ถามเล่นๆครับ MAJOR จะโตและยิ่งใหญ่แบบ CPN ได้หรือไม่ครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
metro
Verified User
โพสต์: 861
ผู้ติดตาม: 0

ถามเล่นๆครับ MAJOR จะโตและยิ่งใหญ่แบบ CPN ได้หรือไม่ครับ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เท่าที่ผมอ่าน 56-1 ดู ผมว่าหุ้นตัวนี้ ถ้าไม่ติดที่ PE และ ESOP ผมว่าหุ้นตัวนี้น่าลงทุนนะครับ ไม่นุ้ว่าพี่ๆมองอย่างไรบ้างนะครับ ยังไงลองพิจารณาประเด้นที่ผมมองนะครับ

1.) การชมภาพยนตร์ของคนไทยอยุ่ในระดับที่ต่ำมากๆ เพียง 2 เรื่อง/คน/ปี และราคาค่าเข้าชมภาพยนตร์ของประเทศไทยอยุ่ที่รัดับต่ำกว่าเพื่อนบ้านมากครับ (น่าจะเพราะอัตราค่าครองชีพของเราต่ำกว่าเพื่อนบ้านนะครับ)

2.) โรงภาพยนตร์แบบ Multiplex มีเพียง MAJOR, EGV และ SF Cinema ดังนั้นคู่แข่งที่ Segment เดียวกันก็มีแค่รายเดียว ถ้าจะมองการเข้ามาของคู่แข่งรายใหม่ ผมว่าไม่ง่ายครับ MAJOR มีแต่จะไปกลืนโรงหนัง Local ซึ่งจะทำให้ Market Share สุงขึ้นไปเรื่อยๆครับ

โดย MAJOR มีสาขาในประเทศไทยอยุ่ จังหวัดครับ ได้แก่
- กรุงเทพ
- เชียงใหม่
- นครสวรรค์
- อุดรธานี
- นนทบุรี
- ฉะเชิงเทรา
- อุบลราชธานี

ส่วน EGV มี
- กรุงเทพ
- ชลบุรี
- โคราช

ถ้ามองการขยายสาขาของทางกลุ่ม MAJOR ยังสามารถขยายสาขาได้อีกเยอะครับ อีกหลายจังหวัดที่ยังคงต้องการโรงภาพยนตร์แบบ Multiplex โดยในปี 49 ทาง MAJOR ได้มีการขยายสาขาดังนี้ครับ

สาขาสยามพารากอน ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 15 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 38 เลน

สาขาหัวหิน ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 4 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 8 เลน

สาขาแจ้งวัฒนะ ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 5 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 16 เลน

สาขาพิษณุโลก ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 4 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 8 เลน

สาขาเชียงใหม่ ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 4 โรง (เพิ่มโรงภาพยนตร์ในสาขาเดิม)

สาขาสมุย ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 4 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 12 เลน

สาขารัชดาภิเษก ลงทุนโรงภาพยนตร์ จำนวน 14 โรง และโบว์ลิ่ง จำนวน 18 เลน



3.) MAJOR จะว่าเป็นธุรกิจที่ลงทุนเพียงครั้งเดียวแล้วกินไปตลอดก็ได้ เนื่องจากการลงทุนมีแค่เพียงการตบแต่ง และ จัดหาเครื่องฉายภาพยนตร์เท่านั้น ส่วนรายรับมาจากการขายตั๋วหนัง, คาราโอเกะ, โบว์ลิ่ง, ให้เช่าพื้นที่ และ ขายโฆษณาในโรงหนัง

- การนำหนังมาฉาย MAJOR จ่ายให้กับทางผู้นำเข้าหนังโดยการจ่ายเป็นส่วนแบ่งค่าตั๋วในอัตราเฉลี่ย 50 เปอร์เซ็นต์ของยอดจำหน่ายตั๋วครับ ส่วนเรื่องการประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์เป็นหน้าที่ของบริษัทผุ้นำเข้าครับ MAJOR ไม่ได้มีส่วนในตรงนี้

- คาราโอเกะ ลงทุนหนังๆครั้งเดียว ที่เหลือคือการซื้อลิขสิทธิ์เพลงมาเปิดเพื่อให้บริการ

- โบว์ลิ่ง ลงทุนครั้งเดียวครับ

- ธุรกิจให้เช่าพื้นที่ ผมแบ่ง MAJOR ออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. MAJOR ในห้างสรรพสิค้า ซึ่งจะมีพื้นที่ให้เช่าไม่เยอะ เช่น สาขาเซ็นทรัลเวิร์ล และ สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 เป็นต้น โดยมากร้านค้าที่จะให้เช่าในส่วนของ MAJOR ที่อยู่ในห้างจะเป็นธุรกิจที่ทำให้ MAJOR มีความสมบูรณ์ในด้าน Multiplex มากขึ้น เช่น ร้านอาหารต่างๆ ได้แก่ MK Suki, Mcdonalds, Baskin Robbin, Black Canyon และ KFC เป็นต้น ดังนั้น รายได้ตรงนี้ค่อนข้างจะสม่ำเสมอแน่นอนเพราะมีการทำสัญญาระยะยาว และ เครดิตของบริษัทกลุ่มนี้จะจัดว่าค่อนข้างดี

2. MAJOR ที่เป็นเจ้าของอาคารเอง เช่น สาขาปิ่นเกล้า และ สาขาสุขุมวิท(เอกมัย)
ก็คงเหมือนกับข้อหนึ่ง แต่ จะมีร้านค้าพวก Retail Shop มากกว่า เครดิตลูกค้ากลุ่มนี้ก็คงจะสู้กลุ่มร้านอาหารใหญ่ๆไม่ได้ครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
metro
Verified User
โพสต์: 861
ผู้ติดตาม: 0

ถามเล่นๆครับ MAJOR จะโตและยิ่งใหญ่แบบ CPN ได้หรือไม่ครับ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

MAJOR : MAJOR CINEPLEX GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED  (M.Baht)  

                    2006         2005           2004           2003          2002  

Assets       8,782.03     7,393.96     6,647.46    3,658.95   2,773.77  

Liabilities   4,585.40    4,469.46     4,035.21    1,512.48    1,008.88  

Equity        4,170.38    2,912.01     2,589.80    2,070.72    1,659.04  

Capital         787.18     709.32          709.32       587.71       587.00  

Revenue     5,452.22   4,831.82     2,957.53    2,462.96   1,889.83  

Net Profit       695.18     534.99        -479.41       422.64     326.38  

EPS(Baht)        0.92        0.75            -0.77          0.72         2.97  

ROA(%)*          13.60    12.20             -6.39        18.97        17.00  

ROE(%)*          19.63    19.45           -20.57        22.66        19.67  

Profit Margin(%) 12.75   11.07          -16.21        17.16        17.27  

-----------------------------------------------------------------------------------

ถ้าดูจาก 5 ปีย้อนหลัง ผมจะให้ความสำคัญของความสัมพันธ์ของ Revenue, Net profit และ Net Profit Margin

- Revenue 5 ปีที่ผ่านมาโตขึ้นทุกปีจาก

2003 โตจาก 2002 30.33 เปอร์เซ็นต์
2004 โตจาก 2003 20.11 เปอร์เซ็นต์
2005 โตจาก 2004 63.37 เปอร์เซ็นต์ (โตจากการรวมรายรับจาก EGV)
2006 โตจาก 2005 12.85 เปอร์เซ็นต์  

โดยแนวโน้มการโตของรายรับยังน่าที่จะโตต่อไปจากการเปิดสาขาใหม่ๆ

- Net Profit ส่วนมากจะโตตาม Revenue ยกเว้นปี 2004 ที่ Major ขาดทุนจากการนำขาดทุนของทาง EGV เข้ามารวม นอกนั่น กำไรก็ยังเติบโตตาม Revenue ทุกปี

- Net Profit Margin
ก่อนการรวม EGV เข้ามา คือ ในปี 2002-2003 เฉลี่ยอยุ่ที่ 17 เปอร์เซ็นต์กว่าๆ

ในปี 2005 อยุ่ที่ 11.07 เปอร์เซ็นต์
ในปี 2006 อยุ่ที่ 12.75 เปอร์เซ็นต์

ถ้าให้ผมเดาเรื่องการลดลงของ Net Profit Margin จาก 17 เปอร์เซ็นต์ ลงมาที่ 11-12 เปอร์เซ็นต์ น่าจะมาจากการที่ EGV มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า ทำให้เฉลี่ยโดยรวมของทาง MAJOR จึงลดต่ำลงมาตาม แต่ถ้าดุในปี 2006 เทียบกับปี 2005 การโตของ Net Profit Margin ก็ดูดีขึ้น ซึ่งถ้าสามารถเพิ่ม Net Profit Margin ตามแนวโน้มของปีที่ผ่านมาก้น่าจะดีทีเดียว

พี่ๆว่าอย่างไรบ้างครับกับ MAJOR ผมยินดีน้อมรับทุกความคิดเห็นครับ และทุกคำว่ากล่าวครับ

ขอบคุณครับ  :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
metro
Verified User
โพสต์: 861
ผู้ติดตาม: 0

ถามเล่นๆครับ MAJOR จะโตและยิ่งใหญ่แบบ CPN ได้หรือไม่ครับ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ผมลืมเรื่องการแปลงสภาพ ESOP นะครับ MAJOR มี ESOP ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์กว่าๆนะครับ ราคาแปลงอยู่ที่ 12-13 บาทกว่าๆครับ ซึ่งผมขอเป็นวันหลังจะมาสรุปให้ฟังโดยละเอียดอีกทีครับว่ามีหุ้น ESOP ที่แปลงไปแล้วเท่าไร และ รอการแปลงอีกเท่าไรครับ ต้องขอโทษด้วยครับพอดีพรุ่งนี้ต้องเดินทางไกลแต่เช้าครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
metro
Verified User
โพสต์: 861
ผู้ติดตาม: 0

ถามเล่นๆครับ MAJOR จะโตและยิ่งใหญ่แบบ CPN ได้หรือไม่ครับ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ป.ล. ผมมีหุ้นตัวนี้บ้างนะครับ แต่คิดเป็นแค่ 10 กว่าเปอร์เซ็นต์ของพอร์ตครับ
โพสต์โพสต์