ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
- ปรัชญา
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 18252
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 2
ทำให้ได้ซื้อหุ้นได้ถูกลงhot เขียน:ทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงหรือ
เพราะย่อยจาก10เหลือ1ราคาก็ลดลงสภาพคล่องเพิ่มขึ้น
เหมือนสมัยก่อน ราคาพาร์เป็น100ก็มา10บาทนี่เหลือ1บาท
อนาคตคงได้เห็นหุนหุ้นราคาพาร์10สตางค์
หวังว่าจะได้เห็นก่อนเลิกเล่นหุ้น
- Tongue
- Verified User
- โพสต์: 725
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 4
ตามหลักการ
ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น เพราะเราต้องซื้อหุ้นอย่างน้อย 100 หุ้น
ถ้าหุ้นราคา 400 ก็ 40000 บาท ทำให้รายย่อยบางคนซื้อไม่ได้ หรือไม่อยากซื้อ
การแตก Par เลยทำให้หุ้นกระจายได้ดีขึ้น เข้ากับ จุดประสงค์ของ บ. มหาชน ครับ
ตามหลักการ (อื่นๆ)
- ของราคา 1 บาทดูเหมือนถูกกว่าของ 100 บาท
- การขึ้นจาก 1 ไป 1.10 ดูเหมือนน้อยกว่า จาก 100 ไป 110 and vise versa
- สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ถูกฆ่า และจับกิน ได้ง่ายกว่า พวกตัวหย่ายๆ
- แถม "คล่องคอ" กว่า 5555
เพราะฉะนั้น จึงควรรีบแตก Par เพื่อประโยชน์ของ มหาชน
ทำให้หุ้นมีสภาพคล่องมากขึ้น เพราะเราต้องซื้อหุ้นอย่างน้อย 100 หุ้น
ถ้าหุ้นราคา 400 ก็ 40000 บาท ทำให้รายย่อยบางคนซื้อไม่ได้ หรือไม่อยากซื้อ
การแตก Par เลยทำให้หุ้นกระจายได้ดีขึ้น เข้ากับ จุดประสงค์ของ บ. มหาชน ครับ
ตามหลักการ (อื่นๆ)
- ของราคา 1 บาทดูเหมือนถูกกว่าของ 100 บาท
- การขึ้นจาก 1 ไป 1.10 ดูเหมือนน้อยกว่า จาก 100 ไป 110 and vise versa
- สิ่งมีชีวิตเล็กๆ ถูกฆ่า และจับกิน ได้ง่ายกว่า พวกตัวหย่ายๆ
- แถม "คล่องคอ" กว่า 5555
เพราะฉะนั้น จึงควรรีบแตก Par เพื่อประโยชน์ของ มหาชน
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 5
ก็อย่างที่ว่าแหละครับหุ้นมากขึ้นโดยราคาถูกลงก็ซื้อขายสะดวกขึ้น โดยเฉพาะพวกเงินน้อยอย่างผมจะได้มีโอกาสซื้อของดีๆมาเก็บเข้าพอร์ตบ้าง หากทุกบริษัท par 100-10000 บาท ผมคงไม่มีโอกาสลงทุนเท่าไรยกเว้นบริษัทที่ราคาต่ำกว่า par มั่งครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 7
ผมว่ามีไว้เท่ๆ หรือจริงๆน่าจะเอาไว้เทียบมูลค่าหุ้นภายใต้พื้นฐานดียวกันมั้งครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 9
ตอบคำถามพี่ chatchai
ยังไงก็ต้องมีครับเพราะเป็นราคาอ้างอิง อย่างคนที่ถือเป็นใบหุ้น abc สมมุติราคา 500 บาท par 100
เค้าแตก par ไป 2 หน จาก 100 เป็น 10 และจาก 10 เป็น 1
ก็จะทำให้คนๆนั้นรู้ว่าหุ้นตัวเองนั้น ราคาเปลี่ยน ต่ำลงหารด้วย 100 และปริมาณหุ้นตัวเองก็เพิ่มขึ้นคูณด้วย 100 เช่นกัน
ถ้าไม่มีราคา par เค้าก็ไม่รู้ครับ
ยังไงก็ต้องมีครับเพราะเป็นราคาอ้างอิง อย่างคนที่ถือเป็นใบหุ้น abc สมมุติราคา 500 บาท par 100
เค้าแตก par ไป 2 หน จาก 100 เป็น 10 และจาก 10 เป็น 1
ก็จะทำให้คนๆนั้นรู้ว่าหุ้นตัวเองนั้น ราคาเปลี่ยน ต่ำลงหารด้วย 100 และปริมาณหุ้นตัวเองก็เพิ่มขึ้นคูณด้วย 100 เช่นกัน
ถ้าไม่มีราคา par เค้าก็ไม่รู้ครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 11
คุณเก๋าครับ ราคาหุ้นนั้นควรคิดจากกำไรต่อหุ้น มูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นมากกว่าครับ มูลค่าพาร์ไม่น่าเกี่ยวกับราคาหุ้น
ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนหุ้น เช่น บริษัท A มีหุ้นทั้งหมด 6 ล้านหุ้นๆละ 500 บาท อยากจะลดราคาหุ้นทำไงถ้าไม่มีพาร์
ก็ง่ายๆครับ แจกหุ้นใหม่ โดยกำหนด 1 หุ้นเดิม ได้หุ้นใหม่ 9 หุ้น
หุ้นของบริษัททั้งหมดก้จะเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านหุ้นครับ ราคาหุ้นก็น่าจะลดลงเหลือ 50 บาท เพราะ กำไรต่อหุ้นและมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นก็ลดลงเหลือ 1 ใน 10
ถ้าต้องการเพิ่มจำนวนหุ้น เช่น บริษัท A มีหุ้นทั้งหมด 6 ล้านหุ้นๆละ 500 บาท อยากจะลดราคาหุ้นทำไงถ้าไม่มีพาร์
ก็ง่ายๆครับ แจกหุ้นใหม่ โดยกำหนด 1 หุ้นเดิม ได้หุ้นใหม่ 9 หุ้น
หุ้นของบริษัททั้งหมดก้จะเพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านหุ้นครับ ราคาหุ้นก็น่าจะลดลงเหลือ 50 บาท เพราะ กำไรต่อหุ้นและมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นก็ลดลงเหลือ 1 ใน 10
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 12
หุ้น DJ กับ NASDAQ เป็นอย่างคุณ chatchai ว่าครับ
แล้วหลักการในการดูว่าจากที่เรามีหุ้นอยู่ 100 หุ้นเมื่อ 20 ปีก่อน
ถ้ามีการ split (เพิ่มหุ้น) 10:1 สองครั้ง และ 4:1 อีกครั้งตั้งแต่ตอนนั้น
สมุดทะเบียนจะแสดงว่าเรามีหุ้นเป็น 40,000 หุ้นแล้ว
เอาใบหุ้นเก่า (ที่เขียนว่ามี 100 หุ้น) ไปแลก ก็จะได้เปลี่ยนเป็น
40,000 หุ้น
ไม่ต้องใช้ราคาพาร์เลยครับ
แล้วหลักการในการดูว่าจากที่เรามีหุ้นอยู่ 100 หุ้นเมื่อ 20 ปีก่อน
ถ้ามีการ split (เพิ่มหุ้น) 10:1 สองครั้ง และ 4:1 อีกครั้งตั้งแต่ตอนนั้น
สมุดทะเบียนจะแสดงว่าเรามีหุ้นเป็น 40,000 หุ้นแล้ว
เอาใบหุ้นเก่า (ที่เขียนว่ามี 100 หุ้น) ไปแลก ก็จะได้เปลี่ยนเป็น
40,000 หุ้น
ไม่ต้องใช้ราคาพาร์เลยครับ
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 13
เอ แต่คิดไปคิดมาผมว่ามันก็เกี่ยวเหมือนกันเนาะ ราคาพาร์ใช่ราคาหุ้นที่คนก่อตั้งลงเงินไว้แต่แรกใช่ป่ะครับ อย่างนี้ราคาพาร์ก็ดูได้ว่าตอนแรกคนก่อตั้งลงไว้กี่บาทต่อหุ้น เราซื้อต่อเค้ากีบาทต่อหุ้น
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 14
คือผมไม่ได้หมายความว่ามันถูกหรือแพงครับ เพราะนั้นเรามันดูที่ P/E อะไรพวกนั้น แต่ผมดูๆตามบัญชีเจ้าราคาพาร์ น่าจะมีความหมายว่าเจ้าของคนแรกลงเงินไว้ กี่บาทต่อหุ้นเท่านั้นเองครับ ไม่ได้ชี้วัดว่าเราซื้อมาถูกหรือแพง แต่บอกได้ว่าเรากับเจ้าของคนแรกใครจ่ายมากกว่า (ไม่ได้มองมูลค่าทางบัญชีนะครับ) ซึ่งเจ้าของอาจลงเงินมาแพงก็ได้(ลงทุนไม่คุ้ม) จริงไหมครับ
- Minesweeper
- Verified User
- โพสต์: 472
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 15
ที่คุณ ch_army พูดถึงบางทีผมก็ดูเหมือนกันครับ โดยเฉพาะบริษัทใหม่ๆ ใน MAI ใช้ดูว่าเจ้าของ "เขี้ยว" ขนาดไหน
แต่ถ้าเป็นบริษัทที่เปิดนานๆ (เป็น 10 ปี) แล้วก็ดูได้เหมือนกันครับ ว่า ในอดีต ผู้บริหารมีฝีมือขนาดไหน ถ้าบริษัททำธุรกิจมาเป็น 20 - 30 ปีแล้ว ลงทุนเริ่มแรกพาร์ 10 แล้ว BV ตอนนี้ ก็อยู่แค่ 10-20 บาท มันก็ยังไงๆ อยู่นะครับ
ปล. อืมม์ เกือบลืมไป ว่า เดี๋ยวนี้มีการลดพาร์ ล้างขาดทุนสะสมด้วย ... ต้องดูให้ดีทีเดียว ...
แต่ถ้าเป็นบริษัทที่เปิดนานๆ (เป็น 10 ปี) แล้วก็ดูได้เหมือนกันครับ ว่า ในอดีต ผู้บริหารมีฝีมือขนาดไหน ถ้าบริษัททำธุรกิจมาเป็น 20 - 30 ปีแล้ว ลงทุนเริ่มแรกพาร์ 10 แล้ว BV ตอนนี้ ก็อยู่แค่ 10-20 บาท มันก็ยังไงๆ อยู่นะครับ
ปล. อืมม์ เกือบลืมไป ว่า เดี๋ยวนี้มีการลดพาร์ ล้างขาดทุนสะสมด้วย ... ต้องดูให้ดีทีเดียว ...
-
- Verified User
- โพสต์: 593
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 16
ผมใช้พาร์ในการตัดสินใจในการซื้อหุ้นบางตัวครับ
โดยใช้หลักคิดคล้ายที่คุณ ch_army ว่า
เช่นบริษัทอสังหาบริษัทหนึ่ง พาร์ที่10 (ราคาผู้ก่อตั้ง)
ราคาปัจจุบันที่7-8 บาท book ที่8-9บาท
บริษัทเปิดทำการมานาน record ในการทำงานดี
ขาดทุนหนักเพราะวิกฤต ทำให้ราคาตกต่ำอยู่นานเพราะมัวแต่ใช้หนี้
คนที่ร่วมหัวจมท้ายกับผม ที่ข้อมูลเยอะว่า และเก่งกว่า(ผู้ถือหุ้นใหญ่ ๆทั้งหลาย กองทุนนอกทั้งหลาย) ก็มีต้นทุนที่สูงกว่าราคาช่วงนี้
แปลงหนี้เป็นทุน ก็ที่ 10-11 บาท 3-4ปีที่แล้ว
โครงการก็โดนใจ ถ้ามีเงินเหลือใช้จะไปซื้ออยู่บ้าง สินทรัพย์ก็ถูกใจ
ผมก็คิดว่าซื้อเก็บก็เหมือนได้ซื้อถูก
ผมอ่านงบแค่พอรู้ครับ อาศัยได้เดินตามผู้ใหญ่ที่ต้นทุนที่ถูกกว่า
แต่เมื่อไรผู้ใหญ่ถอดใจยอม cut ก็ต้องยอมรับสถาพความจริงครับ
แต่บางบริษัท กลุ่มสื่อสาร ราคาถูกกว่า พาร์เท่าไร ขึ้นลงยังไง ก็ไม่ซื้อ
บางบริษัท พาร์เท่าไรก็ช่างมัน เพราะไม่รู้ว่าดูแล้วได้อะไร
โดยใช้หลักคิดคล้ายที่คุณ ch_army ว่า
เช่นบริษัทอสังหาบริษัทหนึ่ง พาร์ที่10 (ราคาผู้ก่อตั้ง)
ราคาปัจจุบันที่7-8 บาท book ที่8-9บาท
บริษัทเปิดทำการมานาน record ในการทำงานดี
ขาดทุนหนักเพราะวิกฤต ทำให้ราคาตกต่ำอยู่นานเพราะมัวแต่ใช้หนี้
คนที่ร่วมหัวจมท้ายกับผม ที่ข้อมูลเยอะว่า และเก่งกว่า(ผู้ถือหุ้นใหญ่ ๆทั้งหลาย กองทุนนอกทั้งหลาย) ก็มีต้นทุนที่สูงกว่าราคาช่วงนี้
แปลงหนี้เป็นทุน ก็ที่ 10-11 บาท 3-4ปีที่แล้ว
โครงการก็โดนใจ ถ้ามีเงินเหลือใช้จะไปซื้ออยู่บ้าง สินทรัพย์ก็ถูกใจ
ผมก็คิดว่าซื้อเก็บก็เหมือนได้ซื้อถูก
ผมอ่านงบแค่พอรู้ครับ อาศัยได้เดินตามผู้ใหญ่ที่ต้นทุนที่ถูกกว่า
แต่เมื่อไรผู้ใหญ่ถอดใจยอม cut ก็ต้องยอมรับสถาพความจริงครับ
แต่บางบริษัท กลุ่มสื่อสาร ราคาถูกกว่า พาร์เท่าไร ขึ้นลงยังไง ก็ไม่ซื้อ
บางบริษัท พาร์เท่าไรก็ช่างมัน เพราะไม่รู้ว่าดูแล้วได้อะไร
ต้องเรียนรู้ให้ได้
Li .. Zhi .. Ren
Li .. Zhi .. Ren
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมการแตกpar ถึงนิยมกัน
โพสต์ที่ 17
เอเรื่อง ล้างหนี้ ล้างทุนเนี่ยผมไม่ค่อยรู้เรื่องเลยครับ แปลงพาร์อะไรก็วุ่นวาย จริงๆใครรู้อย่างไรก็ สอนๆผมด้วยครับ ที่จริงเราดู BV ดู P/E อะไรไปผมว่าก็ดีแล้วครับ เพราะอย่างที่ว่าแหละครับ หากธุรกิจมันไม่ค่อยดี แต่ราคาที่เราจะซื้อถูกกว่าพาร์มากๆ ก็ไม่อาจเป็นโอกาสก็ได้ เพราะธุรกิจที่แย่อาจเจ๊งจนเรียกว่าล้มละลาย จากราคาที่ซื้อกลายเป็น 0 ไปเลยก็ได้ใช่ไหมครับ ยังไงอย่าลืมดู คุณภาพมาก่อน ส่วนตัวเลขเชิงปริมาณเอามาสนับสนุน คุณภาพ(ในแง่การเติบโต และ ความคงทนของกำไรในระยะยาว) นะครับ