งง ๆ กับ ตลาดสินค้าส่งออกทะเลตอนนี้

[teamb]

เท่าที่เคยเห็น เค้าประกันความเสี่ยงค่าเงินก็จริง แต่ไม่ได้ทำกันแบบข้ามปีนะคะ แค่ 3 เดือนก็นานไปแล้ว ทำให้ค่าเงินที่ประกันนั้นราคาแทบจะเท่ากับราคาตลาด diff ไม่น่าเกิน 2 บาทด้วยซ้ำ ส่วนนึงเรามองว่า เป็นการค้าทั่วไปที่เกิดขึ้นรายวัน การทำประกันค่าเงินจึงไม่ได้ทำกันเนิ่นนานนัก เต็มที่ก็เท่ากับ credit term เราเคยเห็นซื้อ forward rate แค่เดือนเดียวเองค่ะ ดังนั้น ถ้าค่าเงินอ่อนจริง ยังไงก็ได้ประโยชน์

แต่ถ้าสินค้าของเราซื้อกันทีละ lot โตๆ ทำสัญญากันเป็นปี อันนี้อาจทำประกันค่าเงินโดย fix rate ไว้ที่นึงนานๆก็ได้

คิดว่า nature ของธุรกิจน่าจะกำหนดการตัดสินใจของผู้บริหารในการทำประกันค่าเงินค่ะ

นั่นไงครับ การซื้อขายของ มหาชน ส่งกันไปทีเรือเป็นลำ ยังไงก็ Lot ใหญ่แน่ครับ คิดไม่ออกว่าจะส่งกันทีละน้อยๆได้ในกรณีไหนบ้าง อีกอย่างก็อย่างที่ผมว่า และที่พี่ chatchai ตั้งข้อสงสัยคือเมื่อเทียบกับค่าเงิน $ แล้วเงินบาทอาจจะอ่อนลงจริง แต่เมื่อเทียบกับค่าเงิน Euro หรือ Gbp ล่ะครับ?

ดูนี่ครับแล้วจะเคลียร์ในข้อสงสัยของผม

http://finance.yahoo.com/currency/conve ... it=Convert

อย่างที่พี่ฉัตรชัยบอก (อ้อมๆมั้งนะ) อย่าไปคิดว่าบาทอ่อนแต่เงิน $ มันแข็งตะหาก ถ้าไม่ใช่ผมก็ขอโทษละกันนะครับเพราะผมตีความของผมเอง 555+

ปล.สิ่งที่ผมคิดว่าน่าจะวิเคราะห์ก่อนเรื่องค่าเงินคือ ตลาดหลัก ของบริษัทที่เราเล็งไว้มากกว่าครับว่าอยู่ที่ไหนหลังจากนั้นค่อยมาวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนกันอีกที

[crazyrisk]

กลับไปนั่งอ่านบทความของพี่ปรัชญา

แล้วรู้สึกว่า ค่าเงินบาท นี่มันช่างเป็นเรื่องอันตรายจริงๆครับ

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopic.php?t=27682

โดยเฉพาะ

"ไทยศิลป์"ไปไม่รอด ต้องปิด

อีก 3พันฮือ-ตร.ตรึง เจ้าของโผล่แจง  
หนี้ท่วม-ไร้เงินกู้ รัฐออก7ทางแก้ สู้ศึกค่าบาทแข็ง

ปิดรอบ 2 - บริษัท ไทยศิลป์อาคเนย์อิมปอร์ต เอ็กซ์ปอร์ต จำกัด
ชี้แจงพนักงานกว่า 4 พันคนอีกครั้งว่าต้องเลิกจ้างและปิดกิจการ
ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค.เป็นต้นไป โดยอ้างว่าขาดสภาพคล่อง
และจะจ่ายค่าทดแทนให้เพียงครึ่งเดียว ทำให้มีการชุมนุมประท้วงทันที

       โรงงานไทยศิลป์ไปไม่รอด ต้องประกาศปิดกิจการรอบ 2
โดนฤทธิ์ค่าเงินบาทแข็งถล่มต่อเนื่อง สาวฉันทนา-หนุ่มโรงงาน
กว่า 3 พันช็อกซ้ำ เจ้าของชี้เหตุหาแหล่งเงินกู้ไม่ได้
สถาบันการเงินทุกแห่งปฏิเสธ เหลืออยู่เพียง 9 ล้าน
จ่ายเงินเดือนให้ครึ่งเดียว ขณะที่พนักงานฮือไม่พอใจ
จี้จ่ายเต็มจำนวน ส่อเค้าชุมนุมอีกระลอก
ตร.ระดมกำลังหน้าโรงงานหวั่นบานปลาย กระทรวงอุตฯ สั่งรับมือ
ประสานแรงงานดูแลสิทธิประโยชน์ จัดหาที่ทำงานใหม่
อ้างไม่กระทบอุตสาหกรรมรวมของประเทศ ขณะที่การแก้ปัญหาค่าเงิน
รัฐบาลรับ 7 ข้อเสนอเอกชน ให้ถือครองดอลลาร์มากกว่า 2 แสน
เปิดบัญชี จ่ายหนี้เป็นดอลลาร์ได้ เร่งรัฐวิสาหกิจคืนหนี้
ตั้งกองทุนดูแลเอสเอ็มอี

       "ไทยศิลป์"วุ่นอีก-ปิดโรงงานรอบ 2

        เมื่อวันที่ 19 ก.ค. เกิดความวุ่นวายอีกครั้งที่โรงงานของบริษัท
ไทยศิลป์อาคเนย์ อิมพอร์ต เอกซ์พอร์ต จำกัด
ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
ซึ่งประกอบกิจการตัดเย็บเสื้อผ้าให้ผลิตภัณฑ์ยี่ห้อไนกี้และอาดิดาส
เนื่องจากเจ้าของโรงงานประกาศปิดกิจการรอบที่ 2
ทำให้พนักงานโรงงานไทยศิลป์ฯ ทั้งสาขาใหญ่ สาขาบางปลา
และสาขาสำโรง ประมาณกว่า 3,000 คน
รวมตัวกันที่โรงอาหารภายในโรงงาน เพื่อรอฟังการชี้แจงจากเจ้าของโรงงาน
ขณะเดียวกันที่ด้านหน้าโรงงาน ทางพล.ต.ต.ชยุต ธนทวีรัชต์
ผบก.สมุทรปราการ ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจากทุกโรงพัก
และชุดปราบจลาจลประมาณ 200 นาย มาเตรียมพร้อม
เพื่อรับมือหากเกิดเหตุวุ่นวาย หรือปิดถนนประท้วง
เหมือนเมื่อวันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่เจ้าของโรงงานปิดกิจการดื้อๆ
เนื่องจากประสบกับปัญหาค่าเงินบาทแข็ง ทำให้ยอดสั่งสินค้าลดลง

น่ากลัวจริงๆครับ....

อุตฯ แข่งขันสูงๆ  
ค่าเงินบาท   ที่เราไม่สามารถควบคุมได้
กลับเป็นเหมือนลอยเรือจับปลาท่ามกลางกระแสน้ำขึ้นลง
วันดีขึ้นดี อาจเจอพายุโดยไม่รู้ตัว

ไม่รู้ว่าการปิดโรงงานคือการป้องกันความเสี่ยงของเจ้าของที่ดีที่สุดหรือเปล่า  ...  
ตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนลงบ้างแล้ว
เจ้าของอีกหลายบ. คงจะเริ่มกลืนเข้า คายออกกันได้บ้าง

[crazyrisk]

แหะๆ อ่านต่อไป จึงจะรู้ว่า

การปิดโรงงานอาจจะไม่ใช่การป้องกันความเสี่ยงสุดท้ายของเจ้าของบ. แฮะ

อธิบดีกรมสวัสดิการ ฯ กล่าวอีกว่า หากปิดกิจการโดยที่ลูกจ้างไม่มีความผิด
นายจ้างต้องดำเนินการให้เป็นไปตาม กฎหมายคุ้มครองแรงงาน
จ่ายค่าจ้างค้างจ่าย ค่าจ้างบอกกล่าวล่วงหน้า รวมทั้งค่าจ้างชดเชยตาม
กฎหมายคุ้มครองแรงงาน ซึ่งทั้งหมดต้องได้รับการยืนยัน
จากนายจ้างอย่างเป็นทางการว่ามีการปิด กิจการจริงจึงดำเนินการได้


โอ  แล้วจะเหลืออะไรล่ะเนี่ย

แค่ปิดกิจการ ก็ไม่รู้จะเอาหน้าและอนาคตไป  ไว้ไหนแล้ว

ยังต้องแบกรับคนอีกสามพันอีกเหรอเนี่ย

การเป็นเจ้าของบ.นี่มันยากเหลือเกินครับ

[Oatarm]

นอกจากปัจจัยค่าเงินที่คุยกันอย่างกว้างขวาง ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่มีนัยสำคัญ คือ เรื่อง ยอดขาย
สินค้าส่งออกทะเล  ผมตามอยู่ 2 ตัว คือ TUF กับ SSF
ดูยอดขายของทั้งสอง บมจ. ใน 2 ไตรมาสแรก  เป็นดังนี้  (ล้านบาท)

                         Q1/51                     Q2/51        QoQ
TUF                  15,416                    16,792        +9%
SSF                    1,023                      1,155        +13%

พิจารณาแนวโน้มปกติ ยอดขายของทั้ง 2 บมจ.น่าจะเติบโตในปีนี้ทั้งคู่ ด้วยปัจจัยที่แตกต่างกัน
TUF  ได้  AD กุ้ง  เพราะ ตลาดหลักของ TUF อยู่ที่ US
SSf   ได้ FTA  THA-JPN เต็มปี  เพราะ ตลาดหลักอยู่ที่ ญี่ปุ่น

สำหรับมาร์จิ้น  แค่กลับมาสู่ภาวะปกติ  นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้กำไรอย่างก้าวกระโดดแล้วครับ

[thiraphat]

อ่านดูแล้วมีหลายท่านเริ่มสนใจหุ้นอาหารทะเลส่งออก ในความเห็นผมถ้าจะถือยาวไม่ค่อยเห็นด้วยจากความผันผวนที่มีจากหลายปัจจัย แต่ถ้าถือรอข่าวดีจากค่าเงินหรือผลประกอบการณ์น่าจะดีกว่า เลือกวันที่แดงๆทยอยรับ รอขายเมื่อข่าวดีออก โชคดีทุกท่านครับ  

[charnengi]

อะไรคือปัจจัยที่ทำให้ค่าเงิน $ แข็งขึ้น?

เศรษฐกิจสหรัฐ ดูเหมือนว่า subprime ยังไม่จบ
ใครมีแนวคิดช่วยผมหน่อยเถอะ สำหรับผมคิดว่าน่าจะเป็นการลดความเสี่ยงจากการถือสินทรัพย์ โดยขายหุ้น หน่วยลงทุนต่างๆ มาถือเงินสดแทน แต่ผมว่าไม่น่าจะเป็นปัจจัยหลัก

คิดว่าถ้าพี่ๆ ไม่มีไอเดียกันเลย การแข็งค่าของ $us รอบนี้ อาจจะเป็นเพียงรอบสั้นๆก็ได้

[Oatarm]

แม้เศรษฐกิจสหรัฐมีปัญหา Supprime เราก็คิดเหมือน วิกฤตเศรษฐกิจของไทยปี 40 จนทำให้ค่าเงินบาทอ่อนยวบ  จึงคาดเดาว่า เงินดอลล์ ก็คงต้องอ่อนลงอย่างแน่นอน

ผมไม่ใช่กูรูทางเศรษฐกิจ  การเงิน  แต่รู้ว่า ต่างชาติขายหุ้นตลอดหลายเดือนมานี้ และ แลกบาทเป็นดอลล์ กลับไป  และก็คงเป็นเป็นแบบนี้ในหลายๆประเทศในเอเซีย  การทำเช่นนั้นสร้าง Demand ให้ดอลล์  ดูด USD กลับบ้านเกิด ในทางกลับกันเงินสกุลอื่นๆก็ถูกแลกกลับมาอยู่ในระบบแทน  จึงเห็น USD แข็งค่าขึ้น    เรื่องนี้ผมก็ตามดูเป็นความรู้เหมือนกัน การใส่เงินอุดหนุนในระบบสถาบันการเงิน  การตรึงหรือลดดอกเบี้ย ซึ่งแตกต่างจากการแก้วิกฤตในไทย   สุดท้ายแล้ว สหรัฐ จะฝ่าฟันช่วงวิกฤตของตนเอง  จากวิธีการที่กระทำอยู่ได้หรือไม่

[i-robot]

[quote="thiraphat"]ราคากุ้งถูก ฟันกระจายอย่างไร คืออย่างนี้ครับในธุรกิจอาหารทะเล โรงงานจะรู้ต้นทุนชาวประมงทั้งหมดแต่ชาวประมงจะไม่รู้ต้นทุนโรงงานทั้งหมดหรอกครับ ถึงรู้ก็ทำอะไรโรงงานไม่ได้ทำได้ก็มายืนด่า เหมือนที่คุณเคยได้ยินมานั่นแหละ เดี๋ยวนี้โรงงานจะรับซื้อวัตถุดิบในราคาที่ลูกค้าพออยู่ได้ แต่ถ้าในฤดูกาลที่วัตถุดิบมีมากจะรับซื้อในราคาที่ลูกค้าเสมอตัวหรือมีกำไรนิดหน่อยแค่นั้นเอง ของสดนะครับถ้าให้เปรียบเทียบก็ผีถึงป่าช้านั่นแหละครับมีให้เลือกแค่เผากับฝังคุณจะเลือกอะไร ธุรกิจนี้นับวันมีแต่รายใหญ่เท่านั้นที่อยู่ได้ ทั้งชาวประมงและโรงงานเพราะสายป่านต้องยาวกันทั้งสองฝ่าย มีอะไรสวฃงสัยจะพยายามตอบให้ครับ เพราะผมทำงานโรงงานอาหารทะเลส่งออกครับใบ้ให้ว่าอยู่ในตลาดด้วยแต่ไม่ค่อยมีหุ้นซื้อ ขาย แต่ผมไม่หุ้นบริษัทที่ตัวเองทำงานนะครับ