ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

Re: ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 31

โพสต์

Blueblood เขียน:2. กำไรปกติมีแนวโน้มเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% เอาแค่ปี 51 กับ 52 สองปีข้างหน้าพอครับ หลังจากนั้นยังไม่ต้องพูดถึงครับ แต่อนาคตปี 51 กับ 52 ต้องชัดพอควรนะครับ
แล้วหลังจากปี 52
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

Re: ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 32

โพสต์

chatchai เขียน:
แล้วหลังจากปี 52
It's earnings that count
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 33

โพสต์

Blueblood เขียน: เห็นด้วยเลยครับพี่เจ๋ง แล้วคิดดูว่าถ้าเราซื้อหุ้นที่มี growth สม่ำเสมอ(สมมติว่าสม่ำเสมอจริงสัก 5 ปี) ในระดับราคา p/e ต่ำกว่า 7 แล้วอนาคตตลาดเห็นว่าควรจะให้ p/e เพิ่มดูสิครับ
เห็นด้วยครับในระยะยาวถ้าโต 20 % ไปเรื่อยๆ
ผมหมายถึงในระยะสั้น 2 ปี
ผมหมายถึงหลังจากปีที่ 3 growth เท่ากันนะครับ
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 34

โพสต์

PE Growth
20 20 50%
year total Price EPS dividend
1 20 1 0.5
2 1.2 0.6
3 1.44 0.72
4 1.73 0.86
5 2.07 1.04
6 2.49 1.24
7 2.99 1.49
8 3.58 1.79
9 4.30 2.15
10 116.17 103.20 5.16 2.58


PE Growth
5 5 50%
year total Price EPS dividend
1 20 4 2
2 4.2 2.1
3 4.41 2.21
4 4.63 2.32
5 4.86 2.43
6 5.11 2.55
7 5.36 2.68
8 5.63 2.81
9 5.91 2.95
10 56.68 31.03 6.21 3.10

อันนี้เปรียบเทียบต้นทุน 20 บาทเท่ากันและมีได้ปันผลครับ(แต่ไม่ได้คิดดอกเบี้ยของปันผล) PE 20 ได้มากกว่า PE 5 ประมาณ 1 เท่าครับ
chode
Verified User
โพสต์: 592
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 35

โพสต์

อันบนไม่ชัดเจนครับ


PE Growth
20 20 50%
year total Price EPS dividend
1 20.5 20 1 0.5
2 25.1 24 1.2 0.6
3 30.62 28.80 1.44 0.72
4 37.24 34.56 1.73 0.86
5 45.19 41.47 2.07 1.04
6 54.73 49.77 2.49 1.24
7 66.18 59.72 2.99 1.49
8 79.91 71.66 3.58 1.79
9 96.40 86.00 4.30 2.15
10 116.17 103.20 5.16 2.58


PE Growth
5 5 50%
year total Price EPS dividend
1 22 20 4 2
2 25.1 21 4.2 2.1
3 28.36 22.05 4.41 2.21
4 31.77 23.15 4.63 2.32
5 35.36 24.31 4.86 2.43
6 39.13 25.53 5.11 2.55
7 43.09 26.80 5.36 2.68
8 47.24 28.14 5.63 2.81
9 51.60 29.55 5.91 2.95
10 56.68 31.03 6.21 3.10

ขอโทษนะครับที่ทำให้กระทู้หาหุ้นดี กลายเป็นกระทู้คุยเรื่อง PE
Popmc
Verified User
โพสต์: 217
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 36

โพสต์

หุ้นน้ำมันปาล์ม UPOIC เข้าข่ายไหมครับ?

- พื้นที่ปลูกอันดับ 1
- ราคาน่าจะตามราคาน้ำมัน
- PE เกิน 10 หรือเปล่าเนี่ย
- หนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับเงินสด

... แต่ไม่รู้จะคาดการณ์ผลผลิตยังไงนี่สิครับ
... No more hobbies! Remember!
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 37

โพสต์

ขอเล่นด้วยคนครับ... เสนอหุ้นเข้าร่วมแจมด้วย 4 ตัวดังนี้ tr ptl prin ilink

- tr ธุรกิจเด่นคู่แข่งเข้ายาก ต้นทุนต่ำ ขยายธุรกิจจนจะครบ supply chain แล้ว เมื่อครบทั้งหมดเมื่อไหร่ เรื่องต้นทุนผันผวนนี่หมดปัญหาไปเลย และต้นทุนจะยิ่งต่ำลงไปอีก กำไรมีแนวโน้มโต 20% ต่อปีผมก็ว่าผ่าน เพราะมีแผนขยายกำลังการผลิตทั้งแนวนอนและแนวตั้งอีกมาก และยังเพิ่มไปทำสินค้า Value Added ด้วย pe ปี 50 ประมาณ 6 เท่า งบการเงินแข็งแกร่งโคตรรรร กล้าท้าเลย sunrise ถือยังไงก็ไม่เพิ่มทุน สรุปเข้าเกณฑ์ทุกข้อ

- ptl คล้าย tr เลย ต้นทุนต่ำเป็นอันดับต้นๆของโลก กำลังการผลิตเป็นอันดับ 3 แนวโน้มการเติบโตก็ชัดเจนอย่าว่าแต่ 20% 2ปีเลย ผมว่าซัก 30% ยังน่าจะไหวอยู่ เพราะขยายกำลังการผลิตชัดเจนในปี 51 พวก Metalized และปี 52 ก็จะมี cpp มาอีกก้อนเบ้อเริ่ม เรื่องเพิ่มทุนผมว่าไม่มีแน่เหมือนกัน เพราะผู้บริหารชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนเลยว่าแหล่งเงินทุนในการลงทุนตามแผนทั้งหมดนั้นมาจากไหน pe ปี 50 น่าจะอยู่ประมาณ 5.7 เท่า สรุปเข้าเกณฑ์ทุกข้อเช่นกัน

- prin มีตำแหน่งทางการแข่งขันอาจจะยังไม่ชัดมาก แต่เริ่มชัดขึ้นเรื่อย จุดเด่นคือการเลือกทำเลและการ pricing แนวโน้มการเติบโตเกิน 20% ค่อนข้างมั่นใจ จากโครงการที่เปิดๆมาในปีที่แล้วเป็นฐานของทั้งปี 51 และ 52 ได้พอควร Backlog มีรอสำหรับปี 51 แบบชิวๆ ส่วนปี 52 ก็มีโครงการคอนโดพระราม 2 ซึ่งก็ขายค่อนข้างดี และยังมีอีกหลายโครงการที่จะเปิดในปีนี้ จากที่ดูๆก็มีทำเลที่ดี ราคาโอเค น่าจะเป็นฐานปี 52 ได้ไม่ยาก เพราะงั้นข้อ 2 ผ่าน p/e ปี 50 นี่ไม่รู้เท่าไหร่เหมือนกัน แต่ไม่ผ่านแน่ๆ เพราะกำไรต่ำสุดๆ ถ้าอนุโลมเป็น pe ปี 51 ได้ก็ถือว่าน่าจะผ่านสบายๆ อีกอย่างเรื่องเพิ่มทุนนั้นก็ไม่ผ่าน เพราะเพิ่มแน่ๆ แต่น่าจะอนุโลมได้ เพราะจะเป็นการเพิ่มทุนที่ผู้ถือหุ้นไม่ต้องควักตังค์ และแม้จะเกิด dillution จากหุ้นเพิ่มทุนก็ไม่น่าจะเป็นไร.. เพราะไอ้ pe ที่คิดๆกันนั้นรวมผลเป็น fully dilute ไปเรียบร้อยแล้ว สรุปแล้วผ่านบางข้อ บางข้อก็ตกแบบเฉียดๆ ถือว่าเอาไว้ติดตามละกันครับ

- ilink ตัวสุดท้ายลูกรักตัวเก่า การแข่งขันก็ไม่น่าจะมีปัญหา เพราะมีส่วนแบ่งการตลาดอันดับต้นๆในธุรกิจสาย และการแข่งขันในการประมูลงานเองก็มีประสบการณ์งานใหญ่ๆหลายงานเหมือนกัน และโอกาสที่ประมูลงานได้ที่ผ่านมาก็ค่อนข้างดี ข้อ 1 โอนะ ข้อ 2 เรื่องการเติบโต 20% 2 ปีนี่ผมประเมินจากว่างานลงทุนโทรคมนาคมนี่เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในช่วงปีที่ผ่านมาณรัฐใส่เกียร์ว่างแบบสุดๆ เพราะฉะนั้นในแง่การลงทุนพวกนี้มันจะอั้นๆมาปูดเอาปีนี้ปีหน้าซะเยอะ โอกาสโตได้ซัก 20% ในปี 51 นี่ผมว่าชิวๆ เพราะ Backlog ก็มีแบบสบายๆแล้วเหมือนกัน ส่วนปี 52 ก็ไปลุ้นเอาจากที่ผมบอกว่างานมันอั้นมานาน pe ปี 50 ผ่านแบบฉิวเฉียด 7 เท่าพอดี เรื่องเพิ่มทุนไม่มีปัญหา หนี้ก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว เงินก็ยังเหลือ (เพราะเพิ่มทุนไปก่อนหน้าแล้ว เพิ่มไปทำม๊ายยยยเนี่ย) สรุปแล้ว... ผ่านทุกข้อเช่นกัน

ปล. ผมมีมันทั้ง 4 ตัวเลยนะครับ
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
hagrid
Verified User
โพสต์: 566
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 38

โพสต์

คุณ yoyo วิเคราะห์แล้วน่าซื้อทั้ง 4 ตัวมากเลยครับ

แต่ส่งสัยผมต้องขอผ่าน เพราะผมลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมทีไร

มักไม่ค่อยได้กำไรสักที

คุณ yoyo ไม่สนใจกลุ่มบริการ(รพ. โรงแรม ร้านค้าปลีก และอื่นๆ) บ้างหรือครับ

ส่วนตัวผมว่าเป็นกลุ่มที่วิเคราะห์ง่ายดี เพราะถ้าสนใจตัวไหน

เราก็ไปใช้บริการดู ซึ่งทำให้เราสัมผัสได้ถึงบริการที่เขาส่งมอบให้เรา และติดตามต่อเนื่องได้เรื่อยๆ

ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เรามีโอกาสได้เข้าถึงสินค้าของเขายากเต็มที
ส่วนพวกที่สามารถใช้สินค้าได้ ก็มักกำไรผันผวนตามราคาวัตถุดิบอยู่บ่อยๆ
ภาพประจำตัวสมาชิก
newbie_12
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 2912
ผู้ติดตาม: 1

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 39

โพสต์

เข้ามาลอกการบ้านคุณ yoyo ครับ
13@LL
Verified User
โพสต์: 33
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 40

โพสต์

WG น่าจะผ่านข้อแม้เกือบทุกข้อ ติดที่ข้อ2ที่ไม่สามารถเดาได้ว่าจะเกิน 20%หรือไม่ แต่ถ้าดูย้อนหลัง ปี 2005 โต 26% ปี2006 โต 15% ปี2007 ก็น่าจะโตอีกซัก 25% ดูแล้วอีกสองปีข้างหน้าก็ไม่น่าจะขี้เหร่เท่าไหร่ครับ
mprandy
Verified User
โพสต์: 1992
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 41

โพสต์

13@LL เขียน:WG น่าจะผ่านข้อแม้เกือบทุกข้อ ติดที่ข้อ2ที่ไม่สามารถเดาได้ว่าจะเกิน 20%หรือไม่ แต่ถ้าดูย้อนหลัง ปี 2005 โต 26% ปี2006 โต 15% ปี2007 ก็น่าจะโตอีกซัก 25% ดูแล้วอีกสองปีข้างหน้าก็ไม่น่าจะขี้เหร่เท่าไหร่ครับ
เออจิง... มองข้าม WG ไปได้ยังไงหว่า

เกณฑ์ข้อ 2 อย่างที่ว่า มันยาก แต่อาจจะทำได้ +/- ส่วนที่เหลือ ผ่านหมดทุกข้อ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 42

โพสต์

หนี้ก็ไม่ค่อยมีอยู่แล้ว
รอบที่แล้วก็ไม่มีหนี้เลยนะครับ หัวทิ่มบ่อกันเป็นแถวๆเลย รวมผมด้วย -_-'
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
ภาพประจำตัวสมาชิก
Alastor
Verified User
โพสต์: 2590
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 43

โพสต์

mprandy เขียน: เออจิง... มองข้าม WG ไปได้ยังไงหว่า

เกณฑ์ข้อ 2 อย่างที่ว่า มันยาก แต่อาจจะทำได้ +/- ส่วนที่เหลือ ผ่านหมดทุกข้อ
ถ้าจำไม่ผิด wg ขายสินค้าให้อีก 4 industry คงต้องไปดูว่าลูกค้าของ wg จะโตได้แค่ไหน
Wir sind das Rar, der Stolz und der Wert
ภาพประจำตัวสมาชิก
เด็กตัวเล็กๆ
Verified User
โพสต์: 98
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 44

โพสต์

มานั่งฟังพวกพี่ๆเซียนวิเคราะห์ 8)
STAY CALM & STAY INVEST
MrRobot
Verified User
โพสต์: 1291
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 45

โพสต์

Blueblood เขียน:ได้หลายตัวเลยแฮะ เดี๋ยวเข้าไปถกด้วยในร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ

TR, TCB, DRACO, TPAC, BAT-3K, TWFP, PTL

เอาอีกครับๆ :)
โอพี่น้องตระกูล T- มาเเรงมักๆ
VI Robot The Great
ภาพประจำตัวสมาชิก
yoyo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 4833
ผู้ติดตาม: 1

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 46

โพสต์

hagrid เขียน:คุณ yoyo วิเคราะห์แล้วน่าซื้อทั้ง 4 ตัวมากเลยครับ

แต่ส่งสัยผมต้องขอผ่าน เพราะผมลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมทีไร

มักไม่ค่อยได้กำไรสักที

คุณ yoyo ไม่สนใจกลุ่มบริการ(รพ. โรงแรม ร้านค้าปลีก และอื่นๆ) บ้างหรือครับ

ส่วนตัวผมว่าเป็นกลุ่มที่วิเคราะห์ง่ายดี เพราะถ้าสนใจตัวไหน

เราก็ไปใช้บริการดู ซึ่งทำให้เราสัมผัสได้ถึงบริการที่เขาส่งมอบให้เรา และติดตามต่อเนื่องได้เรื่อยๆ

ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมส่วนใหญ่ เรามีโอกาสได้เข้าถึงสินค้าของเขายากเต็มที
ส่วนพวกที่สามารถใช้สินค้าได้ ก็มักกำไรผันผวนตามราคาวัตถุดิบอยู่บ่อยๆ
ความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกันมั๊งครับ... ผมเองนี่ถ้าให้ไปเล่นหุ้นกลุ่มบริการที่ก็ฝืดเหมือนกัน... บอกตรงๆว่าผมคาดการณ์พวกกลุ่มนี้ไม่ออกจริงๆ.... อย่าง รพ. ผมก็นึกคาดการณ์ไม่ค่อยได้ว่ารพ.จะมีคนมาเข้าเยอะน้อยแค่ไหนทำรายได้เท่าไหร่.. รร. นี่ก็ดูจะกระทบไปซะทุกเรื่อง หวัดนกก็เคยโดน ซึนามิก็มาแล้ว โดนระเบิดก็อีก การเมืองไม่นิ่ง... มีเรื่องให้ใจหายได้ตลอด ค้าปลีกดูจะเป็นตัวที่เข้าใจง่ายที่สุดแล้ว แต่ก็ดั๊นเป็นพวกที่ราคาแพงสุดๆเหมือนกัน....

ผมว่าบางทีการที่สินค้าเป็นที่รู้จักมากเกินไปหรือว่าเข้าใจได้ง่ายมากๆก็เป็นข้อเสียได้อย่างหนึงในการลงทุนเหมือนกันนะครับ... เพราะความที่คนรู้จักสินค้ากันเยอะ หรือหุ้นเข้าใจง่ายมากๆ.. หุ้นนั้นๆก็จะมีคนมาสนใจได้เยอะ.. พอคนสนใจเยอะๆนี่โอกาสที่เราจะได้ของราคาถูกนั้นก็ยากมากเช่นกัน...

ลองสังเกตุดูซิครับ หุ้นไหนที่สินค้าหรือบริการเป็นที่รู้จักกันเยอะ.. มักจะมี pe ที่สูงกว่าตัวอื่นพอสมควรเลย... cpall bigc se-ed makro bh bgh mcot mint centel ฯลฯ สุดท้ายผมก็เลยยอมซื้อหุ้นที่เข้าใจได้ยากกว่า... (แต่ก็พยายามทำความเข้าใจมัน) แต่ซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามากๆดีกว่าครับ... หุ้นบริการนี่ผมจะหา pe ต่ำกว่า 10 ได้ซักตัวนี่คงยากมากๆ... พูดมาแต่ละตัวนี่ 15 เท่า up กันทั้งนั้น... แต่หุ้นอุตสาหกรรมที่ผมชอบเล่นนี่จะหาหุ้น pe ต่ำกว่า 7-8 เท่านี่มีให้เห็นเกลื่อนกลาดเลยครับ มองแค่ pe ก็ถูกกว่ากันครึ่งนึงแล้ว
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
ภาพประจำตัวสมาชิก
hagrid
Verified User
โพสต์: 566
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 47

โพสต์

yoyo wrote :
สุดท้ายผมก็เลยยอมซื้อหุ้นที่เข้าใจได้ยากกว่า... (แต่ก็พยายามทำความเข้าใจมัน) แต่ซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ามากๆดีกว่าครับ...

ถ้าอย่างนั้นคุณ yoyo คงต้องใช้เวลาและแรงงานในการเข้าถึงข้อมูลมากเลยใช่ไหมครับ

สงสัยที่ผมลงทุนกลุ่มนี้แล้วไม่รุ่ง เพราะไม่มีเวลาและความพยายามในการเข้าถึงข้อมูลที่มากพอ

ส่วนกลุ่มบริการนั้นผมอาศัยการเข้าถึงข้อมูลในชีวิตปกติ เช่น การไปกินข้าวนอกบ้าน การไปซื้อของกินของใช้กับครอบครัว การเลือกซื้อหนังสือ/CD
การซื้อของตกแต่งบ้าน เลยเหมือนไม่ต้องลงแรงและเสียเวลามาก
ในการเข้าใจบริการต่างๆ
jengi11
Verified User
โพสต์: 2
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 48

โพสต์

[quote="สามัญชน"]มานั่งรอฟังด้วยครับ
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 49

โพสต์

หมดแล้วเหรอครับ ? (มาขอลอกการบ้านเค้ายังมาทวงอีก  :lol: )

สงสัยต้องรอ set ลงไป 700 อีกรอบ :)

:bow:  ขอบคุณทุกท่านมากครับ ลดแรงผมไปได้เยอะเลย

ป.ล. ใครมีแนะนำอีกเชิญเลยนะครับ โลภครับ ได้เรื่อยๆ :P
It's earnings that count
burengnong
Verified User
โพสต์: 934
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 50

โพสต์

pg พอจะเข้าไหมครับ blueblood  ขายสินค้าของ ลาคอส มียี่ห้อ ที่ปรับราคาขายได้เรื่อยๆที่ผ่านมารายได้เติบโตมาตลอด ปีนี้ ไตรมาส 1  และ 2 กำไรโตประมาณเกือบ 20% มีตไรมาส 3 ที่กำไรลดลง 36% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปํญหาชั่วคราวรึเปล่า ถ้าเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ โอกาสที่กำไรจะโตประมาณ 20%ได้ในปี 51 และ 52 ได้  ตอนนี้ pe ก็ประมาณ 7 กว่าๆ งบการเงินโคตรแกร่ง
Blueblood
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 3645
ผู้ติดตาม: 1

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 51

โพสต์

[quote="burengnong"]pg พอจะเข้าไหมครับ blueblood
It's earnings that count
burengnong
Verified User
โพสต์: 934
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 52

โพสต์

pg พึ่งเพิ่มทุนมาหมาดๆเพื่อทำโรงงานใหม่ซึ่งของเดิมเต็มการผลิต เริ่มเปิดดำเนินการแล้วโรงงานใหม่นี้ โอกาสเพิ่มทุนในช่วง 3-5 ปีนี้คงน้อยมากๆ แต่หุ้นสภาพคล่องไม่ค่อยมี ซื้อยากขายยาก
burengnong
Verified User
โพสต์: 934
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 53

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

burengnong wrote: 
pg พอจะเข้าไหมครับ blueblood  ขายสินค้าของ ลาคอส มียี่ห้อ ที่ปรับราคาขายได้เรื่อยๆที่ผ่านมารายได้เติบโตมาตลอด ปีนี้ ไตรมาส 1  และ 2 กำไรโตประมาณเกือบ 20% มีตไรมาส 3 ที่กำไรลดลง 36% เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ซึ่งเป็นปํญหาชั่วคราวรึเปล่า ถ้าเศรษฐกิจในประเทศกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ โอกาสที่กำไรจะโตประมาณ 20%ได้ในปี 51 และ 52 ได้  ตอนนี้ pe ก็ประมาณ 7 กว่าๆ งบการเงินโคตรแกร่ง 


ตัวนี้ไม่เคยดูเลยครับ ไม่รุ้ว่าโดนผลกระทบเรื่องวัตถุดิบราคาขึ้นป่าวครับ ? 
ต้นทุนวัตถุดิบมีผลกระทบน้อย สามาร๔ปรับราคาขายได้ตามต้นทุนครับ แต่ที่กำไรลดลงที่ผ่านมาจากเศรษฐกิจชะลอตัวลง ทำให้ยอดขายลดลงครับ แต่ดูข้อมูลย้อนหลัง npm ประมาณ 13% ครับ roa roe > 15 ตลอด ใน 5 ปีย้อนหลัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
BOONPARUEY
Verified User
โพสต์: 184
ผู้ติดตาม: 0

ว่างๆมาช่วยกันกรองหุ้นดีกว่าครับ

โพสต์ที่ 54

โพสต์

...    :cheers:  :cool:  :man:    ...
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท "  พุทธตรัส ...