หน้า 1 จากทั้งหมด 2
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:11 pm
โดย คัดท้าย
เท่าที่ผมเคยอ่านตำรามา เห็นแนวการลงทุนของลุงบัฟบอกว่า ให้ซื้อบริษัทที่มีความสามารถในการแข็งขันอย่างยั่งยืน และ อย่าไปทำนายอนาคต เพราะการทำนายอนาคตมักจะผิด ... และให้ซื้อในราคาที่เหมาะสม ถูกเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ผมก็มานั่งนึกว่า บริษัทในเมืองไทย มีบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่ ? ถ้ามี มีกี่บริษัทครับ ?
แล้วสมมุติว่า ถ้าเราคัดแล้วเราคิดว่าเมืองไทย ไม่มีบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนอยู่เลย ... ถึงมีก็แพงเกินไปแล้ว ... แต่เราต้องการลงทุน .. เพื่อนๆพี่ๆว่า เรายังลงทุนโดยมองที่ปัจจุบัน ไม่ทำนายอนาคตได้อีกหรือไม่ครับ ?
สรุปคำถามคือ เราสามารถลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยไม่มองอนาคตได้หรือไม่ครับ
ขอความเห็นครับ ..
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:14 pm
โดย harry
ผมใช้ประสบการณ์ และดูจากสังคมรอบตัว ว่าบริษัทธุรกิจทำการค้าแล้วผู้คนใช้สินค้านั้นเยอะมากมาย
และก็ดูงบการเงินย้อนหลังหลายๆปี จากของลุงครรชิต
ดร.นิเวศน์ เคยบอกว่า ยังไม่มีบริษัทในไทย ที่แข่งขันยั่งยืนได้ตามหลักปู่บัฟจริงๆ แต่ก็หาที่ใกล้เคียงมากๆได้ และบริษัทที่ดีน่าลงทุนยาวได้
และผมก็พอมองเห็น แต่เงินยังน้อยเลยซื้อได้ลำบาก
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:17 pm
โดย คัดท้าย
harry เขียน:ผมใช้ประสบการณ์ และดูจากสังคมรอบตัว ว่าบริษัทธุรกิจทำการค้าแล้วผู้คนใช้สินค้านั้นเยอะมากมาย
และก็ดูงบการเงินย้อนหลังหลายๆปี จากของลุงครรชิต
ดร.นิเวศน์ เคยบอกว่า ยังไม่มีบริษัทในไทย ที่แข่งขันยั่งยืนได้ตามหลักปู่บัฟจริงๆ แต่ก็หาที่ใกล้เคียงมากๆได้ และบริษัทที่ดีน่าลงทุนยาวได้
และผมก็พอมองเห็น แต่เงินยังน้อยเลยซื้อได้ลำบาก
บางทีผมมานั่งย้อนดูประวัติของบริษัทที่งบในอดีตดี แต่ปรากฎว่า ผลมันไม่ได้การันตีเลยครับ ว่างบปีต่อไปมันจะออกมาดี ... เห็นทำช้ำใจไปหลายตัวเหมือนกัน ..
ผมเลยมานั่งคิดว่า จริงๆ เราต้องพยายามทำนายอนาคตโดยหาข้อมูลต่างๆให้มากที่สุดหรือไม่นะ สำหรับบริษัทที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันแบบยั่งยืน
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:23 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
บางทีผมมานั่งย้อนดูประวัติของบริษัทที่งบในอดีตดี แต่ปรากฎว่า ผลมันไม่ได้การันตีเลยครับ ว่างบปีต่อไปมันจะออกมาดี ... เห็นทำช้ำใจไปหลายตัวเหมือนกัน ..
ผมเลยมานั่งคิดว่า จริงๆ เราต้องพยายามทำนายอนาคตโดยหาข้อมูลต่างๆให้มากที่สุดหรือไม่นะ สำหรับบริษัทที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันแบบยั่งยืน
ไม่เห็นด้วยครับ ส่วนใหญ่บริษัทที่เราเห็นว่าดี ก็ดีแล้ว แต่ราคาที่เราซื้อครับ ถ้าเราไปซื้อตอน PE สูงๆ สุดท้าย เมื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาเล็กน้อยเราก็เจ็บตัวครับ
วอเรนถึงบอกว่า เขาทำกำไรจากข่าวร้ายครับ
อย่างกรณี metco นี่ถ้าลงมา มากๆ มากๆ พี่ซื้อนะ ประวัติดีอย่างนี้
แต่ต้องลงมามากๆจริงๆ ซึ่งใครจะทนได้ เพราะเวลาหุ้นตัวไหนลง มันลงมาก และลงนาน นานจนเราลืมไปเลย กลับมาดูอีกที อ้าว วิ่งไปแล้ว
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:26 pm
โดย คัดท้าย
Jeng เขียน:โค้ด: เลือกทั้งหมด
บางทีผมมานั่งย้อนดูประวัติของบริษัทที่งบในอดีตดี แต่ปรากฎว่า ผลมันไม่ได้การันตีเลยครับ ว่างบปีต่อไปมันจะออกมาดี ... เห็นทำช้ำใจไปหลายตัวเหมือนกัน ..
ผมเลยมานั่งคิดว่า จริงๆ เราต้องพยายามทำนายอนาคตโดยหาข้อมูลต่างๆให้มากที่สุดหรือไม่นะ สำหรับบริษัทที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันแบบยั่งยืน
ไม่เห็นด้วยครับ ส่วนใหญ่บริษัทที่เราเห็นว่าดี ก็ดีแล้ว แต่ราคาที่เราซื้อครับ ถ้าเราไปซื้อตอน PE สูงๆ สุดท้าย เมื่อมีอะไรผิดพลาดขึ้นมาเล็กน้อยเราก็เจ็บตัวครับ
วอเรนถึงบอกว่า เขาทำกำไรจากข่าวร้ายครับ
อย่างกรณี metco นี่ถ้าลงมา มากๆ มากๆ พี่ซื้อนะ ประวัติดีอย่างนี้
แต่ต้องลงมามากๆจริงๆ ซึ่งใครจะทนได้ เพราะเวลาหุ้นตัวไหนลง มันลงมาก และลงนาน นานจนเราลืมไปเลย กลับมาดูอีกที อ้าว วิ่งไปแล้ว
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับพี่ ว่าจริงๆแล้วมันตกนานแค่ไหน มันกระทบกับพื้นฐานจริงๆหรือไม่ ... นี่เป็นสิ่งที่ผมเคยถามนะ ในหัวข้อก่อน ว่าเพื่อนๆ ให้โอกาสหุ้นตัวเองในการแก้ตัวกี่ไตรมาศ
http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... php?t=8598
เรื่องนี้ผมอยากรู้จริงๆครับ คือ ผมสงสัย ว่าเราจะมั่นใจได้ยังไงว่า มันผลประกอบการแย่แค่แป๊บเดียว ... ไม่ได้แย่ระยะยาว หรือยาวมาก .. พี่มีวิธีดูยังไงครับ ?
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:28 pm
โดย Jeng
แล้วถ้าเราเจอหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งดีจริงๆ
สมมุติ ราคาปัจจุบัน 10 บาท และอีก 5 ปี ราคา 20 บาท
ถ้าเราซื้อ 10 บาท ซื้อ 11 บาท ซื้อ 12 บาท ซื้อ 9 บาท ซื้อ 8 บาท
จริงแล้วเมื่อถือผ่านไป 5 ปี เราได้กำไรทุกราคา
ปัญหาคือ เราซื้อ 10 แล้วมันลงไป 8 เราคัดลอส
ซึ่งนี่แหละถ้าเล่นแนว VI จริงๆไม่ต้องคัด แต่ ต้องซื้อที่ราคาต่ำจริงๆ โดยดูจาก PE เช่น 4 - 6 หรือดูจากกระแสเงินสด หรือดูจากกิจการ หรืออื่น แต่ต้องต่ำครับ
เมื่อซื้อตอนต่ำแล้ว เมื่อราคามันลงต่ำไปอีก ประเภทคิดว่าถูกแล้ว มีถูกกว่า ต้องกระโดดดีใจ เพราะเราหวังกอดหุ้นตัวนี้ไว้ในระยะยาว
สมมุติว่า PTT ราคา IPO 35 แล้วปัจจุบัน 40 บาท ตลอด ไม่เคยไปไหนเลย ทั้งทั้งที่กำไร 40 บาท ( ไม่แน่ใจ )
เราจะเสียใจที่ไม่ได้ capital gain หรือว่าเราจะดีใจ ที่มีโอกาสได้ซื้อเพิ่มครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:33 pm
โดย คัดท้าย
Jeng เขียน:แล้วถ้าเราเจอหุ้นตัวหนึ่ง ซึ่งดีจริงๆ
สมมุติ ราคาปัจจุบัน 10 บาท และอีก 5 ปี ราคา 20 บาท
ถ้าเราซื้อ 10 บาท ซื้อ 11 บาท ซื้อ 12 บาท ซื้อ 9 บาท ซื้อ 8 บาท
จริงแล้วเมื่อถือผ่านไป 5 ปี เราได้กำไรทุกราคา
ปัญหาคือ เราซื้อ 10 แล้วมันลงไป 8 เราคัดลอส
ซึ่งนี่แหละถ้าเล่นแนว VI จริงๆไม่ต้องคัด แต่ ต้องซื้อที่ราคาต่ำจริงๆ โดยดูจาก PE เช่น 4 - 6 หรือดูจากกระแสเงินสด หรือดูจากกิจการ หรืออื่น แต่ต้องต่ำครับ
เมื่อซื้อตอนต่ำแล้ว เมื่อราคามันลงต่ำไปอีก ประเภทคิดว่าถูกแล้ว มีถูกกว่า ต้องกระโดดดีใจ เพราะเราหวังกอดหุ้นตัวนี้ไว้ในระยะยาว
สมมุติว่า PTT ราคา IPO 35 แล้วปัจจุบัน 40 บาท ตลอด ไม่เคยไปไหนเลย ทั้งทั้งที่กำไร 40 บาท ( ไม่แน่ใจ )
เราจะเสียใจที่ไม่ได้ capital gain หรือว่าเราจะดีใจ ที่มีโอกาสได้ซื้อเพิ่มครับ
คืองี้ครับ หุ้นบ้างตัวผมเคยดูนะ P/E มันต่ำ อย่าง THAI เป็นต้น ผมว่า P/E มันต่ำนะ แต่ไอ้เจ้า E เนี่ย มันไม่ได้คงตัวนี่ครับ ผมจำได้ก่อนหน้านี้ ผมเห็น THAI มันถูกมากนะ จาก P/E และ EV/EBITDA แต่ พอน้ำมันแพง ตอนนี้ P/E ของ THAI วิ่งไป 8 ก่าๆ แล้ว ... ทำให้ผมมานึกดูว่า P/E วันนี้มันถูก มันคือ E วันนี้ ไม่ใช่ E วันข้างหน้า ถ้ากิจการแย่ลงไปเรื่อยๆ P/E มันก็จะสูงขึ้นไปเรื่อย
ดังนั้นผมเลยคิดว่า กิจการที่เราจะซื้อที่ P/E ต่ำอย่างน้อย มันต้องไม่ใช่กิจการที่ทรุดเรื่อยๆนะครับ พี่คิดว่าไงครับ ..
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:34 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับพี่ ว่าจริงๆแล้วมันตกนานแค่ไหน มันกระทบกับพื้นฐานจริงๆหรือไม่ ... นี่เป็นสิ่งที่ผมเคยถามนะ ในหัวข้อก่อน ว่าเพื่อนๆ ให้โอกาสหุ้นตัวเองในการแก้ตัวกี่ไตรมาศ
เรื่องนี้ผมอยากรู้จริงๆครับ คือ ผมสงสัย ว่าเราจะมั่นใจได้ยังไงว่า มันผลประกอบการแย่แค่แป๊บเดียว ... ไม่ได้แย่ระยะยาว หรือยาวมาก .. พี่มีวิธีดูยังไงครับ ?
ตรงนี้ใน VI ก็มีพูดคุยกันบ่อย และวอเรนเขาก็พยายามให้รู้ตรงนี้ให้ได้ว่า ปัญหานั้นๆเป็นปัญหาที่แก้ไขได้หรือไม่ หรือว่าเป็นปัญหาในระดับโครงสร้างพื้นฐานของบริษัท
ตรงนี้ต้องตรวจสอบครับ หลายๆบริษัทถ้าเราโทรไปเขาก็ยินดีอธิบายให้เราฟัง เนื่องจาก นักลงทุนที่ขยันขันแข็ง ถึงขนาดโทรไปถามบริษัท มีน้อยมาก
และถามว่าจะนานแค่ไหนอันนี้ตอบไม่ได้ ขึ้นอยู่กับ Mr.Market ครับ
เห็นตอนอิออน ลงมาจาก 250 สมัยโน้น ลงมาเรื่อย ๆ ลงมา จนกระทั่ง เหลือ 92
ก็เป็นปีครับ
ถ้าโพสหุ้นตัวไหนที่ลงมามากๆ และลงมานานๆ แล้วไม่มีคนไหนสนใจเลย ตอนนั้นก็น่าจะใช่แล้วครับ เพราะหุ้นตัวนั้นทำให้รายย่อย ย่อยยับไปหมดแล้ว และทุกคนที่เคยเจ็บตัว ก็ชอบจำครับ
ทำให้เวลาโพสถาม ทุกคนก็เมินหน้าหนี ยังงี้ ถ้าลงมาเยอะๆ โดยดูจากพื้นฐานนะ อย่าดูราคาที่ลงมาเยอะ เช่น ลงมาจาก 300 เหลือ 100 แต่ก็อาจจะแพง ถ้า PE ยังอยู่ ที่ 20 แต่อีกตัว ลงมาจาก 200 มาเหลือ 100 แล้ว PE เหลือ 8 แต่เนื่องจากกำไรลดลงอย่างมาก ที่เป็นปัญหาที่แก้ได้ ถ้ากำไรกลับไปเหมือนปีที่ผ่านมา PE จะเป็น 4 แบบนี้ก็น่าสนใจนะ เป็นต้น
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:35 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ดังนั้นผมเลยคิดว่า กิจการที่เราจะซื้อที่ P/E ต่ำอย่างน้อย มันต้องไม่ใช่กิจการที่ทรุดเรื่อยๆนะครับ พี่คิดว่าไงครับ ..
ข้อนี้ถ้าเล่นยาวจริงๆ E ต้องเพิ่มขึ้น หุ้นตัวไหน E ต่ำลงเรื่อยๆ อย่าไปยุ่งเลย ถ้าคิดแบบ VI
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:38 pm
โดย Jeng
หลัก VI จริงๆง่ายนะ และน่าเบื่อ มันง่ายไป ไม่ท้าทาย กำไรก็ไม่ท้าทาย แต่เหมือนเต่าชนะกระต่าย
ดูพอร์ทพี่ครรชิตซิ ก็โตวันโตคืน
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:42 pm
โดย คัดท้าย
Jeng เขียน:โค้ด: เลือกทั้งหมด
ดังนั้นผมเลยคิดว่า กิจการที่เราจะซื้อที่ P/E ต่ำอย่างน้อย มันต้องไม่ใช่กิจการที่ทรุดเรื่อยๆนะครับ พี่คิดว่าไงครับ ..
ข้อนี้ถ้าเล่นยาวจริงๆ E ต้องเพิ่มขึ้น หุ้นตัวไหน E ต่ำลงเรื่อยๆ อย่าไปยุ่งเลย ถ้าคิดแบบ VI
ปัญหา คือ ผมจะรู้ได้ไงครับ ว่า E จะไม่ต่ำลงเรื่อยๆ เรื่องนี้ผมว่าต้องไปวิเคราะห์ในเชิงคุณภาพสำคัญมากๆเลยครับ
ผมมานั่งนึก อย่าง SE-ED เนี่ย ผมก็ว่ามันดีนะครับ ผมซื้อหนังสือ SE-ED ประจำเป็นแฟนพันธ์แท้ แต่เห็น E ของ SE-ED ร่วงลงแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะช้อน SE-ED ดีหรือไม่ นอกจากนี้ก็มี KYE กับ OGC เป็นตัวอย่าง และที่แสบสุด คือ CEI
หรือ อย่าง METCO กรณี METCO นี่พี่เจ๋งมองยังไงมั่งครับ พี่คิดว่าตรงจุดซักเท่าไหร่ น่าจะเป็นราคาน่าสนใจ สำหรับกรณีนี้ครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:46 pm
โดย Jeng
พี่คิดว่า เวลามีข่าวร้าย ปั๊ป อย่าไปยุ่งกะหุ้นตัวนั้นเลย ทิ้งไว้ให้นิ่งๆ แล้วติดตามดูว่ามีข่าวร้ายเข้ามาโหมเพิ่มอีกมั๊ย
อะไรนะที่คัดท้ายชอบพูด ทิ้งไว้ให้สะเด็ดน้ำหรือเปล่า
เพราะการเข้าไปรับมีดมันอันตราย
พอเราซื้อในจุดที่เราคิดว่าเราพอใจละ ถ้ามันลงต่อ เราก็ต้องนิ่งๆ ใจเย็นๆ ไม่ต้องดูราคาเลยก็ได้ เพราะโอกาสซื้อเพิ่มกำลังเข้ามา
อย่างกรณี METCO บางคนอาจจะเคยเสียใจ ที่ไม่ได้ซื้อ แล้วมันขึ้นไปแล้ว พอราคามันลงมา ตอนนี้ อาจจะอืม ลังเล ที่จะซื้อเพราะกลัวมันจะลงไปอีก
คือ ขอให้วิเคราะห์ ดูจากภาพรวม ที่เราคิด เหตุการณ์อะไรจริงๆที่ทำให้กำไรลดลง
แล้วคิดต่อว่า เหตุการณ์นั้นๆ เราคิดว่ามีทางแก้ไขได้หรือไม่
แล้วถ้าแก้ไม่ได้ ราคาที่ควรจะเป็นอยู่ตรงไหน
แล้วก็โทรไปถาม METCO ซักหน่อย
แล้วก็รอ ราคาในใจที่เราคิดว่า ถ้าเป็นราคานี้ เราเอา ซื้อแล้ว ลง ไม่เป็นไร ต้องทำใจหน่อยนะ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:49 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมมานั่งนึก อย่าง SE-ED เนี่ย ผมก็ว่ามันดีนะครับ ผมซื้อหนังสือ SE-ED ประจำเป็นแฟนพันธ์แท้ แต่เห็น E ของ SE-ED ร่วงลงแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะช้อน SE-ED ดีหรือไม่
คัดท้ายตอบหน่อยซิ E se-ed ล่วงเพราะอะไร
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:50 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ขออนุญาตเรียนถามพี่Jengครับว่าในพอร์ตที่ลงทุนจริงๆนั้นไม่ทราบว่าพี่Jengใช้วิธี buy and hold หรือเปล่าครับ
ปีแรก buy and wait to sell at insianly hight price อิอิ
ปีที่สอง เก็งกำไร
ปีนี้พี่ไม่ได้เล่นนะ โม้อย่างเดียว ( ดัดนิสัยเกร็งกำไร )
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:54 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
buy and wait to sell at insianly hight price
เขียนแบบนี้ถูกหลักไวยากรณ์หรือเปล่าครับ อยากรู้แฮ่มๆ กำลังจะไปลุยเมกา
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 9:54 pm
โดย คัดท้าย
Jeng เขียน:โค้ด: เลือกทั้งหมด
ผมมานั่งนึก อย่าง SE-ED เนี่ย ผมก็ว่ามันดีนะครับ ผมซื้อหนังสือ SE-ED ประจำเป็นแฟนพันธ์แท้ แต่เห็น E ของ SE-ED ร่วงลงแบบนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าจะช้อน SE-ED ดีหรือไม่
คัดท้ายตอบหน่อยซิ E se-ed ล่วงเพราะอะไร
จริงๆกรณี SE-ED เนี่ย ผมไม่ได้ตามนะครับ แต่ ผมมองคร่าวๆว่าคนมองมันเป็นหุ้นโตเร็วเลยให้ P/E มันสูง พอมันไม่เป็นดังคาด E ลดลง ก็เลยเป๋ ผมเองก็สอบถามว่าร่วงเพราะอะไร เค้าก็ว่า เพราะการขยายสาขาที่มาก และสาขาใหม่ยังไม่ทำเงิน แต่ต้องการชิงพื้นที่ เพื่อกันคู่แข่ง ... ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ เพราะผมไม่สามารถทำใจเชื่อเหตุผลของผู้บริหารเท่าไหร่นักเหมือนกันครับ
ตอนนั้นผมเห็นหลายท่านชอบกัน แต่ผมไม่ซื้อเพราะผมเห็น P/BV มันสูง แต่ ROE มันไม่ได้สูงมากขนาดนั้น ผมเลยไม่ซื้อครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 10:07 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
จริงๆกรณี SE-ED เนี่ย ผมไม่ได้ตามนะครับ แต่ ผมมองคร่าวๆว่าคนมองมันเป็นหุ้นโตเร็วเลยให้ P/E มันสูง พอมันไม่เป็นดังคาด E ลดลง ก็เลยเป๋ ผมเองก็สอบถามว่าร่วงเพราะอะไร เค้าก็ว่า เพราะการขยายสาขาที่มาก และสาขาใหม่ยังไม่ทำเงิน แต่ต้องการชิงพื้นที่ เพื่อกันคู่แข่ง ... ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นความจริงหรือไม่ เพราะผมไม่สามารถทำใจเชื่อเหตุผลของผู้บริหารเท่าไหร่นักเหมือนกันครับ
ทุกกิจการก็เป็นแบบนี้ครับ ถ้าขยายงานเร็วเกินไป รายรับได้ไม่ตามเป้า รายจ่ายมาก เพราะขยายไปมาก
แบบนี้เป็นโอกาสในการซื้อนะครับ
ดูดีๆ ติดตามดีๆ เพราะในการแก้ปัญหาง่ายมากอยู่แล้ว สำหรับ se-ed ในที่สุด สาขาที่ไม่กำไร ก็ปิดทิ้งไป เหลือแต่สาขาที่มีกำไร ตัวเลขต่างๆก็จะเริ่มสวยขึ้น
แต่ถ้าทุกคนมองแย่ ก็ดีครับ สำหรับพี่ ตั้งแต่ติดตาม se-ed มา ยังไม่เคยมองว่าดีเลย และยังไม่เคยซื้อเลย
พอมาตอนนี้เห็น หุ้นใหญ่ขาย + กำไรลด อิอิ น่าติดตามครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 10:13 pm
โดย Jeng
ไม่แน่ใจ ว่า buy and hold ถือเป็นหลักการที่ต้องยึดหรือควรยึด ถ้ายึดหลักในการลงทุนแบบ VI
เนื่องจากตลาดเมืองไทย มีการแกว่งตัวสูง มาก เมื่อเทียบกับเมกา
และวอเรนก็บอกให้ขายเมื่อราคามันสูงเกินไป insainly hight price
พี่ซื้ออิออน แล้วขายไปที่ 157 จำได้ ถ้าถือมาอีก ปีกว่า ตอนนี้ราคายังไม่เท่าตอนนั้นเลยนะ
คือมันมีปัจจัยใหม่เข้ามาคือ มีคู่แข่งหน้าใหม่เข้ามาเยอะ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 10:19 pm
โดย Stock Broker
ดูทั้ง 2 อย่างครับ
คือ ดูปัจจุบัน (รวมทั้งอดีต) เพื่อสร้างความเข้าใจแนวทางธุรกิจ โครงสร้างธุรกิจ วงจรธุรกิจ ==> สร้าง Knowledge
แต่เน้นมองอนาคต โดยเอาข้อมูลความรู้ที่เราศึกษามาวิเคราะห์แนวโน้มข้างหน้า ==> เกิด vision
การซื้อหุ้นเป็นการซื้ออนาคตครับ
หุ้นที่กำไรน้อยหรือขาดทุนอยู่ แต่ถูกคาดหวังว่าจะมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต ก็จะซื้อขายกันที่ราคาแพงได้
หุ้นที่กำไรดีมากๆ แต่ถูกคาดหวังว่าจะมีแนวโน้มถดถอยต่อไป ก็สามารถที่จะถูกซื้อขายในราคาต่ำได้
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 10:25 pm
โดย Hammock
กระทู้นี้ดีจังครับ อ่านแล้วได้ความรู้ดี
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 11:06 pm
โดย มือเก่าหัดขับ
ผมเอง ก็เคยพูดบ่อยๆ ว่าผมซื้อธุรกิจที่ผมว่าแข่งขันได้อย่างยั่งยืน
เพิ่งจะมานึกได้ ก็กระทู้นี้เอง ว่า
ทุกอย่างล้วนไม่จีรัง
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และก็ดับไป ดังคำสั่งสอนของพระพุทธองค์
ดังนั้นแล้ว บริษัทที่จะอยู่ตลอดไป แข่งขันได้ตลอดไปน่ะ ไม่มีหรอกครับ ไม่ต้องหา
และแค่ "ไกล้เคียง" ก็พอแล้วครับ สำหรับผม...
แล้วก็ ผมดูอดีต 70% อนาคต 30%
เพราะอดีตนั้นเปลี่ยนไม่ได้ มีเหตุ มีผล ให้เราได้พิจารณาได้ชัดเจนมากกว่าการที่ไป
นั่งเก็งอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร และเหตุ ผล ที่ได้เคยเกิดขึ้นแล้ว จะให้อะไรกับเรา
ได้มากทีเดียว
แต่อนาคตก็ย่อมสำคัญ อย่างเช่น ถ้าวันหนึ่ง มีคนบอกว่ากินโอเลี้ยงแล้วจะเป็นมะเร็ง
และพิสูจน์ได้อย่างแน่นอน ผมก็คงไม่ซื้อหุ้นโอเลี้ยงแน่ๆ ( ยกตัวอย่างนะครับ ทุกวัน
นี้ผมก็ยังชอบดื่มโอเลี้ยงอยู่ ฮ่าๆๆ )
เข้ามาบ่นเฉยๆ
แต่หลายๆ ท่าน จะต้องเข้าใจแน่ๆ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 19, 2005 11:15 pm
โดย วัวแดง
ผมไม่เคยคิดเลยนะครับ ว่าผมจะทายอนาคตถูก100%
ถูกบ้างผิดบ้างเป็นเรื่องธรรมดา(ถ้าผิดหรือถูกอย่างเดียวถือว่าแปลก)
ก่อนซื้อหุ้นผมดูอดีตครับ ถึงแม้อดีตไม่ใช่เครื่องยืนยันว่าอนาคตต้องดี แต่อย่างน้อยมันก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ต่างจากอนาคตที่ออกได้หลายหน้า
หุ้นหลายตัวในอดีตดูดี แต่ตอนนี้แย่ครับอย่างเช่น cei metcoและ......
ซึ่งผมมองเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนนะครับ เพราะตอนผลประกอบการณ์ดีคงไม่ได้ราคานี้
แต่คุณต้องคิดดูว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับบริษัทนั้น เป็นปัญหาชั่วคราวหรือถาวร จึงค่อยเข้าไปลงทุน เพราะโอกาสที่จะได้ซื้อนั้นไม่ได้มาง่ายๆเสมอไป
ส่วนใครที่คิดจะใช้วิธีวอเรน แล้วไม่นำมาดัดแปลง อาจจะไม่ได้ซื้อหุ้นในไทยเลยก็ได้
ผมจึงเป็นแค่ลูกผสม ที่รวมเอาหลายๆความคิด และหลายวิธีการ เข้ามารวมเป็นหนึ่งเดียว โดยใช้ชื่อว่า วัวแดง
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 8:16 am
โดย คัดท้าย
อืม จริงๆตั้งกระทู้นี้เพราะผมว่า เราน่าจะหาเรื่องคุยกันเรื่อง เทรน ของธุรกิจ วงรอบธุรกิจต่างๆ ราคาวิตถุดิบด้วย .. กันให้เยอะๆนะครับ เพราะผมว่าใน TVI มีคนหลายสาขาอาชีพ น่าจะรู้ในหลายๆมุม
เพราะผมมองว่า ถ้าท่านไม่รู้สภาพธุรกิจ จะรู้ได้ไง ว่า E กำลังไหลไปทาง + หรือ - ... สั้นหรือยาว
คุณ hot นี่เป็นคนที่พยายามโพสต์เรื่องนี้บ่อย แต่แกชอบลบ .. ไม่รู้ทำไม สงสัยเขิน
... แต่ผมว่ามีประโยชน์มากนะครับ
เพราะถ้าเราดูแต่ P/E /P/BV ย้อนหลัง .. ซึ่งก็ดีครับ แต่ผมว่ายังไม่พอ .. ต้องดูคุณภาพของกลุ่มธุรกิจ และตัวธุรกิจนั้นๆเองด้วย คงจะดี ถ้ามีหลายๆท่านช่วยแชร์ หรือช่วยโพสต์ข้อมูลเรื่องพวกนี้ครับ
เช่น METCO ตก ถ้ามีคนในกลุ่มธุรกิจ ที่พอรู้เหตุผล ก็อาจจะให้ข้อมูล และกำกับไว้ด้วยว่านี่คือ เหตุผลส่วนตัว (กลต จะได้ว่าไม่ได้) และ ท่านที่ถือ METCO จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร ควรขาย หรือ ควรถือ และ ท้ายสุด ห้ามด่านะครับ ถ้าข้อมูลที่โพส มันคือให้ขาย ... อย่างนี้คิดว่าดีมั้ยครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 8:35 am
โดย ForrestGump
คัดท้าย เขียน:
เช่น METCO ตก ถ้ามีคนในกลุ่มธุรกิจ ที่พอรู้เหตุผล ก็อาจจะให้ข้อมูล และกำกับไว้ด้วยว่านี่คือ เหตุผลส่วนตัว (กลต จะได้ว่าไม่ได้) และ ท่านที่ถือ METCO จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไร ควรขาย หรือ ควรถือ และ ท้ายสุด ห้ามด่านะครับ ถ้าข้อมูลที่โพส มันคือให้ขาย ... อย่างนี้คิดว่าดีมั้ยครับ
ดีมากครับ
เอ่อ....... แล้วตอนนี้ ควรขายหรือยังครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 11:23 am
โดย HI.ผมเอง
ผมดูอดีตเป็นหลักครับ
แต่จะใช้ค่าเฉลี่ยของอดีต ทั้งEและPเพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวน
ประมาณสี่ห้าปีหรือมากกว่าน้อยกว่าเล็กน้อยโดยดูย้อนหลังหลายๆปีว่ากำไรในอดีตเป็นระบบมั๊ย เช่นเป็นวัฐจักร ห้าปีบ้างเจ็ดปีบ้าง บางบริษัทก็ไม่เป็นระบบเลย อย่างงี้ผมก็ขอปล่อยผ่าน
เหมือนกับการลงทุนกับเพื่อนครับ
ถ้าในอดีตที่คบกันเพื่อนประวัติดี แต่ตอนนี้อาจจะขาดทุนบ้างแล้วขอให้เรามาร่วมหุ้น
ก็น่าสน
ไม่ดูอดีต ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนนิสัยใจคออย่างไร ร้านเค้าทำกำไรมากหรือน้อย นิสัยชอบกู้หนี้ยืมสินแล้วเบี้ยวหรือไม่ หรือ กู้จนเป็นนิสัยหรือเปล่า
แล้วลงทุนกับเค้าตอนที่คนอื่นเมินหน้าหนี
เหตุผลที่ไม่ดูอนาคตเพราะ คาดเดายาก ยิ่งDCFยิ่งหลอกตัวเองจากค่าต่างๆที่ใส่ไปด้วยตัวเอง
ที่ไม่ดูอนาคตเพราะ คิดว่าราคาตอนเข้าร่วมลงทุนกับเพื่อนมี ส่วนเผื่อความปลอดภัยสูงพอ
ราคาหุ้นในอนาคตเป็นอย่างไรก็ได้ พอใจตรงไหนหรือคิดว่าราคาที่คนมาขอซื้อต่อ
สูงเร็วเกินไป
หรือสูงกว่ามูลค่ามัน
หรือสูงจนเราพอใจก็ขายให้
หากดูปัจจุบันหรืออนาคตอย่างเดียวโดยไม่ดูอดีต
ผมเองรู้สึกว่าเหมือนลงทุนกับคนที่เราไม่รู้จัก แต่เราวาดฝันว่าเค้าจะมีอนาคตดี
รู้สึกเสี่ยงมากเกินไปครับ
ผมก็มานั่งนึกว่า บริษัทในเมืองไทย มีบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่ ? ถ้ามี มีกี่บริษัทครับ ?
เท่าที่เคยมีเวลาลองตรวจสอบ มีไม่เกินห้าครับ
แล้วก็ราคาโอเวอร์มากๆแล้ว
แล้วสมมุติว่า ถ้าเราคัดแล้วเราคิดว่าเมืองไทย ไม่มีบริษัทที่มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนอยู่เลย ... ถึงมีก็แพงเกินไปแล้ว ... แต่เราต้องการลงทุน .. เพื่อนๆพี่ๆว่า เรายังลงทุนโดยมองที่ปัจจุบัน ไม่ทำนายอนาคตได้อีกหรือไม่ครับ ?
ถ้าอดีตดี ก็รอได้ครับ ไม่รีบ:D
สรุปคำถามคือ เราสามารถลงทุนในบริษัทที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืน โดยไม่มองอนาคตได้หรือไม่ครับ
ทำอยู่เรื่อยๆครับ เพราะไม่ได้คิดจะลงทุนกับเพื่อนจนเพื่อนหรือเราตายไปข้างนึงหรอกครับแค่หนึ่งถึงสามปีก็น่าจะพอแล้วครับสำหรับผม
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 12:12 pm
โดย Stock Broker
คัดท้าย เขียน:อืม จริงๆตั้งกระทู้นี้เพราะผมว่า เราน่าจะหาเรื่องคุยกันเรื่อง เทรน ของธุรกิจ วงรอบธุรกิจต่างๆ ราคาวิตถุดิบด้วย .. กันให้เยอะๆนะครับ เพราะผมว่าใน TVI มีคนหลายสาขาอาชีพ น่าจะรู้ในหลายๆมุม
เพราะผมมองว่า ถ้าท่านไม่รู้สภาพธุรกิจ จะรู้ได้ไง ว่า E กำลังไหลไปทาง + หรือ - ... สั้นหรือยาว
ใช่ๆ คนรู้จักของผมบางคนทำกิจการโรงงานพลาสติกแปรรูป และก็เล่นหุ้นอยู่ด้วย ก็มัวแต่บ่นว่าค้าขายไม่ดี ต้นทุนเม็ดพลาสติกแพงขึ้นตั้งเยอะ แต่ดันเล่นแต่หุ้นไฟแนนซ์ แถมขาดทุนอีกต่างหาก อันนี้เค้าเรียก เส้นผมบังภูเขา
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 12:20 pm
โดย คัดท้าย
Financial Engineer เขียน:
ใช่ๆ คนรู้จักของผมบางคนทำกิจการโรงงานพลาสติกแปรรูป และก็เล่นหุ้นอยู่ด้วย ก็มัวแต่บ่นว่าค้าขายไม่ดี ต้นทุนเม็ดพลาสติกแพงขึ้นตั้งเยอะ แต่ดันเล่นแต่หุ้นไฟแนนซ์ แถมขาดทุนอีกต่างหาก อันนี้เค้าเรียก เส้นผมบังภูเขา
อ่านหนังสือ ปีเตอร์ ลินซ์ แล้วโดนใจอยู่ข้อนึง ... เค้าว่าหมอมักชอบซื้อหุ้นน้ำมัน ... วิศวะกรบริษัทน้ำมันมักซื้อหุ้นบริษัทการเงิน ... นักการเงินชอบซื้อหุ้นบริษัทยา ...
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 12:25 pm
โดย sirivajj
ผมเพิ่งเข้ามาอ่านตอนหลัง
แต่ไม่แน่ใจว่า คุณคัดท้าย ตรวจดูแล้วไม่พบเลยหรือครับ
ว่า มี บริษัท ที่ไม่สามารถรักษาผลการดำเนินงานและกำไรไว้ได้
(ไม่ได้พูดถึงเรื่องราคา กับการเติบโตนะครับ)
ขออนุญาติ เดาเอาเองว่า น่าจะมีนะครับ
บ.ประเภทที่ รักษาผลการดำเนินงานไว้ได้แบบโตในบางช่วง
กับในบางช่วงไม่โต แต่ก็ไม่ติดลบในด้านกำไร
ไม่ทราบว่า ข้อมูลของพี่ครรชิต จะมีมาสนับสนุน ที่ผมเดาเอาไว้
ได้หรือเปล่า
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 12:38 pm
โดย คัดท้าย
sirivajj เขียน:ผมเพิ่งเข้ามาอ่านตอนหลัง
แต่ไม่แน่ใจว่า คุณคัดท้าย ตรวจดูแล้วไม่พบเลยหรือครับ
ว่า มี บริษัท ที่ไม่สามารถรักษาผลการดำเนินงานและกำไรไว้ได้
(ไม่ได้พูดถึงเรื่องราคา กับการเติบโตนะครับ)
ขออนุญาติ เดาเอาเองว่า น่าจะมีนะครับ
บ.ประเภทที่ รักษาผลการดำเนินงานไว้ได้แบบโตในบางช่วง
กับในบางช่วงไม่โต แต่ก็ไม่ติดลบในด้านกำไร
ไม่ทราบว่า ข้อมูลของพี่ครรชิต จะมีมาสนับสนุน ที่ผมเดาเอาไว้
ได้หรือเปล่า
ไม่ได้หมายความอย่างนั้นครับคุณ sirivajj ...
ผมหมายความว่าบริษัทในเมืองไทย มีความสามารถในการแข่งขันแบบยั่งยืนกี่บริษัท แล้วราคาตอนนี้แพงไปหรือไม่ ?
ตรงข้อนี้ ผมมองว่าบริษัทเมืองไทยมีบริษัทพวกนี้อยู่น้อย หรือบางท่านว่าไม่มีเลย ไอ้ที่พอจะเข้ากลุ่มได้ ราคาก็ไม่ถูก ..
ทีนี้ ผมเลยถามต่อไปว่า เมื่อเราจำเป็นต้องเลือกบริษัท ที่ไม่ได้มีความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนได้ ... นั่นแปลว่า บริษัท ในแบบนี้ อนาคตมีความไม่แน่นอนสูงครับ ... ดังนั้น เราจะเลือกได้อย่างไรครับ ว่าบริษัทใดกำลังอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตดี อาจมีสะดุดบ้าง และ บริษัทได้ สะดุดจนหกล้มปากแตก .. ?
การที่เอาข้อมูลพี่ครรชิต มาดู ผมว่าถ้าทำแค่แบบนั้น แล้วซื้อ .. ผมมองว่า ถ้างั้น เอาข้อมูลพี่ครรชิต เข้าโปรแกรม แล้วให้โปรแกรมเลือกก็ได้ครับ ปกติ นักเก็งกำไร ที่ใช้เทคนิค ก็ใช้ Meta Stock ในการกรองหุ้นที่มี Pattern ตามที่ต้องการอยู่แล้วซึ่งใช้เวลาไม่กี่วินาทีครับ
ที่ผมถามคือ E มันไม่ได้แน่นอน ถ้าบอกว่า E ดีมาเรื่อยๆ แล้ว E ก็จะดีต่อไปเรื่อยๆ ... CEI คงเป็นหนึ่งตัวอย่างครับ ..
ผมเห็นบริษัททั่วไป พอมีผลกระทบจากปัจจัยภายนอกก็เป๋ทั้งนั้น จะมีสักกี้บริษัท ที่สุดยอดได้เหมือน TMD ครับ ที่วัตถุดิบแพง ก็ยังทำกำไรเพิ่มได้?
TCB บริษัทลูกของ TR ทำได้หรือ ? METCO ทำได้หรือ ?
แต่นั่นอาจเป็นการตกช่วงสั้นๆ ก็ได้ แต่คำถามของผมคือ เราต้องดูลึกๆยังไงบ้าง เพราะไม่ใช่ว่าการตกทุกครั้งจะเป็นการตกช่วงสั้นๆครับ
ปกติ ชาว TVI ซื้อหุ้น ดูปัจจุบัน หรือ ดูอนาคตครับ ?
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ก.พ. 20, 2005 1:19 pm
โดย สามัญชน
:lol: :lol: :lol: :lol:
คำถามโดนใจอีกแล้วครับ
ผมเคยรวบรวมสิ่งที่มีความสำคัญในการพิจารณาเลือกหุ้น ปรากฎว่าได้ผลดังนี้ครับ
ก.ความซื่อสัตย์และความสามารถของผู้บริหาร
ข. เป็น ธุรกิจที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน หรือไม่ โดยใช้ competitive stretagy ของ porter วิเคราะห์ภาวะการแข่งขันด้วยพลังทั้งห้าของ Porter
1. การแข่งขันภายในอุตสาหกรรม
2. โอกาสในการเข้ามาของรายใหม่
3. สินค้าทดแทน
4. อำนาจต่อรองกับลูกค้า
5. อำนาจต่อรองกับผู้ป้อนวัตถุ
ค. วิเคราะห์โดย SWOT
ง.ประเด็นในการตรวจสอบหุ้น 10 ข้อของวอร์เรน
1.ROE สูงๆ หรือไม่
2.ROA สูงๆ หรือไม่
3.ประวัติการทำกำไรที่ดีเยี่ยมหรือไม่
4.มีหนี้สินน้อยๆหรือไม่
5.สินค้าหรือบริการมีความได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืนหรือไม่
6.ไม่มีปัญหาที่เกิดจากสหภาพแรงงานหรือไม่
7.บริษัทสามารถปรับสินค้าหรือบริการตามสภาวะเงินเฟ้อได้หรือไม่
8.ต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมหรือไม่
9.บริษัทสามารถซื้อหุ้นคืนจากตลาดได้หรือไม่
10.กำไรสะสมสามารถทำให้มูลค่าตลาดสูงขึ้นได้หรือไม่
จ. แนวโน้มธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ วัฏจักรธุรกิจ
ฉ. วิเคราะห์ราคาที่น่าลงทุน
1. P/E
2. P/B
3. DIV
ช. เหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ญ. อื่น ๆ ที่สำคัญ
ทั้งหมดนี้ถ้าจะแยกคร่าวๆ คงจะแยกได้ว่า ดูอดีต ดูปัจจุบัน และดูอนาคต ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญด้วยกัน แต่ระดับความสำคัญต่างกัน
ผมยกให้ข้อ จ. แนวโน้มธุรกิจ ภาวะเศรษฐกิจ วัฏจักรธุรกิจ ในอนาคตสำคัญที่สุดครับ
:lol: :lol: :lol: :lol: