Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ทำไมคนที่นี่ บางคนทำไมจะซื้อหุ้นที่จะลง

ไม่มองหาหุ้นที่จะขึ้น

แล้วทำไมถึงคิดว่าหุ้นที่จะลงมันดี

และถ้ามันดีแล้วมันจะลงมาทำไมเยอะๆ

หรือว่าคิดว่าฉันรู้จักหุ้นตัวนี้เข้าใจมัน และมองว่าราคามันน่าจะเหมาะสมตรงราคาที่ฉันรออยู่

ช่วยบอกฉันที เพราะฉันเวลาจะซื้อหุ้น คงจะหาหุ้นที่จะขึ้นมากกว่า

มานั่งเฝ้าให้หุ้นลง แต่เวลาที่หุ้นมันลงมาถึงระดับที่น่าสนใจก็จะซื้อบ้างเหมือนกัน

งง งง

เหมือนกันการที่คุณไปเดินห้าง เจอกระเป๋าใบหนึ่ง โดนใจมาก อยากได้ ติดป้ายราคา 5000 บาท

แล้วคุณก็ภาวนาว่า เมื่อไหร่จะเซลสักที สัปดาห์หนึ่งผ่านไป คุณไปห้างดูกระเป๋าใบเดิม และคราวนี้ติดป้ายลดราคาเหลือ 4000 บาท หรือถูกกว่านั้นอีก

คุณจะซื้อตอน 5000 หรือตอนถูกกว่าครับ

หมายเหตุ สินค้ายังเป็นของใหม่ ไม่ผ่านการใช้ แต่หุ้นเป็นมือสอง ต้องดูสภาพให้ดีว่ายังใช้งานได้หรือไม่

คือผมอาจจะต้องคิดหน่อยแล้ว ว่าของที่เซลมันกำลังจะตกรุ่นรึเปล่า

ถ้าใช่ก็ Say No

บางทีผมไปเดินห้าง เจอของเซล ใบเดิม แต่มีของใหม่ราคาแพงกว่า

ผมอาจเลือกของแพงก็ได้ เพราะได้คุณค่าทางใจมากกว่าหรืออย่างน้อย

ผมก็บอกว่า นี่แหละ รูปแบบนี้แหละที่ฉันรอ ผมก็เอามาใช้ได้เลยไม่ต้องรอให้มันเซลอีก3เดือน

55 ผมว่าแล้วแต่คนต้องการไงครับ
กระเป๋าใบใหม่นั้นอาจจะแพงเมื่อเทียบกับความคุ้มในการใช้เงิน
ขณะที่ใบที่ตกรุ่นแต่ว่าถูกกว่า เมื่อซื้อมาใช้จะคุ้มค่ากว่า และใช้ได้เต็มที่

เหมือนบ้านด้วยครับ สมมติว่า บ้านเอาไว้อยู่คนเดียว จะซื้อใหญ่มากๆ มั้ยครับ
แต่ว่าแพงมาก หรือซื้อตึกแถวถูกๆ เล็กๆ พอสำหรับ 3-4 คน

ถ้าลองมาเปรียบเป็นคอมพิวเตอร์ซิครับมันเยี่ยมมากณ ปัจจุบัน แต่ในอนาคตมันตกรุ่นแล้วคับถือนานคงไม่ได้คับ

แล้วทำไมถึงคิดว่าหุ้นที่จะลงมันดี

และถ้ามันดีแล้วมันจะลงมาทำไมเยอะๆ

บางครั้งหุ้นลง ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นไม่ดี

เช่นกันหุ้นขึ้น ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นจะดี

เมื่อคุณหาหุ้นที่คิดว่าดีได้แล้ว คุณจะซื้อตอนมันขึ้นหรือลงล่ะ

ส่วนผมซื้อตอนหุ้นลงครับ

บางครั้งหุ้นลง ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นไม่ดี

เช่นกันหุ้นขึ้น ไม่ได้หมายความว่าหุ้นนั้นจะดี

เมื่อคุณหาหุ้นที่คิดว่าดีได้แล้ว คุณจะซื้อตอนมันขึ้นหรือลงล่ะ

ส่วนผมซื้อตอนหุ้นลงครับ

แต่บางครั้งหุ้นลงเพราะมันมีอะไรบอกว่ามันจะไม่ดีไม่ใช่หรือคับ ถ้าเราไม่รู้เนื้อในของมันจิงๆก็ยิ่งเจ็บคับ

ba_2l เขียน:ผมรอซื้อตอนลงแล้วเริ่มเด้งครับ :lol:

แบบนี้เรียกว่าซื้อตอนขึ้นคับ

หุ้นลงเพราะว่า คนอื่นมองว่ามันไม่ดี ซึ่งอาจถูกหรือผิดก็ได้

ถ้าคนอื่นผิด แล้วเราถูก นั่นจะเป็นโอกาสซื้อที่ยิ่งใหญ่
ถ้าคนอื่นถูก แล้วเราผิด นั่นจะเป็นโอกาสขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่

ถ้าคนอื่นผิด แล้วเราถูก นั่นจะเป็นโอกาสซื้อที่ยิ่งใหญ่
ถ้าคนอื่นถูก แล้วเราผิด นั่นจะเป็นโอกาสขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่

แล้วคุณว่าคนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น ถูกหรือผิดล่ะ

ถ้าคุณคิดว่าถูกมากกว่า ควรซื้อหุ้นตอนขึ้น
แต่ถ้าผิดมากกว่า คงไม่แปลกที่จะซื้อตอนลง

ยังไงก็แล้วแต่ ลงหรือขึ้น มันก็ต้องเกิดในหุ้นตัวนั้นๆอยู่เสมอ ไม่มีเส้นตรงในตลาดทุน

ทำเหมือนคนส่วนใหญ่ ผลตอบแทนก็เหมือนคนส่วนใหญ่
ทำเหมือนคนส่วนน้อย ผลตอบแทนก็เหมือนคนส่วนน้อย
แล้วคนส่วนใหญ่หรือคนส่วนน้อยล่ะที่ชนะตลาดได้...............น่าคิด

ฮ่าๆๆ ผมเชื่อในกฏพาเรโต ครับ

คนส่วนใหญ่ ผิด เสมอ

คนเก่ง มีน้อยกว่า คนไม่เก่ง

คนส่วนมากจึงมองว่า พวกนี้ นอกคอก ผิดปกติ ฝืนกระแสโลก

แต่คนที่ฝืนกระแสโลกนี่แหละ ที่เป็นคนทำให้โลก หมุนไปข้างหน้า

house เขียน:หุ้นลงเพราะว่า คนอื่นมองว่ามันไม่ดี ซึ่งอาจถูกหรือผิดก็ได้

ถ้าคนอื่นผิด แล้วเราถูก นั่นจะเป็นโอกาสซื้อที่ยิ่งใหญ่
ถ้าคนอื่นถูก แล้วเราผิด นั่นจะเป็นโอกาสขาดทุนครั้งยิ่งใหญ่

ผมว่าคนที่ผิดก็คือคนที่ถือหุ้นก่อนหน้าที่มันจะลงมา
และน่าจะมีมากกว่าคนที่จะมาซื้อภายหลัง

ส่วนคุณจะถูกหรือไม่ ถ้าเรายังไม่รู้ว่าคนที่ขายมาผิดหรือถูก
ผมว่ามันก็คือการเสี่ยงที่มีผิดมีถูก

อย่างหุ้นที่มันลงมาเยอะๆ อย่างMetco ผมเห็นก็ยังมีคนที่รอให้มันลงมา เพื่อเก็บ
นั่นหมายถึงว่าเค้าคิดว่าบริษัทนี้พื้นฐานดี น่าจะแย่อีกซักไตรมาสหรือสองไตรมาส แล้วราคามันจะลงมา ให้เราเก็บ เสร็จ มันก็จะดีขึ้นในไตรมาสสามสี่ อย่างนี้รึเปล่า ผมว่าเราก็คงคาดการณ์ยากเหมือนกันนะครับ

คือผมไม่ได้มองว่าMetcoดีหรือไม่ดีนะครับ ในอนาคต แต่ตอนนี้ผมมองว่า
บริษัทไม่น่าจะรับมือกับภาวะต้นทุนที่สูงขึ้นได้ดีนัก ซึ่งราคาก็มีโอกาสลงต่อ
ถ้าผลประกอบการยังไม่ดี

แต่ถ้าเป็นผม ก็คงไม่สนว่า metcoจะลงไปเท่าไร แล้วจะซื้อ ผมคงไม่คิดจะซื้อมากกว่า เพราะถ้ายังไม่มีปัจจัยอะไรเปลี่ยนไปจากเดิม นอกเสียจากว่า
ราคาวัตถุดิบ พลังงานเริ่มนิ่งมากขึ้น และไม่น่าจะขึ้นไปกว่านี้
หรือบริษัทสามารถลดต้นทุนได้จริงๆ

ยังไง ผมก็คงจะหาหุ้นที่มันพร้อมจะขึ้นเมื่อผมเข้าไปซื้อมากกว่า
หุ้นที่มันลงมาเยอะๆ เพื่อหาทางขึ้นในโอกาสต่อไป วันข้างหน้า เผื่อฟ้าใส

หุ้นที่ขึ้นมาจริงๆ ผมก็ไม่ได้หมายความว่าหุ้นมันจะดีนะครับ
ก็คงต้องดูเหมือนกันว่ามันเก็งกำไรกันมากเกินรึเปล่า
ถ้ามันขึ้นเพราะมีเหตุน่าสนใจ ผมก็คงร่วมวงด้วย

เรื่อง Metco นี่ผมคิดแบบคุณ Nanchan นะ ...

ผมสงสัยมานานแล้ว เวลาเห็นหุ้นมันผลประกอบการออกมาไม่ดี แล้วเข้าไปรับนี่ ผมว่ามันเหมือนแทงหวยนะ ตาดีได้ตาร้ายเสีย เราจะรู้ได้ไงว่าผลต่อไปมันจะออกมาดีหรือไม่ดี ... ดูอย่าง CEI เป็นต้น

เราจะรู้ได้ไง ว่ามันแย่แค่ Q เดียว หรือ 2 Q หรือ 3Q .... หรือ .... Forever ...


ถ้าเป็นผม ผมจะขายทันทีที่ผลออกมาไม่ดีอย่างรุนแรง แล้วก็จะไม่กลับไปซื้อจนกว่ามันจะออกมาดี หรือไม่ก็ทำแบบพี่เจ๋งบอก ขาย Metco ไปซื้อ TR ... อะไรแบบนี้

เคยไปร่วมประมูลสินค้ามั้ยล่ะครับ

เห็นเค้าเสนอราคากันสูงๆ ก็ฮึกเหิมเสนอแข่งกับเค้าบ้าง แต่สุดท้ายได้สินค้ามา พอตั้งสติได้ต้องมางงตัวเองว่า "ตูบ้ารึเปล่าฟะ ซื้อมาราคาขนาดนี้ได้ไง"

เค้าเรียกเจอ Demand เทียมครับ

ถ้าหุ้นดีต้องขึ้น - ก็ไม่มีหุ้นดีในตลาดครับ เพราะหุ้นทุกตัวมีขึ้นมีลง
ถ้าหุ้นไม่ดีต้องลง - ก็ไม่มีหุ้นไม่ดีในตลาดครับ เพราะหุ้นทุกตัวมีขึ้นมีลง

เพราะฉะนั้นมีทั้งหุ้นดีและไม่ดีอยู่ในตลาด และทั้งดีและไม่ดีนั้นมีขึ้นมีลง

ดังนั้นคนที่ฉลาด จึงซื้อหุ้นดีที่ราคาลงมาในระดับที่พอใจ เพื่อที่จะขายเมื่อหุ้นขึ้นอีกครั้งนึงในราคาที่พอใจ

ดังนั้นคนที่ฉลาด จึงไม่ซื้อหุ้นดีที่ราคาขึ้นไปแล้วเต็มมูลค่าหรือเกินมูลค่า เพราะมองว่ามีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเข้าไปซื้อเพื่อรอการขาดทุน

อะไรทำให้มันขึ้นหรือลง ----- ร้อยแปดครับ

จังหวะและโอกาสจึงสำคัญเสมอไม่ว่าในหุ้นหรือในชีวิตจิง

เห็นด้วยกับคุณคัดท้ายครับ .........

ถ้าไม่แน่ใจ ................

รอหงายไพ่ก่อน .................

มิฉะนั้น ...............

อาจหงายท้องงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง ....................55

ขึ้นอยู่กับว่าเราประเมินว่าสถานการณ์ที่ทำให้หุ้นลงมานั้นแค่ ชั่วคราว หรือ ไม่
ขีดความสามารถในเชิงการแข่งขันที่ลดลงไปมันถึงกับเปลี่ยนถาวรหรือเปล่า
ถ้าดูแล้วปัจจัยรุมเร้าต่างๆบริษัทนั้นน่าจะยังไม่สามารถฟื้นตัวได้หรือต้องใช้เวลา
อีกพอสมควร ผมคงรอก่อนที่จะเข้าซื้อและถ้าถืออยู่ผมคงขายก่อนครับ

ราคาต้องเทียบกับคุณภาพเสมอครับ
ถ้าหุ้นคุณภาพดีขึ้น แต่ราคาดันถูกลง น่าซื้อมั๊ยครับ
หุ้นคณภาพแย่ลง แต่ราคาดันขึ้น จะซื้อมั๊ยครับ
ราคาเป็นสิ่งที่เราเห็นชัด คุณภาพนี่สิ ต้องคิดกันเอาเอง
ผมว่า VI จะเก่งไม่เก่งก็อยู่ที่ว่าให้เห็นทะลุถึงคุณภาพของหุ้นได้ชัดกว่ากัน

คุณ nanchan ลองนึกตามตัวอย่างเรื่องกระเป๋าอีกทีก็ได้ครับ
กระเป๋าใบล่ะ 5000
วันต่อมาเห็น 4000 อาจจะไม่ซื้อเพราะมีรุ่นใหม่ออกมา ดีกว่าสวยกว่าแต่แพงกว่า
กับอีกกรณี กระเป๋าใบล่ะ 5000
วันต่อมามีรุ่นใหม่ออกมาสวยกว่าดีกว่าราคา 4000 คงไม่ต้องบอกนะครับว่าผมจะเลือกซื้อใบไหน 8)

การขึ้นลงของราคาหุ้นมีอะไรมากไปกว่าคุณภาพของหุ้นเยอะครับ

หุ้นลง
- panic sell กับข่าวที่ไม่เกี่ยวกับตัวหุ้นเลย (tsunami, ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น กับ PSL? 8) )
- การขายทำกำไรชุดใหญ่ๆ
- ผลตอบแทนไม่เป็นไปตามที่คนส่วนใหญ่คาดหวัง (จำได้ว่าตอน psl ประกาศปันผล 1.5 บาท ราคาตกจาก 56 เป็น 51 เลยเพราะคนส่วนใหญ่หวังว่าจะได้ 2.5+ บาท เหมือน TTA ทั้งๆที่ psl เอากำไร 60% ไปใช้หนี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมชอบมากกว่า)

เช่นเดียวกันกับหุ้นขึ้น มีอะไรหลายๆอย่างที่ทำให้หุ้นขึ้นได้ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานเลย อย่าง n-park จาก 1 บาทเป็น 8 บาท .. ผมคงไม่ซื้อเพราะคิดว่ามันดีหรอกเนอะ

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าราคาหุ้นจะไม่สำคัญ บางครั้งการขึ้นลงก็มาจากพื้นฐานด้วย ดังนั้นการซื้อหุ้นราคาถูกก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการวิแคะของตัวเราเองมากกว่า

จริงๆ มันก็เดากันทั้งนั้นแหละครับ

VI เดากำไร ส่วน VS ก็เดาแนวโน้มจากกราฟ

การที่เกิด Deal ซื้อขายกันมันก็บอกอยู่แล้วว่า คนคิดไม่เหมือนกัน

คนที่ซื้อก็เพราะคิดว่ามันถูกอยู่และจะขายต่อได้สูงกว่านี้ (ไม่งั้นจะซื้อทำอะไร)

คนที่ไม่ซื้อก็เพราะคิดว่าเดี๋ยวรอลงไปซื้อต่ำกว่านี้ก็ได้

ลงมาเพราะนายตลาด เขาให้ลง


ก็ดีครับ คนที่รออยู่จะได้ซื้อไงครับ

ถ้ามองหากำไรที่เป็น เงินสด (active income) ต้องซื้อหุ้นขึ้นครับ
ถ้ามองหากำไรที่เป็น กระแสเงินสดระยะยาว (passive income) ต้องซื้อหุ้นลงครับ

ปล. 1. บนพื้นฐานธุรกิจที่ไม่เปลี่ยนแปลงนะครับ
2. การเคลื่อนไหวของราคา ไม่จำเป็นต้องสัมพันธ์ กับคุณภาพธุรกิจ (แนวโน้ม)เสมอไปครับ บางทีเป็นเรื่องของอารมณ์ตลาด ( ความผันผวน ) โดยเฉพาะในระยะสั้น
3. ตาม แนวโน้ม และ หาประโยชน์จากความผันผวน ครับ

ถ้าทุกคนคิดเหมือนกันหมดก็ไม่การเกิดซื้อ-ขายสิครับ

ตอนที่คุณซื้อ หมายถึงคนอื่นกำลังขาย
ตอนที่คุณขาย หมายถึงคนอื่นกำลังซื้อ

ส่วนใครจะกำไรหรือขาดทุน อันนั้นอยู่ที่ฝีมือ (+โชค) ครับ