ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 1
ผมนับว่าใหม่กับตลาดหุ้นนี้มากครับ อยากจะแชร์ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ ที่จะเข้ามาในตลาดได้ลองคิดู
ผมเข้าเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์นะครับ หลังจากเข้าเรียนมาได้ 1 เทอม ผมรู้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่สายทางที่ผมจะไปต่อในอนาคตแล้ว แต่ด้วยความที่เราก็รัก และมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์พอตัวอยู่แล้ว ทำไมจะเรียนต่อไม่ได้ละ อันที่จริงผมคิดว่าเรียนไปทางด้านนี้ผมมีเวลาเหลือเฟือที่จะไปศึกษาด้านที่ผมชอบจริงๆ คือเรื่องของการลงทุน ผมจึงศึกษาต่อไป ซึ่งต่อมามันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจ เข้าถึง และใช้งานเทคโนโลยีได้ดี (บทเรียนที่หนึ่ง ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ)
ผมเข้าเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์นะครับ หลังจากเข้าเรียนมาได้ 1 เทอม ผมรู้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่สายทางที่ผมจะไปต่อในอนาคตแล้ว แต่ด้วยความที่เราก็รัก และมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์พอตัวอยู่แล้ว ทำไมจะเรียนต่อไม่ได้ละ อันที่จริงผมคิดว่าเรียนไปทางด้านนี้ผมมีเวลาเหลือเฟือที่จะไปศึกษาด้านที่ผมชอบจริงๆ คือเรื่องของการลงทุน ผมจึงศึกษาต่อไป ซึ่งต่อมามันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจ เข้าถึง และใช้งานเทคโนโลยีได้ดี (บทเรียนที่หนึ่ง ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 2
หลังจากวันนั้นผมเริ่มที่จะอ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจทุกๆวันพุธ และวันเสาร์ ...ก็มันดันออกวันนั้นพอดี การเรียนของผมในห้องเริ่มกลายเป็นการอ่านหนังสือพิมพ์ และหนังสืออื่นๆแทน แต่อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้ทิ้งการเรียนนะ ก่อนสอบผมยังคงอ่านหนังสือ และทำได้ดีพอตัวอยู่เสมอ (บทเรียนที่สอง มุ่งมั่นในทุกอย่าง อย่าทอดทิ้งสิ่งใด)
หนังสือเล่มแรกที่ผมได้อ่านคือ พ่อรวยสอนลูก เล่มแรก และเงินสี่ด้าน หลังจากอ่านเล่มสอง เงินสี่ด้าน ผมเริ่มรู้สึกว่าทำไมมันวกไปวนมา เอาละผมพอละกับ Idea ทีั่หนังสือต้องการให้อย่าง จงอย่ากลัวความเสี่ยง โอกาสมีอยู่เสมอ อะไรประมาณนี้ (บทเรียนที่สาม จงกล้าที่จะเริ่มต้น อย่างระมัดระวัง)
หนังสือเล่มแรกที่ผมได้อ่านคือ พ่อรวยสอนลูก เล่มแรก และเงินสี่ด้าน หลังจากอ่านเล่มสอง เงินสี่ด้าน ผมเริ่มรู้สึกว่าทำไมมันวกไปวนมา เอาละผมพอละกับ Idea ทีั่หนังสือต้องการให้อย่าง จงอย่ากลัวความเสี่ยง โอกาสมีอยู่เสมอ อะไรประมาณนี้ (บทเรียนที่สาม จงกล้าที่จะเริ่มต้น อย่างระมัดระวัง)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 3
หลังจากผ่านหนังสือสองเล่มแรก ผมเริ่มสนใจตลาดหุ้นอย่างเต็มที่จากที่บ้านของผมที่ ทุกๆคนต่างอยู่ในตลาดมาเป็นเวลากว่าสิบปี รวมถึงพ่อของผมเองด้วย ผมจึงเริ่มต้นที่จะอ่านหนังสือที่มีชื่อว่า คัมภีร์หุ้น ของคุณ โสภณ ด่านศิริกุล หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้ว่าตลาดหุ้นเป็นอย่างไร มันเป็นพื้นฐานจริงๆของคนที่คิดเริ่มต้นจะเข้ามาในตลาด (บทเรียนที่สี่ จงเรียนรู้พื้นฐานเสียก่อน อย่าให้คนอื่นจูงจมูก)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 4
เล่มต่อไปที่ผมรู้สึกว่า เป็นหนังสือที่ดีมากสำหรับผมเอง เป็นจุดเริ่มต้นของการศึกษาในแนวทางของ VI Value Investor อย่างจริงจัง "ตีแตก" ของ ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ผมเห็นว่าเล่มนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีนะครับ สำหรับคนที่คิดว่า VI ไม่สามารถใช้ได้ในประเทศไทย
หลังจากนั้นผมได้รู้จักเว็บนี้ TVI (เมื่อก่อน tvi.com) ก่อนเปลี่ยนมาเป็น thaivi.com ในปัจจุบันพี่ๆหลายๆคนในที่นี้ใจดีมากครับ ถามอะไรก็ตอบ อย่างเดียวที่ผมรู้สึกไม่ดีกับที่นี่คือ ผมรู้สึกว่า เราเป็นคนใหม่ และพี่ๆก็สนิทกันเองมาก่อนที่เราจะเข้ามานานแล้ว การที่เราจะแทรกตัวเข้าไปมันยากเสียเหลือเกิน
หลังจากนั้นผมได้รู้จักเว็บนี้ TVI (เมื่อก่อน tvi.com) ก่อนเปลี่ยนมาเป็น thaivi.com ในปัจจุบันพี่ๆหลายๆคนในที่นี้ใจดีมากครับ ถามอะไรก็ตอบ อย่างเดียวที่ผมรู้สึกไม่ดีกับที่นี่คือ ผมรู้สึกว่า เราเป็นคนใหม่ และพี่ๆก็สนิทกันเองมาก่อนที่เราจะเข้ามานานแล้ว การที่เราจะแทรกตัวเข้าไปมันยากเสียเหลือเกิน
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 5
ยังมีหนังสือที่ไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นที่ผมยังคงอ่านอีก ตัวอย่างเช่น
26 เจ้าสัวผู้เยี่ยมวรยุทธ์ ที่กล่าวถึงยอดนักธุรกิจของประเทศไทยหลายต่อหลายคน มันให้ข้อคิดหลายอย่างนะครับกับผม การต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ความสามารถหลายๆอย่าง การผจญกับวิกฤต ฯลฯ
100 แบรนด์ ล้มดัง ของ MATT HAIG เล่มนี้อาจจะเป็นเล่มที่ผมรู้สึกชอบมากที่สุดในบรรดาหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน มันเป็นเสมือนตำราความผิดพลาดของคนอื่นที่เราไม่คาดหวังจะให้บริษัทที่เราลงทุนทำตาม
(บทเรียนที่ห้า จงศึกษาความผิดพลาดของคนอื่น)
เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ เป็นหนังสือเล่มต่อไปที่ผมอ่าน หนังสือเล่มที่ผมพูดตรงๆว่า ผมอ่านตาม ฯพณฯ แนะนำ ซึ่งมันแทบไม่ได้ให้อะไรกับผมเลย ยกเว้นการบอกว่า BioTech ในอนาคตสำคัญมาก และ Nano Technology คือสิ่งที่สุดยอดในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามมันก็คือบทเรียน
(บทเรียนที่หก จงศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ)
26 เจ้าสัวผู้เยี่ยมวรยุทธ์ ที่กล่าวถึงยอดนักธุรกิจของประเทศไทยหลายต่อหลายคน มันให้ข้อคิดหลายอย่างนะครับกับผม การต่อสู้อย่างเต็มกำลัง ความสามารถหลายๆอย่าง การผจญกับวิกฤต ฯลฯ
100 แบรนด์ ล้มดัง ของ MATT HAIG เล่มนี้อาจจะเป็นเล่มที่ผมรู้สึกชอบมากที่สุดในบรรดาหนังสือที่ไม่เกี่ยวกับการลงทุน มันเป็นเสมือนตำราความผิดพลาดของคนอื่นที่เราไม่คาดหวังจะให้บริษัทที่เราลงทุนทำตาม
(บทเรียนที่ห้า จงศึกษาความผิดพลาดของคนอื่น)
เมื่ออนาคตไล่ล่าคุณ เป็นหนังสือเล่มต่อไปที่ผมอ่าน หนังสือเล่มที่ผมพูดตรงๆว่า ผมอ่านตาม ฯพณฯ แนะนำ ซึ่งมันแทบไม่ได้ให้อะไรกับผมเลย ยกเว้นการบอกว่า BioTech ในอนาคตสำคัญมาก และ Nano Technology คือสิ่งที่สุดยอดในอนาคต แต่อย่างไรก็ตามมันก็คือบทเรียน
(บทเรียนที่หก จงศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 6
จงการอ่านหนังสือทั้งหมด ผมเริ่มการค้นหาหุ้นของตัวเองด้วยการดูค่า P/E ดูว่ามีใครไป Post ถึงหุ้นไหนในเว็บบอร์ดแล้วไม่ได้รับการตอบสนองบ้าง
การที่มีใครคนนึงชอบหุ้นหนึ่ง โดยที่คนอื่นไม่สนใจ ผมมองว่า นั่นแหละจะเป็นกลิ่นที่ให้ผมกรองหุ้นได้ดี (คนอื่นกรองให้แล้ว) ถึงหุ้นจะดีแค่ไหน ถ้าคนสนใจเยอะ มันก็ย่อมแพงเป็นธรรมดา
อีกกลยุทธ์ที่ผมใช้และแทบจะทุกตัวขึ้นตามกันคือ การดูว่าผู้บริหารทำอย่างไรกับหุ้นในช่วงเวลานั้น
(บทเรียน วิธีการง่ายๆ ทำให้เจอหุ้นดีดีอยู่เสมอ)
และผมก็เริ่มทำการวิเคราะห์หุ้น โดยการตรวจจากบนลงล่าง หุ้นที่ผมชอบคือ หุ้นที่ผมรู้จักเท่านั้น แต่.... แม้ว่าอ่านหนังสือ และเว็บบอร์ดรวมถึงหลายๆอย่างมากเยอะ มันก็เท่านั้น หุ้นที่ผมคิดว่าดีมากอย่าง GRAMMY ก็หล่นลงมา ในตอนนั้นผมสนใจแค่ตัวเลขต่างๆ ไม่ได้ลงลึกไปถึงในรายละเอียดเลย
(บทเรียน ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงเท่านั้น)
ยังมีหนังสือคั่นเวลาอีกเล่มนึงของจิม โรเจอร์ เรื่อง อะไรก็ไม่รู้ที่ตะลอนทัวร์ขับเบนซ์ไปทั่วโลก (จำไม่ได้แล้วว่าได้อะไรจากเล่มนี้)
การที่มีใครคนนึงชอบหุ้นหนึ่ง โดยที่คนอื่นไม่สนใจ ผมมองว่า นั่นแหละจะเป็นกลิ่นที่ให้ผมกรองหุ้นได้ดี (คนอื่นกรองให้แล้ว) ถึงหุ้นจะดีแค่ไหน ถ้าคนสนใจเยอะ มันก็ย่อมแพงเป็นธรรมดา
อีกกลยุทธ์ที่ผมใช้และแทบจะทุกตัวขึ้นตามกันคือ การดูว่าผู้บริหารทำอย่างไรกับหุ้นในช่วงเวลานั้น
(บทเรียน วิธีการง่ายๆ ทำให้เจอหุ้นดีดีอยู่เสมอ)
และผมก็เริ่มทำการวิเคราะห์หุ้น โดยการตรวจจากบนลงล่าง หุ้นที่ผมชอบคือ หุ้นที่ผมรู้จักเท่านั้น แต่.... แม้ว่าอ่านหนังสือ และเว็บบอร์ดรวมถึงหลายๆอย่างมากเยอะ มันก็เท่านั้น หุ้นที่ผมคิดว่าดีมากอย่าง GRAMMY ก็หล่นลงมา ในตอนนั้นผมสนใจแค่ตัวเลขต่างๆ ไม่ได้ลงลึกไปถึงในรายละเอียดเลย
(บทเรียน ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงเท่านั้น)
ยังมีหนังสือคั่นเวลาอีกเล่มนึงของจิม โรเจอร์ เรื่อง อะไรก็ไม่รู้ที่ตะลอนทัวร์ขับเบนซ์ไปทั่วโลก (จำไม่ได้แล้วว่าได้อะไรจากเล่มนี้)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 7
เล่มต่อไปที่อ่าน มันคือ
กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เ่ล่มนี้ทำให้ผมเริ่มรู้จักตัวเลขต่างๆมากขึ้น ตัวเลขที่พวกพี่ๆในเว็บคุยกันอย่างกับมันเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับผมตอนนั้นมันคืออะไรก็ไม่รู้
บทเรียนจากนักลงทุนชั้นนำของโลก หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้จักกับ Warren Buffet และ Peter Lynch ซึ่งกลายเป็น idol สองคนของผม
เงินหมุนโลก มันเป็นหนังสือที่ทำให้ผมพอเข้าใจธนาคารได้ ถึงจะเล็กน้อยก็ยังดีแหละ
The New Buffettology นี่คือหนังสือที่ทุกคนน่าจะลองอ่าน อย่างน้อยมันก็ทำให้เห็นว่าคนคนนี้คิดอย่างไร จึงกลายเ็ป็นคนที่ร่ำรวยเป็นอันดับสองของโลกได้
กลยุทธ์การลงทุนแบบเน้นคุณค่า เ่ล่มนี้ทำให้ผมเริ่มรู้จักตัวเลขต่างๆมากขึ้น ตัวเลขที่พวกพี่ๆในเว็บคุยกันอย่างกับมันเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับผมตอนนั้นมันคืออะไรก็ไม่รู้
บทเรียนจากนักลงทุนชั้นนำของโลก หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมรู้จักกับ Warren Buffet และ Peter Lynch ซึ่งกลายเป็น idol สองคนของผม
เงินหมุนโลก มันเป็นหนังสือที่ทำให้ผมพอเข้าใจธนาคารได้ ถึงจะเล็กน้อยก็ยังดีแหละ
The New Buffettology นี่คือหนังสือที่ทุกคนน่าจะลองอ่าน อย่างน้อยมันก็ทำให้เห็นว่าคนคนนี้คิดอย่างไร จึงกลายเ็ป็นคนที่ร่ำรวยเป็นอันดับสองของโลกได้
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 8
ก้าวสู่การลงทุนในตลาดตราสารหนี้ , 16 สูตรสำเร็จรวยด้วยหุ้น , เก่งกลยุทธ์ การตลาดไร้พรมแดน , ตามรอยเซียน , เก่งได้...ก็ล้มได้ Why CEO Fail
หนังสือเหล่านี้คือหนังสือคั่นเวลาที่ผมว่าอ่านไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเท่าไหร่ แต่ผมก็คิดว่าอย่างน้อยมันก็คงได้ใช้ในบางเวลาแหละ
ถึงตอนนี้ ไข้หวัดนกพอดี ผมเริ่มสนใจวิกฤต และมอง CPF อย่างกระหาย เมื่อมัีนลง
(บทเรียน วิกฤต มีโอกาสมาด้วยเกือบเสมอไป)
จนต่อไปถึงตอนนี้ผมเริ่มสนใจบริษัทอย่าง AH BAT-3K ฯลฯ และเริ่มมีเข้ามาในพอร์ตการลงทุน
บริษัทอย่าง AH ทำให้ผมรู้สึกว่า แรกๆผมช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เราไม่ได้เข้าใจบริษัทอย่างจริงจังเลย
ความคิดนี้ผมได้หลังจากที่ได้อ่าน หนังสือของ Peter Lynch 2 เล่ม รวมถึงการวิเคราะห์งบการเงิน มิติใหม่ของงบการเงินและการวิเคราะห์ของ ดร.วรศักดิ์
การอ่านหนังสือสามเล่มนี้ทำให้ผมมองบริษัทอย่างทะลุมากขึ้นกว่าเดิมมากด้วยการ วิเคราะห์อย่างเจาะลึก เริ่มโทรศัพท์หาบริษัท คิดจะไปเยี่ยม และไปงาน Opp Day ของ AH ครั้งแรก หลังจากที่มีหุ้นติดตัวมานาน
(บทเรียน จงอย่าเริ่มต้นเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆก็ได้)
หนังสือเหล่านี้คือหนังสือคั่นเวลาที่ผมว่าอ่านไปโดยไม่ได้อะไรกลับมาเท่าไหร่ แต่ผมก็คิดว่าอย่างน้อยมันก็คงได้ใช้ในบางเวลาแหละ
ถึงตอนนี้ ไข้หวัดนกพอดี ผมเริ่มสนใจวิกฤต และมอง CPF อย่างกระหาย เมื่อมัีนลง
(บทเรียน วิกฤต มีโอกาสมาด้วยเกือบเสมอไป)
จนต่อไปถึงตอนนี้ผมเริ่มสนใจบริษัทอย่าง AH BAT-3K ฯลฯ และเริ่มมีเข้ามาในพอร์ตการลงทุน
บริษัทอย่าง AH ทำให้ผมรู้สึกว่า แรกๆผมช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย เราไม่ได้เข้าใจบริษัทอย่างจริงจังเลย
ความคิดนี้ผมได้หลังจากที่ได้อ่าน หนังสือของ Peter Lynch 2 เล่ม รวมถึงการวิเคราะห์งบการเงิน มิติใหม่ของงบการเงินและการวิเคราะห์ของ ดร.วรศักดิ์
การอ่านหนังสือสามเล่มนี้ทำให้ผมมองบริษัทอย่างทะลุมากขึ้นกว่าเดิมมากด้วยการ วิเคราะห์อย่างเจาะลึก เริ่มโทรศัพท์หาบริษัท คิดจะไปเยี่ยม และไปงาน Opp Day ของ AH ครั้งแรก หลังจากที่มีหุ้นติดตัวมานาน
(บทเรียน จงอย่าเริ่มต้นเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆก็ได้)
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 9
มาลองดูสิ่งที่ผมได้รับทั้งหมดกันครับ
1. ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ จงอย่าทิ้งความรู้ที่เราเคยมีมา
2. มุ่งมั่นในทุกอย่าง อย่าทอดทิ้งสิ่งใด มันก็คล้ายข้อหนึ่งแหละ
3. จงกล้าที่จะเริ่มต้น อย่างระมัดระวัง
4. จงเรียนรู้พื้นฐานเสียก่อน อย่าให้คนอื่นจูงจมูก การลงทุนตามเซียนอาจไม่ถูกเสมอไป เซียนอาจหนีออกมาก่อนที่จะมาคุณว่าพื้นฐานได้เปลี่ยนไปแล้ว
5. จงศึกษาความผิดพลาดของคนอื่น
6. จงศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ
7. วิธีการง่ายๆ ทำให้เจอหุ้นดีดีอยู่เสมอ อย่าไปกลัวว่าคนอื่นมีความรู้มากกว่าเราหากเราพยายามจริง สุดยอดนักธุรกิจมากมายไม่ได้เรียนจบสูงนัก
8. ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงเท่านั้น
9. วิกฤต มีโอกาสมาด้วยเกือบเสมอไป (เหมือนที่ Lynch บอก หากคุณเก็บหุ้นดีดีทุกครั้งที่ตลาดลงมา 10% คุณคงรวยไปแล้ว)
10. จงอย่าเริ่มต้นเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆก็ได้
1. ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ จงอย่าทิ้งความรู้ที่เราเคยมีมา
2. มุ่งมั่นในทุกอย่าง อย่าทอดทิ้งสิ่งใด มันก็คล้ายข้อหนึ่งแหละ
3. จงกล้าที่จะเริ่มต้น อย่างระมัดระวัง
4. จงเรียนรู้พื้นฐานเสียก่อน อย่าให้คนอื่นจูงจมูก การลงทุนตามเซียนอาจไม่ถูกเสมอไป เซียนอาจหนีออกมาก่อนที่จะมาคุณว่าพื้นฐานได้เปลี่ยนไปแล้ว
5. จงศึกษาความผิดพลาดของคนอื่น
6. จงศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ
7. วิธีการง่ายๆ ทำให้เจอหุ้นดีดีอยู่เสมอ อย่าไปกลัวว่าคนอื่นมีความรู้มากกว่าเราหากเราพยายามจริง สุดยอดนักธุรกิจมากมายไม่ได้เรียนจบสูงนัก
8. ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงเท่านั้น
9. วิกฤต มีโอกาสมาด้วยเกือบเสมอไป (เหมือนที่ Lynch บอก หากคุณเก็บหุ้นดีดีทุกครั้งที่ตลาดลงมา 10% คุณคงรวยไปแล้ว)
10. จงอย่าเริ่มต้นเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆก็ได้
_________
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 10
ผมเน้นที่ข้อ 10 เพราะผมไม่อยากให้ใครเข้ามาในตลาดอย่างหยิ่งยโส ด้วยความรู้ที่น้อยนิดในสายตาคนอืน แต่มากมายในสายตาตัวเอง
ไม่รู้นะผมพิมพ์มาทั้งหมดเพื่ออะไร แต่คนที่เข้าตลาดใหม่ โดยที่ไม่มีความรู้เลย บางที อาจจะได้แนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับตลาดนี้ไปก็ได้
ไม่รู้นะผมพิมพ์มาทั้งหมดเพื่ออะไร แต่คนที่เข้าตลาดใหม่ โดยที่ไม่มีความรู้เลย บางที อาจจะได้แนวทางในการศึกษาเกี่ยวกับตลาดนี้ไปก็ได้
_________
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 710
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 11
ผมว่าคุณเริ่มต้นได้ดีนะ
ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวก็ซี้กันเอง ผมเองเป็นสมาชิกตั้งแต่ยุคแรกๆ
แต่ก็ไม่ได้มาที่นี่มานานเพิ่งเข้ามาที่นี่ต่อเนื่องก็ 3-4เดือนนี้เอง
ว่างๆคุย msn กัน อย่างน้อยผมว่าคุณก็เริ่มเล่นหุ้นพร้อมๆผม
[email protected]
ไม่ต้องห่วงครับ เดี๋ยวก็ซี้กันเอง ผมเองเป็นสมาชิกตั้งแต่ยุคแรกๆ
แต่ก็ไม่ได้มาที่นี่มานานเพิ่งเข้ามาที่นี่ต่อเนื่องก็ 3-4เดือนนี้เอง
ว่างๆคุย msn กัน อย่างน้อยผมว่าคุณก็เริ่มเล่นหุ้นพร้อมๆผม
[email protected]
"Failure is the only way to start again intelligently"
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 12
ถ้ายังเรียนไม่จบ แนะนำไปลงเรียนวิชาพวกบัญชี หรืออื่นๆของคณะบริหารเลยครับ ได้ความรู้เพิ่ม แถมได้รู้จักสาวๆคณะอื่นด้วยนะ อิอิ :lol: :lol:โอ@ เขียน:ผมนับว่าใหม่กับตลาดหุ้นนี้มากครับ อยากจะแชร์ประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ ที่จะเข้ามาในตลาดได้ลองคิดู
ผมเข้าเรียนที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์นะครับ หลังจากเข้าเรียนมาได้ 1 เทอม ผมรู้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่สายทางที่ผมจะไปต่อในอนาคตแล้ว แต่ด้วยความที่เราก็รัก และมีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์พอตัวอยู่แล้ว ทำไมจะเรียนต่อไม่ได้ละ อันที่จริงผมคิดว่าเรียนไปทางด้านนี้ผมมีเวลาเหลือเฟือที่จะไปศึกษาด้านที่ผมชอบจริงๆ คือเรื่องของการลงทุน ผมจึงศึกษาต่อไป ซึ่งต่อมามันก็เป็นสิ่งที่ทำให้ผมเข้าใจ เข้าถึง และใช้งานเทคโนโลยีได้ดี (บทเรียนที่หนึ่ง ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ)
Expecto Patronum!!!!!!
- Rocker
- Verified User
- โพสต์: 4886
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 15
วิชาบัญชีที่เรียนกัน ถ้าเป็นของคณะบัญชี
ส่วนใหญ่จะเรียน การ ลง บันทึกบัญชี จัดทํารายงานทางบัญชี
ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการลงทุนสักเท่าใหร่ครับ
อยากจะshareว่าให้ เน้นการ วิเคราะห์งบ การเงิน ทั้ง 3 งบจะดีกว่า
กับ เกรณ์ทางบัญชีจะได้check บริษัทได้ครับ :D
ส่วนใหญ่จะเรียน การ ลง บันทึกบัญชี จัดทํารายงานทางบัญชี
ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อการลงทุนสักเท่าใหร่ครับ
อยากจะshareว่าให้ เน้นการ วิเคราะห์งบ การเงิน ทั้ง 3 งบจะดีกว่า
กับ เกรณ์ทางบัญชีจะได้check บริษัทได้ครับ :D
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 17
เยี่ยมๆ มาเป็นข้อๆ แบบนี้ มือไม่ใหม่แล้วมั้งครับ
แล้วเอาอะไรมาแบ่งปันอีกนะครับ ตอนนี้ผม ไม่อะไรเลยแฮะ
แล้วเอาอะไรมาแบ่งปันอีกนะครับ ตอนนี้ผม ไม่อะไรเลยแฮะ
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 19
ขอเสริมให้มีรสชาตินิดหละกันโอ@ เขียน:มาลองดูสิ่งที่ผมได้รับทั้งหมดกันครับ
1. ทุกอย่างที่เรารู้มีประโยชน์เสมอ จงอย่าทิ้งความรู้ที่เราเคยมีมา
2. มุ่งมั่นในทุกอย่าง อย่าทอดทิ้งสิ่งใด มันก็คล้ายข้อหนึ่งแหละ
3. จงกล้าที่จะเริ่มต้น อย่างระมัดระวัง
4. จงเรียนรู้พื้นฐานเสียก่อน อย่าให้คนอื่นจูงจมูก การลงทุนตามเซียนอาจไม่ถูกเสมอไป เซียนอาจหนีออกมาก่อนที่จะมาคุณว่าพื้นฐานได้เปลี่ยนไปแล้ว
5. จงศึกษาความผิดพลาดของคนอื่น
6. จงศึกษาหาความรู้ใหม่ๆอยู่เสมอ
7. วิธีการง่ายๆ ทำให้เจอหุ้นดีดีอยู่เสมอ อย่าไปกลัวว่าคนอื่นมีความรู้มากกว่าเราหากเราพยายามจริง สุดยอดนักธุรกิจมากมายไม่ได้เรียนจบสูงนัก
8. ยิ่งคุณรู้น้อยเท่าไหร่ คุณยิ่งเสี่ยงเท่านั้น
9. วิกฤต มีโอกาสมาด้วยเกือบเสมอไป (เหมือนที่ Lynch บอก หากคุณเก็บหุ้นดีดีทุกครั้งที่ตลาดลงมา 10% คุณคงรวยไปแล้ว)
10. จงอย่าเริ่มต้นเร็วเกินไป คุณอาจจะยังไม่พร้อมจริงๆก็ได้
1. ในตลาดหุ้นบางอย่างที่รู้อาจจะเป็นโทษก็ได้
2. ถ้าต้องมุ่งมั่นมันซะทุกอย่าง จะมีเวลาขนาดนั้นเชียว ถึงเวลาก็อาจจะต้องตัดใจทำอะไรซักอย่าง
3. บางครั้งคิดว่าเริ่มต้นอย่างระวังแล้ว แต่ก็ยังพลาดจนได้ อิอิ
4. บางทีผมก็ชอบเรียนทางลัด แล้วก็กลับมาหาพื้นฐานใหม่
5. จงอย่าลืมศึกษาความผิดพลาดของตัวเองหละ
6. ความรู้ใหม่ๆมีมากเหลือเกิน
7. กว่าจะเป็นสุดยอดนักธุรกิจ ไม่ใช่ง่าย
8. รู้น้อยรู้มากนี่คงต้องมาดูอีกทีว่ารู้อะไร
9. วิกฤต มีโอกาสเสมอ สำหรับสายตาที่เฉียบแหลมเท่านั้น และจะเห็นได้ก็เมื่อเวลามันผ่านไปแล้ว
10. เริ่มต้นให้เร็วไว้ ตราบใดที่คนยังมีโอกาสแก้ตัวอยู่ เพราะไม่รู้วันที่พร้อมจะมาวันไหนนะซิ
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 20
สรุปหลักๆเลยคือ
ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาในตลาดด้วยความรู้ 1 ปีหรือน้อยกว่า (เอาว่าประมาณเวลาละกันนะครับ) แล้วเล่นอย่างจริงจังครับ
สังเกตดูพี่ๆที่พวกเรายกย่องกันในเว็บโดนส่วนมากก็เสียกันมาก่อน ได้บทเรียนมาแล้วทั้งนั้น
คนบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้โงหัวกลับมานะครับ บางคนโชคดีโงหัวขึ้นมาได้
ทางที่ดีแล้วเล่นแต่น้อย หรือเล่นในกระดาษ ก่อนอย่าไปยึดติดมากครับกับคำว่าเริ่มต้นช้าไป ถ้าคุณเร่งที่จะเริ่มต้น มันเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนะ
ผมไม่อยากให้ใครเข้ามาในตลาดด้วยความรู้ 1 ปีหรือน้อยกว่า (เอาว่าประมาณเวลาละกันนะครับ) แล้วเล่นอย่างจริงจังครับ
สังเกตดูพี่ๆที่พวกเรายกย่องกันในเว็บโดนส่วนมากก็เสียกันมาก่อน ได้บทเรียนมาแล้วทั้งนั้น
คนบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้โงหัวกลับมานะครับ บางคนโชคดีโงหัวขึ้นมาได้
ทางที่ดีแล้วเล่นแต่น้อย หรือเล่นในกระดาษ ก่อนอย่าไปยึดติดมากครับกับคำว่าเริ่มต้นช้าไป ถ้าคุณเร่งที่จะเริ่มต้น มันเป็นผลเสียมากกว่าผลดีนะ
_________
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 21
เริ่มเมื่อพร้อมครับ
แต่ก็ต้องลอง ไม่ขาดทุน ก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร
โลกในตำรากับความเป็นจริงแตกต่างกันครับ
ผมศึกษาก็ได้หลายเดือนถึงหนึ่งปีได้นะ ถึงเริ่มลงทุน เพราะเก็บสะสมเงินอยู่ก่อน
แต่ก็ต้องลอง ไม่ขาดทุน ก็ไม่เข้าใจว่ามันเป็นอย่างไร
โลกในตำรากับความเป็นจริงแตกต่างกันครับ
ผมศึกษาก็ได้หลายเดือนถึงหนึ่งปีได้นะ ถึงเริ่มลงทุน เพราะเก็บสะสมเงินอยู่ก่อน
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 487
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 22
อ่านของคุณแล้วประทับใจมาก แนะนำว่าไปลงเรียนบัญชีให้เต็มที่เลยครับ เดบิต เครดิต อะไรเรียนไปเลยครับ ไม่เกี่ยวกับการลงทุนให้หุ้นหรอกครับ แต่เกี่ยวกับความสำเร็จในสาขาอาชีพคอมพิวเตอร์ บัญชีกับคอมพิวเตอร์นี่สัมพันธ์กันอย่างสูง แนะนำให้ไปลงเรียนมสธ.เลย อ่านเก่งอย่างคุณ เรียนมสธ.เสียเวลาน้อยกว่าเรียนรามฯ
对不起,请问一下.
存货是什么意思 ?
存货是什么意思 ?
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 23
วันนี้นึกได้อีกอย่างแหละครับ
คนเราเวลาอ่านหนังสือเล่มไหน จะคล้อยตามเล่มนั้นเกือบจะในทันที
อันนี้ประสบกับตัวเองครับ
เมื่อเริ่มแรกที่ได้อ่านคัมภีร์หุ้น และตีแตก รวมถึง New Buffetology รอบแรก อย่างคร่าวๆ ย้ำนะครับว่าอย่างคร่าวๆ มันทำให้เราไปค้นหาหุ้น p/e ต่ำ และการเติบโตรวมถึงกำไรในอดีตแข็งแกร่ง โดยที่มองอนาคตไม่ทะลุปรุโปร่ง ถ้าจะยกตัวอย่างก็คงจะเป็น SINGER DELTA ฯลฯ
สิ่งที่ผมเสียใจในตอนนี้คือตอนที่อ่าน New Buffetology รอบแรกผมของธุรกิจเฟอร์นิเจอที่ Buffet ยกตัวอย่างมาก ซึ่งมันก็คือ HMPRO แต่ว่า ณ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามี HMPRO อยู่ในตลาด :shock:
เช่นเดียวกับ CENTEL MINT ที่ผมไม่รู้ว่าพวกนี้มันทำธุรกิจอะไรกันแน่
ฉะนั้นอย่างแรกที่อยากให้คนที่เข้าตลาดใหม่ๆทำดูก็คือ ลองดูว่าในตลาดเนี่ย (ตลาดไทยเราแค่ 500 ตัวทำได้อยู่แล้ว) มีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับอะไรอยู่บ้าง
พอผมได้อ่าน Peter Lynch : Up on the wall street & Beating the street ทำให้ผมเริ่มเอียงไปตามทางของ Lynch
Lynch กับ Buffet มีข้อแตกต่างที่พอจะมองเห็นได้คือ Lynch รักหุ้นที่มี Story ที่ดี แต่ Buffet รักหุ้นที่ DCA ที่ยอดเยี่ยม (Lynch เค้าก็รักหุ้น DCA นะแต่ว่าเค้า Trade หุ้น Story เยอะกว่า)
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบ Lynch มันทำให้เราต้องทำงานอย่างหนัก ตามกลิ่นหุ้นไปเรื่อยๆ
แล้วผมก็คุยกับพี่เจ๋ง รวมถึงกลับไปอ่าน New Buffetology อีกรอบ ในรอบนี้ให้อะไรอีกหลายๆที่เราควรจะทำ
ลองศึกษาหุ้นในตลาดอยู่ครับจาก 500 ตัวที่เรารู้อยู่แล้ว ตัวไหนบ้างที่มี DCA อย่างเยี่ยม โตได้ตลอดไป อย่าเกี่ยงราคาครับ จดเอาไว้ เมื่อไหร่ที่มันราคาตกลงมา หรือมีอะไรร้ายๆกับมัน เราจะได้เป็นคนแรกๆที่เห็น
คนเราเวลาอ่านหนังสือเล่มไหน จะคล้อยตามเล่มนั้นเกือบจะในทันที
อันนี้ประสบกับตัวเองครับ
เมื่อเริ่มแรกที่ได้อ่านคัมภีร์หุ้น และตีแตก รวมถึง New Buffetology รอบแรก อย่างคร่าวๆ ย้ำนะครับว่าอย่างคร่าวๆ มันทำให้เราไปค้นหาหุ้น p/e ต่ำ และการเติบโตรวมถึงกำไรในอดีตแข็งแกร่ง โดยที่มองอนาคตไม่ทะลุปรุโปร่ง ถ้าจะยกตัวอย่างก็คงจะเป็น SINGER DELTA ฯลฯ
สิ่งที่ผมเสียใจในตอนนี้คือตอนที่อ่าน New Buffetology รอบแรกผมของธุรกิจเฟอร์นิเจอที่ Buffet ยกตัวอย่างมาก ซึ่งมันก็คือ HMPRO แต่ว่า ณ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามี HMPRO อยู่ในตลาด :shock:
เช่นเดียวกับ CENTEL MINT ที่ผมไม่รู้ว่าพวกนี้มันทำธุรกิจอะไรกันแน่
ฉะนั้นอย่างแรกที่อยากให้คนที่เข้าตลาดใหม่ๆทำดูก็คือ ลองดูว่าในตลาดเนี่ย (ตลาดไทยเราแค่ 500 ตัวทำได้อยู่แล้ว) มีบริษัทที่ทำเกี่ยวกับอะไรอยู่บ้าง
พอผมได้อ่าน Peter Lynch : Up on the wall street & Beating the street ทำให้ผมเริ่มเอียงไปตามทางของ Lynch
Lynch กับ Buffet มีข้อแตกต่างที่พอจะมองเห็นได้คือ Lynch รักหุ้นที่มี Story ที่ดี แต่ Buffet รักหุ้นที่ DCA ที่ยอดเยี่ยม (Lynch เค้าก็รักหุ้น DCA นะแต่ว่าเค้า Trade หุ้น Story เยอะกว่า)
แต่อย่างไรก็ตามการลงทุนแบบ Lynch มันทำให้เราต้องทำงานอย่างหนัก ตามกลิ่นหุ้นไปเรื่อยๆ
แล้วผมก็คุยกับพี่เจ๋ง รวมถึงกลับไปอ่าน New Buffetology อีกรอบ ในรอบนี้ให้อะไรอีกหลายๆที่เราควรจะทำ
ลองศึกษาหุ้นในตลาดอยู่ครับจาก 500 ตัวที่เรารู้อยู่แล้ว ตัวไหนบ้างที่มี DCA อย่างเยี่ยม โตได้ตลอดไป อย่าเกี่ยงราคาครับ จดเอาไว้ เมื่อไหร่ที่มันราคาตกลงมา หรือมีอะไรร้ายๆกับมัน เราจะได้เป็นคนแรกๆที่เห็น
_________
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 24
เล่นตาม story เนี่ย ความหมายคืออะไร ครับ story ว่ามีขาใหญ่ ลากนี่เรียกว่ามี story ไหมครับ 55+
แล้ว DCA ของุรกิจเนี่ย โอ เอาอะไรมาตัดสินครับว่าตัวนี้มี สูง มีต่ำ ผมละข้องใจไอ้เรื่องนี้จริงๆ
แล้ว DCA ของุรกิจเนี่ย โอ เอาอะไรมาตัดสินครับว่าตัวนี้มี สูง มีต่ำ ผมละข้องใจไอ้เรื่องนี้จริงๆ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 25
[quote="โอ@"]วันนี้นึกได้อีกอย่างแหละครับ
คนเราเวลาอ่านหนังสือเล่มไหน จะคล้อยตามเล่มนั้นเกือบจะในทันที
อันนี้ประสบกับตัวเองครับ
เมื่อเริ่มแรกที่ได้อ่านคัมภีร์หุ้น และตีแตก รวมถึง New Buffetology รอบแรก อย่างคร่าวๆ ย้ำนะครับว่าอย่างคร่าวๆ มันทำให้เราไปค้นหาหุ้น p/e ต่ำ และการเติบโตรวมถึงกำไรในอดีตแข็งแกร่ง โดยที่มองอนาคตไม่ทะลุปรุโปร่ง ถ้าจะยกตัวอย่างก็คงจะเป็น SINGER DELTA ฯลฯ
สิ่งที่ผมเสียใจในตอนนี้คือตอนที่อ่าน New Buffetology รอบแรกผมของธุรกิจเฟอร์นิเจอที่ Buffet ยกตัวอย่างมาก ซึ่งมันก็คือ HMPRO แต่ว่า ณ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามี HMPRO อยู่ในตลาด
คนเราเวลาอ่านหนังสือเล่มไหน จะคล้อยตามเล่มนั้นเกือบจะในทันที
อันนี้ประสบกับตัวเองครับ
เมื่อเริ่มแรกที่ได้อ่านคัมภีร์หุ้น และตีแตก รวมถึง New Buffetology รอบแรก อย่างคร่าวๆ ย้ำนะครับว่าอย่างคร่าวๆ มันทำให้เราไปค้นหาหุ้น p/e ต่ำ และการเติบโตรวมถึงกำไรในอดีตแข็งแกร่ง โดยที่มองอนาคตไม่ทะลุปรุโปร่ง ถ้าจะยกตัวอย่างก็คงจะเป็น SINGER DELTA ฯลฯ
สิ่งที่ผมเสียใจในตอนนี้คือตอนที่อ่าน New Buffetology รอบแรกผมของธุรกิจเฟอร์นิเจอที่ Buffet ยกตัวอย่างมาก ซึ่งมันก็คือ HMPRO แต่ว่า ณ ตอนนั้นผมไม่รู้ว่ามี HMPRO อยู่ในตลาด
Expecto Patronum!!!!!!
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 26
Peter Lynch เนี่ยใครที่อ่านหนังสือสองเล่มของ Lynch จะเห็นว่า Lynch ยอมซื้อหุ้นของบริษัทที่ P/E 10 15 ในขณะที่ Growth ที่ 20 25 ประมาณนี้ch_army เขียน:เล่นตาม story เนี่ย ความหมายคืออะไร ครับ story ว่ามีขาใหญ่ ลากนี่เรียกว่ามี story ไหมครับ 55+
แล้ว DCA ของุรกิจเนี่ย โอ เอาอะไรมาตัดสินครับว่าตัวนี้มี สูง มีต่ำ ผมละข้องใจไอ้เรื่องนี้จริงๆ
คำว่า Story ของ Lynch ที่ผมหมายถึง ผมหมายถึงข่าวคราวดีดีเกี่ยวกับบริษัทที่ได้รู้มา อย่างเช่น Lynch ได้ยินว่ามีบริษัทหนึ่งยอมขายเยียมมากเลย ทำให้ Lynch ศึกษาหุ้นตัวนั้น อีกอย่างนึงที่ Lynch ชอบคือการถามว่าคุณนับถือบริษัทไหนนอกจากบริษัทคุณเอง เรื่องพวกนี้เป็นเหมือน Story ให้ Lynch ตามกลิ่นไปเรื่อยๆ
ในส่วนของ DCA เนี่ยต้องลองอ่าน New Buffetology ครับแล้วจะมองเห็นได้ชัด
ตัวอย่างในประเทศไทยก็อย่างเช่น SE-ED CP7-11 สองตัวนี้มีสาขาเยอะมาก คู่แข่งที่จะเข้ามาใหม่ต้องขยายขนาดไหนถึงจะทำได้อย่าง SE-ED กับ CP7-11 ที่มีการประหยัดจากขนาด ต่อรองซื้อสินค้าได้เยอะในราคาถูกกว่า
ถ้านอกตลาดแล้วเห็นได้ชัดนะ คุณลองคิดดูว่า คุณอยากกินอาหารญี่ปุ่นคุณไปกินที่ไหน คุณอยากกินสุกี้ไปกินที่ไหน
ปล. ผมว่าศูนย์การค้ามาบุญครอง และตลาดนัดจตุจักรเนี่ยมี DCA นะ ถ้าตัดปัญหาเรื่องไม่ต่อสัญญาเช่า
_________
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การโดยตรงของผมกับการลงทุนในหุ้น
โพสต์ที่ 30
เอดูๆไปเนี่ยปัจจัยที่ว่ามาแสดงว่า DCA ของกิจการมาจากปัจจัยทางการตลาด พวก สินค้า ราคา ทำเล โดยเฉพาะ ทำเล เป็นหลักในส่วนของ DCA เนี่ยต้องลองอ่าน New Buffetology ครับแล้วจะมองเห็นได้ชัด
ตัวอย่างในประเทศไทยก็อย่างเช่น SE-ED CP7-11 สองตัวนี้มีสาขาเยอะมาก คู่แข่งที่จะเข้ามาใหม่ต้องขยายขนาดไหนถึงจะทำได้อย่าง SE-ED กับ CP7-11 ที่มีการประหยัดจากขนาด ต่อรองซื้อสินค้าได้เยอะในราคาถูกกว่า
ถ้านอกตลาดแล้วเห็นได้ชัดนะ คุณลองคิดดูว่า คุณอยากกินอาหารญี่ปุ่นคุณไปกินที่ไหน คุณอยากกินสุกี้ไปกินที่ไหน
ปล. ผมว่าศูนย์การค้ามาบุญครอง และตลาดนัดจตุจักรเนี่ยมี DCA นะ ถ้าตัดปัญหาเรื่องไม่ต่อสัญญาเช่า
แต่ดูๆไปก็ขึ้นกับกิจการและ ไลฟ์สไตล์ด้วยหาก ไลฟ์สไตล์เปลี่ยนจะกระทบแค่ไหนนะ