ผลตอบแทนทบต้น
-
- Verified User
- โพสต์: 178
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 1
ผมได้อ่านเรื่องผลตอบแทนทบต้นจะทำให้พอรท์โตเร็วอย่างไม่คาดคิด แต่สงสัยบางข้อขอคำแนะนำหน่อยครับ
สมมุติว่าปีนี้พอรท์ผมโตขึ้น 20% ผมจำเป็นต้องขายส่วนที่เป็นผลกำไร 20% มาทบต้น หรือถือเก็บไว้ดูว่ามีโอกาสโตอีกถึง 20% ต่อครับ
แล้วในเคสที่ต้องขายส่วนกำไรมาซื้อทบต้น ถ้าซื้อหุ้นที่เรามีอยู่แล้วจะไปเพิ่มค่าเฉลี่ยซื้อเปล่าๆหรือไม่ หรือต้องเลือกหุ้นใหม่แล้วพยายามทำให้ได้ 20% อีกครับ
ขอบคุณครับ
สมมุติว่าปีนี้พอรท์ผมโตขึ้น 20% ผมจำเป็นต้องขายส่วนที่เป็นผลกำไร 20% มาทบต้น หรือถือเก็บไว้ดูว่ามีโอกาสโตอีกถึง 20% ต่อครับ
แล้วในเคสที่ต้องขายส่วนกำไรมาซื้อทบต้น ถ้าซื้อหุ้นที่เรามีอยู่แล้วจะไปเพิ่มค่าเฉลี่ยซื้อเปล่าๆหรือไม่ หรือต้องเลือกหุ้นใหม่แล้วพยายามทำให้ได้ 20% อีกครับ
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 2
เอางี้สิครับ ทุกๆสิ้นปีก็ให้ปรับต้นทุนใหม่เป็นราคาตลาดของสิ้นปีนั้นๆ ทีนี้ต้นปีแต่ละปีคุณก็ดูว่าไอ้ที่เรามีอยู่อ่ะจะโตได้อีกเท่าไหร่ตอนสิ้นปี อาจจะเป็นหุ้นตัวเดิมหรือตัวใหม่ก็ได้ แต่ต้องดูว่าพอร์ตรวมจะโตได้เท่าไหร่ อย่าไปยึดติดกับขนาดของทุนเริ่มแรกครับ ต้องปรับทุกปี
ยกตัวอย่างสมมติหุ้น A ทุนเรา 7 บาท ขึ้นไป 12 บาท เราตั้งเป้าไว้ 15 ก็มี gap ให้ขึ้นจาก 12 ไป 15 อีก 25% ไม่ใช่ดูจากต้นทุนเริ่มแรกที่ 7 บาท ถ้าคิดงี้ได้ตลอด ก็จะสามารถใช้การทบต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเปลี่ยนหุ้นหรือไม่นั้นขึ้นกับวิธีการและเป้าหมายของแต่ละคนครับ
งงมั๊ยเนี่ย เวลาพิมอะไรยาวๆหน่อยนี่รู้เลยนะว่าความคิดผมมันสับสนปนเปมากๆ จะเรียบเรียงอะไรสวยๆเข้าใจง่ายๆนี่ไม่เป็นกะเค้าเร้ยยย ....
ยกตัวอย่างสมมติหุ้น A ทุนเรา 7 บาท ขึ้นไป 12 บาท เราตั้งเป้าไว้ 15 ก็มี gap ให้ขึ้นจาก 12 ไป 15 อีก 25% ไม่ใช่ดูจากต้นทุนเริ่มแรกที่ 7 บาท ถ้าคิดงี้ได้ตลอด ก็จะสามารถใช้การทบต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนจะเปลี่ยนหุ้นหรือไม่นั้นขึ้นกับวิธีการและเป้าหมายของแต่ละคนครับ
งงมั๊ยเนี่ย เวลาพิมอะไรยาวๆหน่อยนี่รู้เลยนะว่าความคิดผมมันสับสนปนเปมากๆ จะเรียบเรียงอะไรสวยๆเข้าใจง่ายๆนี่ไม่เป็นกะเค้าเร้ยยย ....
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3645
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 3
ไม่จำเป็นต้องขาย ถ้าเราดูว่าราคามีโอกาสขึ้นได้อีก 20% และเป้าหมายของคุณคือไม่น้อยกว่า 20% นอกจากเจอตัวที่น่าจะขึ้นเยอะกว่าAiBook เขียน:
สมมุติว่าปีนี้พอรท์ผมโตขึ้น 20% ผมจำเป็นต้องขายส่วนที่เป็นผลกำไร 20% มาทบต้น หรือถือเก็บไว้ดูว่ามีโอกาสโตอีกถึง 20% ต่อครับ
ก็เหมือนข้างบนครับ ดูเอาว่าตัวเดิมให้เราได้มั๊ย 20% ถ้าไม่ได้ก็คงต้องหาตัวใหม่AiBook เขียน:
แล้วในเคสที่ต้องขายส่วนกำไรมาซื้อทบต้น ถ้าซื้อหุ้นที่เรามีอยู่แล้วจะไปเพิ่มค่าเฉลี่ยซื้อเปล่าๆหรือไม่ หรือต้องเลือกหุ้นใหม่แล้วพยายามทำให้ได้ 20% อีกครับ
ขอบคุณครับ
It's earnings that count
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 5
ราคาที่ซื้อครับ แล้วผสมกับราคาของหุ้นเดิมที่ตอนต้นปี :DAiBook เขียน:ขอบคุณมากครับ
แล้วสมมุติผมจะเพิ่มจำนวนหุ้นด้วยการซื้อเพิ่มในปีถัดไป ก็ควรจะคำนวนต้นทุนในราคาของปีถัดไปที่ทบต้นแล้ว หรือปีปัจจุบันที่ราคาต่ำกว่าดีครับ
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
- Little Boy
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1318
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 6
ตัวอย่าง ซื้อหุ้น A 100 หุ้น ราคาทุน 5 บาท สิ้นปีราคา 10 บาทAiBook เขียน:ขอบคุณมากครับ
แล้วสมมุติผมจะเพิ่มจำนวนหุ้นด้วยการซื้อเพิ่มในปีถัดไป ก็ควรจะคำนวนต้นทุนในราคาของปีถัดไปที่ทบต้นแล้ว หรือปีปัจจุบันที่ราคาต่ำกว่าดีครับ
ปีถัดมา ซื้อหุ้น A เพิ่ม 100 หุ้น ราคาซื้อ 20 บาท
ดังนั้นต้นทุนใหม่ก็จะเป็น (100x10) + (100x20)
ส่วนผลต่างของราคาจาก 5 ไป 10 ถือเป็นกำไรในปีแรก
คิดไปคิดมา หุ้น A นี่น่าซื้อแฮะ คำนวนง่าย กำไรเยอะ
ความรู้..อาจมีขอบเขตจำกัด แต่จินตนาการ..ไร้ขีดจำกัด
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ผลตอบแทนทบต้น
โพสต์ที่ 9
แฮ่ะๆ ไม่ได้ตามเลยเดี๋ยวขอไปดูหน่อยnaris เขียน:A ก็อารียาไง รวยTRCจนเบลอแล้วนะคุณซันไลซ์
trc ได้นิดเดียวครับ พอร์ตมันเล็ก แต่ใจสู้นะ เดี๋ยวทบต้นไปนานๆก็รวยเอง :lol:
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่