Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

- อยากถามพี่ๆๆว่า ทำไมพอเดือนมกรา แล้วหุ้นจะขึ้น จนเค้ามีการตั้งกันว่าเป็น มกราคมแอฟเฟ็คครับ มันมีเหตุผลที่มาอย่างไร

- ปีไก่นี้อะไรบ้างที่เปงอุปสรรค ต่อกำไรของบริษัทในตลาด และพี่ๆๆมี
การวางแผนไว้ล่วงหน้า และสำรองอย่างไรครับ


ขอบคุนครับบ สำหรับทุกคำตอบ

เขียนว่า "เป็น" ครับ ไม่ใช่ "เปง"

ปีที่แล้วไม่เป็น ปีนี้ทำท่าจะเป็นแฮะ

ต่างชาติซื้อหนักต้อนรับปีใหม่

งานวิจัยของเจ้า JPM ที่พี่ร็อคฯเอามานำเสนอตามบอร์ดต่างๆน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องแน่เลย

ต้องตามดูต่อไป เพราะเดือนมกราฯยังเหลืออีกหลายวัน

เนื่องจากกองทุนต่างชาติจะมีการทวนดูพอร์ตของตัวเองก่อนสิ้นปี (คือเดือนสุดท้ายเดือนธันวาคม) มักจะไม่เสี่ยงทำการซื้อขายในตลาด หากมีกำไรก็จะทำการขาย และกลับมาซื้อใหม่ในเดือนมกราคม

กองทุนบางกองทุนก็ ทำการขายหนักก่อนสิ้นปี เพื่อลดพอร์ต ลดการจ่ายภาษี แล้วมาทำการซื้อหนักช่วงหลังปีใหม่

และเป็นด้านจิตวิทยา เนื่องจากหลายคนเริ่มต้นในปีใหม่ จะทำการปรับพอร์ตซื้อหุ้น เป็นบรรยากาศที่คึกคัก รวมทั้งมีปัจจัยเงินเกื้อหนุน เช่น เงินพิเศษต่างๆ โบนัส

แต่ระวังนะครับ ฝรั่งเดี่ยวนี้เขาก็ปรับกลยุทธตามรายย่อยเหมือนกัน ได้กำไร 15-20% ผมว่าเขาก็ขายทำกำไรขึ้นมาก่อนแล้ว

ขอบคุร คุณโป้งที่มาเตือนสติและให้แนวคิดครับ ผมชอบติดกับดักสถิติว่า ฝรั่งเคยทำยังไงก็ทำยังงั้น แต่เราเป็นคน เค้าก็เป็นคน เราเปลี่ยนแปลงได้ เค้าก้เปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน ก็อย่าหลงกลสถิติมากนักหาเหตุและผลดีกว่า มองความจริงให้ตรงตามความจริง ผมก็ขอเตือนตัวเองไว้ด้วยในเวปนี้
ผิดรู้แก้ไข ถูกรู้พัฒนา ดีรู้รักษา เปลี่ยนรู้ปรับตัว

แหมคุณckไม่น่าแซวคุณsupra
เดี๋ยวนี้เค้าพูดไม่ชัดกันทั่วเมือง
สืบเนื่องมาจากน้องมาย ป่วนเมือง

โผ่ะ เอาเคโรอะมาฝ่ะ
ฝ่ะให้เธอด่ะกิง....

ปีนี้ไม่ค่อยมีคนพูดเรื่อง Jan effect กันเท่าไหร่ ฝรั่งท่านก็เลยสำแดงเดชให้ดูซะเลย
ไม่เหมือนกับปีก่อน พูดเรื่อง Jan effect กันตั้งแต่เดือนตุลาฯ ...

ผมเคยเข้าใจว่า Jan effect หมายถึงผลทางด้านลบมากกว่านิครับ
หรือว่าผมเข้าใจผิดอีกแล้ว

เหรียญมี2ด้านครับ
หากเป็นลูกกลมๆ ยิ่งมีหลายมิติ

ตอนนี้ชักกลัวตอนฝรั่งกลับบ้านแล้วหล่ะ


ตอนฝรั่งกลับคงเป็นแบบในภาพนี้มั๊งครับ

ไปเปิดดิกชันนารีการลงทุนมาแล้วครับ January Effect มีความหมายดังนี้

"เป็นปรากฏการณ์ในตลาดหุ้นซึ่งราคาหุ้นจะลดต่ำลงในช่วงเดือนธันวาก่อน
ที่จะกลับมาสูงขึ้นในเดือนมกราอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต้องการลดตัวเลข
กำไรจาก capital gain เพื่อมิให้เสียภาษีมาก โดยจะทำการขายหุ้นที่
ขาดทุนมากๆ ออกมาเพื่อให้กำไรในปีนั้นๆ ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ ก่อน
ที่จะกลับเข้าซื้อใส่พอร์ตอีกครั้งช่วงสองอาทิตย์แรกของเดือนมกรา

"โดยปกติมักเกิดกับหุ้นที่มี market cap ไม่สูงมากนัก และในปัจจุบันปรากฎว่ามี
January Effect แล้ว เนื่องจากนักลงทุนสามารถใช้ Tax Shelter ผ่าน retirement
plan ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้จาก capital gain ในแต่ละปี และอีกประการ
ตลาดได้ซึมซับและปรับราคาตาม January Effect แล้ว"

สรุปว่า ไม่ได้ขายเพราะกำไรครับ แต่เป็นการขายเพื่อให้ขาดทุน

พูดยากครับ ว่าขายเพื่อขาดทุน

เพราะบางรายเอา cap. gain มาก็ถือว่าได้กำไรมาแล้ว เลยต้องทวนดูพอร์ตของตัวเองเทียบกัน บางรายก็เห็นว่าขายดีกว่าถือข้ามปีครับ

เมืองไทยไม่มี capital gain tax นะครับ January Effect ที่คุณโป้งว่านี่ น่าจะเป็น
เวอร์ชั่นประยุกต์นะครับ ถ้าเอาตามความหมายจริงของ January Effect แล้วละก็
เป็นการขายเพื่อเลี่ยงการจ่ายภาษีจาก capital gain ครับ

CK เขียน:เมืองไทยไม่มี capital gain tax นะครับ January Effect ที่คุณโป้งว่านี่ น่าจะเป็น
เวอร์ชั่นประยุกต์นะครับ ถ้าเอาตามความหมายจริงของ January Effect แล้วละก็
เป็นการขายเพื่อเลี่ยงการจ่ายภาษีจาก capital gain ครับ

ผมเคยได้ยินเรื่อง ผจก. กองทุนไปเที่ยว เลยขาดลดความเสี่ยงก่อน

อ่านครั้งแรกก็แปลกใจเหมือนกัน ผจก.กองทุนอะไร ถึงได้ใจเสาะขนาดนั้น

สรุปแล้ว ในเมืองไทย เรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องที่พูดกันไปเองมากกว่าจะเกิดขึ้นจริงๆ หรือเปล่าครับ

การแต่งตัวพอร์ตให้สวยๆ ด้วยการขายก่อนสิ้นปี เขาเรียก Window Dressing ครับ
ไม่ใช่ January Effect

ส่วนกองทุนไปเที่ยวขายลดความเสี่ยงเป็นเรื่องชอบด้วยเหตุผลครับ เพราะถือ
หุ้นเยอะไป เที่ยวไม่มันส์ :lol:

นิยามที่มาของ January Effect เป็นแบบที่คุณ ck บอกไว้ใช่แล้วครับ

"starting to worry about taxes, sell some stocks that are down so the losses can be written off against capital gains. This selling causes stocks to go down near the end of the year and back up in January when investors buy back the stocks they sold.

The January effect is said to affect small-caps more than mid/large caps. The January effect phenomenon, however, has not occurred in years because the markets have adjusted for the effect.

Another reason the January effect is considered a non-event is that more people are using tax sheltered retirement plans and therefore have no reason to sell at the end of the year for a tax loss. "

น่าจะเป็น

"โดยปกติมักเกิดกับหุ้นที่มี market cap ไม่สูงมากนัก และในปัจจุบันปรากฎว่าไม่มี
January Effect แล้ว เนื่องจากนักลงทุนสามารถใช้ Tax Shelter ผ่าน retirement
plan ได้ ทำให้ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้จาก capital gain ในแต่ละปี และอีกประการ
ตลาดได้ซึมซับและปรับราคาตาม January Effect แล้ว"

เมืองไทยน่าจะมี การลงทุนที่เป็น Tax Shelter แบบ retirement บ้างนะครับ เมืองนอกคนทำงานเขามี Tax Shelter ทั้งแบบ 401k และ IRA

ขอบคุณครับคุณหมอ ที่ช่วยแก้ผ้าเอ้ยแก้คำผิด

เมืองไทยมีคิด tax จาก capital gain อยู่แล้วครับ คุณหมอโคทาโร่

ส่วนกองทุน ก็มี RMF กับ LTF ครับ ที่เป็น tax shelter

คุณ CK โพสท์

เป็นปรากฏการณ์ในตลาดหุ้นซึ่งราคาหุ้นจะลดต่ำลงในช่วงเดือนธันวาก่อน
ที่จะกลับมาสูงขึ้นในเดือนมกราอีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต้องการลดตัวเลข
กำไรจาก capital gain เพื่อมิให้เสียภาษีมาก โดยจะทำการขายหุ้นที่
ขาดทุนมากๆ ออกมาเพื่อให้กำไรในปีนั้นๆ ลดลง อย่างมีนัยสำคัญ ก่อน

ดูขัดๆนะครับ....ขายตัวที่ขาดทุนแล้วจะไปเอากำไรที่ไหนมาเลี่ยงการเสียภาษีหละครับ
สงสัย ดิกชันนารี่เล่มนี้พลาดๆนะครับ...หรือผมยังเข้าใจอะไรผิดอีก

เดาเล่นๆ

ว่า ในระหว่างปี มีการขายให้เกิดการรับรู้กำไรออกมา เพื่อโชว์ในแต่ละไตรมาส ว่ากองทุนมีกำไรเยอะ พอปลายปี ก็ขายตัวที่ขาดทุนออกมา เพื่อไปตัดกับที่เคยกำไร เพื่อไม่ต้องเสีย captital gain tax

แล้วพอต้นปีก็ซื้อกลับมา จะได้เป็นต้นทุนใหม่ ในราคาที่ต่ำลง

ต้องถามท่าน Invisible hand แล้วหละครับ เรื่องนี้ท่านถนัด

ดิกชันนารี่ ถูกต้องแล้วครับ

สมมุติ กำไรทั้งปีมีอยู่ 10 ล้าน แต่มีหุ้นในพอร์ตที่ขาดทุนอยู่ 5 ล้านในพอร์ต ถ้าไม่ขายหุ้นทิ้ง ก็ปิดบัญชีด้วยกำไร 10 ล้านบาท

อัตราภาษี 30%

ถ้าไม่ขายทิ้ง ก็ต้องเสียภาษี 10 ล้าน x .3 =3 ล้านครับ

แต่ถ้าขายหุ้นที่ขาดทุนทิ้งหมด ก็จะมีกำไร 5 ล้าน เสียภาษี= .3 x 5 ล้าน = 1.5 ล้าน ครับ

เอ ท่าน kotaro เรื่อง cappital gain tax นี่น่าจะเกิดจากการขาย แล้วได้กำไร ค่อยเสียภาษีนะครับ ถ้าถือไว้ไม่น่าจะเสียภาษี เพราะยังไม่ได้ขาย

โดยปกติบริษัทในประเทศไทย ถ้าถือหุ้นบริษัทอื่น แล้วราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้น แต่ยังไม่ได้ขาย ก็ยังไม่สามารถรับรู้เป็นรายได้ แต่เมื่อปิดงบปลายปี ส่วนของสินทรัพย์น่าจะสูงขึ้น

อืมเรื่องนี้น่าสนใจจริงๆ ไว้มีเวลาจะศึกษาเพิ่มเติม

ผมไม่เห็นพี่เจ๋งโพสต์ข้างบน

ผมก็ว่าพี่เจ๋งเข้าใจถูกแล้วครับ

ถูกต้องแล้วครับ unrealized gain ไม่นับครับ อันนี้เฉพาะ capital gain ที่เป็น
realized gain เท่านั้น

3 วันปีใหม่มานี้ ตลาดสหรัฐ dow , nasdaq ร่วงตลอด (สวนทางกับตลาดในไทย) 8)

ลองดูต่อไปครับ มกราคมแอฟเฟ็ค จะเป็นยังไง

ถ้าสัปดาห์ขึ้นไปอีกหลายสิบจุด ก็ Jan effect ของจริง

ขออนุญาติ นำขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งครับ

แล้วเทียบกับลิงค์นี้ดู
http://www.manager.co.th/asp-bin/MgrVie ... 1420027016

น่าใจหายเหมือนกันนะครับ
ปีใหม่นี้จะเป็นยังบ้างน้อ จะมี phenomenon อะไรที่ทำให้หุ้นตกอีกมั๊ยเนี่ย

         อืออม  หานานไหมอ่ะครับ  ดีเหมือนกันมาทบทวน  ปีนี้จะเกิดไหมอ่ะ  :?:

พอดีหาเล่นๆในกูเกิลแล้วเจออ่ะครับ ก็เลยสนใจ
ขออภัยด้วยนะครับ หากความเห็นผมจะออกแนวเล่นรอบเยอะไปหน่อย