วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 1
:lol:
วันนี้ผมไปห้องค้า เป็นวันที่2ต่อจากเมื่อวาน ดูมันคึกคักเต็มไปด้วยคนแปลกหน้า
พากันมาดูกระดานไฟกระพริบ
( เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ)
ที่บอกราคาเสนอซื้อ-เสนอขาย ของหุ้นทั้งกระดาน
หลังจากทักทายกับมาร์เก็ตติ้ง และรับไหว้จาก ผอ. รอง ผอ.
ได้คุยกับผอ.ยิ้มอย่างเบิกบานใจ เอาเปเปอร์มาแจกให้อ่าน
ถึงข่าวคราวเกี่ยวกับหุ้น และรูปกราฟ ข้อมูลประกอบ
ผมเลยหลบไปนั่งอยู่มุมห้อง ดูเราแก่ไปหน่อยนะวันนี้
รับน้ำเย็นกับครุกกี้จากแม่บ้านของบริษัทเขาเอามาให้
มาร์เก็ตติ้งรับโทรศัพท์แทบไม่ได้วางสายก่อนเปิดตลาด
นั่งมองคนกว่า70คน ยืนมั่งนั่งมั่ง ส่งเสียงคุยกันเจี้ยวจ้าวไปหมด
บางคนก็ไปยืนกดคอมฯบอกเพื่อนที่มาใหม่สีแดงอย่างนี้นะสีเขียวอย่างนี้
ที่เป้นแ่ท่งๆนี่เป็นกราฟแท่งเทียน
นึกถึงความหลังเมื่อตอนเข้าตลาดวันแรก
ที่ได้เข้ามาเล่นหุ้น สมัยห้องค้าGF ซึ่งถูกปิดไปแล้ว
สมัยนั้นหุ้นราคาพาร์อยู่ที่100บาท
มีเงินติดบัญชีกระแสรายวันอยู่3แสนกว่าบาท
เราก็เคยซื้อตามมาร์เก็ตติ้งบอก ตามเปเปอร์ที่เขาแฟ็กซ์จากสำนักงานใหญ่มาให้อ่านอย่างนี้ล่ะ บรรยากาศเหมือนกันเลย เปลี่ยนแต่บริษัทและมาร์เก็ตติ้งเท่านั้น
สมัยนั้นมาเล่นหุ้น ไม่รู้หรอกว่า
เจ้าอักษรย่อที่กระพริบมันทำมาหากินอุตสาหกรรมกิจการแบบไหนไม่รู้
รู้อย่างเดียวซื้อถูก ขายแพงเป็นใช้ได้
หุ้นมันจะขึ้นจะลงก็ไปตามเจ้ามือบ้าง ตามเสี่ยสองบ้าง ตามกองทุนบ้าง
จากเงินที่มีเล่นได้กำไร200%คือ9แสน เพียงไม่กี่เดือน เล่นง่ายเล่นไม่ยากแฮะ
แล้วฝรั่งก็ลากปูนใหญ่จาก400กว่าบาทขึ้นไปถึง1700กว่าบาท ก่อนแตกพาร์เหลือ10บาท แล้วก็มีเหตการณ์ทำให้หุ้นตก จากเงินที่เคยได้มา กับเหลือแต่หุ้นและติดลบ คัดล๊อตไม่เป็น มาร์บอกแนวรับก็ซื้อ แนวต้านก็ขาย
สุดท้าย..ยอมแพ้กลับมาก้มหน้าทำมาหากินต่อ
หลังจากนั้นกับมาศึกษา เอาใหม่หาข้อมูลโดยซื้อหนังสือบริษัทจดทะเบียน
ของตลาดหลักทรัพย์พิมพ์ขายปีละครั้งมาอ่าน
อ้อ...บริษัทนี้ขายสังกะสี
บริษัทนี้ขายไอศครีม
บริษัทนี้ห้องเย็น
เอ่อ..เราเริ่มเก่งแล้วนึกในใจ
ก็หลงตัวเองเราก็หนึ่งในตองอูจะกลัวอะไร
กลับเข้าไปเล่นหุ้นใหม่
เหมือนกับมีใครมากวักมือเรียก
เล่นไปเล่นมาก็ได้บ้างเสียบ้าง
จนเกิดเรื่องยิงตัวตายกลางตลาดหลักทรัพย์
คุณนิวัติ .........ถ้าจำไม่ผิดเรื่องมาร์จิ้น
ที่ทำให้...หมดเงิน....หมดตัว....หมดครอบครัว
โทรทัศน์ถ่ายทอดขณะเกิดเหตุสมัยนั้น
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ก็มายืนดู
เหนี่ยวไกปืน โป้ง....เข้าใต้คาง
จนเกิดเหตการณ์ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
จนถึงยุครัฐบาลท่านเชาวลิต
ปิด56ไฟแนนซ์ หุ้นในพอท์ตผมก็เต็มไปด้วยไฟ ไฟไหม้มือ
ขายก็ไม่ได้ขาย เหลือแค่เศษกระดาษ หมดเป็นรอบ2
แล้วเราก็ต้องกลับมานอนเลียแผลใจ
ไม่รู้จะไปเรียกร้องเอาอาไรกับใคร
[b]เคยเรียก...ตลาดหลักทรัพย์
ก็มีคนเรียกกันใหม่เป็น....ตลาด-ลัก-ทรัพย์
แล้วเราก็ต้องกลับมาค้นหาความผิดพลาดของตัวเราเองว่า...เป็นอย่างไร
บริษัทเขาทำมาหากินอะไรก็ไม่รู้...
บริษัทเขามีงบกำไรขาดทุนก็ดูไม่เป็น
บริษัทนี้มีหนี้สินกี่พันล้านก็ไม่รู้
บริษัทนี้มีกำไรสะสมยังไม่จัดสรรก็ไม่รู้
เปรียบเหมือนเราเป็นคนตาบอด
เปรียบมาร์เก็ตติ้งเป็นหมานำทางคนตาบอด
พาไปชนกิ่งไม้ตกน้ำตกท่า เสียเงิน เสียทอง เสียใจ
เปรียบไปสารพัดฯ
ไว้จะมาเล่าต่อ-
วันนี้ผมไปห้องค้า เป็นวันที่2ต่อจากเมื่อวาน ดูมันคึกคักเต็มไปด้วยคนแปลกหน้า
พากันมาดูกระดานไฟกระพริบ
( เหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ)
ที่บอกราคาเสนอซื้อ-เสนอขาย ของหุ้นทั้งกระดาน
หลังจากทักทายกับมาร์เก็ตติ้ง และรับไหว้จาก ผอ. รอง ผอ.
ได้คุยกับผอ.ยิ้มอย่างเบิกบานใจ เอาเปเปอร์มาแจกให้อ่าน
ถึงข่าวคราวเกี่ยวกับหุ้น และรูปกราฟ ข้อมูลประกอบ
ผมเลยหลบไปนั่งอยู่มุมห้อง ดูเราแก่ไปหน่อยนะวันนี้
รับน้ำเย็นกับครุกกี้จากแม่บ้านของบริษัทเขาเอามาให้
มาร์เก็ตติ้งรับโทรศัพท์แทบไม่ได้วางสายก่อนเปิดตลาด
นั่งมองคนกว่า70คน ยืนมั่งนั่งมั่ง ส่งเสียงคุยกันเจี้ยวจ้าวไปหมด
บางคนก็ไปยืนกดคอมฯบอกเพื่อนที่มาใหม่สีแดงอย่างนี้นะสีเขียวอย่างนี้
ที่เป้นแ่ท่งๆนี่เป็นกราฟแท่งเทียน
นึกถึงความหลังเมื่อตอนเข้าตลาดวันแรก
ที่ได้เข้ามาเล่นหุ้น สมัยห้องค้าGF ซึ่งถูกปิดไปแล้ว
สมัยนั้นหุ้นราคาพาร์อยู่ที่100บาท
มีเงินติดบัญชีกระแสรายวันอยู่3แสนกว่าบาท
เราก็เคยซื้อตามมาร์เก็ตติ้งบอก ตามเปเปอร์ที่เขาแฟ็กซ์จากสำนักงานใหญ่มาให้อ่านอย่างนี้ล่ะ บรรยากาศเหมือนกันเลย เปลี่ยนแต่บริษัทและมาร์เก็ตติ้งเท่านั้น
สมัยนั้นมาเล่นหุ้น ไม่รู้หรอกว่า
เจ้าอักษรย่อที่กระพริบมันทำมาหากินอุตสาหกรรมกิจการแบบไหนไม่รู้
รู้อย่างเดียวซื้อถูก ขายแพงเป็นใช้ได้
หุ้นมันจะขึ้นจะลงก็ไปตามเจ้ามือบ้าง ตามเสี่ยสองบ้าง ตามกองทุนบ้าง
จากเงินที่มีเล่นได้กำไร200%คือ9แสน เพียงไม่กี่เดือน เล่นง่ายเล่นไม่ยากแฮะ
แล้วฝรั่งก็ลากปูนใหญ่จาก400กว่าบาทขึ้นไปถึง1700กว่าบาท ก่อนแตกพาร์เหลือ10บาท แล้วก็มีเหตการณ์ทำให้หุ้นตก จากเงินที่เคยได้มา กับเหลือแต่หุ้นและติดลบ คัดล๊อตไม่เป็น มาร์บอกแนวรับก็ซื้อ แนวต้านก็ขาย
สุดท้าย..ยอมแพ้กลับมาก้มหน้าทำมาหากินต่อ
หลังจากนั้นกับมาศึกษา เอาใหม่หาข้อมูลโดยซื้อหนังสือบริษัทจดทะเบียน
ของตลาดหลักทรัพย์พิมพ์ขายปีละครั้งมาอ่าน
อ้อ...บริษัทนี้ขายสังกะสี
บริษัทนี้ขายไอศครีม
บริษัทนี้ห้องเย็น
เอ่อ..เราเริ่มเก่งแล้วนึกในใจ
ก็หลงตัวเองเราก็หนึ่งในตองอูจะกลัวอะไร
กลับเข้าไปเล่นหุ้นใหม่
เหมือนกับมีใครมากวักมือเรียก
เล่นไปเล่นมาก็ได้บ้างเสียบ้าง
จนเกิดเรื่องยิงตัวตายกลางตลาดหลักทรัพย์
คุณนิวัติ .........ถ้าจำไม่ผิดเรื่องมาร์จิ้น
ที่ทำให้...หมดเงิน....หมดตัว....หมดครอบครัว
โทรทัศน์ถ่ายทอดขณะเกิดเหตุสมัยนั้น
ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ก็มายืนดู
เหนี่ยวไกปืน โป้ง....เข้าใต้คาง
จนเกิดเหตการณ์ต่อเนื่องมาเรื่อยๆ
จนถึงยุครัฐบาลท่านเชาวลิต
ปิด56ไฟแนนซ์ หุ้นในพอท์ตผมก็เต็มไปด้วยไฟ ไฟไหม้มือ
ขายก็ไม่ได้ขาย เหลือแค่เศษกระดาษ หมดเป็นรอบ2
แล้วเราก็ต้องกลับมานอนเลียแผลใจ
ไม่รู้จะไปเรียกร้องเอาอาไรกับใคร
[b]เคยเรียก...ตลาดหลักทรัพย์
ก็มีคนเรียกกันใหม่เป็น....ตลาด-ลัก-ทรัพย์
แล้วเราก็ต้องกลับมาค้นหาความผิดพลาดของตัวเราเองว่า...เป็นอย่างไร
บริษัทเขาทำมาหากินอะไรก็ไม่รู้...
บริษัทเขามีงบกำไรขาดทุนก็ดูไม่เป็น
บริษัทนี้มีหนี้สินกี่พันล้านก็ไม่รู้
บริษัทนี้มีกำไรสะสมยังไม่จัดสรรก็ไม่รู้
เปรียบเหมือนเราเป็นคนตาบอด
เปรียบมาร์เก็ตติ้งเป็นหมานำทางคนตาบอด
พาไปชนกิ่งไม้ตกน้ำตกท่า เสียเงิน เสียทอง เสียใจ
เปรียบไปสารพัดฯ
ไว้จะมาเล่าต่อ-
แก้ไขล่าสุดโดย ปรัชญา1 เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 03, 2003 10:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 4
[quote="Mon money"]บทเรียนจากอดีตที่น้อยคนนักจะกล้าเล่าให้ผู้อื่นฟัง นับเป็นประโยชน์มากครับ
คนแก่ก็อย่างงี้ครับ เอะอะ อย่างไรก็อยากจะท้าวความหลัง
อายุผมก็เยอะขึ้นนึกไปพิมพ์ไปเหมือนแผ่นเสียงตกล่อง
สงสัยอัลไซด์เม่อถามหาแล้ว
คนแก่ก็อย่างงี้ครับ เอะอะ อย่างไรก็อยากจะท้าวความหลัง
อายุผมก็เยอะขึ้นนึกไปพิมพ์ไปเหมือนแผ่นเสียงตกล่อง
สงสัยอัลไซด์เม่อถามหาแล้ว
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 6
เมื่อวันก่อนไปร้านหนังสือผมได้หนังสือเรื่อง ถลกสูตรพ่อมดการเงิน มาอ่านครับ เป็นเรื่องเก่าๆทั้งนั้น แต่ผมคิดว่ามันมีคุณค่าสำหรับคนรุ่นต่อๆมามากครับ คล้ายกับการที่พี่ปรัชญาท้าวความหลังที่เป็นบทเรียนสำหรับน้องๆที่กำลังเข้ามาจะได้ไม่ผิดพลาดซ้ำรอยเดิม
"เรียนรู้จากความผิดพลาดอันมีค่าของผู้อื่น พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป"
"เรียนรู้จากความผิดพลาดอันมีค่าของผู้อื่น พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป"
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 7
ว่างๆก็นำมาลงไว้ให้ผมและเพื่อนๆได้อ่านด้วยครับ คงหาซื้อไม่มีขายแล้วMon money เขียน:เมื่อวันก่อนไปร้านหนังสือผมได้หนังสือเรื่อง ถลกสูตรพ่อมดการเงิน มาอ่านครับ เป็นเรื่องเก่าๆทั้งนั้น แต่ผมคิดว่ามันมีคุณค่าสำหรับคนรุ่นต่อๆมามากครับ คล้ายกับการที่พี่ปรัชญาท้าวความหลังที่เป็นบทเรียนสำหรับน้องๆที่กำลังเข้ามาจะได้ไม่ผิดพลาดซ้ำรอยเดิม
"เรียนรู้จากความผิดพลาดอันมีค่าของผู้อื่น พัฒนาตัวเองให้ดียิ่งๆขึ้นไป"
-
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 10
ถ้าจำไม่ผิด สมัยเสี่ยสอง
คุณ วิจิตร เป็นคนดูแลตลาดหลักทรัพย์ ... ( ขึ้นชื่อ ว่า อิงการเมืองมาก คนหนึ่ง)
แล้วตอนนี้ แกกลับมาอีก .. ทั้ง ๆ ที่ยังมีคดี BCC ติดค้างอยู่
คุณ วิจิตร เข้ามาคุม อีกครั้ง..
บังเอิญกับมีการจัดตั้ง กองทุนใหม่แสนล้าน ของรัฐบาล
แนวโน้มดอกเบี้ยเงินฝากจะลดอีก
เศรษฐกิจคาดว่า จะโต +6 %
Credit Rating จะถูกปรับเพิ่ม ในครึ่งปีหลัง
..
..
ข่าวดี มาก ....
.. มากเกินไป จนน่ากลัว ...
คุณ วิจิตร เป็นคนดูแลตลาดหลักทรัพย์ ... ( ขึ้นชื่อ ว่า อิงการเมืองมาก คนหนึ่ง)
แล้วตอนนี้ แกกลับมาอีก .. ทั้ง ๆ ที่ยังมีคดี BCC ติดค้างอยู่
คุณ วิจิตร เข้ามาคุม อีกครั้ง..
บังเอิญกับมีการจัดตั้ง กองทุนใหม่แสนล้าน ของรัฐบาล
แนวโน้มดอกเบี้ยเงินฝากจะลดอีก
เศรษฐกิจคาดว่า จะโต +6 %
Credit Rating จะถูกปรับเพิ่ม ในครึ่งปีหลัง
..
..
ข่าวดี มาก ....
.. มากเกินไป จนน่ากลัว ...
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 12
ช่วยกันเอาชีวิตที่ผ่านพบ มาเล่าสู่กันฟังเป็นบันทึกเลยครับTOMOKI เขียน:ผมก็เสี่ยงซื้อ FIN1 ตอนใกล้ถูกปิด เงินหายไปเลยสามแสนกว่าครับ
ขอบคุณทุกท่าน
เหลือพี่ครรชิต นักดูดาว คุณgenie คุณMon money
และทุกท่านที่ผ่านมาอ่านช่วยให้ความเห็นด้วยครับ
จะได้เป็นฐานข้อมูล สำหรับนักลงทุนที่เข้ามาใหม่ครับ
- mrj
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 16
ตอนนั้น ไม่รู้เรื่องหุ้น ซื้อขายตามเพื่อน
จำได้ว่า ซื้อ S-ONE ตอน 270 บาท
ขายออกไป ตอนเหลือ ร้อยกว่าบาท
เงินเก็บที่ออมไว้ หายไปเกือบหมด
ต้องมาเริ่มกันใหม่
บทเรียนครั้งนั้น ราคาแพงจริง ๆ
"ความโลภ... ไม่เข้าใคร ออกใคร
น้ำลายหก (ตกรถ)... ดีกว่าน้ำตาตกใน (ติดดอย)
ขาดทุนกำไร... ดีกว่า ขาดทุนจริง ๆ"
จำได้ว่า ซื้อ S-ONE ตอน 270 บาท
ขายออกไป ตอนเหลือ ร้อยกว่าบาท
เงินเก็บที่ออมไว้ หายไปเกือบหมด
ต้องมาเริ่มกันใหม่
บทเรียนครั้งนั้น ราคาแพงจริง ๆ
"ความโลภ... ไม่เข้าใคร ออกใคร
น้ำลายหก (ตกรถ)... ดีกว่าน้ำตาตกใน (ติดดอย)
ขาดทุนกำไร... ดีกว่า ขาดทุนจริง ๆ"
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 17
ไปซีมีโก้ครับ ไปถามหาเจ้เกลียวครับ ที่ห้องVIPheng1234 เขียน:พี่ปรัชญาไปที่บริษัทไหนครับเผื่อไปทักทายกันบ้าง ช่วงนี้ผมไปบ่อย ไปบินอะ 555
ถามว่าน้องเขยมาหรือเปล่าผมไปไม่ทุกวัน
โดยเฉพาะวันศุกร์ไม่ไปครับ
อาทิตย์นี้ไปมา4วันแล้ว
ถ้าไปเคเค ก็ถามคุณมาร์ผม ปภัสนันท์ครับ
หุ้นมันขึ้นแบบไม่มีเหตุผลครับ
คนเยอะ ตอนหุ้นลงๆ หาคนดูไม่ถึง10คน ตอนนี้แทบจะไม่มีที่จะเดิน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 18
ผมเพิ่งเริ่มเล่นมา 5-6 ปีได้ครับ ไม่ได้มีประสพการณ์หวือหวาอะไร แต่มีบทเรียนหนึ่งที่จำได้ไม่ลืมครับ เลยอยากจะเล่าบ้าง
ตอนบาทตกจาก 26 ไป 35 ใหม่ๆ และ DOW JONES ทำ new high บ่อยๆ ผมก็อยากซื้อหุ้นอิเล็กโทรนิคส์ครับ เพราะมั่นใจว่าจะเติบโตดีแน่ๆ ทั้งจากบาทอ่อนและ demand ใน US
เลยกวาดตาดูหุ้นทั้งตลาด เห็น CIRKIT ถูกที่สุดเลยครับ แค่ 50 บาทเอง ซื้อมันครึ่งพอร์ตเลย กะว่าสักครึ่งปีค่อยมาดูกันใหม่
ปรากฎว่าเหลือ 25 บาทครับ ในขณะที่ตัวอื่นในกลุ่มขึ้นกันถล่มทลาย cut loss ไปอย่างเจ็บปวดที่สุดหลังจากอ่านข่าวมากมาย รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับผู้บริหารด้วย
เป็นบทเรียนที่ดีครับ เดี๋ยวนี้ก่อนซื้อหุ้นจะดูชื่อผู้บริหารก่อนทุกครั้งเป็นสำคัญครับ หรือไม่ก็ต้องมี stoploss ที่ 10%
ตอนบาทตกจาก 26 ไป 35 ใหม่ๆ และ DOW JONES ทำ new high บ่อยๆ ผมก็อยากซื้อหุ้นอิเล็กโทรนิคส์ครับ เพราะมั่นใจว่าจะเติบโตดีแน่ๆ ทั้งจากบาทอ่อนและ demand ใน US
เลยกวาดตาดูหุ้นทั้งตลาด เห็น CIRKIT ถูกที่สุดเลยครับ แค่ 50 บาทเอง ซื้อมันครึ่งพอร์ตเลย กะว่าสักครึ่งปีค่อยมาดูกันใหม่
ปรากฎว่าเหลือ 25 บาทครับ ในขณะที่ตัวอื่นในกลุ่มขึ้นกันถล่มทลาย cut loss ไปอย่างเจ็บปวดที่สุดหลังจากอ่านข่าวมากมาย รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับผู้บริหารด้วย
เป็นบทเรียนที่ดีครับ เดี๋ยวนี้ก่อนซื้อหุ้นจะดูชื่อผู้บริหารก่อนทุกครั้งเป็นสำคัญครับ หรือไม่ก็ต้องมี stoploss ที่ 10%
- champ
- Verified User
- โพสต์: 1280
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 21
ผมไม่มีอะไรจะเล่าหรอกครับ เพราะตอนนั้นเพิ่งเริ่มเล่นได้ไม่กี่วันเอง ก็ซื้อ CNT,SCIB,GF ถือไม่กี่วันเอง ไมทันจะรู้อะไรเลย ก็เจ๊งเลย แล้วก็เพิ่งจะกลับเข้ามาหลังจากเพื่อนแนะนำให้ดูหุ้นปันผล ก็เลยคิดใหม่แล้วก็ลองมาดูอีกที
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 24
ถ้าเป็นVIแต่เริ่มต้นไม่มีบาดเจ็บครับMon money เขียน:สำหรับผมโชคดีมากที่ยังไม่ทันได้แผลใหญ่ๆ ก็ถอยทันเสียก่อนเลยไม่มีเรื่องมาเล่าให้ฟังบ้างครับ
แต่พวกที่มีประสพการณ์มาจากVSครับ
รวมทั้งผมด้วย
เริ่มแรกVSแพ้ครับ
ต่อมารอบ2ก็VS
ครั้งนี้รอบ3ก็เลยต้องกินต้มยำครับ
คือรวมทั้งVI และ VS
ไม่รู้ว่าเรียกว่าอะไร ประเภทครึ่งน้ำครึ่งบก
(เอ...เรียก...สะเทินน้ำสะเทินบก จะไพเราะกว่า)
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 25
ผมก็เคยครับ แต่หลบทันซะก่อน ที่จริงปีกไหม้หลุดไปเหมือนกัน ต่อมาเป็นนักเก็งกำไรระยะยาว(สำนวนของเจ้าGenie) ครับได้มากเอาการแต่แบ่งให้มาร์เก็ตติ้งสาวสวยของผมไปครึ่งๆเลยละ(ค่าคอมฯนะ....อย่าคิดเป็นอื่น)
- mrj
- Verified User
- โพสต์: 12
- ผู้ติดตาม: 0
เพิ่งอ่านเจอ เลยเก็บเอามาฝาก ...
โพสต์ที่ 26
เดินสวนกระแส : กองทุนปลุกหุ้น( ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ , 27มิ. ย. 46 )
----------------------------------------
การจัดตั้งกองทุน ระดมเงินจากประชาชน เพื่อลงทุนในหุ้น กำลังกลายเป็นแฟชั่น ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งโดดร่วมวง
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศตั้งกองทุนประมาณ 10 แห่ง โดยร่วมมือกับบริษัทโบรกเกอร์และบลจ. และเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาลงทุน
กองทุนที่จะจัดตั้งจะเป็นกองทุนเปิด ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะควักเงินลงขัน และขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนที่สนใจ นำเงินที่ได้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยแต่ละกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 25 บริษัท
ถ้าฟังเหตุผลของการจัดตั้งกองทุนแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ที่มีหน้าที่ดูแลการซื้อขายหุ้นให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม หรือมีฐานะเป็นเจ้ามือ แต่การจัดตั้งกองทุน หมายถึงเจ้ามือกำลังจะลงมาเล่นเอง ทั้งที่เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไร
และในอดีตตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่เคยจัดตั้งกองทุนที่จะซื้อหุ้น แม้ในช่วงภาวะวิกฤติ โดยปล่อยให้บริษัทโบรกเกอร์ เป็นหัวหอกในการจัดตั้งกองทุนกู้วิกฤติตลาดหุ้น
วันนี้ตลาดหุ้นกำลังคึกคัก ตลาดหลักทรัพย์จึงชิงจังหวะ จัดตั้งกองทุนหากำไรจากหุ้น บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในการจัดตั้งกองทุนจะเหมาะสมหรือไม่ คงจะเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป
แต่การที่หน่วยงานภาครัฐ แห่จัดตั้งกองทุนกันในช่วงนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวในตลาดทุนที่น่าสนใจ เพราะในอดีตเคยมีการแห่จัดตั้งกองทุนในช่วงเวลาเดียวกัน มีเป้าหมายระดมเงินจากประชาชนเหมือนกัน สุดท้ายนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนบาดเจ็บ เพราะกองทุนขาดทุนจากการซื้อหุ้นกันป่นปี้
เมื่อช่วงปลายปี 2536 ซึ่งตลาดหุ้นกลับมาสู่ความคึกคัก ทำให้บรรดา บลจ.ที่มีอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง แห่จัดตั้งกองทุนรวม กองทุนรวมหุ้นตั้งกันเป็นรายสัปดาห์ แต่ละกองทุนระดมเงินจากประชาชนประมาณ 3-5 พันล้านบาท โดยในช่วงเวลาไม่กี่เดือน กองทุนรวมระดมเงินไปหว่านลงในตลาดหุ้นหลายหมื่นล้านบาท
การจัดตั้งกองทุนรวมในช่วงนั้น กระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยแห่เข้าตลาดหุ้น เพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงของการเก็งกำไร โดยนักลงทุนรายย่อยประเมินว่า เงินที่กองทุนรวมระดมมาจำนวนหลายหมื่นล้านบาท เมื่อนำเข้ามาซื้อหุ้น จะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น จึงแห่ซื้อหุ้นดักหน้ากองทุน
ช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ระหว่างสิ้นเดือน ก.ย. 2536-ต้น ม.ค.2537 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์พุ่งทะยานจาก 900 จุด ขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,753 จุด แต่ขณะที่นักลงทุนรายย่อย กำลังมัวเมาในการเก็งกำไร กองทุนรวมที่ระดมเงินมาหลายหมื่นล้านบาท ปรากฏว่านักลงทุนต่างประเทศได้ทยอยขายหุ้นทำกำไรออก
นักลงทุนรายย่อย กองทุนรวมในประเทศ เข้าไปรับซื้อหุ้นราคาแพงจากฝรั่ง ซึ่งเทขายหุ้นขนกำไรกลับบ้านอย่างสบาย ขณะที่กองทุนรวมในประเทศสาหัส เพราะมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขาย 10 บาท ราคาลดเหลือ 2-3 บาท จนทำให้ประชาชนเข็ดขยาดการลงทุนผ่านกองทุนรวมมาหลายปี
ตลาดหลักทรัพย์อาจมีเจตนาดี โดยหวังสร้างทางเลือกให้ประชาชน อาจมีเจตนาดี ในการส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่า ตลาดหุ้นกำลังมีผลตอบแทนที่ดี จึงจัดกิจกรรมนำร่อง เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่น
แต่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนปลายปี 2536 หรือไม่ กองทุนของตลาดหลักทรัพย์จะเป็นกองทุนที่ปลุกใจแมลงเม่า ให้แห่กันบินเข้ากองไฟ เก็งกำไรกันฝุ่นตลบ จนตลาดหุ้นโอเวอร์ฮีทหรือไม่
เงินของตลาดหลักทรัพย์ ถ้าจะพังไปคงไม่เท่าไร แต่เงินออมของชาวบ้านตาดำๆ ช่วยระวังกันหน่อย อย่าปลุกระดมจนถูกขนมาผลาญในตลาดหุ้น
.
----------------------------------------
การจัดตั้งกองทุน ระดมเงินจากประชาชน เพื่อลงทุนในหุ้น กำลังกลายเป็นแฟชั่น ไม่เว้นแม้แต่ตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งโดดร่วมวง
ตลาดหลักทรัพย์ประกาศตั้งกองทุนประมาณ 10 แห่ง โดยร่วมมือกับบริษัทโบรกเกอร์และบลจ. และเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปเข้ามาลงทุน
กองทุนที่จะจัดตั้งจะเป็นกองทุนเปิด ซึ่งตลาดหลักทรัพย์จะควักเงินลงขัน และขายหน่วยลงทุนให้ประชาชนที่สนใจ นำเงินที่ได้ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยแต่ละกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 25 บริษัท
ถ้าฟังเหตุผลของการจัดตั้งกองทุนแล้ว ไม่น่าจะมีอะไรเสียหาย แต่ก็มีเสียงวิจารณ์ถึงบทบาทของตลาดหลักทรัพย์ ที่มีหน้าที่ดูแลการซื้อขายหุ้นให้เป็นไปด้วยความยุติธรรม หรือมีฐานะเป็นเจ้ามือ แต่การจัดตั้งกองทุน หมายถึงเจ้ามือกำลังจะลงมาเล่นเอง ทั้งที่เป็นองค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อแสวงหาผลกำไร
และในอดีตตลาดหลักทรัพย์ก็ไม่เคยจัดตั้งกองทุนที่จะซื้อหุ้น แม้ในช่วงภาวะวิกฤติ โดยปล่อยให้บริษัทโบรกเกอร์ เป็นหัวหอกในการจัดตั้งกองทุนกู้วิกฤติตลาดหุ้น
วันนี้ตลาดหุ้นกำลังคึกคัก ตลาดหลักทรัพย์จึงชิงจังหวะ จัดตั้งกองทุนหากำไรจากหุ้น บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ในการจัดตั้งกองทุนจะเหมาะสมหรือไม่ คงจะเป็นสิ่งที่วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป
แต่การที่หน่วยงานภาครัฐ แห่จัดตั้งกองทุนกันในช่วงนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวในตลาดทุนที่น่าสนใจ เพราะในอดีตเคยมีการแห่จัดตั้งกองทุนในช่วงเวลาเดียวกัน มีเป้าหมายระดมเงินจากประชาชนเหมือนกัน สุดท้ายนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนบาดเจ็บ เพราะกองทุนขาดทุนจากการซื้อหุ้นกันป่นปี้
เมื่อช่วงปลายปี 2536 ซึ่งตลาดหุ้นกลับมาสู่ความคึกคัก ทำให้บรรดา บลจ.ที่มีอยู่ทั้งหมด 8 แห่ง แห่จัดตั้งกองทุนรวม กองทุนรวมหุ้นตั้งกันเป็นรายสัปดาห์ แต่ละกองทุนระดมเงินจากประชาชนประมาณ 3-5 พันล้านบาท โดยในช่วงเวลาไม่กี่เดือน กองทุนรวมระดมเงินไปหว่านลงในตลาดหุ้นหลายหมื่นล้านบาท
การจัดตั้งกองทุนรวมในช่วงนั้น กระตุ้นให้นักลงทุนรายย่อยแห่เข้าตลาดหุ้น เพิ่มอุณหภูมิความร้อนแรงของการเก็งกำไร โดยนักลงทุนรายย่อยประเมินว่า เงินที่กองทุนรวมระดมมาจำนวนหลายหมื่นล้านบาท เมื่อนำเข้ามาซื้อหุ้น จะผลักดันให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น จึงแห่ซื้อหุ้นดักหน้ากองทุน
ช่วงเวลาเพียง 3 เดือน ระหว่างสิ้นเดือน ก.ย. 2536-ต้น ม.ค.2537 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์พุ่งทะยานจาก 900 จุด ขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 1,753 จุด แต่ขณะที่นักลงทุนรายย่อย กำลังมัวเมาในการเก็งกำไร กองทุนรวมที่ระดมเงินมาหลายหมื่นล้านบาท ปรากฏว่านักลงทุนต่างประเทศได้ทยอยขายหุ้นทำกำไรออก
นักลงทุนรายย่อย กองทุนรวมในประเทศ เข้าไปรับซื้อหุ้นราคาแพงจากฝรั่ง ซึ่งเทขายหุ้นขนกำไรกลับบ้านอย่างสบาย ขณะที่กองทุนรวมในประเทศสาหัส เพราะมูลค่าหน่วยลงทุนที่เสนอขาย 10 บาท ราคาลดเหลือ 2-3 บาท จนทำให้ประชาชนเข็ดขยาดการลงทุนผ่านกองทุนรวมมาหลายปี
ตลาดหลักทรัพย์อาจมีเจตนาดี โดยหวังสร้างทางเลือกให้ประชาชน อาจมีเจตนาดี ในการส่งสัญญาณให้ประชาชนรู้ว่า ตลาดหุ้นกำลังมีผลตอบแทนที่ดี จึงจัดกิจกรรมนำร่อง เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่น
แต่ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยเหมือนปลายปี 2536 หรือไม่ กองทุนของตลาดหลักทรัพย์จะเป็นกองทุนที่ปลุกใจแมลงเม่า ให้แห่กันบินเข้ากองไฟ เก็งกำไรกันฝุ่นตลบ จนตลาดหุ้นโอเวอร์ฮีทหรือไม่
เงินของตลาดหลักทรัพย์ ถ้าจะพังไปคงไม่เท่าไร แต่เงินออมของชาวบ้านตาดำๆ ช่วยระวังกันหน่อย อย่าปลุกระดมจนถูกขนมาผลาญในตลาดหุ้น
.
- ayethebing
- Verified User
- โพสต์: 2125
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 28
ตอน 8 ปีที่แล้วผมเล่นหุ้นกับเค้าเหมือนกันแล้วก้อเลิกไปก่อน จนเพิ่งกลับมาเล่้นในช่วง 2-3 ปีหลังนี่เองครับ ไม่มีวีรกรรมแบบพี่ๆ เค้า
แต่อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากเลยนะครับ รู้ว่าบรรยากาศดีต่างๆ และ ข่าวดีต่างๆ เป็นแค่ม่านควันบังสติทำให้เกิดความโลภ ถ้าบรรยากาศร้่ายๆ และข่าวร้ายๆ ก้อเป็นแค่ม่านบังสติทำให้เกิดความกลัว เอาสติกลับมาคิดว่าเราจะทำยังไงดีที่สุดครับ
อันนี้เป็นสิ่งที่สรุปที่สรุปเอาเองจากทั้งหมดที่พี่เล่าครับ
แต่อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากเลยนะครับ รู้ว่าบรรยากาศดีต่างๆ และ ข่าวดีต่างๆ เป็นแค่ม่านควันบังสติทำให้เกิดความโลภ ถ้าบรรยากาศร้่ายๆ และข่าวร้ายๆ ก้อเป็นแค่ม่านบังสติทำให้เกิดความกลัว เอาสติกลับมาคิดว่าเราจะทำยังไงดีที่สุดครับ
อันนี้เป็นสิ่งที่สรุปที่สรุปเอาเองจากทั้งหมดที่พี่เล่าครับ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
วันนี้...ที่ห้องค้าหุ้นของโบรกเกอร์หนึ่ง
โพสต์ที่ 29
[quote="ayethebing"]ตอน 8 ปีที่แล้วผมเล่นหุ้นกับเค้าเหมือนกันแล้วก้อเลิกไปก่อน จนเพิ่งกลับมาเล่้นในช่วง 2-3 ปีหลังนี่เองครับ ไม่มีวีรกรรมแบบพี่ๆ เค้า
แต่อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากเลยนะครับ รู้ว่าบรรยากาศดีต่างๆ และ ข่าวดีต่างๆ เป็นแค่ม่านควันบังสติทำให้เกิดความโลภ ถ้าบรรยากาศร้่ายๆ และข่าวร้ายๆ ก้อเป็นแค่ม่านบังสติทำให้เกิดความกลัว เอาสติกลับมาคิดว่าเราจะทำยังไงดีที่สุดครับ
ยินดีด้วยครับ ที่ได้พบสัจจะธรรม
แต่อ่านแล้วได้ข้อคิดดีมากเลยนะครับ รู้ว่าบรรยากาศดีต่างๆ และ ข่าวดีต่างๆ เป็นแค่ม่านควันบังสติทำให้เกิดความโลภ ถ้าบรรยากาศร้่ายๆ และข่าวร้ายๆ ก้อเป็นแค่ม่านบังสติทำให้เกิดความกลัว เอาสติกลับมาคิดว่าเราจะทำยังไงดีที่สุดครับ
ยินดีด้วยครับ ที่ได้พบสัจจะธรรม