หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 61
ขอบคุณทุกคำแนะนำและความสนับสนุนครับ ผมคงแปลต่อไปอีกแน่ๆ2-3 เล่ม จากนั้นจะมาประเมินดูอีกทีครับ ผมคิดว่าคงต้องมีสำนักพิมพ์อื่นๆแปลออกมาด้วยเหมือนกัน หนังสือหุ้นที่เป็นหนังสือแปลคงจะมากขึ้นครับ บางทีผมอาจจะกลับบทบาทไปเป็นผู้อ่านเหมือนเดิมอีกครั้ง หนังสือที่ผมซื้อแล้วยังไม่ได้อ่านนี่มันมากจริงๆครับ เฉพาะหนังสือหุ้นก็เป็นร้อยเล่มเข้าไปแล้ว ช่วงที่แปลหนังสือนี่ไม่ได้อ่านหนังสือเป็นจริงเป็นจังเลยครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 62
โอโห พี่ครับมีเป็น ร้อยเล่มเลยเหรอครับ ไม่ทราบมาก่อนเลยว่าหนังสือพวกนี้มันเยอะขนาดนั้น อันนี้เฉพาะ VI หริอเปล่าครับ มีเล่มไหนแนนำบ้างครับ ส่วน กุญแจ 5 ดอกผมเพิ่งอ่านไปนิดเดียวเอง ยังไม่ขอ ติ-ชมนะครับ แต่หนังสือแนวนี้มีเป็น ภาษาไทยก็ดีมากเลยครับ จะได้ประโยชน์มากเลย
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 63
หนังสือหุ้นภาษาอังกฤษถ้ารวมทุกแนวนี่เยอะมากนะครับ ส่วนใหญ่ที่ผมซื้อจะเน้นในเชิงพื้นฐานครับ ผมเป็นคนชอบหนังสือครับเลยซื้อเยอะ แต่อ่านไม่ทันซื้อหรอกครับ ซึ่งบางทีมันก็เป็นเหมือนตราบาปอย่างหนึ่ง เฉพาะหนังสือเกี่ยวกับ Buffett นี่ก็มีขายกัน 20 กว่าเล่มแล้วครับ เห็นจะมีออกอีก 4 เล่ม แต่ก็ไม่ได้ดีทุกเล่มครับ ที่ดีในความเห็นผมก็เช่น 1. Buffett : The Making of an American Capitalist 2. The Essays of Warren Buffett 3. The Warren Buffett Way 4. The Warren Buffett Portfolio ครับ ( ลืม ลืม... ต้องมี ลงทุนอย่าง...วอเรน บัฟเฟตต์ หน้าปกเขียวๆด้วย) ผมไม่ค่อยกล้าแนะนำครับ เพราะผมคิดว่าหนังสือเล่มหนึ่งๆจะดีสำหรับคนๆหนึ่งหรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนๆนั้นและยังขึ้นกับว่าเขาอ่านอะไรมาแล้วบ้างด้วยครับ ผมเป็นคนไม่ค่อยซื้ออะไรครับ ซื้อแต่หุ้นกับหนังสือนี่แหละครับ จะซื้ออะไรทีคิดแล้วคิดอีก แต่หนังสือเล่มนึงสี่ห้าพันนี่คลิกเดียวจบครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 64
อยากอ่านฉบับแปลของthe essays of warren buffetมากครับ
ผมซื้อฉบับภาษาอังกฤษมานานแล้ว
ยอมรับตามตรงว่าอ่านได้แค่60%
อ่านได้เฉพาะตรงfinanceกับช่วงท้ายๆ
ส่วนตรงบทแรกๆที่เกี่ยวกับบรรษัทภิบาล
อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
เพราะโดยส่วนใหญ่เรามักจะได้อ่าน
"บทสรุปของผู้เขียน"ต่อความคิดการลงทุนของเค้า
อันนี้เค้าออกมาพูดเองจากปากจริงๆ
โดยเฉพาะสำนวนที่ปนหยิกแกมหยอกและ
นิทานเปรียบเทียบให้เห็นภาพพจน์อย่างชัดเจน
เสียดายที่คุณwebไม่ได้ลิขสิทธิจากคนเขียน
ผมซื้อฉบับภาษาอังกฤษมานานแล้ว
ยอมรับตามตรงว่าอ่านได้แค่60%
อ่านได้เฉพาะตรงfinanceกับช่วงท้ายๆ
ส่วนตรงบทแรกๆที่เกี่ยวกับบรรษัทภิบาล
อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง
แต่แค่นี้ก็คุ้มแล้วครับ
เพราะโดยส่วนใหญ่เรามักจะได้อ่าน
"บทสรุปของผู้เขียน"ต่อความคิดการลงทุนของเค้า
อันนี้เค้าออกมาพูดเองจากปากจริงๆ
โดยเฉพาะสำนวนที่ปนหยิกแกมหยอกและ
นิทานเปรียบเทียบให้เห็นภาพพจน์อย่างชัดเจน
เสียดายที่คุณwebไม่ได้ลิขสิทธิจากคนเขียน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 65
คุณประจวบครับ ลิขสิทธิ์ที่ถือโดยผู้เขียนโดยตรงส่วนใหญ๋จะขอไม่ค่อยได้เลยครับ เขาคงเห็นว่าตัวเงินมันน้อยไม่คุ้มกับความวุ่นวาย นอกจาก The Essays แล้ว หนังสืออีกเล่มหนึ่งที่ดีมากที่ผมขอไปก็คือ Margin of Safety ก็ไม่ได้มาเช่นกันครับขอไปตั้งหลายเดือนแล้ว เล่มนี้เขียนโดย Seth Klarman ครับเป็นหนังสือที่โคลัมเบียแนะนำให้อ่าน อ้อ ผมคงจะแปล Beating the Street ของ Lynch ด้วยครับ ผู้อ่านเรียกร้องเข้ามามากเหลือเกินครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 66
ยังไม่เคยอ่านเรื่องmargin of safetyเลยครับ
คงหมดไปนานแล้ว
ผมลองหาดูในweb ของ asiabook กับ ของศูนย์หนังสือจุฬา
ไม่เคยเห็นลงโฆษณาไว้เลย
อยากให้คุณwebแปลของpeter lynchทั้ง2เล่ม
คือone up .. และ beating the street
คงยังไม่มีใครได้ลิขสิทธหรือหมดไปแล้ว
เพราะแปลแบบจับใจความโดยเนชั่นไว้นานแล้ว
ใจผมชอบbeating the street มากกว่า
เพราะเค้าจะบอกนิสัยของหุ้นเป็นกลุ่มๆ
ตามหมวดแบบเดียวกับตลาดหลักทรัพย์
เช่น ค้าปลีก finance ก่อสร้าง...
(แตกต่างจากone up.. ที่แบ่งโดยใช้ลักษณะของgrowth)
วิธีการเลือกและการติดตามผลงาน
วิธีการเลือกกองทุนรวม
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับชาวviมาก
และน่าจะขายดีเพราะอจ.นิเวศน์เชียไว้เยอะ
คงหมดไปนานแล้ว
ผมลองหาดูในweb ของ asiabook กับ ของศูนย์หนังสือจุฬา
ไม่เคยเห็นลงโฆษณาไว้เลย
อยากให้คุณwebแปลของpeter lynchทั้ง2เล่ม
คือone up .. และ beating the street
คงยังไม่มีใครได้ลิขสิทธหรือหมดไปแล้ว
เพราะแปลแบบจับใจความโดยเนชั่นไว้นานแล้ว
ใจผมชอบbeating the street มากกว่า
เพราะเค้าจะบอกนิสัยของหุ้นเป็นกลุ่มๆ
ตามหมวดแบบเดียวกับตลาดหลักทรัพย์
เช่น ค้าปลีก finance ก่อสร้าง...
(แตกต่างจากone up.. ที่แบ่งโดยใช้ลักษณะของgrowth)
วิธีการเลือกและการติดตามผลงาน
วิธีการเลือกกองทุนรวม
ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับชาวviมาก
และน่าจะขายดีเพราะอจ.นิเวศน์เชียไว้เยอะ
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 67
ผมอยากให้คุณ เวป แปล one up ของปีเตอร์ ลินซ์ ด้วยครับ เห็น
อ.นิเวศน์ ให้ความเห็นว่า เป็นหนังสือที่ดีมาก เล่มหนึ่ง พอจะมีหวังบ้างมั้ย
ครับพี่
อ.นิเวศน์ ให้ความเห็นว่า เป็นหนังสือที่ดีมาก เล่มหนึ่ง พอจะมีหวังบ้างมั้ย
ครับพี่
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 68
เชี่ยร์ one up ด้วยคนครับ
ดร.นิเวศน์ บอก หนังสือนี้ ขึ้นแท่น คู่กับ
2 เล่ม คลาสสิคตลอดกาลไปแล้ว
คือ intelligent กับ common
อ้อ อย่าลืม copy หน้าปกมาด้วยนะครับ
ทำมันๆ สวยๆ ขายดีแน่นอนครับ
หนังสือมันพิสูจน์ ตัวมันมาแล้ว ทั่วโลกครับ
ขอให้มีเจ๋งๆ ในเมืองไทยอีกสักที่เถอะครับ
เชื่อผมเต๊อะ อิอิ.... เล่มนี้ดีจริงๆ อ่านกี่รอบก็ไม่เบื่อ
เล่มนี้นะครับ อีก10-20 ปี ก็ยังขายได้
คิดดูครับ ค่าลิขสิทธิ์ มันจะขนาดไหน
อิอิ... เชียร์ออกนอกหน้าไปป่าวเนี่ย ....
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 69
ใครสนใจ Once Up On Wall Street ลองดูเล่มนี้ครับ
เซียนหุ้นบรรลือโลก (ปีเตอร์ ลินซ์) เป็นหนังสือที่รวบรวมบทความที่ลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยที่บทความดังกล่าวเป็นการสรุปเนื้อหาในหนังสือ Once Up On Wall Street ครับ
เล่มจริงเลิกพิมพ์ไปนานแล้วครับ แต่สามารถหาฉบับถ่ายเอกสารได้ที่ http://www.bobby2books.com/stock4.html เล่มละ 100 บาทเองครับ
เซียนหุ้นบรรลือโลก (ปีเตอร์ ลินซ์) เป็นหนังสือที่รวบรวมบทความที่ลงในหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ โดยที่บทความดังกล่าวเป็นการสรุปเนื้อหาในหนังสือ Once Up On Wall Street ครับ
เล่มจริงเลิกพิมพ์ไปนานแล้วครับ แต่สามารถหาฉบับถ่ายเอกสารได้ที่ http://www.bobby2books.com/stock4.html เล่มละ 100 บาทเองครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 70
ผมคิดจะแปล One up ทีไรก็นึกถึงเวบถ่ายเอกสารที่คุณฉัตรชัยหยิบยกขึ้นมาทุกทีครับ ทำใจไม่ได้สักทีจนมาวันนึง ผมขอลิขสิทธ์ไปทั้ง One up และ Beating the Street เลยครับ ปรากฏว่า One up มีคนขอไปแล้ว ผมก็เลยได้แต่ Beating the Street มา ดีครับมีหลายๆคนช่วยกันแปล เพราะผมก็แปลเร็วกว่านี้ไม่ไหวครับเดี๋ยวจะกลายเป็นนักแปลอาชีพไป ( ท่องไว้ว่าเป็นนักลงทุน) ยังไงเพื่อนๆก็ได้อ่านอยู่ดีแม้ผมจะไม่ได้แปลก็ตาม One up จะอธิบายหลักการแล้วสอดแทรกตัวอย่าง ขณะที่ Beating the Street Lynch จะยกบริษัทจริงขึ้นมาแล้วแสดงให้ดูว่าเขาวิเคราะห์หุ้นอย่างไร จะเป็นลักษณะของ case study มากกว่าครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 71
ใจจริงแล้วผมอยากให้คุณ WEB เป็นคนแปลนะครับ
คนอื่นที่แปล ผมไม่ทราบว่าเป็นนักลงทุนหรือเปล่า เพราะเคยอ่านหนังสือแปลบางเล่มที่คนแปลไม่ใช่นักลงทุน แปลแล้วไม่ค่อยได้ความหมายเลยครับ ศัพท์หรือแสลงในวงการลงทุน แปลผิดหมดเลย เรียกว่าแปลตามตัวอักษรนะครับ อ่านแล้วเสียความรู้สึก เสียคุณภาพของเนื้อหาในหนังสือ ผมว่าถ้าไม่ใช่นักลงทุนจริงๆ อย่าซื้อลิขสิทธิ์แล้วนำมาแปลแบบผิดๆถูกๆเลยครับ อย่าหวังแต่ยอดขายเพียงเพราะชื่อหนังสือ หรือชื่อคนแต่ง
คนอื่นที่แปล ผมไม่ทราบว่าเป็นนักลงทุนหรือเปล่า เพราะเคยอ่านหนังสือแปลบางเล่มที่คนแปลไม่ใช่นักลงทุน แปลแล้วไม่ค่อยได้ความหมายเลยครับ ศัพท์หรือแสลงในวงการลงทุน แปลผิดหมดเลย เรียกว่าแปลตามตัวอักษรนะครับ อ่านแล้วเสียความรู้สึก เสียคุณภาพของเนื้อหาในหนังสือ ผมว่าถ้าไม่ใช่นักลงทุนจริงๆ อย่าซื้อลิขสิทธิ์แล้วนำมาแปลแบบผิดๆถูกๆเลยครับ อย่าหวังแต่ยอดขายเพียงเพราะชื่อหนังสือ หรือชื่อคนแต่ง
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 72
ผมเห็นด้วยกับพี่ ฉัตรชัย นะครับ คนอื่นไม่ได้มีพื้นฐานด้านการลงทุนอย่าง
แท้จริง แปลอาจแปลได้แต่ อ่านแล้วไม้รู้เรื่องนะครับ ผมขอสนับสนุน เอาใจ
ช่วย ให้คุณ เวป แปล one up อีกครั้งนะครับ
แท้จริง แปลอาจแปลได้แต่ อ่านแล้วไม้รู้เรื่องนะครับ ผมขอสนับสนุน เอาใจ
ช่วย ให้คุณ เวป แปล one up อีกครั้งนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 74
เห็นด้วยเรื่องการแปลครับ คุณ Web แปลได้ดี อ่านง่าย เข้าใจง่าย อ่านได้ต่อเนื่องครับ คนที่อ่านหนังสือมาเยอะ ๆ หนอนหนังสือทั้งหลาย พอเริ่มอ่านนี่แทบจะรู้เลยว่าใครแปลได้ดีหรือไม่ดี รอผลงานเล่มใหม่ ๆ อยู่นะครับ อีกหนึ่งกำลังใจจากแฟนหนังสือครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 75
สบายใจจริงๆนั้นแหละครับ คุณ ekasith ที่ได้ยินว่า ดร.นิเวศน์ แปลเอง ไม่งั้นเสียดายหนังสือแย่เลย
เอา ใครที่ยังไม่ได้อ่าน Once Up On Wall Street ไม่ต้องส่งซื้อฉบับสำเนาแล้วครับ อดใจรอฉบับแปลของ ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ
เอา ใครที่ยังไม่ได้อ่าน Once Up On Wall Street ไม่ต้องส่งซื้อฉบับสำเนาแล้วครับ อดใจรอฉบับแปลของ ดร.นิเวศน์ดีกว่าครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 76
อิอิ
ขอทำนายว่า เล่มนี้จะขายดีกว่า"ตีแตก"อ่ะ
ถ้าตั้งราคาไม่แพงนะ
......
ขอทำนายว่า เล่มนี้จะขายดีกว่า"ตีแตก"อ่ะ
ถ้าตั้งราคาไม่แพงนะ
......
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 77
ดีใจกับเพื่อนๆด้วยครับที่จะได้อ่าน One up ฉบับดร.นิเวศน์ ท่านแปลได้ดีกว่าผมแน่ๆครับ อ่าน One up จบแล้วก็อย่าลืมอ่าน Beating the Street ที่ผมจะแปลด้วยนะครับ อิ อิ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 78
คุณวิบูลย์ครับ วันนี้ที่สำนักพิมพ์มีอาการฮือฮาจนออกนอกหน้าครับเมื่อได้อ่านคอลัมน์ Value Way ที่คุณวิบูลย์เขียน ผมต้องขอขอบคุณคุณวิบูลย์มากครับที่กรุณาเขียนแนะนำหนังสือที่ผมแปลลงในคอลัมน์ครับ ดีใจมากครับ ไม่รู้จะพูดยังไง ขอบคุณมากๆครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
หนังสือกุญแจ 5 ดอกของการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 79
ไม่เป็นไรครับคุณWEB
ผมว่าถ้าใครทำอะไรที่ถูกต้องก็ต้องสนับสนุนครับ
ไม่งั้นคนดีจะท้อแท้ คนชั่วจะครองเมือง
ผมแนะนำหนังสือเพื่อที่นักลงทุนรุ่นใหม่จะได้มีความรู้มากขึ้นครับ
แต่สุดท้ายผมว่าเอาแค่รายย่อยเอาตัวให้รอดก็พอแล้ว
รายย่อยคงไม่สามารถจะชี้นำตลาดได้เหมือนกองทุนหรือต่างชาติ
หนังสือที่แปลดีมากครับ ผมอ่านรวดเดียวจบ
ได้ความรู้ดีครับ
ก็ขอให้มีผลงานดีๆออกมาเรื่อยๆนะครับ
สวัสดีครับ
ผมว่าถ้าใครทำอะไรที่ถูกต้องก็ต้องสนับสนุนครับ
ไม่งั้นคนดีจะท้อแท้ คนชั่วจะครองเมือง
ผมแนะนำหนังสือเพื่อที่นักลงทุนรุ่นใหม่จะได้มีความรู้มากขึ้นครับ
แต่สุดท้ายผมว่าเอาแค่รายย่อยเอาตัวให้รอดก็พอแล้ว
รายย่อยคงไม่สามารถจะชี้นำตลาดได้เหมือนกองทุนหรือต่างชาติ
หนังสือที่แปลดีมากครับ ผมอ่านรวดเดียวจบ
ได้ความรู้ดีครับ
ก็ขอให้มีผลงานดีๆออกมาเรื่อยๆนะครับ
สวัสดีครับ