พวกท่านทั้งหลายเริ่มลงทุนเล่นหุ้นด้วยเงินเท่าไหร่ครับ

[siamkom]

พวกท่านทั้งหลายเริ่มลงทุนเล่นหุ้นด้วยเงินเท่าไหร่ครับ
ที่ถามเพราะอยากเป็นข้อมูลครับ ไม่มีอคติใด ๆ นะครับ
เพราะว่าตอนนี้ผมเป็นพนักงานประจำมีเงินเก็บประมาณ 3,000 - 5,000 บาทต่อเดือน มีความคิดที่อยากจะลงทุนในหุ้น และเห็นว่าแนวทางการลงทุนแบบ Value Investor นี่น่าสนใจสามารถที่จะออกจาก "สนามแข่งหนูได้"
ผมมีข้อสงสัยในการลงทุนว่า
ถ้าผมทยอยเก็บซื้อหุ้นเดือนละประมาณ 3,000-5,000 บาทจะดีไหมครับ
หรือว่า
ควรจะรอให้มีเงินเป็นก้อนใหญ่ ๆ ก่อน ซักประมาณ 30,000 - 50,000 บาทก่อนแล้วค่อยซื้อทีเดียวดีครับ (แบบนี้กว่าจะซื้อได้ก็รอ 10 เดือนซื้อครั้งแหละครับ) ถ้าเป็นแบบหลังระหว่างที่เรารอเงินเป็นก้อนใหญ่ ๆ เราควรจะศึกษาข้อมูลอย่างไรเพิ่มเติมดีครับ
แต่ตอนนี้ที่ทำอยู่ก็เป็นแบบแรกแหล่ะครับ มีเงินแล้วก็อยากซื้อหุ้นดีๆเก็บไว้นะครับก็เลยซื้อบ่อย ^_^
ใครมีประสบการณ์ในการเริ่มลงทุนช่วยเล่าให้ฟังบ้างด้วยนะครับ
ขอบคุณมากครับ

[Jeng]

ซื้อที่ละน้อยๆดีแล้วครับ เรื่องของจำนวนเงินไม่สำคัญครับ ขอให้เราลงทุนหมดตัวไปเลย( เราจะได้ตั้งใจศึกษา ) ถึงน้อยก็ไม่เป็นไร( เพราะว่าลงหมดตัวแล้ว ก็ต้องถือว่ามากสำหรับเรา )เพราะว่าถ้าเป็นเงินทั้งหมดที่เรามี เราจะตั้งใจ และมีความเครียดพอเพียง ที่จะเรียนรู้

การลงทุนทีละน้อยๆแต่ลงให้หมดตัวไปเลย จะดีมาก เพราะถ้าขาดทุนยังไงๆ ก็ขาดทุนนิดเดียว

ผมหมายถึงกรณีนี้นะครับ คือการลงทุนทีละ 3000 - 5000 แล้วลงทุนไปเรื่อยๆ ผมว่าจะดีกว่า เก็บเงินไป จนกระทั่งมีเงินก้อน แล้วก็ศึกษาไปเรื่อยๆ พอพร้อมแล้ว ก็ลงตูมไปเลย ผมคิดว่า แบบหลัง จะขาดทุนหนัก

แต่ถ้าเราลงไปเรื่อยๆ เรียนรู้จากสถานการณ์จริง ไปเรื่อยๆ แบบนี้สุดยอดครับ

หมายเหตุ มีหลายคน สำเร็จในธุรกิจที่ตัวเองทำ แล้วนึกว่าตัวเองเก่งมาก คาดการณ์อะไรถูกและคิดว่าตลาดหุ้นหมูมาก คนเหล่านั้นหลายๆคน เจ็บตัวไปหลายสิบล้าน เลิกเล่นแล้วก็มี กำลังสู้ต่อเพราะกลัวเสียหน้าก็มี ฝืนยิ้มฝืนหัวเราะ หน้าชื่นอกตรมก็มี บางคนถลำตัวลึก เล่นมาร์จิ้น เครียดนอนไม่หลับก็มี

ขอให้โชคดี

[ลูกอิสาน]

จริงๆแล้วเงินมากเงินน้อยก็ไม่สำคัญครับ
ขอให้ไปถูกทาง เพราะไปผิดทาง เงินมากก็อาจจะหมดตัว
ไปถูกทาง เงินน้อยก็เป็นเงินใหญ่ได้

3,000-5,000 บาทต่อเดือนกำลังดีครับ ผมก็คงทำตามคำแนะนำของพี่เจ๋ง
ทยอยซื้อ ทยอยศึกษาไปเรื่อย แต่รอสัก 2-3 เดือนแล้วซื้ออาจจะประหยัดค่าคอมได้บ้าง เว้นแต่เปิดบัญชีที่โบรคไม่คิดค่าคอมขั้นต่ำแบบซีมีโค

[harry]

ผมเริ่มแค่เดือนละ 1000-2000 บาทเท่านั้นเอง เฮ้อ เมื่อไหร่จะกลายเป็นหลักล้านนะ

[เพื่อนพูห์]

ผมเริ่มต้นครั้งแรกกลางปี 03 ด้วยเงิน 25% ของเงินเก็บ พอเห็นหุ้นวิ่ง เริ่มได้ใจ จากนั้นค่อยๆ เพิ่มเงินเข้าไป 50% , 75% ปลายปีมูลค่าพอร์ตเพิ่มขึ้น 30% เห็นว่าราคาขึ้นมามาก เพราะหุ้นเริ่มขึ้นมาตั้งแต่ปี 02 แล้ว จึงขาย

แต่แล้ว... ก็ต้องกลับมาซื้อด้วยเงินทั้งหมด 100% ตอนต้นปี 04 เพราะช่วงนั้นข่าวดีเยอะมั๊กๆ

ปัจจุบัน เท่าทุน และถือหุ้นเพียง 10% ของพอร์ต เพราะต้องค้ำประกันวงเงิน ถ้าขายได้ขายหมด 100% ไปละ

สิ่งที่พอจะแนะนำได้คือ คุณไม่ต้องไปกังวลกับจำนวนเงินที่จะนำไปลงทุนมากนัก ไม่ว่าจะทะยอยซื้อ หรือซื้อทีเดียวหมดหน้าตัก แต่สิ่งที่คุณควรจะให้ความสนใจคือ

อนาคตของกิจการที่คุณกำลังซื้อ

อย่าซื้อเพราะมีข่าวดี
อย่าซื้อเพราะไม่รู้ว่าจะเอาเงินสดไปทำอะไร
อย่าซื้อเพราะดอกเบี้ยเงินฝากต่ำ เงินเฟ้อมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก
อย่าซื้อเพราะมีคนที่พูดจาน่าเชื่อถือแนะนำ
อย่าซื้อเพราะหนังสือพิมพ์ลงข่าวบริษัท หรือมีโฆษณาของบริษัทในทีวี วิทยุบ่อยๆ จนผิดสังเกต
อย่าซื้อเพราะปัจจุบันกิจการมีกำไรมากมายมหาศาล
อย่าซื้อเพราะบริษัทจ่ายเงินปันผลมากกว่าบริษัทอื่น
อย่าซื้อเพราะราคาลงมามากแล้ว
อย่าซื้อเพราะหุ้นวิ่ง ตัวเลขบนกระดานสีเขียวๆ ทุกวี่ทุกวัน
อย่าซื้อเพราะเป็นหุ้นที่คุณกำลังคิดจะซื้อ แล้วราคาก็วิ่งขึ้นไปต่อหน้าต่อตา
อย่าซื้อเพราะราคาลงมาจากราคาที่คุณซื้อไว้ครั้งก่อนมากแล้ว (ซื้อเฉลี่ย)
อย่าซื้อเพราะคุณเพิ่งขายหุ้นตัวอื่นที่ได้กำไรออกไป และกำลังมองหาหุ้นตัวใหม่

... อีกมากมายหลายเหตุผลที่ไม่ควรซื้อหุ้น

[Dr.T]

52500 บาท กับ BT ครับ

[วัวแดง]

ผมเริ่มต้น 50,000 บาทครับ ตอนเรียนอยู่ปีประมาณปี 2 แล้วเจ็บตัว จึงถอยออกไป ปี43-44 ..................

จบมา3ปี เที่ยวไป 1 ปี เริ่มทำงานอีกครั้ง จับกระแสรับเหมาก่อสร้างบูม ประกันตัวผู้ต้องหา ประมูลที่ดินมาขาย ทำมาแล้วสารพัด จึงได้เงินมาก้อนนึง จึงมาลงทุนอีกครั้ง....... ทุกสิ่งมาจากการทำงานหนัก

ตอนนี้ ว่างงานครับ

[akekarat]

ผมเริ่มต้นที่ 50,000 บาทปลายปี 2001 โดยที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับหุ้นเลย งบการเงินก็อ่านไม่เป็น จนถึงปลายมกราคม 2002 ก็ขาดทุนไปประมาณ 10,000 บาท กับการซื้อมาขายไปแทบจะรายวัน หวังเพียงแค่ส่วนต่าง 2-3 step... จำได้เลย ตัวแรกที่ซื้อคือ QH-W2 เพราะช่วงนั้นนิยมเล่น warrant กันมาก สมัยที่ SCB-C1 กำลังเริ่มเป็นที่นิยมอีกรอบ

หลังจากขาดทุนก็เริ่มใจเสีย เลยคิดว่าน่าจะปรับปรุงการเล่นใหม่ เริ่มจะลงทุนแบบเอาปันผล แต่ก็ยังอ่านงบการเงินไม่เป็นเช่นเคย ไม่รู้แม้กระทั่ง สินทรัพย์ = หนี้ + ทุน เพิ่มเงินอีกจนทุนประมาณ 100,000 และตัดใจซื้อ STECON เกือบ 70% ของพอร์ต และที่เหลือกับ SCB ที่ประมาณ 23 บาททั้งคู่ เพราะว่ามีข่าวรับงานมาเรื่อย ๆ และกำลังจะแจก W1(stecon) ยังตลกตัวเองไม่หายที่เที่ยวบอกใคร ๆ ว่าเล่นหุ้นเอาปันผล แต่ดันไปซื้อหุ้นแจก W แถมไม่รู้อีกว่ากิจการดีไม่มียังไง

น่าจะเรียกว่าโชคยังพอเข้าข้างครับ ที่เข้าถูกที่ถูกเวลา เพราะหลังจากซื้อราคาก็ขึ้นไปเรื่อย ๆ ๆ ๆ จนประมาณ 28 บาททั้งคู่ STECON ก็ยังมีข่าวดีมาเรื่อย ๆ จึง "ขายทำกำไร" :lol: SCB ทั้งหมดไป เอามาอัดที่ STECON หมดเลย ... ก็ยังดีขึ้นเรื่อย ๆ จนมาขาย "ทำกำไร" :lol: แบบล้างพอร์ตทั้งหมด ที่ราคาเฉลี่ยประมาณ 35 บาท ไม่นานหลังจาก XW ไปเรียบร้อยแล้ว กำไรก็ประมาณ แสนกว่าบาทครับ คิด ๆ ก็ 100% กว่าของพอร์ตเลย ตอนนั้น

จากนั้นเหิมเกริมครับ นึกว่าตัวเองเก่งเสียเต็มประดา กอปร กับ CPF และ GFPT กำลังดัง (ช่วง CPF ขึ้นไป 8 บาทน่ะแหละ) ก็เข้ามันซะเลย แล้วก็เจ็บตัวครับ ประมาณ 30,000-40,000 บาท ทำให้ STECON-W ที่ได้มาฟรี ก็โดนไก่กุ้งเอาไปกินซะเรียบเลยยย... เป็นบทเรียนที่ดีทีเดียวครับ สำหรับการเจ็บครั้งนี้ เพราะหลังจากนั้นผมก็เริ่มศึกษางบการเงิน และหลักการ VI อย่างจริงจัง ถึงแม้ว่ายังจะงู ๆ ปลา ๆ จนถึงตอนนี้

หลังจากนั้นก็เริ่มเปรี้ยวครับ อยากเล่นแนว Technical Analysis ดูบ้าง ก็ซื้อ ๆ มา ๆ ขาย ๆ ในช่วงปี 2002 ก็ได้มาไม่มากครับ ประมาณ 10% ของการเล่น

พอมาปี 2003 ก็เก็บ 2 ตัวครับ คือ EGCOMP กับ RATCH เพราะมองว่ารายได้แบบ cost-plus ของทั้งคู่ กับราคาที่ยังไม่มาก จะช่วยลดความเสี่ยง คุ้มกับ ROE ประมาณ 20% ต่อปีครับ ได้มา 40% ของพอร์ต แม้ว่าจะแพ้ตลาด แต่ก็เกินความคาดหมาย และพอใจพอควรครับ น่าเสียดายมากเพราะช่วงปี 46 เป็นช่วงที่ผมอยู่อังกฤษ จำได้ไม่ลืมเลยว่าวันสุดท้ายของปี 46 ผมเปิดคอมนั่งมอง EGCOMP@97 และ RATCH@50 อยู่แท้ ๆ ก่อนปิดคอมไปเที่ยว Scotland 7 วัน พอกับมาก็โดน SP และราคาร่วงลงมาอย่างแรง (ถึงกระนั้นก้ได้มา 40%) นี่แหละครับ เค้าถึงว่ากันว่าไม่มีใครขายได้บนสุด และซื้อได้ล่างสุด โอกาสดี ๆ นั้น มันผ่านมาแว่บเดียวครับ อยู่ที่เราจะมองเห็นและคว้ามันได้หรือเปล่าเท่านั้น

จนถึงตอนนี้ พอร์ตผมอยู่ประมาณ 500,000 ครับ จากเงินลงทุนเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เพราะมีก็เพิ่มเรื่อย ๆ และแน่นอนว่า หลังจากลองผิด ๆ ถูก ๆ มา 4-5 ปีกับ SET .. Value Investment นี่แหละครับ เสียสุขภาพจิตและเวลา (ลุ้น เซ็ง พลาด รวย) น้อยที่สุดแล้ว

ถ้าสรุปก็พอร์ตผม เริ่ม 50,000 ปัจจุบัน 500,000 โดยการเติบโตจากปีแรก - ปัจจุบันก็ประมาณ 2002 70% > 2003 40% > 2004 14%

[พ่อ@LLถุง]

ปี 2527 เริ่มต้นที่ 20 lot มูลค่าเท่าไหร่ประมาณเอาเองนะ
ปี 2528-2547 ขายแบบไม่ได้เล่นเปลี่ยนจากหุ้นเป็นบางส่วนของบ้าน รถยนต์ ความสะดวกสบายที่พึงมีและภรรยา 1 คน
เก็บกินปันผลไปเรื่อย ๆ มีลูกหุ้นราคาพาร์ก็ซื้อเพิ่ม ทำไปทำมาราคาฉลี่ยบางตัวเต่ำกว่า 0 ไปแล้ว
และเริ่มงงว่าทั้งหมดมีกี่ lot กันแน่ เพราะแตกพาร์กันระเบิดเถิดเทิง
ปี 2548 guarantee มูลค่าพอร์ขั้นต่ำเท่ากับตอนเริ่มต้น มีไว้แบบไม่สน set index

เป็นมนุษย์เงินเดือนมาโดยตลอด ช่วงปี 2536 เคยแอบขายเอาไปเล่นเก็งกำไร 1 lot ทุนแปดหมื่นได้กำไรมาหมื่นกว่า ๆ
เดือนเดียวก็ต้องเลิกเพราะเครียด เสียงานเสียการ ปล่อยให้มัน generate รายได้ให้เราเองดีกว่า

[sunrise]

เริ่มด้วยเงินจำนวนพอสมควรกับอายุตัวเองครับ

แต่เป็นเงินเก็บทั้งหมด

ลงทุนเวลาเยอะมากๆ อ่านหนังสือ และ เว๊ป เกี่ยวกับหุ้น วันละเป็นชมๆ. เป็นระยะเวลา 6 เดือนก่อนลงทุน

แล้วก็ดีครับ กำไรประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ของพอร์ต หลังจาก เวลาผ่านไป 7 เดือน

[หนุ่มพะเยา]

ผมก็เริ่มต้นประมาณกลางปี 03 เหมือนกัน เริ่มต้นก็ประมาณ 50000 บาทเหมือนกัน เพราะเริ่มต้นกับ tisco ต้องมีเงินฝาก 50000 บาท จากนั้นก็ออมเข้าไปเดือนละ 3500 บาท ทุกเดือน ได้เงินปันผลมาก็เข้าบัญชีไว้ เก็บไว้เผื่อราคาหุ้นที่สนใจตกหนักๆ ก็จะนำเงินส่วนที่เป็นปันผลนั่นแหละครับซื้อ
พออีกประมาณ ปีกว่าๆ ก็กล่อม ผบ.ทบ.ที่บ้านมาลงทุนในหุ้นด้วยอีกเดือนละ 3500 บาทเหมือนกัน ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นสะสมหุ้นเืดือนละ 7000 บาท
ก็กะจะเก็บหุ้นไว้ไปเรื่อยๆนะครับ เลียนแบบพี่ครรชิตคือ ซื้อแล้วไม่ขายเลย
คิดว่าอีกประมาณ 10-20 ปี เงินปันผลก็คงจะพอเพียงที่จะใช้จ่ายในครอบครัวก็คงพอใจแล้วละครับ

[nanchan]

เริ่มต้นก็7หลัก ขาดทุนก็7หลัก
ตอนนี้8หลัก ขาดทุนยัง7หลักอยู่ ค่อยยังดี

ช่วงแรกอยากรวย กล้ากว่า
ช่วงนี้กลัวจน เอาทุนเก็บไว้

เล่นมานานกว่าหลายท่านในนี้
แต่เล่นนานกว่าหรือเพิ่งเล่นไม่สำคัญเท่าเล่นแล้วได้กำไร :lol:

[nanchan]

คิดว่าลงทุนแนวVi ก็ดี แต่ไม่ชอบ ไม่ใช่สไตล์ตัวเอง
ชอบแนวVsมากกว่าเพราะคิดว่าใช่ตัวเองมากกว่า คือถือหุ้นนานมากๆแล้วเครียด

ขอต่อต้านแนวVi ทุกประเภท (พูดเล่นนะ)

[nanchan]

เงินน้อยเล่นหุ้นไม่รวยหรอก
แต่ถ้าไม่รู้จะทำอะไรก็เอามาเล่นหุ้นดีกว่า

ถ้าหาธุรกิจทำได้ ทำธุรกิจดีกว่า

[nanchan]

การทยอยซื้อไม่จำเป็นต้องศึกษาอะไรมากก็ยังได้
ถ้าคิดว่าจะซื้อระยะยาวจริงๆจนตลอดชีวิต
แค่หาบริษัทที่คิดว่าไม่มีวันล้มละลายก็เป็นใช้ได้

เพราะการลงทุนทุกเดือน เป็นการเฉลี่ยราคาไปในตัว
ผลตอบแทนจะขึ้นอยู่กับการลงทุนระยะยาวๆๆๆๆๆ

[nanchan]

บางท่านซื้อหุ้นที่ใกล้ล้มละลาย ช่วงวิกฤติ ไว้หลายๆบริษัท
ที่ผ่านมายังกำไรถึง5เท่าได้

ที่บอกว่าไม่ต้องศึกษาอะไรมากก็คงเป็นเช่นนี้มั้ง
เพราะบางครั้งการเล่นหุ้นโดยที่เราไม่มีส่วนในการเข้าร่วมบริหารบริษัทนั้นๆ
ก็ไม่ต่างอะไรกับการสุ่ม

[adi]

เริ่มต้นห้าหมื่นราวปี01 ขาดทุนไปหมื่นกว่าๆเป็นประสบการณ์ที่ใช้ได้เลย

[tom]

6500 บาท กับ RCL เมื่อ3 ปีก่อน แล้วก็ทยอยซื้อเดือนละประมาณ 1 หมื่นบาท ครับ ปัจจุบันกำลังจะเหยียบ 7 หลักแล้วครับ

[Heroine]

เริ่มลงทุนครั้งแรกประมาณหมื่นบาทนิด ๆ ซื้อ บงล.ธนชาติ ที่ราคา 111 บาท 100 หุ้นและขายทำกำไรที่ 120 บาทภายใน 1สัปดาห์ ในอดีตไม่เคยคิดจะซื้อหุ้นถือนานเป็นเดือน ๆ เลยค่ะ เพราะเห็นราคาหุ้นมันsideway ก็มักขายทำรอบ กำไรบ้างขาดทุนบ้าง ไม่ค่อยได้เป็นกอบเป็นกำ แต่เคยพลาดท่าขาดทุนเยอะกับหุ้น SAFARI ใครจำหุ้น 19 ฟลอร์ตัวนี้ได้บ้างคะ วันที่ขายหุ้นตัวนี้ได้คือวันที่เด้งขึ้นวันแรก

ปัจุบันมีหุ้นที่พร้อมถืออย่างน้อย 1 ไตรมาสได้ทุกตัวอย่างสบายใจค่ะ :lol:

[oatty]

เริ่มต้นประมาณ 38000 ครับ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซื้อ shin ได้กำไรครับ ซื้อตามชาวบ้าน แถมยังใช้แอคเคาท์ของชาวบ้านอีก แต่ได้กำไร จากนั้นก็มาพลาดท่าหลังจาก set index ไม่อาจฝ่าด่านอรหันต์ 800 ไปได้ หุ้นที่ซื้อไว้เพราะมาร์แนะนำ bcp-dr1 ิกับหลับตาซื้อเพราะเห็นว่าปันผลดี sicco ที่ 8.80 บาท ถือไว้นานครับ จนมาตัดสินใจขายขาดทุนแล้่วมาเล่นแบบ VI ตอนนี้คืนทุนแล้วครับ กำไรนิดหน่อย เก็บตังค์ได้ครบหมื่นกว่า ๆ ทีไร ก็จะซื้อทุกที

[มือเก่าหัดขับ]

เริ่มด้วยสองหมื่นกว่าบาท
ตอนนี้
อ้าว เว้ยเฟ้ย... ทำไมมัน...
เพลินไปหน่อย... :lol:

[kachamas]

จำไม่ได้แล้วล่ะครับ ก็น่าจะสิบปีได้แล้ว เข้าไม่นานเจ็บตัวก็ออก สัญญากับตัวเองว่าจะไม่ลงทุนแบบไร้สติไร้ปัญญาอีกแล้วครับ

[ioport]

รู้จักเก็บรู้จักลงทุนดีครับ
อย่ารอเวลา พลัดวันประกันพรุ่ง
สะสมทุกๆเดือน ไม่ต้องรอ เป็นก้อนหรอกครับ
โชคดีครับ

[bigshow]

ผม 750000 บาท เป็นเงินที่เก็บมา 5 ปี ฝากแบงค์อย่างเดียว อีก 4 เดือนจะครบ 2 ปีแล้ว ลงทุนเพิ่มเดือนละ 20000 บาทตลอด ตอน ticon 12 บาท พอร์ตโตถึง 2 ล้าน ตอนนี้ 1 ล้าน 7 แสน

[Jeng]

แล้วทำไมทำหน้าเศร้า

เป็นคนไม่เดินสายกลางหรือ ( แซวเล่น อิอิ )

[yoyo]

ผมเริ่มตอนเพิ่งเรียนจบด้วยเงิน 2แสนบาทครับ
แล้วพอทำงานได้เงินเดือนก็เพิ่มไปเรื่อยๆ เดือนนึงประมาณ 10000-15000 ได้
เล่นไปพักนึงชักจะมั่นใจเกิน 100ไปเยอะ
แม่ถามเล่นๆว่าให้ยืมล้านนึงเอามั๊ย ผมก็ตอบว่าเอา
(จริงๆเป็นตัวอย่างที่ไม่ค่อยดีเลย ยังเล่นหุ้นไม่ทันไรก็ยืมมาเล่นซะแล้ว)
แต่โชคดีที่ไม่มีเรื่องร้ายๆเกิดขึ้นกับ port ครับ สงสัยมากับดวง
ปัจจุบันก็ได้เกือบครึ่งสิบล้านแล้ว (รวมเงินแม่ด้วย)