รบกวนพี่ๆน้องๆชาวTVIหน่อยครับ

[jek ae]

ช่วย comment port folio ให้ด้วยครับ

เริ่มลงทุนจริงๆมาตั้งแต่ต้นปีครับ ถือหุ้น 100%ตลอด มีซื้อขายปรับพอร์ตเป็นบางครั้งแบบขายตัวโน้นมาถมตัวนี้ อยาขอคำวิจารณ์และข้อชี้แนะด้วยครับ

เงินทุน 7 หลักครับ หุ้นหลักๆมีดังนี้ครับ
1.PF ทุน2.58 ตัวนี้มีอยู่ 30%
2.KTC ทุน8.6 มีอยู่30%
3.MINT ทุน7.25 มี12%
4.MAJORทุน6.9 มี10%
5.TICON ทุน6.1มี10%
6.TOPทุน36.5 มีอยู่6%
7.TTA ทุน 22.5 มี2%
  2ตัวหลังเพิ่งจะรับเข้าพอร์ตมาครับ ตอนนี้รวมปันผลที่ใส่กลับเข้าไปพอร์ตโตขึ้นประมาณ 25%ครับ

วิจารณ์ได้เต็มที่ครับ พร้อมรับข้อคิดเห็นของทุกท่านครับ

[Blueblood]

ถ้าบอกว่าเล่นตั้งแต่ต้นปี แต่ดูจากทุนที่ถือแต่ละตัวแล้วคงมีการขายทำกำไรยกพอร์ตไปอย่างน้อยหนึ่งรอบแล้วใช่มั๊ยครับ

ผมว่าน่าจะบอกเหตุผล ณ ตอนที่ซื้อประกอบแต่ละตัวมาด้วยนะครับ จะได้ช่วยกัน comment ถูก

จริงๆการถือหุ้นอะไรไม่สำคัญเท่ากับว่าถือเพราะอะไรนะครับ

[jek ae]

เคยขายล็อตใหญ่ๆไปครับ แต่ก็ซื้อกลับเข้าพอร์ตมาตลอด

เนื่องจากผมเป็นมือใหม่ตลาหุ้นจริงๆช่วงแรกๆที่ซื้อขายมักจะเข้าออกผิจังหวะขาดทุนบ่อย จนมาใช้วิธีหุ้นแบบก้นบุหรี่ที่กิจการยังพอไปได้ เลยมาเลือกหุ้น pf ครับ ตอนแรกมีอยู่80%ของพอร์ตที่2.40 แบ่งขายไปครึ่งก่อนxd แล้วก็เหลือถือไว้เพระเห็นว่ากิจการยังพอไปได้ แถมราคามันยังไม่ไปไหน เงินที่ขายpf ก็เอาไปเข้าตัวที่เหลือครับ

[baby-investor]

พวกหุ้นก้นบุหรี่นี่บางทีราคานิ่งเป็นปีปีราคาไม่ไปไหน รอจนเมื่อยก้นเลยครับ  :D  ถ้าไม่นิ่งพอแนะนำให้ถือหุ้นพวกนี้ในสัดส่วนที่น้อยกว่านี้หน่อย แล้วลองไปถือหุ้นที่มี story มากหน่อย (เป็น story ที่คาดผลประกอบการณ์ได้นะครับ) แต่ถ้านิ่งพอ วันนึงเวลามันขึ้น มันจะขึ้นรวดเดียวเลย ส่วนหุ้นที่คาดผลประกอบการณ์ยาก หรือพวกที่เล่นเร็วแห่ตามกันไป ต้องระวังให้มากนะครับ วันใด fundflow กลับทิศทาง เราอาจติดดอยได้ครับ

[MO101]

ระยะในการถือนี่ยาวไม่พอครับ ดูตัวอย่าง
ดร นิเวศ ถือ ตั้งแต่งาน meeting ครั้งที่ 3 ปัจจุบันคงถืออยู่
พี่ วิบูลย์ ถือ ตั้งแต่ตั้งกระทู้ตะแกรงร่อนบัดนี้ยังคงถืออยู่
พี่ ฉัตรชัยถือตั้งแต่ก่อนเปิดเว็บ thaivi ยังถงถืออยู่ไม่ไปไหน
พี่หมอสามัญชน ถือมา 2-3 ปีได้แล้วมั้งปัจจุบันต้องทายในงาน meetting
ว่าจะอยู่หรือไป

สรุปว่ามือเซียนทั้งหลายถือกันไม่ต่ำกว่า 2-3 ปีทั้งนั้น

[sunrise]

ต้องถามเรืองถือหุ้นแต่ละตัว มีเป้าหมายจะขายที่เท่าไหร่และเหตุผลที่ซื้อครับ
จริงๆ อยากรู้ว่าเป้าหมายที่จะขายของแต่ละตัว เอามาจากไหนด้วยครับ
แล้วจะวิเคราะห์เพิ่มให้

การที่จะถือหุ้นโดยที่ไม่สามารถกำหนด ราคาเป้าหมาย ก็เท่ากับซื้อโดยไม่รู้ Margin of Safety
และ อาจเป็นการสุ่มซื้อโดยหวังเก็งกำไรมากกว่าจะเป็นการซื้อโดยรู้มูลค่าครับ

เชือผมครับไหนๆก็เปิดเผยแล้ว ตอบคำถามของที่พี่ๆน้องๆในนี้ถาม แล้วจะมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลยครับ

ถ้าดูรุนแรงขออภัยไว ณ ที่นี้ด้วยครับ  :)

[jek ae]

สวัสดีครับ เพื่อนๆที่ข้ามาทุกท่านเพิ่งกลับจากตีเทนนิสครับ

จะลองเอาเหตูผลที่ผมซื้อหุ้นดังกล่าวมาให้ทุกท่านวิเคราะห์ดูครับ
1.pf ตัวนี้ที่ซื้อพราะว่ามันถูกครับ ปันผลได้เยอะ(รอบที่ผ่านมา) โครงการปีนี้เปิดตัวมาก และยังได้อานิสสงค์จากนโยบายของรัฐ แล้วก็การเป็นธุรกิจที่ฟื้นจากหลุมมานี่ผมค่อนข้างชอบครับ มันเหมือนกับคนที่หายป่วยแล้วมีภูมิต้านทานโรคติดตัวครับ เป้าหมายตัวนี้คงต้องราคาพาร์(6บาท)
2.ktc ตัวนี้เข้าๆออกๆหลายรอบครับ หลังเคลียร์ประเด็นเรื่องเพิ่มทุนได้แล้วเปลี่ยนมาเป็นออกหุ้นกู้แทน ทำให้มั่นใจในตัวหุ้นมากขึ้นครับ เลยซื้อเข้าพอร์ทมากขึ้น ตัวนี้ตั้งใจถือยาวๆๆครับ ถ้าไม่มีประเด็นเรื่องเพิ่มทุนมากวนใจอีก เป้าหมายของตัวนี้ผมมองแถวๆราคาbookครับ
3.ticon เหตุผลที่ซื้อตอนแรกเพราะปันผลครับ แต่พอดูๆไปก็เป็นธุรกิจเสือนอนกินดี เลยจะเก็บยาวเหมือนกันครับ เป้าหมายคงแถวๆ12 บาทมั้ง
4.mintกับmajor ผมซื้อเพราะข่าวร้ายครับ เรื่อง swine flu ไปรอขายตอนเศรษฐกิจดีๆแล้วกัน มองแถว12-15 บาทครับ
5.top วื้อดักตอนราคาน้ำมันลงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ ตัวนี้คงขายตามรอบของดัชนี

สรุปนี่คือที่ผมมองหุ้นที่ตัวเองถือครับ การวัดมูลค่าหุ้นอะไรนั้นผมทำไม่เป็น ก็ตั้งใจอยากถือหุ้นยาวๆหมือนที่เพื่อนๆTVI ครับ

[yoyo]

ไม่ comment หุ้นครับ... แต่มา comment หลักการ...

ว่าราคาทุนนี่ให้ลบออกจาก memory เลยครับ แล้วก็ไม่ต้องไปดูมัน
ให้ความสำคัญกับราคาเป้าหมาย และราคาตลาด ซึ่งเอา 2 ตัวนี้มาคำนวณราคาเป้าหมายได้ แล้วมา Focus ตรงจุดนี้ครับ เพราะราคาทุนมีแต่จะทำให้เราตัดสินใจผิดพลาดได้ง่ายขึ้น

[Suysak]

หุ้นที่เลือก สำหรับผมก็เห็นว่าดีทุกตัวแหละครับ ยกเว้นตัว pf ผมไม่เคยดูพื้นฐานเลยไม่แน่ใจว่าดีหรือเปล่า
        ยังไงถ้าซื้อหุ้นตอนนี้ แล้วเก็บยาวไว้อนาคตคงได้ผลตอบแทนที่ดีทุกตัว แต่ถ้าเป็นผม ผมชอบกันเงินสดไว้บ้างในพอร์ตครับเพื่อเวลาเกิดพานิก จะได้มีเงินซื้อ ส่วนถ้าเป็นพอร์ตที่เน้นปลอดภัย ผมไม่อยากถืออสังหาเป็นหลักครับ ผมชอบตัวที่ได้เงินสดเช่นพวกค้าปลีกมากกว่า
        ดูจากการซื้อและเหตุผลที่เลือก คุณ jake คงทำการบ้านมาดีพอควรเลยละ  :D แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการลงทุนคือ เลือกแนวทางของเราและยึดมั่นในแนวทางนั้น เพราะโดยประสบการณ์ที่ผมผ่านมา ในช่วงแรกของการลงทุนนั้นผมเลือกแนว วีไอ (ผมเริ่มลงทุนก่อน 911 ประมาณเดือนหนึ่งมั้ง) ซึ่งผมก็พบว่ามันทำให้ผมไม่ขาดทุนแต่ก็กำไรไม่เยอะ เทียบกับรุ่นเดียวกันซึ่งลงทุนพร้อมกัน
       แต่นั่นทำให้ผมเกิดการผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง เพราะผมลืมสไตล์ของตัวเอง จนทำให้ผมลงทุนไม่ประสบผลสำเร็จ
      ในที่สุดผมก็เลยกลับมาใช้แนวทางเดิมอีกครั้ง และก็พบกับความสุขในการลงทุนในที่สุด
       เป็นกำลังใจให้นะครับ ยังไงก็อย่าลืมแนวทางของเรานะครับ  :B

[austin_bd]

มาขอแบ่งความรู้คับ



พี่ yoyo คับ รบกวนขอรายละเอียด อีกนิดได้ป่าวคับ ยังไม่เข้าใจเท่าไร...



ด้อยความรู้อ่ะคับ

[crazyrisk]

ต้องถามเรืองถือหุ้นแต่ละตัว มีเป้าหมายจะขายที่เท่าไหร่และเหตุผลที่ซื้อครับ
จริงๆ อยากรู้ว่าเป้าหมายที่จะขายของแต่ละตัว เอามาจากไหนด้วยครับ
แล้วจะวิเคราะห์เพิ่มให้

มารอฟัง เทพซันไรส์ คอมเม้นท์ครับ

[jek ae]

ขอบคุณครับสำหรับทุกความคิดเห็น

ประเด็นเรื่องหุ้น pf ใจนึงผมเองก็หวั่นๆอยู่เหมือนกัน เพราะว่าหุ้นอสังหา ส่วนใหญ่มักจะไม่อยู่ใน watchlist ของเพื่อนๆชาว vi เท่าใดนัก แต่หุ้นตัวนี้เป็นตัวจุดประกายให้ผมอยากถือหุ้นลงทุนแบบยาวๆเป็นตัวแรก อาจเป็นเพราะว่าราคาตอนที่ซื้อมันต่ำบุ๊คเหลือเกิน (bv8บาทกว่า) ธุรกิจน่าจะยังพอไปได้อย่างน้อยในอีก2-3ปีข้างหน้าที่สำคัญเป็นหุ้นตัวแรกที่ทำกำไรให้ผมเป็นกอบเป็นกำ(ผมขายไปครึ่งหนึ่งแถวสามบาทสามสิบ) เหลืออยู่อีกครึ่งรับปันผล แล้วเก็บมาตั้งแต่นั้น เงินที่ขายpf ก็เลยได้เอามาฃื้อหุ้นที่เหลือเข้าพอร์ท เลยมองแบบปลอบใจตัวเองเหมือนกันว่า ตรูลงทุนแบบvi กับหุ้นอสังหานี่แหละ

ส่วนktc ผมมั่นใจในตัวธุรกิจครับ ผมเองถือบัตร ktc มาตั้งแต่แรกๆ ตัวนี้ผมเคยฃื้อตั้งแต่หกบาทกว่า แต่พอมีข่าวเพิ่มทุน และมีการลากราคาหุ้น เลยขายไปหมดตอนเดือนพค.ที่ 10 บาท หลังจากมติเพิ่มทุนโดนล้มผมจึงเริ่มกลับไปรับหุ้นใหม่

ตัว ktc นี่ผมตงิดๆในใจอยู่2ประเด็นครับ เรื่องแรก ผู้บริหารออกนโยบายเพิ่มทุนมาได้อย่างไร ตั้ง3ต่อ1 แถมเหตุผลเพิ่มทุนก็ข้างๆคูๆพิกล นี่ออกหุ้นกู้ 2ชุดคงตัดปัญหาได้ ประเด็นที่ 2 หลังคลียร์เรื่องเพิ่มทุนเสร็จ รู้สึกสภาพคล่องของหุ้นมันหายไปไหนหมด มันเหมือนกับว่าหุ้นหายไปอยู่กับมือที่มองไม่เห็น(หรือเป็นพี่ๆห้องนี้55)บางวันผมนั่งดู บิด 5 ช่อง รวมกันไม่ถึงหมื่นหุ้น  ถ้าเมื่อไหร่มีความจำเป็นต้องขายหุ้นละดูไม่จืด

สุดท้ายหุ้น mint ตัวนี้ชอบเพราะ contactธุรกิจโดยตรงครับ ผมเองเข้าไปดูแลแขกแบบ hotel visit บ่อยที่ 4season samui เลยขอเข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นซะเลย

[sunrise]

จะลองเอาเหตูผลที่ผมซื้อหุ้นดังกล่าวมาให้ทุกท่านวิเคราะห์ดูครับ
1.pf ตัวนี้ที่ซื้อพราะว่ามันถูกครับ ปันผลได้เยอะ(รอบที่ผ่านมา) โครงการปีนี้เปิดตัวมาก และยังได้อานิสสงค์จากนโยบายของรัฐ แล้วก็การเป็นธุรกิจที่ฟื้นจากหลุมมานี่ผมค่อนข้างชอบครับ มันเหมือนกับคนที่หายป่วยแล้วมีภูมิต้านทานโรคติดตัวครับ เป้าหมายตัวนี้คงต้องราคาพาร์(6บาท)

ราคาถูกมาก dividend yeild ดี เป้าหมายลูกค้าคือ ระดับกลาง และบน
แต่ผมหาจุดเด่นของบริษัทชัดไมได้
แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะกลับไปที่ราคาพาร์ได้อย่างไร ถ้าไม่ได้เห็นกำไรดีมากๆ หรือpresale ที่มากๆ (ลองดูนะครับผมไม่ได้ดูละเอียด)
มาตรการอสังหา ถ้าไม่ได้ต่อ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกำไรจะสูงเหมือนในปีที่แล้วหรือเปล่าครับ  
ทีสำคัญ pf เป็นตัวที่กำไรไม่มีความเสถียร บางปีก็ดีมาก บางปีก็แย่เลย ดังนั้นความเสี่ยงคือ
ถ้าไม่ได้ติดตามใกล้ชิด เราไม่สามารถคาดเดาผลประกอบการณ์ได้เลยครับ
2.ktc ตัวนี้เข้าๆออกๆหลายรอบครับ หลังเคลียร์ประเด็นเรื่องเพิ่มทุนได้แล้วเปลี่ยนมาเป็นออกหุ้นกู้แทน ทำให้มั่นใจในตัวหุ้นมากขึ้นครับ เลยซื้อเข้าพอร์ทมากขึ้น ตัวนี้ตั้งใจถือยาวๆๆครับ ถ้าไม่มีประเด็นเรื่องเพิ่มทุนมากวนใจอีก เป้าหมายของตัวนี้ผมมองแถวๆราคาbookครับ

net margin ของบริษัทตกมาตลอด 5ปี ขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นตลอด ผมจะไม่ค่อยกล้าเสี่ยงกับธุรกิจนี้เพราะ
1. หนี้สูงมากครับ และเป็นหนี้ที่พร้อมจะศูนย์ ถ้าคนใช้บัตรไม่จ่ายคืน
2. ต้องการเงินทุนมาเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อทำกำไรมากขึ้น และความเสี่ยงก็มาขึ้นด้วย เป็นรูปแบบของเงินต่อเงิน
3. ธุรกิจบัตรเครดิต เป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันรุนแรง และไม่มีความได้เปรียบอย่างยั่งยืนเลย
ปล. ผมไม่ลงทุนให้หุ้นแบงค์เช่นกันเพราะดูไม่ออกครับ ยากเกินความสามารถ
ถ้ามีมุมมองว่ามีจุดเปลี่ยนของธุรกิจ เพราะออกหุ้นกู้ อาจต้องอธิบายให้ผมฟังว่าดียังไง  :lol:

ผมขอถามครับ อะไรจะเป็นตัวทำให้ราคาเพิ่มครับ กำไร หรือว่า story
ด้วยตัวมันเองผมมองว่ายากมากที่จะกลับไปสู้ราคา book ด้วยพื้นฐานของกำไร
เน้นนิดนะครับ ถ้าสังเกตดีๆ แม้หุ้นจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้นมาก แต่กำไรกลับไม่ได้เพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่น่าสนใจเลย

3.ticon เหตุผลที่ซื้อตอนแรกเพราะปันผลครับ แต่พอดูๆไปก็เป็นธุรกิจเสือนอนกินดี เลยจะเก็บยาวเหมือนกันครับ เป้าหมายคงแถวๆ12 บาทมั้ง

กิ๊กเก่าผมนะนี่ ตัวนี้
ผมคิดว่าตัวนี้เป็นหุ้นเสือนอนกินจริงครับ แต่ว่ากังวลเรื่องสภาพเศรษฐกิจและการลงทุน แต่ถ้าถือยาวผมเห็นดีด้วยครับ
ปัจจัยที่ทำให้หุ้นกลับมาได้คือการเพิ่มของโรงงาน และสามารถขายโรงงานเข้ากองทุนอสังหาริมทรัพได้อย่างต่อเนื่อง

4.mintกับmajor ผมซื้อเพราะข่าวร้ายครับ เรื่อง swine flu ไปรอขายตอนเศรษฐกิจดีๆแล้วกัน มองแถว12-15 บาทครับ

ถ้ามอง recovery ผมก็คิดว่าเป็นไปได้ครับ ทั้งสองตัวขึ้นอยู่กับว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาเมือไหร่ และเป็นหุ้นที่ต่างชาติสนใจ
มีความแข็งแกร่งอยู่ในตัวเองสูง โดยแลกมาที่ PE สูงกว่าหุ้นกลุ่มอื่นในราคานี้


5.top วื้อดักตอนราคาน้ำมันลงเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ ตัวนี้คงขายตามรอบของดัชนี

อันนี้เกินความสามารถผมครับ ในเรื่องการซื้อขายตามรอบดัชนี  :lol:
ซึ่งผมไม่คิดว่าอันนี้เป็นการลงทุนแบบ VI  แนะนำดุห้องเทคนิค ครับ
ไม่ comment นะครับ  :)
สรุปนี่คือที่ผมมองหุ้นที่ตัวเองถือครับ การวัดมูลค่าหุ้นอะไรนั้นผมทำไม่เป็น ก็ตั้งใจอยากถือหุ้นยาวๆหมือนที่เพื่อนๆTVI ครับ[/quote]

สุดท้ายขอ comment เรื่อง concept นะครับ

ผมว่าคุณ jek ae ยังไม่ชัดเจนเรื่องราคาเป้าหมาย ส่วนใหญ่เป็นการกะๆ คาดๆโดยผมยังไม่เห็นหลักการณ์ที่ชัดเจนในการให้เป้าหมาย
ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าคุณ jek จะขายก่อนถึงราคาเป้าหมาย หรือ อาจไม่ยอมขายถ้าหุ้นเกินราคาที่คาดปัจจุบัน เพราะราคาเป็นราคาที่กะๆ เอา
เมือไม่มีหลักการณ์ที่ชัดเจน ผมคิดว่ายากที่จะถือหุ้นได้นานจริงๆและกลายเป็นซื้อๆ ขายๆแทน

แล้วก็เรื่องต้นทุนครับ อย่างที่เทพโยบอก ลืมมันซะ
เรื่องต่อมา ผมเชื่อว่าพี่ทำงานประสบความสำเร็จ ถ้าสนใจหุ้นก็ลงทุนเพิ่มความรู้ให้ตัวเอง หามูลค่าหุ้นให้ได้ อย่ากลัวอย่าท้อ
แล้วเดี๋ยวก็จะเห็นว่าการลงทุนไม่อยากมาครับ ลงทุนความรู้เยอะๆ

สุดท้ายครับ ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ครับ :lol:

[Laziale]

[quote="sunrise"]จะลองเอาเหตูผลที่ผมซื้อหุ้นดังกล่าวมาให้ทุกท่านวิเคราะห์ดูครับ
1.pf ตัวนี้ที่ซื้อพราะว่ามันถูกครับ ปันผลได้เยอะ(รอบที่ผ่านมา) โครงการปีนี้เปิดตัวมาก และยังได้อานิสสงค์จากนโยบายของรัฐ แล้วก็การเป็นธุรกิจที่ฟื้นจากหลุมมานี่ผมค่อนข้างชอบครับ มันเหมือนกับคนที่หายป่วยแล้วมีภูมิต้านทานโรคติดตัวครับ เป้าหมายตัวนี้คงต้องราคาพาร์(6บาท)

ราคาถูกมาก dividend yeild ดี เป้าหมายลูกค้าคือ ระดับกลาง และบน
แต่ผมหาจุดเด่นของบริษัทชัดไมได้
แต่ยังนึกไม่ออกว่าจะกลับไปที่ราคาพาร์ได้อย่างไร ถ้าไม่ได้เห็นกำไรดีมากๆ หรือpresale ที่มากๆ (ลองดูนะครับผมไม่ได้ดูละเอียด)
มาตรการอสังหา ถ้าไม่ได้ต่อ ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้นกำไรจะสูงเหมือนในปีที่แล้วหรือเปล่าครับ

[jek ae]

เพิ่งกลับเข้ามาครับ

ขอบคุณคุณ sunrise มากๆครับสำหรับ comment ดีๆจะพยายามปรับเอามุมมอง วิธีคิดสำหรับการมองหุ้นมาปรับใช้ครับ

อย่างที่ออกตัวไว้ว่าผมเองนี่ใหม่กับตลาดหุ้นจริงๆ เพราะเดิมนี่นอกจากธุรกิจส่วนตัวแล้วผมเน้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์มากกว่าครับ ที่สนใจตลาดหุ้นก็เพราะติดตามข่าวการตกต่ำของตลาดหุ้นมาตั้งแต่ช่วงปลายปีเลยลองแหย่เข้ามาครับ นับว่ายังเป็นโชคดีของผมอยู่บ้างที่มาลองผิดลองถูกในช่วงที่มันกลับตัวขึ้นเลยยังมีกำไรและพอร์ตโตขึ้นจากแรกเริ่มได้บ้าง

ก็หวังไว้ว่าสักวันหนึ่งผมเองคงได้เป็นหนึ่งใน vi ที่ประสบความสำเร็จในการลงทุนและสามารถมีอิสรภาพทางการเงินได้แบบหลายท่านครับ

[jek ae]

ขออนุญาตขุดกระทู้มา ครบ 1 ปี หลังจากได้ลองศึกษาแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่า

สรุปอย่างง่ายๆได้ใจความ แนวทางการลงทุนแบบvi ศึกษาเรียนรู้กันได้ เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง สามารถสร้างผลตอบแทนของการลงทุนได้จริง

ขอบคุณทุก comment ที่ได้ให้แก่มือใหม่อย่างผมในครั้งนั้น แม้ในตอนนั้นยังคงไม่สามารถซึมซับได้เต็มที่ถี่ถ้วนกระบวนความ

หลังจากได้ศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติม ทั้งจากแหล่งข้อมูลในเว็บ ตำราแนวทางการลงทุนเน้นคุณค่า ความรู้ที่ได้มาทำให้ผมเชื่อว่าแนวทางลงทุนแบบvi สามารถสร้างความยั่งยืนในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้ตลอดไป

ผมเองคงยังไม่สามารถบอกตัวเองได้ว่าประสบความสำเร็จในการลงทุน คงต้องรอให้เวลาผ่านไปอย่างน้อยก็เป็นหลักสิบปีเหมือนที่ อ.นิเวศน์เคยกล่าวไว้ แต่ผมเชื่อว่าวันนั้นคงมาถึง ถ้าผมยังยึดมั่นในหลักการลงทุนแนว vi

ขอบคุณอีกครั้งสำหรับสิ่งดีๆที่เว็บ tvi ได้มัให้ โดยเฉพาะข้อมูลในร้อยคนร้อยหุ้น ผมว่ามีคุณค่ามหาศาลนักสำหรับผู้ที่จะเป็นนักลงทุนเน้นคุณค่าในตลาดบ้านเรา