Thai Value Investor การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุน VI หุ้นวีไอ Webboard

ผมได้สมัครไปเป็นสมาชิกของ SetSmart ครับ แล้วสามารถดูงบการเงินและข้อมูลย้อนหลังต่างๆได้พอสมควร มีข้อสงสัยในการดูงบการเงินนะครับว่า
เราควรดูงบการเงินชนิดไหน คืองบการเงินของแต่ละบริษัทในเวบไซต์มันมีให้เลือก 2 ชนิดครับ คืองบการเงินบริษัท หรืองบการเงินรวมครับ
แล้วข้อแตกต่างทั้ง 2 งบนี่เป็นอย่างไรครับ
อีกนิดครับ ผมลองอ่านในหนังสือหลาย ๆ เล่ม ก็ไม่เห็นมีเล่นไหมบอกเลยครับว่าเราควรดูงบการเงินชนิดไหน
ขอคำแนะนำด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
[email protected]

:lol: :lol: :lol: :lol:

งบรวมครับ

นักบัญชีบอกว่า เนื้อหา สำคัญกว่ารูปแบบ

:lol: :lol: :lol: :lol:

สำคัญทั้งงบเดี่ยวและงบรวมครับ

เพราะทั้งสองงบจะให้ความหมายแตกต่างกัน

เพียงแต่คุณ siamkom ต้องรู้กฎเกณฑ์ต่างๆของงบเดี่ยวและงบรวมให้ชัดเจน คุณก็สามารถนำข้อมูลทั้งสองงบมาประกอบกันในการวิเคราะห์ได้

การวิเคราะห์งบเดียวอาจจะผิดพลาดได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นงบเดี่ยว หรืองบรวม

ที่จริงควรดูให้หมดทุกหน้าครับ ทั้งหน้ารายงานผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบงบ

Khun Paporn Eak-arttaporn Phd. emphasizes that:

In order to analyze company's financial statements, the investors should only use "Consolidated" statements. The investors should not use "Unconsolidated or the company only" statements since..........

Reference from " Rue Bunchee Mee Prayot" page 177, paragraph 3.

งบรวมครับ

การวิเคราะห์แต่งบรวมอาจจะผิดพลาดได้เช่น

ถ้าพิจารณาจากงบรวมแล้ว บริษัทและบริษัทย่อยมีเงินสดท่วมบริษัท

แต่จริงๆแล้ว เงินสดเกือบทั้งหมดอยู่ในบริษัทย่อย ซึ่งตามหลักการบัญชีแล้วบริษัทใหญ่อาจจะถือหุ้นบริษัทย่อยต่ำกว่า 51% ก็ได้ ซึ่งหมายความว่าเราจะเป็นเจ้าของเงินสดน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เราเห็นในงบรวม

ต้องดูงบรวมก่อนครับ
สงสัยอะไรเพิ่มเติมค่อยดูจากงบเดี่ยว
ถ้าต้องเลือกดูตัวเดียวยังไงก็ดูงบรวม

คุณฉัตรชัยครับ ผมคิดว่า งบรวมนี่เป็นแบบ consolidate แล้วไม่ใช่หรือ เพราะฉะนั้น เขาน่าจะสะท้อนเฉพาะตัวเงินที่แท้จริงที่บริษัทเป็นเจ้าของนะครับ แต่ผมไม่รู้จริงครับ คงต้องถามนักบัญชีเก่งๆ เอแต่เว็บเราเท่าที่แนะนำตัวกันมา ยังไม่มีนักบัญชีเลยครับ

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมก็ไม่รู้จริง แต่เดาว่าเขา consolidated มาตามสัดส่วนแล้วนะครับ

ต้องลองไปค้นดูก่อน

:lol: :lol: :lol: :lol:

คิดว่าน่าจะงบการเงินของบริษัทนะคะ เพราะในเวลาวิเคราะห์ที่อาจารย์ให้ทำเป็นวิทยานิพนธ์ อาจารย์จะให้ความสำคัญที่งบเฉพาะบริษัท

ผมคิดว่า งบรวมนี่เป็นแบบ consolidate แล้วไม่ใช่หรือ

เห็นด้วยครับ

ผมมองว่างบเฉพาะบริษัทก็มีความสำคัญในแง่ที่มองความสามารถหลัก อย่างเช่นงบรวมของ WG เป็นต้น สามารถบอกได้ว่าประสิทธิภาพของผลประกอบการที่แท้จริงของธุรกิจหลัก ดีกว่า หรือแย่กว่า ตามที่ได้รายงานผลกำไรที่ได้ประกาศออกมาตามงบการเงินรวม (เคสนี้ไม่น่าจะใช้ได้กับพวก holding ครับ)

ผมยกตัวอย่างนะครับ

งบการเงินเดี่ยวของบริษัทใหญ่

สินทรัพย์
เงินสด 10 ล้านบาท
เงินลงทุน 50 ล้านบาท (ถือหุ้น 50% ของบริษัทย่อย)
สินทรัพย์อื่น 40 ล้านบาท

ส่วนผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท

งบการเงินเดี่ยวของบริษัทย่อย

สินทรัพย์
เงินสด 80 ล้านบาท
สินทรัพย์อื่น 20 ล้านบาท

ส่วนผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท

เวลาทำงบรวมจะได้หน้าตาแบบนี้

สินทรัพย์
เงินสด 90 ล้านบาท
สินทรัพย์อื่น 60 ล้านบาท

ส่วนผู้ถือหุ้น 100 ล้านบาท
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 50 ล้านบาท

นี้เป็นกรณีที่บริษัทใหญ่ถือหุ้นบริษัทย่อย 50% ถ้าเราดูงบรวมจะเห็นว่าบริษัทมีเงินสดถึง 90 ล้านบาท แต่ที่จริงแล้วมีเพียง 10 ล้านบาท และถึงแม้จะคิดตามสัดส่วนเงินสดของบริษัทย่อยรวมแล้วก็จะเป็น 50 ล้านบาท

แต่ตามหลักการบัญชีแล้ว การคิดว่าเป็นบริษัทย่อยเพื่อนำงบมาคิด Consolidate นั้น บริษัทใหญ่ไม่จำเป็ฯต้องถือหุ้นถึง 51% ก็ได้ครับ จะถือเพียง 5% ก็อาจจะต้องทำงบรวมถ้าบริษัทย่อยนั้นมีกรรมการกลุ่มเดียวกันกับบริษัทใหญ่ครับ

ดังนั้นถ้าบริษัทใหญ่ถือหุ้นเพียง 5% จะเห็นเงินสดในงบรวม 90 ล้านบาท แต่จริงแล้วถ้าคิดตามสัดส่วนจะมีเพียง 14 ล้านบาทเอง

นี้เป็นเพียงกรณีสินทรัพย์ในงบดุล แล้วผลการดำเนินงานในงบกำไรขาดทุนละครับ รวมถึงกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก็อาจจะมาจากบริษัทย่อยที่บริษัทใหญ่ถือหุ้นอยู่เพียงน้อยนิด

ลงทุนทั้งที่วิเคราะห์ทั้งงบเดี่ยว งบรวม ปลอดภัยที่สุด จะเข้าใจกิจการทั้งหมดในกลุ่มดีที่สุด

สำหรับผมแล้วการวิเคราะห์งบเดี่ยว งบรวม เท่านั้นยังไม่เพียงพอเลยครับ ผมยังตามหางบการเงินของบริษัทย่อยทั้งหลายที่บริษัทใหญ่ถือ ถึงแม้จะเป็นบริษัทนอกตลาดก็ตามที เราจะเห็นอะไรอีกเยอะ เหมือนที่ผมเห็นใน WG ครับ

ขอบคุณเจ้าของกระทู้และคุณฉัตรชัยครับ
ผมคงต้องไปอ่านใหม่แล้ว
ที่ผ่านมา ผมดูแต่งบรวม :lol:

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

ถ้าเราดูจากงบของ WG ในงวด 30 มิ.ย. 47 เราจะได้ข้อมูลว่า WG ถือหุ้นในบริษัทแอมคอร์อยู่ 49% เป็นจำนวนเงินมูลค่า 16.13 ล้านบาท

จากข้อมูลนี้ เราก็คำนวณกลับจะได้ว่าบริษัทแอมคอร์ควรมีส่วนผู้ถือหุ้นจำนวน 32.92 ล้านบาท

แต่จากงบการเงินในงวดเดียวกันของบริษัทแอมคอร์ บริษัทมีส่วนผู้ถือหุ้นจำนวน 152.80 ล้านบาทครับ

ต่างกันถึง 119.88 ล้านบาท

ที่ต้องใช้งบสิ้น มิ.ย. เพราะ บริษัทแอมคอร์ปิดงบปีวันที่ 30 มิ.ย. ครับ