิศทางดัชนีหุ้นจะเคลื่อนไหวลักษณะ "สวิง" ซึ่งเหมาะกับการเข้าไปเก็งกำไรเป็นรอบๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ ความเสี่ยงจากการขาดทุนช่วงหุ้นขาลง และสิ่งที่นักลงทุนควรมองหา ก็คือ เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากช่วงหุ้นขาลง ซึ่งหนึ่งในกลไกกำจัดความเสี่ยง ก็คือ ธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ หรือที่เรียกกันจนติดปาก ว่า "เอสบีแอล (SBL)"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของนายสุชีล นารูลา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ ที่ประเมินว่า ตลาดหุ้นในปีหน้า คงจะไม่สดใสนัก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับการกดดันจากปัจจัยลบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการเมืองที่ทุกคนเริ่มมองเห็นแล้วว่า การเมืองของไทยเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ประกอบกับค่าเงินหยวนที่กำลังเป็นที่วิตกกังวล เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน ทำให้คาดการณ์ว่าปี 2548 อัตราการเติบโตกำไรอยู่ที่ 8% ขณะที่ปี 2546 กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตขึ้นถึง 54%
นอกจากนี้ ต้องจับตาต่างชาติที่อาจลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้น เอสบีแอลจะเป็นเครื่องมือทางการเงิน ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่พยายามพัฒนาเครื่องมือทางการเงินนี้ขึ้นมา เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน โดยช่วงแรกคาดว่าจะได้รับความสนใจ จากนักลงทุนประเภทสถาบัน ขณะที่รายย่อยต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจใช้เครื่องมือการเงินนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
นายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ อธิบายว่า ตลาดหุ้นปีหน้า เป็นตลาดหุ้นที่เกิดความเสี่ยงสูง เพราะเป็นตลาดที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ทำให้คาดเดาได้ยากว่าช่วงใดที่ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง
ดังนั้น ช่วงที่หุ้นปรับตัวลดลง จึงเหมาะกับการหาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง และประเมินว่า "เอสบีแอล" ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก ที่ให้ประโยชน์กับนักลงทุนทั้งผู้ที่เป็นผู้ให้ยืมและผู้ยืม
สำหรับประโยชน์ของเอสบีแอล ไม่ใช่มีประโยชน์กับนักลงทุน ที่ต้องการหุ้นมาขายชอร์ตเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ที่มีหุ้นจำนวนมาก และไม่คิดจะบริหาร หรือผู้ที่ลงทุนในระยะยาว เพราะผู้ที่ให้ยืมหุ้นจะได้รับเงินค่าธรรมเนียม จากการให้ยืมหุ้น และได้รับประโยชน์ในฐานะผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกได้ว่า ได้กำไร 2 ต่อ ขณะที่ผู้ยืมหุ้นก็จะได้ประโยชน์จากการบริหารความเสี่ยง ในพอร์ตการลงทุนของตนเอง
"เอสบีแอลปีหน้า จะได้รับความสนใจมากกว่าปีนี้ เพราะโบรกเกอร์แต่ละแห่ง เริ่มให้ความสนใจ ให้ความรู้กับนักลงทุน เพื่อทำให้ธุรกรรมนี้ เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้นักลงทุน และน่าจะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด และถ้าหากว่าธุรกรรมนี้เกิดอย่างกว้างขวาง ก็เชื่อว่าเอสบีแอล จะช่วยทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย เพราะตลาดหุ้นไทยได้ชื่อว่าเป็นตลาดหุ้น ที่มีราคาการซื้อขายหุ้นที่ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท"
บล.พัฒนสิน เป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่ง ที่ให้บริการธุรกรรมเอสบีแอลอยู่ ซึ่งจะไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเน้นกลุ่มลูกค้าประเภทใด แต่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถให้บริการเอสบีแอลได้ทั่วถึงความต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อยแสดงเจตจำนงเข้ามาค่อนข้างมาก หลังจากบริษัทได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำเอสบีแอลในงานเซตอินเดอะซิตี้
"แต่เอสบีแอล ยังมีปัญหาอยู่คือ ไม่มีหุ้นให้ยืม ขณะที่มีความต้องการยืมหุ้นกันมาก ซึ่งแนวทางที่น่าจะแก้ไขได้โดยการเจรจากับนักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีหุ้นจำนวนมาก และเน้นการลงทุนระยะยาว"
ขณะที่นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้ผลักดันเอสบีแอล จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้มีจำนวนการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดมากกว่าปกติ
ทั้งยังทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่ขายชอร์ตไปจะต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้น เพื่อส่งมอบคืน การให้บริการนี้ยังเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้าของบริษัทและนักลงทุนทั่วไป ให้สามารถซื้อขายหุ้นได้ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง และยังช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง
----------------------------------------------------------------------
"เอสบีแอล"ทางเลือก-เครื่องมือกันเสี่ยงหุ้นสวิง
หนุนเสริมสภาพคล่องซื้อขาย บล.พัฒนสินระบุ นักลงทุนรายย่อยให้ความสนใจ "เอสบีแอล" จำนวนมาก เหตุปีหน้าหุ้นผันผวนหนัก
"เอสบีแอล" ทางเลือกช่วงตลาดหุ้นผันผวน และโบรกเกอร์ส่วนใหญ่เล็งเห็นความสำคัญ เพราะช่วยป้องกันความเสี่ยงให้ลูกค้าช่วงหุ้นขาลง และสร้างรายได้รับค่าบริการให้ยืมหุ้น ด้าน "พัฒนสิน" เผยรายย่อยสนใจ ขณะที่ "เคจีไอ" ผู้นำผลักดันเอสบีแอลเชื่อว่า จะช่วยเสริมสภาพคล่องการซื้อขายในตลาดหุ้นได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ ผู้บริหารโบรกเกอร์ส่วนใหญ่ต่างเห็นสอดคล้องกัน ว่า บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นปีหน้าค่อนข้างผันผวน จากปัจจัยลบรอบด้านที่อยู่เหนือการควบคุม ทำให้ทิศทางดัชนีหุ้นจะเคลื่อนไหวลักษณะ "สวิง" ซึ่งเหมาะกับการเข้าไปเก็งกำไรเป็นรอบๆ และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมา คือ ความเสี่ยงจากการขาดทุนช่วงหุ้นขาลง และสิ่งที่นักลงทุนควรมองหา ก็คือ เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากช่วงหุ้นขาลง ซึ่งหนึ่งในกลไกกำจัดความเสี่ยง ก็คือ ธุรกรรมการยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ หรือที่เรียกกันจนติดปาก ว่า "เอสบีแอล (SBL)"
สอดคล้องกับความคิดเห็นของนายสุชีล นารูลา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไทยพาณิชย์ ที่ประเมินว่า ตลาดหุ้นในปีหน้า คงจะไม่สดใสนัก โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากได้รับการกดดันจากปัจจัยลบหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการเมืองที่ทุกคนเริ่มมองเห็นแล้วว่า การเมืองของไทยเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ประกอบกับค่าเงินหยวนที่กำลังเป็นที่วิตกกังวล เนื่องจากจะส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียน ทำให้คาดการณ์ว่าปี 2548 อัตราการเติบโตกำไรอยู่ที่ 8% ขณะที่ปี 2546 กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตขึ้นถึง 54%
นอกจากนี้ ต้องจับตาต่างชาติที่อาจลดน้ำหนักการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ดังนั้น เอสบีแอลจะเป็นเครื่องมือทางการเงิน ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุน ที่ต้องการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งโบรกเกอร์ส่วนใหญ่พยายามพัฒนาเครื่องมือทางการเงินนี้ขึ้นมา เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน โดยช่วงแรกคาดว่าจะได้รับความสนใจ จากนักลงทุนประเภทสถาบัน ขณะที่รายย่อยต้องใช้เวลาศึกษาข้อมูล ก่อนตัดสินใจใช้เครื่องมือการเงินนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
นายสาธิต วรรณศิลปิน ผู้จัดการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ อธิบายว่า ตลาดหุ้นปีหน้า เป็นตลาดหุ้นที่เกิดความเสี่ยงสูง เพราะเป็นตลาดที่ถูกขับเคลื่อนด้วยเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ ทำให้คาดเดาได้ยากว่าช่วงใดที่ตลาดหุ้นจะขึ้นหรือลง
ดังนั้น ช่วงที่หุ้นปรับตัวลดลง จึงเหมาะกับการหาเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง และประเมินว่า "เอสบีแอล" ก็เป็นหนึ่งในทางเลือก ที่ให้ประโยชน์กับนักลงทุนทั้งผู้ที่เป็นผู้ให้ยืมและผู้ยืม
สำหรับประโยชน์ของเอสบีแอล ไม่ใช่มีประโยชน์กับนักลงทุน ที่ต้องการหุ้นมาขายชอร์ตเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ที่มีหุ้นจำนวนมาก และไม่คิดจะบริหาร หรือผู้ที่ลงทุนในระยะยาว เพราะผู้ที่ให้ยืมหุ้นจะได้รับเงินค่าธรรมเนียม จากการให้ยืมหุ้น และได้รับประโยชน์ในฐานะผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง หรือเรียกได้ว่า ได้กำไร 2 ต่อ ขณะที่ผู้ยืมหุ้นก็จะได้ประโยชน์จากการบริหารความเสี่ยง ในพอร์ตการลงทุนของตนเอง
"เอสบีแอลปีหน้า จะได้รับความสนใจมากกว่าปีนี้ เพราะโบรกเกอร์แต่ละแห่ง เริ่มให้ความสนใจ ให้ความรู้กับนักลงทุน เพื่อทำให้ธุรกรรมนี้ เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้นักลงทุน และน่าจะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่มากกว่าตลาด และถ้าหากว่าธุรกรรมนี้เกิดอย่างกว้างขวาง ก็เชื่อว่าเอสบีแอล จะช่วยทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้นด้วย เพราะตลาดหุ้นไทยได้ชื่อว่าเป็นตลาดหุ้น ที่มีราคาการซื้อขายหุ้นที่ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานที่แท้จริงของบริษัท"
บล.พัฒนสิน เป็นอีกโบรกเกอร์หนึ่ง ที่ให้บริการธุรกรรมเอสบีแอลอยู่ ซึ่งจะไม่ได้เฉพาะเจาะจงว่าเน้นกลุ่มลูกค้าประเภทใด แต่ยอมรับว่า ยังไม่สามารถให้บริการเอสบีแอลได้ทั่วถึงความต้องการของนักลงทุน โดยเฉพาะรายย่อยแสดงเจตจำนงเข้ามาค่อนข้างมาก หลังจากบริษัทได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำเอสบีแอลในงานเซตอินเดอะซิตี้
"แต่เอสบีแอล ยังมีปัญหาอยู่คือ ไม่มีหุ้นให้ยืม ขณะที่มีความต้องการยืมหุ้นกันมาก ซึ่งแนวทางที่น่าจะแก้ไขได้โดยการเจรจากับนักลงทุนสถาบัน หรือนักลงทุนรายใหญ่ ที่มีหุ้นจำนวนมาก และเน้นการลงทุนระยะยาว"
ขณะที่นางสาวนฤมล อาจอำนวยวิภาส ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจตราสารอนุพันธ์ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) หนึ่งในผู้ผลักดันเอสบีแอล จะช่วยเสริมสภาพคล่องให้มีจำนวนการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดมากกว่าปกติ
ทั้งยังทำให้ราคาหุ้นมีเสถียรภาพมากขึ้น เนื่องจากผู้ที่ขายชอร์ตไปจะต้องกลับเข้ามาซื้อหุ้น เพื่อส่งมอบคืน การให้บริการนี้ยังเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้กับลูกค้าของบริษัทและนักลงทุนทั่วไป ให้สามารถซื้อขายหุ้นได้ไม่ว่าภาวะตลาดจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง และยังช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทอีกทางหนึ่ง