ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
-
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 1
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
ทำไมไม่เพิ่มทุนอย่างเดียว
ทำไมไม่เพิ่มทุนอย่างเดียว
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 2
บริษัทไหนเหรอครับ
ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะมีขาดทุนสะสมอยู่ก้อเลยลดทุนเพื่อไปชดเชยขาดทุนสะสมแล้วก้อระดมทุนเพิ่มเพื่อหาเงินมาทำธุรกิจครับ
ผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นเพราะมีขาดทุนสะสมอยู่ก้อเลยลดทุนเพื่อไปชดเชยขาดทุนสะสมแล้วก้อระดมทุนเพิ่มเพื่อหาเงินมาทำธุรกิจครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 3
น่าจะเป็น N-PARK นะครับ บริษัทนี้เล่น เทคนิดหลายตลบ ซับซ้อนมาก ผมลองอ่านจาก โพสต์ Today (อย่างคร่าวๆ) คุณ เสริมสิน บอกว่า "ตอนนี้บริษัทเรา เริ่มกลับตัวช้ากว่า คนอี่นมากแล้ว ระยะยาวเราจะก้าวไม่ทันคนอื่น จึงต้องใช้วิธีการบริหารทรัพย์สิน และเงินทองของบริษัทให้มันทำงานแทน โดยมีทั้งเพิ่มทุน ลดทุน แตกพาร์ ซื้อกิจการ เพื่อให้สินทรัพย์ และเงินทุกเม็ดสามารถ ทำงานทำกำไรให้บริษัทได้ทันที โดยที่ทางบริษัทไม่ต้องลงแรง เสียเวลาเริ่มทำโครงการหรือพัฒนาที่ดินตั้งแต่ 0 ด้วยตัวเอง "
....ฉลาดมากครับ....ส่วนตัวแล้ว....ผมคนนึงครับที่ไม่อยากเป็นกรรมกร สร้างบริษัทให้ใคร......
....ฉลาดมากครับ....ส่วนตัวแล้ว....ผมคนนึงครับที่ไม่อยากเป็นกรรมกร สร้างบริษัทให้ใคร......
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 4
ผมเข้าใจว่าที่ถามนะ ลดทุนนี่คือทุนจดทะเบียนที่ยังไม่เรียกชำระครับ
อย่างเช่น WG มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แต่เรียกชำระแล้วแค่ 178.50 ล้านบาท
ดังนั้นถ้า WG จะเพิ่มทุนใหม่ เช่น 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ คือจะเพิ่มทุนเป็น 357.00 ล้านบาท
ก็ต้องลดทุนส่วนที่ยังไม่เรียกชำระลงก่อน จาก 300 ล้านบาท เหลือ 178.50 ล้านบาท
แล้วค่อยเพิ่มทุนใหม่อีก 178.50 ล้านบาท เป็น 357.00 ล้านบาท
ใช่ประเด็นนี้หรือเปล่าครับ
อย่างเช่น WG มีทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท แต่เรียกชำระแล้วแค่ 178.50 ล้านบาท
ดังนั้นถ้า WG จะเพิ่มทุนใหม่ เช่น 1 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ คือจะเพิ่มทุนเป็น 357.00 ล้านบาท
ก็ต้องลดทุนส่วนที่ยังไม่เรียกชำระลงก่อน จาก 300 ล้านบาท เหลือ 178.50 ล้านบาท
แล้วค่อยเพิ่มทุนใหม่อีก 178.50 ล้านบาท เป็น 357.00 ล้านบาท
ใช่ประเด็นนี้หรือเปล่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 5
ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ทั้งสองกรณีอย่างที่คุณ ayethebing และคุณ
ฉัตรชัยว่ามาน่ะครับ...
ครั้งแรกก็คิดแบบคุณฉัตรชัย แต่ส่วนใหญ่หลังๆ มักลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมเพื่อให้สามารถจ่่ายเงินปันผลได้ เป็นการเล่นกับตัวเลขน่ะครับ..
ฉัตรชัยว่ามาน่ะครับ...
ครั้งแรกก็คิดแบบคุณฉัตรชัย แต่ส่วนใหญ่หลังๆ มักลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสมเพื่อให้สามารถจ่่ายเงินปันผลได้ เป็นการเล่นกับตัวเลขน่ะครับ..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 6
Copy มาครับ
ชายชราสอนการจัดการสากล
เรื่อง การลดทุนบริษัท
ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา มีก้อนเมฆหนาแน่นเหลือเกินในบ่ายวันนั้น ผมกำลังนั่งกินข้าวตอนเที่ยงเห็นจะได้ที่เขื่อนบางลาง จ.ยะลา
ในวงเหล้า เอ้ยวงข้าว เราสนทนากันถึงเรื่องการจดทะเบียนที่ทุนจดทะเบียนที่มากเกินความเป็นจริง หมายถึงว่า ทุนจดทะเบียนบริษัท 10 ล้านบาท แต่ใช้เงินจริงแค่ 4 ล้านบาท จะมีวิธีการอย่างไรในการที่จะทำให้ทุนจดทะเบียนกลับมาอยู่ที่ 4 ล้านบาท ไม่ใช่ 10 ล้านบาท
การที่เพื่อนของผมที่เป็นเจ้าของบริษัทต้องการให้ทุนจดทะเบียนกลับมาเป็นที่ 4 ล้านบาท เป็นเพราะว่า
1) บริษัทนี้กำลังจะก่อหนี้ประมาณ 15 ล้านบาท
2) หากก่อหนี้แล้วเกิดข้อผิดพลาดก็จะใช้หนี้แค่ 15 ล้านบาท จะไม่ใช้เลยไปในส่วนของค่าหุ้นที่ยังไม่เรียกชำระอีก 6 ล้านบาท
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า
1) เป็นหนี้แค่ 15 ล้านบาท
2) แต่เวลาจะต้องใช้หนี้ทำไมต้องใช้หนี้ ในวงเงิน 15 ล้านบาท + 6 ล้านบาท
3) แอ๊ะไอ้ 6 ล้านบาท มันเป็นค่าหุ้นที่ยังเรียกชำระไม่ครบ เจ้าหนี้จะมายุ่งกับค่าหุ้น 6 ล้านบาท นี้ได้อย่างไร
ในส่วนตรงนี้ ผมขอตอบว่า
1) หนี้สิน 15 ล้านบาท ก็ต้องชดใช้ไป
2) หากชดใช้ไม่ได้ เจ้าหนี้จะฟ้องบริษัทให้ล้มละลายใช้หนี้
3) ก่อนการฟ้องให้บริษัทล้มละลายใช้หนี้ เจ้าหนี้จะฟ้องผู้ถือหุ้นให้จ่ายค่าหุ้นให้ครบจำนวนก่อน คืองานนี้ผู้ถือหุ้นต้องจ่ายเงินค่าหุ้นอีก 6 ล้านบาท ก่อนจะทำการล้มละลายบริษัท
4) 6 ล้านบาท ใครจะรับไปคนละเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละคน
นี่คือที่มาที่เพื่อนหยิบเรื่องนี้มาถามกับผมว่าแกอยากจะได้ทุนจดทะเบียนกลับไปอยู่ที่ 4.0 ล้านบาทไม่ใช่ที่ 10 ล้านบาท แบบตอนแรกที่ไปจดทะเบียน
ชายชราสอนการจัดการสากล
เรื่อง การลดทุนบริษัท
ท่ามกลางหุบเขาที่รายล้อมไปด้วยป่าเขา มีก้อนเมฆหนาแน่นเหลือเกินในบ่ายวันนั้น ผมกำลังนั่งกินข้าวตอนเที่ยงเห็นจะได้ที่เขื่อนบางลาง จ.ยะลา
ในวงเหล้า เอ้ยวงข้าว เราสนทนากันถึงเรื่องการจดทะเบียนที่ทุนจดทะเบียนที่มากเกินความเป็นจริง หมายถึงว่า ทุนจดทะเบียนบริษัท 10 ล้านบาท แต่ใช้เงินจริงแค่ 4 ล้านบาท จะมีวิธีการอย่างไรในการที่จะทำให้ทุนจดทะเบียนกลับมาอยู่ที่ 4 ล้านบาท ไม่ใช่ 10 ล้านบาท
การที่เพื่อนของผมที่เป็นเจ้าของบริษัทต้องการให้ทุนจดทะเบียนกลับมาเป็นที่ 4 ล้านบาท เป็นเพราะว่า
1) บริษัทนี้กำลังจะก่อหนี้ประมาณ 15 ล้านบาท
2) หากก่อหนี้แล้วเกิดข้อผิดพลาดก็จะใช้หนี้แค่ 15 ล้านบาท จะไม่ใช้เลยไปในส่วนของค่าหุ้นที่ยังไม่เรียกชำระอีก 6 ล้านบาท
หลายท่านอาจจะสงสัยว่า
1) เป็นหนี้แค่ 15 ล้านบาท
2) แต่เวลาจะต้องใช้หนี้ทำไมต้องใช้หนี้ ในวงเงิน 15 ล้านบาท + 6 ล้านบาท
3) แอ๊ะไอ้ 6 ล้านบาท มันเป็นค่าหุ้นที่ยังเรียกชำระไม่ครบ เจ้าหนี้จะมายุ่งกับค่าหุ้น 6 ล้านบาท นี้ได้อย่างไร
ในส่วนตรงนี้ ผมขอตอบว่า
1) หนี้สิน 15 ล้านบาท ก็ต้องชดใช้ไป
2) หากชดใช้ไม่ได้ เจ้าหนี้จะฟ้องบริษัทให้ล้มละลายใช้หนี้
3) ก่อนการฟ้องให้บริษัทล้มละลายใช้หนี้ เจ้าหนี้จะฟ้องผู้ถือหุ้นให้จ่ายค่าหุ้นให้ครบจำนวนก่อน คืองานนี้ผู้ถือหุ้นต้องจ่ายเงินค่าหุ้นอีก 6 ล้านบาท ก่อนจะทำการล้มละลายบริษัท
4) 6 ล้านบาท ใครจะรับไปคนละเท่าใด ก็ขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นต์การถือครองหุ้นของผู้ถือหุ้นแต่ละคน
นี่คือที่มาที่เพื่อนหยิบเรื่องนี้มาถามกับผมว่าแกอยากจะได้ทุนจดทะเบียนกลับไปอยู่ที่ 4.0 ล้านบาทไม่ใช่ที่ 10 ล้านบาท แบบตอนแรกที่ไปจดทะเบียน
- นาย อนุสรณ์ สวัสดี
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 7
คุณ MO101 เป็นแฟน fpm consultant ด้วย
เอามาจากเล่มไหนครับ ผมจะได้ตามไปอ่านด้วย
อนุสรณ์
เอามาจากเล่มไหนครับ ผมจะได้ตามไปอ่านด้วย
อนุสรณ์
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมบริษัทต้องลดทุนก่อน แล้วค่อยเพิ่มทุน
โพสต์ที่ 8
http://www.fpmconsultant.com/htm/course_bangkok.php
ไปอ่านดูเลยครับ มีบทความดีๆเยอะครับ
ส่วนหนังสือ ผมอ่านไป 3 เล่ม แล้วดีมาครับ
ไปอ่านดูเลยครับ มีบทความดีๆเยอะครับ
ส่วนหนังสือ ผมอ่านไป 3 เล่ม แล้วดีมาครับ