CISA = CFA
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 1
CISA = CFA ? เหมือนกันอ่ะป่าว เท่าที่ผมอ่าน CISA ก็ดัดแปลงมาจาก CFA แต่เป็นเวอร์ชั่นไทยๆ แบบคนไทย สำหรับคนไทย เพื่อคนไทย ไทยโดยเฉพาะเลย ต่างกันแค่กฎหมายไทย ... แต่ผมอยากสอบ CFA คับ ก็เลยไปหาข้อมูลในเว็บ
http://www.cfainstitute.org/cfaprog/cha ... quire.html
คือหัวข้อ CFA Program Entrance Requirements ก็แปลว่า คุณสมบัติการเข้าศึกษาหลักสูตร CFA
ปรากฎว่ามันดันเอา ป.ตรี ของ US อย่างเดียว เหอๆ งี้ๆไทยๆเราก็ไปสอบมะได้อ่ะดิคับ? ใช่ไหมอ่ะ หรือมีเส้นทางอื่นคับ?
จุดประสงค์เส้นทางชีวิตของผมคือ ต้องการทำงานในสายอาชีพนี้ครับ แต่ก็ไม่อยากจะยึดติดกับทฤษีให้มากครับ เพราะเท่าที่อ่านที่นี่แล้ว ที่ๆไปสอบมาเอาไปใช้ไม่เท่าไร แต่ถ้าต้องการสอบผ่านในสายอาชีพเราก็ต้องเชื่อทฤษี แต่การลงทุนจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องเอามันมาใช้หมดแต่เอามาใช้แค่บางส่วน ส่วนตัวผมก็ชอบการลงทุนอยู่แล้วครับ
แล้วผมมีแผนการจะทำงานต่างประเทศคับ ก็เลยจะเลือกสอบ CFA คงจะดีกว่า นี่คือเหตุผลครับ
ขอคำแนะนำด้วยค๋าบ
ผมลองหากระทู้เกี่ยวกับ CFA ใน TVI แล้วคับแต่มีแต่กระทู้ตั้งแต่ปี 2007 เหอๆ หาปี 2008 มะเจอ ก็เลยตั้งใหม่เผื่อมีการอัพเดทอะ ..
http://www.cfainstitute.org/cfaprog/cha ... quire.html
คือหัวข้อ CFA Program Entrance Requirements ก็แปลว่า คุณสมบัติการเข้าศึกษาหลักสูตร CFA
ปรากฎว่ามันดันเอา ป.ตรี ของ US อย่างเดียว เหอๆ งี้ๆไทยๆเราก็ไปสอบมะได้อ่ะดิคับ? ใช่ไหมอ่ะ หรือมีเส้นทางอื่นคับ?
จุดประสงค์เส้นทางชีวิตของผมคือ ต้องการทำงานในสายอาชีพนี้ครับ แต่ก็ไม่อยากจะยึดติดกับทฤษีให้มากครับ เพราะเท่าที่อ่านที่นี่แล้ว ที่ๆไปสอบมาเอาไปใช้ไม่เท่าไร แต่ถ้าต้องการสอบผ่านในสายอาชีพเราก็ต้องเชื่อทฤษี แต่การลงทุนจริงๆ เราไม่จำเป็นต้องเอามันมาใช้หมดแต่เอามาใช้แค่บางส่วน ส่วนตัวผมก็ชอบการลงทุนอยู่แล้วครับ
แล้วผมมีแผนการจะทำงานต่างประเทศคับ ก็เลยจะเลือกสอบ CFA คงจะดีกว่า นี่คือเหตุผลครับ
ขอคำแนะนำด้วยค๋าบ
ผมลองหากระทู้เกี่ยวกับ CFA ใน TVI แล้วคับแต่มีแต่กระทู้ตั้งแต่ปี 2007 เหอๆ หาปี 2008 มะเจอ ก็เลยตั้งใหม่เผื่อมีการอัพเดทอะ ..
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 3
CISA = เป็นมาตรฐานของไทย ค่าสอบถูก แบ่งสอบทีละกลุ่มวิชาได้
CFA = ใช้ได้ทั่วโลก ค่าสอบแพง แบ่งสอบทีละกลุ่มวิชาไม่ได้
ถ้าภาษาอังกฤษดี ระดับความยากง่ายก็พอๆกันครับ
ถ้าจะสอบ CFA ต้องเตรียมตัวและอ่านหนังสือให้มากๆ ค่าสอบแพงมาก
คนสมัครสอบยิ่งเยอะ ทางสถาบันยิ่งชอบครับ เพราะค่าสอบแพงจริงๆ
CFA = ใช้ได้ทั่วโลก ค่าสอบแพง แบ่งสอบทีละกลุ่มวิชาไม่ได้
ถ้าภาษาอังกฤษดี ระดับความยากง่ายก็พอๆกันครับ
ถ้าจะสอบ CFA ต้องเตรียมตัวและอ่านหนังสือให้มากๆ ค่าสอบแพงมาก
CFA เค้าสอบเวลาใกล้เคียงกันทั่วโลก ไม่จำเป็นต้องจบจากอเมริกาก็สอบได้"Have a U.S. bachelors (or equivalent) degree or be in the final year of your bachelor's degree program at the time of registration"
คนสมัครสอบยิ่งเยอะ ทางสถาบันยิ่งชอบครับ เพราะค่าสอบแพงจริงๆ
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 4
ที่นิด้า คือหลั้กสูตร FIRM ครับ Filnancial Investment and Risk Management เรียนจบใน 1 ปีครึ่ง เรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วน
เป็นหลักสูตรเดียวในเมืองไทยที่ร่วมมือกับ CFA ที่อเมริกาอะครับ
เป้าหมายเมื่อจบ ควรสอบได้ CFA 3 levels และ FRM ด้วย
ค่าเรียนสูงหน่อยครับ หน่วยกติละ 9,500 บาท
สอบเข้ายากนิดนึ่งครับ และรับน้อย ปีละครั้งเท่านั้นครับ
รุ่นใหม่ เพิงเรียนไป 2 สัปดาห์ครับ
แฮะ แฮะ รู้ละเอียดเพราะมีคนรู้จักเพิ่งเข้าไปเรียนครับ
เป็นหลักสูตรเดียวในเมืองไทยที่ร่วมมือกับ CFA ที่อเมริกาอะครับ
เป้าหมายเมื่อจบ ควรสอบได้ CFA 3 levels และ FRM ด้วย
ค่าเรียนสูงหน่อยครับ หน่วยกติละ 9,500 บาท
สอบเข้ายากนิดนึ่งครับ และรับน้อย ปีละครั้งเท่านั้นครับ
รุ่นใหม่ เพิงเรียนไป 2 สัปดาห์ครับ
แฮะ แฮะ รู้ละเอียดเพราะมีคนรู้จักเพิ่งเข้าไปเรียนครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 5
[quote="เด็กใหม่ไฟแรง"]ที่นิด้า คือหลั้กสูตร FIRM ครับ Filnancial Investment and Risk Management
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 1288
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 6
ยืนยัน ว่า ไม่ต้อง จบตรี จาก นอก ครับ จบจากไทยนี่ล่ะครับ สอบกันมาเป็นร้อยเป็นพันคนแล้วครับ
^
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
"เมื่อคุณเริ่มทำสิ่งที่รักแล้ว วันต่อๆไปก็จะไม่ใช่การทำงาน"..Brian Tracy
state exact goal/then analyze what fail the goal/then act/if you don't start/dream still be a dream
หุ้นไม่ใช่แค่เศษกระดาษ มันมีคนทำงานจริง
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 9
ศูนย์สอบจะแจ้งให้ทราบช่วงใกล้ๆสอบครับOhYes เขียน:แล้วจะไปสอบ CFA ตรงๆ ได้เลยที่ไหนเหรอครับ?
หรือต้องไปสอบ CFA ต่างประเทศ? ถ้าไม่ใช่ที่ NIDA
ของบ้านเราส่วนใหญ่จะจัดที่ โซฟิเทล เซนทรัล ลาดพร้าว
NIDA ไม่ใช่สถานที่สอบนะครับ เดี๋ยวจะสับสน
แต่เป็นสำนักฝึกวิทยายุทธ (โดยได้รับความร่วมมือจากเจ้าสำนัก CFA Institute)
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สอบ CFA FRM ผ่านครับ
แก้ไขล่าสุดโดย MarginofSafety เมื่อ พุธ มิ.ย. 18, 2008 11:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- Verified User
- โพสต์: 5786
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 10
คิดแล้วเหนื่อยแทนคนเรียนจริงๆครับที่นิด้า คือหลั้กสูตร FIRM ครับ Filnancial Investment and Risk Management เรียนจบใน 1 ปีครึ่ง เรียนเป็นภาษาอังกฤษล้วน
เป็นหลักสูตรเดียวในเมืองไทยที่ร่วมมือกับ CFA ที่อเมริกาอะครับ
เป้าหมายเมื่อจบ ควรสอบได้ CFA 3 levels และ FRM ด้วย
แต่ผมสงสัยนิดนึง
ปกติ Level II & III จะจัดสอบปีละครั้ง
ถ้าการได้ CFA (Level III) เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตร
สงสัยว่าทำไมจบได้ภายในปีครึ่ง
หรือเรียนจบหลักสูตรก่อน แล้วค่อยเตรียมตัวสอบ L3 อีกทีนึง
"Winners never quit, and quitters never win."
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 11
หลักสูตร FIRM ที่นิด้า ปีนี้ที่เพิ่งเปิดเรียนไปประมาณ 2 อาทิตย์นั้นเป็นรุ่นที่2 ครับ รุ่นที่1 จะจบกันอีกประมาณ 6 เดือนครับ
เปิดรับอีกครั้งก็ประมาณเดือนมีนาคมปีหน้าครับ
ติดต่อสอบถามไปก่อนก็ได้ครับที่นิด้า
หรื่อเข้า WEB ก็ได้ครับ
เปิดรับอีกครั้งก็ประมาณเดือนมีนาคมปีหน้าครับ
ติดต่อสอบถามไปก่อนก็ได้ครับที่นิด้า
หรื่อเข้า WEB ก็ได้ครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 18
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 12
จะสมัคร CFA ตรงๆเลยก็สมัครที่นี่ใช่ไหมครับ
https://www.cfainstitute.org/
จากนั้นก็คงทำตาขั้นตอนที่เขาบอกเลือกตามต้องการแล้วเขาจะบอกเองใช่ไหมรับว่าจะไปสอบทีี่ไหนหรือเปล่าครับ?
ขอบคุณครับ
https://www.cfainstitute.org/
จากนั้นก็คงทำตาขั้นตอนที่เขาบอกเลือกตามต้องการแล้วเขาจะบอกเองใช่ไหมรับว่าจะไปสอบทีี่ไหนหรือเปล่าครับ?
ขอบคุณครับ
- Sumotin
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 13
ปรกติ สอบที่ โซฟีเทล ตรงเซ็นทรัลลาดพร้าวครับ
แต่ปีนี้สอบที่ Bi-tech เพราะมีคนจาก อินเดียมาสอบด้วย เห็นว่ามีปัญหาอะไรก็ไม่รู้ครับไม่ได้ถาม มากัน 800 คน
รวมคนไทยที่สอบอีก ประมาณ 700 คนครับ 3 levels เลยนะครับ
โดยความเห็นผมว่า CFA ยากกว่าตรงที่ต้องสอบทีเดียวหมดทุกวิชา อาจจะทำให้ลืมได้ ถ้าอ่านมาไม่ดี เหมือนผม
แต่ปีนี้สอบที่ Bi-tech เพราะมีคนจาก อินเดียมาสอบด้วย เห็นว่ามีปัญหาอะไรก็ไม่รู้ครับไม่ได้ถาม มากัน 800 คน
รวมคนไทยที่สอบอีก ประมาณ 700 คนครับ 3 levels เลยนะครับ
โดยความเห็นผมว่า CFA ยากกว่าตรงที่ต้องสอบทีเดียวหมดทุกวิชา อาจจะทำให้ลืมได้ ถ้าอ่านมาไม่ดี เหมือนผม
Timing is everything, no matter what you do.
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
CAGR of 34% in the past 15 years of investment
-
- Verified User
- โพสต์: 8
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 15
ข้อแตกต่างระหว่างข้อสอบ CISA กะ CFA
เท่าที่เคยทำนะคะ
- CISA จะแบ่งเป็น 4 หมวด ค่อยๆ เลือกสอบ ทีละหมวดก็ได้ แต่ต้องผ่านทั้ง 4 หมวด ภายใน 2 ปี ซึ่งต่างจาก CFA ที่ต้องสอบรวดเดียว 6 ชม ทำให้ต้องสมองในการจำเนื้อหา และสูตรมากกว่า
- ข้อสอบ CISA จะเน้นการการคำนวณเป็นหลัก ซึ่งหากเป็น CISA Lv1 แล้ว จะไม่ยากมาก ขอเพียงแค่จำสูตรให้ได้ ในขณะที่ CFA Lv1 ข้อสอบส่วนใหญ่จะ เน้นทฤษฏีมากกว่า ดังนั้น ก่อนเข้าไปสอบจะต้องสามารถจำทฤษฏีต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งข้อดี ข้อเสีย และข้อยกเว้นต่างๆ
- เนื้อหาในส่วนของกฏหมาย CISA จะเป็น Thai Law แต่ CFA จะเป็นกฏหมาย International Law
- มาตรฐานการบัญชี CFA จะเน้นที่ GAAP และ IAS ค่อนข้างมากกว่า
- ตั้งแต่ปี 2008 ค่าการสมัครสอบ CFA แพงขึ้น เนื่องจากได้รวมค่าหนังสือสอบไปด้วย เลยยิ่งทำให้ค่าสอบแพงมากๆ และการสมัครสอบใน Lv1 นั้น จะต้องเสียค่าแรกเข้าเพิ่มอีกด้วย และถ้าใครตั้งใจจะสอบ CFA นะคะ ขอแนะนำว่า ให้รีบสมัครตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการเปิดรับสมัครเลย เพราะถ้ายิ่งสมัครสอบช้าเท่าไหร่ ค่าสอบก็จะยิ่งแพงขึ้นๆ
- พอสอบ CISA ผ่าน จะได้รับใบ Certificate โดยไปรับที่ตลาดหลักทรัยพ์ (ปีละ 1 ครั้ง) ในขณะที่ สอบผ่าน CFA จะได้เพียงใบ Range ของคะแนนในวิชาต่างๆ ผ่านทาง Email (คนอื่นๆ ได้ใบ Cer หรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แต่ทำไมเราไม่ได้แฮะ T T)
- CFA Lv1 จะเป็นข้อสอบแบบ Speed Test โดยจะมี 120 ข้อในตอนเช้า และ 120 ข้อในตอนบ่าย ดังนั้น ผู้สมัครสอบควรจะต้องลองคำข้อสอบเก่าๆ และจับเวลาในการทำด้วย ส่วน Lv2 ใน Session เช้า และบ่าย จะเป็น Case มา 6 เคส เคสละ 10 ข้อ รวมแล้ว 60 ข้อตอนเช้า และ 60 ข้อตอนบ่าย
ปล. กะลังรอลุ้นผล Lv2 ค่ะ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ
เท่าที่เคยทำนะคะ
- CISA จะแบ่งเป็น 4 หมวด ค่อยๆ เลือกสอบ ทีละหมวดก็ได้ แต่ต้องผ่านทั้ง 4 หมวด ภายใน 2 ปี ซึ่งต่างจาก CFA ที่ต้องสอบรวดเดียว 6 ชม ทำให้ต้องสมองในการจำเนื้อหา และสูตรมากกว่า
- ข้อสอบ CISA จะเน้นการการคำนวณเป็นหลัก ซึ่งหากเป็น CISA Lv1 แล้ว จะไม่ยากมาก ขอเพียงแค่จำสูตรให้ได้ ในขณะที่ CFA Lv1 ข้อสอบส่วนใหญ่จะ เน้นทฤษฏีมากกว่า ดังนั้น ก่อนเข้าไปสอบจะต้องสามารถจำทฤษฏีต่างๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งข้อดี ข้อเสีย และข้อยกเว้นต่างๆ
- เนื้อหาในส่วนของกฏหมาย CISA จะเป็น Thai Law แต่ CFA จะเป็นกฏหมาย International Law
- มาตรฐานการบัญชี CFA จะเน้นที่ GAAP และ IAS ค่อนข้างมากกว่า
- ตั้งแต่ปี 2008 ค่าการสมัครสอบ CFA แพงขึ้น เนื่องจากได้รวมค่าหนังสือสอบไปด้วย เลยยิ่งทำให้ค่าสอบแพงมากๆ และการสมัครสอบใน Lv1 นั้น จะต้องเสียค่าแรกเข้าเพิ่มอีกด้วย และถ้าใครตั้งใจจะสอบ CFA นะคะ ขอแนะนำว่า ให้รีบสมัครตั้งแต่ช่วงแรกๆ ของการเปิดรับสมัครเลย เพราะถ้ายิ่งสมัครสอบช้าเท่าไหร่ ค่าสอบก็จะยิ่งแพงขึ้นๆ
- พอสอบ CISA ผ่าน จะได้รับใบ Certificate โดยไปรับที่ตลาดหลักทรัยพ์ (ปีละ 1 ครั้ง) ในขณะที่ สอบผ่าน CFA จะได้เพียงใบ Range ของคะแนนในวิชาต่างๆ ผ่านทาง Email (คนอื่นๆ ได้ใบ Cer หรือเปล่าไม่รู้ค่ะ แต่ทำไมเราไม่ได้แฮะ T T)
- CFA Lv1 จะเป็นข้อสอบแบบ Speed Test โดยจะมี 120 ข้อในตอนเช้า และ 120 ข้อในตอนบ่าย ดังนั้น ผู้สมัครสอบควรจะต้องลองคำข้อสอบเก่าๆ และจับเวลาในการทำด้วย ส่วน Lv2 ใน Session เช้า และบ่าย จะเป็น Case มา 6 เคส เคสละ 10 ข้อ รวมแล้ว 60 ข้อตอนเช้า และ 60 ข้อตอนบ่าย
ปล. กะลังรอลุ้นผล Lv2 ค่ะ ตื่นเต้นๆๆๆๆๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 17
CFA ไม่ได้เป็นทฤษฎีอย่างเดียวนะครับ เพราะ core concept ของเขาคือต้องเป็นความรู้ที่ practical ใช้ได้จริงในโลกการเงิน มีการ review หลักสูตรตลอดเวลา textbook level 2 ปีล่าสุด ผมอ่านเจอ case study เรื่อง warren buffet กับ Diversification น่าสนใจดีครับ
หัวข้อการสอบของแต่ละ level จะเปลี่ยนไปทุกปี (แต่เปลี่ยนไม่เยอะ) ทำให้มีการออก text book ใหม่ทุกปี (แปลว่า CFA Institute ได้ตังค์เพิ่ม :D ตอนนี้ค่าสอบก็รวมค่าหนังสือไปด้วย แพงขึ้นไปอีก)
Level 1 มีสอบปีละ 2 ครั้ง ต้นมิ.ย.และต้นธ.ค. ส่วน Level 2,3 จะสอบปีละครั้งตอนต้นมิ.ย.
ถ้าคุณ Ohyes จะสมัครสอบ ก็เข้าไปสมัครที่ website CFA Institute ได้เลยครับ และถ้าพอจะจ่ายเงินเพิ่มเติมได้ ผมแนะนำให้ไปสมัครเรียนกับสถาบันที่จัดติวสอบ CFA ดีกว่า เพราะเหมือนแกมบังคับให้เราศึกษาทุกสัปดาห์ ตอนนี้น่าจะเพิ่งเริ่มติวครับ
ปล. กำลังลุ้นผล Level 2 อยู่เหมือนกันครับ :roll:
หัวข้อการสอบของแต่ละ level จะเปลี่ยนไปทุกปี (แต่เปลี่ยนไม่เยอะ) ทำให้มีการออก text book ใหม่ทุกปี (แปลว่า CFA Institute ได้ตังค์เพิ่ม :D ตอนนี้ค่าสอบก็รวมค่าหนังสือไปด้วย แพงขึ้นไปอีก)
Level 1 มีสอบปีละ 2 ครั้ง ต้นมิ.ย.และต้นธ.ค. ส่วน Level 2,3 จะสอบปีละครั้งตอนต้นมิ.ย.
ถ้าคุณ Ohyes จะสมัครสอบ ก็เข้าไปสมัครที่ website CFA Institute ได้เลยครับ และถ้าพอจะจ่ายเงินเพิ่มเติมได้ ผมแนะนำให้ไปสมัครเรียนกับสถาบันที่จัดติวสอบ CFA ดีกว่า เพราะเหมือนแกมบังคับให้เราศึกษาทุกสัปดาห์ ตอนนี้น่าจะเพิ่งเริ่มติวครับ
ปล. กำลังลุ้นผล Level 2 อยู่เหมือนกันครับ :roll:
"As Above, So Below"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 512
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 19
เมื่อก่อนผมเคยเข้าร่วมอบรมกับสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ครับ จะเรียนร่วมกันระหว่าง CISA กับ CFA ได้รู้จักเพื่อนๆในวงการเดียวกันมากมาย ลองติดต่อดูก็ได้ครับ แต่ไม่ทราบว่าจะยังรับอบรมอีกหรือเปล่า เพราะเรียนมา 6 ปีแล้ว
- topgun
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 20
ผมได้รับ cfa designation ตั้งแต่ปี 1999 เป็นหลักสูตรที่สอนให้เรารับรู้การพัฒนาไปของ World financial market สิ่งที่สำคัญคือ ต้องไม่หยุดพัฒนาในการเรียนรู้ต่อไป เอาใจช่วยน้องๆ ที่รอลุ้นผลสอบ
อีกอย่างผมเองก็ลงทุนผิดพลาดมาในช่วงปีที่ผ่านมา และได้ข้อคิดหลายอย่างจากเพื่อนๆ ใน web ก็ต้องมีมานะและความรอบคอบในการลงทุนกันนะครับ ขอขอบคุณความมีนำใจสำหรับการแบ่งปันครับ
อีกอย่างผมเองก็ลงทุนผิดพลาดมาในช่วงปีที่ผ่านมา และได้ข้อคิดหลายอย่างจากเพื่อนๆ ใน web ก็ต้องมีมานะและความรอบคอบในการลงทุนกันนะครับ ขอขอบคุณความมีนำใจสำหรับการแบ่งปันครับ
ชีวิตต้องสู้ ถึงจะมีความหมาย และประสบความสำเร็จ
-
- Verified User
- โพสต์: 1
- ผู้ติดตาม: 0
CISA = CFA
โพสต์ที่ 22
จริงๆตอนสอบก็รู้สึกว่าทรมานตัวเองที่ต้องพยายามจำอะไรมากมายขนาดนั้น แต่จริงๆแล้วทุกอย่างมันคุ้มค่ากับเวลา (และความทรมาน) ที่ลงทุนไป
หลักการวิเคราะห์ financial statement ต่างๆก็ตรงกับที่ Benjamin Graham พูดถึงในหนังสือเรื่อง The Intelligent Investor และใน commentary ของหนังสือเล่มนี้ มีบอกไว้ว่า Ben เป็นคนหนึ่งที่ผลักดันการก่อตั้ง CFA ด้วย
สรุป. คุ้มค่ากับการลงทุน
หลักการวิเคราะห์ financial statement ต่างๆก็ตรงกับที่ Benjamin Graham พูดถึงในหนังสือเรื่อง The Intelligent Investor และใน commentary ของหนังสือเล่มนี้ มีบอกไว้ว่า Ben เป็นคนหนึ่งที่ผลักดันการก่อตั้ง CFA ด้วย
สรุป. คุ้มค่ากับการลงทุน