คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 1
ตอนที่ผมเริ่มลงทุนมาสักปี ถึงสองปี ผมก็มีคำถามสงสัย ว่า คนที่เล่นหุ้นส่วนใหญ่ขาดทุนหรือกำไรกันแน่
อาจจะเป็นเพราะว่าผมก็เกิดอาการขาดทุน
ผมเลยถามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เลยตอบว่า คนส่วนใหญ่ ตอนแรกๆเล่นจะได้ ตอนหลังๆจะเสีย
และโดยส่วนใหญ่สรุปว่าคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะขาดทุน
ผมเลยกลับมาคิด ซึ่งอาจจะผิดก็ได้
ผมคิดว่า คนที่มาเล่น ตอนแรกๆ จะได้ ก็ต้องแปลว่า เป็นคนเล่นมือใหม่ ที่ไม่น่ามีความรู้มากนัก
แล้วอะไรที่พาคนที่ยังไม่มีความรู้เข้ามาในตลาดหุ้น ก็ลองคิดเป็น 2 ทาง
1.เพราะตลาดหุ้นดี
2. เพราะตลาดหุ้นแย่
คำตอบก็เป็นได้ว่า น่าจะเข้ามาเพราะตลาดหุ้นดี มีความคึกคัก มีการได้กำไร พูดกันไปปากต่อปาก จนดึงความสนใจในการลงทุนในหุ้น(เล่นหุ้น) ได้จากคนจำนวนมากทั้งเงินน้อยและเงินมาก
ซึ่งการเข้ามาเล่นหุ้น ในเวลาที่ตลาดดี คึกคัก ก็ย่อมหมายถึง ช่วงที่ตลาดดูดีมีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งถ้าเล่นในช่วงนี้ก็ดูไม่แปลกที่เวลาเล่นมักจะได้กำไร แล้วก็จะคิดว่าอืม ดีจัง (แต่ต้องบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่มักจะขึ้น ในภาวะตลาดดี โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นที่รู้จัก และนักเล่นหุ้น หน้าใหม่ มักจะสนใจกัน)
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปล่ะ ธุรกิจ ก็คืออะไรอย่างหนึ่ง ที่โดยธรรมชาติจะไม่คงสภาพ ดี ตลอดไป หรือ เลวร้าย ตลอดไป แต่เมื่อนักเล่นหน้าใหม่ จะต้องพบกับตลาดที่เปลี่ยนแน้วโน้ม เป็นทางลงทั้งระยะสั้น และระยะยาว สิ่งที่นักเล่นหน้าใหม่ แล้วไม่ได้มีความรู้เพียงพอ ก็มักจะเกิดปัญหา ราคาหุ้นลดลง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คงจะคิดว่า อืม แย่จัง
แล้วหลังจากนั้นก็สับสน อยากหาทางแก้ไข แต่ก็มีคำตอบบางอย่าง ที่มักจะทำให้เกิดการผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ จะไม่ทำหรือไม่คิดอย่างนั้นกัน เช่น
ถือไปเถอะ เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมา (ราคา)
ยิ่งราคาลงก็ซื้อเพิ่มสิ ราคาถัวเฉลี่ย ก็จะลดลง( ในแง่ นักเล่นหน้าใหม่ ที่ไม่เข้าใจพื้นฐานหุ้น)
ซึ่งก็เป็นการง่ายกว่า กับโบรกเกอร์ ที่จะปลอบใจลูกค้าของตนที่ขาดทุน แถมถ้าซื้อถัวเฉลี่ย ยังได้ค่า คอม เพิ่มด้วย
แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะมี นักเล่นหุ้น หน้าใหม่ ที่ยังคงอยู่ หรือ เลิกไป
แล้วถ้าคงอยู่ ก็จะมีประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ ต่อไปว่าตลาดหุ้นคืออะไร กันแน่?
ฉีชิงฝึกไก่ชนให้พระเจ้าซ่วนแห่งรัฐโจ สิบวันต่อมาพระเจ้าซ่วนตรัสถามว่า
ไก่พร้อมที่จะต่อสู้รึยัง
เขากราบทูลว่า
ยังพะยะค่ะ ขณะนี้มันเพียงแต่เดินวางท่าข่มขวัญตัวอื่น ลำพองในกำลังของตน
สิบวันต่อมาเขาถูกถามอีกจึงกราบทูลว่า
จวนพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ถ้าไก่อื่นขันท้ามัน มันจะไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร มันจะยืนนิ่งเห็นแต่ไกล ไม่ไหวติง
ดังหนึ่งไก่ไม้ มันมีคุณสมบัติไก่ชนทุกประการ ไก่ตัวอื่นไม่กล้าตอแยกับมัน พอมองเห็นเท่านั้นก็จะพากันวิ่งหนี
ไก่ชนที่แท้ไม่ลำพองโดยอาการ หากแต่องอาจในท่าที คนฉลาดก็ดุจเดียวกัน
อาจจะเป็นเพราะว่าผมก็เกิดอาการขาดทุน
ผมเลยถามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เลยตอบว่า คนส่วนใหญ่ ตอนแรกๆเล่นจะได้ ตอนหลังๆจะเสีย
และโดยส่วนใหญ่สรุปว่าคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะขาดทุน
ผมเลยกลับมาคิด ซึ่งอาจจะผิดก็ได้
ผมคิดว่า คนที่มาเล่น ตอนแรกๆ จะได้ ก็ต้องแปลว่า เป็นคนเล่นมือใหม่ ที่ไม่น่ามีความรู้มากนัก
แล้วอะไรที่พาคนที่ยังไม่มีความรู้เข้ามาในตลาดหุ้น ก็ลองคิดเป็น 2 ทาง
1.เพราะตลาดหุ้นดี
2. เพราะตลาดหุ้นแย่
คำตอบก็เป็นได้ว่า น่าจะเข้ามาเพราะตลาดหุ้นดี มีความคึกคัก มีการได้กำไร พูดกันไปปากต่อปาก จนดึงความสนใจในการลงทุนในหุ้น(เล่นหุ้น) ได้จากคนจำนวนมากทั้งเงินน้อยและเงินมาก
ซึ่งการเข้ามาเล่นหุ้น ในเวลาที่ตลาดดี คึกคัก ก็ย่อมหมายถึง ช่วงที่ตลาดดูดีมีแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งถ้าเล่นในช่วงนี้ก็ดูไม่แปลกที่เวลาเล่นมักจะได้กำไร แล้วก็จะคิดว่าอืม ดีจัง (แต่ต้องบอกว่าหุ้นส่วนใหญ่มักจะขึ้น ในภาวะตลาดดี โดยเฉพาะหุ้นที่เป็นที่รู้จัก และนักเล่นหุ้น หน้าใหม่ มักจะสนใจกัน)
แล้วเมื่อเวลาผ่านไปล่ะ ธุรกิจ ก็คืออะไรอย่างหนึ่ง ที่โดยธรรมชาติจะไม่คงสภาพ ดี ตลอดไป หรือ เลวร้าย ตลอดไป แต่เมื่อนักเล่นหน้าใหม่ จะต้องพบกับตลาดที่เปลี่ยนแน้วโน้ม เป็นทางลงทั้งระยะสั้น และระยะยาว สิ่งที่นักเล่นหน้าใหม่ แล้วไม่ได้มีความรู้เพียงพอ ก็มักจะเกิดปัญหา ราคาหุ้นลดลง และไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี คงจะคิดว่า อืม แย่จัง
แล้วหลังจากนั้นก็สับสน อยากหาทางแก้ไข แต่ก็มีคำตอบบางอย่าง ที่มักจะทำให้เกิดการผิดพลาดมากขึ้น ซึ่งนักลงทุนที่มีประสบการณ์ จะไม่ทำหรือไม่คิดอย่างนั้นกัน เช่น
ถือไปเถอะ เดี๋ยวมันก็กลับขึ้นมา (ราคา)
ยิ่งราคาลงก็ซื้อเพิ่มสิ ราคาถัวเฉลี่ย ก็จะลดลง( ในแง่ นักเล่นหน้าใหม่ ที่ไม่เข้าใจพื้นฐานหุ้น)
ซึ่งก็เป็นการง่ายกว่า กับโบรกเกอร์ ที่จะปลอบใจลูกค้าของตนที่ขาดทุน แถมถ้าซื้อถัวเฉลี่ย ยังได้ค่า คอม เพิ่มด้วย
แล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็จะมี นักเล่นหุ้น หน้าใหม่ ที่ยังคงอยู่ หรือ เลิกไป
แล้วถ้าคงอยู่ ก็จะมีประสบการณ์ เพื่อเรียนรู้ ต่อไปว่าตลาดหุ้นคืออะไร กันแน่?
ฉีชิงฝึกไก่ชนให้พระเจ้าซ่วนแห่งรัฐโจ สิบวันต่อมาพระเจ้าซ่วนตรัสถามว่า
ไก่พร้อมที่จะต่อสู้รึยัง
เขากราบทูลว่า
ยังพะยะค่ะ ขณะนี้มันเพียงแต่เดินวางท่าข่มขวัญตัวอื่น ลำพองในกำลังของตน
สิบวันต่อมาเขาถูกถามอีกจึงกราบทูลว่า
จวนพร้อมแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้ถ้าไก่อื่นขันท้ามัน มันจะไม่แสดงปฏิกิริยาอะไร มันจะยืนนิ่งเห็นแต่ไกล ไม่ไหวติง
ดังหนึ่งไก่ไม้ มันมีคุณสมบัติไก่ชนทุกประการ ไก่ตัวอื่นไม่กล้าตอแยกับมัน พอมองเห็นเท่านั้นก็จะพากันวิ่งหนี
ไก่ชนที่แท้ไม่ลำพองโดยอาการ หากแต่องอาจในท่าที คนฉลาดก็ดุจเดียวกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 305
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน
โพสต์ที่ 4
คงเถียงโบรกไม่ได้ แต่แปลกใจที่ไม่ตรงกับที่ผมคิดareliang เขียน: ผมเลยถามโบรกเกอร์ โบรกเกอร์เลยตอบว่า คนส่วนใหญ่ ตอนแรกๆเล่นจะได้ ตอนหลังๆจะเสีย
และโดยส่วนใหญ่สรุปว่าคนเล่นหุ้นส่วนใหญ่จะขาดทุน
ผมนึกว่าเล่นแรกๆจะเสียเพราะมั่ว อยู่ไปนานๆจะเรียนรู้และได้กำไรเสียอีก
-
- Verified User
- โพสต์: 231
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 5
ไม่รู้ว่า แปลเหมือนคุณ Beammy หรือเปล่า แต่อ่านใน Intelligence Investor แล้วมีคำนึงเขียนว่า
People who investing make money for themselves,
People who speculating make money for their brokers
:la: :la: :la:
แล้ววันนี้คุณทำเงินให้ใครหล่ะครับ [/i]
People who investing make money for themselves,
People who speculating make money for their brokers
:la: :la: :la:
แล้ววันนี้คุณทำเงินให้ใครหล่ะครับ [/i]
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 6
บทความคมๆอีกแล้วครับ อาเหลียง ขอบคุณครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 678
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 7
ได้กำไรมา สักพักเดี๋ยวก็ลืม แต่
คนเรานั้นจะจำความเจ็บปวดได้ดีกว่า (ขาดทุน)
และความเจ็บปวดสามารถ บรรเทาได้ด้วยเวลา
แม้จะขาดทุน แต่เมื่อนานเข้าก็จะเจ็บปวดน้อยลงแม้จะขาดทุน
แต่ยังคงจำได้อยู่ (เหมือนกับความรักเลยครับ)
เมื่อขาดทุนก็จะเลิกไป ทำให้ส่วนใหญ่ก็จะขาดทุนครับ(คิดเอาเอง) 55
คนเรานั้นจะจำความเจ็บปวดได้ดีกว่า (ขาดทุน)
และความเจ็บปวดสามารถ บรรเทาได้ด้วยเวลา
แม้จะขาดทุน แต่เมื่อนานเข้าก็จะเจ็บปวดน้อยลงแม้จะขาดทุน
แต่ยังคงจำได้อยู่ (เหมือนกับความรักเลยครับ)
เมื่อขาดทุนก็จะเลิกไป ทำให้ส่วนใหญ่ก็จะขาดทุนครับ(คิดเอาเอง) 55
-
- Verified User
- โพสต์: 243
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 8
ขาดทุนอยู่ครับ ผมซื้อหุ้นมา 8 เดือน ยังขาดทุนอยู่เลย ตอน 5 เดือนแรก ซื้อๆ ขายๆ ทั้งวันเดี๋ยวนี้ถือมา 3 เดือน ชักเฉยๆ เพราะมันแดงจนชิน เดี๋ยวก็เขียว เดี๋ยวก็แดง สรุปได้ปันผล มา ก็ดีแล้วครับ
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 10
คิดคร่าว ๆนะครับ
มูลค่าการซื้อขายปี 50 ~4,200,000 ล้านบาท
มูลค่าราคาตลาดหลักทรัพย์ 50 ~ 6,600,000 ล้านบาท
โบรคดึงเงินออกไปจากระบบจากค่าคอม 0.20%
บริษัทจ่ายเงินปันผลเข้ามา 3.3%
ดูแล้วตลาดจ่ายเงินออกมามากกว่านะครับ ยกเว้นแต่ว่าดัชนีจะหล่นไปเยอะกว่า 3%
แต่มันกระจายให้คนทุกคนไม่เท่ากันหรอกครับ กฎ 80:20 ใช้ได้เสมอ
มูลค่าการซื้อขายปี 50 ~4,200,000 ล้านบาท
มูลค่าราคาตลาดหลักทรัพย์ 50 ~ 6,600,000 ล้านบาท
โบรคดึงเงินออกไปจากระบบจากค่าคอม 0.20%
บริษัทจ่ายเงินปันผลเข้ามา 3.3%
ดูแล้วตลาดจ่ายเงินออกมามากกว่านะครับ ยกเว้นแต่ว่าดัชนีจะหล่นไปเยอะกว่า 3%
แต่มันกระจายให้คนทุกคนไม่เท่ากันหรอกครับ กฎ 80:20 ใช้ได้เสมอ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 274
- ผู้ติดตาม: 0
ป
โพสต์ที่ 11
เหมือนไม่ตรงคำถาม แต่ผมว่าน่าจะไปดูที่ผลตอบแทนรวมของตลาดนะครับ ในระยะยาวของ SET ไทย น่าจะอยู่ที่ 10% กว่า
ส่วนถ้าเรื่องจำนวนคนที่เข้าตลาดใครขาดทุนใครกำไร โดยไม่ได้สนใจวิธีการลงทุนเนี่ย ผมว่าน่าจะมีส่วนหนึ่งคล้ายกฏ 20/80 คือถึงตลาดรวมไม่ใช่ zero sumg game ก็จริง แต่จะมีคนแค่ 20% ที่สามารถเอาผลตอบแทนจากไปได้ถึง 80% ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ (แต่ส่วนมากจะใช้วิธีที่คุณกำลังคิดหล่ะครับ)
เห็นด้วยครับกับการใช้วิธีคิดแบบการลงทุน เพราะตลาดเป็นเครื่องมือของเรา ถ้ามองแบบมุมกลับการสนใจคนอื่นๆ หรือภาพของตลาดอาจเป็นสิ่งที่อยู่เกือบท้ายๆสุด
ส่วนถ้าเรื่องจำนวนคนที่เข้าตลาดใครขาดทุนใครกำไร โดยไม่ได้สนใจวิธีการลงทุนเนี่ย ผมว่าน่าจะมีส่วนหนึ่งคล้ายกฏ 20/80 คือถึงตลาดรวมไม่ใช่ zero sumg game ก็จริง แต่จะมีคนแค่ 20% ที่สามารถเอาผลตอบแทนจากไปได้ถึง 80% ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ (แต่ส่วนมากจะใช้วิธีที่คุณกำลังคิดหล่ะครับ)
เห็นด้วยครับกับการใช้วิธีคิดแบบการลงทุน เพราะตลาดเป็นเครื่องมือของเรา ถ้ามองแบบมุมกลับการสนใจคนอื่นๆ หรือภาพของตลาดอาจเป็นสิ่งที่อยู่เกือบท้ายๆสุด
Kritsada
- โอ@
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4246
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 12
จริงๆ ผมเชื่อนะที่บอกว่าคนเข้ามาใหม่ๆมักกำไร เพราะว่าคนส่วนมากเข้าตลาดหุ้นตอนไหนละครับ
ก็ตอนตลาดหุ้นบูมๆหน่ะซิครับ เล่นตอนนั้น จับตัวไหนมันก็ขึ้นไปหมดแหละครับ
ก็ตอนตลาดหุ้นบูมๆหน่ะซิครับ เล่นตอนนั้น จับตัวไหนมันก็ขึ้นไปหมดแหละครับ
_________
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 13
นึกถึงสูตร 80:20 ครับ
มีคนเล้นหุ้น 20% ไขว่คว้า หาความรู้ ฝึกฝน จนถือเงินถึง 80 % ในตลาด
และคนเล่นหุ้นจำนวนอีก 80% เล่นไปตามระดับความขยัน ลดหลั่นกันไป ถือเงินแค่ 20% ของทั้งตลาด และพร้อมจะเสียให้กับอีกฝั่งแบบไม่มีเหตุผล
สัดส่วน 80 20 นี้ก็ใช้ได้ ทุกสายงาน หรือ ส่วนแบ่งธุรกิจ ฯลฯ
มีคนเล้นหุ้น 20% ไขว่คว้า หาความรู้ ฝึกฝน จนถือเงินถึง 80 % ในตลาด
และคนเล่นหุ้นจำนวนอีก 80% เล่นไปตามระดับความขยัน ลดหลั่นกันไป ถือเงินแค่ 20% ของทั้งตลาด และพร้อมจะเสียให้กับอีกฝั่งแบบไม่มีเหตุผล
สัดส่วน 80 20 นี้ก็ใช้ได้ ทุกสายงาน หรือ ส่วนแบ่งธุรกิจ ฯลฯ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
- WinterWind
- Verified User
- โพสต์: 146
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 15
หรือว่าจะเป็นแบบนี้ครับ
มือใหม่ ยังไม่เก๋าเกมส์ เล่นแล้วจะได้กำไร
แบบนี้เราต้องหัดคิดแบบมือใหม่หรือเปล่าครับ
ต้องโยนตำราคืน ดร. ไป แล้วจะได้กำไร
ฮา ฮา
มือใหม่ ยังไม่เก๋าเกมส์ เล่นแล้วจะได้กำไร
แบบนี้เราต้องหัดคิดแบบมือใหม่หรือเปล่าครับ
ต้องโยนตำราคืน ดร. ไป แล้วจะได้กำไร
ฮา ฮา
- trillionaire
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1090
- ผู้ติดตาม: 1
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 16
...คนที่เล่นเก็งกำไรแล้วขาดทุนอาจไม่ยอมรับว่า ขาดทุน เลยขี้เกียจจำ...
...คนที่ลงทุนแบบVI แล้วกำไร อาจไม่ได้คิดว่า กำไรเท่าไรแล้ว เพราะ ไม่ได้สนใจราคารายวัน...
...แต่ คนถือยาวก็ไม่ได้จะกำไรเสมอไป ถ้าถือผิดตัว ...
...ยกตัวอย่าง คนที่ถือ KEST ตั้งแต่ปี47 ติดดอยราคา50บาทยังลงไม่ได้เลย...
...ไม่ได้แซวใคร แซวตัวเอง พอดีเอาพอร์ทที่บ้านมารื้อดู ไม่รู้มันติดอยู่ตั้งแต่เมื่อไร...
...แต่แค่พันหุ้นเอง ถัวไปก็เสียเวลา เอากำไรตัวอื่นโปะดีกว่า...
...คนที่ลงทุนแบบVI แล้วกำไร อาจไม่ได้คิดว่า กำไรเท่าไรแล้ว เพราะ ไม่ได้สนใจราคารายวัน...
...แต่ คนถือยาวก็ไม่ได้จะกำไรเสมอไป ถ้าถือผิดตัว ...
...ยกตัวอย่าง คนที่ถือ KEST ตั้งแต่ปี47 ติดดอยราคา50บาทยังลงไม่ได้เลย...
...ไม่ได้แซวใคร แซวตัวเอง พอดีเอาพอร์ทที่บ้านมารื้อดู ไม่รู้มันติดอยู่ตั้งแต่เมื่อไร...
...แต่แค่พันหุ้นเอง ถัวไปก็เสียเวลา เอากำไรตัวอื่นโปะดีกว่า...
- BOONPARUEY
- Verified User
- โพสต์: 184
- ผู้ติดตาม: 0
คนที่เข้ามาในตลาดหุ้น ในที่สุด ส่วนใหญ่ กำไร หรือ ขาดทุน ?
โพสต์ที่ 17
... คนที่เล่น = ขาดทุน ...
... คนที่เข้ามาลงทุน = กำไร ...
... ...
... คนที่เข้ามาลงทุน = กำไร ...
... ...
... " บุญ คือ เสบียงของคนไม่ประมาท " พุทธตรัส ...