งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
-
- Verified User
- โพสต์: 280
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 3
อยากให้พี่ๆ ช่วยแนะนำในการแกะงบการเงินครับ
ในการพิจารณาว่าบริษัทที่เข้าข่าย VI
ว่างบดุลต้องดูอะไรเป็นพิเศษ
งบกำไรขาดทุน
และงบกระแสเงินสดว่าเน้นกิจกรรมไหนอย่างไร
อันไหนเป็นบวกเป็นลบหมายความว่าอย่างไร
และพี่ๆ คิดว่าทั้งสามงบนี้งบไหนสำคัญที่สุดครับ
ขอบคุณมากครับ
รอห้องนี้มานานแสนนานครับ
ในการพิจารณาว่าบริษัทที่เข้าข่าย VI
ว่างบดุลต้องดูอะไรเป็นพิเศษ
งบกำไรขาดทุน
และงบกระแสเงินสดว่าเน้นกิจกรรมไหนอย่างไร
อันไหนเป็นบวกเป็นลบหมายความว่าอย่างไร
และพี่ๆ คิดว่าทั้งสามงบนี้งบไหนสำคัญที่สุดครับ
ขอบคุณมากครับ
รอห้องนี้มานานแสนนานครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 4
ผมว่า งบการเงินเป็นสิ่งที่ต้องดูครับ งบสามารถบอกอะไรเราได้หลายๆอย่าง จะทำให้เราเห็นคุณภาพของผลกำไร จะสะท้อนถึงความเสี่ยงและความแข็งแกร่งของกิจการ จะทำให้เราสามารถเปรียบเทียบสิ่งที่ผู้บริหารโม้เอาไว้กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงได้ สมมติเราเห็นหุ้น p/e 5 เท่า เราก็คิดว่าหุ้นถูก แต่พอดูงบการเงิน บริษัทกำไรปีละ 80 ล้าน มีกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน 30 ล้าน แต่มีหนี้ระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 700 ล้าน ตั้งหลายปีกว่าจะจ่ายหนี้หมด แถมลูกหนี้การค้า 1000 กว่าล้าน หนี้สูญไม่ถึง 10 % กำไรก็หมดแล้ว p/e 5 เท่าก็เลยเป็น p/e ที่สะท้อนความเสี่ยงตรงนี้ไป หมายเหตุงบก็ต้องอ่าน มันจะทำให้เราหลีกเลี่ยงหุ้นร้ายๆได้หลายตัวครับ
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 6
จำเป็นมากครับ
คนที่บอกว่าไม่จำเป็น อาจจะหมายถึงว่าเขาดูแล้ว และไม่เจอปัญหาอะไรที่น่าสงสัยหรือรุนแรง เขาก็เลยไปดูในส่วนอื่นต่อยอด (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ดูนะครับ)
ถ้าเราไม่ดูงบการเงินเราจะประเมินได้อย่างไรว่าถูกหรือแพง การซื้อของดีแต่ราคาแพงอาจจะขาดทุนได้สบายๆเลยครับ ดีแค่ไหนก็ขาดทุนครับถ้าไปเจอของแพงๆเข้า
ปรมาจารย์ทางด้านลงทุนทั้งหลาย ไม่ว่าบัฟเฟตต์ ลินช์ หรือเกรแฮม ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูงบการเงินทั้งนั้นเลย อิอิ คงไม่ลืมหรือมองข้ามไปนะครับ
เพียงแต่ว่าแต่ละท่านจะมีเทคนิคต่อยอดอย่างไรเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้แต่ละท่านดูแตกต่างกัน แต่เรื่องนี้เป็นพื้ฐานเลยครับต้องผ่านให้ได้ ถ้าไม่ผ่านก็ค่อนข้างจะเสี่ยงในอนาคต
ในส่วนความสำคัญของงบการเงิน ผมให้ความสำคัญเรียงลำดับเลยครับจากหน้ามาหลัง (ซึ่งอาจไม่เหมือนเพื่อนๆท่านอื่น) เริ่มตั้งแต่ใบปะหน้าสำคัญที่สุด ถ้าตรงนี้เชื่อไม่ได้ ส่วนที่เหลือจะไม่มีความหมายเลย ต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่มีความหมายเพราะอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่จริงซึ่งอันตรายมาก แต่ถ้าผ่านเกณฑ์มาแล้ว ส่วนนี้ก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป แล้วก็มางบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสดและหมายเหตุประกอบงบการเงิน ตามลำดับครับ
คนที่บอกว่าไม่จำเป็น อาจจะหมายถึงว่าเขาดูแล้ว และไม่เจอปัญหาอะไรที่น่าสงสัยหรือรุนแรง เขาก็เลยไปดูในส่วนอื่นต่อยอด (แต่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ดูนะครับ)
ถ้าเราไม่ดูงบการเงินเราจะประเมินได้อย่างไรว่าถูกหรือแพง การซื้อของดีแต่ราคาแพงอาจจะขาดทุนได้สบายๆเลยครับ ดีแค่ไหนก็ขาดทุนครับถ้าไปเจอของแพงๆเข้า
ปรมาจารย์ทางด้านลงทุนทั้งหลาย ไม่ว่าบัฟเฟตต์ ลินช์ หรือเกรแฮม ล้วนแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการดูงบการเงินทั้งนั้นเลย อิอิ คงไม่ลืมหรือมองข้ามไปนะครับ
เพียงแต่ว่าแต่ละท่านจะมีเทคนิคต่อยอดอย่างไรเท่านั้นเอง ซึ่งทำให้แต่ละท่านดูแตกต่างกัน แต่เรื่องนี้เป็นพื้ฐานเลยครับต้องผ่านให้ได้ ถ้าไม่ผ่านก็ค่อนข้างจะเสี่ยงในอนาคต
ในส่วนความสำคัญของงบการเงิน ผมให้ความสำคัญเรียงลำดับเลยครับจากหน้ามาหลัง (ซึ่งอาจไม่เหมือนเพื่อนๆท่านอื่น) เริ่มตั้งแต่ใบปะหน้าสำคัญที่สุด ถ้าตรงนี้เชื่อไม่ได้ ส่วนที่เหลือจะไม่มีความหมายเลย ต่อให้ดีแค่ไหนก็ไม่มีความหมายเพราะอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่จริงซึ่งอันตรายมาก แต่ถ้าผ่านเกณฑ์มาแล้ว ส่วนนี้ก็จะไม่สำคัญอีกต่อไป แล้วก็มางบดุล งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสดและหมายเหตุประกอบงบการเงิน ตามลำดับครับ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 8
บอกแร้ว แฮรี่ไม่ใช่มือใหม่แร้วอะharry เขียน:สำหรับผมสำคัญมาก
ผมกำลังศึกษาถึงการมองให้ทะลุปรุโปร่งเหมือนพี่ฉัตรชัยอยู่ครับ
- Saran
- Verified User
- โพสต์: 2377
- ผู้ติดตาม: 1
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 9
ถ้าจะลงทุนแบบ VI จำเป็นต้องอ่านงบการเงินให้เป็นนะครับผมว่า ไม่งั้นจะวิเคราะห์บริษัทได้หรือ ?
ผมว่าปัจจัยหลักๆ ในการอ่านงบการเงินคือต้องเข้าใจตัวธุรกิจของมันก่อนนะครับ อย่างเช่นถ้าเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป
ดังนั้นในงบดุลสินทรัพย์ส่วนใหญ่ก็น่าจะไปอยู่ในส่วนสินค้าหมุนเวียนใช่ป่าว สินค้าคงเหลือเป็นยังไง หมุนเวียนดีไหม แล้วก็ไปดูส่วนหนี้สินว่าเป็นไง มีหนี้มากป่าวถ้ามาก หนี้ส่วนใหญ่เป็นอะไร ถ้าเป็นในส่วนเจ้าหนี้อาจดีหน่อยเพราะเค้าให้เครดิตเราเยอะ เอาสินค้าเค้ามาขายก่อน จ่ายเงินคืนทีหลัง แต่ถ้าหนี้ส่วนมากเป็นหนี้จากการกู้ อืม... อย่างนี้ก็ต้องระวังหน่อยว่าจะมีตังค์มาจ่ายป่าว
ต่อมาดูงบกำไรขาดทุน กำไรขั้นต้นเป็นยังไง ลดลงป่าวถ้าลดเกิดจากอะไร ต้นทุนสินค้าเพิ่มเนื่องจากไปซื้อเค้ามาแพงขึ้นแต่ขายได้ราคาเดิม หรือต้นทุนการขายเพิ่มเนื่องจากบริหารงานไม่ดี ถ้าเป็นยังงี้ตอนไปประชุมผู้ถือหุ้นต้องไปถามผู้บริหารสิว่า เค้าจะแก้ไขยังไง ถัดมาก็ดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรอีกไหม ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเยอะป่าว เดี๋ยวกลายเป็นว่าทำมาตั้งเยอะ เจ้าหนี้เอาไปกินหมด ผู้ถือหุ้นอด....
ส่วนงบกระแสเงินสด เป็นการดูว่าในงวดนั้นมีเงินเข้าบริษัทป่าว ถ้าเงินไหลออก ต้องดูว่าไปออกตรงส่วนไหน ถ้าออกตรงส่วนจากการดำเนินงาน ก็ต้องคิดหน่อยแล้วว่าทำไม บริษัทขายสินค้าไป แต่ไม่มีเงินเข้า อาจไปกองอยู่ที่ลูกหนี้ ยังเก็บเงินไม่ได้ ก็ต้องคอยดูแล้วว่าจะเป็นหนี้ดีหรือหนี้สูญ ส่วนกระแสเงินสดจากการลงทุน ก็ดูว่าธุรกิจไปลงทุนอะไรเพิ่ม ถ้าไม่ขยายสาขา ก็น่าจะสร้างโรงเก็บสินค้า ถ้าไปลงทุนอย่างอื่นก็ต้องดูต่อไปว่ามันมีประโยชน์กับธุรกิจหรือป่าว สุดท้ายงบกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินเป็นการดูว่าเงินที่บริษัทเอามาใช้นั้นเอามาจากไหน 1.กำไรสะสมของบริษัท 2.กู้ 3.เพิ่มทุน
ที่เขียนไปก็เป็นการแนะนำคร่าวๆ ครับ ผมเองก็เป็นมือใหม่ ไปเรียนกะอาจารย์มน ก็เกือบนอนตายคาโต๊ะเรียนอยู่แล้ว ยังเทียบกับพี่ๆ หลายๆ คนในเวปนี้ไม่ได้หรอกครับ เก่งแล้วยังใจดีอีกต่างหาก :lol:
ผมว่าปัจจัยหลักๆ ในการอ่านงบการเงินคือต้องเข้าใจตัวธุรกิจของมันก่อนนะครับ อย่างเช่นถ้าเป็นธุรกิจซื้อมาขายไป
ดังนั้นในงบดุลสินทรัพย์ส่วนใหญ่ก็น่าจะไปอยู่ในส่วนสินค้าหมุนเวียนใช่ป่าว สินค้าคงเหลือเป็นยังไง หมุนเวียนดีไหม แล้วก็ไปดูส่วนหนี้สินว่าเป็นไง มีหนี้มากป่าวถ้ามาก หนี้ส่วนใหญ่เป็นอะไร ถ้าเป็นในส่วนเจ้าหนี้อาจดีหน่อยเพราะเค้าให้เครดิตเราเยอะ เอาสินค้าเค้ามาขายก่อน จ่ายเงินคืนทีหลัง แต่ถ้าหนี้ส่วนมากเป็นหนี้จากการกู้ อืม... อย่างนี้ก็ต้องระวังหน่อยว่าจะมีตังค์มาจ่ายป่าว
ต่อมาดูงบกำไรขาดทุน กำไรขั้นต้นเป็นยังไง ลดลงป่าวถ้าลดเกิดจากอะไร ต้นทุนสินค้าเพิ่มเนื่องจากไปซื้อเค้ามาแพงขึ้นแต่ขายได้ราคาเดิม หรือต้นทุนการขายเพิ่มเนื่องจากบริหารงานไม่ดี ถ้าเป็นยังงี้ตอนไปประชุมผู้ถือหุ้นต้องไปถามผู้บริหารสิว่า เค้าจะแก้ไขยังไง ถัดมาก็ดูว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรอีกไหม ต้องจ่ายค่าดอกเบี้ยเยอะป่าว เดี๋ยวกลายเป็นว่าทำมาตั้งเยอะ เจ้าหนี้เอาไปกินหมด ผู้ถือหุ้นอด....
ส่วนงบกระแสเงินสด เป็นการดูว่าในงวดนั้นมีเงินเข้าบริษัทป่าว ถ้าเงินไหลออก ต้องดูว่าไปออกตรงส่วนไหน ถ้าออกตรงส่วนจากการดำเนินงาน ก็ต้องคิดหน่อยแล้วว่าทำไม บริษัทขายสินค้าไป แต่ไม่มีเงินเข้า อาจไปกองอยู่ที่ลูกหนี้ ยังเก็บเงินไม่ได้ ก็ต้องคอยดูแล้วว่าจะเป็นหนี้ดีหรือหนี้สูญ ส่วนกระแสเงินสดจากการลงทุน ก็ดูว่าธุรกิจไปลงทุนอะไรเพิ่ม ถ้าไม่ขยายสาขา ก็น่าจะสร้างโรงเก็บสินค้า ถ้าไปลงทุนอย่างอื่นก็ต้องดูต่อไปว่ามันมีประโยชน์กับธุรกิจหรือป่าว สุดท้ายงบกระแสเงินสดจากการจัดหาเงินเป็นการดูว่าเงินที่บริษัทเอามาใช้นั้นเอามาจากไหน 1.กำไรสะสมของบริษัท 2.กู้ 3.เพิ่มทุน
ที่เขียนไปก็เป็นการแนะนำคร่าวๆ ครับ ผมเองก็เป็นมือใหม่ ไปเรียนกะอาจารย์มน ก็เกือบนอนตายคาโต๊ะเรียนอยู่แล้ว ยังเทียบกับพี่ๆ หลายๆ คนในเวปนี้ไม่ได้หรอกครับ เก่งแล้วยังใจดีอีกต่างหาก :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 79
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 11
ดูแล้วงง + งงมาก ยิ่งดูยิ่ง งง
ดูไปดูมากลายเป็นงบการงง
แบบว่าเป็นมือใหม่เหมือนกันครับ กำลังศึกษาอยู่ ว่าเค้าคิด พวกงบการเงิน ประเมินความเสี่ยงกันยังไง มีใคร ช่วยแนะนำต่อให้ด้วยนะ นะนำเป็นหนังสือด้วยก็ดีได้ไป นั้งอ่านนั้ง งง ต่อ อิอิ
ดูไปดูมากลายเป็นงบการงง
แบบว่าเป็นมือใหม่เหมือนกันครับ กำลังศึกษาอยู่ ว่าเค้าคิด พวกงบการเงิน ประเมินความเสี่ยงกันยังไง มีใคร ช่วยแนะนำต่อให้ด้วยนะ นะนำเป็นหนังสือด้วยก็ดีได้ไป นั้งอ่านนั้ง งง ต่อ อิอิ
เม่าน้อยหัดบิน
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 12
ขอต่อครับ
หลังจากดูใบปะหน้าแล้ว ก็ดูงบดุล ดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม ลงบัญชีมากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็นไหม ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ p/b
งบกำไรขาดทุนดูว่าสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจหรือไม่ ดูว่ามีกำไรพิเศษอะไรหรือไม่ ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ p/e
งบกระแสเงินสด ก็เป็นเรื่องใหญ่ บริษัทล้มหรือไม่ตัวนี้จะบอกได้ดีกว่า ดูว่ากำไรที่ได้มันเปลี่ยนมาเป็นเงินสดเท่าไหร่ ถ้ามีแต่ตัวเลขก็ต้องดูให้ลึกลงไปอีก ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ dcf
ถ้าทุกอย่างผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ยอมรับได้ ความสำคัญของปัจจัยส่วนที่เป็นงบการเงินก็จะลดลง ผมก็จะไปดูอย่างอื่นที่คิดว่าสำคัญกว่าอีก
หลังจากดูใบปะหน้าแล้ว ก็ดูงบดุล ดูว่ามีอะไรผิดปกติไหม ลงบัญชีมากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็นไหม ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ p/b
งบกำไรขาดทุนดูว่าสอดคล้องกับลักษณะธุรกิจหรือไม่ ดูว่ามีกำไรพิเศษอะไรหรือไม่ ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ p/e
งบกระแสเงินสด ก็เป็นเรื่องใหญ่ บริษัทล้มหรือไม่ตัวนี้จะบอกได้ดีกว่า ดูว่ากำไรที่ได้มันเปลี่ยนมาเป็นเงินสดเท่าไหร่ ถ้ามีแต่ตัวเลขก็ต้องดูให้ลึกลงไปอีก ตัวนี้จะช่วยบอกความถูกแพงในแง่ dcf
ถ้าทุกอย่างผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ยอมรับได้ ความสำคัญของปัจจัยส่วนที่เป็นงบการเงินก็จะลดลง ผมก็จะไปดูอย่างอื่นที่คิดว่าสำคัญกว่าอีก
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
- สามัญชน
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 5162
- ผู้ติดตาม: 1
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 13
ตัวที่สำคัญกว่างบการเงิน ผมคิดว่า คือ อนาคตของบริษัท แน่นอนว่างบการเงินซึ่งเป็นตัวบอกผลงานในอดีตและปัจจุบันมีส่วนที่สะท้อนอนาคตได้มาก แต่ปัจจัยอื่นก็สำคัญมากเช่นเดียวกัน ปัจจัยที่ว่าก็เช่น
1. การได้เปรียบเชิงแข่งขันในอนาคต วิเคราะห์โดยใช้พลังทั้งห้าของ E. Porter
2.แนวโน้มธุรกิจในอนาคต พฤติกรรมมนุษย์ เป็นกุญแจที่จะช่วยวิเคราะห์
ข้อมูลเชิงคุณภาพมีความแม่นยำในการทำนายอนาคตค่อนข้างสูง แต่ขณะเดียวกัน การจับต้องได้จะมีน้อยกว่าข้อมูลเชิงปริมาณ(โดยเฉพาะในส่วนที่ได้จากการแตกแขนงหรือต่อยอดของงบการเงิน)
ในความเห็นผม ผมให้น้ำหนักกับข้อมูลเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ
1. การได้เปรียบเชิงแข่งขันในอนาคต วิเคราะห์โดยใช้พลังทั้งห้าของ E. Porter
2.แนวโน้มธุรกิจในอนาคต พฤติกรรมมนุษย์ เป็นกุญแจที่จะช่วยวิเคราะห์
ข้อมูลเชิงคุณภาพมีความแม่นยำในการทำนายอนาคตค่อนข้างสูง แต่ขณะเดียวกัน การจับต้องได้จะมีน้อยกว่าข้อมูลเชิงปริมาณ(โดยเฉพาะในส่วนที่ได้จากการแตกแขนงหรือต่อยอดของงบการเงิน)
ในความเห็นผม ผมให้น้ำหนักกับข้อมูลเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ
ทุกความเห็นย่อมเปลี่ยนไปตามความรู้ การเรียนรู้ย่อมไม่มีจุดสิ้นสุด
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 18
งบการเงินสำคัญแค่ไหนคงต้องบอกว่า เหมือนคุณขับรถนั่นแหละครับ งบการเงินก็เหมือน Km/Hr, R/min, Temperature, Oil Tank, ลมยาง, ระดับน้ำมันเครื่อง เป็นต้น เวลาคุณขับรถคุณดูพวกนี้ไหมครับ ถ้าคุณดู เวลาคุณจะลงทุนก็ต้องดูเช่นกันครับ แต่ก็ไม่ใช่สักแต่ว่าดู เพราคุณต้องรู้สมรรถนะของรถคันนั้นเสียก่อนว่า แรงม้าเท่าไหร่ DOHCหรือOHC แรงบิดเท่าไหร่ ขับเคลื่อนแบบไหน ซึ่งถ้าเป็นหุ้นก็คือลักษณะของธุรกิจนั่นแหละครับ ดังนั้นเวลาดูต้องดู"ทั้งสองอย่าง"ประกอบกันครับ อย่าบ้าดูแต่Ratioอย่างเดียว เข้ารกเข้าป่าแน่ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 19
งบการเงิน น่าจะเป็นตัวบอกศักยภาพของบริษัท
ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ถึงแม้แน้วโน้มธุรกิจจะดีแค่ไหน แต่บริษัทไม่มีเงิน
หรือความสามารถที่จะกู้เงินได้ มันก็ยากอยู่ที่จะหาเงินมาลงทุน
ผมว่าดูนะควรดูอยู่แล้ว แต่จะดูยังไงให้แจ่ม
ผมว่าในเวปนี้ โพสหลายๆอย่าง ทำให้ผมกลับไปดูมากขี้น
ทั้งอดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ถึงแม้แน้วโน้มธุรกิจจะดีแค่ไหน แต่บริษัทไม่มีเงิน
หรือความสามารถที่จะกู้เงินได้ มันก็ยากอยู่ที่จะหาเงินมาลงทุน
ผมว่าดูนะควรดูอยู่แล้ว แต่จะดูยังไงให้แจ่ม
ผมว่าในเวปนี้ โพสหลายๆอย่าง ทำให้ผมกลับไปดูมากขี้น
-
- Verified User
- โพสต์: 1474
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 21
การมองงบการเงินถ้าจะดูให้ง่ายขึ้นควรจะเข้าใจเหตุผลของบแต่ละแบบด้วยจะวิเศษมาก
งบกำไร/ขาดทุน เป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่เราจะดูว่าบริษัทนี้รายได้ดีแค่ไหน บริหารค่าใช้จ่ายประหยัดหรือไม่ ก็ใช้งบชุดนี้แหละครับ ถ้าเปรียบกับรถก็คือ แรงม้า แรงบิด อัตราการบริโภคน้ำมัน เป็นต้น
งบดุล เป็นตัวที่แสดงถึงการใช้ทรัพยากรของบริษัท อันเป็นตัวสะท้อนถึงสภาพคล่องและความเสี่ยงของบริษัท ดังนั้นหากจะพิจารณาว่าบรษัทนี้บริหารเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โครงสร้างของบริษัทเป็นอย่างไรก็ดูตัวนี้ครับ ซึ่งเป็นเสมือน ตัวถัง เชสซี ระบบช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง ระบบเบรค เป็นต้น
งบกระแสเงินสด เป็นตัวแสดงถึงการเคลื่อนไหวของเม็ดเงินในบริษัท เป็นตัวบ่งบอกสภาพคล่องที่แท้จริงของบริษัทว่าเป็นอย่างไร มีคอขวดตรงไหน เช่นกันถ้าเปรียบกับรถก็คือ หัวฉีด การจุดระเบิด น้ำมันเครื่อง ระบบหล่อเย็นต่างๆ เป็นต้น
ส่วนสิ่งที่ไม่ได้เป็นงบการเงินเช่น ฟอร์ม56-1 เป็นตัวบ่งบอกถึงทิศทาง ค่านิยม และวิธีการปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือ ล้อ เพลา และ พวงมาลัยดีๆนี่เอง
เห็นภาพมากขึ้นไหมครับ
งบกำไร/ขาดทุน เป็นตัวแสดงถึงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งการที่เราจะดูว่าบริษัทนี้รายได้ดีแค่ไหน บริหารค่าใช้จ่ายประหยัดหรือไม่ ก็ใช้งบชุดนี้แหละครับ ถ้าเปรียบกับรถก็คือ แรงม้า แรงบิด อัตราการบริโภคน้ำมัน เป็นต้น
งบดุล เป็นตัวที่แสดงถึงการใช้ทรัพยากรของบริษัท อันเป็นตัวสะท้อนถึงสภาพคล่องและความเสี่ยงของบริษัท ดังนั้นหากจะพิจารณาว่าบรษัทนี้บริหารเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน โครงสร้างของบริษัทเป็นอย่างไรก็ดูตัวนี้ครับ ซึ่งเป็นเสมือน ตัวถัง เชสซี ระบบช่วงล่าง ระบบส่งกำลัง ระบบเบรค เป็นต้น
งบกระแสเงินสด เป็นตัวแสดงถึงการเคลื่อนไหวของเม็ดเงินในบริษัท เป็นตัวบ่งบอกสภาพคล่องที่แท้จริงของบริษัทว่าเป็นอย่างไร มีคอขวดตรงไหน เช่นกันถ้าเปรียบกับรถก็คือ หัวฉีด การจุดระเบิด น้ำมันเครื่อง ระบบหล่อเย็นต่างๆ เป็นต้น
ส่วนสิ่งที่ไม่ได้เป็นงบการเงินเช่น ฟอร์ม56-1 เป็นตัวบ่งบอกถึงทิศทาง ค่านิยม และวิธีการปฏิบัติการของบริษัท ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือ ล้อ เพลา และ พวงมาลัยดีๆนี่เอง
เห็นภาพมากขึ้นไหมครับ
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงินครับจำเป็นมากมั้ยครับ สำหรับการลงทุนแบบ VI
โพสต์ที่ 22
ผมคงไม่พูดไรมากนะครับ เพราะพี่ๆได้แบ่งความรู้ไว้ให้แล้ว
แต่ พี่ต้องเข้าใจลักษณะการดําเนินเงินธุรกิจ ของบริษัทที่พี่จะลงทุน
ก่อนจะวิเคราะห์งบนะครับเผื่อความคลาดเคลื่อนในการตีความหมาย
อีกทั้งหลังวิเคราะห์งบ เราก็นําผลลัพธ์มาหาความสัมพันธ์ของ ข้อมูลเชิงคุณภาพครับ ในทุกแง่มุม เช่น ธุรกิจ ผู้บริหาร แนวโน้ม ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าสอดหละก็ใช่เลยแสดงว่า ข้อมูลที่เรามีความถูกต้องแล้ว
อีกอย่างค่า p/e p/bvก็ต้องอาศัย งบในการตีความหมาย ว่าถูกจริงหรือเปล่า นะครับ ไม่สามารถอาศัยข้อมูลอย่างเดียวได้ครับ
ผมก็มือใหม่เหมือนพี่หละครับมีอะไรก็คุยกันได้ครับ
_________________________________________
กระบี่อยู่ที่ใจ 8)
แต่ พี่ต้องเข้าใจลักษณะการดําเนินเงินธุรกิจ ของบริษัทที่พี่จะลงทุน
ก่อนจะวิเคราะห์งบนะครับเผื่อความคลาดเคลื่อนในการตีความหมาย
อีกทั้งหลังวิเคราะห์งบ เราก็นําผลลัพธ์มาหาความสัมพันธ์ของ ข้อมูลเชิงคุณภาพครับ ในทุกแง่มุม เช่น ธุรกิจ ผู้บริหาร แนวโน้ม ว่าสอดคล้องกันหรือไม่ ถ้าสอดหละก็ใช่เลยแสดงว่า ข้อมูลที่เรามีความถูกต้องแล้ว
อีกอย่างค่า p/e p/bvก็ต้องอาศัย งบในการตีความหมาย ว่าถูกจริงหรือเปล่า นะครับ ไม่สามารถอาศัยข้อมูลอย่างเดียวได้ครับ
ผมก็มือใหม่เหมือนพี่หละครับมีอะไรก็คุยกันได้ครับ
_________________________________________
กระบี่อยู่ที่ใจ 8)
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
งบการเงิน
โพสต์ที่ 23
ผมว่างบการเงินสำคัญมากครับ ถ้าวีไอไม่อ่านงบการเงินก็เหมือนเดินในที่มืดนั่นแหละครับ ก็ต้องค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆครับ ยิ่งศึกษามากก็ยิ่งรู้มากขึ้น ที่ผมบอกได้อย่างนี้ไม่ใช่ว่าผมเก่งแล้ว แต่เพราะผมกำลังศึกษาอยู่ตลอด ว่าไปแล้วผมเองก็เพิ่งเป็นนักลงทุนไม่นานยังเข้าใจความรู้สึกของมือใหม่ดี ลองอ่านจากบริษัทง่ายๆก่อนก็ดีครับ พวกที่ค้าขายอย่างเดียว หรือผลิตสินค้าอย่างเดียว อย่าไปอ่านพวกปูนใหญ่หรือปตท ที่มีธุรกิจหลากหลาย มีบริษัทลูกเป็นร้อย เดี๋ยวจะงงครับ การเรียนรู้ย่อมต้องเริ่มจากพื้นฐานครับ ถ้าอยากเก่งเร็วก็เข้าคอร์สอบรมบ้างก็จะดีครับ
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch