ใครทันสมัยเคาะกระดานบ้างครับ

[chatchai]

ผมจำได้ว่าสมัยก่อน เวลาสั่งซื้อสั่งขายต้องสั่งทางโทรศัพท์ สั่งเสร็จต้องรอตั้งนานก็จะ confirm มีบางครั้งที่เทรดเดอร์ (พนักงานเคาะกระดาน)ทะเลาะกันเพราะแย่งกันซื้อแย่งกันขาย

ผมยังทำงานประจำอยู่ ต้องแอบฟังราคาทางวิทยุ คุณเชื่อไหมมันเหมือนกับดูทางโทรทัศน์สมัยนี้นะ นานมากกว่าจะผ่านมารอบหนึ่ง ถ้าเผอละก็ต้องรอกันนานเลยกว่าจะบอกราคาใหม่

แถมซื้อขายกันแค่ครึ่งวัน พอตกบ่าย บรรดาเซียนหุ้นก็ไปสังสรรกันต่อ

[Jeng]

ปี 2531

ผมทันครับ จำได้ว่า งานแรกในชีวิต ที่ไปขอสมัคร คืองานเคาะกระดานหุ้น เพราะต้องการรู้เรื่องหุ้น

บริษัทเขานัดสัมภาษณ์ แต่เขาไม่รับ เพราะเรากำลังเรียนโทอยู่ เขาบอกเราเรียนสูงไป

เขาบอกให้เชื่อเขาเถอะอย่ามาทำเลย

ตอนนั้นเพิ่งจบก็รูสึกดีที่คนสัมภาษณ์เขาอธิบายด้วยเจตนาที่ดีมากครับ

[sirivajj]

จำได้ครับ นึกถึงถ้ามาเทียบกับสมัยนี้แล้ว
พวกนักลงทุนที่อยู่ที่บ้านนี่ เสียเปรียบพวกที่ห้องค้ากับพวกเทรดเดอร์
อย่างที่สุด แต่ก็เล่นกันได้นะครับ
ผมจำได้เข้ามาเล่นในตลาดได้ 3-4 เดือน ก็เจอ Black Monday เลย

[tk]

black monday หุ้นตกมากเพราะอะไรเหรอครับ ทราบแต่มันดิ่งนรกเลย แต่ไม่ทราบสาเหตุ ช่วยเล่าให้ฟังหน่อยครับ

[Zero]

ตอนนั้นไม่ได้เล่นแต่ทำงานที่ตึกสินธร ปี34 เลยได้เห็นบ้าง

[Jeng]

จริงๆแล้วก็แค่ 10 กว่าปีเองนะ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมดเลย

[chatchai]

สมัยผมเด็กๆ โทรทัศน์สีเป็นของใหม่ เดี๋ยวนี้โทรศัพท์มือถือเกลื่อนเมือง ราคาถูกมาก สมัยก่อนผู้คนคงไม่เคยคิดถึงโทรศัพท์ที่ไม่มีสาย เทคโนโลยี่เปลี่ยนแปลงการดำรงชีวิตเร็วมากเลย

จาก VDO Tape เป็น VCD ไม่นานก็พัฒนาเป็น DVD

[+++unlog]

สงสัยเรื่องคุณเจ๋งอ่ะ
คุณ ศึกษามา 15 ปีแล้วหรือครับ หรือว่า เข้าไปโฉบแล้ว ไม่ได้เล่นเลย
แล้วเพิ่งมาเล่นเมื่อปีที่แล้ว

เห็นบอกว่า ภรรยาเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ด้วยนิครับ

เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำแล้วหรือครับ

อิอิ .. แบบว่า สนใจอ่ะ

[Jeng]

เข้าไปสมัครงานแล้ว เขาไม่รับครับ หลังจากนั้น ก็ลืมวงการนี้ไปเลย

มาโผล่อีกทีตอนทำบ้านขาย แต่เจอพฤษภาทมิฬ ครับ ก็เลยเดินข้ามถนน ไปที่ JF แล้วซื้อแบงค์กรุงเทพ ที่เพิ่งแตกพาร์และตกมา 2 Floor ซื้อทีราคา 62 บาท และได้กำไรหุ้น EGCOMP มาพอควรเพราะซื้อในราคา IPO จาก JF

สรุปช่วงนั้น ถือไว้พักหนึ่ง 26 ตัว แล้วขายทิ้งหมดเลย เลิกเล่น บวกลบคูณหารแล้วได้กำไรเล็กน้อยครับ

โชคดีไม่เจ็บตัว

แต่ได้ข้อสรุปว่า ผมไม่มีความสามารถในการเล่นหุ้น เพราะผมไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้เลย

ตอนนั้นเซ่อมาก เล่นหุ้นแบบ ไม่เคยดู PE PB หรือค่าอะไรเลย แปลกดี อ่านแต่ที่โบรกเกอร์แนะนำ

เราไม่ค่อยมีเวลา เพราะทำกิจการส่วนตัวอยู่ครับ

อืมจะว่าตอนนั้นผมเล่นก็ได้ หรือไม่เล่นก็ได้ เพราะผมไม่ค่อยได้ขาย มีแต่ซื้ออย่างเดียวครับ แต่ในพอร์ท บางตัวก็ขึ้น บางตัวก็ลง แต่ผมไม่ซีเรียส ได้แต่งง ว่ามันจะขึ้น จะลงไปถึงไหน

และรู้สึกว่าเป็นความเสี่ยง ก็เลยเลิกเล่นครับ ผมน่าจะถือหุ้นไว้ไม่ถึงปีครับ

ตอนสั่งขายสนุกที่สุด คือโทรมบอกมาร์ ว่าให้ขายทุกตัว ทุกราคา ไม่ต้องรายงาน

ขายเสร็จ ผมไม่เคยไปดูเลยว่าตัวไหน ขายราคาเท่าไร

ผมดูยอดรวม ไม่ขาดทุน ผมพอใจแล้วครับ

ต่อมาพี่ชายเอาหนังสือ วอเรนมาให้ เมื่อเดือน 10 ปีที่แล้ว

ผมถึงคิดว่า มันไม่มีอะไรเหมือนเดิม จากที่เคยลองเล่นดู

เปรียบเสมือน ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่เลย

เรื่องผมก็มีแค่นี้เองครับ

แล้วเรื่องของคุณ +++ ละครับ เล่าให้ฟังยาวๆหน่อยครับ

[+++unlog]

ประวัติผมเหรอครับ เอิ๊กๆ..
ไม่ค่อยอยากเล่าเท่าไหร่ครับ ไม่ค่อยน่าสนใจหรอกครับ

คือ ผมเรียนเตรียมฯ รุ่นใกล้ๆคุณเจ๋งนี่แหละ จบแล้ว
ก็เรียนต่อแถวสามย่าน

แล้วก็มาทำงานเป็นลูกจ้าง อยู่ 10 ปี
ตอนนั้นก็คิดว่า จะเป็นลูกจ้างไปจนตายน่ะแหละ
สนใจแต่เรื่องธรรมมะ ปรัชญา และภาพโป๊(เอาไว้ปลง.. อิอิ.. )
เคยคิดว่า พวกรวยด้วยวิธีเงินต่อเงินนั้น เป็นพวกเอาเปรียบสังคม
ไม่มีความคิดว่าจะมาเล่นหุ้นเลยครับตอนนั้น

แล้วอยู่มาวันนึง ก็ผิดใจกับนายจ้างเล็กน้อย เลยออกมาเป็นเถ้าแก่

พอมาเป็นเถ้าแก่ ถึงได้รู้ว่า ชีวิตเรานี่มันสาหัสจริงๆ
อายุเริ่มมากขึ้นครับ
และแรงกายที่เรามีอยู่ มันก็ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป
เลยเข้าใจว่า ทำไมพวกคนที่ทำงานมาระยะนึงแล้ว
ต้องนึกถึงวิธี เงิน ต่อเงิน คือให้เงินทำงานให้เรา

ก็เลยมาลงทุนในหุ้นอย่างที่เป็นอยู่นี่แหละครับ
และกะว่า จะลงทุนไปตลอดชีวิตครับ

แวะเยี่ยมบ้านผมได้ที่
http://www.geocities.com/thaiguitarsolo68
ตลอด 24 ชม ทุกวันครับ

[Jeng]

เข้าไปที่เว็บแล้วครับ ชอบตรงดาวโหลดครับ

อิอิ เอิ๊ก เอิ๊ก

[kotaro]

พี่เจ๋งจบแพทย์มาแล้วไปต่อ MBA เหรอครับ

สนใจครับ เพราะผมกำลังจะไปต่อ MBA เหมือนกันครับ


ว่าแต่พี่ช่วยเล่าเรื่องการเคาะกระดานให้หน่อยสิครับ เป็นยังไง นึกภาพไม่ออก เคยแต่อ่านหนังสือเจอครับ

[Jeng]

พี่ขอจบวทบ.ปั๊ป ก็ไปเรียนต่อ MBA ปี 2531 เรียนได้ 1 ปี ครับ ธรรมศาสตร์ นี่หาที่จอดรถยากจริงๆ เรียนภาคค่ำครับ

พอดีไปเปิดกิจการของตัวเอง เลยไม่ได้เรียนต่อครับ

Kotaro ไปเรียน MBA ก็ดีเหมือนกันนะครับ พี่ก็ยังเสียดายที่เรียนแค่ 1 ปี ครับ

[kotaro]

ฮะๆ ไปดูเว็บมาเหมือนกัน นึกว่าพี่เจ๋งสนใจ จะเล่นกีตาร์ซะอีก


ว่าแต่ หน้า download นี่น่าสนใจจริงๆ ฮะๆๆๆ

[chatchai]

เรียน MBA ที่ธรรมศาสตร์ ภาคค่ำนี่มันเหนื่อยจริงๆนะครับ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย

ทำงานเสร็จก็ต้องรีบขับรถไปเรียน เสาร์อาทิตย์ก็ไม่มีเวลาไปเที่ยว ไม่เรียนก็ต้องทำรายงาน

ปิดเทอมแค่ 2 อาทิตย์ ปีหนึ่งเรียน 3 เทอม

แต่พอจบแล้ว ผมบอกได้ว่าคุ้มค่าครับ ถ้าเรียนเพื่อความรู้ ไม่ใช่เรียนเพื่อกระดาษแผ่นเดียว

[Jeng]

เรียนไม่ค่อยทันครับ คุณฉัตรชัย พี่ไปสายทุกที กว่าจะหาที่จอดรถได้ เข้าเรียนก็เอ๋อๆ ทุกที

อิอิ

แถมพี่เข้าไปเรียนแบบไม่มีประสบการณ์เลย ยิ่งไปก้นใหญ่เลย

ตอนสอบพี่ดึงคะแนนให้สูงๆ เพื่อให้ผ่านสัมภาษณ์ แต่เอาเข้าจริงๆ หลักเกณที่บอกว่า ควรจะมีประสบการณ์ อย่างน้อย 3 ปี แล้วค่อยมาเรียนนั้นดีจริงๆ

พอไม่มีประสบการณ์ พอไปเรียนนี่ งงไปหมดเลย

[Jeng]

คุณฉัตรชัย ปีที่ 2 เขาเรียนอะไรบ้างครับ พี่จำไม่ได้ เพราะไม่ได้เรียน เรียนแต่ปีแรก เน้นเบสิค ไมโคร แม็คโคร มาร์เก็ตติ้ง ของฟิลลิป ค๊อตเลอร์ จำได้ว่าตอนไปรัน IRR นี่พี่นั่งงง เลยไม่รู้เรียนอะไรอยู่ มีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด

รุ่นที่พี่เรียน มีวิศวะ 79 คน จาก ทั้งรุ่น 175 คน วิศวะกว่าครึ่งหนึ่ง

ที่สำคัญมีรุ่นพี่หมอไปเรียน เรียนอยู่รุ่นเดียวกัน ไม่น่าเชื่อครับ พี่คนนี้ แกสอบได้ 4.00 เลย ทั้งสองปี รู้สึกเห็นเพื่อนบอกว่า ตั้งแต่เปิด MBA มาพี่คนนี้ ทำคะแนนได้สูงสุด

ส่วนพี่ ก็ตามเคย เรียนไปปีเดียว ได้ประมาณ 2.00 ซึ่งธรรมศาสตร์ ขั้นต่ำต้อง 3.00 ถึงจะจบได้

อิอิ เรียนไม่ขึ้นจริงๆ ไม่รู้ มีสมองเอาไปทำอะไร

สอบได้เรียนไม่ได้

แปลกจัง

[chatchai]

เท่าที่จำได้ ปีสองนี่ให้เลือกวิชาที่จะลงเองได้พอสมควรครับ ใครอยากเน้นที่ภาควิชาอะไร

อย่างผมนี่ก็เรียน Investment, Financial Management, Organization Behavior, Production Management, Research Methods, Marketing Management, Financial Strategy & Policy และ Financial Analysis of Accounting Information ครับ

รุ่นผมก็มีบางคนเรียนแค่ปีเดียวครับ เพราะงานหนัก บางคนที่ทำงานอยู่ไกล พอขึ้นปีสองก็หายตัวไปเลยครับ

[milkshaq]

ชอบอ่าน ที่ท่านเจ๋ง เล่ามากเลยครับ อ่านแล้วสนุกมาก ใครมีประสบการณ์อะไรมาเล่ากันอีกนะครับ

[ลูกศิษย์]

จำได้แต่ว่าเข้าตลาดคอนมือถือเครื่องละแสนห้า
ที่บ้านไม่มีโทรศัพย์ และสมัยนั้นขอยากมากๆ
อยากเล่นหุ้น
ก็เลยลงทุนซื้อมือถือ**กระดูกงู** มาไว้เล่นหุ้น
กำลังทำงานบริษัทอยู่ด้วยตอนนั้น
และต่อมาก็หาทางต่อเน็ตเพื่อจะศึกษาเรื่องหุ้น
ค่าเน็ตก็แพงแสนแพง
ดูแล้วไม่คุ้มเลย