หน้า 1 จากทั้งหมด 1

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 10:22 pm
โดย LOSO
55

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 10:31 pm
โดย โป้ง
กันเงินไหลออกนอกประเทศ :mrgreen:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 10:32 pm
โดย jaychou
ค.

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 10:41 pm
โดย คนขายของ
ปู่แกเลี้ยงไข้อยู่ครับ

พวกที่แข็งแรงวิ่งหนีออกไปสบายใจแล้ว บางคนก็ออกมาแสดงผลงานที่ได้จากการหนีออกมาก่อน

ยังมีพวกที่อ่อนแอ ยังไม่ตัดสินใจ หรือ พวกกลับไปกลับมา ที่อาจจะยังคงมาช่วยกัน สูบลมต่อ

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 10:43 pm
โดย มือเก่าหัดขับ
เรียกเงินกลับมา
จะได้มาปั่นกันต่อ (ที่โน่น...) :lol:

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 11:14 pm
โดย charnwud
quote]
กันเงินไหลออกนอกประเทศ
[/quote]

This is the main reason.

America ,as a country, is having huge current account deficit, due to very negative trade balance (too much import, compared to export). So Greenspan needs to raise interest rate to ensure positive net capital inflow. This has several effects including stabilizaion of the economy, control inflation rate and US dollar.

888

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 22, 2005 11:52 pm
โดย genie
ปัจจุบันค่าเงินดอลล์อ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ยังผลให้มีต้นทุนการนำเข้าที่สูงขึ้น อีกทั้งอเมริกาเป็นประเทศผู้บริโภคมากเป็นอันดับหนึ่งของโลก อยู่ที่ประมาณ 25% ซึ่งถ้าเงินดอลล์อ่อนลงอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้อำนาจซื้อถดถอยและเศรษฐกิจหดตัว ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นการทำให้เงินทุนไหลเข้าและทำให้ค่าเงินแข็งค่าขึ้นและคงอำนาจซื้อไว้ได้ครับ

ปล.เป็นความคิดเห็นส่วนตัว :lol: :lol: :lol:

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 1:30 am
โดย woody
เงินเฟ้อ....ลดการขาดดุลซึ่งยังทำไม่ได้ซะที

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 10:46 am
โดย โอ@
ผมว่าเขาต้องการแก้ปัญหาการขาดดุลแฝดแหละครับ

อย่างน้อยก็เพื่อให้ลูกโป่งพองต่อไปได้อีก

ว่าแต่พวกพี่ๆคิดว่า มันโป่งขนาดไหนแล้ว

ผมเคยอ่านเจอว่าอเมริกาเป็นผู้บริโภคอย่างเดียว ทำไมไม่มีใครคิดว่า

อเมริกาเองก็ขยายบริษัทไปทั่วโลกมากมาย มีฐานที่นู่นที่นี่เต็มไปหมด เงินที่ไหลกลับเข้าประเทศมันก็เยอะนะ ถ้าถึงเวลาที่จะนำเข้ากลับไปเจริงๆ

แต่ทีนี้ในเมื่อลงทุนต่างประเทศได้ผลตอบแทนเยอะกว่าเค้าจะกลับไปทำไมกัน

ไม่เถียงว่าสังคมบริโภคนิยมของอเมริกาทำให้คนอเมริกาใช้อย่างเกินตัว ถ้าเทียบเป็นเปอร์เซนต์ผมก็คิดว่าคนอเมริกาเกินกว่าครึ่งใช้อย่างเกินตัว แต่ว่ามีส่วนอีกประมาณ 10 - 20 % ที่ช่วยอุ้มชูคนเหล่านั้นอยู่

พวกพี่ๆคนอื่นคิดยังไงบ้างครับ ว่าถ้ามันโป่งแล้วแตกขึ้นมาจริงๆจะเป็นยังไง
จะมากระทบพวกเราขนาดไหนบ้าง

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 4:11 pm
โดย genie
ประเทศอเมริกาเป็นประเทศผู้นำเข้าหลักสำคัญของโลก โดยมีสัดส่วนการนำเข้าประมาณ 25%ของทั้งโลก ดังนั้นหากอเมริกาล่มจะส่งผลกระทบต่อสินค้าส่งออกทั่วโลก และเศรษฐกิจโลกจะหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:01 pm
โดย chatchai
จริงๆแล้วบริษัทยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่กระจายการลงทุนไปทั่วโลกนั้น มีผลการดำเนินงานที่ดี แต่เนื่องจากการนำเงินกลับเข้าประเทศนั้นต้องเสียภาษีครับ จึงมักจะไม่นำกลับบริษัทแม่เท่าไร

แต่ปัจจุบันทางสหรัฐเริ่มจะลดภาษีการนำเงินปันผลเข้าประเทศแล้วครับ น่าติดตามทีเดียวครับ

แต่ผมก็งงนะครับ ในอดีตมีแต่ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ หรือลดลมในลูกโป่ง แต่เดี๋ยวนี้การขึ้นดอกเบี้ยกลับมีคนคิดว่าเป็นการเติมลม แปลกจัง

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:17 pm
โดย โอ@
ตามที่ผมคิด (ผิดถูกแก้ไขกันด้วยนะครับ)

การขึ้นดอกเบี้ยมีผลสองส่วน

ส่วนแรกคือทำให้เงินที่บูมอยู่ในตลาดหุ้น ตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการลงทุนไหลเข้าไปสู่การออมมากขึ้น ส่วนนี้จะทำให้เศรษฐกิจ ถูกลดความร้อนแรงลง

แต่ถ้าในอีกกรณีนึง การขึ้นดอกเบี้ยก็จะทำให้ทุนต่างประเทศไหลเข้าประเทศมากขึ้น เหมือนหลอกดุลบัญชีเงินสะพัดให้เป็นบวก ทั้งๆที่ดุลการค้าก็ยังลบไม่สิ้นสุด ถ้ายังเป็นสังคมบริโภคมากกว่าผลิตอยู่ต่อไป เป็นไปได้ว่าเงินที่เข้ามาไหลออกไปเมื่อดอกเบี้ยลด แล้วจะทำให้ลูกโป่งแตก

888

โพสต์แล้ว: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:19 pm
โดย Stock Broker
จูงใจประเทศที่นิยมสะสมดอลลาร์เป็นทุนสำรอง ไม่ให้ขายดอลลาร์ออกมาครับ