เนื้อหาทั้งหมดนี้มีทั้งที่ได้จากการมีตติ้งในครั้งนี้และได้เพิ่มเติมผลึกหลักคิดการลงทุนของตัวเองลงไปด้วย ซึ่งส่วนตัวแล้วก็ยังมีอะไรที่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก หากมีข้อมูลที่ผิดพลาดหรือไม่ตรงกับสารที่วิทยากรสื่อ ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ หากท่านมีข้อคิดหรือความรู้เพิ่มเติมโปรดชี้แนะ แก้ไข หรือเพิ่มเติมเนื้อหาได้เลยครับ
1. นักเรียนรู้ตลอดชีวิต การเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จควรทำตัวเองเป็น “นักเรียนรู้ตลอดชีวิต” เราไม่มีทางรู้หมดทุกอย่าง ข้อมูลใหม่ ๆ มีมาให้เราได้ศึกษาอยู่ตลอด อะไรที่เราไม่รู้ก็ควรกล้าถามมิฉะนั้นเราก็จะไม่รู้ไปตลอดชีวิต
2. Efficient Market ไม่มีจริงในโลกการลงทุน ถ้ามีจริงราคาหลักทรัพย์ก็ต้องเท่ากับ Intrinsic Value อยู่ตลอดเวลา แต่ในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่ ตลาดแต่ละแห่งต่างก็มีระดับประสิทธิภาพแตกต่างกันไป ข้อมูลที่นักลงทุนได้รับก็มีความแตกต่างกันและเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ราคาหลักทรัพย์จึงเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย ทำให้นักลงทุนสามารถสร้าง Abnormal Return ได้ตลอด
3. ยากชั่วคราวง่ายชั่วโคตร ในช่วงแรกของการลงทุนเป็นธรรมดาที่เราต้องใช้เวลาในการศึกษามากเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้เราจะรู้สึกว่ายากและอาจมีท้อได้ แต่ก็ขอให้อดทนพัฒนาตัวเองไปเรื่อย ๆ สะสมความรู้วันละนิด พอนานวันเข้าจนถึงจุดหนึ่งเราจะรู้สึกว่าง่ายขึ้น ใช้เวลาไม่มากในการศึกษาและติดตามบริษัท ไปจนถึงการตัดสินใจลงทุนที่เหนือชั้นมากขึ้น
4. ปลูกต้นไม้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อที่เราได้มีร่มเงาในวันหน้า การลงทุนเป็นเรื่องระยะยาว ไม่สามารถสำเร็จได้ภายในระดับวัน อย่าหวังรวยเร็ว เดินไปเรื่อย ๆ ให้ถูกทาง รู้จักใช้พลังของดอกเบี้ยทบต้น ย่อมถึงจุดหมายแน่นอน
5. อยากสำเร็จในการลงทุน ต้องเป็นมืออาชีพเท่านั้น ทำการบ้านด้วยตัวเองเสมอ ทำความเข้าใจบริษัทอย่างลึกซึ้ง รู้จักใช้ความผันผวนของตลาดให้เป็นประโยชน์ ลงทุนหุ้นดีในราคาที่เราพิจารณาแล้วว่ามีความยุติธรรมและคุ้มค่ากับการลงทุน อย่าเอาแต่ถามชื่อหุ้นแล้วซื้อเลยโดยที่เราไม่ได้ศึกษาธุรกิจอย่างถ่องแท้ เพราะไม่ได้ความรู้อะไรเลยและมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนสูงมาก
6. หลักการลงทุน 4 ข้อ หุ้นคือธุรกิจ ประเมินมูลค่าให้ได้ ซื้อเมื่อมีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัย และเป็นอิสระจากอารมณ์ตลาด
7. นิยามของหุ้นดี หุ้นดีควรมีการเติบโตของรายได้และกำไรอยู่เสมอ รายได้ควรมีความต่อเนื่อง มีความสามารถในการเพิ่มรายได้และกำไร บริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ในระดับที่เหมาะสม เพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดได้เรื่อย ๆ มีความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืน ผู้บริหารมีความเก่ง ความสามารถ ความทะเยอทะยาน และความซื่อสัตย์
8. ภายในราคาหุ้นมีหลายปัจจัย ดูแลปัจจัยที่เราควบคุมได้ก็พอ สิ่งที่สะท้อนไปในราคาหุ้นมีทั้งปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ความคิดเห็นของฝูงชน และสิ่งที่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ เราควบคุมปัจจัยของเราก็พอ ด้วยการลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีในราคาที่เหมาะสม ไม่หลงไปกับความคิดเห็นของฝูงชนในระยะสั้น มองแต่ภาพระยะยาวของบริษัท เป็นต้น
9. หุ้นตก ใจไม่ตก ก่อนซื้อหุ้นเราต้องมีมูลค่าไว้ในใจแล้ว เมื่อหุ้นตก ใจเราย่อมไม่ตกตามจนขายหุ้นทิ้ง แต่กลับซื้อเพิ่มเพราะมี Upside ที่มากขึ้น เจ้ามือที่แท้จริงคือพื้นฐานบริษัท ไม่ใช่ราคาบนกระดานที่เป็นเพียงแค่ภาพมายาระหว่างทาง
10. ประเมินมูลค่า ไม่ต้องเป๊ะ เราไม่ต้องถึงขั้นต้องได้ตัวเลขที่แม่นยำ การมีความเข้าใจในตัวบริษัทอย่างละเอียดทำให้เราสามารถคาดการณ์เป็นกรอบตัวเลขได้อย่างคร่าว ๆ ความสามารถตรงนี้ขึ้นอยู่กับระดับความเข้าใจที่มีต่อบริษัท และเมื่อวันเวลาผ่านไปพื้นฐานบริษัทก็อาจจะเปลี่ยนแปลง เราก็ต้องประเมินมูลค่าใหม่ด้วย ไม่ใช่ใช้ค่าเดิมตลอด
11. เม็ดเงินล้นโลก หุ้นหลายตัวในตลาดค่อนข้างแพงและแพงมานานแล้วราคาไม่ค่อยลง การซื้อหุ้นที่ราคาสูงแล้วหวังว่าจะถือไปได้นาน ๆ ก็มีโอกาสที่ราคาจะตกลงมาทำให้ขาดทุนได้ง่าย
12. การลงทุนคือการมองอนาคต ข้อมูลในอดีตที่ผ่านมาเป็นเพียงแค่ตัวเลขชี้วัดความสามารถของบริษัทที่ได้ดำเนินการไปแล้ว แต่การลงทุนเป็นเรื่องที่เราต้องมองความเป็นไปของบริษัทในอนาคตให้ออก เช่น มีตัวแปรไหนที่ยังคงอยู่ เพิ่มเข้ามา หรือต้องตัดออกไปบ้าง เพื่อคาดการณ์กำไรในอนาคตได้อย่างสมเหตุสมผล
13. ลงทุนบริษัท ไม่ใช่ลงทุนตลาด วีไออยู่กับพื้นฐานของบริษัทเป็นสำคัญ ไม่ใช่ติดตามแต่เฉพาะภาวะเศรษฐกิจ ถ้าเราเลือกบริษัทที่ดีแล้วต่อให้เจอวิกฤตเศรษฐกิจบริษัทก็สามารถกลับมาได้ เวลาพายุมาเรือทุกลำก็ต้องได้รับผลกระทบ เรามีหน้าที่หาเรือที่แข็งแกร่งสามารถทนต่อพายุและแล่นไปถึงฝั่งได้ก็พอ
14. มือใหม่เริ่มต้นซื้อหุ้นแบบไหนดี ช่วงเริ่มต้นควรเน้นลงทุนในหุ้นที่มีความปลอดภัยสูงก่อน เช่น หุ้นปันผลที่ไม่ค่อยมีความผันผวนมากนัก มีปันผลไว้ให้ได้เก็บกินระหว่างทางได้ ต่อไปก็ค่อยขยายขอบเขตการเรียนรู้ไปศึกษาหุ้นประเภทอื่นมากขึ้น
15. เข้าใจลงทุน ไม่เข้าใจไม่ลงทุน กฎสำคัญที่สุดของการลงทุนคืออย่าขาดทุน การที่เราขาดทุนก็เพราะเราไม่มีความเข้าใจในตัวบริษัทรวมถึงราคาที่จะเข้าซื้อทำให้เกิดความเสี่ยง อย่าหวังแต่จะได้กำไร จงพิจารณาความเสี่ยงเป็นอันดับแรก
16. จุดไหนที่เราควรเริ่มรู้ตัวแล้วว่าคิดผิด ถ้าตอบตามตรงคือเราไม่มีทางรู้ล่วงหน้าหรอก เราจะรู้ก็ต่อเมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว คือเมื่อเราประเมินมูลค่าแล้วและเข้าซื้อในราคาที่มีส่วนเผื่อเพื่อความปลอดภัยแล้ว แต่ปรากฏว่าต่อมาราคาตกลงมาเรื่อย ๆ เราก็ต้องกลับมาทบทวนสมมติฐานของเราว่ายังถูกต้องหรือเปล่า เช่น การติดตามเป็นรายไตรมาสไปเรื่อย ๆ เพื่อตรวจสอบสมมติฐานว่าปัจจัยพื้นฐานยังคงเหมือนเดิมหรือเปล่า เมื่อพิจารณาแล้วว่าเราคิดผิดก็ต้องยอมรับความจริงและขายทุกราคาโดยไม่สนใจว่าเรากำลังกำไรหรือขาดทุนอยู่
ทางป้องกัน คือ จงหลีกเลี่ยงและอย่าไปลงทุนกับบริษัทที่คาดการณ์ยาก คือบางบริษัทก็มีความยากในการทำความเข้าใจและมีความยากในคาดการณ์ตัวเลขตั้งแต่ Day 1 อยู่แล้ว ให้เราหาบริษัทที่เราสามารถคาดการณ์ได้ง่าย คือเรามีความเข้าใจในตัวบริษัทจริง ๆ ก็จะสามารถป้องกันการคิดผิดได้ในระดับหนึ่ง
17. ทยอยซื้อ ทยอยขาย เวลาหุ้นขึ้นก็ทยอยขาย ถ้าหุ้นกลับลงมาเราก็ได้ขายไปแล้วบางส่วน เวลาหุ้นลงก็ทยอยซื้อ ถ้าหุ้นกลับขึ้นไปเราก็ได้ซื้อไปแล้วบางส่วน
18. P/E ใช้กับหุ้นวัฏจักรไม่ได้ เวลาที่วัฏจักรของสินค้าอยู่ในขาขึ้น คือปริมาณขายเท่าเดิมแต่ราคาขายสูงขึ้น ส่งผลให้กำไรสูงขึ้น ทำให้ P/E ต่ำ พอถึงเวลาที่วัฏจักรของสินค้าอยู่ในขาลง คือปริมาณขายเท่าเดิมแต่ราคาขายลดลง ส่งผลให้กำไรต่ำลง ทำให้ P/E สูง ถ้าเราซื้อตอน P/E ต่ำ ก็ทำให้ขาดทุนได้ เราต้องทำกลับกันคือ ซื้อตอน P/E สูงและขายตอน P/E ต่ำ
19. IPO = It's Probably Overvalue ? ลองคิดดูว่า การที่เจ้าของนำบริษัทเข้าตลาดมาแบ่งขายหุ้นให้คนทั่วไป เขาอยากขายถูกหรือแพง ? แล้วที่ปรึกษาทางการเงินและผู้ที่เกี่ยวข้องในการนำหุ้นออกขาย เขาอยากได้เงินมากหรือน้อย ? แค่นี้เราก็รู้แล้ว จงอยู่กับมูลค่าที่แท้จริงของบริษัทเป็นดีที่สุด
20. VI Life Balance นอกจากการลงทุนแล้วก็ต้องดูแลทุกด้านของชีวิตด้วย รู้จักมองทุกอย่างอย่างเน้นคุณค่า ไม่ใช้เงินเกินตัว ดูแลสุขภาพ ออกกำลังกายอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นโทษ ทานแต่อาหารที่เป็นประโยชน์ และดูแลครอบครัวอย่างดีที่สุด เป็นต้น
...
ขอขอบคุณวิทยากรทั้งพี่โจและพี่ตี้เป็นอย่างสูง ที่เมตตาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ด้านการลงทุนที่หาไม่ได้ในตำราครับ
ขอขอบคุณทีมงานทุกท่านที่จัดงานมีตติ้งวีไอภาคใต้ครับ
และขอขอบคุณทุกท่านที่มาเข้าร่วมงาน ช่วยกันถามคำถาม แชร์ข้อมูล และได้มอบความรู้ดี ๆ แก่ผมด้วยครับ
ขอขอบคุณทุกท่าน แล้วพบกันใหม่ครับ
:: 20 ข้อคิดจากงาน Meeting VI ภาคใต้ ครั้งที่ 55 Q4/2565 (05/03/66) ::
- Bird.Songwut
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 159
- ผู้ติดตาม: 0
Re: :: 20 ข้อคิดจากงาน Meeting VI ภาคใต้ ครั้งที่ 55 Q4/2565 (05/03/66) ::
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณสำหรับเนื้อหา ได้ประโยชน์มากครับ
"มีกระแสน้ำสายหนึ่งในกิจกรรมของคน ซึ่งเมื่อมันไหลบ่าท่วมท้นจะนำไปสู่ความมั่งคั่งมหาศาล"
Investor hub : ห้องลับนักลงทุน https://www.youtube.com/@Investor_hub
Investor hub : ห้องลับนักลงทุน https://www.youtube.com/@Investor_hub