เคล็ดลับความกล้า

[wk0966]

ฝรั่งเค้ามีประโยคนึงครับ No Guts...No Glory
ปกติผมก็จะมีหุ้น 3-4 ตัว เท่าๆกัน แต่ตอนนี้ มีตัวนึง 70 % ของปอดแล้ว
ถึงจะกล้าแต่ไม่ได้เข้ามาตูมเดียวนะครับ
อยากจะซื้อเพิ่ม แต่ใจนึงก็ อย่าโลภ ที่รู้อยู่ รู้หมดแน่แล้วหรือ

[VTchai]

อ่านเคล็ดลับความกล้าแล้วทำให้กลับมาคิดว่าที่ผ่านมาเรามีหรือไม่มี
ก็สรุปได้ว่าทั้งมีและไม่มี
มีก็เพราะมั่นใจในหลักการของVI
ไม่มีก็เพราะลังเลในเหตุผลของตนเองที่บ้างครั้งไม่สอดคล้องกับคนอื่นเลยต้องพยามยามหาข้อมูลมาsupport การตัดสินใจของตนเอง
ประมาณนี้ครับ

[Nevercry.boy]

กล้าที่จะคิดแตกต่าง ในโลกการลงทุนแล้วสิ่งที่เปลี่ยนแปลงง่ายที่สุดคือราคา แต่หากเป็นมุมมองที่เราเป็นเจ้าของกิจการจริง ๆ แล้ว เราคงไม่ขายบริษัทของเราเพียงเพราะเรากลัว

[เเกะดำ]

สุดยอดครับ

[Nevercry.boy]

ผู้กล้าต้องอดทน

ในตลาดหุ้นนั้น ความอดทน แบ่งออกเป็นหลายเรื่องราว

1. หุ้นลง ตลาดลง แต่หุ้นเราลงมากกว่า
2. หุ้นขึ้น ตลาดขึ้น แต่หุ้นเราขึ้นจิ๊ดเดียว
3. หุ้นเราลง ตลาดขึ้น ไรว้า
4. หุ้นที่เราขายขึ้น เซ้งเป็ด
5. หุ้นที่เราซื้อลง นิ่ง มันเป็นอัลไลของมาน
6. เจ็บสุด หุ้นที่เราขายสลับตัวมาซื้อ ดันซื้อควายขายหมู ซะงั้น
7. เล่นเก็งกำไรได้หลายรอบ
8. วีไอนิ่ง

ฯลฯ อื่น ๆ อีกมากมาย

ผู้กล้าต้องอดทน ครัช

[Nevercry.boy]

ลินซ์ บอกไว้

"เพียงเพราะเมื่อคุณซื้อหุ้นแล้วหุ้นขึ้นไม่ได้แปลว่าคุณถูก"
"เพียงเพราะเมื่อคุณซื้อหุ้นแล้วหุ้นลงไม่ได้แปลว่าคุณผิด"

[Nevercry.boy]

ปัจจัย ที่ผมมองว่ามีผลกระทบกับความกล้าของตัวเราเอง

1. รวยเร็ว รวยช้า ถ้าเลือกได้ เลือกวิธีที่ทำให้ รวยเร็ว ไม่เลือกรวยช้า เช่น ซื้อปั๊บหุ้นขึ้นเลย ถ้าฟังคนอื่นมา เออหนอ คนนั้นเป็นเซียนแน่ๆ หากตัดสินใจเอง เออหนอ วิธีการของเรานี่มันสุดยอดคัมภีร์ เหนือคนอื่น

2. น่าเบื่อ ตื่นเต้น ถ้าเลือกได้ เลือกวิธีการลงทุนที่ทำให้ตื่นเต้น (ราคา) เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา Bid-Offer เต้นยึกยัก ๆ ราวไส้เดือน เปิดจออยู่ตลอดเวลา หุ้นน่าเบื่อยังไงก็เป้นหุ้นน่าเบื่ออยุ่วันยังค่ำ

เรา "กล้า" ที่จะรวยเร็ว เรา "กล้า" ที่จะตื่นเต้น --> ผมเรียกว่าหุ้นกลุ่มที่หนึ่ง

จนบางครั้งเราไม่กล้าที่จะรวยช้าและเราไม่กล้าอยู่กับความสงบ ๆ

จนบางครั้งเป็นความกลัว --> ผมเรียกว่าหุ้นกลุ่มที่สอง

และส่วนใหญ่เราจะมีแนวโน้มที่จะขายหุ้นกลุ่มที่สองไปซื้อหุ้นกลุ่มที่หนึ่ง

ฟิ้ววววววววววววว

[Nevercry.boy]

ถ้าเราแยกความคิดออกมาเป็นส่วน ๆ แล้ว เราจะได้ว่า

1 เราคิดเหมือนตลาด ปล่อยวางให้ตลาดเป็นคนสรรหาเรื่องราวดี ๆ
2 เราคิดต่างจากตลาด ความกลัวมาก ความกล้ามาก จึงซื้อทั้ง ๆ ที่กลัวมาก เราต้องสรรหาเรื่องราวดี ๆ ใน ภาวะแย่ ๆ แน่นอน เสียงไม่เห็นด้วยมาก

ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เราจะคิดต่างจากตลอดเวลาไม่ได้ไม่งั้นหุ้นเราจะไม่มีวันขึ้นเลย

จึงจัดกระบวนความคิดใหม่ได้ว่า

เราคิดต่างจากตลาด (ยามซื้อ และยามสะสม โดยเฉพาะในช่วงหุ้นตก) และ ตลาดคล้อยตามเรา (ยาม Hold เรา Let Profits Run) นี่น่าจะเป็นกระบวนการคิดที่ถูกต้องมากกว่า

ฟิชเชอร์เคยกล่าวว่าหากเค้าไปฟังการวิเคราะห์หุ้นตัวใดตัวหนึ่งซึ่งคนแน่นเต็มห้องเลยนั่นแปลว่าเค้ามาสายไปเสียแล้ว

[Nevercry.boy]

เมื่อคุณรู้น้อยคุณจะถูกหลอกมาก เมื่อคุณรู้มากคุณจะถูกหลอกง่าย

[Nevercry.boy]

พี่ครับ

ความกล้า กับ ความประมาท นั้นแตกต่างกันครับ

ต่างกันอย่างไร?

มุมมองนี้ผมเห็นจากในที่ทำงานและตลาดหุ้น

ในการลงทุนหรือการนำเสนองานแล้ว นลท. มักจะต้อง convince ตัวเองอยู่มาก ๆ ทำการบ้าน มาก ๆ ก่อนจะตอบตัวเองว่า แล้วเราจะ "กล้า" ลงทุนหรือเปล่า การลงทุนนั้นมักเป็นการลงทุนที่สำคัญ อาจไม่ใช่เฉพาะการซื้อหุ้น แต่ลองสมมติดูว่าหากคุณกำลังจะตัดสินใจเรียนต่อคณะอะไรดี ทำงานที่ไหนดี หรือแต่งงานกับใครดี สิ่งเหล่านี้คุณจะทะยอยตัดสินใจไม่ได้

เราจะบอกว่า โอเค ปีนี้ลองเรียน หมอก่อน อีกปีลองไปเรียน วิดวะ แล้วอีกปีลองเรียน อักษร แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะเรียนอะไร

หรือเราจะบอกว่า โอเค ลองแต่งงานกับ A ก่อน แล้วถ้าไม่ดี ค่อยมาแต่งกับ B แล้วหลังจากนั้นค่อยแต่งกับ C ก็คงไม่เหมาะ

เราต้องมี ข้อมูลที่ถูกต้องอยู่บนรากฐานของความมั่นใจที่จะค่อย ๆ บ่มเพาะขึ้น จนเราตัดสินใจแล้ว เออ เรามาถูกทางถูกจริตของเรา จุดนั้นเราใช้ "ความกล้า" ในการตัดสินใจ

และนั่นคือ "ความกล้า" ที่ผมพูดถึงในการลงทุน คือ "ความกล้า" ตัวนั้นเป็นตัวเดียวกัน หากคุณจะซื้อหุ้นที่จะเป็นแหล่งเพาะเงินให้คุณในอนาคต คุณจะเล่น ๆ ไม่ได้ ลองซื้อดูก่อนไม่ดีแล้วค่อยเปลี่ยน นั่นคือคุณกำลัง "ประมาท" คุณกำลังให้ราคาเป็นเครื่องชี้นำคุณไป หุ้นขึ้นเค้าเชียร์กันก็ว่าดีก็ว่าใช่ เออ ก็คงงั้นตาม ๆ กันไป

ผลของความ "ประมาท" ก่อให้เกิด ความลังเลใจ รวนใจ ในยามมีข่าวร้ายมากระทบธุรกิจหรือหุ้น บวกกับความผันผวนของราคา คุณก็พร้อมที่จะขายทิ้งไปทุกราคาที่ทำให้คุณกังวล

จงใช้ความกล้าในการตัดสินใจลงทุน อย่าใช้ความประมาทไปเล่นหุ้น เพราะเมื่อคุณเล่นกับมันเมื่อไร หุ้นมันจะเล่นคุณทันที

[@bangkok]

ปัจจัย ที่ผมมองว่ามีผลกระทบกับความกล้าของตัวเราเอง

1. รวยเร็ว รวยช้า ถ้าเลือกได้ เลือกวิธีที่ทำให้ รวยเร็ว ไม่เลือกรวยช้า เช่น ซื้อปั๊บหุ้นขึ้นเลย ถ้าฟังคนอื่นมา เออหนอ คนนั้นเป็นเซียนแน่ๆ หากตัดสินใจเอง เออหนอ วิธีการของเรานี่มันสุดยอดคัมภีร์ เหนือคนอื่น

2. น่าเบื่อ ตื่นเต้น ถ้าเลือกได้ เลือกวิธีการลงทุนที่ทำให้ตื่นเต้น (ราคา) เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา Bid-Offer เต้นยึกยัก ๆ ราวไส้เดือน เปิดจออยู่ตลอดเวลา หุ้นน่าเบื่อยังไงก็เป้นหุ้นน่าเบื่ออยุ่วันยังค่ำ

เรา "กล้า" ที่จะรวยเร็ว เรา "กล้า" ที่จะตื่นเต้น --> ผมเรียกว่าหุ้นกลุ่มที่หนึ่ง

จนบางครั้งเราไม่กล้าที่จะรวยช้าและเราไม่กล้าอยู่กับความสงบ ๆ

จนบางครั้งเป็นความกลัว --> ผมเรียกว่าหุ้นกลุ่มที่สอง

และส่วนใหญ่เราจะมีแนวโน้มที่จะขายหุ้นกลุ่มที่สองไปซื้อหุ้นกลุ่มที่หนึ่ง

ฟิ้ววววววววววววว

โดนใจ สุดๆ ครับ ขอบคุณครับ

[Nevercry.boy]

ในการลงทุนนั้น บ้างก็ว่า เชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น

คนแรก เชื่อว่าตนเองเห็นผลประกอบการณ์คาดคะเนได้แม่นยำดังมีมณีวิเศษ ผลกำไรรายไตรมาส หรือรายปี จะเป็นสิ่งที่ยืนยันสิ่งเหล่านั้น

คนที่สอง มีสารพัดกราฟรูปทรง รูปแบบต่าง ๆ ราคา โวลุ่ม และตลอดจนบางคนเชื่อว่าราคาหุ้นรายวันนั่นหล่ะ ตลาดเฉลยแล้วยังรออะไรอีก

และอีกหลายคนเชื่อในสิ่งที่ตนเห็นเป็น "อัตตา" จนลืมไปว่า
...............

สองคนข้างบนทุ่มเถียงกันตลอดเวลา จนลืมสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ
การใช้เวลากับตลาดหุ้น ขุดให้ลึก หาคำตอบจาก Mr.Market ให้ได้ด้วยตนเอง

...............

เป้าหมายสำคัญของตนเองคืออะไร? เป้าหมายของตนเองที่เข้ามาในตลาดหุ้นคืออะไร?

เตือนคนอื่นจนลืมเตือนตนเอง

...............

[Nevercry.boy]

เมื่อผลประกอบการออกมาห่วยแล้วลงไม่เยอะ ต้องมอง

เมื่อผลประกอบการออกมาดีแล้วขึ้นไม่เยอะ ต้องมอง

เมื่อผลประกอบการยังไม่ออกแล้วหุ้นขึ้นเยอะ ต้องจ้อง

เมื่อผลประกอบการยังไม่ออกแล้วหุ้นลงเยอะ ต้องจ้อง

[Nevercry.boy]

รู้มาก เค้าว่า รู้น้อย

รู้น้อย เค้าว่า รู้ไม่เยอะ

รู้เยอะ เค้าว่า รู้น้อย

[Nevercry.boy]

มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ ในปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับความกล้า และผมคิดว่ามีความสำคัญกับตัวผมในวัย สี่สิบสาม มากทีเดียว นั่นคือ กล้าที่จะมองข้อเสียของตัวเอง ยากครับ เพราะความขี้เกียจ ความมันส์ ความรักสบาย มักจะเฉใจ เราให้ไปเป็นอย่างอื่น นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนแล้วยังเกี่ยวข้องกับชีวิตมากทีเดียว

เราจะพัฒนาได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเราบกพร่องตรงไหน แต่เรามักจะแกล้งลืมมันไปเพราะมันเป็นความเคยชินของเราเป็นความหายนะของเราที่เราแกล้งโง่ แกล้งลืมข้อบกพร่องของเรา ไม่ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า ไอ้โง่มึงทำอะไรลงไป

[Nevercry.boy]

ผมตอบไม่ได้หรอกว่าหุ้นตัวไหนดีตัวไหนไม่ดี
ผมไม่เชื่อนักวิเคราะห์ตลอดจนบอร์ดหุ้นหรอกครับว่าหุ้นตัวไหนดีตัวไหนไม่ดี
ผมรับไม่ได้หรอกครับที่หุ้นที่ผมศึกษามาอย่างดีแล้วมันขึ้นไปโดนไม่มีผม
และผมเสียใจเสมอเมื่อหุ้นที่ตกลงมาจนทำผมขาดทุนแต่ผมไม่ได้ซื้อมันเพิ่ม

ผมและตลาดหุ้นมันก็มักจะทำเหมือนเดิมความเจ็บซ้ำในเรื่องเก่าๆก็เป็นเรื่องเคยๆ รู้กันอยู่

หนังเก่าซ้ำเก่า เหล้าเก่าเปลี่ยนฉลากไปกี่ทีกินแล้วก็เมาเหมือนเดิม

เอ้า ดื่ม เชียร์สสสสสสสส

[Nevercry.boy]

ความกล้านั้นมีที่มาที่ไป

สงครามในมุมมองของกุนซือย่อมแตกต่างจากแม่ทัพและแม่ทัพย่อมแตกต่างจากทหารเลว

ตลาดหุ้นก็เช่นกัน

(1) ถ้าเราเข้าไปในตลาดด้วยความคิดว่า "วันนี้เราต้องรอดให้ได้" เราไม่แตกต่างจากทหารเลว คุณเป็นเม่าพันธุ์แท้ เค้าให้ไปรบก็ไปรบ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารบกับใครรบที่ไหนอย่างไร เดินไปฟังเสียง บุก ... กกกกกกกกกกกกกก ก็ลุย ฝีมือดีก็ได้โปรโมท ได้ค่าหัว พลาดก็ตาย เจ็บ

(2) ถ้าเราเข้าไปในตลาดด้วยความคิดที่ว่า "จะต้องผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้" ผมขอปรบมือต้อนรับ เซียนหุ้นคนใหม่ เราไม่แตกต่างจากแม่ทัพ แผ่นดินทั้งแผ่นดินมีหลายการศึกเกิดขึ้นมากมาย ต่างกรรมต่างวาระ แม่ทัพผู้รับผิดชอบโรมรัน มักจะเป็นผู้ได้รับชื่อเสียงเมื่อผ่านการศึกนั้นมาได้ แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป แม่ทัพผู้นั้นอาจจะไปพ่าย ในศึกใหม่ ชื่อเสียงที่เคยมีมาก็เป็นอดีต ดังเช่นเซียนหุ้นมากมายทั้งตามหน้าเวปบอร์ด จึงมีอยู่และหายไป

(3) ถ้าเราเข้าไปที่ตลาดด้วยความคิดที่ว่า "จะสร้างความสำเร็จต่อเนื่องหลายศึกยาวนาน" แบบนี้มันคือการคิดการณ์ใหญ่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ เชียวหรือ ว้าว ใหญ่โต ยินดีด้วยที่คุณมีแนวคิดที่ถูกต้อง เพียงแต่ในตลาดหุ้นแท้จริงนั้นไม่มีใครประสบความสำเร็จตลอดไป หรือล้มเหลวตลอดไป "คนไม่ยอมจำนนต่อความล้มเหลว" ต่างหากจึงจะยืนหยัดใน สมรภูมินี้ได้

เกิดขึ้น...ตั้งอยู่...ดับไป สามสิ่งนี้จึงเวียนวน

จาก กุนซือนิรนาม กี่ปีก็ยังเป็นเม่าเหมือนเดิม

[Nevercry.boy]

Fortis Fortuna Adiuvat

ถ้าคิดอะไรไม่ออก ทำอะไรผิดไปหมด ทุกอย่างที่คิดพลาดหมด
แผนสุดท้าย ของสุดท้าย

คือ

"อดทน" ให้ถึงที่สุด

[ดำ]

มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ ในปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับความกล้า และผมคิดว่ามีความสำคัญกับตัวผมในวัย สี่สิบสาม มากทีเดียว นั่นคือ กล้าที่จะมองข้อเสียของตัวเอง ยากครับ เพราะความขี้เกียจ ความมันส์ ความรักสบาย มักจะเฉใจ เราให้ไปเป็นอย่างอื่น นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนแล้วยังเกี่ยวข้องกับชีวิตมากทีเดียว

เราจะพัฒนาได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเราบกพร่องตรงไหน แต่เรามักจะแกล้งลืมมันไปเพราะมันเป็นความเคยชินของเราเป็นความหายนะของเราที่เราแกล้งโง่ แกล้งลืมข้อบกพร่องของเรา ไม่ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า ไอ้โง่มึงทำอะไรลงไป

ถ้าอยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง การศึกษาธรรมะช่วยท่านได้ครับ จากใจคนวัยเดียวกัน

[Nevercry.boy]

มีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้ ในปีที่ผ่านมาเกี่ยวกับความกล้า และผมคิดว่ามีความสำคัญกับตัวผมในวัย สี่สิบสาม มากทีเดียว นั่นคือ กล้าที่จะมองข้อเสียของตัวเอง ยากครับ เพราะความขี้เกียจ ความมันส์ ความรักสบาย มักจะเฉใจ เราให้ไปเป็นอย่างอื่น นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการลงทุนแล้วยังเกี่ยวข้องกับชีวิตมากทีเดียว

เราจะพัฒนาได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่รู้ว่าเราบกพร่องตรงไหน แต่เรามักจะแกล้งลืมมันไปเพราะมันเป็นความเคยชินของเราเป็นความหายนะของเราที่เราแกล้งโง่ แกล้งลืมข้อบกพร่องของเรา ไม่ยอมรับอย่างลูกผู้ชายว่า ไอ้โง่มึงทำอะไรลงไป

ถ้าอยากรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตนเอง การศึกษาธรรมะช่วยท่านได้ครับ จากใจคนวัยเดียวกัน

ดีใจกับเมนท์พี่ดำอย่างสูงครับที่แวะเวียนมาให้คำแนะนำและเตือนสติ
ธรรมะ เป็นอะไรที่ผมเรียนรู้เช่นกันครับพี่ดำ แม้ว่ายังเป็นศิษย์โง่อยู่แต่ก็แสวงหาอยู่ตลอด

[ดำ]

ดีใจกับเมนท์พี่ดำอย่างสูงครับที่แวะเวียนมาให้คำแนะนำและเตือนสติ
ธรรมะ เป็นอะไรที่ผมเรียนรู้เช่นกันครับพี่ดำ แม้ว่ายังเป็นศิษย์โง่อยู่แต่ก็แสวงหาอยู่ตลอด

สำหรับนักปฏิบัติ ถ้าพอจับหลักสำคัญได้แล้ว ไม่ต้องแสวงหาที่ไหนครับ เหลือแค่กายกับใจแค่นี้เอง
ผมเองก็ยังโง่อยู่เช่นกันครับ

[Nevercry.boy]

ผมชอบความไม่สำเร็จอย่างนึง
มันทำให้ผมได้เผชิญหน้ากับกิเลศตนเอง

การประสบความสำเร็จเป็นการย้ำให้กร่าง
กูเจ๋ง ความเป็นตัวกูพองใหญ่ราวคางคกบวมเป่ง

[ลูกหิน]

เช่นเดียวกันครับ การมีเหตุการ์ณที่ทำให้ผิดความคาดหมายเรื่อยๆ เสมือนการเตือนสติตนเองอยู่เสมอว่าเราไม่ควรประมาท ความสำเร็จระยะสั้นอาจล้มคลืนลงมาได้เสมอ เพราะฉะนั้นผมถึงมองระยะยาวเป็นหลัก ถึงมุมมองแบบนี้จะทำให้เราตกรถบ่อยๆ เหมือนการมองรถออกจากท่าไปคันแล้วคันเล่า เราก็ไม่ยอมขึ้นสักที ผลตอบแทนจึงไม่มากเท่าคนอื่น แต่โอกาสรถควํ่าก็เกิดขึ้นตํ่าตาม เหมือนเราค่อยๆไปเรื่อยๆ มองความปลอดภัยมาก่อนความเร็วเสมอครับ และก็มีความสุขตามอัตภาพที่เราพอใจเป็นใช้ได้ครับ ใครขับได้เร็วก็เร็วไป ผมขอไปเรื่อยๆแต่ได้อยู่บนรถไปตลอด ไม่ต้องมานอนข้างทางเป็นพักๆครับ แต่ชีวิตจริงผมขับรถเร็วมากพอสมควรครับ ไม่รู้ทำไมชีวิตการลงทุนจึงแตกต่างออกไปก็ไม่รู้ครับ

[Nevercry.boy]

" เรื่องราวต่างๆ ที่ประสบ จะพบว่า 9 ใน 10 เรื่องเป็นความผิดหวังมีเพียงผู้มีใจมั่นคงซึ่งสามารถอดทนและอดกลั้น ยึดมั่นในเป้าหมายเดิมอย่างแน่วแน่ จึงสามารถพบความสำเร็จ แม้จะทุกข์ยากเพียงใด เคียดแค้นสักเพียงใหน หากผู้นั้นยังมีใจแน่วแน่ในเป้าหมายเดิม สักวันหนึ่งจะต้องสำเร็จ "

ดร ซุนยัดเซ็น

[chaitorn]

อ่านข้อความนี้แล้วืำให้กล้ามากขึ้นครับ

ความกล้า … ชัยชนะสู่ความสำเร็จ
ความกล้า คือการต่อสู้ความกลัว เป็นการเอาชนะความกลัว แต่ไม่ใช่ไม่รู้สึกกลัว " Courage is the resistance to fear, mastery of fear, not absence of fear."

Mark Twain นักเขียนชาวอเมริกันได้กล่าวไว้

[chaitorn]

เมื่อใจของดูระหว่างท่ามกลาง ความกลัว กับ ความกล้า  ในยามที่เราเกิดความกลัวในจิตใจต่อสิ่งหนึ่ง เรามักจะเดินเลี่ยงหนีหรือไม่อยากยุ่งกับสิ่งนั้น ความกลัวอาจก่อให้เกิดกำแพงกั้นขวางระหว่างเรากับสิ่งนั้น กำแพงดังกล่าวมีลักษณะคลุมเครือ มืดมน หรือสุดแท้แต่เราจะปรุงแต่งตามกิเลสในใจของเรานั้นเอง

อาจกล่าวได้ไหมว่า ความกลัว คือ การสร้างกำแพง หรือการปิดประตูไม่ยอมเรียนรู้สิ่งใด แต่ความกล้า ก็คือ การเปิดประตูต้อนรับเพื่อจะเรียนรู้ทุกสิ่งตามที่เป็นจริง

                ความกลัว คล้ายกับการที่มองเห็นอะไรไม่ชัดเจน เหมือนกับมีฝ้าหรือหมอกบังอยู่ แม้มันจะเป็นสัดส่วนตรงข้ามกับความกล้า คือ ถ้ากลัวมาก ก็กล้าน้อย หากกลัวน้อย ก็กล้ามาก หากปล่อยให้ฝ้าสิ่งสกปรกเกาะคลุมนานๆ มากขึ้น การมองเห็นก็น้อยลงเรื่อยๆ ต้องหมั่นเช็ดถูปัดกวาดบ้างเป็นต้น

การแก้ไขความกลัวนั้นทำได้โดย
                ต้องพยายามหมั่นทบทวน ตั้งคำถาม หรือแก้ปัญหาข้อสงสัยบางสิ่งที่ไม่ชัดเจน ไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ก็จะทำให้ใจสามารถฝืนกับสิ่งยั่วเย้าจากแรงกระตุ้นของเหตุการณ์ภายนอกที่เข้ามารบกวนจิตใจภายใน เป็นการเอาชนะความกลัวด้วยสติ และใช้ปัญญาไตร่ตรองเพื่อค้นหาความไม่รู้ในสิ่งนั้น ยิ่งเรากลัวมากเท่าไร ยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้น เราต้องยิ่งพยายามค้นหาคำตอบให้เจอ ครุ่นคิดใช้ปัญญา จนเห็นความจริงชัดแจ้ง ความกลัวย่อมหนีทัพไปแน่แท้

ที่มา http://www.oknation.net/blog/doctorserm ... 02/entry-2

[Nevercry.boy]

ขอบคุณ คุณชัยธร มากครับ กับข้อคิดดี ๆ และมุมมองทั้งเรื่องหุ้นและทัศนคติ ตลอดจนปรัชญาชีวิตครับ

[Nevercry.boy]

คนที่ไม่มีความผิด คือคนที่ไม่เคยทำอะไร

คนที่ลงทุนไม่เคยผิดพลาด ในตลาดไม่เคยมีครับ

คุณไม่จำเป็นต้องเสาะหา กระเสือกกระสนเป็นคนที่ต้องซื้อหุ้นถูกตัวอยู่ทุกเวลา

ขอแค่คุณพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำผิดแบบเดิม ๆ แค่นั้นก็พอ

[kongkiti]

สำหรับตลาดหุ้น ผมกลัวนะครับ
กลัวหุ้นราคาขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรให้ซื้อ

อย่างไรก็ดี ที่หุ้นนั้นไม่มีวันขึ้นตลอดกาล
หุ้นนำตลาดรอบที่ผ่านมา ย่อมเสื่อมความนิยม
ผลัดให้ผู้มาใหม่ ได้เชยชมความรุ่งเรือง
และเข้าสู่ความถดถอย วนไปวนมาเช่นนี้

จนกว่าจะถึงวันที่ผู้เล่นในตลาดนั้น
จะยอมวางมือ
ละจากความกล้า และความกลัว...
สักวันหนึ่ง....

[Nevercry.boy]

บางครั้งความกลัวที่มีเหตุผลนั้นน่ากลัวกว่าความกลัวที่ไร้เหตุผล

เพราะ เหตุผล นั้น เป็นเหตุผลของคนอื่นเราจึง กลัว มันไปด้วย

ในเรื่อง ชายผู้ร่ำรวยและบาบิโลน เล่าถึงชาย และคนขายแกะในยามค่ำคืนที่ร้อนรน
เค้าขายแกะเหล่านั้นเพราะความจำเป็น ชายคนนั้นจึงซื้อไว้

ผู้ขายในยามร้อนรน มักจะมีเหตุผลของเขา ซึ่งมันไม่ใช่เหตุผลของเรา
หากเขากลัว เราจำเป็นต้องกลัวด้วยหรือไม่

เหตุผลของใครกันแน่ จึงจะเป็นเหตุผลของผู้ชนะ