Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

เค้าว่าหุ้นยานยนตร์ขนส่ง อนาคตผกผันกับราคาน้ำมัน

อธิบายหน่อยสิสุดหล่อเจโชว์ 8) ... ไม่ค่อยเข้าใจครับ

งง
ราคาน้ำมันแพง รถก้น่าจะใช้น้อยลง ซื้อน้อยลง
แต่ขนส่งทางเรือเนี่ยคงเลี่ยงไม่ได้หากยังต้องทำการค้าอยู่
แต่การบินและขนส่งทางบกเนี่ยต้องระวังเอาไว้
แล้วมันจะผกผันกันยังไง ไม่เห็นภาพเลยครับ

จะว่าไปผมก็งงๆมาหลายรอบแล้วเวลาได้ยินคนพูดถึงกฏหัวแม่มือ
จำได้ว่าเคยเรียนในไฟฟ้าตอนอยู่ม.ปลาย
แต่ก็ยังมีคนพูดในหลายๆสถานการณ์ ...
ใครเข้าใจช่วยบอกทีครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

เท่าที่จำได้นะครับ กฎหัวแม่มือตั้งขึ้นเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำทิศทางของคลื่นแม่เหล็กกับทิศทางของไฟฟ้า ( อาจจะผิดนะครับ มันผ่านมายี่สิบปีแล้วอ่ะ )

โดยเขาบอกว่าถ้ามีกระแสไฟฟ้าไหลจากโคนนิ้วชี้ไปปลายนิ้วชี้เป็นวงกลม ( ต้องนึกภาพว่าเรากำมือแล้วยกนิ้วหัวแม่โป้งขึ้น ) จะก่อให้เกิดคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าวิ่งจากโคนนิ้วโป้งไปที่ปลายนิ้วโป้ง

หรือทำนองกลับกัน ถ้ามีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าวิ่งจากโคนนิ้วแม่มือไปปลายนิ้ว ก็จะก่อให้เกิดกระแสไฟฟ้าเช่นเดียวกัน เป็นหลักการเบื้องต้นสำหรับการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาระหว่างพลังงานแม่เหล็กกับพลังงานไฟฟ้า

และเป็นจุดกำเนิดของการสร้างไดนาโม เครื่องปั่นไฟ และอื่นๆ ไม่เกี่ยวกับอะไรผกผันกับอะไรเลย

ปล. กฎนี้ใช้ได้เฉพาะกับมือขวาเท่านั้น เขาเรียกว่า กฎมือขวา มั้งครับ ไม่ใช่กฎหัวแม่มือ

คำว่ากฎหัวแม่มือ ไม่เคยได้ยินขรับ


:lol: :lol: :lol: :lol:

น้ำมันขึ้นราคาอะไร ๆ ก็คงแย่หมดยกเว้นเจ้าของน้ำมัน

ลองนึกเหตุผลที่เกี่ยวกับการขนส่งนะครับ

น้ำมันขึ้น -> คนประหยัด ใช้จ่ายน้อยลง โดยเฉพาะสินค้าฟุ่มเฟือย นำเข้า รวมทั้งวัตถุดิบต่างๆ ก็ต้องการน้อยลง ทำให้การขนส่งลดลงตามสภาพเศรษฐกิจ

น้ำมันขึ้น -> ค่าใช้จ่ายขนส่งก็ต้องขึ้น สินค้าก็ต้องขึ้นราคา คนใช้น้อยลง จำนวนเที่ยวการขนส่งก็ต้องน้อยลง

มีอื่น ๆ อีกมั้ยนี่

Rule of thumb ครับ ไม่ใช่ Right Hand Rule

จำได้ว่า ดร.นิเวศน์ได้หุ้นโคมไฟ ราคาสิบสองบาท ตอนน้ำมันแพง

อ้าวหน้าแตกเลย ...
ว่าแต่พี่เจโชจะไม่อธิบายหน่อยเหรอว่ามันคืออะไร
อยากรู้จริงๆ

Rule of thumb น่าจะหมายความว่า การประมาณอย่างคร่าวๆ

เหมือน นักวาดรูป ใช้นิ้วหัวแม่มือ กะระยะทางวาดรูป

:lol: :lol: :lol: :lol:

Right Hand Rule

http://216.239.63.104/search?q=cache:lE ... ule+&hl=th

Rule of thumb

http://216.239.63.104/search?q=cache:bp ... humb&hl=th

:lol: :lol: :lol: :lol:

แฮะๆๆ พี่สามัญชนครับ
ตามไปอ่านแล้ว rule of thumb
แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

มันเหมือนกันว่าเป็นการประมาณโดยทั่วไปหน่ะพี่โย อย่างในที่นี้ผมคิดว่าพี่เค้าหมายถึงน้ำมันแพงแล้วคนอาจจะใช้รถน้อยลงทำให้ยอดขายตกอะไรแบบนี้หน่ะ เป็นการอนุมานผลลัพธ์แบบคร่าวๆ จากค่าตัวแปรที่เปลี่ยนไป

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่าก็คงได้รับผลกระทบบ้างในตอนต้น พอเริ่มปรับตัวกันได้แล้วก็คงโอเค อีกอย่างนะครับ เดี๋ยวนี้ค่ายรถต่างๆ เค้าเน้นการส่งออกมากกว่าการบริโภคในประเทศแล้วคับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

แฮะๆๆ พี่สามัญชนครับ
ตามไปอ่านแล้ว rule of thumb
แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี

ผมเข้าใจความรู้สึกท่านโยโยดีครับ













เพราะผมก็ไม่เข้าใจ 555

:lol: :lol: :lol: :lol:

:lol: :lol: :lol: :lol:

ลองหาเพิ่มในgoogle ดูนะครับ ได้ความว่าอย่างไร เล่าสู่กันฟังด้วยเด้อครับ

( ผมขี้เกียจเหลือประมาณ ....... ไม่รู้ช่วงนี้เป็นอะไร )

:lol: :lol: :lol: :lol:

กฏหัวแม่มือ จะอธิบายง่ายๆ ก็คือกฏตาม common sense ของบางคน รุ่นพี่ รุ่นพ่อที่ใช้ดีแล้วบอกต่อ แต่หาเหตุผลแน่ๆไม่ได้
เช่น พ่อสอนลูกว่า "ออกกำลังตอนเช้า ร่างกายจะฟิตกว่าตอนเย็นนะลูก" ก็ถือเป้นกฏหัวแม่มือได้
หรือว่า หากจะลงทุนให้เก่งต้องสัก 5 ปีขึ้นจึงจะค่อยเห็นภาพ (มันก็ไม่แน่) อันนี้ก็เป็นได้ขึ้นกับว่าปรสบการณ์ของคนที่คิดกฏนั้นขึ้นมาเป็นยังไงบ้าง

ลองคิดถึงการทำงานในที่ทำงานของเราดูครับ ว่ามีกฏแบบนี้บ้างไหม

กฎหัวแม่โป้งเป็นกฎแบบที่เรียกว่า กะๆ เอา เดาพอได้ ครับ ลองนึกภาพดูว่าเอาหัวแม่มือชูขึ้นมาแล้วกะๆ อะไรบางอย่างดูดิ

เช่น Peter Lynch (หรือ Ben Graham) บอกว่าหุ้นถูกดูได้ว่าผลคูณของ PE กับ PBV ต้องไม่เกิน 22 มาจากไหนอะเหรอ กฎหัวแม่โป้งของเฮียแกไง จากประสพการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้เลย

เห็นในเวบเค้าบอกว่ามันมาจากกฎหมายพิลึกพิลั่นสมัยโบราณว่าผู้ชายสามารถตีภรรยาตัวเองอย่างถูกกฎหมายด้วยไม้ที่มีขนาดต่ำกว่าหัวแม่โป้ง ไม่ค่อยเกี่ยวกับความหมายในปัจจุบันเท่าไหร่ครับ

ถ้าเรียกให้เป็นวิชาการหน่อย บางทีเค้าเรียก Empirical Formular แปลว่าสูตรที่ได้จากการทดลอง จากประสบการณ์ ไม่สามารถดีไรฟ์จากอะไรพื้นฐานได้

ที่ว่ามาเพราะว่าเห็นราคาน้ำมันพุ่งเอาๆ แต่ธุรกิจยานยนต์ก็พุ่งเอาๆ เช่นกัน
ผมคิดว่ามันแปลกๆ หรือว่ากฏเรื่องที่ว่าไม่จริง?

อ่อๆๆ ... เข้าใจแล้วครับพี่
ผมว่ากฏที่ว่าอาจจะจริงก็ได้ ... แต่มันขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นคนตั้งกฏในเรื่องนั้น เชื่อถือได้แค่ไหน
จริงไหมที่ยานยนกับน้ำมันไปด้วยกันไม่ได้? ผมเองก็ไม่รุ้

jaychou เขียน:ถ้าเรียกให้เป็นวิชาการหน่อย บางทีเค้าเรียก Empirical Formular แปลว่าสูตรที่ได้จากการทดลอง จากประสบการณ์ ไม่สามารถดีไรฟ์จากอะไรพื้นฐานได้

ที่ว่ามาเพราะว่าเห็นราคาน้ำมันพุ่งเอาๆ แต่ธุรกิจยานยนต์ก็พุ่งเอาๆ เช่นกัน
ผมคิดว่ามันแปลกๆ หรือว่ากฏเรื่องที่ว่าไม่จริง?

Empirical Formular อ่านแล้วรู้สึกคุ้นอย่างประหลาด มันใช่ตัวเดียวกับที่เคยเรียนในวิชาเคมี หรือป่าวครับ

Rule of thumb มักจะถูกต้องแต่ขาดทฤษฎีรองรับหรืออธิบายได้อย่างชัดเจน และแทบจะไม่มีใครสนใจว่าจะมีทฤษฎีรองรับหรือไม่เพราะมันใช้ได้ผลดีอยู่แล้วจนเกือบจะเป็นเรื่องธรรมดาไปเลย ที่มันมักจะใช้ได้ถูกต้องก็คงเป็นอย่างที่ว่าคือได้จากข้อมูลจำนวนมากบอกว่าเป็นอย่างนั้น เช่น สมัยก่อนบอกว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกโดยที่ไม่ทราบว่าโลกกลมและหมุนรอบตัวเอง แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช้ได้กับเรื่องแนวโน้มหุ้นยานยนต์กับราคานำมันหรือเปล่า ตัวอย่างหนึ่งที่อาจจะใกล้เคียง rule of thumb เช่นกฎ 20/80

อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่าน้ำมันกับยานยนต์มันจะเกี่ยวกันมากน้อยอย่างไร พี่ jaychou ไม่คิดจะกลับมาเฉลยให้น้องๆ หน่อยหรือครับ

jaychou เขียน:Rule of thumb ครับ ไม่ใช่ Right Hand Rule

จำได้ว่า ดร.นิเวศน์ได้หุ้นโคมไฟ ราคาสิบสองบาท ตอนน้ำมันแพง

นี่ไง ....ผมบอกไปแล้วว่าทำไมคิดแบบนั้น
ยังมีเรื่องทำนองนี้ใน One up หรือ Beating .. อะไรซักอย่างด้วยนะ
เห็นชอบยานยนต์กัน ผมก็แค่สงสัยขึ้นมา

ราคาน้ำมันแพง รถก้น่าจะใช้น้อยลง ซื้อน้อยลง
แต่ขนส่งทางเรือเนี่ยคงเลี่ยงไม่ได้หากยังต้องทำการค้าอยู่
แต่การบินและขนส่งทางบกเนี่ยต้องระวังเอาไว้
แล้วมันจะผกผันกันยังไง ไม่เห็นภาพเลยครับ

เรือก็ใช้น้ำมันครับ แต่ส่วนใหญ่จะ แยกออกมาจากค่า frieght เรียกว่า bunker surchrage แต่จะเปลียนทุกๆ ไตรมาสครับ ฉนั้น เรือจะได้รับผลกระทบน้อยกว่า สายการบิน

rule of thumb:
1. A useful principle having wide application but not intended to be strictly accurate or reliable in every situation.
2. A rough and useful principle or method, based on experience rather than precisely accurate measures. For example, His work with the youth group is largely by rule of thumb. This expression alludes to making rough estimates of measurements by using one's thumb.

จากคำจำกัดความข้างต้นของเจ้าตำรับ ก็น่าจะเข้าใจได้ชัดเจนกว่านะครับ
8) 8) 8) 8) 8)