Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

วันนี้ทำนิวโลว์อีกแล้วที่ 5.05 บาท
ทั้งที่คุณเสริมสินขายหุ้นไปเกือบจะหมดแล้ว

เมื่อไหร่จะกลับมาทำกำไรได้เหมือนเดิมครับเนี่ย
แต่ที่ราคานี้ก็มี margin of safety พอสมควรครับ

ถ้ามาแตะที่เลข 4 เมื่อไร คิดว่าน่าจะสวยทีเดียว

ไม่น่ารีบมาบอกเลยพี่ น้ำกำลังเชี่ยว ปล่อยให้ไหลไปก่อน ซาๆเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน อิอิ

หรือจะกลับไปที่ราคา 4.7 บาท
เหมือนที่น้องวัวแดงรอตั้งรับไว้ครับ

ที่ราคาตลาด 5.05 บาท คิดพีอีปีที่ผ่านมาได้ 13.87 เท่า
ก็ยังไม่ถือว่าถูกมากครับ แต่ก็ถูกกว่าที่ 6 บาทมาก
ปีนี้การประชุมผู้ถือหุ้นคงจะดุเดือดพอสมควรครับ
กำไรลดลงมาก ผู้บริหารคงโดนซักมากทีเดียว
แต่ 2 ปีที่แล้วที่มีกำไรมากเพราะมีกำไรพิเศษหลายรายการครับ

ผู้ที่ถือหุ้นอยู่คงต้องรอลุ้นผลประกอบการว่าจะกลับตัวเมื่อไหร่ครับ
ยอดขายเกือบ 3,000 ล้าน ทำกำไรได้แค่ 120 ล้าน ถือว่าต่ำมากครับ สำหรับร้านหนังสือรายใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศ..

สี่บาทยังคิดดูก่อนเลยครับ ท่านลูกอิสาน
ถ้าไม่มีการเติบโตพอ พีอีก็ไม่ควรสูงกว่าชาวบ้าน

ขายหนังสือ สต๊อกไม่เน่า ไม่สึกหรอเท่าไร น่าจะได้กำไรประมาณ 10 % นะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยตามดู

ถ้ายอด 3000 ล้านบาท น่าจะได้ 300 ล้านนะ ผมคิดว่าอย่างนั้น

สมัยก่อนเคยได้หรือเปล่าครับ 10 % จากยอดขาย

ครับพี่ลูกอีสาน ผมตั้งรับไว้จริงๆๆ........

แต่ผมยังกังวลเรื่อง esop มากครับ.......

ไว้เมื่อไหร่แปรสภาพหมดคงเห็นอนาคต บ. มากขึ้น........

ส่วนตัวชอบยอดขายที่เพิ่มขึ้นครับ ส่วนกำไรอีกหน่อยคงดีขึ้น........

jaychou เขียน:สี่บาทยังคิดดูก่อนเลยครับ ท่านลูกอิสาน
ถ้าไม่มีการเติบโตพอ พีอีก็ไม่ควรสูงกว่าชาวบ้าน

โห 4 บาทยังคิดดูก่อนเลย ที่ราคา 4 บาทพีอีไม่น่าจะสูงกว่าชาวบ้านแล้วนะคะ ถ้าลงมาจริง ๆ จะลองช้อนเข้าพอร์ตรับปันผลดูค่ะ

มีสิทธิลงไปที่ 4 กว่าๆจริงๆครับ ผมทยอยช็อตไปบางส่วนแล้ว

ที่ราคานี้ ผลประกอบการนี้ ปันผลนี้

หาเหตุผลถือไม่เจอ

เศร้าจริงๆ

Jeng เขียน:ขายหนังสือ สต๊อกไม่เน่า ไม่สึกหรอเท่าไร น่าจะได้กำไรประมาณ 10 % นะ ไม่รู้เหมือนกัน ไม่เคยตามดู

ถ้ายอด 3000 ล้านบาท น่าจะได้ 300 ล้านนะ ผมคิดว่าอย่างนั้น

สมัยก่อนเคยได้หรือเปล่าครับ 10 % จากยอดขาย

ผมเห็นด้วยครับพี่เจ๋ง อย่างซี๊ดน่าจะทำกำไรได้สัก 10% ของยอดขาย
หรืออย่างน้อยก็ไม่ต่ำกว่า 5%

แต่ซี๊ดก็มีค่าเสื่อมสภาพของหนังสือเยอะเหมือนกันนะครับ นอกจากนั้นยังมีสินค้าสูญหายปีละหลายล้าน...

ไปดูงบมาแล้วครับ

สินค้าหาย ปี47=26 ล้าน ปี46=20 ล้าน
สินค้าเสื่อมปี47และปี46 เท่ากันที่ 6 ล้านบาท
เออทำไมคนไทยขี้ขโมยกันอย่างนี้นะ
แสดงว่าในสังคมยังมีคนจนอีกมาก

ผมรอดมาได้หลายครั้งเพราะเรื่องวินัยการลงทุน
บริษัทไหนเจ้าของ-ผู้บริหาร ขนหุ้นมาขายต้องหลีกเลี่ยง
2ปีก่อน ก็รอดตายจากแฟนพี่ ที่เจ้าของขนมาขายผมเปิดเจอ
รายงานการซื้อขาย
ผมก็ไม่ลังเล เททิ้งทันทีขาดทุนแบบเบาะๆ1ล้านกว่าบาท
ถ้าถือมาทุกวันนี้ คงต้องคิดหนัก ขาดทุนไม่ต่ำกว่า4ล้านบาท

เจ้า ..ชี-เอ็ด
พระไม่เอ็ด ผมก็ทนดูเขาขายจาก6บาทกว่าเรื่อยมา
จนถึงทุกวันนี้ ในมือทั่นเสิมสิ้น คงมีไม่ต่ำกว่า18ล้านหุ้น+วอแล้ว
คงต้องไปไล่นับดูว่า เหลืออีกเท่าไหร่ก่อนเข้าลงทุน
แต่ช่วงนี้เก็บทุนไว้ซื้อ กฟผ.ดูจะง่ายกว่านะ
ไม่ได้คิดเยอะเย้ยหรือถากถางใครนะครับ
หากผิดพลาดล่วงเกินท่านใดก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ผมเพียงอยากชี้ถึงวินัยการลงทุน แต่ในเมื่อมีอยู่แล้ว
ก็อย่าเทขายออกมาจะไปเข้าทางใครเขานะครับ
ถืออยู่เฉยๆก็ได้ จนถึงวันพระเอ็ด ก็คงกลับขึ้นไปหาที่เก่ามันนั่นล่ะ
พอมีหวังครับ
ไม่ได้เชียร์ให้ขาย ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อ ต้องทำความเข้าใจครับ

คิดอย่างไรกับห้องสมุดที่เวิลด์เทรดใหม่คับ

รัก mr market ครับ เราเพื่อนกัน เค้าขายเราก้อ ขาย อิอิ

ว่าจะขายพรุ่งนี้แล้วครับ ดูๆแล้วรออีกสักระยะเวลาหนึ่งให้เห็นอนาคตจะดีกว่าครับ หรือจะใช้วิธี DSM ของคุณเด่นศรี แห่งคลับอิสรภาพทางการเงินของ www.pantip.com ก็น่าจะได้นะครับ

ไม่รู้ซินะ ผมว่าราคากระดาษ มีแนวโน้มแพงขึ้น
และราคาหนังสือตอนนี้ ก็แพงอยู่แล้ว (ตามความคิดผม)
ถ้าแพงมากๆกว่านี้ ผมคงยิ่งไม่ซื้อหละ

ผมว่าผมก็พอจะมีตังส์นะ แต่ก็ซื้อหนังสืออ่านจริงๆไม่เท่าไร
แต่จะเน้นซื้อเก็บมากกว่าสำหรับหนังสือที่ชอบ
แต่ก็รู้สึกหนังสือเมืองไทย ไม่ค่อยมีอะไร ชอบเลียนแบบกัน
ส่วนมากอ่านนิตยสารมากกว่า

หรือว่าจะเริ่มถึงจุดอิ่มตัว

ผมเคยเดินเข้าไปในร้าน เห็นคนยืนอ่านกันทั้งนั้น
ผมลองนึกสภาพดู ถ้าผมเป็นเจ้าของร้าน
ผมคงปวดหัวน่าดู
ผมจึงคิดว่าธุรกิจ อะไรทำแล้วปวดหัวไม่เอาดีกว่า

หนังสือไม่เน่า แต่หนังสือมีเชยนะครับ ยิ่งพวกคอมพิวเตอร์ หนังสือยิ่งเชยเร็ว
ยกตัวอย่าง ณ วันนี้ใครอ่าน Windows 95 บ้าง

ขอสารภาพว่าผมนอกใจ เจ้าหนังสือไปซบอกพี่ยานยนต์เข้าแล้วล่ะ
ดูพี่เค้ากำยำภาพอนาคตชัดเจนราคาไม่แพง
หนังสือนี่รอให้ profit margin ของเค้าตีกลับขึ้นมา ลดต้นทุนได้สำเร็จเมื่อไหร่แล้วจะกลับมามองอีกครั้ง

yoyo เขียน:ขอสารภาพว่าผมนอกใจ เจ้าหนังสือไปซบอกพี่ยานยนต์เข้าแล้วล่ะ
ดูพี่เค้ากำยำภาพอนาคตชัดเจนราคาไม่แพง
หนังสือนี่รอให้ profit margin ของเค้าตีกลับขึ้นมา ลดต้นทุนได้สำเร็จเมื่อไหร่แล้วจะกลับมามองอีกครั้ง

ยายยนต์ตัวไหนเอ่ย ใช้ดัดแปลงรถหรือปล่าว

ผมกลั้นใจซื้อคืนแล้วครับ
คงต้องงดดูราคาเจ้าซี้เอ็ดไประยะหนึ่ง

ผมคิดว่าคงไม่สามารถซื้อได้ที่จุดต่ำสุด

งั้นผมซื้อไว้ดูตามดูราคา 100 หุ้นก่อนละกันคร้าบบบบ

ba_2l เขียน: สังสัยจะเป็นยางยนต์มั้งครับ :lol:

คุณ ba_2l เดาใจถูกซะแล้ว 1
แต่จริงๆยังมีอีก 2 แน่ะ ... focus กลุ่มนี้สุดๆเลยครับตอนนี้
ไม่รู้จะเสี่ยงไปรึเปล่า .. น้ำมันก็ขึ้นเอาๆ แต่ก็ต้องรอดูครับ

ใครถนัด stop loss ก็ทำไป

ใครถนัดแช่งให้ลง ก็แช่งกันปาย

ฮ่าๆ ก็สต็อปลอส แล้วก็แช่งลงต่ออะครับ ลงไปเรื่อยๆ จนกว่าผลประกอบการเที่ยวหน้าออก ถ้าแย่ลงก็หย่าขาด ถ้าฟื้น จะกลับมารับ

สงสัยว่าเราจะเป็นเหมือนกันเกือบหมดเลย
wait&see ครับ
ได้ทีก็รับ