สาวญี่ปุ่น แจก3ล้านบาท
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 07, 2005 6:08 pm
..........
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2548
"ชาเขียว"แรงจัด เบียดน้ำผลไม้
นายวงศ์วุธ กุลปิยะวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลีบางกอก จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ตราชบา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ มูลค่า 3,600 ล้านบาทต่อปี กำลังเติบโตช้าลง โดยหลายปีที่ผ่านมา ตลาดมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% แต่ช่วงปี 2547 ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตแค่ 4%
สาเหตุที่ตลาดเติบโตลดลง เนื่องจากกระแสผู้บริโภคหันไปดื่มชาเขียว และเครื่องดื่มประเภทกาแฟสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดน้ำผลไม้รวมหดตัวลง ขณะที่ผู้เล่นในตลาดน้ำผลไม้แต่ละรายในตลาดไม่มีนวัตกรรมใหม่เข้ามากระตุ้นในตลาด
"เครื่องดื่มชาเขียวมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ทั้งแง่ของแพ็คเกจจิ้ง ซึ่งเป็นขวดและราคาไม่สูงนักเทียบกับน้ำผลไม่ที่มีราคาสูงกว่า ทำให้ตลาดน้ำผลไม้โดยรวมเติบโตลดลง" นายวงศ์วุธกล่าว
----------------------------------------------------------------------
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2548
Nation Group
ค้นหาข่าวย้อนหลัง
อย.เข้มผู้ผลิตชาเขียวต้องติดฉลาก "คาเฟอิน"
เลขาฯอย.ฮึ่มผู้ผลิตชาเขียวต้องปิดฉลากปริมาณกาเฟอีนในตำแหน่งที่ชัดเจน ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะเรียกสอบถามรายตัว เตือนอย่าเกาะกระแสสร้างสุขภาพโดยการอ้างสรรพคุณให้ชาเขียวเลิศเลอ ทั้งที่ไม่มีการทดลองทางคลินิคว่ามีสรรพคุณดีจริง ส่วนการเตือนประชาชนลดบริโภคกาเฟอีนนั้น เลขาฯ
ระบุคนดื่มรู้อยู่แล้วว่าจะได้กาเฟอีน
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึง กรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเรียกร้องให้ทางอย. คุมเข้มฉลากเครื่องดื่มชาเขียว
โดยกำหนดให้แสดงปริมาณกาเฟอีนและให้ปิดฉลากในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตามกฎหมาย ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าที่อย. ลงตรวจสอบว่ามีชาเขียวยี่ห้อใดที่ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ขออนุญาตไว้กับทางอย. หากพบว่า มีการทำผิดไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดเราคงต้องดำเนินการ โดยจะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไปและจะเชิญเจ้าของผลิตภัณฑ์ผู้ซักถามว่าเหตุใดจึงไม่ปฏิบัติตามที่อย.กำหนด
ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า สำหรับปริมาณกาเฟอีนในชาเขียวนั้น โดยปกติจะเป็นไปตามธรรมชาติซึ่งไม่สามารถกำหนดปริมาณที่แน่นอนได้ อีกทั้งผู้ผลิตแต่ละรายจะใส่ความเข้มข้นของใบชาแตกต่างกัน ทั้งนี้กฎหมายได้กำหนดเฉพาะเครื่องดื่มที่ต้องเติมสารกาเฟอีนสังเคราะห์ที่ต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อขวดบรรจุ
ในสมัยก่อนในส่วนของเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนตามธรรมชาติเช่น กาแฟ หรือชา จะต้องกำหนดปริมาณกาเฟอีนว่าไม่น้อยกว่าเท่าไร เนื่องจากเกรงจะมีการนำวัตถุดิบอื่นแทนกาแฟหรือใบชา เช่น บางรายเคยนำเม็ดมะขามคั่วมาบดแทนกาแฟ และในหมู่นักวิชาการยังถกกันเรื่องนี้ว่า คนนิยมดื่มชากาแฟมานับพันปี จะให้ยกเลิกคงลำบาก แต่ถ้าเพิ่งมีการนำมาใช้เหมือนชาเขียว ก็คงจะไม่อนุญาตแน่นอน เลขาธิการฯ อย. กล่าวและว่า ผู้บริโภคชากาแฟนั้นทราบอยู่แล้วว่า การดื่มชากาแฟไม่ว่าจะปริมาณเท่าใดก็ต้องได้รับกาเฟอีนอยู่แล้ว เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากต้องการกาเฟอีนเท่านั้น
ส่วนปริมาณน้ำตาลที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มชาเขียวนั้น ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าต้องผสมจำนวนเท่าใด และหากเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มอื่น ๆ
อย่างน้ำอัดลม ปริมาณน้ำตาลน้อยกว่ามาก
ศ.ดร.ภักดี กล่าวด้วยว่า เท่าที่อย.ได้ตรวจสอบปริมาณกาเฟอีนในชาเขียว ส่วนใหญ่ไม่เกิน 23-76 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิตร ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนน้อย
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการบรรจุน้ำดื่ม พร้อมทั้งยืนยันจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตีพิมพ์สรรพคุณของชาเขียว ที่ผ่านการทดลองทางคลินิกในวารสารวิชาการใด ๆ เลย ดังนั้นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายจะมาอวดอ้างสรรพคุณว่า ดีอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อสร้างกระแสเพื่อสุขภาพไม่ได้อย่างเด็ดขาด
------------------------------------------------------------------------
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2548 ปีที่ 14 ฉบับที่ 5243
"โออิชิ"ท้าตรวจพิสูจน์ชาหวาน
เนสท์เล่เต้นโต้อย.ยันนมไม่ปนเปื้อน
"ตัน โออิชิ" โต้ผลตรวจชาเขียวของอย.ที่ระบุมีส่วนผสมน้ำตาลมากผิดปกติ ยันไม่มีชาเขียวที่ไหนในโลกใส่น้ำตาลมากขนาดนั้น หากทำก็เป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม พรุ่งนี้จะนำโออิชิ กรีนทีไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใหม่ทั้งหมดเพื่อยืนยันมีปริมาณกาเฟอีนบนฉลากข้างขวดถูกต้อง ระบุเป็นไปไม่ได้ชาเขียวจะมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เชื่อข้อมูลของอย.และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคผิดพลาด "หมอสุชัย" สั่งอย.ฟันบริษัทผลิตนมปนเปื้อนแบคทีเรีย
จากกรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุผลการตรวจเครื่องดื่ม 43 ยี่ห้อ พบชาเขียวมีสารกาเฟอีนปริมาณมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลังบางยี่ห้อ ขวดเดียวมีน้ำตาล 16 ช้อนชา จนอาจเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 เม.ย. บริษัทจะนำเครื่องดื่มโออิชิ กรีนที เข้าไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใหม่ทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าปริมาณกาเฟอีนที่ติดบนฉลากข้างขวดนั้นถูกต้อง ปกติบริษัทจะนำสินค้าทุกขวดที่ออกรสชาติใหม่ไปให้กรมวิทยาศาสตร์ฯตรวจสอบอยู่แล้ว ว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ และปริมาณกาเฟอีน ปริมาณน้ำตาลเป็นเท่าใดที่จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หลังจากนั้นจะนำผลการตรวจไปให้คณะกรรมการอาหารและยา หรืออย.รับรอง แล้วจึงจะติดฉลากข้างขวดตามความจริงที่ตรวจสอบได้ ซึ่งใบตรวจล่าสุดมีอายุ 1 ปีแล้ว จึงต้องการจะตรวจสอบใหม่เพื่อพิสูจน์ตัวเองและไม่ได้ปิดบังความจริงแต่อย่างใด
"โลกปัจจุบันนี้ไม่มีความลับต่อกันแล้ว จะมาหาว่าเจ้าของสินค้าปิดบังความจริงได้อย่างไร และเชื่อว่าข้อมูลที่ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคนำเสนอนั้นผิดพลาด คงไม่มีบริษัทใดหรอก ที่ต้องการขายสินค้าแบบผิดจริยธรรมและบริษัทใหญ่ๆ ไม่มีใครมานั่งทำแบบนี้หรอก เหมือนฆ่าตัวตายทางอ้อม ไม่รู้ว่าไปตรวจกันอย่างไร จึงทำให้ข้อมูลออกมาอย่างนี้ ผลออกมาต่างกันถึง 40% ทั้งนี้ผลต่างน่าจะบวกลบไม่เกิน 1% เท่านั้นจากใบชาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ชาเขียวจะมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะทุกวันนี้ทั้งตัวผมเองและลูกชายดื่มชาเขียวแทนน้ำ หากชาเขียวมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง คงไม่ต้องนอนกันแล้ว" นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวต่อว่า ขอยืนยันถึงปริมาณกาเฟอีนที่ติดอยู่บนข้างขวดของเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิทุกขวดว่าถูกต้องตามที่ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ในไต้หวัน สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีการระบุปริมาณกาเฟอีนไว้บนข้างขวดเหมือนกับในประเทศไทย แต่เครื่องดื่มที่ขายดีที่สุดรองจากน้ำดื่มคือชาเขียว หากชาเขียวมีปริมาณกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง คงไม่ปล่อยให้ชาเขียวที่มีกาเฟอีนสูงขนาดนั้นขายแน่นอน
ขณะเดียวกันฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มยูนิฟ กรีนที ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องมีการประชุมเจรจากับทางผู้บริหารระดับสูงก่อน แต่เบื้องต้นมั่นใจว่า ปริมาณกาเฟอีนและน้ำตาลที่ระบุบนฉลากข้างขวดนั้นถูกต้อง ไม่มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด โดยในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 14.00 น. บริษัทจะมีการแจกรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ให้กับผู้โชคดีในแคมเปญ ล้านฝา ล้านรางวัล ที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า ซึ่งแคมเปญดังกล่าว บริษัทจัดขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ.และจะสิ้นสุด 31 พ.ค.นี้
ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ เอนเทอโรแบคเตอร์ ซากาซากิ (Enterobacter Sakazakii) ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทารกแรกเกิด - 1 ขวบ โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทารกที่มีภูมิต้านทานต่ำและทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ แต่มีรายงานการติดเชื้อในเด็กและผู้ใหญ่ด้วย ทำให้เกิดโรคสมองและไขสันหลังอักเสบ โลหิตเป็นพิษ ลำไส้และกระเพาะอาหารอักเสบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยพบเชื้อดังกล่าวในนมผงดัดแปลงสำหรับทารก 3 ยี่ห้อ ได้แก่ 1.นมผงเมจิ เอฟ - เอ็ม/ที ของบริษัท เมจิเอ็มจีซี เดวี ออสเตรียเลีย จำกัด 2.ยี่ห้อแนน 1 ของบริษัท เนสท์เล่ นีเดอร์แลนด์เบ.เว.เนเธอร์แลนด์ จำกัด และ3.ยี่ห้อ ซิมิแลค ดีเอชเอ+เออาร์เอ ของบริษัท แอ็บบอต ลาบอแรดอรี่ส์ เอส เอ. แกรนาดา สเปน จำกัด ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามโครงการศึกษาความเสี่ยงของเชื้อดังกล่าว ในนมผงดัดแปลงสำหรับทารก เพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย ให้บริโภคอาหารปลอดภัย ซึ่งอย.เรียกเก็บนมผงรุ่นที่มีปัญหาออกจากท้องตลาดอย่างเร่งด่วนเพื่อทำลายแล้วนั้น
วันเดียวกัน น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ตนสั่งการให้อย.ดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้ว ซึ่งการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในนมผงเด็กดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าระบบการเฝ้าระวังป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขไทยเป็นไปอย่างเข้มงวดและรวดเร็ว ไม่ใช่รอให้ปัญหาเกิดก่อน จากการตรวจสอบสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนในประเทศไทยจากโรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ ยังไม่พบการป่วยจากการติดเชื้อเอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากิ แต่อย่างใด
"ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้มั่นใจระบบการคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคของกระทรวงสาธารณสุขได้ นมที่พบมีการปนเปื้อนเชื้อได้เก็บออกจากท้องตลาดหมดแล้ว ขอยืนยันว่านมผงทุกยี่ห้อที่วางในท้องตลาดขณะนี้มีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้" รมว.สาธารณสุข กล่าว
น.พ.สุชัย กล่าวต่อว่า สินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้น จะต้องผ่านการตรวจสอบตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข และต้องมีใบรับรองจากประเทศต้นตอการผลิตซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลในระดับนานาชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจ สธ.จะทำหน้าที่คุ้มครองดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะนี้สธ.มีห้องปฏิบัติการทันสมัยที่ใช้ในการตรวจสอบ หากพบสินค้าใดผิดปกติ หรือมีความปลอดภัยต่ำจะดำเนินการตามกฎหมาย ห้ามวางจำหน่ายอย่างเด็ดขาดและจะแจ้งให้ประชาชนทราบทันที
ด้านบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด หนึ่งในเจ้าของผลิตภัณฑ์นมผงยี่ห้อ NAN 1 ที่ถูกอย.ว่ามีเชื้อจุลินทรีย์เอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากินั้น ส่งแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า หลังอย.แจ้งให้ทราบ บริษัทได้ดำเนินการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าวทันที แต่ยืนยัน NAN 1 ปราศจากเชื้อดังกล่าว มั่นใจปลอดภัยต่อทารกสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงแล้วเชื้อเอนเทอโรแบคเตอร์ ซากาซากินั้น เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ ทั้งในอาหาร ในน้ำและสภาพแวดล้อมทั้งที่อยู่ในครัวเรือนและโรงพยาบาล หากพบเชื้อนี้ในอาหารสำหรับทารกในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่นานาชาติได้กำหนดไว้ ถือเป็นระดับที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับบริโภค
ทั้งนี้จากการตรวจวิเคราะห์เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่เนเธอร์แลนด์ของตัวอย่างในนมผงรุ่นนี้จากสายการผลิตเดียวกัน ก็ไม่มีการตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นบริษัทจึงมีความเชื่อมั่นอย่างสูงถึงผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีประสบการณ์ในการด้านการตรวจสอบคุณภาพระดับสากล
นอกจากนี้เกณฑ์การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์นี้ รวมทั้งการตรวจเชื้อจุลินทรีย์เอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากิ ก็เป็นที่ยอมรับและตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้จากหน่วยงานรัฐของไทยและหน่วยงานระดับนานาชาติ เช่น มาตรฐานและข้อบังคับขององค์การอนามัยโลกและสหภาพยุโรป จึงขอให้ความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า NAN 1 รุ่นดังกล่าว ตลอดจนผลิตภัณฑ์สำหรับทารกสูตรอื่นๆ ของเนสท์เล่มีความปลอดภัยสูงสุดต่อทารกแน่นอน
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2548
"ชาเขียว"แรงจัด เบียดน้ำผลไม้
นายวงศ์วุธ กุลปิยะวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลีบางกอก จำกัด ผู้ผลิตน้ำผลไม้ตราชบา เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดน้ำผลไม้ มูลค่า 3,600 ล้านบาทต่อปี กำลังเติบโตช้าลง โดยหลายปีที่ผ่านมา ตลาดมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% แต่ช่วงปี 2547 ที่ผ่านมา มีอัตราเติบโตแค่ 4%
สาเหตุที่ตลาดเติบโตลดลง เนื่องจากกระแสผู้บริโภคหันไปดื่มชาเขียว และเครื่องดื่มประเภทกาแฟสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น ทำให้ตลาดน้ำผลไม้รวมหดตัวลง ขณะที่ผู้เล่นในตลาดน้ำผลไม้แต่ละรายในตลาดไม่มีนวัตกรรมใหม่เข้ามากระตุ้นในตลาด
"เครื่องดื่มชาเขียวมีคุณสมบัติที่สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคได้ทั้งแง่ของแพ็คเกจจิ้ง ซึ่งเป็นขวดและราคาไม่สูงนักเทียบกับน้ำผลไม่ที่มีราคาสูงกว่า ทำให้ตลาดน้ำผลไม้โดยรวมเติบโตลดลง" นายวงศ์วุธกล่าว
----------------------------------------------------------------------
วันพฤหัสบดีที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2548
Nation Group
ค้นหาข่าวย้อนหลัง
อย.เข้มผู้ผลิตชาเขียวต้องติดฉลาก "คาเฟอิน"
เลขาฯอย.ฮึ่มผู้ผลิตชาเขียวต้องปิดฉลากปริมาณกาเฟอีนในตำแหน่งที่ชัดเจน ถ้าไม่ปฏิบัติตามจะเรียกสอบถามรายตัว เตือนอย่าเกาะกระแสสร้างสุขภาพโดยการอ้างสรรพคุณให้ชาเขียวเลิศเลอ ทั้งที่ไม่มีการทดลองทางคลินิคว่ามีสรรพคุณดีจริง ส่วนการเตือนประชาชนลดบริโภคกาเฟอีนนั้น เลขาฯ
ระบุคนดื่มรู้อยู่แล้วว่าจะได้กาเฟอีน
ศ.ดร.ภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึง กรณีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคเรียกร้องให้ทางอย. คุมเข้มฉลากเครื่องดื่มชาเขียว
โดยกำหนดให้แสดงปริมาณกาเฟอีนและให้ปิดฉลากในตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนตามกฎหมาย ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าที่อย. ลงตรวจสอบว่ามีชาเขียวยี่ห้อใดที่ไม่ปฏิบัติตามที่ได้ขออนุญาตไว้กับทางอย. หากพบว่า มีการทำผิดไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนดเราคงต้องดำเนินการ โดยจะต้องพิจารณาเป็นราย ๆ ไปและจะเชิญเจ้าของผลิตภัณฑ์ผู้ซักถามว่าเหตุใดจึงไม่ปฏิบัติตามที่อย.กำหนด
ศ.ดร.ภักดี กล่าวต่อว่า สำหรับปริมาณกาเฟอีนในชาเขียวนั้น โดยปกติจะเป็นไปตามธรรมชาติซึ่งไม่สามารถกำหนดปริมาณที่แน่นอนได้ อีกทั้งผู้ผลิตแต่ละรายจะใส่ความเข้มข้นของใบชาแตกต่างกัน ทั้งนี้กฎหมายได้กำหนดเฉพาะเครื่องดื่มที่ต้องเติมสารกาเฟอีนสังเคราะห์ที่ต้องไม่เกิน 50 มิลลิกรัมต่อขวดบรรจุ
ในสมัยก่อนในส่วนของเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนตามธรรมชาติเช่น กาแฟ หรือชา จะต้องกำหนดปริมาณกาเฟอีนว่าไม่น้อยกว่าเท่าไร เนื่องจากเกรงจะมีการนำวัตถุดิบอื่นแทนกาแฟหรือใบชา เช่น บางรายเคยนำเม็ดมะขามคั่วมาบดแทนกาแฟ และในหมู่นักวิชาการยังถกกันเรื่องนี้ว่า คนนิยมดื่มชากาแฟมานับพันปี จะให้ยกเลิกคงลำบาก แต่ถ้าเพิ่งมีการนำมาใช้เหมือนชาเขียว ก็คงจะไม่อนุญาตแน่นอน เลขาธิการฯ อย. กล่าวและว่า ผู้บริโภคชากาแฟนั้นทราบอยู่แล้วว่า การดื่มชากาแฟไม่ว่าจะปริมาณเท่าใดก็ต้องได้รับกาเฟอีนอยู่แล้ว เพราะเครื่องดื่มเหล่านี้ไม่ได้มีประโยชน์อะไรนอกจากต้องการกาเฟอีนเท่านั้น
ส่วนปริมาณน้ำตาลที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มชาเขียวนั้น ไม่มีกฎหมายกำหนดว่าต้องผสมจำนวนเท่าใด และหากเปรียบเทียบกับเครื่องดื่มอื่น ๆ
อย่างน้ำอัดลม ปริมาณน้ำตาลน้อยกว่ามาก
ศ.ดร.ภักดี กล่าวด้วยว่า เท่าที่อย.ได้ตรวจสอบปริมาณกาเฟอีนในชาเขียว ส่วนใหญ่ไม่เกิน 23-76 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิตร ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนน้อย
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณการบรรจุน้ำดื่ม พร้อมทั้งยืนยันจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตีพิมพ์สรรพคุณของชาเขียว ที่ผ่านการทดลองทางคลินิกในวารสารวิชาการใด ๆ เลย ดังนั้นผู้ผลิตและผู้จำหน่ายจะมาอวดอ้างสรรพคุณว่า ดีอย่างนั้นอย่างนี้เพื่อสร้างกระแสเพื่อสุขภาพไม่ได้อย่างเด็ดขาด
------------------------------------------------------------------------
วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2548 ปีที่ 14 ฉบับที่ 5243
"โออิชิ"ท้าตรวจพิสูจน์ชาหวาน
เนสท์เล่เต้นโต้อย.ยันนมไม่ปนเปื้อน
"ตัน โออิชิ" โต้ผลตรวจชาเขียวของอย.ที่ระบุมีส่วนผสมน้ำตาลมากผิดปกติ ยันไม่มีชาเขียวที่ไหนในโลกใส่น้ำตาลมากขนาดนั้น หากทำก็เป็นการฆ่าตัวตายทางอ้อม พรุ่งนี้จะนำโออิชิ กรีนทีไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใหม่ทั้งหมดเพื่อยืนยันมีปริมาณกาเฟอีนบนฉลากข้างขวดถูกต้อง ระบุเป็นไปไม่ได้ชาเขียวจะมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เชื่อข้อมูลของอย.และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคผิดพลาด "หมอสุชัย" สั่งอย.ฟันบริษัทผลิตนมปนเปื้อนแบคทีเรีย
จากกรณีมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ระบุผลการตรวจเครื่องดื่ม 43 ยี่ห้อ พบชาเขียวมีสารกาเฟอีนปริมาณมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลังบางยี่ห้อ ขวดเดียวมีน้ำตาล 16 ช้อนชา จนอาจเกิดอันตรายต่อผู้บริโภค ตามที่เสนอข่าวแล้วนั้น
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายตัน ภาสกรนที ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในวันที่ 7 เม.ย. บริษัทจะนำเครื่องดื่มโออิชิ กรีนที เข้าไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจสอบใหม่ทั้งหมด เพื่อยืนยันว่าปริมาณกาเฟอีนที่ติดบนฉลากข้างขวดนั้นถูกต้อง ปกติบริษัทจะนำสินค้าทุกขวดที่ออกรสชาติใหม่ไปให้กรมวิทยาศาสตร์ฯตรวจสอบอยู่แล้ว ว่ามีสารปนเปื้อนหรือไม่ และปริมาณกาเฟอีน ปริมาณน้ำตาลเป็นเท่าใดที่จะไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หลังจากนั้นจะนำผลการตรวจไปให้คณะกรรมการอาหารและยา หรืออย.รับรอง แล้วจึงจะติดฉลากข้างขวดตามความจริงที่ตรวจสอบได้ ซึ่งใบตรวจล่าสุดมีอายุ 1 ปีแล้ว จึงต้องการจะตรวจสอบใหม่เพื่อพิสูจน์ตัวเองและไม่ได้ปิดบังความจริงแต่อย่างใด
"โลกปัจจุบันนี้ไม่มีความลับต่อกันแล้ว จะมาหาว่าเจ้าของสินค้าปิดบังความจริงได้อย่างไร และเชื่อว่าข้อมูลที่ทางมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคนำเสนอนั้นผิดพลาด คงไม่มีบริษัทใดหรอก ที่ต้องการขายสินค้าแบบผิดจริยธรรมและบริษัทใหญ่ๆ ไม่มีใครมานั่งทำแบบนี้หรอก เหมือนฆ่าตัวตายทางอ้อม ไม่รู้ว่าไปตรวจกันอย่างไร จึงทำให้ข้อมูลออกมาอย่างนี้ ผลออกมาต่างกันถึง 40% ทั้งนี้ผลต่างน่าจะบวกลบไม่เกิน 1% เท่านั้นจากใบชาธรรมชาติ เพราะฉะนั้นเป็นไปไม่ได้ที่ชาเขียวจะมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะทุกวันนี้ทั้งตัวผมเองและลูกชายดื่มชาเขียวแทนน้ำ หากชาเขียวมีกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง คงไม่ต้องนอนกันแล้ว" นายตัน กล่าว
นายตัน กล่าวต่อว่า ขอยืนยันถึงปริมาณกาเฟอีนที่ติดอยู่บนข้างขวดของเครื่องดื่มชาเขียวโออิชิทุกขวดว่าถูกต้องตามที่ได้ผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ในไต้หวัน สิงคโปร์ หรือญี่ปุ่น ซึ่งไม่มีการระบุปริมาณกาเฟอีนไว้บนข้างขวดเหมือนกับในประเทศไทย แต่เครื่องดื่มที่ขายดีที่สุดรองจากน้ำดื่มคือชาเขียว หากชาเขียวมีปริมาณกาเฟอีนมากกว่าเครื่องดื่มชูกำลัง คงไม่ปล่อยให้ชาเขียวที่มีกาเฟอีนสูงขนาดนั้นขายแน่นอน
ขณะเดียวกันฝ่ายประชาสัมพันธ์บริษัท ยูนิ-เพรสซิเดนท์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มยูนิฟ กรีนที ระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถให้ข้อมูลได้ ต้องมีการประชุมเจรจากับทางผู้บริหารระดับสูงก่อน แต่เบื้องต้นมั่นใจว่า ปริมาณกาเฟอีนและน้ำตาลที่ระบุบนฉลากข้างขวดนั้นถูกต้อง ไม่มีการปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด โดยในวันที่ 7 เม.ย. เวลา 14.00 น. บริษัทจะมีการแจกรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ ให้กับผู้โชคดีในแคมเปญ ล้านฝา ล้านรางวัล ที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า ซึ่งแคมเปญดังกล่าว บริษัทจัดขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ.และจะสิ้นสุด 31 พ.ค.นี้
ส่วนกรณีสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ตรวจพบเชื้อแบคทีเรีย ชื่อ เอนเทอโรแบคเตอร์ ซากาซากิ (Enterobacter Sakazakii) ซึ่งเป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทารกแรกเกิด - 1 ขวบ โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด ทารกที่มีภูมิต้านทานต่ำและทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ แต่มีรายงานการติดเชื้อในเด็กและผู้ใหญ่ด้วย ทำให้เกิดโรคสมองและไขสันหลังอักเสบ โลหิตเป็นพิษ ลำไส้และกระเพาะอาหารอักเสบอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ โดยพบเชื้อดังกล่าวในนมผงดัดแปลงสำหรับทารก 3 ยี่ห้อ ได้แก่ 1.นมผงเมจิ เอฟ - เอ็ม/ที ของบริษัท เมจิเอ็มจีซี เดวี ออสเตรียเลีย จำกัด 2.ยี่ห้อแนน 1 ของบริษัท เนสท์เล่ นีเดอร์แลนด์เบ.เว.เนเธอร์แลนด์ จำกัด และ3.ยี่ห้อ ซิมิแลค ดีเอชเอ+เออาร์เอ ของบริษัท แอ็บบอต ลาบอแรดอรี่ส์ เอส เอ. แกรนาดา สเปน จำกัด ซึ่งเป็นการตรวจสอบตามโครงการศึกษาความเสี่ยงของเชื้อดังกล่าว ในนมผงดัดแปลงสำหรับทารก เพื่อคุ้มครองสุขภาพอนามัยของประชาชนไทย ให้บริโภคอาหารปลอดภัย ซึ่งอย.เรียกเก็บนมผงรุ่นที่มีปัญหาออกจากท้องตลาดอย่างเร่งด่วนเพื่อทำลายแล้วนั้น
วันเดียวกัน น.พ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข เปิดเผยความคืบหน้าเรื่องนี้ว่า ตนสั่งการให้อย.ดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้ว ซึ่งการตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในนมผงเด็กดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าระบบการเฝ้าระวังป้องกันของกระทรวงสาธารณสุขไทยเป็นไปอย่างเข้มงวดและรวดเร็ว ไม่ใช่รอให้ปัญหาเกิดก่อน จากการตรวจสอบสถานการณ์การเจ็บป่วยของประชาชนในประเทศไทยจากโรคเยื่อหุ้มสมองและไขสันหลังอักเสบ ยังไม่พบการป่วยจากการติดเชื้อเอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากิ แต่อย่างใด
"ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และขอให้มั่นใจระบบการคุ้มครองความปลอดภัยผู้บริโภคของกระทรวงสาธารณสุขได้ นมที่พบมีการปนเปื้อนเชื้อได้เก็บออกจากท้องตลาดหมดแล้ว ขอยืนยันว่านมผงทุกยี่ห้อที่วางในท้องตลาดขณะนี้มีความปลอดภัยสามารถบริโภคได้" รมว.สาธารณสุข กล่าว
น.พ.สุชัย กล่าวต่อว่า สินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดที่จะเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้น จะต้องผ่านการตรวจสอบตามกฎของกระทรวงสาธารณสุข และต้องมีใบรับรองจากประเทศต้นตอการผลิตซึ่งถือเป็นมาตรฐานสากลในระดับนานาชาติ ขอให้ประชาชนมั่นใจ สธ.จะทำหน้าที่คุ้มครองดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะนี้สธ.มีห้องปฏิบัติการทันสมัยที่ใช้ในการตรวจสอบ หากพบสินค้าใดผิดปกติ หรือมีความปลอดภัยต่ำจะดำเนินการตามกฎหมาย ห้ามวางจำหน่ายอย่างเด็ดขาดและจะแจ้งให้ประชาชนทราบทันที
ด้านบริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด หนึ่งในเจ้าของผลิตภัณฑ์นมผงยี่ห้อ NAN 1 ที่ถูกอย.ว่ามีเชื้อจุลินทรีย์เอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากินั้น ส่งแถลงการณ์ชี้แจงกรณีที่เกิดขึ้นว่า หลังอย.แจ้งให้ทราบ บริษัทได้ดำเนินการเรียกเก็บผลิตภัณฑ์รุ่นดังกล่าวทันที แต่ยืนยัน NAN 1 ปราศจากเชื้อดังกล่าว มั่นใจปลอดภัยต่อทารกสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ความเป็นจริงแล้วเชื้อเอนเทอโรแบคเตอร์ ซากาซากินั้น เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่สามารถพบได้ทั่วไปในธรรมชาติ ทั้งในอาหาร ในน้ำและสภาพแวดล้อมทั้งที่อยู่ในครัวเรือนและโรงพยาบาล หากพบเชื้อนี้ในอาหารสำหรับทารกในระดับที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่นานาชาติได้กำหนดไว้ ถือเป็นระดับที่ปลอดภัยและเหมาะสำหรับบริโภค
ทั้งนี้จากการตรวจวิเคราะห์เพื่อควบคุมคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ที่เนเธอร์แลนด์ของตัวอย่างในนมผงรุ่นนี้จากสายการผลิตเดียวกัน ก็ไม่มีการตรวจพบเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้นบริษัทจึงมีความเชื่อมั่นอย่างสูงถึงผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการที่เนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีประสบการณ์ในการด้านการตรวจสอบคุณภาพระดับสากล
นอกจากนี้เกณฑ์การตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์ของผลิตภัณฑ์นี้ รวมทั้งการตรวจเชื้อจุลินทรีย์เอนเทอโรแบคเตอร์ซากาซากิ ก็เป็นที่ยอมรับและตรงตามมาตรฐานที่กำหนดไว้จากหน่วยงานรัฐของไทยและหน่วยงานระดับนานาชาติ เช่น มาตรฐานและข้อบังคับขององค์การอนามัยโลกและสหภาพยุโรป จึงขอให้ความมั่นใจแก่ผู้บริโภคว่า NAN 1 รุ่นดังกล่าว ตลอดจนผลิตภัณฑ์สำหรับทารกสูตรอื่นๆ ของเนสท์เล่มีความปลอดภัยสูงสุดต่อทารกแน่นอน