ค่ายไหนคิดอย่างไรกับเศรษฐกิจสหรัฐถดถอยปี2023
Mild Recession : Recessionแบบอ่อนๆ ได้แก่ J.P.Morgan,BlackRock,Allianz,Fidelity,Bank of America
Soft Landing ( No Recession ) : Credit Suisse , Morgan Stanley
ทุกสำนักชอบการลงทุนในตราสารหนี้ แต่แตกต่างในรายละเอียด
US Treasury : J.P.Morgan , Allianz,BlackRock,Bank of America,Morgan Standley
IG : J.P.Morgan , Credit Suisse, Allianz, Fidelity , BlackRock, Morgan Standley
Emerging Market : Credit Suisse (EM hard currency ) , Fidelity (China Bond) , Morgan (Gov Bond)
ปัจจัยบวก
1.China Reopening: ตารางเที่ยวบินต่างประเทศของจีนเริ่มฟื้นตัวชัดเจนขึ้น
ฟินโนมิน่า เชื่อว่าจีนเปิดประเทศ ฮ่องกงกักตัวลดเหลือแค่4วันอยู่ในโรงแรม อาจแอบออกมาข้างนอกได้
ความหวังการRe-open มีอิทธิพลต่อหุ้นจีนในปีนี้ ดังนั้นตลาดหุ้นวิ่งนำไปก่อน
2.Strong Private BS: ภาคครัวเรือนยังมีExcess Savingยังสูงจาก fiscal support
-คนในUS ได้เช็คจากรัฐบาลทั้งทรัมป์และไบเดน ทำให้มีเงินเก็บซึ่งสามารถนำมาใช้ได้ตอนที่รายได้ไม่พอกับ
ค่าใช้จ่ายที่ปรับตัวสูงขึ้น
-D/E ของบริษัทในUS มีหนี้ต่ำมากๆ ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้กระทบต่อภาระหนี้มากนักเมื่อเทียบกับก่อนโควิด
-ทางฝั่งของธนาคาร เงินกองทุนต่อสินทรัพย์กลุ่มธนาคารก็แกร่งกว่าปี2008
3.Strong US Service ดัชนีPMI ฝ่ายจัดซื้อของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐรายงานการซื้อวัตถุดิบมาใช้ผลิต
-ถ้าตัวเลขPMIเยอะ >50% แสดงว่าดี แต่ถ้าต่ำกว่า 50% เศรษฐกิจหดตัว
ตอนนี้ PMI >50% ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการ แต่ตัวเลขมีแนวโน้มลดลง
ต้องดูต่ออีก 2-3เดือน ถ้าPMI<50%แสดงว่าเศรษฐกิจชะลอตัวจริง
4.Inflation Peaked: Global Supply Chain เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นกว่าในช่วงก่อนหน้า
ก่อนหน้า กราฟสูงขึ้นไม่ดี เกิดคอขวด ตอนนี้กราฟเริ่มลง แสดงว่าดีขึ้น
5.Fed Pivot : แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเริ่มชะลอตัวลง
มุมมองของFED เงินเฟ้อจะไม่สูงไปกว่านี้
ส่วนมองในแง่ร้าย
1.High Govt Debt: หลังโควิด ทั่วโลกมีหนี้สูงขึ้นก้าวกระโดด
ประเทศที่มีหนี้สูงจะลำบาก ดังนั้นอย่าไปว่าประเทศไทย
Japanจะอยู่แบบนี้ได้อย่างไร พยายามผันตัวเองออกจาก fiat currency
2.US Growth Recession:
-LEI ชี้ว่าเศรษฐกิจของสหรัฐอาจอยู่ในRecessionแล้ว
ปกติตัวเลขGDPติดลบเกิน6เดือน แสดงว่าRecession ตอนนี้ติดลบมา8เดือนแล้ว
-อัตราการว่างงานตอนนี้ 3.5%ซึ่งต่ำมากในประวัติศาสตร์ ถ้าRecession จะทำให้อัตราการว่างงานสูงขึ้น
-Inverted Yield Curve ชี้ว่า Recession กำลังมา
-ตลาดบ้านสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง ตอนนี้คนกู้บ้านเสียดอกเบี้ย6% ถ้าขึ้นอีก NPLจะเกิดหรือเปล่า
ข้อดีในข่าวร้าย ธนาคารไม่ปล่อยกู้แบบตอนช่วงSubprime ซึ่งคนที่กู้หลังที่2-3 ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
3.EU Recession อาจกระทบยอดส่งออกหลากหลายประเทศ
ถ้าเกิดRecession ที่แรกคือเยอรมัน ซึ่งคิดเป็น 1ใน3ของEU ใครมีอยู่ให้ออกไปก่อน
4.FX Vulnerability : The Policy Trilemma for JPY
Japanใช้ทุนสำรองต่างประเทศสะกัดเงินเยนไม่ให้อ่อนจนเกินไป แต่สหรัฐขึ้นดอกเบี้ยค่า$แข็ง
จะทำให้เงินทุนสำรองของJapanลดลง ซึ่งตอนนี้ก็ต้องเตรียมรับมือกับหนี้สินต่อGDP ซึ่งสูงถึง250%
จะเห็นนโยบายการเงินแบบแปลกๆ เช่น นโยบายช่วยแบบโคตรๆพิเศษ เงินเยนส่งผลต่อ$ 10%
ดังนั้นถ้าเงินเยนมีปัญหา จะเหนื่อยมากขึ้น
5.Crypto Winter: หลากปัญหาเกิดในช่วงCryptoเป็นขาลง ซึ่งคนที่ลงทุนปัจจุบัน ลงทั้งหุ้นและCrypto
ดังนั้นเวลาCryptoมีปัญหา ก็ไม่มาลงทุนในหุ้นด้วย
Time line of Portfolio Actions
Predict , Prepare , Perform
Portfolio Action
1.De-risk ปรับลดสัดส่วนสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มสินทรัพย์ Safe Haven
Finnomina เริ่มแนะนำให้ลดตั้งแต่กลางปี2022
2.Golden Buying Opportunity : กลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง หลังตลาดซึมซับ
Recessionเต็มที่แล้ว โดยดูจากปัจจัยเหล่านี้
-สัญญาณยกธงขาว จากตลาดการลงทุน
-การกลับตัวด้านนโยบายของPolicy Makers เช่นการปรับลดดอกเบี้ยหรือกลับมาทำมาตราการกระตุ้น (QE)
Downside ยังมีและเริ่มเข้าใกล้จุดเข้าซื้อมากขึ้น
เงื่อนไขพิจารณาการกลับเข้าลงทุนในตราสารทุน
ถ้าเข้าเงื่อนไข2ใน4 ก็เข้าซื้อได้เลย
1.M:เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว กลับมาเป็นบวกได้
2.E: Earning Revision ปรับลงเต็มที่แล้วน่าสนใจ
3.V: ระดับที่ราคาตลาดลงมาถึงระดับที่ลงทุนได้ เช่น S&Pลง20% น่าสนใจมากๆ ซื้อได้เลย
4.T: นักลงทุนยอมจำนนในวงกว้างเลย
Bond Yield ปัจจัยกดดันหลักต่อหุ้นเทคในปีนี้
ตอนนี้ก็ลงในตราสารหนี้ ไปก่อน ถ้าเห็นสัญญาณ เข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยี
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณแบงค์ที่มาให้ข้อมูลครับ