เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 1
สวัสดีคร๊าบบบบ ก่อนอื่นขอโทษพี่ๆชาวTVIก่อนเลยครับ ที่อาจจะตั้งกระทู้ล่อเป้าให้พี่ๆเข้ามาเกินไปหน่อยขออภัยอย่างสูงครับ....
อยากให้พี่ช่วยตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเลขทางการเงินนะครับ.....เพื่อเป้นการประหยัดเวลาแก่น้องๆ ที่อ่านแล้วไม่เข้าใจบ้าง มึนบ้าง หรือบางคนท้อไม่อ่านเพราะเนื้อหาเยอะมากๆ สงสัยอะไรเราถามไป พี่ตอบมา จะได้ประหยัดเวลาครับ และจะได้ฟังภาพรวมจากพี่เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้เผื่อน้องๆจะได้ศึกษาเพิ่มเติมกันอีก....
ขอบคุณมากๆครับ.....เหล่าพี่ๆชาวTVIที่ช่วยๆสอนสั่งน้องๆ ขอบพระคุณอย่างสุดซึ่งครับT^T
อยากให้พี่ช่วยตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเลขทางการเงินนะครับ.....เพื่อเป้นการประหยัดเวลาแก่น้องๆ ที่อ่านแล้วไม่เข้าใจบ้าง มึนบ้าง หรือบางคนท้อไม่อ่านเพราะเนื้อหาเยอะมากๆ สงสัยอะไรเราถามไป พี่ตอบมา จะได้ประหยัดเวลาครับ และจะได้ฟังภาพรวมจากพี่เพื่อกระตุ้นการเรียนรู้เผื่อน้องๆจะได้ศึกษาเพิ่มเติมกันอีก....
ขอบคุณมากๆครับ.....เหล่าพี่ๆชาวTVIที่ช่วยๆสอนสั่งน้องๆ ขอบพระคุณอย่างสุดซึ่งครับT^T
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 2
ตั้งเองถามเองก่อนเลยนะครับพี่ๆ(อาจจะถามแบบโง่ๆไม่ว่ากันนะครับแฮ๊ะๆ)
จากหน้า
http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH
1.ผมสงสัยว่า....
ในปี2549 กำไรต่อหุ้น=0.82 และBV=2.88
แล้วทำไมBVในปี2550ไม่=2.88+0.82-ปันผลละครับ
ทำไมมันBVในปี2550=2.99เองครับ????
2.ผมสงสัยว่า....
ในปี2549 กำไรต่อหุ้น=0.82 และP=21.1
งั้นP/E ก็ควรจะเป็น 21.1/0.82=25.73
ทำไมมันP/Eในปี2550=26.04ละครับ????
3.อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน=ปันผล/ราคาหุ้นณ.วันขึ้นxd หรือราคาสุดท้ายณ.วันสิ้นปีครับ???
ขอถามโง่ๆก่อนซัก3ข้อนะครับ...ขอบคุณมากๆๆๆๆๆครับที่ช่วยตอบ
จากหน้า
http://www.set.or.th/set/companyhighlig ... country=TH
1.ผมสงสัยว่า....
ในปี2549 กำไรต่อหุ้น=0.82 และBV=2.88
แล้วทำไมBVในปี2550ไม่=2.88+0.82-ปันผลละครับ
ทำไมมันBVในปี2550=2.99เองครับ????
2.ผมสงสัยว่า....
ในปี2549 กำไรต่อหุ้น=0.82 และP=21.1
งั้นP/E ก็ควรจะเป็น 21.1/0.82=25.73
ทำไมมันP/Eในปี2550=26.04ละครับ????
3.อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน=ปันผล/ราคาหุ้นณ.วันขึ้นxd หรือราคาสุดท้ายณ.วันสิ้นปีครับ???
ขอถามโง่ๆก่อนซัก3ข้อนะครับ...ขอบคุณมากๆๆๆๆๆครับที่ช่วยตอบ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณมากๆครับคุณpicatos...ลึกซึ้งกว่าที่คิดแฮ๊ะ...555+
BEC ไม่ได้สนใจแต่ยกตัวอย่างหุ้นเด่นๆมาซักตัวเท่านั้นครับ....
BEC PBV=7เท่า ด้วยความคิดผมต่อให้กิจการจะดีอย่างไร ผมก็รับตัวเลขไม่ไหวจริงๆครับ....อย่างมากสุดๆ ผมก็ยอมรับได้ไม่เกิน3เท่า หรือพี่ชาวTVIคิดว่าไงครับ????
4.ขอถามเพิ่มครับว่า....กำไร0.82บาทต่อหุ้นนี้ หักภาษีหรือดอกยังครับ?
และถ้าจะดูเพิ่มว่า 0.82บาทนี้เขาเอาไปทำอะไรบ้างดูได้จากที่ไหนครับ?
ขอบคุณครับ
BEC ไม่ได้สนใจแต่ยกตัวอย่างหุ้นเด่นๆมาซักตัวเท่านั้นครับ....
BEC PBV=7เท่า ด้วยความคิดผมต่อให้กิจการจะดีอย่างไร ผมก็รับตัวเลขไม่ไหวจริงๆครับ....อย่างมากสุดๆ ผมก็ยอมรับได้ไม่เกิน3เท่า หรือพี่ชาวTVIคิดว่าไงครับ????
4.ขอถามเพิ่มครับว่า....กำไร0.82บาทต่อหุ้นนี้ หักภาษีหรือดอกยังครับ?
และถ้าจะดูเพิ่มว่า 0.82บาทนี้เขาเอาไปทำอะไรบ้างดูได้จากที่ไหนครับ?
ขอบคุณครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 5
ผมว่าทุกอย่างมันมี Exceptional เสมอนะครับ ยิ่ง P/B นี่ มันก็แค่บ่งบอกว่าราคาเป็นกี่เท่าของมูลค่าทางบัญชี ซึ่งมูลค่าทางบัญชีส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีความหมายมากนักหากเราไม่คิดจะมีการเลิกกิจการ ขายทอดกิจการ หรือมีการเก็งว่าจะมีการจ่ายปันผลพิเศษออกมาpicklife เขียน:ขอบคุณมากๆครับคุณpicatos...ลึกซึ้งกว่าที่คิดแฮ๊ะ...555+
BEC ไม่ได้สนใจแต่ยกตัวอย่างหุ้นเด่นๆมาซักตัวเท่านั้นครับ....
BEC PBV=7เท่า ด้วยความคิดผมต่อให้กิจการจะดีอย่างไร ผมก็รับตัวเลขไม่ไหวจริงๆครับ....อย่างมากสุดๆ ผมก็ยอมรับได้ไม่เกิน3เท่า หรือพี่ชาวTVIคิดว่าไงครับ????
4.ขอถามเพิ่มครับว่า....กำไร0.82บาทต่อหุ้นนี้ หักภาษีหรือดอกยังครับ?
และถ้าจะดูเพิ่มว่า 0.82บาทนี้เขาเอาไปทำอะไรบ้างดูได้จากที่ไหนครับ?
ขอบคุณครับ
ถามว่าถ้าเจอหุ้นมี P/B 10 เท่า แต่ P/E 2 เท่า คุณภาพกำไรดีจัดๆ กระแสเงินสดเยอะมากๆ แถมเป็น negative cash cycle ธรรมาภิบาลผู้บริหารระดับเทพ ปันผล 100% ตลอด... P/B 10 เท่า หรือ 100 เท่า ผมก็ซื้อนะ (Buffet ยังเคยซื้อหุ้นที่ P/B ติดลบเลย )
โดยทั่วไปแล้วผมจะมอง P/B ก็ต่อเมื่อ มันเป็นธุรกิจที่เสถียรภาพของกำไร และปัจจัยเชิงคุณภาพไม่ได้ดีเด่นอะไรมากมายครับ...
ตอบเรื่อง 0.82 บาท นี่คือกำไรสุทธิ หาร ด้วยจำนวนหุ้น ซึ่งกำไรสุทธินี่หักแล้วครับ
ส่วนเรื่องที่ว่าเอากำไรไปทำอะไรนี่... ปกติเวลาเราดู เราไม่ดูครับว่าเอากำไรไปทำอะไร แต่เราดูว่าบริษัทบริหารกระแสเงินสดยังไงมากกว่า เพราะ ที่เห็นว่ากำไรอาจจะไม่มีตัวเงินก็ได้ จึงต้อง Focus ไปที่งบกระแสเงินสด ส่วนจะเอาไปทำอะไรก็ต้องติดตามการเคลื่อนไหวของกิจการ อ่านข่าว ถ้าจะดูคร่าวๆ ก็ดูใน 56-1 ในส่วนโครงการในอนาคต ลองอ่านบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ดูว่าบริษัทฯ กำลังลงทุนทำอะไร แล้วน่าจะเกิดกระแสเงินสดเท่าไหร่ อ่านข่าว แล้วก็ลองถามบริษัทฯ โดยตรงก็ได้ครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 6
อ่านคำตอบคุณ picatos แล้วนึกถึงตอนเรียนสมัยผมเรียนวิชาประวัติศาสตร์ที่ประเทศจีน มีอยู่บทหนึ่งผมชอบมากเกี่ยวกับ ตำรากลยุทธ์พิชัยสงคราม ทั้ง 36 ข้อ เป็นเรื่องราวของบัณฑิตนิรนามที่รวมรวมกลยุทธ์และเรื่องเหล่านี้ในสมัยช่วง ปลายราชวงศ์หมิง ต้นราชวงศ์ชิง
โดยตำราเหล่านี้ถือเป็นสุดยอดวิธีการกระบวนคิดในกระบวนศึก (ขนาดขงเบ้งที่เก่งกาจก็เอาวิธีการเหล่านี้มาใช้เสมอ )ตอนออกข้อสอบ มีข้อสอบอยู่ขอ้หนึ่ง
คำถามมีอยู่ว่า กลยุทธ์พิชัยสงครามทั้ง 36 ข้อนี้ ข้อใดที่บัณฑิตนิรนามเห็นว่ามีความสำคัญที่สุด คำถามข้อนี้เพื่อนทุกคนรวมท้งผมไม่มีใครตอบถูกเลยครับ
ด้วยความสงสัยจึงย้อนกลับไปถามอาจารย์ อาจารย์จึงบอกว่า สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดเหนือกว่ากลยุทธ์ทั้งปวงคือความยืดหยุ่น
ขั้นตอนที่จะเลือกกลยุทธ์นั้น
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้น คือ การประเมิณและพิจารณาสพรรสิ่งตามสภาพความเป็นจริง เนื่องจากการประเมิณอย่างถี่ถ้วนจะช่วยตัดสินใจว่าควรใช้ยุทธวิธีใด และ กระนั้นการประเมิณยังก่อให้เกิดการผสมผสานยุทธวิธีอันหลากหลาย และถือเป็นสุดยอดกลยุทธ์นั่นเอง
ช่วงแรกที่ผมศึกษาเรื่องการลงทุนนั้น ก็พบว่ามีหลักการพิจารณาเลือกหุ้นในการลงทุนมากมายเช่นดูจาก pe pbv dcf ddm roe roa npm gpm และเป็น ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นแล้วครับว่าทุกอย่างมันมี Exceptional เสมอ(ผมเดาว่าแปลว่าข้อยกเว้นนะครับ ) การจะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด คงต้องมีการประเมิณพิจารณาก่อนว่าควรจะเลือกวิธีการประเมิณมูลค่าหุ้นแต่ละตัวอย่างไร เพราะสาเหตุใด เป็นศิลปะจริงจริงครับ
โดยตำราเหล่านี้ถือเป็นสุดยอดวิธีการกระบวนคิดในกระบวนศึก (ขนาดขงเบ้งที่เก่งกาจก็เอาวิธีการเหล่านี้มาใช้เสมอ )ตอนออกข้อสอบ มีข้อสอบอยู่ขอ้หนึ่ง
คำถามมีอยู่ว่า กลยุทธ์พิชัยสงครามทั้ง 36 ข้อนี้ ข้อใดที่บัณฑิตนิรนามเห็นว่ามีความสำคัญที่สุด คำถามข้อนี้เพื่อนทุกคนรวมท้งผมไม่มีใครตอบถูกเลยครับ
ด้วยความสงสัยจึงย้อนกลับไปถามอาจารย์ อาจารย์จึงบอกว่า สิ่งที่มีความสำคัญที่สุดเหนือกว่ากลยุทธ์ทั้งปวงคือความยืดหยุ่น
ขั้นตอนที่จะเลือกกลยุทธ์นั้น
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับต้น คือ การประเมิณและพิจารณาสพรรสิ่งตามสภาพความเป็นจริง เนื่องจากการประเมิณอย่างถี่ถ้วนจะช่วยตัดสินใจว่าควรใช้ยุทธวิธีใด และ กระนั้นการประเมิณยังก่อให้เกิดการผสมผสานยุทธวิธีอันหลากหลาย และถือเป็นสุดยอดกลยุทธ์นั่นเอง
ช่วงแรกที่ผมศึกษาเรื่องการลงทุนนั้น ก็พบว่ามีหลักการพิจารณาเลือกหุ้นในการลงทุนมากมายเช่นดูจาก pe pbv dcf ddm roe roa npm gpm และเป็น ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นแล้วครับว่าทุกอย่างมันมี Exceptional เสมอ(ผมเดาว่าแปลว่าข้อยกเว้นนะครับ ) การจะลงทุนให้ได้ผลตอบแทนดีกว่าตลาด คงต้องมีการประเมิณพิจารณาก่อนว่าควรจะเลือกวิธีการประเมิณมูลค่าหุ้นแต่ละตัวอย่างไร เพราะสาเหตุใด เป็นศิลปะจริงจริงครับ
Small Details Make a Big Difference
-
- Verified User
- โพสต์: 251
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 7
ความยืดหยุ่น
คารวะหนึ่งขวดเลยครับพี่
ตอนแรกๆที่ผมลงทุน ผมสับสนมากว่าเรามีอัตราส่วนมากมายให้เปรียบเทียบ
แล้วส่วนมากตำราก็จะบอกแค่ว่าค่านู้นมากดี ค่านี้น้อยดี
คำถามที่ผมงงมากๆคือ คำว่ามากน้อย วันจากตัวเลขใด
บางตำราถึงขนาดให้ตัวเลขมาเลยว่าต้องค่าไม่เกินนั้นเกินนี้
ผมก็เอามากางดู เทียบๆกันอยู่นานด้วยความซื่อ(บื้อ)
หลังๆนี้เพิ่งจะเข้าใจว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ธรรมชาติของธุรกิจ และข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลขอีกมากที่มีผลกระทบ
ไม่อย่างนั้นคนคงเอาทำโปรแกรมเอาอัตราส่วนต่างๆเข้า excel ซื้อๆขายๆรวยกันหมดทุกคนไปละ
คารวะหนึ่งขวดเลยครับพี่
ตอนแรกๆที่ผมลงทุน ผมสับสนมากว่าเรามีอัตราส่วนมากมายให้เปรียบเทียบ
แล้วส่วนมากตำราก็จะบอกแค่ว่าค่านู้นมากดี ค่านี้น้อยดี
คำถามที่ผมงงมากๆคือ คำว่ามากน้อย วันจากตัวเลขใด
บางตำราถึงขนาดให้ตัวเลขมาเลยว่าต้องค่าไม่เกินนั้นเกินนี้
ผมก็เอามากางดู เทียบๆกันอยู่นานด้วยความซื่อ(บื้อ)
หลังๆนี้เพิ่งจะเข้าใจว่ามันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ธรรมชาติของธุรกิจ และข้อมูลที่ไม่ใช่ตัวเลขอีกมากที่มีผลกระทบ
ไม่อย่างนั้นคนคงเอาทำโปรแกรมเอาอัตราส่วนต่างๆเข้า excel ซื้อๆขายๆรวยกันหมดทุกคนไปละ
มโนปุพพังคมาธัมมา - ในตัวของเรามีใจเป็นใหญ่
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
มโนเสฏฐา มโนมยา - ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นธรรมชาติถึงก่อน
มะนะสา เจ ปสันเนนะ - ทุกสิ่งทุกอย่างสำเร็จแล้วแต่ใจ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 269
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 9
วิธีที่ SET คิดโดยใช้มูลค่ารวมของบริษัทครับไม่ได้เอาค่าต่อหุ้นมาคิด
อ้างอิงจาก http://www.set.or.th/th/market/files/SE ... a_2009.pdf
PE= ราคาปิดของหุ้นสามัญx[(จำนวนหุ้นสามัญ+จำนวนหุ้นบุริมสิทธิ)-จำนวนหุ้นซื้อคืน]/กำไรทั้งหมดงวด 12 เดือนล่าสุด
PBV=ราคาปิดของหุ้นสามัญx[(จำนวนหุ้นสามัญ+จำนวนหุ้นบุริมสิทธิ)-จำนวนหุ้นซื้อคืน]/ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท
อ้างอิงจาก http://www.set.or.th/th/market/files/SE ... a_2009.pdf
PE= ราคาปิดของหุ้นสามัญx[(จำนวนหุ้นสามัญ+จำนวนหุ้นบุริมสิทธิ)-จำนวนหุ้นซื้อคืน]/กำไรทั้งหมดงวด 12 เดือนล่าสุด
PBV=ราคาปิดของหุ้นสามัญx[(จำนวนหุ้นสามัญ+จำนวนหุ้นบุริมสิทธิ)-จำนวนหุ้นซื้อคืน]/ส่วนของผู้ถือหุ้นของบริษัท
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 10
สุดยอด...ขอบคุณครับ อิอิ
ที่จริงขอสารภาพว่าสาเหตุที่ผมตตั้งกระทู้เพราะต้องการรู้เรื่องROE
เล่าความคิดแบบโง่ๆก่อนเลยนะครับ อิอิ
ผมดูค้าPE จับPEมากลับส่วนจะได้เป็นกำไรต่อราคาที่ถือ....ดังนั้นหาก1/PE ได้ซัก20-30% เราก็ควรจะได้เท่านั้นมิใช่หรือครับ??????
ผมคิดว่าROEเป็นกำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่งบางบริษัทได้ตั้งแต่20-30%
ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรจะได้กำไรพอๆกับROEมิใช่หรือครับ?????
ที่จริงขอสารภาพว่าสาเหตุที่ผมตตั้งกระทู้เพราะต้องการรู้เรื่องROE
เล่าความคิดแบบโง่ๆก่อนเลยนะครับ อิอิ
ผมดูค้าPE จับPEมากลับส่วนจะได้เป็นกำไรต่อราคาที่ถือ....ดังนั้นหาก1/PE ได้ซัก20-30% เราก็ควรจะได้เท่านั้นมิใช่หรือครับ??????
ผมคิดว่าROEเป็นกำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่งบางบริษัทได้ตั้งแต่20-30%
ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรจะได้กำไรพอๆกับROEมิใช่หรือครับ?????
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 11
อันนี้อาจจะไม่ใช่ครับ ถ้า roe ของบริษัทเท่ากับ 20-30 % คุณอาจได้มากกว่าหรือน้อยกว่าก็ได้ เพราะ roe ที่คำนวณคำนวณจาก equity คือ book นั่นเอง ดังนั้นเราจะรู้ว่าเงินลงทุนของเราได้ผลตอบแทนเท่าไร คุณต้องเอง roe คูณกับ bvต่อหุ้น ของบริษัทที่เราลงทุนก่อนครับ ก่อนครับผม :lol:picklife เขียน:
ผมคิดว่าROEเป็นกำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่งบางบริษัทได้ตั้งแต่20-30%
ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรจะได้กำไรพอๆกับROEมิใช่หรือครับ?????
Small Details Make a Big Difference
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 13
แหมมชอบคุณsaiจังเลยครับตอบทันใจครับ
คือเมื่อก่อนผมก็มองแต่1/PEเท่านั้นจะกลายเป็นกำไรที่ผมคิดว่าจะได้รับต่อปี
แต่เมื่อไม่นานเพิ่งลองวิเคราะห์ใหม่ว่าถ้า PBVคงที่ละครับ เพราะในแต่ละหุ้นจะมีค่าเฉลี่ยของPBVไม่เท่ากัน แต่ถ้าในหุ้นตัวเดียวกันแต่ย้อนหลังไปจะพบว่าค่าPBVใกล้เคียงกัน เหมือนกับเป็นธรรมชาติของกิจการนั้นๆ ซึ่งหากพื้นฐานกิจการนั้นๆไม่เปลี่ยนแปลง ค่าPBV และค่าPE ก็จะไม่แกว่งมากใช่ไหมครับ......
ดังนั้นผมมองย้นกลับไปที่ค่าROE ที่ค่าROEเทียบกับBVก็จริงอยู่
แต่BVก็เป็นสัดส่วนกับP
เช่น
BV=10
P=20
PBV=2
แล้วผลประกอบการณ์มีROE=20%
ดังนั้นBVก็ควรจะ=10*1.2=12
(แต่อาจจะน้อยกว่านี้ในกรณีนำROEไปปันผล เพราะถ้านำไปปันผล10%ของBVจะเท่ากับว่าเราได้เพียง5%ของP)
ดังนั้นด้วยการที่ธรรมชาติของกิจการเหมือนเดิมก็เท่ากับว่า
P=12*2=24
ดังนั้นกำไร=24/20=20%
(ปล.เพราะBV=12 และPBV=2)
แต่หากกรณีนำไปปันผลครึ่งหนึ่งของROE
ดังนั้นกำไร=22/20=10%+5%ปันผล = 15%
ดังนั้นดูคร่าวๆแล้วกำไรก็น่าจะได้ใกล้เคียงกับROE หรือไม่ก็0.75*ROE
ไม่ใช่หรอครับ......งั้นการดูค่าROEมากๆก็น่าจะดีนี่ครับ
แต่พอผมมาดูของจริงPBVกลับไม่เพิ่มตามกำไรที่ได้โดยเฉพาะBEC
ผมจึงไม่เข้าใจครับ....ว่าแล้วกำไรจากROEผมไปไหนครับ??????
พี่ๆช่วยหาคำตอบหน่อยได้ไหมครับผมไม่เข้าใจจริงๆครับ?????
ขอบคุณมากๆๆๆครับ
คือเมื่อก่อนผมก็มองแต่1/PEเท่านั้นจะกลายเป็นกำไรที่ผมคิดว่าจะได้รับต่อปี
แต่เมื่อไม่นานเพิ่งลองวิเคราะห์ใหม่ว่าถ้า PBVคงที่ละครับ เพราะในแต่ละหุ้นจะมีค่าเฉลี่ยของPBVไม่เท่ากัน แต่ถ้าในหุ้นตัวเดียวกันแต่ย้อนหลังไปจะพบว่าค่าPBVใกล้เคียงกัน เหมือนกับเป็นธรรมชาติของกิจการนั้นๆ ซึ่งหากพื้นฐานกิจการนั้นๆไม่เปลี่ยนแปลง ค่าPBV และค่าPE ก็จะไม่แกว่งมากใช่ไหมครับ......
ดังนั้นผมมองย้นกลับไปที่ค่าROE ที่ค่าROEเทียบกับBVก็จริงอยู่
แต่BVก็เป็นสัดส่วนกับP
เช่น
BV=10
P=20
PBV=2
แล้วผลประกอบการณ์มีROE=20%
ดังนั้นBVก็ควรจะ=10*1.2=12
(แต่อาจจะน้อยกว่านี้ในกรณีนำROEไปปันผล เพราะถ้านำไปปันผล10%ของBVจะเท่ากับว่าเราได้เพียง5%ของP)
ดังนั้นด้วยการที่ธรรมชาติของกิจการเหมือนเดิมก็เท่ากับว่า
P=12*2=24
ดังนั้นกำไร=24/20=20%
(ปล.เพราะBV=12 และPBV=2)
แต่หากกรณีนำไปปันผลครึ่งหนึ่งของROE
ดังนั้นกำไร=22/20=10%+5%ปันผล = 15%
ดังนั้นดูคร่าวๆแล้วกำไรก็น่าจะได้ใกล้เคียงกับROE หรือไม่ก็0.75*ROE
ไม่ใช่หรอครับ......งั้นการดูค่าROEมากๆก็น่าจะดีนี่ครับ
แต่พอผมมาดูของจริงPBVกลับไม่เพิ่มตามกำไรที่ได้โดยเฉพาะBEC
ผมจึงไม่เข้าใจครับ....ว่าแล้วกำไรจากROEผมไปไหนครับ??????
พี่ๆช่วยหาคำตอบหน่อยได้ไหมครับผมไม่เข้าใจจริงๆครับ?????
ขอบคุณมากๆๆๆครับ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 14
อ่านแล้วเริ่มงงงง นิดนิดครับ ที่ผมเข้าใจนะครับคือpicklife เขียน:แหมมชอบคุณsaiจังเลยครับตอบทันใจครับ
คือเมื่อก่อนผมก็มองแต่1/PEเท่านั้นจะกลายเป็นกำไรที่ผมคิดว่าจะได้รับต่อปี
แต่เมื่อไม่นานเพิ่งลองวิเคราะห์ใหม่ว่าถ้า PBVคงที่ละครับ เพราะในแต่ละหุ้นจะมีค่าเฉลี่ยของPBVไม่เท่ากัน แต่ถ้าในหุ้นตัวเดียวกันแต่ย้อนหลังไปจะพบว่าค่าPBVใกล้เคียงกัน เหมือนกับเป็นธรรมชาติของกิจการนั้นๆ ซึ่งหากพื้นฐานกิจการนั้นๆไม่เปลี่ยนแปลง ค่าPBV และค่าPE ก็จะไม่แกว่งมากใช่ไหมครับ......
ดังนั้นผมมองย้นกลับไปที่ค่าROE ที่ค่าROEเทียบกับBVก็จริงอยู่
แต่BVก็เป็นสัดส่วนกับP
เช่น
BV=10
P=20
PBV=2
แล้วผลประกอบการณ์มีROE=20%
ดังนั้นBVก็ควรจะ=10*1.2=12
(แต่อาจจะน้อยกว่านี้ในกรณีนำROEไปปันผล เพราะถ้านำไปปันผล10%ของBVจะเท่ากับว่าเราได้เพียง5%ของP)
ดังนั้นด้วยการที่ธรรมชาติของกิจการเหมือนเดิมก็เท่ากับว่า
P=12*2=24
ดังนั้นกำไร=24/20=20%
(ปล.เพราะBV=12 และPBV=2)
แต่หากกรณีนำไปปันผลครึ่งหนึ่งของROE
ดังนั้นกำไร=22/20=10%+5%ปันผล = 15%
ดังนั้นดูคร่าวๆแล้วกำไรก็น่าจะได้ใกล้เคียงกับROE หรือไม่ก็0.75*ROE
ไม่ใช่หรอครับ......งั้นการดูค่าROEมากๆก็น่าจะดีนี่ครับ
แต่พอผมมาดูของจริงPBVกลับไม่เพิ่มตามกำไรที่ได้โดยเฉพาะBEC
ผมจึงไม่เข้าใจครับ....ว่าแล้วกำไรจากROEผมไปไหนครับ??????
พี่ๆช่วยหาคำตอบหน่อยได้ไหมครับผมไม่เข้าใจจริงๆครับ?????
ขอบคุณมากๆๆๆครับ
roe จริงจริงแล้วคือ กำไรสุทธิ/สว่นของผู้ถือหุ้นครับ
สมมติว่าบริษัทมี
BV=10 ต่อหุ้น
P=20 บาท
PBV=2 เท่า
แล้วบริษัททำกำไรได้ 2 บาทต่อหุ้น กรณีนี้ roe จะเท่ากับ 20 % แต่หากนำมาคิดกับราคาที่เราซื้อคือที่ 20 บาทต่อหุ้นจะได้ผลตอบแทนเพียง 10 % เท่านั้นครับ
Small Details Make a Big Difference
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 15
1/PE = E/P เค้าเรียกกันว่า earning yield ตัวเลขมีความหมายว่าที่ราคาหุ้นเท่านี้ กำไรในอดีตคิดเป็นกี่ % แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้กำไรเท่านั้น % ซะหน่อยนี่ครับpicklife เขียน:สุดยอด...ขอบคุณครับ อิอิ
ที่จริงขอสารภาพว่าสาเหตุที่ผมตตั้งกระทู้เพราะต้องการรู้เรื่องROE
เล่าความคิดแบบโง่ๆก่อนเลยนะครับ อิอิ
ผมดูค้าPE จับPEมากลับส่วนจะได้เป็นกำไรต่อราคาที่ถือ....ดังนั้นหาก1/PE ได้ซัก20-30% เราก็ควรจะได้เท่านั้นมิใช่หรือครับ??????
ผมคิดว่าROEเป็นกำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้น ซึ่งบางบริษัทได้ตั้งแต่20-30%
ถ้าอย่างนั้นผมก็ควรจะได้กำไรพอๆกับROEมิใช่หรือครับ?????
ถ้าคุณคิดว่าซื้อหุ้น P/E ต่ำๆ = Earning Yield สูงๆ แล้วคุณจะได้กำไรเท่านั้น เท่านี้ ผมว่าคุณคิดผิดอย่างแรง และเป็นกับดักที่ VI มือใหม่พลาดมานักต่อนักแล้ว (ผมเองก็โดนเหมือนกัน)... เพราะ P/E หรือ Earning Yield ที่เราเห็นมันเป็นค่าที่เกิดจากอดีต ซึ่งอดีตที่เราเห็นไม่ได้รับประกันอนาคต แถมอดีตที่เราเห็นบางทีอาจจะเกิดจากกำไรพิเศษ หรือเกิดจากปัจจัยที่เอื้ออำนวยชั่วคราว (ลองไปสังเกตพวกหุ้น Commodity ที่ราคา Commodity กำไร peak สิครับ P/E ต่ำสุดๆ)
นอกจากนี้ Earning ที่เราเห็นมันไม่ใช่กระแสเงินสดที่เราได้รับจริงๆ เพราะ หลายๆ ธุรกิจ ถ้าต้องการทำให้ธุรกิจโต ก็ต้องลงทุนในลูกหนี้มากขึ้น ลงทุนขยายกิจการมากขึ้น หรือบางกิจการก็เลือกจะเก็บเงินกองเอาไว้เฉยๆ ดังนั้น Earning ไม่ใช่สิ่งที่เราได้ครับ ปันผลสิสิ่งที่เราได้รับจริงๆ
ดังนั้นเราจะได้กำไรจากหุ้นเท่าไหร่ มันมาจาก 2 ส่วน คือ 1) กระแสเงินสดจาก ปันผล กับ Credit ปันผล และ 2) กำไรจากการขายหุ้น ซึ่งก็คือ Capital Gain
กระแสเงินสดจากส่วนที่ 1 ประเมินจากกิจการในระยะยาว ความสามารถ และนโยบายในการจ่ายเงินปันผล
กระแสเงินสดส่วนที่ 2 อันนี้มาจากการประเมินกิจการในอนาคต และการตอบสนองจากตลาด
เขียนแล้วชักเลอะเทอะ... เลิกดีกว่า...
สรุปว่า... Earning Yield และ ROE ไม่ได้บอกว่าเราถือหุ้นตัวนั้นแล้วเราจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ เป็นแค่ตัวชี้วัดคร่าวๆ ว่าแค่หุ้นตัวนี้ถูกหรือแพง หรือใช้เปรียบเทียบความสามารถในการทำกำไรกับกิจการอื่นๆ ซึ่งอาจจะมีผลต่อผลตอบแทนคาดหวังจากการลงทุนอยู่บ้างในทางอ้อม
สรุป 2
- อัตราส่วน สัดส่วนต่างๆ มีเอาไว้กรองกิจการเพื่อนำมาศึกษาต่อ
- ได้หุ้นมาระดับหนึ่งแล้ว คุณต้องศึกษาปัจจัยเชิงคุณภาพแบบภาพกว้างๆ
- ได้หุ้นที่คุณภาพดีมาระดับหนึ่งแล้วต้องมาดูงบคร่าวๆ
- ตัดหุ้นออกอีก แล้วก็ศึกษาปัจจัยคุณภาพระดับลึก
- สุดท้ายมาดูงบแบบละเอียดๆ ว่าไม่มีอะไรผิดพลาด
- สุดท้ายค่อยมาดูราคาหุ้นว่าราคานี้มี Margin Of Safety หรือไม่
- อัตราผลตอบแทนที่คาดหวังเพียงพอหรือไม่
- แล้วค่อยวางแผน กลยุทธในการซื้อขาย ระยะเวลาการถือ Stop-Loss, Profit Taking หรือแผนรับมือเหตุการที่อาจเกิดขึ้น
- ทำเสร็จทุกข้อแล้วค่อยซื้อ
ยากจังแฮะ... ผมก็เขียนไปอย่างงั้นแหละ ทำจริงก็ทำไม่ได้เหมือนกัน... :lol: :lol: :lol:
สรุป 3
- ลองดูหุ้นที่กำลังเริ่ม hot ใน thai vi แล้ว เอามาศึกษาละกัน
- ถ้าดูแล้วชอบ อัตราผลตอบแทนคาดหวังคิดว่ามาเพียงพอ MoS พอใจ ก็ซัด
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 16
ครับใช่ครับ ถ้าเอากำไรเทียบกับปัจจุบัน
แต่คืองี๊ครับ....BV=10 เจอROE20% BVจึงปรับใหม่เป็น10.2
ซึ่งเมื่อBVเป็น10.2 ด้วยธรรมชาติของPBVที่เท่าเดิม ราคาหุ้นก็จะขึ้นไปเพื่อให้PBVเข้าใกล้2 ซึ่งนั่นก็คือ24ครับ
PBV 10.2/24=2
ดังนั้น 24/20=20%ครับ
เพราะหากPไม่ขึ้นตามไปคุณก็จะเห็นPBVย้อนหลังเป็น
1.66 1.38 1.15 0.96 0.80 ครับ
ดังนั้นถ้าสังเกตุค่าPBVในกิจการใดๆจะคงที่ไม่แกว่งมากนัก
แต่ปัญหาผมคือ.....ทำไม BVไม่ขึ้นไปตาม ROE ?????
ปล.คุณซาอินี่ถูกใจมากๆเลยครับ ตอบทันใจจริงๆ อิอิ ขอบคุณมากๆครับ
แต่คืองี๊ครับ....BV=10 เจอROE20% BVจึงปรับใหม่เป็น10.2
ซึ่งเมื่อBVเป็น10.2 ด้วยธรรมชาติของPBVที่เท่าเดิม ราคาหุ้นก็จะขึ้นไปเพื่อให้PBVเข้าใกล้2 ซึ่งนั่นก็คือ24ครับ
PBV 10.2/24=2
ดังนั้น 24/20=20%ครับ
เพราะหากPไม่ขึ้นตามไปคุณก็จะเห็นPBVย้อนหลังเป็น
1.66 1.38 1.15 0.96 0.80 ครับ
ดังนั้นถ้าสังเกตุค่าPBVในกิจการใดๆจะคงที่ไม่แกว่งมากนัก
แต่ปัญหาผมคือ.....ทำไม BVไม่ขึ้นไปตาม ROE ?????
ปล.คุณซาอินี่ถูกใจมากๆเลยครับ ตอบทันใจจริงๆ อิอิ ขอบคุณมากๆครับ
- picatos
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 3352
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 17
ผมว่าเวลาเอาทฤษฎีมาใช้ เราต้องรู้เอาไว้ก่อนว่าทฤษฎีพวกนี้มัน อุดมคติ มากๆ มีสมมติฐานอะไร ไม่รู้มากมายเหลือเกิน ซึ่งไม่เป็นความจริง และเอามาใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงไม่ค่อยได้...
การพยายามคำนวณตัวเลขให้ได้ตามทฤษฎีนี่ ผมว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์กับการลงทุนเท่าไหร่นะครับ... เข้าใจแค่ Concept ก็พอว่า... กำไรส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุนในกิจการต่อ อีกส่วนหนึ่งจ่ายปันผล ส่วนกำไรส่วนที่นำไปลงทุนต่อนี่ลงทุนอะไร จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จะมีผลต่อตลาดยังไง นี่แหละครับคือประเด็นที่สำคัญ
การพยายามคำนวณตัวเลขให้ได้ตามทฤษฎีนี่ ผมว่ามันไม่ค่อยมีประโยชน์กับการลงทุนเท่าไหร่นะครับ... เข้าใจแค่ Concept ก็พอว่า... กำไรส่วนหนึ่งจะถูกนำไปลงทุนในกิจการต่อ อีกส่วนหนึ่งจ่ายปันผล ส่วนกำไรส่วนที่นำไปลงทุนต่อนี่ลงทุนอะไร จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จะมีผลต่อตลาดยังไง นี่แหละครับคือประเด็นที่สำคัญ
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 18
picatos
ครับแล้วหุ้นhotๆในTVIดูได้จากที่ไหนครับ อิอิ (ช่วยแนะด้วยครับ)
ส่วนเรื่องPEผมเข้าใจนะครับว่ามันอดีตจริงๆ
-แต่หากมันย้อนหลังซัก10ปีคงที่เสมอ แล้วถ้ากิจการนั้นไม่มีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป ในปีที่11ก็น่าจะได้ตามนั้นนิครับ ผมว่ามันน่าจะสำคัญสำหรับเด็กใหม่อย่างผมที่ไม่รู้อะไรเลยใช่ไหมครับ...หรืออย่างไรครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ แม้นมีดจะทื่อแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยหรือปล่าวครับ???
ผมว่าเด็กใหม่อย่างผมและหลายๆคนมองอนาคตไม่ออกหรอกครับ ได้แต่มองอดีตหลายๆปีแล้วคาดหวังอนาคต แล้วค่อยใช้ความรู้ทื่อๆยืนยันอีกทีว่าว่าพื้นฐานกิจการยังเหมือนเดิม.....ซึ่งนั่นก็คือวิธีที่พี่บอก จะดีไหมครับ หรืออย่างไรครับ
แถมบางคนก็โดนกับดักเพราะเจอกำไรพิเศษPEต่ำปี๊ดๆ
-อันนี้สำหรับผมไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะผมไม่เคยดูPEปีเดียวเลย จะต้องดูย้อนหลังเสมอ เพราะปีเดียวมันอาจเกิดได้ครับ แต่ถ้าย้อนหลังซัก5ปีไม่น่าจะมีนะครับ
-อิอิว่าแล้วก็ถามเลยครับ เราสามารถหางบการเงินย้อนหลังซัก10ปีจากไหนครับ???
ครับแล้วหุ้นhotๆในTVIดูได้จากที่ไหนครับ อิอิ (ช่วยแนะด้วยครับ)
ส่วนเรื่องPEผมเข้าใจนะครับว่ามันอดีตจริงๆ
-แต่หากมันย้อนหลังซัก10ปีคงที่เสมอ แล้วถ้ากิจการนั้นไม่มีปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนแปลงไป ในปีที่11ก็น่าจะได้ตามนั้นนิครับ ผมว่ามันน่าจะสำคัญสำหรับเด็กใหม่อย่างผมที่ไม่รู้อะไรเลยใช่ไหมครับ...หรืออย่างไรครับ ช่วยแนะนำด้วยครับ แม้นมีดจะทื่อแต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยหรือปล่าวครับ???
ผมว่าเด็กใหม่อย่างผมและหลายๆคนมองอนาคตไม่ออกหรอกครับ ได้แต่มองอดีตหลายๆปีแล้วคาดหวังอนาคต แล้วค่อยใช้ความรู้ทื่อๆยืนยันอีกทีว่าว่าพื้นฐานกิจการยังเหมือนเดิม.....ซึ่งนั่นก็คือวิธีที่พี่บอก จะดีไหมครับ หรืออย่างไรครับ
แถมบางคนก็โดนกับดักเพราะเจอกำไรพิเศษPEต่ำปี๊ดๆ
-อันนี้สำหรับผมไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพราะผมไม่เคยดูPEปีเดียวเลย จะต้องดูย้อนหลังเสมอ เพราะปีเดียวมันอาจเกิดได้ครับ แต่ถ้าย้อนหลังซัก5ปีไม่น่าจะมีนะครับ
-อิอิว่าแล้วก็ถามเลยครับ เราสามารถหางบการเงินย้อนหลังซัก10ปีจากไหนครับ???
- McDull
- Verified User
- โพสต์: 313
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 19
อิ๊กคิวซัง - "ใช้หมอง... นั่งมาธิ" ติ๊กต้อก ติ๊กต้อก ... (หน้านิ่วคิ้วขมวด)
บัฟเฟตต์ - "Yes? No? Too hard?"... "Too hard!!!" (แล้วก็ไปเล่นบริดจ์)
งวดนี้ ขอเชื่อปรมาจารย์ครับ เกินสมองน้อยๆ จะรับมือไหว :?
บัฟเฟตต์ - "Yes? No? Too hard?"... "Too hard!!!" (แล้วก็ไปเล่นบริดจ์)
งวดนี้ ขอเชื่อปรมาจารย์ครับ เกินสมองน้อยๆ จะรับมือไหว :?
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 20
picatos say
ส่วนกำไรส่วนที่นำไปลงทุนต่อนี่ลงทุนอะไร จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จะมีผลต่อตลาดยังไง นี่แหละครับคือประเด็นที่สำคัญ....
อันนี้ผมดูได้จากที่ไหนครับพี่......
ส่วนกำไรส่วนที่นำไปลงทุนต่อนี่ลงทุนอะไร จะให้ผลตอบแทนเท่าไหร่ จะมีผลต่อตลาดยังไง นี่แหละครับคือประเด็นที่สำคัญ....
อันนี้ผมดูได้จากที่ไหนครับพี่......
- McDull
- Verified User
- โพสต์: 313
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 21
[quote="McDull"]อิ๊กคิวซัง - "ใช้หมอง... นั่งมาธิ" ติ๊กต้อก ติ๊กต้อก ... (หน้านิ่วคิ้วขมวด)
บัฟเฟตต์ - "Yes? No? Too hard?"... "Too hard!!!" (แล้วก็ไปเล่นบริดจ์)
งวดนี้ ขอเชื่อปรมาจารย์ครับ เกินสมองน้อยๆ จะรับมือไหว
บัฟเฟตต์ - "Yes? No? Too hard?"... "Too hard!!!" (แล้วก็ไปเล่นบริดจ์)
งวดนี้ ขอเชื่อปรมาจารย์ครับ เกินสมองน้อยๆ จะรับมือไหว
-
- Verified User
- โพสต์: 558
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 22
1/PE = E/P เค้าเรียกกันว่า earning yield ตัวเลขมีความหมายว่าที่ราคาหุ้นเท่านี้ กำไรในอดีตคิดเป็นกี่ % แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะได้กำไรเท่านั้น % ซะหน่อยนี่ครับpicatos เขียน:
ถ้าคุณคิดว่าซื้อหุ้น P/E ต่ำๆ = Earning Yield สูงๆ แล้วคุณจะได้กำไรเท่านั้น เท่านี้ ผมว่าคุณคิดผิดอย่างแรง และเป็นกับดักที่ VI มือใหม่พลาดมานักต่อนักแล้ว (ผมเองก็โดนเหมือนกัน)... เพราะ P/E หรือ Earning Yield ที่เราเห็นมันเป็นค่าที่เกิดจากอดีต ซึ่งอดีตที่เราเห็นไม่ได้รับประกันอนาคต แถมอดีตที่เราเห็นบางทีอาจจะเกิดจากกำไรพิเศษ หรือเกิดจากปัจจัยที่เอื้ออำนวยชั่วคราว (ลองไปสังเกตพวกหุ้น Commodity ที่ราคา Commodity กำไร peak สิครับ P/E ต่ำสุดๆ)
นอกจากนี้ Earning ที่เราเห็นมันไม่ใช่กระแสเงินสดที่เราได้รับจริงๆ เพราะ หลายๆ ธุรกิจ ถ้าต้องการทำให้ธุรกิจโต ก็ต้องลงทุนในลูกหนี้มากขึ้น ลงทุนขยายกิจการมากขึ้น หรือบางกิจการก็เลือกจะเก็บเงินกองเอาไว้เฉยๆ ดังนั้น Earning ไม่ใช่สิ่งที่เราได้ครับ ปันผลสิสิ่งที่เราได้รับจริงๆ
ดังนั้นเราจะได้กำไรจากหุ้นเท่าไหร่ มันมาจาก 2 ส่วน คือ 1) กระแสเงินสดจาก ปันผล กับ Credit ปันผล และ 2) กำไรจากการขายหุ้น ซึ่งก็คือ Capital Gain
กระแสเงินสดจากส่วนที่ 1 ประเมินจากกิจการในระยะยาว ความสามารถ และนโยบายในการจ่ายเงินปันผล
กระแสเงินสดส่วนที่ 2 อันนี้มาจากการประเมินกิจการในอนาคต และการตอบสนองจากตลาด
เขียนแล้วชักเลอะเทอะ... เลิกดีกว่า...
สรุปว่า... Earning Yield และ ROE ไม่ได้บอกว่าเราถือหุ้นตัวนั้นแล้วเราจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ เป็นแค่ตัวชี้วัดคร่าวๆ ว่าแค่หุ้นตัวนี้ถูกหรือแพง หรือใช้เปรียบเทียบความสามารถในการทำกำไรกับกิจการอื่นๆ
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 24
วิธีนี้ผมใช้บ่อย อิอิpicatos เขียน: สรุป 3
- ลองดูหุ้นที่กำลังเริ่ม hot ใน thai vi แล้ว เอามาศึกษาละกัน
- ถ้าดูแล้วชอบ อัตราผลตอบแทนคาดหวังคิดว่ามาเพียงพอ MoS พอใจ ก็ซัด
Small Details Make a Big Difference
- picklife
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2567
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 26
ขอบคุณคร๊าบบบบ ชาวTVIใจดีทุกคนเลยครับ อิอิ
อยากถามต่อว่า.....ถ้าผมต้องการ เปรียบเทีบผลการดำเนินงานกำไร-ขาดทุน
ย้อนหลังซัก3ปี และในแต่ละปีก็กระจายเป็นไตรมาส เพื่อจะได้เปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาย้อนหลัง และปีต่อปีย้อนหลัง เราสามารถหาได้จากที่ไหนครับ???????
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ
อยากถามต่อว่า.....ถ้าผมต้องการ เปรียบเทีบผลการดำเนินงานกำไร-ขาดทุน
ย้อนหลังซัก3ปี และในแต่ละปีก็กระจายเป็นไตรมาส เพื่อจะได้เปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาย้อนหลัง และปีต่อปีย้อนหลัง เราสามารถหาได้จากที่ไหนครับ???????
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ
- green/30/10/08
- Verified User
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 28
- green/30/10/08
- Verified User
- โพสต์: 217
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 29
Website ของบริษัทฯ นั้นๆpicklife เขียน:ขอบคุณคร๊าบบบบ ชาวTVIใจดีทุกคนเลยครับ อิอิ
อยากถามต่อว่า.....ถ้าผมต้องการ เปรียบเทีบผลการดำเนินงานกำไร-ขาดทุน
ย้อนหลังซัก3ปี และในแต่ละปีก็กระจายเป็นไตรมาส เพื่อจะได้เปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาย้อนหลัง และปีต่อปีย้อนหลัง เราสามารถหาได้จากที่ไหนครับ???????
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ
ตัวอย่าง
http://www.mlink.co.th/Investor.asp?Topic=4 :)
- sai
- Verified User
- โพสต์: 4090
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนรู้และวิเคราะห์งบการเงิน!!! ฉบับถามมาตอบไปโดยพี่ๆชาวTVI
โพสต์ที่ 30
http://www.siamfn.com/siamfn/ism/ps_xdata.jsppicklife เขียน:ขอบคุณคร๊าบบบบ ชาวTVIใจดีทุกคนเลยครับ อิอิ
อยากถามต่อว่า.....ถ้าผมต้องการ เปรียบเทีบผลการดำเนินงานกำไร-ขาดทุน
ย้อนหลังซัก3ปี และในแต่ละปีก็กระจายเป็นไตรมาส เพื่อจะได้เปรียบเทียบไตรมาสต่อไตรมาย้อนหลัง และปีต่อปีย้อนหลัง เราสามารถหาได้จากที่ไหนครับ???????
ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ
ผมใช้อันนี้อยู่ครับ ลองดูนะครับ
Small Details Make a Big Difference