เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 1
เก็บมาจาก ห้องสินธร ที่ pantip นะครับ
จริง เท็จ เชื่อถือได้ มากน้อยเพียงไร
โปรดตรวจสอบ ประเมิน ด้วยตัวเองอีกครั้ง
หุ้น ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมร่วงระนาว
กลุ่มซิลิคอนลุกฮือร้องนายกฯ [17 ก.พ. 50 - 04:21]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เตรียมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในประเด็นที่กรมศุลกากรจะยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการทางกฎหมายกลุ่มผู้ประกอบการที่นำเข้าเหล็กกล้าอิเล็กทริคซิลิคอนสตีล (เหล็กซิลิคอน) ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดประเภท 7 รายฐานแสดงภาษีนำเข้าเป็นเท็จ
หลังจากกรมศุลกากรได้ดำเนินการจับกุมและตรวจสอบภาษีนำเข้าเหล็กซิลิคอนย้อนหลังระหว่างปี 2538-2546 พร้อมกับอ้างว่า ผู้ประกอบการนำเข้ามีการสำแดงภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงเนื่องจากตรวจพบค่ามาตรฐานของสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของเหล็กซิลิคอนมีปริมาณซิลิคอนต่ำกว่า 0.6% ที่ต้องเสียภาษี 12% ของมูลค่านำเข้า แต่ผู้ประกอบการกลับแจ้งในใบขนสินค้าว่า เป็นเหล็กซิลิคอนที่มีปริมาณซิลิคอนสูงเกิน 0.6% ทำให้เสียภาษีเพียง 1% ส่งผลให้กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ทางภาษีคิดเป็นเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับค่าปรับโทษฐานความผิดดังกล่าวอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท จึงเป็นมูลค่าที่กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ทางภาษีประมาณ 3,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายละเอียดที่ผู้ประกอบการจะยื่นต่อ พล.อ.สุรยุทธ์เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ ประกอบการนำเข้าเหล็กซิลิคอนได้ปฏิบัติตามพิกัดคู่มือของกรมศุลกากรมาโดยตลอดนับแต่ปี 2536 โดยกรมศุลกากรได้กำหนดการนำเข้าเหล็กซิลิคอนต้องอยู่ในพิกัด 7225 เพราะเป็นวัตถุดิบที่ไม่มีการผลิตในประเทศ โดยไม่ได้พิจารณาจากมวลของสารเคมีว่ามีซิลิคอนมากหรือน้อยกว่า 0.6 เพราะเป็นคุณสมบัติทางเคมีที่ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน หรือราคานำเข้าแต่อย่างใดทั้งยังเป็นหลัก เกณฑ์เดียวกันที่ทั่วโลกใช้อยู่ และก่อนหน้ารัฐบาลเองก็ถึงกับมีมติ ครม.ให้กระทรวงการคลังหาทางผ่อนปรนในเรื่องนี้เพราะถือว่าไม่ได้เป็นความผิดของผู้ประกอบการ แต่ยังไม่ทันได้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาก็มีการปฏิวัติเสียก่อน
แต่ในช่วงปี 2546 กรมศุลกากรได้มีการพิจารณาปรับปรุงพิกัดภาษีระบบฮาโมไนซ์ใหม่ โดยให้มีการพิจารณาสูตรทางเคมีของซิลิคอนประกอบ เพราะจัดเก็บตัวอย่างเหล็กซิลิคอนที่ผู้ประกอบการมีการนำเข้ามาในขณะนั้นไปตรวจ สอบซึ่งพบว่าในบางลอตของการนำเข้ามีปริมาณเนื้อเหล็กซิลิคอนต่ำกว่า 0.6% ซึ่งเข้าข่ายเป็นเหล็กรีดเย็นในพิกัด 7209 และ 7210 ที่ต้องจัดเก็บภาษีนำเข้า 12-15% จึงสั่งดำเนินคดีกับผู้ประกอบการย้อนหลังไปตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าผู้ประกอบการมีการสำแดงเท็จมาโดยตลอด โดยที่ผู้ประกอบการนำเข้าเองไม่สามารถจะหาเอกสารมาสำแดงได้ว่าเหล็กซิลิคอนที่นำเข้ามาก่อนหน้านั้น มีการแยกแยะสูตรทางเคมีเอาไว้อย่างไร และแม้จะพิจารณาจากเอกสารนำเข้าที่ยังมีอยู่ก็พบว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการระบุส่วนผสมที่ชัดเจนของเนื้อซิลิคอนเอาไว้
ในการนำเข้าเหล็กซิลิคอนในอดีต หรือแม้กระทั่งปัจจุบัน ผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้มีการสำแดงรายละเอียดส่วนผสมของเนื้อซิลิคอนว่ามีจำนวนเท่าใดอยู่แล้ว เพราะการซื้อขายจะวัดกันที่กระแสเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่วัดกันเป็นวัตต์ต่อกิโลกรัม และในกระบวนการผลิตเหล็กซิลิคอนที่เป็นสูตรเคมีโดยเฉพาะของผู้ผลิตนั้น บางครั้งก็ผลิตโดยมีการฉาบผิวซิลิคอนไว้บนผิวเท่านั้น หรือผสมซิลิคอนลงไปในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นแต่ยังคงมีคุณสมบัติเป็นไปตามสเปก และความ ต้องการใช้ของอุตสาหกรรมนี้ จึงไม่ได้มีการสำแดงรายละเอียดในการนำเข้า เพราะเหล็กประเภทดังกล่าวนั้นไม่มีการผลิตในประเทศอยู่แล้ว และไม่สามารถจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้ นอกจากในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็ก-ทรอนิกส์เท่านั้น แต่จู่ๆ กรมศุลกากรกลับปรับเปลี่ยนตั้งพิกัดใหม่ขึ้นมาเพื่อเล่นงานผู้นำเข้าโดยไม่ดูข้อเท็จจริงของธุรกิจ ถือเป็นการกระทำที่สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่กรมศุลกากรเดินหน้าจัดเก็บภาษีก้อนนี้ เพราะต้องการเงินรางวัลนำจับโดยอธิบดีกรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับสินบนนำจับและการชี้เบาะแสรวม 55% ของค่าปรับที่ได้ ที่คาดว่าจะสูงกว่า 1,650 ล้านบาท จึงปัดฝุ่นเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินการอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่ความผิดที่เกิดขึ้น ผู้ประกอบการไม่ได้ตั้งใจและไม่เคยรับรู้มาก่อน ทุกรายต่างปฏิบัติไปตามคู่มือจัดเก็บภาษีของกรมศุลกากรเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยึดถือมาโดยตลอด แต่แล้วก็กลับลุกขึ้นมากล่าวหาผู้ประกอบการเลี่ยงภาษีจะจับส่งฟ้องศาลและข่มขู่ ให้เร่งยอมความไม่เช่นนั้นจะต้องถูกปรับเป็น 4 เท่าของค่าภาษี.
จากคุณ : โกวตั๊บ
จริง เท็จ เชื่อถือได้ มากน้อยเพียงไร
โปรดตรวจสอบ ประเมิน ด้วยตัวเองอีกครั้ง
หุ้น ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมร่วงระนาว
กลุ่มซิลิคอนลุกฮือร้องนายกฯ [17 ก.พ. 50 - 04:21]
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เตรียมยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ในประเด็นที่กรมศุลกากรจะยื่นเรื่องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการทางกฎหมายกลุ่มผู้ประกอบการที่นำเข้าเหล็กกล้าอิเล็กทริคซิลิคอนสตีล (เหล็กซิลิคอน) ที่เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าสำหรับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดประเภท 7 รายฐานแสดงภาษีนำเข้าเป็นเท็จ
หลังจากกรมศุลกากรได้ดำเนินการจับกุมและตรวจสอบภาษีนำเข้าเหล็กซิลิคอนย้อนหลังระหว่างปี 2538-2546 พร้อมกับอ้างว่า ผู้ประกอบการนำเข้ามีการสำแดงภาษีต่ำกว่าความเป็นจริงเนื่องจากตรวจพบค่ามาตรฐานของสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของเหล็กซิลิคอนมีปริมาณซิลิคอนต่ำกว่า 0.6% ที่ต้องเสียภาษี 12% ของมูลค่านำเข้า แต่ผู้ประกอบการกลับแจ้งในใบขนสินค้าว่า เป็นเหล็กซิลิคอนที่มีปริมาณซิลิคอนสูงเกิน 0.6% ทำให้เสียภาษีเพียง 1% ส่งผลให้กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ทางภาษีคิดเป็นเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท และเมื่อรวมกับค่าปรับโทษฐานความผิดดังกล่าวอีกประมาณ 2,000 ล้านบาท จึงเป็นมูลค่าที่กรมศุลกากรสูญเสียรายได้ทางภาษีประมาณ 3,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายละเอียดที่ผู้ประกอบการจะยื่นต่อ พล.อ.สุรยุทธ์เพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ ประกอบการนำเข้าเหล็กซิลิคอนได้ปฏิบัติตามพิกัดคู่มือของกรมศุลกากรมาโดยตลอดนับแต่ปี 2536 โดยกรมศุลกากรได้กำหนดการนำเข้าเหล็กซิลิคอนต้องอยู่ในพิกัด 7225 เพราะเป็นวัตถุดิบที่ไม่มีการผลิตในประเทศ โดยไม่ได้พิจารณาจากมวลของสารเคมีว่ามีซิลิคอนมากหรือน้อยกว่า 0.6 เพราะเป็นคุณสมบัติทางเคมีที่ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน หรือราคานำเข้าแต่อย่างใดทั้งยังเป็นหลัก เกณฑ์เดียวกันที่ทั่วโลกใช้อยู่ และก่อนหน้ารัฐบาลเองก็ถึงกับมีมติ ครม.ให้กระทรวงการคลังหาทางผ่อนปรนในเรื่องนี้เพราะถือว่าไม่ได้เป็นความผิดของผู้ประกอบการ แต่ยังไม่ทันได้นำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาก็มีการปฏิวัติเสียก่อน
แต่ในช่วงปี 2546 กรมศุลกากรได้มีการพิจารณาปรับปรุงพิกัดภาษีระบบฮาโมไนซ์ใหม่ โดยให้มีการพิจารณาสูตรทางเคมีของซิลิคอนประกอบ เพราะจัดเก็บตัวอย่างเหล็กซิลิคอนที่ผู้ประกอบการมีการนำเข้ามาในขณะนั้นไปตรวจ สอบซึ่งพบว่าในบางลอตของการนำเข้ามีปริมาณเนื้อเหล็กซิลิคอนต่ำกว่า 0.6% ซึ่งเข้าข่ายเป็นเหล็กรีดเย็นในพิกัด 7209 และ 7210 ที่ต้องจัดเก็บภาษีนำเข้า 12-15% จึงสั่งดำเนินคดีกับผู้ประกอบการย้อนหลังไปตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยอ้างว่าผู้ประกอบการมีการสำแดงเท็จมาโดยตลอด โดยที่ผู้ประกอบการนำเข้าเองไม่สามารถจะหาเอกสารมาสำแดงได้ว่าเหล็กซิลิคอนที่นำเข้ามาก่อนหน้านั้น มีการแยกแยะสูตรทางเคมีเอาไว้อย่างไร และแม้จะพิจารณาจากเอกสารนำเข้าที่ยังมีอยู่ก็พบว่ามีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีการระบุส่วนผสมที่ชัดเจนของเนื้อซิลิคอนเอาไว้
ในการนำเข้าเหล็กซิลิคอนในอดีต หรือแม้กระทั่งปัจจุบัน ผู้ผลิตส่วนใหญ่ไม่ได้มีการสำแดงรายละเอียดส่วนผสมของเนื้อซิลิคอนว่ามีจำนวนเท่าใดอยู่แล้ว เพราะการซื้อขายจะวัดกันที่กระแสเหนี่ยวนำไฟฟ้าที่วัดกันเป็นวัตต์ต่อกิโลกรัม และในกระบวนการผลิตเหล็กซิลิคอนที่เป็นสูตรเคมีโดยเฉพาะของผู้ผลิตนั้น บางครั้งก็ผลิตโดยมีการฉาบผิวซิลิคอนไว้บนผิวเท่านั้น หรือผสมซิลิคอนลงไปในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้นแต่ยังคงมีคุณสมบัติเป็นไปตามสเปก และความ ต้องการใช้ของอุตสาหกรรมนี้ จึงไม่ได้มีการสำแดงรายละเอียดในการนำเข้า เพราะเหล็กประเภทดังกล่าวนั้นไม่มีการผลิตในประเทศอยู่แล้ว และไม่สามารถจะนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่นๆได้ นอกจากในกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็ก-ทรอนิกส์เท่านั้น แต่จู่ๆ กรมศุลกากรกลับปรับเปลี่ยนตั้งพิกัดใหม่ขึ้นมาเพื่อเล่นงานผู้นำเข้าโดยไม่ดูข้อเท็จจริงของธุรกิจ ถือเป็นการกระทำที่สร้างความไม่เป็นธรรมให้แก่ผู้ประกอบการ
ทั้งนี้ สาเหตุที่กรมศุลกากรเดินหน้าจัดเก็บภาษีก้อนนี้ เพราะต้องการเงินรางวัลนำจับโดยอธิบดีกรมศุลกากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้รับสินบนนำจับและการชี้เบาะแสรวม 55% ของค่าปรับที่ได้ ที่คาดว่าจะสูงกว่า 1,650 ล้านบาท จึงปัดฝุ่นเรื่องนี้ขึ้นมาดำเนินการอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งที่ความผิดที่เกิดขึ้น ผู้ประกอบการไม่ได้ตั้งใจและไม่เคยรับรู้มาก่อน ทุกรายต่างปฏิบัติไปตามคู่มือจัดเก็บภาษีของกรมศุลกากรเอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ยึดถือมาโดยตลอด แต่แล้วก็กลับลุกขึ้นมากล่าวหาผู้ประกอบการเลี่ยงภาษีจะจับส่งฟ้องศาลและข่มขู่ ให้เร่งยอมความไม่เช่นนั้นจะต้องถูกปรับเป็น 4 เท่าของค่าภาษี.
จากคุณ : โกวตั๊บ
What do you mean.?
-
- Verified User
- โพสต์: 1468
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 2
เอามาจากข่าวเศรษฐกิจของไทยรัฐวันนี้มัง
http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=37252
แล้วส่งผลถึงหุ้นตัวไหนคะคุณ Sirivajj
inox ไม่เกี่ยวแน่ๆ เพราะแจ้งข่าวปฏิเสธตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว
ข้างล่างนี่คืบหน้าของแนวหน้า
DSIผนึกกรมศุลฯไล่บี้ภาษี"เหล็กซิลิคอน"
ป.ป.ช.ตรวจสอบ"สถิตย์"กับพวก-เล็งฟ้อง6บริษัท
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้มีผู้ร้องเรียนกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง อดีตอธิบดีกรมศุลกากร และนายพิชัย หาญตะล่อม อดีตรองอธิบดีกรมศุลกากร เนื่องจากสงสัยว่าผู้บริหารดังกล่าวละเว้นการเก็บภาษีเหล็กซิลิคอนของผู้ประกอบการหลายบริษัท ซึ่งคณะอนุกรรมการ ปปช. อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ โดยบุคคล ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2550 นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือแจ้งมายังกรมศุลกากรว่า ผู้ประกอบการที่ชำระภาษีเหล็กซิลิคอนนำเข้าจำนวน 7 ราย ที่อยู่ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ ขณะนี้มี 1 ราย คือ บริษัท เอ็มซี เมเทิล เซอร์วิส เอเชีย ประเทศไทย จำกัด ยอมความ โดยจะต้องชำระภาษีและเงินปรับตามกฎหมาย จึงขอให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการ เนื่องจากเรื่องได้เกิดขึ้นมานานแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ส่วนอีก 6 ราย ที่เหลือ ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท บางกอก แปซิฟิก บริษัท ไทยซูมิลอก บริษัท ยูไนเต็ด คอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ยังไม่มีการยอมความ ดังนั้น ดีเอสไอจะทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องร้องต่อศาลในคดีอาญาและแพ่งต่อไป เนื่องจากที่ผ่าน ดีเอสไอ ได้รับเรื่องทั้งหมดเป็นคดีพิเศษ เพราะมีความเสียหายเกิน 50 ล้านบาท
"ทั้ง 7 ราย จ่ายเงินภาษีไม่ครบกว่า 1,000 ล้านบาท ไม่รวมค่าปรับ ส่วนบริษัทที่หลีกเลี่ยงภาษีมีนักการเมืองเป็นเจ้าของหรือไม่ผมตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนในวงการรู้กันดีว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง" นายชวลิตกล่าว
ทั้งนี้ การเลี่ยงภาษีเหล็กซิลิคอน เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2545 โดยแจ้งว่าเหล็กที่นำเข้ามีส่วนผสมซิลิคอนมากกว่า 0.6% เพื่อจะได้เสียภาษีนำเข้าในอัตรา 1% เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนให้นำเข้ามาผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี แต่จากการตรวจสอบของกรมศุลกากรพบว่าเหล็กที่นำเข้าจริงมีส่วนผสมซิลิคอนไม่ถึง 0.6% ทำให้ต้องเสียภาษีในอัตรา 10% หรือ 12% แล้วแต่ชนิดเหล็ก
นายชวลิต กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาได้ออกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้กรมศุลกากรยุติปัญหาเหล็กซิลิคอนอย่างรวดเร็ว ซึ่งพ่อค้านำมาอ้างว่าไม่ต้องเสียภาษีและค่าปรับ แต่ทางกรมศุลกากรไม่ยอม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการที่ระงับคดีจะต้องจ่ายภาษีที่ขาดหายไปให้ครบ พร้อมกับค่าเบี้ยปรับ 2 เท่าของภาษีที่ขาดหายไป
ส่วน 6 รายที่เหลือ หากยังไม่ยอมความก่อนที่ดีเอสไอจะฟ้องร้องต่อศาล หากต่อสู้แพ้ในชั้นศาลจะต้องจ่ายภาษีที่ขาดไปให้ครบ พร้อมกับเงินเพิ่ม และค่าเบี้ยปรับอีก 4 เท่า ของราคาสินค้ารวมภาษีอากร ซึ่งบางรายอาจจะต้องเสียภาษีเงินเพิ่มเบี้ยปรับเป็นหมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทล้มละลาย และกรรมการผู้จัดการที่เซ็นอนุมัติจะต้องโดนคดีอาญาติดคุกอีกด้วย
"การดำเนินการของดีเอสไอยุคนี้ถือว่ามีความน่าเชื่อถืออย่างมาก เนื่องจากนายอุดม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นคนตรงมาก ไม่ยอมให้พ่อค้าวิ่งเต้นไม่ยอมจ่ายภาษีทำให้รัฐเสียหายอย่างแน่นอน"
http://www.thairath.co.th/news.php?sect ... tent=37252
แล้วส่งผลถึงหุ้นตัวไหนคะคุณ Sirivajj
inox ไม่เกี่ยวแน่ๆ เพราะแจ้งข่าวปฏิเสธตั้งแต่ต้นเดือนแล้ว
ข้างล่างนี่คืบหน้าของแนวหน้า
DSIผนึกกรมศุลฯไล่บี้ภาษี"เหล็กซิลิคอน"
ป.ป.ช.ตรวจสอบ"สถิตย์"กับพวก-เล็งฟ้อง6บริษัท
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล อธิบดีกรมศุลกากร เปิดเผยว่า ได้มีผู้ร้องเรียนกับ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ตรวจสอบนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ รองปลัดกระทรวงการคลัง อดีตอธิบดีกรมศุลกากร และนายพิชัย หาญตะล่อม อดีตรองอธิบดีกรมศุลกากร เนื่องจากสงสัยว่าผู้บริหารดังกล่าวละเว้นการเก็บภาษีเหล็กซิลิคอนของผู้ประกอบการหลายบริษัท ซึ่งคณะอนุกรรมการ ปปช. อยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ โดยบุคคล ที่เกี่ยวข้องไปชี้แจงกับ ป.ป.ช.
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2550 นายสุนัย มโนมัยอุดม อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ทำหนังสือแจ้งมายังกรมศุลกากรว่า ผู้ประกอบการที่ชำระภาษีเหล็กซิลิคอนนำเข้าจำนวน 7 ราย ที่อยู่ในชั้นสอบสวนของดีเอสไอ ขณะนี้มี 1 ราย คือ บริษัท เอ็มซี เมเทิล เซอร์วิส เอเชีย ประเทศไทย จำกัด ยอมความ โดยจะต้องชำระภาษีและเงินปรับตามกฎหมาย จึงขอให้กรมศุลกากรเร่งดำเนินการ เนื่องจากเรื่องได้เกิดขึ้นมานานแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า
ส่วนอีก 6 ราย ที่เหลือ ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ อาทิ บริษัท บางกอก แปซิฟิก บริษัท ไทยซูมิลอก บริษัท ยูไนเต็ด คอลเซ็นเตอร์ เป็นต้น ยังไม่มีการยอมความ ดังนั้น ดีเอสไอจะทำสำนวนส่งให้อัยการฟ้องร้องต่อศาลในคดีอาญาและแพ่งต่อไป เนื่องจากที่ผ่าน ดีเอสไอ ได้รับเรื่องทั้งหมดเป็นคดีพิเศษ เพราะมีความเสียหายเกิน 50 ล้านบาท
"ทั้ง 7 ราย จ่ายเงินภาษีไม่ครบกว่า 1,000 ล้านบาท ไม่รวมค่าปรับ ส่วนบริษัทที่หลีกเลี่ยงภาษีมีนักการเมืองเป็นเจ้าของหรือไม่ผมตอบไม่ได้ แต่เชื่อว่าคนในวงการรู้กันดีว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้อง" นายชวลิตกล่าว
ทั้งนี้ การเลี่ยงภาษีเหล็กซิลิคอน เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2545 โดยแจ้งว่าเหล็กที่นำเข้ามีส่วนผสมซิลิคอนมากกว่า 0.6% เพื่อจะได้เสียภาษีนำเข้าในอัตรา 1% เนื่องจากรัฐบาลสนับสนุนให้นำเข้ามาผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพดี แต่จากการตรวจสอบของกรมศุลกากรพบว่าเหล็กที่นำเข้าจริงมีส่วนผสมซิลิคอนไม่ถึง 0.6% ทำให้ต้องเสียภาษีในอัตรา 10% หรือ 12% แล้วแต่ชนิดเหล็ก
นายชวลิต กล่าวว่า รัฐบาลที่ผ่านมาได้ออกมติคณะรัฐมนตรี (ครม.)ให้กรมศุลกากรยุติปัญหาเหล็กซิลิคอนอย่างรวดเร็ว ซึ่งพ่อค้านำมาอ้างว่าไม่ต้องเสียภาษีและค่าปรับ แต่ทางกรมศุลกากรไม่ยอม เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ซึ่งในส่วนของผู้ประกอบการที่ระงับคดีจะต้องจ่ายภาษีที่ขาดหายไปให้ครบ พร้อมกับค่าเบี้ยปรับ 2 เท่าของภาษีที่ขาดหายไป
ส่วน 6 รายที่เหลือ หากยังไม่ยอมความก่อนที่ดีเอสไอจะฟ้องร้องต่อศาล หากต่อสู้แพ้ในชั้นศาลจะต้องจ่ายภาษีที่ขาดไปให้ครบ พร้อมกับเงินเพิ่ม และค่าเบี้ยปรับอีก 4 เท่า ของราคาสินค้ารวมภาษีอากร ซึ่งบางรายอาจจะต้องเสียภาษีเงินเพิ่มเบี้ยปรับเป็นหมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทล้มละลาย และกรรมการผู้จัดการที่เซ็นอนุมัติจะต้องโดนคดีอาญาติดคุกอีกด้วย
"การดำเนินการของดีเอสไอยุคนี้ถือว่ามีความน่าเชื่อถืออย่างมาก เนื่องจากนายอุดม นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม และ นายชาญชัย ลิขิตจิตถะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นคนตรงมาก ไม่ยอมให้พ่อค้าวิ่งเต้นไม่ยอมจ่ายภาษีทำให้รัฐเสียหายอย่างแน่นอน"
..สักวันจะเก่งเหมือนพี่บ้าง..
-
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 3
พูดแบบนี้ถือว่าซี้ซั้วครับหุ้น ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมร่วงระนาว
พวกที่น่าจะโดนหนักน่าจะเป็นหุ้นที่ทำหม้อแปลงโดยตรงซะมากกว่าซึ่งก็น่าจะมีไม่กี่บริษัท สินค้าที่มีหม้อแปลง เค้าซื้อมาเป็นตัวๆ ไม่ได้เอาเหล็กมาตัดเองพันเองซะหน่อย
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 4
ที่เช็คข่าว บริษัทที่โดนเป็นบริษัทที่นำเข้ามาจำหน่ายครับjaychou เขียน: พูดแบบนี้ถือว่าซี้ซั้วครับ
พวกที่น่าจะโดนหนักน่าจะเป็นหุ้นที่ทำหม้อแปลงโดยตรงซะมากกว่าซึ่งก็น่าจะมีไม่กี่บริษัท สินค้าที่มีหม้อแปลง เค้าซื้อมาเป็นตัวๆ ไม่ได้เอาเหล็กมาตัดเองพันเองซะหน่อย
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 5
น่านสิ แล้วโยงเรื่องหุ้นได้ไง ....
- nanakorn
- Verified User
- โพสต์: 636
- ผู้ติดตาม: 0
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 6
ข่าวคงนำมาจากไทยรัฐ ตามที่คุณกล้วยทอดให้ link ไว้ครับ
แต่เข้าไปดูแล้ว ในไทยรัฐ ไม่ได้มีประโยคข้างล่างนี้
สงสัยมีคนเติมให้ครับ :Dหุ้น ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เตรียมร่วงระนาว
Everything I do, I do it for you.
-
- Verified User
- โพสต์: 777
- ผู้ติดตาม: 0
ภาษีประชาชน
โพสต์ที่ 7
ผมก็เคยเตือนเพื่อนๆนักลงทุนแล้ว...
หนีอะไรหนีได้...แต่หนีเรืองภาษี คงต้องตายไปก่อนนะครับ
แถมเวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็ยิ่งต้องเกรงใจกรม
สรรพากรมากๆหน่อย เดี๋ยวเค้าหงุดหงิดขึ้นมาก็จะลำบาก
อย่างที่อ่านข่าวนั่นแหละ...พอเค้าแกะงบบัญชีบริษัททีนึง
ก็ร้อนๆ...หนาวๆกันหมด!!!
จำไว้เลยครับ...
อย่าพยายามปล้นเงินภาษีของประชาชน
แต่จงเอื้อเฟื้อมีเมตตาซึ่งกันและกัน!!! :lol:
หนีอะไรหนีได้...แต่หนีเรืองภาษี คงต้องตายไปก่อนนะครับ
แถมเวลาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็ยิ่งต้องเกรงใจกรม
สรรพากรมากๆหน่อย เดี๋ยวเค้าหงุดหงิดขึ้นมาก็จะลำบาก
อย่างที่อ่านข่าวนั่นแหละ...พอเค้าแกะงบบัญชีบริษัททีนึง
ก็ร้อนๆ...หนาวๆกันหมด!!!
จำไว้เลยครับ...
อย่าพยายามปล้นเงินภาษีของประชาชน
แต่จงเอื้อเฟื้อมีเมตตาซึ่งกันและกัน!!! :lol:
#===========#===========#
:=)
#===========#===========#
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
เจอข่าวเกี่ยวกับ กลุ่มอิเลคโทรนิค เลยเก็บมาฝาก
โพสต์ที่ 8
แสดงว่าที่ผิดคือช่วงปี 38-46 เท่านั้นใช่มั๊ยครับ ..หลังจากกรมศุลกากรได้ดำเนินการจับกุมและตรวจสอบภาษีนำเข้าเหล็กซิลิคอนย้อนหลังระหว่างปี 2538-2546 พร้อมกับอ้างว่า ผู้ประกอบการนำเข้ามีการสำแดงภาษีต่ำกว่าความเป็นจริง
ปัจจุบันเสียภาษีถูกต้องแล้ว .. ถ้างั้นก็คงกระทบตรงๆกับผู้นำเข้าในช่วงนั้นมากกว่า
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com