ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
-
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 1
ผมขอพิมพ์มาเพียงบางส่วนนะครับ พิมพ์ลำบาก(น่าจะเรียกว่าจิ้มดีดมากกว่า)เหลือเกิน ลองพิจารณาดูนะครับ เป็นข้อมูลเก่าที่เคยลงตีพิมพ์ทางกรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันอาทิตย์ มี.ค. 43
จะเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดด้วยตัวเองได้อย่างไร
How to be (an intelegent ) 'DIY Invester'
กรุงเทพธุกิจ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2543
เป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจะต้องเข้าใจ "ทฤษฎีเบื้องหลัง" ยุทธศาสตร์การลงทุนของ "วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์" และถ้าคุณคิดว่ากลยุทธ์นี้ฟังดูดีมีเหตุผล คุณก็สามารถนำไปปรับใช้ด้วยตัวคุณเอง ต่อไปนี้คือเทคนิคง่ายๆ
1. ประการแรก ลองไล่ดูตารางหุ้นของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับวันจันทร์ ในแถว ROE หรืออัตราตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้น แล้วเลือกบริษัทที่มีค่า ROE สูงกว่า 15 % ขึ้นไปออกมา ตัวเลขยิ่งมากก็ยิ่งแสดงว่าบริษัทนั้นๆอาจจะมีการบริหารกิจการที่ดี และ/หรือมีความสมดุลทางธุรกิจ (Business Equation) ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้บริษัททำอัตราตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้นสูงกว่า 15 % ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
2. ประการที่สอง กำจัดบริษัทที่มีค่า P/E สูงกว่า 7 เท่าออกไปเสีย เพราะถ้าเราเลือกเฉพาะบริษัทที่ทำกำไรได้มากกว่า 1 ใน 7 ของราคา การถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวก็จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่ำ 15% ของราคาที่คุณจ่ายออกไป
3. ประการต่อมา คุณต้องทำการค้นคว้าเล็กน้อย (อาจจะเป็นของใหม่สำหรับนักลงทุนบางท่าน) คุณควรจะเข้าไปดูเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพท์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th) และเมื่อคลิกเข้าไปในหัวข้อ HightLight คุณจะพบข้อมูลผลการดำเนินงานของกิจการบริษัทตั้งแต่ปี พ.ศ.2537-2541 สิ่งแรกที่ต้องดูก็คือ ดูว่า ROE นั้น อยู่ในอัตราสูงอย่างไม่เปลี่ยนแปลงหรือไม่ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขของปี 2542 สามารถเข้าไปดูได้โดยคลิกที่ Financial statement แม้ว่าประวัติศาสตร์จะไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด แต่ก็อาจจะเป็นแนวทางที่ดี หรือสามารถนำมาเป็นเครื่องประกันถึงอนาคตได้บ้าง
4. ประการที่ 4 kt (ไม่เข้าใจความหมายเหมือนกัน - ผู้คัดลอก)
5. สิ่งต่อไปที่ควรจะดูก็คือ การเจริญเติบโตของรายได้ หากพบว่ามันเป็นไปได้ด้วยดี ก็อนุญาตให้คุณเริ่มชอบเจ้าบริษัทนี้ได้บ้าง
6. ประการต่อไปที่คุณควรตรวจดูก็คือว่า บริษัทมีอัตรากู้ยืมที่สูงเมื่อเทียบกับการลงทุนหรือไม่ การกู้ยืมเป็นสิ่งดีสำหรับบริษัทที่ดี เพราะว่าจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น จากการที่นำเงินที่กู้ยืมไปลงทุนเพิ่มในกิจการ รายได้ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะสูงกว่าปริมาณดอกเบี้ยที่บริษัทจะต้องจ่าย อย่างไรก็ดี เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า บริษัทที่ดีนั้น ย่อมรักษาระดับหนี้ให้ต่ำกว่าระดับส่วนของทุนได้เสมอ
7. เทคนิคสุดท้ายเพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักลงทุนอาชีพ ก็คือ การย้อนกลับไปดูข้อมูล และตรวจสอบไปถึงภาพลักษณ์และบุคคลิก ลักษณะของผู้บริหาร จงจำไว้ว่า "ความซื่อสัตย์"เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับการบริการจัดการ ผู้บริหารที่มีความซื่อตรง จะทำตนเป็นเสมือนเจ้าของบริษัท เขาจะไม่ใช้จ่ายสินทรัพย์ในส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างสุรุ่ยสุร่าย อย่างไม่ระมัดระวังและจะให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน
น่าเสียดายที่ว่ากิจการของคนไทยส่วนใหญ่ จะบริหารงานโดยสมาชิกของคนในครอบครัวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งบริษัทที่มีลักษณะเช่นนี้ จำเป็นต้องถูกสงสัยไว้ให้มาก นอกจากนั้นผู้บริหารที่มีแบคกราวด์ที่น่าสงสัย อาจจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนเองในการหาประโยชน์ส่วนตัวด้วยเล่ห์เพทุบาย ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ถือหุ้นส่วนน้อย I
I (ขอข้ามข้อความส่วนนี้)
I
พร้อมๆกันนี้คุณก็ควรคัดเอาบริษัทที่มีค่า ROE ที่ไม่แน่นอน หรือค่า ROE สูง ที่เกิดจากการกู้ยืมเป็นจำนวนมากหรือบริษัทที่มียอดขายคงที่และมีแนวโน้มที่จะตกต่ำออกไป ที่จริงเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วคุณจะพบว่า การเลือกหุ้นนั้นหลักใหญ่ก็คือการเลือกของเสียทิ้งและของดีจะถูกคัดเลือกไปเรื่อยๆจนพบของที่มีตำหนิน้อยที่สุด
สุดท้ายนักลงทุนจะสามารถคัดเลือกหุ้นได้ด้วยตัวของคุณเอง คุณอาจจะใช้ความรู้ของคุณที่มีเกี่ยวกับสินค้าของบริษัทนั้นๆประกอบการตัดสินใจไปด้วย ถึงขั้นนี้คุณอาจจะต้องไปห้องสมุดของตลาดหลักทรัพย์เพื่ออ่านรายงานประจำปีของบริษัทต่างๆ และดูข้อมูลของบริษัทจากระบบอินทราเน็ตของห้องสมุด หากคุณไม่สะดวกในการใช้อินเตอร์เน็ต
ในท้ายที่สุดเมื่อผ่านการค้นคว้าวิจัยมาบ้างแล้ว คุณก็จะสามารถเลือกหุ้นลงทุนได้อย่างชาญฉลาดและอุ่นใจ เพราะรู้ว่าคุณกำลังซื้อหุ้นของบริษัทที่มีการบริหารกิจการที่ดี ในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังมีข้อมูลเบื้องหลังสนับสนุนเพียงพอ ที่คุณจะรู้ว่าบริษัทจะไปได้ไกลในอนาคต
แน่นอน ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ"ราคา" คุณควรจะชื่นใจเมื่อเห็นค่า P/E น้อยกว่า 4 เพราะนั่นคือรางวัลจากความพยายามของคุณ เนื่องจากหุ้นเหล่านั้นจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 25 % ของราคาหุ้นต่อปี
ยังมีบริษัทอีกมากมายในตลาดที่มีการซื้อ/ขายในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เมื่อคำนวณออกมาแล้วบางบริษัทให้ผลกำไรมากกว่า 20% จากเงินลงทุน "วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์"จะต้องอยากได้ ถ้าเห็นหุ้นอย่างนี้แน่ๆ นอกจากนั้นคุณจะยังได้รับโบนัสก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่ง ถ้าคุณลองตรวจดูช่องที่มีการจ่ายเงินปันผลในหุ้นที่มี P/E ต่ำในหนังสือพิมพ์ คุณจะพบว่าบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะจ่ายกำไรก้อนโตออกมาประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นเงินปันผล ซึ่งก็คือจะให้ผลตอบแทน 8%-15% ต่อปี ถ้าบริษัทจะกระทำเหมือนในปีที่ผ่านๆมา นักลงทุนก็จะได้เงินสดจากหุ้นเหล่านี้โดยเฉลี่ยคือ 10% ของราคาหุ้น นี่เพียงแค่โบนัสเท่านั้นนะครับ
เป็นการดีที่คุณจะเลือกหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำๆ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง และถ้าคุณพิจารณาแล้วว่าจะมีลู่ทางที่เหนือกว่า ไม่ว่าคุณจะซื้ออะไร บางครั้งมันก็คุ้มค่าถ้าจะจ่ายมากกว่าเพื่อคุณภาพ
เมื่อมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการเลือกสรรและคัดออก คุณคงกำลังดูหุ้นอยู่ซัก 1-2 โหลและส่วนใหญ่ก็จะเป็นของบริษัทที่มีกิจการส่งออก ผลของการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ทำให้บริษัทเหล่านี้มีสถานะที่มั่นคง ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญสภาวะการแข่งขันสูงกว่าในตลาดต่างชาติ และโดยมากจะดำเนินกิจการด้านธุรกิจการเกษตรหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านนี้
สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นคว้าด้วยตัวเอง ผมได้คัดเลือกบริษัทมาทั้งหมด 12 แห่ง ซึ่งอยู่ผ่านเกณฑ์ของ นักลงทุนที่ฉลาด ทฤษฎีการวิเคราะห์หลักทรัพย์ชี้ว่า Portfolio ที่ดีควรจะมีประมาณ 7-8 หุ้น เพราะการวิเคราะห์ทางสถิติแสดงให้ดห็นว่าประโยชน์ของการกระจายการลงทุนจะลดน้อยลงไปเมื่อเกินจุดนี้
I
I (ขอข้ามข้อความส่วนนี้)
I
อย่างไรก็ตาม ขอให้ท่านทำตามคำแนะนำของบัฟเฟตต์นะครับ จงรักษามุมมองทางธุรกิจไว้ในฐานะนักลงทุนระยะยาว คำถามที่สำคัญที่สุดควรจะถามตัวเองก็คือ บริษัทสามารถนำ Retained earning มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้หรือไม่ การผูกมัดเงินทุนของคุณกับบริษัทที่ไม่มีทั้งโอกาสและศักยภาพในการบริหาร Retained earning มีแต่จะทำให้เรือของคุณจอดนิ่งอยู่กลางน้ำ
อย่างไรก็ดี จงเลือกบริษัทที่สามารถทบต้นผลกำไรได้ แล้วการลงทุนของคุณจะเจริญรุ่งเรือง
- แนวทางการลงทุนของเดนนิส จะเน้นลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก เน้นเป้าหมายไปที่เงินปันผล มากกว่าส่วนต่างของราคาซื้อ-ขาย ดังนั้นหุ้นแต่ละตัวที่เขาซื้อจะถือไว้ประมาณ 4-5 ปี จึงจะตัดสินใจขายออกไป
บริษัทที่ปีเตอร์ เดนนิสคัดเลือกมาให้ (แนะนำเมื่อประมาณต้นปี 2543 )
- TUF ราคา 115 บาท ROE 38.1% D/E 0.45 P/BV 1.20 P/E 4.8
- TPCORP ราคา 23.75 บาท ROE 0.27% D/E 2.55 P/BV 0.56 P/E 2.10
- SFP ราคา 63 บาท ROE 0.20% D/E 0.1 P/BV 0.81 P/E 4.0
- CHOTI ราคา 128 บาท ROE 36.8% D/E 0.26 P/BV 0.96 P/E 1.80
- SFP ราคา 63 บาท ROE 0.20% D/E 0.1 P/BV 0.81 P/E 4.0
- UGP ราคา 53 บาท ROE 21.1% D/E 2.65 P/BV 0.7 P/E 5.0
- UF ราคา 17.5 บาท ROE 21.1% D/E 0.6 P/BV 0.68 P/E 3.4
- LEE ราคา 34 บาท ROE 44% D/E 1.0 P/BV 0.2 P/E 0.0
- CPF ราคา 141 บาท ROE 35.8% D/E 1.18 P/BV 0.6 P/E 2.10
- CM ราคา 34 บาท ROE 78.2% D/E 0.3 P/BV 1.05 P/E 3.10
- KWH ราคา 32 บาท ROE 23.8% D/E 0.8 P/BV 0.9 P/E 12.5
- CMBT ราคา 61 บาท ROE 0.37% D/E 0.77 P/BV 1.20 P/E 2.46
จะเป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาดด้วยตัวเองได้อย่างไร
How to be (an intelegent ) 'DIY Invester'
กรุงเทพธุกิจ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2543
เป็นสิ่งสำคัญมากที่คุณจะต้องเข้าใจ "ทฤษฎีเบื้องหลัง" ยุทธศาสตร์การลงทุนของ "วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์" และถ้าคุณคิดว่ากลยุทธ์นี้ฟังดูดีมีเหตุผล คุณก็สามารถนำไปปรับใช้ด้วยตัวคุณเอง ต่อไปนี้คือเทคนิคง่ายๆ
1. ประการแรก ลองไล่ดูตารางหุ้นของหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจฉบับวันจันทร์ ในแถว ROE หรืออัตราตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้น แล้วเลือกบริษัทที่มีค่า ROE สูงกว่า 15 % ขึ้นไปออกมา ตัวเลขยิ่งมากก็ยิ่งแสดงว่าบริษัทนั้นๆอาจจะมีการบริหารกิจการที่ดี และ/หรือมีความสมดุลทางธุรกิจ (Business Equation) ที่ดี ซึ่งจะช่วยให้บริษัททำอัตราตอบแทนในส่วนของผู้ถือหุ้นสูงกว่า 15 % ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา
2. ประการที่สอง กำจัดบริษัทที่มีค่า P/E สูงกว่า 7 เท่าออกไปเสีย เพราะถ้าเราเลือกเฉพาะบริษัทที่ทำกำไรได้มากกว่า 1 ใน 7 ของราคา การถือหุ้นของบริษัทดังกล่าวก็จะเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนอย่างต่ำ 15% ของราคาที่คุณจ่ายออกไป
3. ประการต่อมา คุณต้องทำการค้นคว้าเล็กน้อย (อาจจะเป็นของใหม่สำหรับนักลงทุนบางท่าน) คุณควรจะเข้าไปดูเวปไซต์ของตลาดหลักทรัพท์แห่งประเทศไทย (www.set.or.th) และเมื่อคลิกเข้าไปในหัวข้อ HightLight คุณจะพบข้อมูลผลการดำเนินงานของกิจการบริษัทตั้งแต่ปี พ.ศ.2537-2541 สิ่งแรกที่ต้องดูก็คือ ดูว่า ROE นั้น อยู่ในอัตราสูงอย่างไม่เปลี่ยนแปลงหรือไม่ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ส่วนตัวเลขของปี 2542 สามารถเข้าไปดูได้โดยคลิกที่ Financial statement แม้ว่าประวัติศาสตร์จะไม่ใช่คำตอบของทั้งหมด แต่ก็อาจจะเป็นแนวทางที่ดี หรือสามารถนำมาเป็นเครื่องประกันถึงอนาคตได้บ้าง
4. ประการที่ 4 kt (ไม่เข้าใจความหมายเหมือนกัน - ผู้คัดลอก)
5. สิ่งต่อไปที่ควรจะดูก็คือ การเจริญเติบโตของรายได้ หากพบว่ามันเป็นไปได้ด้วยดี ก็อนุญาตให้คุณเริ่มชอบเจ้าบริษัทนี้ได้บ้าง
6. ประการต่อไปที่คุณควรตรวจดูก็คือว่า บริษัทมีอัตรากู้ยืมที่สูงเมื่อเทียบกับการลงทุนหรือไม่ การกู้ยืมเป็นสิ่งดีสำหรับบริษัทที่ดี เพราะว่าจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น จากการที่นำเงินที่กู้ยืมไปลงทุนเพิ่มในกิจการ รายได้ที่จะเกิดขึ้นนั้นจะสูงกว่าปริมาณดอกเบี้ยที่บริษัทจะต้องจ่าย อย่างไรก็ดี เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่า บริษัทที่ดีนั้น ย่อมรักษาระดับหนี้ให้ต่ำกว่าระดับส่วนของทุนได้เสมอ
7. เทคนิคสุดท้ายเพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักลงทุนอาชีพ ก็คือ การย้อนกลับไปดูข้อมูล และตรวจสอบไปถึงภาพลักษณ์และบุคคลิก ลักษณะของผู้บริหาร จงจำไว้ว่า "ความซื่อสัตย์"เป็นสิ่งเดียวที่สำคัญที่สุดสำหรับการบริการจัดการ ผู้บริหารที่มีความซื่อตรง จะทำตนเป็นเสมือนเจ้าของบริษัท เขาจะไม่ใช้จ่ายสินทรัพย์ในส่วนของผู้ถือหุ้นอย่างสุรุ่ยสุร่าย อย่างไม่ระมัดระวังและจะให้ความสำคัญกับผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกัน
น่าเสียดายที่ว่ากิจการของคนไทยส่วนใหญ่ จะบริหารงานโดยสมาชิกของคนในครอบครัวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งบริษัทที่มีลักษณะเช่นนี้ จำเป็นต้องถูกสงสัยไว้ให้มาก นอกจากนั้นผู้บริหารที่มีแบคกราวด์ที่น่าสงสัย อาจจะใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตนเองในการหาประโยชน์ส่วนตัวด้วยเล่ห์เพทุบาย ซึ่งการปฏิบัติดังกล่าวเป็นการเอารัดเอาเปรียบผู้ถือหุ้นส่วนน้อย I
I (ขอข้ามข้อความส่วนนี้)
I
พร้อมๆกันนี้คุณก็ควรคัดเอาบริษัทที่มีค่า ROE ที่ไม่แน่นอน หรือค่า ROE สูง ที่เกิดจากการกู้ยืมเป็นจำนวนมากหรือบริษัทที่มียอดขายคงที่และมีแนวโน้มที่จะตกต่ำออกไป ที่จริงเมื่อมาถึงจุดนี้แล้วคุณจะพบว่า การเลือกหุ้นนั้นหลักใหญ่ก็คือการเลือกของเสียทิ้งและของดีจะถูกคัดเลือกไปเรื่อยๆจนพบของที่มีตำหนิน้อยที่สุด
สุดท้ายนักลงทุนจะสามารถคัดเลือกหุ้นได้ด้วยตัวของคุณเอง คุณอาจจะใช้ความรู้ของคุณที่มีเกี่ยวกับสินค้าของบริษัทนั้นๆประกอบการตัดสินใจไปด้วย ถึงขั้นนี้คุณอาจจะต้องไปห้องสมุดของตลาดหลักทรัพย์เพื่ออ่านรายงานประจำปีของบริษัทต่างๆ และดูข้อมูลของบริษัทจากระบบอินทราเน็ตของห้องสมุด หากคุณไม่สะดวกในการใช้อินเตอร์เน็ต
ในท้ายที่สุดเมื่อผ่านการค้นคว้าวิจัยมาบ้างแล้ว คุณก็จะสามารถเลือกหุ้นลงทุนได้อย่างชาญฉลาดและอุ่นใจ เพราะรู้ว่าคุณกำลังซื้อหุ้นของบริษัทที่มีการบริหารกิจการที่ดี ในราคาที่เหมาะสม ทั้งยังมีข้อมูลเบื้องหลังสนับสนุนเพียงพอ ที่คุณจะรู้ว่าบริษัทจะไปได้ไกลในอนาคต
แน่นอน ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ"ราคา" คุณควรจะชื่นใจเมื่อเห็นค่า P/E น้อยกว่า 4 เพราะนั่นคือรางวัลจากความพยายามของคุณ เนื่องจากหุ้นเหล่านั้นจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงถึง 25 % ของราคาหุ้นต่อปี
ยังมีบริษัทอีกมากมายในตลาดที่มีการซื้อ/ขายในราคาต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี เมื่อคำนวณออกมาแล้วบางบริษัทให้ผลกำไรมากกว่า 20% จากเงินลงทุน "วอร์เรนต์ บัฟเฟตต์"จะต้องอยากได้ ถ้าเห็นหุ้นอย่างนี้แน่ๆ นอกจากนั้นคุณจะยังได้รับโบนัสก้อนใหญ่อีกก้อนหนึ่ง ถ้าคุณลองตรวจดูช่องที่มีการจ่ายเงินปันผลในหุ้นที่มี P/E ต่ำในหนังสือพิมพ์ คุณจะพบว่าบริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่ จะจ่ายกำไรก้อนโตออกมาประมาณครึ่งหนึ่ง เพื่อเป็นเงินปันผล ซึ่งก็คือจะให้ผลตอบแทน 8%-15% ต่อปี ถ้าบริษัทจะกระทำเหมือนในปีที่ผ่านๆมา นักลงทุนก็จะได้เงินสดจากหุ้นเหล่านี้โดยเฉลี่ยคือ 10% ของราคาหุ้น นี่เพียงแค่โบนัสเท่านั้นนะครับ
เป็นการดีที่คุณจะเลือกหุ้นที่มีค่า P/E ต่ำๆ แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับบริษัทที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง และถ้าคุณพิจารณาแล้วว่าจะมีลู่ทางที่เหนือกว่า ไม่ว่าคุณจะซื้ออะไร บางครั้งมันก็คุ้มค่าถ้าจะจ่ายมากกว่าเพื่อคุณภาพ
เมื่อมาถึงขั้นตอนสุดท้ายของกระบวนการเลือกสรรและคัดออก คุณคงกำลังดูหุ้นอยู่ซัก 1-2 โหลและส่วนใหญ่ก็จะเป็นของบริษัทที่มีกิจการส่งออก ผลของการอ่อนตัวของค่าเงินบาท ทำให้บริษัทเหล่านี้มีสถานะที่มั่นคง ขณะเดียวกันก็ต้องเผชิญสภาวะการแข่งขันสูงกว่าในตลาดต่างชาติ และโดยมากจะดำเนินกิจการด้านธุรกิจการเกษตรหรือแปรรูปอาหาร ซึ่งจะได้รับประโยชน์อย่างมาก เพราะประเทศไทยมีจุดแข็งในด้านนี้
สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการใช้คอมพิวเตอร์ในการค้นคว้าด้วยตัวเอง ผมได้คัดเลือกบริษัทมาทั้งหมด 12 แห่ง ซึ่งอยู่ผ่านเกณฑ์ของ นักลงทุนที่ฉลาด ทฤษฎีการวิเคราะห์หลักทรัพย์ชี้ว่า Portfolio ที่ดีควรจะมีประมาณ 7-8 หุ้น เพราะการวิเคราะห์ทางสถิติแสดงให้ดห็นว่าประโยชน์ของการกระจายการลงทุนจะลดน้อยลงไปเมื่อเกินจุดนี้
I
I (ขอข้ามข้อความส่วนนี้)
I
อย่างไรก็ตาม ขอให้ท่านทำตามคำแนะนำของบัฟเฟตต์นะครับ จงรักษามุมมองทางธุรกิจไว้ในฐานะนักลงทุนระยะยาว คำถามที่สำคัญที่สุดควรจะถามตัวเองก็คือ บริษัทสามารถนำ Retained earning มาใช้ให้เป็นประโยชน์ได้หรือไม่ การผูกมัดเงินทุนของคุณกับบริษัทที่ไม่มีทั้งโอกาสและศักยภาพในการบริหาร Retained earning มีแต่จะทำให้เรือของคุณจอดนิ่งอยู่กลางน้ำ
อย่างไรก็ดี จงเลือกบริษัทที่สามารถทบต้นผลกำไรได้ แล้วการลงทุนของคุณจะเจริญรุ่งเรือง
- แนวทางการลงทุนของเดนนิส จะเน้นลงทุนในบริษัทขนาดเล็ก เน้นเป้าหมายไปที่เงินปันผล มากกว่าส่วนต่างของราคาซื้อ-ขาย ดังนั้นหุ้นแต่ละตัวที่เขาซื้อจะถือไว้ประมาณ 4-5 ปี จึงจะตัดสินใจขายออกไป
บริษัทที่ปีเตอร์ เดนนิสคัดเลือกมาให้ (แนะนำเมื่อประมาณต้นปี 2543 )
- TUF ราคา 115 บาท ROE 38.1% D/E 0.45 P/BV 1.20 P/E 4.8
- TPCORP ราคา 23.75 บาท ROE 0.27% D/E 2.55 P/BV 0.56 P/E 2.10
- SFP ราคา 63 บาท ROE 0.20% D/E 0.1 P/BV 0.81 P/E 4.0
- CHOTI ราคา 128 บาท ROE 36.8% D/E 0.26 P/BV 0.96 P/E 1.80
- SFP ราคา 63 บาท ROE 0.20% D/E 0.1 P/BV 0.81 P/E 4.0
- UGP ราคา 53 บาท ROE 21.1% D/E 2.65 P/BV 0.7 P/E 5.0
- UF ราคา 17.5 บาท ROE 21.1% D/E 0.6 P/BV 0.68 P/E 3.4
- LEE ราคา 34 บาท ROE 44% D/E 1.0 P/BV 0.2 P/E 0.0
- CPF ราคา 141 บาท ROE 35.8% D/E 1.18 P/BV 0.6 P/E 2.10
- CM ราคา 34 บาท ROE 78.2% D/E 0.3 P/BV 1.05 P/E 3.10
- KWH ราคา 32 บาท ROE 23.8% D/E 0.8 P/BV 0.9 P/E 12.5
- CMBT ราคา 61 บาท ROE 0.37% D/E 0.77 P/BV 1.20 P/E 2.46
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 5
รู้แต่ ugp
ขอบคุณครับ คุณGuest
ที่เอาความหลังมาเล่าสู่กันฟัง
ผมซื้อได้ที่ต้นทุน34.75บาท
ก่อนท่าน....ปีเตอร์เดนนิสออกบทวิเคราะห์
และได้ขายคืนให้TIG ไปที่ราคา237บาท
หากไม่มี UGP
นายปรัชญา คงไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อหุ้นFE
ได้เป็นกอบเป็นกำ
คุณCK ก็ร่วมขบวนการขุดแก๊สมาขายด้วย
ช่วงที่ฝรั่งเข้ามาผมขุดเหมืองพลอยสำเร็จไปหลายส่วนแล้ว
ปีหน้าก็อาจจะได้เห็น
ผมเอาชื่อ.............ไปแปะไว้กับบริษัทอื่นอีก
อย่างพี่ครรชิตว่า....
รับรองอย่างลูกผู้ชายว่า....ไม่ผิดหวัง
รอชมผลงานได้เลยครับ พี่ครรชิต......
.
ขอบคุณครับ คุณGuest
ที่เอาความหลังมาเล่าสู่กันฟัง
ผมซื้อได้ที่ต้นทุน34.75บาท
ก่อนท่าน....ปีเตอร์เดนนิสออกบทวิเคราะห์
และได้ขายคืนให้TIG ไปที่ราคา237บาท
หากไม่มี UGP
นายปรัชญา คงไม่มีปัญญาหาเงินไปซื้อหุ้นFE
ได้เป็นกอบเป็นกำ
คุณCK ก็ร่วมขบวนการขุดแก๊สมาขายด้วย
ช่วงที่ฝรั่งเข้ามาผมขุดเหมืองพลอยสำเร็จไปหลายส่วนแล้ว
ปีหน้าก็อาจจะได้เห็น
ผมเอาชื่อ.............ไปแปะไว้กับบริษัทอื่นอีก
อย่างพี่ครรชิตว่า....
รับรองอย่างลูกผู้ชายว่า....ไม่ผิดหวัง
รอชมผลงานได้เลยครับ พี่ครรชิต......
.
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 6
น้องปรัชญา วันนี้
FE ปิด 82
P-FCB ปิด 120
ขอแสดงความยินดี ครับ
FE ปิด 82
P-FCB ปิด 120
ขอแสดงความยินดี ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 7
ขอบคุณ สำหรับความเหนื่อยยากในการพิมพ์ครับ
ขอให้รวยๆ ยิ่งขึ้นไป..
ขอให้รวยๆ ยิ่งขึ้นไป..
-
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 8
เอ่อ พี่ปรัชญา
วันนี้ เคาะ เหล็ก ไปที่ 81 บาทนะครับ ขอตามดูด้วยคน ...
วันนี้ เคาะ เหล็ก ไปที่ 81 บาทนะครับ ขอตามดูด้วยคน ...
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 9
พี่ครรชิตไม่ขาย ผมก็ไม่ขาย แล้วมีคนมาช่วยกันซื้อครรชิต ไพศาล เขียน:น้องปรัชญา วันนี้
FE ปิด 82
P-FCB ปิด 120
ขอแสดงความยินดี ครับ
รอดูผลประกอบการออกมาซิครับ รองรับ รับรอง
ปันผลปีหน้าพี่ครรชิต มีเฮ....ครับ
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 10
ผมอ่าน ครั้งแรก งง ว่า เหล็ก อะไร 81 บาท ดูไปดูมา อ้อ เจ้า FE นี้เอง+++unlog เขียน:เอ่อ พี่ปรัชญา
วันนี้ เคาะ เหล็ก ไปที่ 81 บาทนะครับ ขอตามดูด้วยคน ...
เกือบลืมสัญลักษณ์ทางเคมี ของเหล็กเสียแล้ว
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 11
ใกล้ตั้งชมรมได้แล้ว ใครที่ชอบปันผลเร่เข้ามาครับ+++unlog เขียน:เอ่อ พี่ปรัชญา
วันนี้ เคาะ เหล็ก ไปที่ 81 บาทนะครับ ขอตามดูด้วยคน ...
ผมยังถืออย่างสบายๆ ไม่รู้ใครมาออกแรงไล่เก็บกัน
แต่ปันผล ได้เกิน5%แน่ครับ
พี่ครรชิตเข้าใจตีความหมายครับ
- Golden Stock
- Verified User
- โพสต์: 615
- ผู้ติดตาม: 0
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 14
ช่วยดันอีกที :lol:
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1
ตามที่เคยสัญญากันไว้ ปีเตอร์ เดนนิสครับ..
โพสต์ที่ 16
เท่าที่รู้คือ Tpcorp แตกพา จาก 10 เป็น 1
ซื้อตาม รวยไป 10 เท่า :shock:
ซื้อตาม รวยไป 10 เท่า :shock: