ถามผู้รู้ซื้อหุ้นผ่านเนต กรณีได้ของถูกกว่าที่ bid ครับ

[nathapon_m]

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนก่อนนอน  ตั้ง bid หุ้นตัวนึงไว้ที่ 33 บาท นะครับ
พอมาวันนี้ตื่นมาเปิดจอจะดูตลาดว่าเป็นอย่างไรก็ตกใจ  เนื่องจากตัวที่ bid ไป ราคาลงไป low ที่ 29.75 บาท  สรุป bid ติดหมดเลย ขึ้น match หมดเลย ที่ราคา 33 บาท (ในใจคิดว่าพลาดแล้วครับพี่น้อง T-T)

แต่เดี๋ยวก่อน  ทำไมตัวที่ bid ติดมา  มันเขียวนะ  ทั้งที่ตอนนี้ราคาตลาดปัจจุบันนี้มัน 32 บาทนี่หน่า

แล้วต้นทุนเฉลี่ยในพอร์ตเหลือ 30.78 ด้วย ก็เลยขยี้ขี้ตาออก (เพิ่งตื่น)  ดูใหม่ดีดี   ปรากฏว่า high วันนี้มันแค่ 32.25 บาทเท่านั้น

ราคาเปิดมันก็ 30 บาท  อืม งั้นเราได้ราคาไหนหว่า  ปรากฎได้ราคาเปิดครับคน offer 30 บาทตอนเช้าเยอะ  

สรุปแปลว่าเรา bid 33 บาท ไม่ได้แปลว่าเราจะได้ราคา 33 บาท ใช่มั้ยครับ  คอมมันจะ set ราคาที่ถูกที่สุดขณะนั้นให้เราใช่หรือไม่ครับ

ปล.ใช้ zmico znet ครับ

[007-s]

ถ้าบิดคาไว้เมื่อคืน แปลว่าได้มาราคาเปิดค่ะ เพราะมันเปิดต่ำกว่าที่บิดขอไป

[anakinnet]

ถ้าใช้  โปรแกรม Streaming ของ settrade กดปุ่ม Deal Data ก็จะเห็นราคาที่ match ครับ

กรณีนี้เป็นเพราะราคาbidแพงกว่าราคาเปิด แสดงว่า ถ้าแพงกว่ายังเอา ถ้าถูกกว่าก็ต้องอยากได้ ก็จะได้ที่ราคาเปิด เหมือนกับที่คุณ สายลับ 007 ว่าไว้นะครับ

แต่ไม่ใช่แค่ที่ราคาเปิดหรือปิดอย่างเดียว ระหว่างวันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ครับในกรณีที่มีคนโยน bid กับ offer ที่ราคาเหลื่อมๆกันครับมาพร้อมๆกัน เช่น bid ที่ 7 บาท กับ offer ที่ 5 บาท คนอยากซื้อที่ 7 บาท มีคนขายที่ 5 บาท ก็ต้องสนใจอยู่แล้ว แล้วคนที่อยากขายที่ 5 บาท มีคนมารับซื้อที่ 7 บาท ก็ยิ่งอยากขาย แต่ผมไม่รู้ว่าเค้าจะคำนวณราคา deal data ยังไง ใครรู้ช่วยเสริมทีครับ

[ปรัชญา]

มือใหม่แกะกล่อง

[สวนหย่อม]

แต่ไม่ใช่แค่ที่ราคาเปิดหรือปิดอย่างเดียว ระหว่างวันก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ครับในกรณีที่มีคนโยน bid กับ offer ที่ราคาเหลื่อมๆกันครับมาพร้อมๆกัน เช่น bid ที่ 7 บาท กับ offer ที่ 5 บาท คนอยากซื้อที่ 7 บาท มีคนขายที่ 5 บาท ก็ต้องสนใจอยู่แล้ว แล้วคนที่อยากขายที่ 5 บาท มีคนมารับซื้อที่ 7 บาท ก็ยิ่งอยากขาย แต่ผมไม่รู้ว่าเค้าจะคำนวณราคา deal data ยังไง ใครรู้ช่วยเสริมทีครับ

เดาว่าในระบบคอมพิวเตอร์ในท้ายที่สุดจะเป็นแบบลำดับ คือ เป็นไปไม่ได้ ที่จะมี bid และ offer พร้อมกันในเวลาเดียวกัน ต่อให้ข้อมูลมาถึงพร้อมกัน ก็ประมวลผลได้ทีละข้อมูลการซื้อขายอยู่ดี ข้อมูลใครมาถึงก่อนก็เสียเปรียบไป

[SaKaEi]

คอมพิวเตอร์จะคำนวนราคาเปิดหรือราคาปิด เป็นราคาที่เกิดการ Match จับคู่ซื้อขายได้มากที่สุดครับ

ถ้าฝั่งซื้อ bid ไว้ 33 หมายความว่ายอมซื้อทุกราคาที่ไม่เกิน 33 บาท ยิ่งถูกยิ่งดี

ขณะเดียวกัน ถ้าตั้งขายไว้ 28 บาท ก็คือขายราคาไหนก็ได้ที่ไม่ต่ำกว่า 28 ยิ่งแพงยิ่งดี

และในช่วงตลาดปิดและเปิด จะมีการตั้งราคาแบบ ATO ATC ด้วย คือซื้อขายโดยไม่เกี่ยงราคา เท่าไหร่ก็เอา

พอเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน ก็จะสามารถคำนวนหาราคาที่ Match กันได้ มากที่สุดได้ครับ ซึ่งทุกคนที่ตั้งซื้อแพงกว่านี้ หรือตั้งขายถูกกว่านี้ รวมถึงตั้ง ATO ATC เอาไว้ จะได้ราคาเดียวกันหมดตอนเปิดตลาด

สมมุติตอนก่อนเปิดตลาดเป็นอย่างนี้

   BID                      OFFER
ATO  500              ATO  3000
34   1000             28    500
33   1000             32    1000
32   5000             35    3500


ตลาดก็จะเปิดที่ราคา 32 บาท ซื้อขายทั้งหมด 4500 หุ้น

   BID                      OFFER
32   3000              35   3500

[007-s]

เดาว่าในระบบคอมพิวเตอร์ในท้ายที่สุดจะเป็นแบบลำดับ คือ เป็นไปไม่ได้ ที่จะมี bid และ offer พร้อมกันในเวลาเดียวกัน ต่อให้ข้อมูลมาถึงพร้อมกัน ก็ประมวลผลได้ทีละข้อมูลการซื้อขายอยู่ดี ข้อมูลใครมาถึงก่อนก็เสียเปรียบไป

ใช่ค่ะ

กรณีที่ว่า คล้ายการตัดราคา หรือขับรถปาดหน้ากัน :lol:

เช่น (จะยกตย.กรณีหุ้นไม่ค่อยมีวอลลุ่มซึ่งอตร.)
กรณี มีบิดรอ 7*5000 / 6.5* 20000 / 6* 50000 / 5*3000 (:shock: มาไงเนี่ย ตานี่คงตั้งไปทุกวันที่ราคาฟลอร์ ไม่ได้ก็ไม่ว่าไร ไม่เมื่อย)

แล้วมีรายใหญ่ซักคนนึง เกิดถือจนเมื่อยขึ้นมา หรืออะไรไม่ทราบได้
สั่งขายที่ราคา 5*100000  :shock: งานเข้าล่ะ(พี่เขาอาจจะทุน บาทนุง รับปันผลมาแล้ว 9 รอบ ไรเงี้ย :lol: )

ทั้งหมดจะแมทช์หมดเลย และจะเหลือออฟเฟอร์ที่ 5*22000 คาอยู่
(ผู้ขายรับตังค์ 7*5000 / 6.5* 20000 / 6* 50000 / 5*3000 )

ถ้าเป็นในทางขึ้น ก็แค่คิดกลับกันค่ะ

[nathapon_m]

[quote="SaKaEi"]คอมพิวเตอร์จะคำนวนราคาเปิดหรือราคาปิด เป็นราคาที่เกิดการ Match จับคู่ซื้อขายได้มากที่สุดครับ

ถ้าฝั่งซื้อ bid ไว้ 33 หมายความว่ายอมซื้อทุกราคาที่ไม่เกิน 33 บาท ยิ่งถูกยิ่งดี

ขณะเดียวกัน ถ้าตั้งขายไว้ 28 บาท ก็คือขายราคาไหนก็ได้ที่ไม่ต่ำกว่า 28 ยิ่งแพงยิ่งดี

และในช่วงตลาดปิดและเปิด จะมีการตั้งราคาแบบ ATO ATC ด้วย คือซื้อขายโดยไม่เกี่ยงราคา เท่าไหร่ก็เอา

พอเอาข้อมูลทั้งหมดมารวมกัน ก็จะสามารถคำนวนหาราคาที่ Match กันได้ มากที่สุดได้ครับ ซึ่งทุกคนที่ตั้งซื้อแพงกว่านี้ หรือตั้งขายถูกกว่านี้ รวมถึงตั้ง ATO ATC เอาไว้ จะได้ราคาเดียวกันหมดตอนเปิดตลาด

สมมุติตอนก่อนเปิดตลาดเป็นอย่างนี้