เพิ่งรู้ว่ามี....ดังๆ หลายคน

[ครรชิต ไพศาล]

ผม เคยรู้ว่า เพื่อนร่วมรุ่น ที่หันไปเอาดีทางการเงิน แล้วดังๆอยู่ 2 คนคือ

ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร วศ.15
ดร. ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา วศ.15 ผู้จัดรายการ มันนีทอล์ค

รุ่นพี่ คนดัง ดร. ประสาน ไตรรัตน์วรกุล วศ.13

มาวันนี้ เพิ่งได้รับ วรสารวิศวจุฬา อินทาเนีย
จึงได้รู้ว่า นักการเงินดังๆ ที่เคยเห็นออกทีวี รายการวิเคราะห์หุ้น วิเคราะห์เศรษฐกิจ
จบวิศวะ มาเอาดีทางการเงิน กันหลายคน นะ


คุณ อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ วศ.15 กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย
ดร. ก้องเกียรติ โอภาสวงการ วศ.17 ประธานกรรมการบริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เอเชีย พลัส
คุณ วิบูลย์ เพิ่มอารยวงศ์ วศ.20 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ กรุงศรีอยุธยา
คุณ ศิริพงษ์ สุทธาโรจน์ วศ.20 กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ซิกโก้
คุณ วีรวัฒน์ ชุติเชษฐพงษ์ วศ.21 กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด
คุณ มนตรี ศรไพศาล วศ.24 ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)
คุณ ญาณศักดิ์ มโนมัยพิบูลย์ วศ.24 กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์ บัวหลวง

[Stock Broker]

งาน Executive Engineer Talk ผมก็ไปฟังครับ

มีแต่วิศวกรคนดังทั้งนั้นเลย ในงานมี ดร.ไพบูลย์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ส่วนวิทยากรรับเชิญ เค้าแบ่งเป็น 2 รุ่นครับ

รุ่น senior 6 คน จะเป็น executive ของ บจ. มี ดร.ประสาร (KBANK) พี่ประเสริฐ (PTT) อ.ทวี (BT) พี่บุญคลี (SHIN) พี่อนันต์ (LH) พี่อภิศักดิ์ (KTB)

รุ่น junior อีก 6 คน จะเป็น executive ของ บล. มี ดร.ก้องเกียรติ (ASP) พี่วิบูลย์ (บล.
กรุงศรี) พี่ศิริพงษ์ (SSEC) พี่วีรวัฒน์ (บล.ภัทร) พี่มนตรี (KEST) พี่ญาณศักดิ์ (BLS)

เนื้อหาที่ฟังส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย หรือไม่ก็เคยได้ยินจนชินแล้วตามข่าว บทสัมภาษณ์ หรือบทวิเคราะห์ต่างๆ (โดยเฉพาะมุมมองของรุ่น junior เพราะซ้ำกับมุมมองตามบทวิเคราะห์อยู่แล้ว)

ที่น่าสนใจ คือ มุมมองของ พี่อนันต์ (LH) เพราะพี่ท่านมั่นใจมากว่า หลายสถาบันที่บอกว่าอสังหาฯ ปี 48 จะซบเซานั้น ปากกาหักแน่ๆ และเสริมด้วยว่า ก้าวต่อไปของ LH จะเน้น Demand Pull เป็นหลัก

ที่แปลกใจ คือ มุมมองของ อ.ทวี (วศ.2499 เก๋าที่สุดในงานแล้ว) ท่านบอกว่า ต้องเน้น Brand, R&D สร้างความแตกต่างและมูลค่าเพิ่ม (อันนี้ไม่แปลก ที่ไหนๆ ก็พูดเหมือนกัน) แต่ที่แปลกคือ ท่านบอกว่า อุตสาหกรรมที่ไทยแข่งขันได้ คือ สิ่งทอ ที่ต้องพัฒนา คือ ยางพารา อ้อย น้ำตาล ที่เสียเปรียบ คือ เคมี โลหะ ??

** แต่งานนี้ ดร.นิเวศน์ ไม่ได้ไปนะครับ สงสัยไม่ว่าง

[Dr.T]

เพื่อนผมที่เป็นวิศวะคนหนึ่งก็จะหนีไปเอาดีทางนี้อีกคนเหมือนกันครับ

[Supra]

อืมมม วิศวะเยอะจัง............ 8) 8)

[enokwan]

นั่นสิคะ สงสัยมาตั้งนานแล้ว

ว่าทำไมวิศวะมักจะหันเหมาด้านเศรษฐกิจการเงินกันแยะจัง

หรือว่าจะชอบคิดเลขเป็นทุนเดิม?

[Dech]

ผมว่าเทียบแล้ว น่าจะเป็นส่วนน้อยนะครับ

แต่เก่งๆ กันทั้งนั้น

คนเรียนทางนี้มักชอบอะไรใหม่ๆ เสมอๆ มั้งครับ

คงเบื่อด้านวิศวะแล้ว ไปเอาดีด้านอื่นๆ บ้าง

ที่สำคัญ เรื่องเงินๆทองๆ ใครๆ ก็อยากใกล้ชิดไว้ก่อน :lol: :lol:

[โป้ง]

[Viewtiful Investor]

คงเบื่อด้านวิศวะแล้ว ไปเอาดีด้านอื่นๆ บ้าง

เงินเดือนวิศวะมันน้อยอ่ะ
อยากไปเหมือนกันแต่ขอเก็บตังค์ก่อนนะ

[Muffin]

เห็นด้วยกับคุณ viewtiful invstor เต็มที่ครับ
ผมก็ intania เหมือนกัน แต่เป็นรุ่นน้องพี่ๆหลายปี
แย่งกันเอ็นเข้ามา แล้วก็เรียนมาตั้งยาก จบไปได้เงินเดือนนิดเดียว
มันชีช้ำ

[yoyo]

งานวิศวะเหนื่อยไม่คุ้มเงิน โอกาสเติบโตยากกว่าสำหรับการเป็นลูกจ้าง
อยากรวยทางสายวิศวะต้องเป็นเจ้าของกิจการซะส่วนใหญ่
(ในมุมมองของวิศวะโยธานะครับ) ....
สายการบริหารและการเงินโอกาสเติบโตมีมากกว่า ... และท้าทายกว่า
...
... มั๊งครับ

[harry]

เท่าที่รู้มา วิดวะ คำนวนบ่อย มาการเงินเลยไม่ยาก

และที่สำคัญคือก้าวหน้า และรวยได้ง่ายกว่า

[JoJotaro]

ผมก็วิศวะ แล้วเบนเข็มเหมือนกันครับ

[house]

ผมด้วยอีกคน วิศวะเหมียนกัน

[Dr.T]

เอ.. แล้วหมอหายไปไหนหมด
ทั้งบอร์ดนี้มีผมคนเดียวหรือนี่
หรือหมอ ๆ คนอื่น ๆ เล่นเดย์เทรดกันเป็นส่วนใหญ่หว่า

[วัวแดง]

รายงานตัวว่า วิดวะเหมือน กัน โยธา ว่าว่างซะหน่อยจะไปต่อการเงินกะเค้าบ้าง

จะได้ดังเหมือนพี่ๆๆเค้า เสียดายอยากเป็นเกษตรกรมากกว่า ลังเลอยู่ :lol: :lol: :lol:

[Tao Investor]

งานวิศวะเหนื่อยไม่คุ้มเงิน โอกาสเติบโตยากกว่าสำหรับการเป็นลูกจ้าง
อยากรวยทางสายวิศวะต้องเป็นเจ้าของกิจการซะส่วนใหญ่
(ในมุมมองของวิศวะโยธานะครับ) ....
สายการบริหารและการเงินโอกาสเติบโตมีมากกว่า ... และท้าทายกว่า
...
... มั๊งครับ

คิดเหมือนกันเลยครับ

ถ้าได้หัวหน้าไม่ดี หรือว่าบริษัทไม่กล้าจ่าย ก้ไม่ก้าวหน้าครับ

ปล.ผมสังเกต ว่า วิดวะ แล้วก็ จะเป็นโยธา ซะเยอะนะครับ (ผมด้วย)

[ปุย]

ถ้าจำไม่ผิด ดร.ไพบูลย์ กับ ดร.นิเวศน์ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่มัธยม

ไม่แน่ใจว่า อัสสัมชัญ หรือ กรุงเทพ คริสเตียน
แต่แน่ใจว่าตอนนี้ รวย และ มีชื่อเสียง ทั้งคู่

[ก้อนหิน]

ผมก็วิศวะครับ
หรือว่าเป็นเพราะเรียนวิศวะแล้วเป็นพวกชอบลงทุน

[harry]

เอ.. แล้วหมอหายไปไหนหมด
ทั้งบอร์ดนี้มีผมคนเดียวหรือนี่
หรือหมอ ๆ คนอื่น ๆ เล่นเดย์เทรดกันเป็นส่วนใหญ่หว่า

เพื่อนที่เป็นหมอ เห็นไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่ค่อยได้อ่านได้ศึกษา เลยเข้ามาน้อยมั้งครับ

[tom]

รู้งี้ เรียน วิดวะ ดีกว่า

[mrdew]

ใครอยากดูวิศวะจุฬา ฯ ที่มาเอาดีด้านการเงินเค้าคุยกัน ดัง ๆ ทั้งนั้น ตามรายชื่อที่คุณครรชิต ไพศาล list ไว้ข้างต้น มาดูได้ที่นี่เลยครับ
1.ไปที่ http://www.kimeng.co.th/thai/index.asp
2.ดูที่ KELive TV คลิ๊กที่ตัว O สีขาว พื้นสีส้ม จะมีหน้าต่างขึ้นมา
3.ดูที่ "กิจกรรม / สัมมนานอกสถานที่"
4.เลือกดู "กลยุทธ์เศรษฐกิจฯ ทางรุ่ง..ทางรอด ตลอดปี 2548" ได้เลยครับ มี 4 ตอน

[mrdew]

มีใครเรียนมาด้านคอมพิวเตอร์เหมือนผมไม๊เนี่ยะ เห็นมีแต่วิศวะ

[Ent']

วิศวะ คอมพิวเตอร์ก็มีกันหลายคนนะครับ คุณ dew

ดร. ก้องเกียรติ นี่เป็น วิศวะจุฬา คอมพิวเตอร์ รุ่นที่ 1 เลย อ.ผมเล่าให้ฟังว่าเป็นคนเรียนเก่งมากๆ อ่านหนังสือตลอดเลย ทั้งหนังสือเรียนและเรื่องอื่นๆ วันเสาร์อาทิตย์นี่จะยืมหนังสือห้องสมุดกับบ้านไป 2-3 เล่มไปนั่งอ่านที่บ้าน
อาจารย์ผมเล่าว่าตอนแกเรียนจบ ดร.ก้อง เค้าบอกว่าจะไม่ทำงานเกี่ยวกับ คอม เพราะเค้ามองว่าไม่รวยแน่เลย เลยเปลี่ยนสายไปทางการเงินครับ

[harry]

ลุงครรชิต รุ่นเดียวกับ ดร.นิเวศน์เหรอครับ

เล่าตอนสมัยยังเรียน หรือเพิ่งเรียนจบหน่อยสิครับ ว่ามีความคิด หรือวิถีชีวิตอย่างไรบ้าง แล้วอะไรทำให้หันมาสนด้านการเงิน ด้านหุ้นครับ

[birdy]

มาเป็นพวก พี่ dr T คับ ผมเป็นหมอเด็ก คับ

[birdy]

มาเป็นพวก พี่ dr T คับ ผมเป็นหมอเด็ก คับ

[adi]

ผมก็วิดวะจุฬาด้วยครับ

[ก้อนหิน]

วิศวะเยอะจัง

เป็นวิศวะมันคงไม่รวยจริงๆด้วย

แล้วเรียนมาทำไมหว่า แต่ก็ดีนะชอบหลักการของวิศวะ แต่ไม่มีงานที่ชอบในเมืองไทยให้ทำ

[mikan171]

มีใครเรียนมาด้านคอมพิวเตอร์เหมือนผมไม๊เนี่ยะ เห็นมีแต่วิศวะ

วิศวะคอมครับ

[sunrise]

วิศวะ โยธา อีกคนครับ

ผมว่าวิศวะ และหมอที่มาสนใจเยอะก็เพราะพื้นฐานบางอย่างหรือเปล่าครับ

สมัยเด็กๆ ถ้าเรียนเก่งๆต้องวิศวะกับหมอเท่านั้น
เด็กเรียนเก่งๆ ก็เลยมาเรียนเยอะ
พอทำงานจริงๆ รู้ตัวว่าการเรียนหรือทำงานเฉพาะทางไม่สามารถทำให้เป็นเศรษฐีได้
ยกเว้นเป็นเจ้าของกิจการเองก็เริ่มมองหาทางเลือกมาขึ้น

อีกอย่างครับ
คนสองกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะมีได้ปานกลาง เรียกว่ามีเงินเก็บพอจะลงทุนได้ด้วยมั้งครับ
ผมคิดว่าคนสองอาชีพนี้ เป็นคนทีมีวิธีคิดแบบ มีโลจิกส์ คอยมองหาโอกาสให้กับชีวิต
แต่สุดท้ายผมว่าอาชีพอะไรไม่สำคัญเท่าการมองหาโอกาสเพิ่มเติมให้กับชีวิตแน่นอนครับ