ในวันที่ SET - 70 จุด
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 361
สาร์นจากพลซุ่มยิง ถึงท่านแม่ทัพ ฉบับที่6
หลังจากเหตุการณ์ที่ชุลมุนและแดงเดือดไปทั่วท้องฟ้าในครานั้น มาบัดนี้
ฝุ่นผง และหมอกควันเริ่มเจือจางหายไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่ม
สงบนิ่ง กองกำลังของเราสามารถต้านทานข้าศึกและยึดที่มั่นสำคัญๆไว้ได้
แต่พลซุ่มยิง เคยได้ยินท่านผู้เฒ่าผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า(ใครหว่า..-_-??)
"หลังจากลมสงบ มักมีพายุลูกใหญ่พัดมาเสมอ"
ด้วยเหตุนี้เหล่าพลซุ่มยิงจึงมีมติ ตกลงกันว่าจะขอดูสถานการณ์
ต่อไปอีก 3 ทิวาราตรี แล้วจึงจะขอแยกย้ายกลับไปทำไร่ นา สวน
ที่บ้านเกิดของตนต่อไป
ด้วยความเคารพ
(พลซุ่มยิง)
....^^)
หลังจากเหตุการณ์ที่ชุลมุนและแดงเดือดไปทั่วท้องฟ้าในครานั้น มาบัดนี้
ฝุ่นผง และหมอกควันเริ่มเจือจางหายไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่ม
สงบนิ่ง กองกำลังของเราสามารถต้านทานข้าศึกและยึดที่มั่นสำคัญๆไว้ได้
แต่พลซุ่มยิง เคยได้ยินท่านผู้เฒ่าผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า(ใครหว่า..-_-??)
"หลังจากลมสงบ มักมีพายุลูกใหญ่พัดมาเสมอ"
ด้วยเหตุนี้เหล่าพลซุ่มยิงจึงมีมติ ตกลงกันว่าจะขอดูสถานการณ์
ต่อไปอีก 3 ทิวาราตรี แล้วจึงจะขอแยกย้ายกลับไปทำไร่ นา สวน
ที่บ้านเกิดของตนต่อไป
ด้วยความเคารพ
(พลซุ่มยิง)
....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 362
ผมว่ารู้สึกลมมันเริ่มแรง ๆ ชอบกลแล้วนะครับPlant เขียน:สาร์นจากพลซุ่มยิง ถึงท่านแม่ทัพ ฉบับที่6
หลังจากเหตุการณ์ที่ชุลมุนและแดงเดือดไปทั่วท้องฟ้าในครานั้น มาบัดนี้
ฝุ่นผง และหมอกควันเริ่มเจือจางหายไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่ม
สงบนิ่ง กองกำลังของเราสามารถต้านทานข้าศึกและยึดที่มั่นสำคัญๆไว้ได้
แต่พลซุ่มยิง เคยได้ยินท่านผู้เฒ่าผู้หนึ่งกล่าวไว้ว่า(ใครหว่า..-_-??)
"หลังจากลมสงบ มักมีพายุลูกใหญ่พัดมาเสมอ"
ด้วยเหตุนี้เหล่าพลซุ่มยิงจึงมีมติ ตกลงกันว่าจะขอดูสถานการณ์
ต่อไปอีก 3 ทิวาราตรี แล้วจึงจะขอแยกย้ายกลับไปทำไร่ นา สวน
ที่บ้านเกิดของตนต่อไป
ด้วยความเคารพ
(พลซุ่มยิง)
....^^)
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 363
ข้าศึกกระหนาบแล้วครับ
Portugal
Index Name Value Change % Change Time
PSI All-Share Index Gross Return 2,288.36 -139.13 -5.73% 04:43:00
PSI 20 Index 5,138.52 -391.90 -7.09% 04:57:30
Browse all companies & indexes
ที่โปรตุเกสมีอะไรเหรอครับ วันก่อนฟังข่าวเรื่องการปฎิเสธเข้าทำงานก้ร้อนๆหนาวๆ
วันนี้ สงสัยจะมีลูกระเบิดตกใส่ ยุโรป คัมแบ๊ค
สหายผู้น้อย ได้เอาทหารบุกเข้าเมืองร้างตอนเช้า ตอนนี้เกรียมแล้วครับ
ผู้น้อยยืนอยู่ เห็นแสงไฟ แวบเดียว แล้วพวกเค้าก้ถูกเผาตายหมดทันที
Portugal
Index Name Value Change % Change Time
PSI All-Share Index Gross Return 2,288.36 -139.13 -5.73% 04:43:00
PSI 20 Index 5,138.52 -391.90 -7.09% 04:57:30
Browse all companies & indexes
ที่โปรตุเกสมีอะไรเหรอครับ วันก่อนฟังข่าวเรื่องการปฎิเสธเข้าทำงานก้ร้อนๆหนาวๆ
วันนี้ สงสัยจะมีลูกระเบิดตกใส่ ยุโรป คัมแบ๊ค
สหายผู้น้อย ได้เอาทหารบุกเข้าเมืองร้างตอนเช้า ตอนนี้เกรียมแล้วครับ
ผู้น้อยยืนอยู่ เห็นแสงไฟ แวบเดียว แล้วพวกเค้าก้ถูกเผาตายหมดทันที
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 364
เรียน ท่านกุนซือ micky และท่านผู้นำ leky
ข้าพเจ้าได้ทิ้งกำลังส่วนหนึ่ง ไว้ที่ปูซานแล้ว
แต่ตอนนี้ บังเกิดเสื้อเกราะไหมฟ้า จากแบงก์สีเหลืองขึ้นมาใหม่ แทนมิตรแท้โชว์ห่วย
ข้าพเจ้าไม่มั่นใจว่าควรหยิบฉวยเอามาสวมใส่ เพื่อป้องกันยามคลื่นลมแปรปรวน
รบกวนท่านกุนซือ และท่านผู้นำช่วยชี้แนะ
ข้าพเจ้าได้ทิ้งกำลังส่วนหนึ่ง ไว้ที่ปูซานแล้ว
แต่ตอนนี้ บังเกิดเสื้อเกราะไหมฟ้า จากแบงก์สีเหลืองขึ้นมาใหม่ แทนมิตรแท้โชว์ห่วย
ข้าพเจ้าไม่มั่นใจว่าควรหยิบฉวยเอามาสวมใส่ เพื่อป้องกันยามคลื่นลมแปรปรวน
รบกวนท่านกุนซือ และท่านผู้นำช่วยชี้แนะ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 365
ข้าพเจ้ารู้สึกแปลกใจมากที่ข่าวเรื่อง tender ออกหุ้นกลับไม่ขยับไปใกล้ราคา "ตั้งโต๊ะรับซื้อ" จะว่าไปตามความเห็นของข้าพเจ้า ราคา ณ ตอนนี้ผลตอบแทนจะว่ามากก็ไม่มากเพราะราคาหุ้นได้ขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว แต่ท่านโปรดอ่านเงื่อนไขการรับซื้อ ท่านจะเห็นว่ามีหลายบรรทัด และข้าพเจ้ายอมรับว่าข้าพเจ้าไม่รู้จริง ๆ ว่าโอกาสที่มันจะสะดุดในบรรทัดใดบรรทัดหนึ่งมันมีมากน้อยแค่ไหน เพราะมันเป็นเรื่องกฎเกณฑ์ของทั้งทางเราและทางดินแดนอาทิตย์อุทัย ยังไม่นับว่าระยะเวลาที่เค้าจะตั้งโต๊ะรับซื้อนั้นมันก็ไม่ใกล้ซะทีเดียว ข้าพเจ้าจึงพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมราคาหุ้นมันถึงยังอยู่ตรงนี้kongkiti เขียน:เรียน ท่านกุนซือ micky และท่านผู้นำ leky
ข้าพเจ้าได้ทิ้งกำลังส่วนหนึ่ง ไว้ที่ปูซานแล้ว
แต่ตอนนี้ บังเกิดเสื้อเกราะไหมฟ้า จากแบงก์สีเหลืองขึ้นมาใหม่ แทนมิตรแท้โชว์ห่วย
ข้าพเจ้าไม่มั่นใจว่าควรหยิบฉวยเอามาสวมใส่ เพื่อป้องกันยามคลื่นลมแปรปรวน
รบกวนท่านกุนซือ และท่านผู้นำช่วยชี้แนะ
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 366
หลังจากศึกใหญ่ ข้าพเจ้ามิได้ทำการอะไรมากนัก ยังคงอยู่ในที่ตั้ง แต่ "ปรับพื้นที่" เล็กน้อย พื้นที่แห้งแล้งไร้ความหวัง ข้าพเจ้าก็ถอนทหารปล่อยให้ข้าศึกยึดครองไป ถือว่าดึงให้ข้าศึกเสียกำลังพลไปเฝ้า ส่วนพื้นที่อุดมสมบูรณ์ยังคงป้องกันอย่างเหนียวแน่น ส่วนพื้นที่ ๆ เสียหายจากสงครามแต่ยังสามารถฟื้นฟูได้ข้าพเจ้าก็ยังคงส่งกองกำลังตั้งมั่นอยู่ รอฟ้าฝนกลับมาสร้างความอุดมสมบูรณ์ใหม่
ข้าพเจ้ายอมรับว่าไม่แน่ใจว่าจะมีการสะดุดของเศรษฐกิจทั้งของไทยและจีนหรือไม่ หุ้นยานยนต์หลายตัวราคาลงไปเกินกว่าผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง เพราะหลายคนเริ่มเห็นสัญญาณที่มิค่อยดีนัก ทั้งการทิ้งใบจอง การออกโปรโมชันอย่างลดแลกแจกแถมแบบเอาเป็นเอาตายของค่ายรถยนต์
ข้าพเจ้ายอมรับว่าไม่แน่ใจว่าจะมีการสะดุดของเศรษฐกิจทั้งของไทยและจีนหรือไม่ หุ้นยานยนต์หลายตัวราคาลงไปเกินกว่าผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นจริง เพราะหลายคนเริ่มเห็นสัญญาณที่มิค่อยดีนัก ทั้งการทิ้งใบจอง การออกโปรโมชันอย่างลดแลกแจกแถมแบบเอาเป็นเอาตายของค่ายรถยนต์
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 367
ยามใดตลาดหุ้นเงียบเหงาซื้อขายกันวันไม่ถึง 4-5พันล้าน
ยามใดที่เวบบอรด์หุ้นเงียบเหงา ไม่มีคนคึกคัก
ยามใดรายการ TVเกี่ยวกับหุ้นเริ่มไม่มีคนทำ คนจัดรายการ
ยามใดหนังสือเกี่ยวกับหุ้นเริ่มตกจาก best seller ของหนังสือทั้งร้าน
ยามใดที่คนรู้สึกว่า ตัว Nมันมีเต็มตลาด และไม่มีตัว Yเลย
ยามใดที่เหล่านักลงทุนส่วนมาก ยกธงยอมแพ้ตลาด
ยามนั้น เป็นจุดที่ดีที่สุด ที่เรา จะลงไปเลือกของดีราคาถูก ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของเหตุผล
และอารมณ์ คนร้อยละ80 ขาขึ้นซื้อหุ้นด้วยเหตุผลและตรรกะ แต่ขาลงกลับทิ้งเหตุผลและ
ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง อารมณ์ของคนเหล่านั้นหลอมรวมเป็น MM
วอเรนท์ บัฟเฟตกล่าวไว้
ปล่อยให้คนอื่น ๆ ตื่นตระหนกไปกับตลาดแล้วเมื่อมันสงบคุณจะได้ประโยชน์จากมัน
อย่าคิดจะเป็นเจ้าของหุ้น ถ้ามันจะทำให้คุณตื่นตระหนกและขายหุ้นของคุณ
เมื่อราคาตกลง 50%
คำแนะนำ 3 ข้อ ตอนตลาดตก
1. เกาะติดอยู่กับบริษัทที่ดี
2. รู้จักตัวเอง
3. อย่าตัดสินใจลงทุนเพราะมีคนอื่นมากระซิบหุ้นเด็ด
มองตลาดหุ้นขาลง ให้เป็นโอกาส
ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้น
จงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับคุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร
บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไรเท่านั้นที่ขาดทุน”
stay clam stay invest ครับพี่น้อง อย่าให้ อารมณ์มายืนเหนือเหตุผล บททดสอบจิตใจ
ข้อนึงของนักลงทุนคุณค่าคือ คุณจะทนได้ไหมกับอารมณ์ และสิ่งที่ไร้เหตุผล
หลังวันที่ MMอารมณ์ร้ายและกลัว ก้มักตามมาด้วยวันที่ MMอารมณ์ดี
ยามใดที่เวบบอรด์หุ้นเงียบเหงา ไม่มีคนคึกคัก
ยามใดรายการ TVเกี่ยวกับหุ้นเริ่มไม่มีคนทำ คนจัดรายการ
ยามใดหนังสือเกี่ยวกับหุ้นเริ่มตกจาก best seller ของหนังสือทั้งร้าน
ยามใดที่คนรู้สึกว่า ตัว Nมันมีเต็มตลาด และไม่มีตัว Yเลย
ยามใดที่เหล่านักลงทุนส่วนมาก ยกธงยอมแพ้ตลาด
ยามนั้น เป็นจุดที่ดีที่สุด ที่เรา จะลงไปเลือกของดีราคาถูก ตลาดหุ้นเป็นเรื่องของเหตุผล
และอารมณ์ คนร้อยละ80 ขาขึ้นซื้อหุ้นด้วยเหตุผลและตรรกะ แต่ขาลงกลับทิ้งเหตุผลและ
ใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง อารมณ์ของคนเหล่านั้นหลอมรวมเป็น MM
วอเรนท์ บัฟเฟตกล่าวไว้
ปล่อยให้คนอื่น ๆ ตื่นตระหนกไปกับตลาดแล้วเมื่อมันสงบคุณจะได้ประโยชน์จากมัน
อย่าคิดจะเป็นเจ้าของหุ้น ถ้ามันจะทำให้คุณตื่นตระหนกและขายหุ้นของคุณ
เมื่อราคาตกลง 50%
คำแนะนำ 3 ข้อ ตอนตลาดตก
1. เกาะติดอยู่กับบริษัทที่ดี
2. รู้จักตัวเอง
3. อย่าตัดสินใจลงทุนเพราะมีคนอื่นมากระซิบหุ้นเด็ด
มองตลาดหุ้นขาลง ให้เป็นโอกาส
ตลาดหุ้นขาลงไม่ได้ฆ่าใคร แต่กลับเป็นโอกาสในการซื้อหุ้นถ้าผู้คนเริ่มวิ่งหนีออกจากหุ้นดี ๆ จงเตรียมพร้อมที่จะลุยไปกับหุ้น
จงมองหาบริษัทที่มีคุณภาพที่กำลัง “ลดราคา”สำหรับคุณภาพ นั่นหมายถึง พื้นฐานที่รองรับธุรกิจและคุณภาพของทีมบริหาร
บัฟเฟตต์พูดว่า “นักลงทุนจะไม่ขาดทุนเมื่อตลาดปรับตัวลงจะมีก็เพียงนักเก็งกำไรเท่านั้นที่ขาดทุน”
stay clam stay invest ครับพี่น้อง อย่าให้ อารมณ์มายืนเหนือเหตุผล บททดสอบจิตใจ
ข้อนึงของนักลงทุนคุณค่าคือ คุณจะทนได้ไหมกับอารมณ์ และสิ่งที่ไร้เหตุผล
หลังวันที่ MMอารมณ์ร้ายและกลัว ก้มักตามมาด้วยวันที่ MMอารมณ์ดี
-
- Verified User
- โพสต์: 1049
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 369
เรียนท่านแม่ทัพ กองทัพของข้าน้อยได้ออกรบมานานแสนนาน
บัดนี้ กองทัพข้าน้อยอ่อนล้าอ่อนแรงเต็มทีเลยตัดสินใจ เรียกกองกำลังทั้งหมดกลับมาพัก
เยี่ยวยารักษาใจก่อน เพราะจากบ้านไปนานหลายฤดูเหมันต์ ขอให้ท่านแม่ทัพทั้งหลายที่ยังอยู่ในสมรภูมิรบ จงมีชัยเหนือชัยชนะของศัตรูด้วยสติและปัญญา
ปล. เหนื่อยกายและเหนื่อยใจ ข้าน้อยขอตัดช่องน้อยแต่พอตัว ครับ
บัดนี้ กองทัพข้าน้อยอ่อนล้าอ่อนแรงเต็มทีเลยตัดสินใจ เรียกกองกำลังทั้งหมดกลับมาพัก
เยี่ยวยารักษาใจก่อน เพราะจากบ้านไปนานหลายฤดูเหมันต์ ขอให้ท่านแม่ทัพทั้งหลายที่ยังอยู่ในสมรภูมิรบ จงมีชัยเหนือชัยชนะของศัตรูด้วยสติและปัญญา
ปล. เหนื่อยกายและเหนื่อยใจ ข้าน้อยขอตัดช่องน้อยแต่พอตัว ครับ
อย่าหลุดแนวที่ตัวเองถนัด สู้สู้
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 370
ปีเตอร์ลินซ์ เคยให้ข้อสรุปไว้น่าฟังประโยคนึงว่า:
"ไม่ใช่เพียงเพราะซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นเลยสรุปว่าเราถูก หรือซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงสรุปว่าเราผิด"
มันไม่ใช่แบบนั้น ครั้งนี้ผมไม่ปรับพอร์ตเลย แต่เลือกซื้อเพิ่มในจังหวะที่น่ากลัวสุดขีดเพื่อทดสอบดูว่ามันจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่? ข่าวเศรษฐกิจมหภาค คิวอี เลิกไม่เลิก อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง กลัวมั๊ยกลัวฝุด ๆ
...............................
แต่ทำมาทำไปดูเหมือนตลาดเลือกที่จะทำเหมือนเดิมและนักลงทุนก็เลือกที่จะทำแบบเดิม ผมก็เลือกที่จะทำเหมือนเดิม
"ไม่ใช่เพียงเพราะซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นเลยสรุปว่าเราถูก หรือซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงสรุปว่าเราผิด"
มันไม่ใช่แบบนั้น ครั้งนี้ผมไม่ปรับพอร์ตเลย แต่เลือกซื้อเพิ่มในจังหวะที่น่ากลัวสุดขีดเพื่อทดสอบดูว่ามันจะเป็นเหมือนเดิมหรือไม่? ข่าวเศรษฐกิจมหภาค คิวอี เลิกไม่เลิก อ่านรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง กลัวมั๊ยกลัวฝุด ๆ
...............................
แต่ทำมาทำไปดูเหมือนตลาดเลือกที่จะทำเหมือนเดิมและนักลงทุนก็เลือกที่จะทำแบบเดิม ผมก็เลือกที่จะทำเหมือนเดิม
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 371
เรียนแม่ทัพนายกองทุนท่าน พวกท่านเป็นอย่างไรบ้าง สถานะของข้าพเจ้ายังมิเปลี่ยนแปลงตามโพสต์ข้างบน หลังจากข้าศึกเริ่มลดความบ้าคลั่ง สถานการณ์ของข้าพเจ้าเริ่มดีขึ้น หุ้นหลายตัวที่ลงอย่างรุนแรง บางตัววอลุมการซื้อขายน้อย ยามสถานการณ์พลิกผันกลับก็กลับขึ้นมาได้เร็ว ตอนนี้ยังคง 100% เหมือนเดิมตามนโยบายการรบที่ยึดหลักมานานแล้ว หวังว่าท่านแม่ทัพนายกองทุกคนยังอยู่สบายดีนะครับ ข่าวคราวเป็นอย่างไรรบกวนบอกกล่าวด้วยครับleky เขียน:หลังจากศึกใหญ่ ข้าพเจ้ามิได้ทำการอะไรมากนัก ยังคงอยู่ในที่ตั้ง แต่ "ปรับพื้นที่" เล็กน้อย พื้นที่แห้งแล้งไร้ความหวัง ข้าพเจ้าก็ถอนทหารปล่อยให้ข้าศึกยึดครองไป ถือว่าดึงให้ข้าศึกเสียกำลังพลไปเฝ้า ส่วนพื้นที่อุดมสมบูรณ์ยังคงป้องกันอย่างเหนียวแน่น ส่วนพื้นที่ ๆ เสียหายจากสงครามแต่ยังสามารถฟื้นฟูได้ข้าพเจ้าก็ยังคงส่งกองกำลังตั้งมั่นอยู่ รอฟ้าฝนกลับมาสร้างความอุดมสมบูรณ์ใหม่
"Become a risk taker, not a risk maker"
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 373
เรียน ท่านผู้นำ ท่านกุนซือ และท่านนายพลทุกท่าน
ข้าพเจ้าเห็นว่า ข้าศึกเริ่มอ่อนแรง
จึงทะยอยขอเข้าอาศัย ในเมืองอันแข็งแกร่ง ที่มีคูเมือง อันลึก แลกว้างขวาง
และมีท่านนายพลผู้กล้าต่างๆ ที่คอยรักษาเมืองอยู่ หาได้ทิ้งเมืองไปไม่
แม้ศึกครั้งนี้ป้อมแลประตูเมือง จะได้รับความเสียหายไปบ้าง
แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกลับมาตามสภาพใกล้้เคียงเดิมได้
ช่วงนี้อาจหยุดพักการศึก รอเก็บเกี่ยวดอกผลกันก่อน
ขอทุกท่านอย่าได้หนีหายไป อย่าปล่อยให้อริราชศัตรู
ตีฝ่าเข้ามายึดดินแดนทั้งหมดของเรา
หวังว่าการรบแตกหักที่ปูซาน คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน
ยังไม่อยากไปพบท่านกุนซือ
ข้าพเจ้าเห็นว่า ข้าศึกเริ่มอ่อนแรง
จึงทะยอยขอเข้าอาศัย ในเมืองอันแข็งแกร่ง ที่มีคูเมือง อันลึก แลกว้างขวาง
และมีท่านนายพลผู้กล้าต่างๆ ที่คอยรักษาเมืองอยู่ หาได้ทิ้งเมืองไปไม่
แม้ศึกครั้งนี้ป้อมแลประตูเมือง จะได้รับความเสียหายไปบ้าง
แต่ข้าพเจ้ามั่นใจว่าจะสามารถฟื้นฟูกลับมาตามสภาพใกล้้เคียงเดิมได้
ช่วงนี้อาจหยุดพักการศึก รอเก็บเกี่ยวดอกผลกันก่อน
ขอทุกท่านอย่าได้หนีหายไป อย่าปล่อยให้อริราชศัตรู
ตีฝ่าเข้ามายึดดินแดนทั้งหมดของเรา
หวังว่าการรบแตกหักที่ปูซาน คงไม่เกิดขึ้นในเร็ววัน
ยังไม่อยากไปพบท่านกุนซือ
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
-
- Verified User
- โพสต์: 206
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 374
เรียน ท่านผู้นำ ท่านกุนซือ และท่านนายพลทุกท่าน
ตัวข้าน้อยเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บมาได้ไม่กี่เพลา บาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้นั้นยังไม่สมานตัวดีหนัก ได้แต่อาศัยระยะเวลาช่วยในการรักษาบาดแผลให้ดีขึ้น
พลทหาร เม่า จัง กู
ตัวข้าน้อยเพิ่งฟื้นจากอาการบาดเจ็บมาได้ไม่กี่เพลา บาดแผลที่ได้รับจากการต่อสู้นั้นยังไม่สมานตัวดีหนัก ได้แต่อาศัยระยะเวลาช่วยในการรักษาบาดแผลให้ดีขึ้น
พลทหาร เม่า จัง กู
-
- Verified User
- โพสต์: 61
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 375
เรียนท่านแม่ทัพ ท่านขุนศึก
ข้าน้อยยังหลับสบายดีที่ หลุม 1400+-
ความเดิม หลังจากกองพลข้าน้อยได้ตัดสินใจแตกหักไปแล้ว
ข้าศึกก็ยังป้วนเปี๊ยนอยู่หลายวัน บางเมืองก็ข้าศึกก็รุกหนักขึ้น บางเมืองข้าศึกก็รุกคืบไม่ได้
ข้าได้แต่นอนนิ่งมิกล้าขยับแม้ปลายนิ้ว
ท่องมนต์ที่ท่านศาสดาให้ไว้ นโม รายได้โต กำไรโต ปันผลเพิ่ม
มาบัดนี้ ข้าศึกได้ถอยไปไกลพอสมควรแล้ว จึงเรียกหน่วยซีล 10 นาย กลับมาพักฟื้น
กาลข้างหน้า ยังคิดอะไรไม่ออก คงจะรอหลังฤดูเก็บเกี่ยว จึงคิดการต่อไป
ข้าน้อยยังหลับสบายดีที่ หลุม 1400+-
ความเดิม หลังจากกองพลข้าน้อยได้ตัดสินใจแตกหักไปแล้ว
ข้าศึกก็ยังป้วนเปี๊ยนอยู่หลายวัน บางเมืองก็ข้าศึกก็รุกหนักขึ้น บางเมืองข้าศึกก็รุกคืบไม่ได้
ข้าได้แต่นอนนิ่งมิกล้าขยับแม้ปลายนิ้ว
ท่องมนต์ที่ท่านศาสดาให้ไว้ นโม รายได้โต กำไรโต ปันผลเพิ่ม
มาบัดนี้ ข้าศึกได้ถอยไปไกลพอสมควรแล้ว จึงเรียกหน่วยซีล 10 นาย กลับมาพักฟื้น
กาลข้างหน้า ยังคิดอะไรไม่ออก คงจะรอหลังฤดูเก็บเกี่ยว จึงคิดการต่อไป
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 376
ท่านผู้นำฝาก สาสน์มายังเหล่าท่านแม่ทัพครับว่า
อันประเทศไทยเรานั้น ก้เปรียบได้ดั่งกับ หุ้น1ตัวในกระดาน ถ้าบ้านเรามีพื้นฐานที่ดี
ราคาของหุ้นประเทศเราก้จะไดรฟ์ตามสตอรี่และผลประกอบการ เหล่านักลงทุนทั้งในและ
ต่างประเทศก้ล้วนมองไปข้างหน้า ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่มองแต่อดีต เพราะหุ้นไดรฟตาม
ผลประกอบการในอนาคต
ซึ่งคำว่าพื้นฐานดีนั้น กำไรจะต้อง โตต่อเนื่อง และโตเรื่อยๆ ไม่ใช่เกิดจากการใช้ยาเร่ง
ให้โต เพราะเมื่อไหร่ที่หมดยา ก้จะกลับมาเตี้ยแบบเดิม
หลับตา แล้วมองไปด้วยจิตที่เป็นกลาง จะรู้ว่า ข้างหน้า เหว หรือ ขุมทรัพย์
ที่กำลังจะมาถึง
อันประเทศไทยเรานั้น ก้เปรียบได้ดั่งกับ หุ้น1ตัวในกระดาน ถ้าบ้านเรามีพื้นฐานที่ดี
ราคาของหุ้นประเทศเราก้จะไดรฟ์ตามสตอรี่และผลประกอบการ เหล่านักลงทุนทั้งในและ
ต่างประเทศก้ล้วนมองไปข้างหน้า ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่มองแต่อดีต เพราะหุ้นไดรฟตาม
ผลประกอบการในอนาคต
ซึ่งคำว่าพื้นฐานดีนั้น กำไรจะต้อง โตต่อเนื่อง และโตเรื่อยๆ ไม่ใช่เกิดจากการใช้ยาเร่ง
ให้โต เพราะเมื่อไหร่ที่หมดยา ก้จะกลับมาเตี้ยแบบเดิม
หลับตา แล้วมองไปด้วยจิตที่เป็นกลาง จะรู้ว่า ข้างหน้า เหว หรือ ขุมทรัพย์
ที่กำลังจะมาถึง
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 378
ขอบคุณท่านกุนซือที่ชี้แนะ ท่านกุนซือมองการศึกจาก "บนลงล่าง" ข้าพเจ้าเห็นด้วย "ภาพใหญ่สุดท้ายจะส่งผลถึงภาพเล็ก" ยามตลาดบ้าคลั่งหุ้นที่ดีก็พลอยตกกระไดพลอยโจนไปด้วย นั่นแปลว่า ถ้าใครที่เลือกจะมองแบบ "ล่างขึ้นบน" ก็คงจะต้องเลือกหุ้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากภาพใหญ่มากนัก ที่สำคัญ MOS จะทำให้เหล่าขุนพลทั้งหลายอยู่รอดปลอดภัยmicky1115 เขียน:ท่านผู้นำฝาก สาสน์มายังเหล่าท่านแม่ทัพครับว่า
อันประเทศไทยเรานั้น ก้เปรียบได้ดั่งกับ หุ้น1ตัวในกระดาน ถ้าบ้านเรามีพื้นฐานที่ดี
ราคาของหุ้นประเทศเราก้จะไดรฟ์ตามสตอรี่และผลประกอบการ เหล่านักลงทุนทั้งในและ
ต่างประเทศก้ล้วนมองไปข้างหน้า ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่มองแต่อดีต เพราะหุ้นไดรฟตาม
ผลประกอบการในอนาคต
ซึ่งคำว่าพื้นฐานดีนั้น กำไรจะต้อง โตต่อเนื่อง และโตเรื่อยๆ ไม่ใช่เกิดจากการใช้ยาเร่ง
ให้โต เพราะเมื่อไหร่ที่หมดยา ก้จะกลับมาเตี้ยแบบเดิม
หลับตา แล้วมองไปด้วยจิตที่เป็นกลาง จะรู้ว่า ข้างหน้า เหว หรือ ขุมทรัพย์
ที่กำลังจะมาถึง
สถานการณ์ตอนนี้หวังว่าเหล่าสหายจะหายใจได้คล่องขึ้นบ้าง ขอเพียงอย่าหลงระเริงกับ "แสงสีเขียว" จนลืมความเจ็บปวดที่ผ่านมา ลืมกฎเกณฑ์แห่งความปลอดภัย ผลของการกระทำของเราเมื่อวันวาน ผิดถูกอย่างไร เมื่อเวลาผ่านไปย่อมรู้คำตอบเอง ข้าพเจ้าจะคอยมาแวะเวียนส่งข่าวคราวให้เหล่าสหายเป็นระยะ ๆ เผื่อว่าจะได้เป็นบทเรียนแก่ชนรุ่นหลังไม่มากก็น้อย
"Become a risk taker, not a risk maker"
-
- Verified User
- โพสต์: 86
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 379
ผ่านไปเพียง 2 วัน สถานการณ์พลิกผันเช่นท่าน leky กล่าว
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 380
ได้เวลาเสวนาอีกครั้ง
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 383
เรียนท่านนกรบ กุลซือ และ ท่านแม่ทัพ ทุกท่าน
ข้าน้อยขอแสร่เสนอความคิด จากมันสมองอันน้อยนิดของข้าว่า
"อย่าให้ EQ ของเรา ไปแปลฝันกับ QE เลยครับ"
ขอให้ทุกท่านมีจิตมั่นคงอย่างขุนเขา อย่าได้หวั่นไหว ต่อปัจจัยอื่นใดทั้งมวล
จงตั้งมั่นในกำไรของกิจการเป็นหลัก
ควรไม่ควรได้โปรดชี้แนะ
ข้าน้อยขอแสร่เสนอความคิด จากมันสมองอันน้อยนิดของข้าว่า
"อย่าให้ EQ ของเรา ไปแปลฝันกับ QE เลยครับ"
ขอให้ทุกท่านมีจิตมั่นคงอย่างขุนเขา อย่าได้หวั่นไหว ต่อปัจจัยอื่นใดทั้งมวล
จงตั้งมั่นในกำไรของกิจการเป็นหลัก
ควรไม่ควรได้โปรดชี้แนะ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 384
dome@perth เขียน:เรียนท่านนกรบ กุลซือ และ ท่านแม่ทัพ ทุกท่าน
ข้าน้อยขอแสร่เสนอความคิด จากมันสมองอันน้อยนิดของข้าว่า
"อย่าให้ EQ ของเรา ไปแปลฝันกับ QE เลยครับ"
ขอให้ทุกท่านมีจิตมั่นคงอย่างขุนเขา อย่าได้หวั่นไหว ต่อปัจจัยอื่นใดทั้งมวล
จงตั้งมั่นในกำไรของกิจการเป็นหลัก
ควรไม่ควรได้โปรดชี้แนะ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 387
ตลาดเป็นเหมือนเดิม
ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
ตลาดคงเบื่อผมน่าดู
ผมก็ยังทำตัวเหมือนเดิม
ตลาดคงเบื่อผมน่าดู
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
-
- Verified User
- โพสต์: 1426
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 388
เมื่อตลาดไม่เป็นไปตามกลไกตลาด เหนื่อย......
วรวรรณ ธาราภูมิ · ผู้ติดตาม 9,700 คน
15 สิงหาคม เวลา 6:42 น. ·
จอมอิทธิพลกลุ่มใหม่
----------------------
วิษณุ โชลิตกุล
ข้าวหุ้น 15 สิงหาคม 2556
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้งหลังจากขายสุทธิติดต่อกัน 8 วันรวดในตลาดหุ้นไทย แต่ตลาดหุ้นก็บวกเล็กน้อย เพราะอิทธิพลการเทขายของพอร์ตโบรกเกอร์ (บัญชีบริษัทหลักทรัพย์)
หากมองอย่างพินิจ จะเห็นได้ว่า ในสามเดือนมานี้ การเทขายของนักลงทุนต่างชาติหลายหมื่นล้านบาทต่อเนื่อง ซื้อกลับมาเพียงเล็กน้อย ได้ส่งผลสะเทือนในช่วงแรกกับตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก เพราะคนอื่นๆ พากันขายตามด้วย เพราะมองเห็นว่า หากตลาดหุ้นไทยปราศจากแรงขับเคลื่อนโดยนักลงทุนต่างชาติ จะไปต่อได้ไม่ไกล หรือไม่ไปต่อ เนื่องจากเห็นว่า หากเล่นกันเองแล้ว สภาพตลาดจะมีอาการวาย หรือโลหิตจางได้ง่าย
การถอนตัวของนักลงทุนต่างชาติ เปิดช่องให้กลุ่มพอร์ตโบรกเกอร์ เคลื่อนตัวเข้ามาสร้างอิทธิพลในการซื้อขายตลาดหุ้นค่อนข้างโดดเด่นเป็นพิเศษ มีคนตั้งข้อสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่า วันไหนที่พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ วันนั้น จะมีโอกาสที่หุ้นติดลบสูงมาก หรือไม่ก็บวกเฉียดฉิวดังเช่นเมื่อวานนี้ ที่เด้งบวกหลังจากตลาดปิดลบไปแล้ว
เมื่อใช้สืบค้นย้อนหลังไปกว่า 2 เดือน จะเห็นอิทธิพลของพอร์ตโบรกเกอร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นจนไม่สามารถปฏิเสธได้
อิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นนี้ หากตั้งสมมติฐานว่า นักลงทุนต่างชาติจะไม่หวนกลับคืนมารุนแรงเหมือนเมื่อต้นปีในช่วงไตรมาสแรก ตลาดหุ้นก็คงตกอยู่ใต้อิทธิพลของพอร์ตโบรกเกอร์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น คำถามก็คือว่า แล้วนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน (กองทุนรวม) จะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
ที่มาของพอร์ตโบรกเกอร์ ซึ่งที่ถูกต้องคือ พร็อพเทรด หรือ proprietary trading นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยก่อน แต่เกิดขึ้นในธุรกิจการเงินของสหรัฐแล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก
ประวัติศาสตร์ของพร็อพเทรด เริ่มต้นจากธุรกิจธนาคารในสหรัฐฯที่เข้าไปแก้ปัญหาการเงินของลูกค้า แล้วเอาหลักทรัพย์ค้ำประกันของลูกค้าที่ยึดมาบริหาร ซึ่งทำให้ธนาคารมีรายได้จากการซื้อขายทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แยกออกจากส่วนรายได้จากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆ
โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจบริหารหรือซื้อขายทรัพย์สินทั้งหลาย ไม่ควรเป็นธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน ดังนั้น รัฐจึงกำกับดูแลให้มีข้อกำหนดแยกกิจการบริหารดังกล่าวไปตั้งเป็นบริษัทลูกหรือบริษัทย่อย เกิดเป็นปรากฏการณ์ใหม่คือ การบริหารสินเชื่อและสินทรัพย์ข้ามสายกัน
จากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ได้มีการดัดแปลงไปใช้กับตลาดเก็งกำไร ที่อนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากค่าธรรมเนียม (ซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการเงิน หรืออันเดอร์ไรเตอร์) ซึ่งมีการแข่งขันกันสูง ไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์หรือตราสารการเงินโดยตรง เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ที่ถ่วงดุลกับรายได้ตามจารีตของธุรกิจ
ในกรณีของไทย การลดค่าธรรมเนียมของธุรกิจหลักทรัพย์แบบขั้นบันได ทำให้รายได้ของบรรดาบริษัท และ “มนุษย์ทองคำ” ทั้งหลายลดฮวบฮาบ ก.ล.ต. และตลาดฯ จึงร่วมออกแบบให้ทำพร็อพเทรดได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 ซึ่งบรรดาบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายก็เริงร่า เนื่องจากสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม (คอมมิสชั่น)ที่ปรับมาเป็นแบบขั้นบันไดให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นความได้เปรียบนักลงทุนทั่วไปในระดับหนึ่ง (เข้าออกได้สะดวก เพียงแค่กำไรช่วงเดียวก็ขายทิ้งได้แล้ว เพราะต้นทุนต่ำกว่า)
เงินหน้าตักที่มากกว่า กติกาที่ได้เปรียบ และประสบการณ์ที่เชี่ยวกรำในตลาดหุ้นมากเป็นพิเศษเหนือกลุ่มอื่น ทำให้พร็อพเทรดสามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้นและตราสารอนุพันธ์อย่างยืดหยุ่น
ความคึกคักของพร็อพเทรดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น จนสามารถแย่งส่วนแบ่งการซื้อขายประจำวันได้มากกว่า 10%ขึ้นไปเลย และสามารถทำรายได้เป็นทา
เลือกสำคัญอยู่รอดกันมาด้วยดี เป็นพัฒนาการของตลาดทุนไทยที่สำคัญไม่น้อย
ข้อเด่นของตลาดหุ้นไทยเกี่ยวกับพอร์ตโบรกเกอร์ ก็คือ กำหนดเงื่อนไขเปิดเผยมูลค่าซื้อขายประจำวันของพอร์ต ซึ่งตลาดต่างประเทศที่อื่นก็ไม่ทำ ช่วยให้นักลงทุนสามารถที่จะศึกษาพฤติกรรมและบทบาทของพอร์ตโบรกเกอร์ได้อย่าง”รู้ทัน”มากขึ้น แม้จะมีคำถามแบบไร้เดียงสาที่เป็นอมตะเสมอมาว่า “จะมั่นใจได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์จะไม่เอาเปรียบลูกค้าของตนเอง (โยกกระเป๋าซ้าย ย้ายกระเป๋าขวา) เพื่อหาประโยชน์เข้าตัว”
คำอธิบายจากผู้บริหารตลาด และ ก.ล.ต.เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ กระบวนการทำงานของแผนกพร็อพเทรด ถูกแยกออกอย่างเด็ดขาดจากแผนกอื่นๆ (นักวิเคราะห์ มาร์เกตติ้ง อันเดอร์ไรเตอร์ หรือที่ปรึกษาการเงิน) โดยการสร้าง “กำแพงเมืองจีน” (China Wall) ซึ่งถูกตรวจสอบเข้มงวด ตามกฎสากลที่เรียกกันว่า กฎของโวล์กเกอร์ (Volker’s Rules- ตามชื่อนายพอล โวล์กเกอร์ อดีตผู้ว่าเฟดฯยุคโรนัลด์ เรแกน) เป้าหมายสำคัญอยู่ที่การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นเอง
กติกาเช่นว่านั้น ว่าไปแล้ว มีคนทั้งที่เป็นนักลงทุนและไม่ใช่เชื่อน้อยมาก เพราะรู้ดีถึงก้นบึ้งของวัฒนธรรมองค์กรแบบ”ไทยๆ”ที่แสนจะคุ้นเคยกันดีสำหรับการทลายกำแพงเมืองจีนให้เปื่อยยุ่ย
ที่สำคัญ พนักงานของโบรกเกอร์ไทยที่ทำพร็อพเทรด ก็มีนิสัยหรือสันดอนจนสังเกตชัดว่า ถนัดซื้อขายระยะสั้น เข้า-ออกเร็ว รวมทั้งเล่นเก็งกำไรสองขาทั้งตลาดหุ้นและอนุพันธ์ สามารถโยนพอร์ตไปมาได้ทั้งซื้อและขาย ทำให้ภาพการลงทุน หรือทิศทางตลาดผันผวน ยังผลให้รายย่อยที่ข้อมูลไม่สมบูรณ์ประเมินการลงทุนได้ยากขึ้น
อิทธิพลที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของพร็อพเทรด ในยามที่ต่างชิตถอยออกจากตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะทำให้ข้อถกเถียงและคำถามถึงบทบาทที่พอเหมาะพอควรของพอร์ตโบรกเกอร์ หรือพร็อพเทรดกันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะตลาดไม่ควรถูกครอบงำโดยคนกลุ่มน้อยที่ช่ำชองการปล้นคนส่วนใหญ่อย่างชอบธรรม
https://th-th.facebook.com/permalink.ph ... 1450051196
วรวรรณ ธาราภูมิ · ผู้ติดตาม 9,700 คน
15 สิงหาคม เวลา 6:42 น. ·
จอมอิทธิพลกลุ่มใหม่
----------------------
วิษณุ โชลิตกุล
ข้าวหุ้น 15 สิงหาคม 2556
เมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นอีกครั้งหลังจากขายสุทธิติดต่อกัน 8 วันรวดในตลาดหุ้นไทย แต่ตลาดหุ้นก็บวกเล็กน้อย เพราะอิทธิพลการเทขายของพอร์ตโบรกเกอร์ (บัญชีบริษัทหลักทรัพย์)
หากมองอย่างพินิจ จะเห็นได้ว่า ในสามเดือนมานี้ การเทขายของนักลงทุนต่างชาติหลายหมื่นล้านบาทต่อเนื่อง ซื้อกลับมาเพียงเล็กน้อย ได้ส่งผลสะเทือนในช่วงแรกกับตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก เพราะคนอื่นๆ พากันขายตามด้วย เพราะมองเห็นว่า หากตลาดหุ้นไทยปราศจากแรงขับเคลื่อนโดยนักลงทุนต่างชาติ จะไปต่อได้ไม่ไกล หรือไม่ไปต่อ เนื่องจากเห็นว่า หากเล่นกันเองแล้ว สภาพตลาดจะมีอาการวาย หรือโลหิตจางได้ง่าย
การถอนตัวของนักลงทุนต่างชาติ เปิดช่องให้กลุ่มพอร์ตโบรกเกอร์ เคลื่อนตัวเข้ามาสร้างอิทธิพลในการซื้อขายตลาดหุ้นค่อนข้างโดดเด่นเป็นพิเศษ มีคนตั้งข้อสังเกตมาหลายครั้งแล้วว่า วันไหนที่พอร์ตโบรกเกอร์ขายสุทธิ วันนั้น จะมีโอกาสที่หุ้นติดลบสูงมาก หรือไม่ก็บวกเฉียดฉิวดังเช่นเมื่อวานนี้ ที่เด้งบวกหลังจากตลาดปิดลบไปแล้ว
เมื่อใช้สืบค้นย้อนหลังไปกว่า 2 เดือน จะเห็นอิทธิพลของพอร์ตโบรกเกอร์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้นจนไม่สามารถปฏิเสธได้
อิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นนี้ หากตั้งสมมติฐานว่า นักลงทุนต่างชาติจะไม่หวนกลับคืนมารุนแรงเหมือนเมื่อต้นปีในช่วงไตรมาสแรก ตลาดหุ้นก็คงตกอยู่ใต้อิทธิพลของพอร์ตโบรกเกอร์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น คำถามก็คือว่า แล้วนักลงทุนทั่วไป และนักลงทุนสถาบัน (กองทุนรวม) จะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์มากน้อยแค่ไหน
ที่มาของพอร์ตโบรกเกอร์ ซึ่งที่ถูกต้องคือ พร็อพเทรด หรือ proprietary trading นั้น ไม่ได้เกิดขึ้นในตลาดหุ้นไทยก่อน แต่เกิดขึ้นในธุรกิจการเงินของสหรัฐแล้วแพร่กระจายไปทั่วโลก
ประวัติศาสตร์ของพร็อพเทรด เริ่มต้นจากธุรกิจธนาคารในสหรัฐฯที่เข้าไปแก้ปัญหาการเงินของลูกค้า แล้วเอาหลักทรัพย์ค้ำประกันของลูกค้าที่ยึดมาบริหาร ซึ่งทำให้ธนาคารมีรายได้จากการซื้อขายทรัพย์สินเพิ่มขึ้น แยกออกจากส่วนรายได้จากดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆ
โดยทั่วไปแล้ว ธุรกิจบริหารหรือซื้อขายทรัพย์สินทั้งหลาย ไม่ควรเป็นธุรกิจหลักของธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน ดังนั้น รัฐจึงกำกับดูแลให้มีข้อกำหนดแยกกิจการบริหารดังกล่าวไปตั้งเป็นบริษัทลูกหรือบริษัทย่อย เกิดเป็นปรากฏการณ์ใหม่คือ การบริหารสินเชื่อและสินทรัพย์ข้ามสายกัน
จากธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ได้มีการดัดแปลงไปใช้กับตลาดเก็งกำไร ที่อนุญาตให้บริษัทหลักทรัพย์ สามารถสร้างรายได้เพิ่มจากค่าธรรมเนียม (ซื้อขายหลักทรัพย์ ที่ปรึกษาการเงิน หรืออันเดอร์ไรเตอร์) ซึ่งมีการแข่งขันกันสูง ไปสู่การซื้อขายหลักทรัพย์หรือตราสารการเงินโดยตรง เพื่อสร้างแหล่งรายได้ใหม่ที่ถ่วงดุลกับรายได้ตามจารีตของธุรกิจ
ในกรณีของไทย การลดค่าธรรมเนียมของธุรกิจหลักทรัพย์แบบขั้นบันได ทำให้รายได้ของบรรดาบริษัท และ “มนุษย์ทองคำ” ทั้งหลายลดฮวบฮาบ ก.ล.ต. และตลาดฯ จึงร่วมออกแบบให้ทำพร็อพเทรดได้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2552 ซึ่งบรรดาบริษัทหลักทรัพย์ทั้งหลายก็เริงร่า เนื่องจากสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้โดยตรงโดยไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม (คอมมิสชั่น)ที่ปรับมาเป็นแบบขั้นบันไดให้กับตัวเอง ซึ่งเป็นความได้เปรียบนักลงทุนทั่วไปในระดับหนึ่ง (เข้าออกได้สะดวก เพียงแค่กำไรช่วงเดียวก็ขายทิ้งได้แล้ว เพราะต้นทุนต่ำกว่า)
เงินหน้าตักที่มากกว่า กติกาที่ได้เปรียบ และประสบการณ์ที่เชี่ยวกรำในตลาดหุ้นมากเป็นพิเศษเหนือกลุ่มอื่น ทำให้พร็อพเทรดสามารถซื้อขายได้ทั้งหุ้นและตราสารอนุพันธ์อย่างยืดหยุ่น
ความคึกคักของพร็อพเทรดเกิดขึ้นตั้งแต่ต้น จนสามารถแย่งส่วนแบ่งการซื้อขายประจำวันได้มากกว่า 10%ขึ้นไปเลย และสามารถทำรายได้เป็นทา
เลือกสำคัญอยู่รอดกันมาด้วยดี เป็นพัฒนาการของตลาดทุนไทยที่สำคัญไม่น้อย
ข้อเด่นของตลาดหุ้นไทยเกี่ยวกับพอร์ตโบรกเกอร์ ก็คือ กำหนดเงื่อนไขเปิดเผยมูลค่าซื้อขายประจำวันของพอร์ต ซึ่งตลาดต่างประเทศที่อื่นก็ไม่ทำ ช่วยให้นักลงทุนสามารถที่จะศึกษาพฤติกรรมและบทบาทของพอร์ตโบรกเกอร์ได้อย่าง”รู้ทัน”มากขึ้น แม้จะมีคำถามแบบไร้เดียงสาที่เป็นอมตะเสมอมาว่า “จะมั่นใจได้อย่างไรว่าโบรกเกอร์จะไม่เอาเปรียบลูกค้าของตนเอง (โยกกระเป๋าซ้าย ย้ายกระเป๋าขวา) เพื่อหาประโยชน์เข้าตัว”
คำอธิบายจากผู้บริหารตลาด และ ก.ล.ต.เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ กระบวนการทำงานของแผนกพร็อพเทรด ถูกแยกออกอย่างเด็ดขาดจากแผนกอื่นๆ (นักวิเคราะห์ มาร์เกตติ้ง อันเดอร์ไรเตอร์ หรือที่ปรึกษาการเงิน) โดยการสร้าง “กำแพงเมืองจีน” (China Wall) ซึ่งถูกตรวจสอบเข้มงวด ตามกฎสากลที่เรียกกันว่า กฎของโวล์กเกอร์ (Volker’s Rules- ตามชื่อนายพอล โวล์กเกอร์ อดีตผู้ว่าเฟดฯยุคโรนัลด์ เรแกน) เป้าหมายสำคัญอยู่ที่การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นเอง
กติกาเช่นว่านั้น ว่าไปแล้ว มีคนทั้งที่เป็นนักลงทุนและไม่ใช่เชื่อน้อยมาก เพราะรู้ดีถึงก้นบึ้งของวัฒนธรรมองค์กรแบบ”ไทยๆ”ที่แสนจะคุ้นเคยกันดีสำหรับการทลายกำแพงเมืองจีนให้เปื่อยยุ่ย
ที่สำคัญ พนักงานของโบรกเกอร์ไทยที่ทำพร็อพเทรด ก็มีนิสัยหรือสันดอนจนสังเกตชัดว่า ถนัดซื้อขายระยะสั้น เข้า-ออกเร็ว รวมทั้งเล่นเก็งกำไรสองขาทั้งตลาดหุ้นและอนุพันธ์ สามารถโยนพอร์ตไปมาได้ทั้งซื้อและขาย ทำให้ภาพการลงทุน หรือทิศทางตลาดผันผวน ยังผลให้รายย่อยที่ข้อมูลไม่สมบูรณ์ประเมินการลงทุนได้ยากขึ้น
อิทธิพลที่กำลังเพิ่มมากขึ้นของพร็อพเทรด ในยามที่ต่างชิตถอยออกจากตลาดหุ้นไทยนั้น น่าจะทำให้ข้อถกเถียงและคำถามถึงบทบาทที่พอเหมาะพอควรของพอร์ตโบรกเกอร์ หรือพร็อพเทรดกันมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี เพราะตลาดไม่ควรถูกครอบงำโดยคนกลุ่มน้อยที่ช่ำชองการปล้นคนส่วนใหญ่อย่างชอบธรรม
https://th-th.facebook.com/permalink.ph ... 1450051196
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1523
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 389
Thailand Cuts Growth Outlook as Economy Enters Recession
http://www.bloomberg.com/news/2013-08-1 ... mited.html
จะร่อนลงช้าหรือเร็ว ก้ขึ้นกับระดับความสูงนะครับ
http://www.bloomberg.com/news/2013-08-1 ... mited.html
จะร่อนลงช้าหรือเร็ว ก้ขึ้นกับระดับความสูงนะครับ
แนบไฟล์
-
- Verified User
- โพสต์: 1803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ในวันที่ SET - 70 จุด
โพสต์ที่ 390
สมัยก่อนนาน ๆ จะมีซักครั้งที่หุ้นบวกครั้งละ 40-50 จุด เซียนชื่อดังถึงขนาดบอกว่าถ้าตกหนักแบบนั้นต้องช้อนเพราะเดี๋ยวจะเด้ง แต่ในปีนี้เหตุการณ์แบบนี้มีถี่มากจนชักจะเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แล้วก็มีติด ๆ กันได้หลายวันอีกต่างหาก ยอมรับว่าผันผวนมากจริง ๆ ครับ ถ้าใครมีสติไม่พออาจจะเกิดอาการ "จิตใจแตกซ่าน" ได้ง่ายมาก
แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือมูลค่าพอร์ตมันก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในกรอบหนึ่ง วันหุ้นตกมูลค่ามันก็อาจจะตกลงมา วันที่บวกกลับแรง ๆ มันก็บวกกลับคืนไป คล้าย ๆ กับ "คลื่นในท้องทะเล" ขึ้น ๆ ลง ๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกกับตัวเองก็คือ "ความรู้สึกเคยชิน" มันเหมือนเรามีภูมิต้านทานมากขึ้นกับความบ้าคลั่งของตลาด คล้าย ๆ กับการ "ฉีดวัคซีน"
การทำวัคซีนก็คือการนำเอาส่วนของเชื้อโรคที่ทำให้ตายแล้วหรือส่วนประกอบของเชื้อโรคนั้นมาทำเป็นวัคซีน แล้วฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน เมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคจริงก็จะสามารถรอดพ้นจากโรคได้ จริงอยู่วัคซีนบางชนิดไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหุ้นตกแบบนี้ เราอาจจะ "ลน ๆ" รีบเช็คข่าว ดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ว่ามันจะลงไปถึงไหน เราจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจะว่าไปจริง ๆ แล้วเราอาจจะทำอะไรไม่ได้มากนัก เหมือน "หนูติดจั่น" วิ่งไปวิ่งมา แต่พอเราโดนแบบนี้ "ซ้ำไปซ้ำมา" ความรู้สึกเวลาที่หุ้นมันตกหนักเลยกลายเป็นว่า "อ๋อ ตกอีกแล้วเหรอ แล้วมันมีข่าวอะไรอีกล่ะ"
ช่วงหนึ่งผมใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้หลายวัน ไม่ได้รับรู้ข่าวอะไรมากมาย ผมกลับรู้สึกว่าบางครั้งมันก็ดีเหมือนกันครับ
แต่สิ่งที่ผมเห็นก็คือมูลค่าพอร์ตมันก็ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ในกรอบหนึ่ง วันหุ้นตกมูลค่ามันก็อาจจะตกลงมา วันที่บวกกลับแรง ๆ มันก็บวกกลับคืนไป คล้าย ๆ กับ "คลื่นในท้องทะเล" ขึ้น ๆ ลง ๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกกับตัวเองก็คือ "ความรู้สึกเคยชิน" มันเหมือนเรามีภูมิต้านทานมากขึ้นกับความบ้าคลั่งของตลาด คล้าย ๆ กับการ "ฉีดวัคซีน"
การทำวัคซีนก็คือการนำเอาส่วนของเชื้อโรคที่ทำให้ตายแล้วหรือส่วนประกอบของเชื้อโรคนั้นมาทำเป็นวัคซีน แล้วฉีดเข้าไปในร่างกายเพื่อให้ร่างกายเกิดภูมิต้านทาน เมื่อร่างกายได้รับเชื้อโรคจริงก็จะสามารถรอดพ้นจากโรคได้ จริงอยู่วัคซีนบางชนิดไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงลงได้มาก
ถ้าเป็นเมื่อก่อนหุ้นตกแบบนี้ เราอาจจะ "ลน ๆ" รีบเช็คข่าว ดูการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ว่ามันจะลงไปถึงไหน เราจะทำอะไรได้บ้าง ซึ่งจะว่าไปจริง ๆ แล้วเราอาจจะทำอะไรไม่ได้มากนัก เหมือน "หนูติดจั่น" วิ่งไปวิ่งมา แต่พอเราโดนแบบนี้ "ซ้ำไปซ้ำมา" ความรู้สึกเวลาที่หุ้นมันตกหนักเลยกลายเป็นว่า "อ๋อ ตกอีกแล้วเหรอ แล้วมันมีข่าวอะไรอีกล่ะ"
ช่วงหนึ่งผมใช้อินเตอร์เน็ตไม่ได้หลายวัน ไม่ได้รับรู้ข่าวอะไรมากมาย ผมกลับรู้สึกว่าบางครั้งมันก็ดีเหมือนกันครับ
"Become a risk taker, not a risk maker"