ไม่

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

ไม่

โพสต์ที่ 1

โพสต์

สมัยผมเรียนการบินนั้น การบินที่ผิดพลาดอาจหมายถึงชีวิตครับ

ตอนนั้นในความรู้สึกของผม คำสอนของครูฝึกสอนจึงมีความสำคัญอย่างมาก อาจจะบอกได้เลยว่า ในช่วงนั้น ครูการบินไม่เพียงเป็นโลกทั้งใบของผม แต่หลายครั้งท่านกลับเป็นผู้สร้างโลกที่ไม่เคยมีอยู๋จริงในชีวิตของผมให้ปรากฏเป็นรูปร่างขึ้ันมาได้ครับ

เช่นกันครับ สำหรับเว็บ Thaivi ผมมีคนที่ยกย่องเป็น "ครูในดวงใจ" อย่าง พี่มนและพี่โจ ท่านทั้งสองมีพระคุณกับผมมาก เป็นทั้งนักลงทุนเน้นคุณค่าที่เก่งและเป็นคนดีครับ


ในอาชีพฟันเมเนเจอร์ คำว่า "ชาลี มังเกอร์" มีอิทธิพลกับผมเช่นเดียวกับครูการบินเช่นกัน ผมขอยกตัวอย่างเอาประสบการณ์จากความรู้การเป็น "No man" ที่ได้จากมังเกอร์มาฝึกงานน้องๆ ที่มาใหม่ แต่ "No man wisdom" เหมือนดาบสองคม ต้องเข้าใจให้ถูกต้องและใช้ให้เป็นครับ

ผมยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากหนังที่ชื่อว่า "yes man" เผื่อสมาชิกหลายท่านไม่เคยดูนะครับ

ผมขอเล่าย่อๆ เกี่ยวหนังเรื่องนี้ พระเอกแสดงโดย จิม แคร์รี เป็นนายธนาคารแผนกปล่อยสินเชื่อ ชอบพูดแต่คำว่า "No" อยู่เสมอ พอนึกภาพออกนะครับ ใครมาขอสินเชื่อ ก็ "ไม่" อย่างเดียว

Note : ( แต่ไม่เหมือน "No" ของมังเกอร์ สำหรับคำว่า "ไม่" ของพระเอกที่ชอบเก็บตัวอยู่ในห้องเงียบๆ คนเดียวและมองโลกในแง่ลบไปหมดนั้น มีความหมายที่เป็น "negative" ไม่ใช่ที่เป็น "positive no" เหมือนที่มังเกอร์ใช้ครับ )

จนกระทั่งพระเอกบังเอิญได้พบเพื่อนเก่าคนหนึ่ง ผู้ซึ่งแนะนำจากประสบการณ์ตรงให้เข้าร่วมโครงการพัฒนาตนเอง ในห้องประชุมทีมีคนฟังเป็นร้อยนั้น นักจิตวิทยาเจ้าของโครงการได้ใช้หลัก influences หลายอย่างที่ทำให้เกิดสถานการณ์ของ human inefficiences (Mr. Market)


สิ่งที่พระเอกได้รับอิทธิพลจากการเข้าอบรมครั้งนี้ เปลี่ยนชีวิตเขาจากหลังเท้าเป็นหน้ามือ เขาจะต้องพูดคำว่า "yes" กับทุกคนและทุกโอกาสที่เข้าในชีวิต

การ "ปลดปล่อยพลัง" ของคำว่า "yes" เริ่มเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปในทางที่น่ามหัศจรรย์อย่างคาดไม่ถึง ทำให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งงาน และได้พบนางเอกซึ่งทำให้เขาเปิดประตูหัวใจให้กับรักครั้งใหม่

จุดเปลี่ยนของหนังและเมื่อใดที่เขาลองพูดคำว่า "No" เรื่องร้ายๆ ก็มักเกิดขึ้นตามมาทันที โดยเฉพาะครั้งแรกที่นางเอกขอให้พระเอกและเธอย้ายเข้าไปอยู๋บ้านหลังเดียวกัน และพระเอกไม่ตอบตกลง นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาพูดคำว่า "ไม่" เป็นครั้งแรกหลังจากไปเข้าอบรมมา จากนั้น ชีวิตของพระเอกก็กลับกลายเป็นยุ่งเหยิงขึ้นเรื่อยๆ


เขาถูก FBI จับที่สนามบินข้อหาเป็นผู็ต้องสงสัยที่จะก่อการร้ายบนเครื่องบิน เพราะเขาจะซื้อตั๋วเครื่องบินที่ไฟล์จะออกบินในเวลาที่เร็วที่สุด โดยไม่สนใจว่าจะไปไหน ตอนถูกจับมาสอบถามถึงเหตุผลนั้น เขาบอกความจริงทั้งหมดว่า สิ่งที่เขาทำนั้นเกิดจากการเข้าอบรมมาเท่านั้น นางเอกเกิดค้นพบความจริงว่า พระเอกได้สานความสัมพันธ์กับเธอเพียงเพราะเขาไม่อาจปฏิเสธพูดคำว่า "No" ได้เท่านั้น

เขาได้ไปพบกับนักจิตวิทยาคนเดิม และ เขาต้องทำความเข้าใจเสียใหม่ว่าเขาควรจะใช้คำว่า "ไม่" และ "ได้" อย่างไรดี

นักจิตวิทยาได้สอนให้เขาเข้าใจว่า การใช้คำว่า yes นั้น เพื่อเปิดโอกาสให้กับสิ่งใหม่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิต แต่ต้องใช้มันบนพื้นฐานของเหตุและผล ไม่ใช่ด้วยสัญชาติญาณที่โน้มเอียงไปทางอารมณ์โดยไม่รู้จักคิดให้รอบครอบอย่างที่พระเอกใช้

เวลาฝึกงานเด็กรุ่นใหม่ป้ายแดงนั้น ผมจะพาคนสองประเภทมาคุยกับพวกเขา ทั้งรุ่นพี่ที่ประสบความสำเร็จในการปรับใช้หลัก value investing ในการบริหารพอร์ต และ คนที่ไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งผมคิดว่าสำคัญมาก ไม่ใช่ว่ารู็แค่วิธีทำอย่างไรให้ "ได้" แต่การที่น้องๆ เหล่านั้นรู้ว่าทำอย่างไรจึง "ไม่ได้" ทำให้พวกเขาได้เปรียบคนอื่นสองเท่า เท่ากับว่าเป็นการสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต และ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไปพร้อมๆ กันนะครับ ความละเอียดถี่ถ้วนก็เท่ากับว่าต้องคุณสองทีเดียวครับ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะนี่ครับ เงินของ shareholders ไม่ใช่เรื่องที่จะมานั่งลองผิดลองถูกกันครับ


หลังจากการฝึกฝนความเข้าใจการเป็น "Yes man" และ "No man" แล้ว จะไม่มีคำว่า "คง...มั้ง" ไอ้คำว่า "มั้ง" อย่างนี้ มีแต่ซวยกับซวยครับท่าน ถ้าจะอยู๋ในอาชีพนี้ต้องเข้าใจกฏของไตรลักษณ์ ที่ไม่มีอะไรแน่นอนร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องบวกเผื่อ margin of safety และหาทางออกป้องกัน capital ของกองทุนให้ ต้องเอาตัวรอดอย่างไร คือ คำถามสำคัญที่สุดที่ต้องใช้ทุกกระบวนท่าหาคำตอบให้ได้

เพราะอย่างนั้นจึง ไม่มีการคิดเหมาเอาเองอย่างเด็ดขาด น้องๆ ป้ายแดงคนไหนที่มีนิสัยชอบเข้าข้างตัวเองแล้ว "ดันอยาก" มีอาชีพเป็นนักลงทุนต้องคิดดีๆ นะครับ เพราะการคิดไปเองนั้นมักเป็นที่มาของการเกิดขาดทุนอยู๋บ่อยๆ

การเข้าใจผิดคิดไปเอง หรือ Human misjudgement เป็นต้นเหตุของ human inefficiences หรือ MR. Market

แต่เชื่อไหมครับ นิสัยถาวร หรือ human misjudgement ของคนนั่นแก้ยากมาก

เคสที่ยากที่สุดทีผมเจอ น้องคนหนึ่งเป็น Mr.Yes man มีผลงานที่โดดเด่นมากตอนตลาดเป็นช่วงขาขึ้น แต่พอขาลงในช่วงนี้กลับตัดสินใจที่ขาดเหตุและผล เนื่องจากมีความเกรงใจใน ego ของตัวเอง และมีการแหกกฏไม่ปฏิบัติตาม 49 checklists no procedures ของกองทุน กลับถือว่า personality characteristics สำคัญกว่า Value Investing skill ที่ train ขึ้นมา ทางป้องกันที่ดีที่สุดคือต้องคัดออก แต่จะใช้นักจิตวิทยาการลงทุนเป็นคนวินิจฉัยอีกทีครับ
pat4310
Verified User
โพสต์: 732
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 2

โพสต์

เคยนั่งรถไปกับพี่ที่เป็นนักบินของ ทอ. ครับ กว่าจะได้ขยับรถออกพี่เขาต้องเช๊กไล่ตาม checklists ในหัวของเขาเกือบ 15 นาที
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 3

โพสต์

เขาทำถูกแล้วครับ นักบินถูกปลุกฝังเรื่องความปลอดภัย ก็เหมือนนักลงทุนเน้นคุณค่าถูกปลูกฝังเรื่อง margin of safety เวลาซื้อหุ้นคงใช่แค่ 15 นาทีไม่พอครับ เพื่อนผมเวลาไปเดินพันทิพ เลือกซื้อคอม ใช้เวลาเป็นชั่วโมง ถามแล้วถามอีก ว่าถ้าเครื่องมีปัญหา มันจะคืนเงินได้ไหม หรือว่าเปลี่ยนอะไรได้บ้าง แต่เวลาซื้อหุ้น กลับตัดสินใจแค่ 5 นาที มันถามผม เวลาซื้อหุ้นทำไมต้องตัดสินใจเป็นวันๆ เลย มันซื้อเพราะราคากำลังขยับขึ้น ไม่ทราบว่าบริษัทขายอะไรด้วยซ้ำ ถ้าเอานิสัย MOS เวลาซื้อคอมมาใส่ลงเวลาซื้อหุ้นคงดีครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 4

โพสต์

หลายสิบปีก่อน มังเกอร์เคยบอกว่า ระบบ pilot trainng เป็นระบบการศึกษาที่ดีที่สุดและระบบของการศึกษาของ Harvard ควรจะพัฒนาไปทางนั้น มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอย่าง Harvard เอาสิ่งที่มังเกอร์แนะนำแล้วใส่ไปในคอร์สสอนนักเรียน ทราบไหมครับมันคืออะไร

มันคือ Margin of safety ครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 5

โพสต์

นักลงทุนอย่างเรา ๆ ก็เอาระบบของนักบินมาใส่ในกลยุทธ์ของเราได้ครับ อย่างนักบินมี checklist ก่อนออกบิน เราก็สร้างพอร์ตของเราให้มี checklists ขึ้นมาก่อนการลงทุนได้ อย่าง five forces ของน้องฮง ผมก็ยืมมาทำ checklist อย่างข้อดีของบัฟเฟตเราเอาทำ เช๊คลิส แต่ขอเสียของบัฟเฟตก็เอามาทำได้ ตอนที่บัฟเฟตไปลงทุนบริษัท Dexter Shoes เขาขาดทุนเยอะเพราะสินค้าบริษัทสู้สินค้าจากจีนที่มีค่าแรงถูกไม่ได้ เราก็ตั้งลิสของเราแล้วถามว่า

1. บริษัทมีความสามารถแข่งกับสินค้าราคาถูกจากจีนได้หรือไม่

ได้แล้วหนึ่งข้อครับ

หรืออย่างมังเกอร์ ข้อดีเขาก็เยอะ ผมเอามาทำลิสมากทีเดียว บัฟเฟตก็เอาคำแนะนำมังเกอร์มาทำลิสของเขาหลายข้อ แต่ข้อเสียเขาก็มี เราก็เอามาทำลิสได้ ตัวอย่างเช่น มังเกอร์ไปลงทุนใน
บริษัทที่ชื่อว่า CORT Furniture บริษัทนี้รายได้หลักให้เช่าเฟอนิเจอร์กับสำนักงานที่ทำธุรกิจดอดคอม พอฟองสบู๋ดอทคอมแตก มังเกอร์เจ๊งเลย เราก็ตั้งคำถามของเราได้

2. เรากำลังมองที่รายได้ที่ปกติขอวบริษัท หรือ รายได้ที่อยู๋ในช่วงกำลังเติบโตอย่างผิดปกติ

นั้นได้อีกข้อ เป็นสองข้อแล้ว

ถ้าอ่านบทความของอาจารย์ ท่านเขียนจากประสบการณ์จริง ดีที่สุดแล้วครับ เราก็ได้ทุกอาทิตย์ นั่นเป้นวิทยาทานของท่าน อาจารย์ท่านได้สร้างบุญไว้เยอะ แต่เราต้องเอามาใช้ให้เป็น ไม่ใช่อ่านแล้วก็ลืมอีก ความรู็มันต้องเอาไปใช้ มันถึงเกิดความชำนาญ เหมือนที่นักบินเขาฝึกกันครับ เขาฝึกฝนทักษะทุกอย่างให้เกิดความเชี่ยวชาญ

หลายอย่าง หลายวิชา นักลงุทนเน้นคุณค่าอย่างเราก็เข้าใจ นายตลาด ส่วนเผื่อ รู็ธุรกิจ รู็ใจตัวเอง แต่เราขาดฝึกสิ่งเหล่านั้นให้เกิดความชำนาญ

ผมขอเปรียบเทียบ checklist กับ เบบ รูธ เขาไม่ได้ตีทุกลูกที่โยนมา เขาตีเฉพาะลูกที่เข้ามาใน sweet spot ของเขาเท่านั้น การมี checklists ก็เช่นเดียวกันครับ

checklists ของเรากับบนักบินมันเหมือนกันนะครับ มันคือการตรวจสอบซักซ้อมขั้นตอนการลงทุนของเราในภาวะปกติ และในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินอย่างที่ไม่คาดคิดกับบริษัทที่เราลงทุน เช่นอย่างการบินไทย ถ้าดีดีเขาถูกไล่ออก เราจะมีขั้นตอนปฏิบัติอย่างไรบ้าง ผมก็มีครับ ผมขายทิ้งหมดเลย มีขึ้น มันก็มีการเตรียมท่าลงก่อนแรกแล้วครับ มันเหมือนนักบินเขาจะกลับมา landing ด้วยท่าทางการบินแบบไหน ซึ่งถ้าเป็นบริษัทที่เราลงทุนเพราะเหตุผลความสามารถของดีดีแล้ว ขั้นตอนความเข้าใจนี้ก็ยิ่งละเอียดและรอบครอบมากขึ้น ผมก็ตกใจเหมือนกันครับ ผลประกอบการออกมาดีหมด แต่ดีดีกลับถูกปลดออก อย่าว่าแต่ เอาเครื่อลงลงเลย ผมกระโดดร่มทิ้งเครื่องบินกลางอากาศเลยครับ
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 6

โพสต์

รูปภาพ

เฟี๊ยวววววว........วันพระไม่ได้มีหนเดียวคร้าบบบบบบ

นักลงทุนอย่างเราเหมือนนักบินอย่างครับ มีช่วงที่บินดี บินไม่ดี สับกันไปเป็นพัก ๆ นักลงทุนก็เหมือนกันครับ บางช่วงลงทุนดีตลอด ตีแตกทุกบริษัท ช่วงอย่างนั้นลงทุนบริษัทไหน ก็ดีไปหมด ขนาดตดตัวเอง ตดแตก ก็ยังว่าตดหอม แต่พอพ้นช่วงอย่างนั้นไป ลงทุนอะไรก็ผิดพลาดไปหมดครับ แต่ช่วงที่ผิดพลาดเหล่านั้นจะหดสั้นลงเรื่อยๆ ครับ เมื่อชั่วโมงการลงทุนของเราสูงขึ้นครับ
kanokski
Verified User
โพสต์: 49
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 7

โพสต์

จำได้คร่าวๆ ว่าเคยดูวิดีโอที่ Mohnish Pabrai พูดที่ Columbia Business School เรื่อง Checklist นานแล้ว
เคยคิดจะลองทำตาม แต่เป็นคนที่ไม่ค่อยมีวินัย เลยล่องลอยไปเรื่อยๆ ไม่ได้ทำเสียที
น่าจะเป็นประโยชน์ครับ
http://www7.gsb.columbia.edu/video/v/node/1373/video
มีกล่าวนำโดย Prof. Bruce Greenwald ช่วงแรกเล็กน้อย ฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง

นอกจากนี้ยังมีวิดีโออื่นๆ ที่น่าสนใจอีก ผมไม่ได้เข้าไปดูนานแล้ว มีวิดีโอเพิ่มขึ้นเยอะมาก
ที่ Columbia เข้าโปรโมท value investing จากความสำเร็จของศิษย์เก่าคนดังที่พวกเราชื่นชอบ (ใครหนอ?)
torpongpak
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2603
ผู้ติดตาม: 1

Re: ไม่

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากครับ :D
คนเราจะมีความสุข มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่ามีเท่าไร เเต่ขึ้นกับว่า เราพอเมื่อไร
~หลวงพ่อชา สุภัทโท~
o
monsoon
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 583
ผู้ติดตาม: 1

Re: ไม่

โพสต์ที่ 9

โพสต์

อ่านบทความของคุณ humdrum ทีไร ได้อะไรใหม่ๆแปลกๆทุกทีๆ ไม่รู้ว่าคืออะไร..ที่รู้แน่ๆคือ มันต้องมีประโยชน์กับการตัดสินใจของเราในอนาคตแน่นอน!!

ขอบคุณนะครับ^^
เรียนรู้และเข้าใจ คุณค่าที่แท้จริงของสรรพสิ่ง...
ภาพประจำตัวสมาชิก
ซุนเซ็ก
Verified User
โพสต์: 1104
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณครับ :D
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
blueplanet
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 11

โพสต์

เขียนได้ดีมากครับ คุณ humdrum
Blueplanet
jaeger_04
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ถ้าไม่ละลาบละล้วงเกินไป อยากทราบว่าคุณหำเรียนบินที่ไหนครับ ตอนนี้ยังบินอยู่หรือเปล่า ลืมความรู้สึกด้านการบินหมดหรือยัง
humdrum
Verified User
โพสต์: 1961
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 13

โพสต์

เรียนที Lousiana Tech คณะ Aviation Engineering ผมโดนคัดออกเรียนไม่จบครับ
jaeger_04
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 38
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 14

โพสต์

พอดีเพื่อนทําสายการบินเล็กๆ วานผมเป็น head hunter จะเอาไป operate a-320.. เลยนึกว่าคุณหำยังบินอยู่ ขอโทษนะครับ
teetotal
Verified User
โพสต์: 1667
ผู้ติดตาม: 0

Re: ไม่

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมสอบนักบินการบินไทย ครั้งเดียวเมื่อปี 2547
เข้าไปถึงรอบที่ 6 ครับ
คุยกับ นักจิตวิทยาชาวต่างชาติ
แต่ก็ "ไม่"ผ่าน ครับ
คงไม่มีใคร หาเงินมากมาย ไว้ยัดใส่โลงศพตัวเอง
.........
เชิญรับแจก เมล็ดพันธุ์พืชนานาชนิดได้ที่
http://www.kasetporpeang.com/forums/ind ... board=22.0
เชิญฟังธรรมฟรี ที่ http://www.fungdham.com
โพสต์โพสต์