หุ้น cmr รพ เชียงใหม่ราม-ลานนา ช่วยวิเคราะห์กันหน่อยครับ

[green-orange]

ชื่อผู้บริหาร ความสัมพันธ์ * ประเภทหลักทรัพย์ วันที่รับเอกสาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย หมายเหตุ

 เรียงข้อมูลตาม : | ชื่อผู้บริหาร | วันที่ได้มา/จำหน่าย |

ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 05/03/2551 04/03/2551 3,000 31.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/03/2551 11/03/2551 1,000 30.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/03/2551 31/03/2551 1,000 30.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 29/09/2551 29/09/2551 1,000 26.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/03/2552 24/03/2552 1,000 22.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/09/2552 25/09/2552 1,000 24.80 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 05/10/2552 05/10/2552 2,000 24.70 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 09/10/2552 09/10/2552 1,000 24.70 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/10/2552 13/10/2552 400 24.60 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/10/2552 14/10/2552 1,100 24.70 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 09/12/2552 09/12/2552 1,000 31.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 23/12/2552 22/12/2552 2,500 31.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/12/2552 24/12/2552 1,500 31.00 ซื้อ  
ธีระยุทธ  นิยมกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 29/12/2552 29/12/2552 2,500 31.00 ซื้อ  
สุเมธ  ฮั่นตระกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/06/2550 11/06/2550 2,400 40.00 ซื้อ  
สุเมธ  ฮั่นตระกูล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 23/01/2552 23/01/2552 50,000 23.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/06/2550 11/06/2550 1,200 40.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 02/08/2550 04/07/2550 1,000 32.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 24/07/2550 23/07/2550 1,000 31.25 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 02/08/2550 24/07/2550 1,000 31.25 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/07/2550 26/07/2550 2,000 31.25 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/07/2550 27/07/2550 2,000 31.25 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/07/2550 27/07/2550 2,000 31.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 03/08/2550 31/07/2550 2,000 31.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 03/08/2550 01/08/2550 2,000 31.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 03/08/2550 02/08/2550 5,000 31.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 09/08/2550 07/08/2550 5,000 31.50 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 09/08/2550 08/08/2550 5,000 31.75 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 14/08/2550 08/08/2550 800 31.75 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 14/08/2550 09/08/2550 10,000 31.75 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/03/2551 05/03/2551 4,000 30.63 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/04/2551 23/04/2551 3,000 28.25 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/03/2553 16/03/2553 500 33.00 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/03/2553 16/03/2553 900 33.50 ซื้อ  
อำนวย  ชิงชยานุรักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/03/2553 17/03/2553 1,000 33.75 ซื้อ  
เอื้อชาติ  กาญจนพิทักษ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 20/10/2552 19/10/2552 152,530 24.50 ซื้อ ซื้อในนามบริษัท


[ Back to search page]  

ผู้บริหารซื้อตลอด ไม่มีขายสักหุ้นเลยครับ ใครรู้มาช่วยกันวิเคราะห์หน่อย ไม่มีใน ร้อยคนร้อยหุ้น

[green-orange]

ครบถ้วน

ตารางแสดงโครงสร้างรายได้ของธุรกิจการให้บริการเฉพาะบริษัท          

หน่วย : พันบาท ปี พ.ศ. 2551 ปี พ.ศ. 2550
ปี พ.ศ. 2549
ปี พ.ศ. 2548
ผู้ป่วยทั่วไป
ผู้ป่วยนอก 168,475 36.56 100,451 28.89 77,557 25.78% 72,223 26.86%
ผู้ป่วยใน 201,897 43.81 155,916 44.85 118,267 39.30% 114,735 42.67%
ผู้ป่วยประกันสังคม 84,912 18.43 82,065 23.61 95,894 31.87% 74,519 27.72%
รายได้อื่นๆ 5,517 1.20 9,212 2.65 9,189 3.05% 7,469 2.75%
      รายได้รวมสุทธิ 460,801 100.00% 347,644 100.00% 300,907 100.00% 268,946 100.00%

[green-orange]

ซาก

ตารางแสดงโครงสร้างรายได้งบการเงินรวม        

หน่วย : พันบาท ปี พ.ศ. 2551 ปี พ.ศ. 2550
ผู้ป่วยทั่วไป
ผู้ป่วยนอก 501,109 33.37 359,365 34.38
ผู้ป่วยใน 800,325 53.30 580,423 55.52
ผู้ป่วยประกันสังคม 121,832 8.11 40,797 3.90
รายได้จากสำนักงานประกันสุขภาพแห่งชาติ 64,622 4.31 57,619 5.51
รายได้อื่น 13,726 0.91 7,157 0.69
                  รายได้รวมสุทธิ 1,501,614 100.00% 1,045,361 100.00%

[green-orange]

ปี 2551
โรงพยาบาลเอกชน จำนวนเตียงผู้ป่วยขึ้นทะเบียน สัดส่วนร้อยละ
โรงพยาบาลลานนา 180 11.50
โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม 220 14.06
โรงพยาบาลเทพปัญญา                     130 8.31
โรงพยาบาลช้างเผือก                           100 6.39
รวมโรงพยาบาลลานนาและกลุ่มเชียงใหม่ราม 630 40.26
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค                   400 25.56
โรงพยาบาลเซ็นทรัลเมมโมเรียล 120 7.67
โรงพยาบาลรวมแพทย์ 100 6.39
โรงพยาบาลราชเวช                 100 6.39
โรงพยาบาลเชียงใหม่ใกล้หมอ 56 3.58
โรงพยาบาลสยามราษฎร์ 50 3.19
อื่น ๆ  (ขนาดต่ำกว่า 100 เตียง) 109 6.96
รวม 1,565 100.00%

[green-orange]

กลุ่มลูกค้า
(1) กลุ่มลูกค้าประกัน ประกอบด้วย
 กลุ่มลูกค้าประกัน ประมาณ 90 ราย เช่น ประกันภัย, ประกันสุขภาพ, พ.ร.บ. , กองทุนเงินทดแทน และ
 กลุ่มลูกค้าในโครงการประกันสังคม ซึ่งมีผู้ขึ้นทะเบียนประกันตนกับโรงพยาบาล จำนวน 45,000-46,000 คน
(2) กลุ่มลูกค้าทั่วไปในเขตจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงในเขตภาคเหนือตอนบน
(3) กลุ่มลูกค้าชาวต่างประเทศและนักท่องเที่ยว  ส่วนใหญ่ประมาณร้อยละ 31.3  เป็นชาวญี่ปุ่น ร้อยละ 15.1  เป็นชาวอเมริกัน และ ร้อยละ 12.9  เป็นชาวอังกฤษ
(4) หน่วยงาน, บริษัท, โรงงานต่าง ๆ ในเขตจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง โดยโรงพยาบาลจะให้สิทธิประโยชน์กับหน่วยงานที่เปิดเครดิตการรักษาพยาบาลกับโรงพยาบาล     ประมาณ 63 ราย

[green-orange]

ตารางกำลังการให้บริการและปริมาณการให้บริการจริง โรงพยาบาลลานนา
ปี 2551 ปี 2550 ปี 2549 ปี 2548
กำลังการให้บริการเต็มที่
ผู้ป่วยใน (เตียง) 43,800 43,800 43,800 43,800
ผู้ป่วยนอก (คน) 346,750 273,750 256,200 219,000
ปริมาณการให้บริการจริง
ผู้ป่วยทั่วไป
ผู้ป่วยใน (เตียง) 25,742 21,326 21,460 19,737
ผู้ป่วยนอก (คน) 89,138 96,444 84,167 74,699
ผู้ป่วยประกันสังคม
ผู้ป่วยใน (เตียง) 14,281 12,441 13,767 10,769
ผู้ป่วยนอก (คน) 146,437 135,049 135,017 111,751
อัตราการใช้กำลังผลิต (%)
ผู้ป่วยใน (เตียง) 91.37% 77.09% 80.43% 69.65%
ผู้ป่วยนอก 67.94% 84.56% 85.55% 85.14%
อัตราการเพิ่มขึ้น (%)
ผู้ป่วยใน (เตียง) 18.53% (4.14%) 15.48% (2.25%)
ผู้ป่วยนอก 1.76% 5.62% 17.56% 11.83%

[green-orange]

โครงการในอนาคต (Future Plan)
บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน) (ลานนา)
ตามที่คณะกรรมการบริษัทฯ มีนโยบายที่จะจัดตั้งศูนย์รักษาโรคมะเร็งและศูนย์รักษาโรคสำหรับผู้สูงอายุ (Geriatric Center)  ทั้งนี้ เนื่องจากในเขตจังหวัดเชียงใหม่ยังไม่มีโรงพยาบาลใดที่ให้บริการรักษาโรคเฉพาะทางอย่างชัดเจน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยด้วยโรคหัวใจถือเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือ โรคมะเร็ง ซึ่งบริษัทพิจารณากำหนดและวางตำแหน่ง (Positioning) ของแต่ละโรงพยาบาลในกลุ่มให้มีความชัดเจนและเหมาะสม โดยที่โรงพยาบาลลานนาจะเน้นการให้บริการรักษาด้านมะเร็ง และศูนย์รักษาโรคสำหรับผู้สูงอายุ เนื่องจากผู้สูงอายุมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นและยังไม่มีโรงพยาบาลใดจัดตั้งศูนย์ดูแลรักษาโรคสำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ  บริษัทจึงมีแนวคิดในการจัดตั้งศูนย์ดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาและกำหนดแผนในการพัฒนาโครงการ
ศูนย์รักษาโรคมะเร็ง:    เป็นโครงการศูนย์รักษาโรคมะเร็งที่ครบวงจร โดยสามารถให้บริการตรวจวินิจฉัยโรค การรักษาด้วยวิธีผ่าตัด เคมีบำบัดและฉายแสง และเป็นโรงพยาบาลสำหรับรับ Refer รักษาเฉพาะทางโรคมะเร็ง
ศูนย์รักษาโรคสำหรับผู้สูงอายุ (Geriatric Center):  เป็นศูนย์สำหรับรักษาสุขภาพผู้สูงอายุ ทั้งด้านกายภาพและจิตใจ ฟื้นฟูสมรรถภาพ การแก้ไขผลกระทบทางสังคม และการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันรักษาโรค เช่น โรคความดันโลหิตสูง ปวดข้อ โรคหัวใจ เบาหวาน และโรคมะเร็ง เป็นต้น
บริษัท โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม จำกัด (โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม)
เนื่องด้วยอัตราผู้ป่วยที่เข้ารับบริการยังโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม เป็นกลุ่มโรคซับซ้อนและเรื้อรังจำนวนมากขึ้นทุกปี อีกทั้งการรับย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ในเขตจังหวัดภาคเหนือสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ป่วยเป็นชาวไทย 80% และชาวต่างประเทศ 20%  เพื่อให้การดูแลผู้ป่วยดังกล่าวมีประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการอย่างแท้จริง คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาลจึงได้มีการก่อตั้ง
ศูนย์หัวใจครบวงจร (Chiangmai Ram Cardiac Balloon Center):  เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกของภาคเหนือ ในปี 2546  โดยศูนย์ฯ มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์ CT 64 Slices, Cardiac Cath, Mobile CCU จำนวน 6 คัน  ซึ่งมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตเช่นเดียวกับห้อง CCU ในโรงพยาบาล และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการสวนหัวใจ และทีมพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ โดยมีผู้ป่วยเข้ารับบริการปีละกว่า 1,000 รายต่อปี
ศูนย์มะเร็ง (Onchology Center):  โดยมีแพทย์ประจำศูนย์ฯ จบจาก Mayo Clinic ประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง ซึ่งสามารถส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการกับทาง Mayo Clinic
ศูนย์ระบบทางเดินอาหาร (GI Center):  ก่อตั้งขึ้นในปี 2550 ซึ่งใช้เงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาท ในการจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยให้การตรวจวินิจฉัยมีความรวดเร็วและทันสมัยเทียบเท่ากับประเทศญี่ปุ่น โดยแพทย์ประจำศูนย์ฯ และหัวหน้าพยาบาลได้ไปศึกษาดูงานและฝึกปฏิบัติยังประเทศญี่ปุ่น
ศูนย์รักษาอัมพาตเฉียบพลัน (โดยไม่ต้องผ่าตัด):  ในปลายปี 2551 โรงพยาบาลเชียงใหม่ราม ได้นำเครื่องมือทางการแพทย์ที่ชื่อ Biplane DSA (การตรวจหลอดเลือดสมองด้วยการฉีดสารทึบรังสีผ่านทางสายสวนหลอดเลือด) ซึ่งใช้งบประมาณการลงทุนกว่า 100 ล้านบาท เป็นเครื่องแรกของภาคเหนือ

บริษัท  เทพปัญญาธุรกิจ จำกัด (โรงพยาบาลเทพปัญญา)
โรงพยาบาลเทพปัญญา  มีแผนการลงทุนจัดตั้งศูนย์กระดูกและข้อ (Orthoscopic Surgery) และศูนย์ผ่าตัดส่องกล้องช่องท้อง (Laparoscopic Surgery) ในโรงพยาบาลเทพปัญญา ซึ่งคาดว่าจะเปิดอย่างเต็มรูปแบบเพื่อพร้อมให้บริการปลายปี 2552  โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนในการจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติม  ประมาณ 5 ล้านบาท

[picklife]

พี่ส้มเขียวมาทัก วันนี่เลย-6%ครับ 555+

[picklife]

สงสัยครับ
1.ทำไมปี2550แล้วขาดทุนครับ?
2.ทำไมปี2551กำไรเยอะจังครับ?

[green-orange]

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยไตรมาสที่3(F45-3)
บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน)
สอบทาน
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2552 2551 2552 2551
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 55,436 11,346 103,459 55,578
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 1.38 0.28 2.57 1.52
งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
ปี 2552 2551 2552 2551
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 20,589 5,266 41,252 21,216
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.51 0.13 1.03 0.59
ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบ
การเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน
ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายแพทย์วรพันธ์ อุณจักร )
ตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

[green-orange]

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อยประจำปี(F45-3)
บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จำกัด (มหาชน)
ตรวจสอบ
(หน่วย : พันบาท)
สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
งบการเงินรวม
งวด 1 ปี
ปี 2552 2551
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 166,831 (8,412)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 4.15 (0.22)
งบการเงินเฉพาะกิจการ
งวด 1 ปี
ปี 2552 2551
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 51,808 30,910
กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 1.29 0.84
ประเภทของความเห็นของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน :
ไม่มีเงื่อนไขและไม่มีข้อสังเกต
หมายเหตุ : 1. โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุ
ประกอบงบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์
"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้
จัดส่งงบการเงินฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้น
ฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว"
ลงลายมือชื่อ _______________________
( นายแพทย์วรพันธ์ อุณจักร )
ตำแหน่ง ประธานกรรมการบริหาร
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

[reiter]

เชิง qulaity ดูดีนะคับ แต่ยังไม่ได้ดูงบละเอียด

เดี๋ยวทิ้งๆ พวกบุหรี่ไป หาอะไรเข้าไมได้จะกลับมาดูนะครับพี่ชาญ  :8)  :8)

[green-orange]

ค้นหาข่าวการเมืองกีฬาบันเทิงไลฟ์สไตล์วิทยาการเศรษฐกิจการศึกษาต่างประเทศภูมิภาคอื่นๆกิจกรรมGallery v People c การศึกษาการเกษตร April 1, 2010, 3:00pm แจกหน้ากากอนามัย 5แสนชิ้นป้องกันควันภาคเหนือ
สธ.แจกหน้ากากอนามัย 5 แสนชิ้นให้ประชาชนในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ เพื่อป้องกันตัวจากฝุ่นละอองควันไฟป่า ที่สถานการณ์มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ..

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. นางพรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ระหว่างตรวจเยี่ยมราชการที่ จ.เชียงราย ถึงสถานการณ์มลพิษในอากาศจากฝุ่นละอองควันไฟป่า ใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา แม่ฮ่องสอน ลำปาง แพร่ และน่าน ว่า เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ได้ให้กรมควบคุมโรคจัดส่งหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการสูดละอองควันไฟ จำนวน 500,000 ชิ้น ไปที่สำนักงานป้องกันควบคุมโรคเขต 10 จ.เชียงใหม่ เพื่อแจกจ่ายให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั้ง 8 แห่ง

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ สถานีอนามัยในพื้นที่ดังกล่าวทุกแห่ง เฝ้าระวังผู้เจ็บป่วย ให้ดูแลประชาชนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อาจเจ็บป่วยได้ง่าย ได้แก่ 1. กลุ่มเด็กเล็ก เนื่องจากระบบทางเดินหายใจยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่และยังดูแลตัวเองไม่เป็น 2. กลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นวัยที่อวัยวะในร่างกายเสื่อมสภาพ 3. กลุ่มที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจอยู่แล้ว เช่น เป็นโรคหอบหืด โรคถุงลมปอดโป่งพอง และ 4. ผู้ป่วยโรคหัวใจ ซึ่งหากสูดฝุ่นละอองเข้าไปอีก ก็อาจจะกระตุ้นให้อาการกำเริบรุนแรงขึ้นได้

นางพรรณสิริ กล่าวว่า ขอเตือนให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงดังกล่าว หากมองเห็นว่ามีฝุ่นละอองในอากาศมาก ควรอยู่ในบ้าน งดการออกกำลังกายกลางแจ้ง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรคาดหน้ากากอนามัย หากไม่มีแนะนำให้ใช้ผ้าฝ้ายหรือผ้าลินินพับซ้อนหลาย ๆ ทบ มาคาดปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันควันไฟ โดยอาจพรมน้ำที่ผ้าหมาดๆ เพื่อให้ผ้าซับกรองฝุ่นละอองต่างๆ ได้มากขึ้น หากมีอาการผิดปกติ เช่น หายใจหอบเหนื่อย เป็นไข้ ไอ เจ็บหน้าอก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที

ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กใน 8 จังหวัดภาคเหนือในปี 2550-2552 พบค่าฝุ่นละอองในช่วงเดือน ก.พ.จะเริ่มสูงเกินค่ามาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน และจะสูงสุดในช่วงเดือน มี.ค. ในปี 2553นี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ก.พ. ตรวจพบจุดที่เกินมาตรฐาน ที่ลำปาง ลำพูน 4 วัน เชียงราย 1 วัน

ส่วนในโรงพยาบาล พบผู้ป่วยบางโรคเพิ่มขึ้น โดยโรคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจนได้แก่ โรคภูมิแพ้ เฉลี่ยอัตราป่วยที่มาโรงพยาบาลในเดือน ก.พ. พบแสนละ 85 คนต่อสัปดาห์ สูงกว่าเดือน ม.ค. 8 เท่าตัว โรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ พบมาโรงพยาบาลแสนละ 300 คนต่อสัปดาห์.

ไทยรัฐออนไลน์
โดย ทีมข่าวการศึกษา
24 กุมภาพันธ์ 2553, 16:45 น.
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีรูปภาพที่เกี่ยวข้อง
ไม่มีข้อมูลบุคคลที่เกี่ยวข้อง
tags:
กระทรวงสาธารณสุข แจกหน้ากากอนามัย ไฟป่า ฝุ่นละออง ภาคเหนือ โรคทางเดินหายใจ Share |
   
http://www.thairath.co.th/content/edu/67050

[green-orange]

http://www.komchadluek.net/detail/20090 ... B8%87.html

วันที่ 2 มีนาคม 2552
ส่งต่อ  พิมพ์  ขนาดตัวอักษร   Reset

คมชัดลึก > ภูมิภาค-ประชาคมท้องถิ่น > ข่าวทั่วไป
"สุวิทย์" ชี้หมอกควันปกคลุมภาคเหนือสถานการณ์รุนแรง
Share  Share  


ภาพประกอบข่าววีดีโอประกอบข่าวคมชัดลึก :"สุวิทย์" ลงพื้นที่มอบนโยบายให้ผู้ว่าฯ 8 จังหวัดภาคเหนือ แก้ปัญหาหมอกควัน-ไฟป่า ชี้ลำปางหนักสุดค่าพีเอ็ม 10 สูงสุดในประเทศ สนง.ป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่ แจกหน้ากาก 2 แสนชิ้น สู้หมอกควัน ลำปางประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมไฟป่าหลังถูกเผาไหม้กว่า 120 ไร่ เชียงรายระดมกำลังฉีดน้ำสลายหมอกควัน

โฆษณาโดย Google
รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ
ด้วยสมูทอีครีม สั่งซื้อได้แล้ว สมูทอี ช็อปปิ้ง ส่งตรงถึงอังกฤษ
www.siamhealthgroup.com
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะ ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ตรวจสถานการณ์การเผาในที่โล่งพื้นที่ภาคเหนือ หลังจากนั้นได้มอบนโยบายแก้ปัญหาเผาในที่โล่งและมลพิษทางอากาศกับผู้ว่าราชการจังหวัดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ที่ห้องประชุมชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่
นายสุวิทย์ กล่าวว่า จากสภาพปัญหาเกิดขึ้นใน 5 จังหวัดภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง และ พะเยา โดยเฉพาะ จ.ลำปาง ค่าฝุ่นขนาดเล็ก (พีเอ็ม 10) สูงเกินมาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ไปมากกว่า 250 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร รุนแรงที่สุดในประเทศ ซึ่งได้รับรายงานเบื้องต้นเริ่มมีผลกระทบแล้ว แต่ปัญหาขณะนี้คือเรื่องการประสานงานและงบประมาณ กระทรวงได้ประสานกรมควบคุมมลพิษ กรมอุทยานฯ กรมป่าไม้ มารับทราบปัญหาแล้ว  หมอกควันที่เกิดขึ้นมีปัญหาในเมืองถึง 60% และพื้นี่ป่า 40% ในส่วนพื้นที่ป่าได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นในอุทยาน หากกำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอจะจ้างเพิ่มอีก 2,000คน เพื่อดูแลปัญหาในช่วง 1-2 เดือนนี้
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าฯ ก็เร่งดำเนินการอยู่ โดย จ.ลำปางได้ประกาศเป็นเขตควบคุม และขอความร่วมมือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประชาชน เอกชน โดยเฉพาะโรงงานอ้อย จะใช้มาตรการตรวจตราและจับกุม เบื้องต้นจะขอความร่วมมือก่อนหากไม่ให้ความร่วมมือก็จะใช้มาตรการตามกฎหมายต่อไป
แจกหน้ากากสู้หมอกควัน
พญ.เสาวนีย์ วิบุลสันติ รองผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า สภาพปัญหามลพิษทางอากาศที่พบว่ามีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 10 เกินค่ามาตรฐานในภาคเหนือติดต่อกันหลายวัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กรมควบคุมโรคจึงแจกจ่ายหน้ากากอนามัยไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ลำปาง และแม่ฮ่องสอน รวม 2 แสนชิ้น เพื่อใช้ในการป้องกันการสูดฝุ่นควันเข้าสู่ร่างกาย โดยให้สำนักงาน สาธารณสุขเป็นศูนย์กลางในการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ยังแจกจ่ายคู่มือการดูแลสุขภาพเบื้องต้นจากปัญหาฝุ่นละอองในอากาศและรณรงค์ลดการเผาป่าและเผาขยะเพื่อลดจำนวนฝุ่นละอองในอากาศให้น้อยลง แจกจ่ายไปยังพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอีก 5 หมื่นชุด พร้อมให้สถานพยาบาลทุกระดับติดตามเฝ้าระวังผู้ป่วยอาการทางโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะโรคหอบหืด โดยให้ยาและเวชภัณฑ์ที่มีอยู่ดูแลรักษาประชาชนอย่างเต็มที่  พร้อมทั้งให้รายงานสถานการณ์ผู้ป่วยไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกระยะ
ฝุ่นละอองลำพูนเกินมาตรฐาน
นายบวร กุลดิลก ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ จ.ลำพูน กล่าวว่า สถานการณ์ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (พีเอ็ม) ใน จ.ลำพูนเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่องเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ค่าพีเอ็ม 10 อยู่ที่ระดับ 127.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ระดับ 103 ซึ่งเกินกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในระดับ 100
ทั้งนี้จากการจัดเก็บสถิติของศูนย์หมอกควัน-ไฟป่าที่เปิดดำเนินการในเดือนมกราคมจนถึงขณะนี้พบว่า ได้รับแจ้งเหตุกว่า 51 ครั้ง พื้นที่ป่าเสียหายกว่า 1,300 ไร่ ซึ่งสถิติดังกล่าวใกล้เคียงกับปี 2551 ที่ได้รับแจ้งเหตุไฟไปไหม้ป่าจำนวน 58 ครั้ง สำหรับพื้นที่ได้รับแจ้งส่วนมากจะพบในบริเวณพื้นที่ อ.ลี้ อ.แม่ทา และ อ.ทุ่งหัวช้าง ส่วนสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ป่า ส่วนใหญ่เกิดจากการเผาของชาวบ้าน เพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร การเผาหญ้าริมทาง การเผาเพื่อหาของป่า รวมถึงการเผาในพื้นที่โล่ง ฯลฯ
ลำปางประกาศพื้นที่ควบคุมไฟป่า
นายสมศักดิ์ เขื่อนแก้ว ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำปาง กล่าวว่า หลังจากจังหวัดประสบปัญหาหมอกควันอย่างหนัก ล่าสุดจังหวัดได้ออกประกาศเขตพื้นที่ควบคุมไฟป่าแล้ว โดยจะส่งผลดีต่อการเข้าไปดูแลการจุดไฟเผาป่า รวมถึงยังสามารถจับกุมผู้ที่เข้าไปทำให้เกิดไฟป่ามาดำเนินคดีได้ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาได้ติดตามการเกิดไฟป่า ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 150 จุด มีพื้นที่ป่าที่ถูกไฟไหม้กว่า 120 ไร่ จากไฟป่าจึงส่งผลให้เกิดหมอกควันไฟสะสมปกคลุมเรื่อยมาและสูงขึ้นเรื่อยๆ
นายสุวิทย์ ขัติยวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 ลำปาง กล่าวว่า สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 2 ดูแลและติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันของ จ.ลำปาง จ.พะเยา จ.แพร่ และ จ.น่าน อย่างใกล้ชิด ล่าสุดพบว่าทุกจังหวัดมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กต่ำกว่า 10 ไมครอน สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานติดต่อกันมาเกิน 2 สัปดาห์แล้ว ถือว่าสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ จ.ลำปาง มีค่าฝุ่นละอองสูงสุดของประเทศติดต่อกันมานานกว่า 2 สัปดาห์
เร่งฉีดน้ำสลายหมอกควัน
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายไตรสิทธิ์ สินสมบูรณ์ทอง ผู้ว่าฯ เชียงราย ได้ประสานนายสมพงษ์ กูลวงศ์ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย นำรถดับเพลิงฉีดน้ำตามจุดต่างๆ ภายในเขตเทศบาลนครเชียงราย เพื่อสลายหมอกควันที่มีความหนาแน่นให้เบาบางลง
นายไตรสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันเริ่มส่งผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการขับขี่ยานพาหนะ ขณะนี้ทัศนวิสัยการมองเห็นขณะขับขี่ยานพาหนะต่ำกว่า 1,000 เมตร เบื้องต้นได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและเกษตรกร งดเผาวัชพืชต่างๆ เพื่อลดปริมาณหมอกควัน
ด้านนายสมพงษ์ กล่าวว่า หมอกควันที่ปกคลุมเชียงรายหนาแน่นมานานหลายวัน ส่งผลให้ประชาชนในเขตเทศบาลนครเชียงรายเริ่มป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจแล้วจำนวนมาก ซึ่งมีการเตรียมหน้ากากอนามัยจำนวนมากเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน นอกจากนี้จะเร่งจัดทีมแพทย์พยาบาลออกให้การดูแลสุขภาพของประชาชนต่อไป

[green-orange]

http://www.chiangraifocus.com/newsdetail.php?news=4046

ข่าวประชาสัมพันธ์  
กรมควบคุมมลพิษ แจ้งเตือนปัญหาหมอกควันภาคเหนือ  
ประกาศเมื่อ : 12 มีนาคม 2010 เวลา 11:35:53 เปิดอ่านทั้งหมด 206 ครั้ง
 
กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานผลจากการตรวจสภาพอากาศ  



กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานผลจากการตรวจสภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ หลายจังหวัดมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานส่งผลให้ดัชนีคุณภาพอากาศเกินมาตรฐาน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น

               จากการตรวจสอบคุณภาพอากาศโดยกรมควบคุมมลพิษ ในพื้นที่ภาคเหนือวันนี้(11 มีนาคม 2553) ตรวจพบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กเกินมาตรฐานในพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่

จังหวัดน่าน มีปริมาณ 130.9 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จังหวัดลำปาง มีปริมาณ 131.1 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จังหวัดลำพูน มีปริมาณ 157.4ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จังหวัดเชียงใหม่ มีปริมาณ 162.2 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จังหวัดพะเยา มีปริมาณ 192.3 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีปริมาณ 208.0 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

และสูงสุดที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีประมาณ 292.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร



ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ได้ โดยค่ามาตรฐานฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณที่เพิ่มขึ้นได้ส่งผลต่อดัชนีคุณภาพอากาศให้มีค่าสูงเกินมาตรฐานที่กำหนด ไม่ควรเกิน 100 ดังนั้นประชาชนควรงดการออกกำลังกายกลางแจ้ง และใช้ความระมัดระวังในการขับขี่ยานพาหนะเพิ่มมากขึ้น

กรมควบคุมมลพิษ จึงขอความร่วมมือประชาชน งดเผาขยะ และเศษวัสดุทางการเกษตร หากพบเห็นการเผาขยะ สามารถแจ้งที่สายด่วน อส.1362 หรือสายด่วน ปภ.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง และติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทาง www.pod.go.th

แหล่งข่าว คุณจุฬาพงษ์ หาญเจริญ

[green-orange]

http://www.oknation.net/blog/akom/2010/03/16/entry-1

วันอังคาร ที่ 16 มีนาคม 2553
เสนอประกาศพื้นที่ภัยพิบัติหมอกควันภาคเหนือ:วิกฤติกว่าทุกปีแล้ว
Posted by อาคม , ผู้อ่าน : 129 , 09:40:05 น.  
หมวด : ต่างจังหวัด Share  Share
พิมพ์หน้านี้





(วันนี้ผมเพิ่มสถิติวันนี้ 18-3-53 แม่ฮ่องสอนรุ่นแรงสุด ขึ้นหลัก 500 แล้ว)

สถานการณ์ที่ประเมินจากตัวเลขและการสัมผัสโดยตรงแล้ว ผมคิดว่าขณะนี้หลาย ๆ จังหวัด โดนหนักกว่าทุกปี โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน ที่มีควันไฟคลุมเต็มพื้นที่ เครื่องบินลงไม่ได้ แม้จะใช้มาตรการฉีดน้ำพ่นขึ้นท้องฟ้า หรือฝนหลวงก็ยังไม่สามารถทำได้  ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น





ในภาวะที่สถานการณ์การบริหารในวิกฤติ  จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศเป็นวาระของจังหวัดเชียงใหม่ ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยมีการตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่า มีศูนย์รับแจ้งเหตุการณ์เผาและมลพิษ ตลอด 24 ชั่วโมง การกำหนดพื้นที่เสี่ยงภัย การจัดระบบเฝ้าระวัง การอบรมอาสาสมัคร การเตรียมทีมกู้ภัยประจำตำบล แต่ก็เอาไม่อยู่


นายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวยอมรวมว่า จะเร่งแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เนื่องจากไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชนในการจุดไฟเผาป่า ซึ่งทางจังหวัดจะมีมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้สถานการณ์หมอกควันไฟป่าลดลงจากการเกรงกลัวกฏหมาย


ซึ่งผมคิดว่าตอนนี้จังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าจะประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติแล้วเพื่อให้เกิดการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและมีมาตรการที่ทันสถานการณ์ออกแคมเปญโดน ๆ เช่น ทุกชุมชนร่วมรดน้ำทุกบ้าน เพื่อลดฝุ่นควัน ฯลฯ เท่าที่คิดได้ตอนนี้ครับ


เรื่องเชื่อมโยง


ภาคเหนือสีหม่น...ประชาชนถูกรมควัน











 แสดงความคิดเห็น | ส่งเรื่องนี้ให้เพื่อน | แจ้งเตือนเรื่องไม่เหมาะสม

          อ่านความคิดเห็น

 ความคิดเห็นที่ 4
อาคม วันที่ : 19/03/2010 เวลา : 00.13 น.
http://www.oknation.net/blog/akom

 

เย็นวันที่18 มีนาคม 2553 ฝนตกเทลงมาหวังว่าพรุ่งนี้ฟ้าคงใสขึ้นครับ  
 ความคิดเห็นที่ 3
อาคม วันที่ : 17/03/2010 เวลา : 16.21 น.
http://www.oknation.net/blog/akom

 

มีข่าวเพิ่มเติมครับ
http://www.manager.co.th/Local/ViewNews ... 0000037471  
 ความคิดเห็นที่ 2
แม่สีไฟ วันที่ : 16/03/2010 เวลา : 21.33 น.
http://www.oknation.net/blog/ting

 

แม่สีไฟเจ็บคอ แสบจมูกแย่แล้วค่ะ

ปกติไม่ค่อยเป็นหวัดกับใคร
แต่ช่วงนี้คล้าย ๆ กับจะมีอาการต่อมทอลซินไม่ปกติ

เย็น ๆ ลองขับรถเลาะแถว ๆ หนองบัว (เขาเรียกงี้อ่ะค่ะ)

หืม!...ว่าในตัวเมืองฝุ่น ควันเยอะแล้ว เหนือหนอง/สระ
น้ำขนาดใหญ่ก็มัวหม่น ขับรถกินลมและกินฝุ่น แสบคอ
ไปเลยค่ะ

 
 ความคิดเห็นที่ 1
ปรัตยา วันที่ : 16/03/2010 เวลา : 09.53 น.
http://www.oknation.net/blog/chief-dan
บล็อคที่หวานแหววแต๋วจ๋าที่สุดในโอเคเนชั่นนะเธอ

 

วันนี้ต๋อนเจ้าควันหนามาก ปอเจ็บตาเจ็บฮูดัง

[green-orange]

http://breakingnews.nationchannel.com/r ... sid=439892

มลพิษหมอกควันภาคเหนือยังวิกฤต

26 มีค. 2553 13:40 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์มลพิษจากหมอกควันที่เกิดขึ้นในหลายจังหวัดทางภาคเหนือ ฝุ่นขนาดเล็ก (PM10) และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) ยังสูงเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลให้หมอกควันปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนกระทบกับทัศนวิสัยการมองเห็น ล่าสุดวันนี้ ( 26 มี.ค.) กรมควบคุมมลพิษรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศรายวัน ที่สถานีตรวจวัดคถุณภาพอากาศ โรงเรียนยุพราช จ.เชียงใหม่ ค่า PM 10 วัดได้ 197.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 134.0 สถานีตรวจวัดอากาศ ศูนย์ราชการจ.เชียงใหม่ PM10 วัดได้ 179.8 ไมโครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 126.0

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ สาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย PM10 วัดได้ 291.9 ไม่โครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 175 จ.แม่ฮ่องสอน PM10 วัดได้ 259.1 ไม่โครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 160.0 จ.ลำพูน PM10 วัดได้ 233.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 149.0 จ.ลำปาง PM10 วัดได้ 181.3 ไมโครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 127.0 จ.พะเยา PM 10 วัดได้ 220.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม. AQI วัดได้ 144.0

รศ.ดร.พงศ์เทพ วิวรรธนะเดช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการคุณภาพอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหามลพิษจากหมอกควันที่เกิดขึ้นปีนี้รุนแรงและหนักกว่าทุกปีที่ผ่านมา นอกจากการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบชัดเจนเพราะนักท่องเที่ยวที่ทราบข่าวไม่กล้าเดินทางมา ยังมีเรื่องสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่เริ่มเจ็บป่วยจากการสูดดมเอามลพิษจากหมอกควันเข้าไปสะสมในร่างกายเป็นเวลานานๆ

[nasesus]

พี่ชาญตั้งหัวข้อ cmr เฉยๆ mod น่าจะโยกไปตั้งห้องใหม่ในร้อยคนร้อยหุ้นง่ายกว่าครับ ตัวนี้ก็ยังไม่มีในร้อยคนร้อยหุ้นครับ

[green-orange]

http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/72155

เหนืออ่วมหมอกควัน อันตรายขั้นก่อมะเร็ง
การเมืองร้อนแรง...กลบข่าวหมอกควันอันตรายที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในพื้นที่หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน

วันที่ 19 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานสถานการณ์ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM 10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง...

มีค่าระหว่าง 56.4-433.7 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

คุณภาพอากาศโดยรวม...อยู่ในระดับปานกลางถึงอันตราย

ค่าเฉลี่ย  24  ชั่วโมงของ PM 10  ณ  เวลา  09.00 น. ในสถานีอุทยานการเรียนรู้ จ.พะเยา, สถานีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.แม่ฮ่องสอน, สถานีสนามกีฬา จ.ลำพูน, และจังหวัดเชียงราย (สถานี สนง.ทสจ. และสถานีสาธารณสุขแม่สาย)

สูงเกินเกณฑ์มาตรฐาน 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

ค่า AQI หรือ ดัชนีคุณภาพอากาศ...ระดับ 0-50 ถือว่า ดี ระดับ 51-100 ถือว่า ปานกลาง...ระดับ 101-200 มีผลกระทบต่อสุขภาพ...ระดับ 201-300 มีผลกระทบต่อสุขภาพมาก...และถ้ามากกว่า 300 ขึ้นไปถือว่าอยู่ในระดับอันตราย



จุดน่าห่วง...จ.เชียงราย สถานี สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อ.เมือง ค่า AQI อยู่ที่ 115...สาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย...อยู่ที่ 126

จ.แม่ฮ่องสอน สถานี สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อ.เมือง ดัชนีคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 315...จ.พะเยา สถานีอุทยานการเรียนรู้ อ.เมือง จ.พะเยา ดัชนีคุณภาพอากาศ อยู่ที่ 106

เพื่อลดระดับความรุนแรงสถานการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้น กรมควบคุมมลพิษ แนะว่า...หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินมาตรการ เพื่อลดแหล่งกำเนิดของฝุ่นละอองเร่งด่วน

อาทิ ล้างถนน ฉีดน้ำเพิ่มความชื้นในอากาศเพื่อลดฝุ่นในเขตเมือง ดูแลบำรุงรักษาเครื่องยนต์...รถยนต์ รวมถึงขอความร่วมมือจากประชาชนงดเผาขยะ เศษวัสดุการเกษตร กิ่งไม้ใบหญ้า

กระทรวงสาธารณสุขเสริมว่า ปัญหาจากการเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากหมอกควัน ตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 จนถึงวันที่ 6 มีนาคม 2553 ...รายงานใน 19 โรงพยาบาล ประกอบด้วยโรงพยาบาลจังหวัด-โรงพยาบาลชุมชน พื้นที่ 8 จังหวัด มีประชาชนเจ็บป่วยสูงขึ้นทุกโรค พบว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีรายงานรวม 96,040 ราย แต่อาการไม่รุนแรง

โรคที่มีอัตราป่วยสูงที่สุด...ผู้ป่วยโรคหัวใจทุกชนิด อัตราป่วยแสนละ 560 คน รองลงมา...โรคทางเดินหายใจทุกชนิด อัตราป่วย
แสนละ 501 คน

ระยะแรกนี้อาจจะมีผู้ป่วยจำนวนมากที่มีอาการเจ็บป่วยน้อย แต่ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เนื่องจากยังทนต่อผลกระทบได้ แต่หากเผชิญปัญหาหมอกควันนานวันขึ้น คาดว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารักษาตัวจะมีมากกว่านี้หลายเท่าตัว

ข้อควรรู้...ฝุ่นละอองจากควันไฟ มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน สามารถผ่านจมูกลงไปสู่ปอด หากสะสมมากอาจก่อมะเร็งปอดได้

วิธีการป้องกันการสูดฝุ่นเข้าจมูก ปอด อย่างง่ายๆ ประชาชนสามารถใช้หน้ากากอนามัยชนิดผ้า หรือผ้าเช็ดหน้าพรมน้ำหมาดๆปิดปาก จมูก ขณะออกนอกบ้าน ซึ่งจะช่วยกรองฝุ่นไม่ให้เข้าจมูกได้

โดยเฉพาะผู้ที่ต้องขับรถจักรยานยนต์ หากสวมหมวกกันน็อกชนิดที่มีกะบังกันลม และคาดหน้ากากอนามัยด้วย จะเป็นการดีมาก เพราะป้องกันการสูดควันเข้าปอด

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและพยากรณ์ทางการเกษตร "แม่โจ้โพล" สำรวจความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่วิกฤติ 990 คน... (อำเภอฮอด ร้อยละ 19.4 อำเภออมก๋อย ร้อยละ 20.2 อำเภอดอยเต่า ร้อยละ 20.8 อำเภอแม่แจ่ม ร้อยละ 22.2 และ อำเภอดอยสะเก็ด ร้อยละ 17.4) ระหว่างวันที่ 8-11 มี.ค. 53

ความคิดเห็นต่อพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาหมอกควัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.3 บอกว่า...มีผลกระทบ คือ ทำให้รู้สึกแสบตาและปัญหาระบบทางเดินหายใจ

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อำเภอดอยสะเก็ด ร้อยละ 82.6 รองลงมาคือ อำเภอแม่แจ่ม ร้อยละ 77.7 ต่อมาคือ อำเภออมก๋อย อำเภอดอยเต่า และอำเภอฮอด ร้อยละ 76.5, 70.4 และ 59.9 ตามลำดับ

และ...บอกว่าไม่กระทบ เพียงร้อยละ 26.7

ความเห็นต่อสาเหตุการเกิดปัญหาหมอกควัน ส่วนใหญ่บอกว่าเป็น การเผาเศษวัสดุในพื้นที่การเกษตร ร้อยละ 41.8 ได้แก่พื้นที่ อ.แม่แจ่ม อ.อมก๋อย อ.ดอยเต่า

รองลงมา...การเผาเพื่อหาของป่า ร้อยละ 23.0 คือพื้นที่ อ.ฮอด อ.ดอยสะเก็ด ต่อมาคือ...การเกิดไฟป่า ร้อยละ 17.6 ...การเผาขยะในครัวเรือน ร้อยละ 10.3...ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ร้อยละ 2.6 และ อื่นๆ ร้อยละ 4.7



ประเด็นข้อถามที่ว่า...ก่อนที่จะเกิดปัญหาหมอกควัน คิดจะเผาเศษวัสดุหรือสิ่งที่ทำให้เกิดควันไฟหรือไม่? ผลปรากฏมีผู้บอกว่า...คิดที่จะเผา ร้อยละ 42.3 ซึ่ง อ.อมก๋อย เป็นอำเภอที่มีผู้ที่คิดจะเผาในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้ที่ไม่คิดจะเผา

ส่วนผู้ที่ตอบว่า...ไม่คิดจะเผา คิดเป็นร้อยละ 57.7 ได้แก่ อ.ดอยสะเก็ด รองลงมาคือ อ.แม่แจ่ม ต่อมาคือ อ.ดอยเต่า และ อ.ฮอด

สอบถามต่อไปอีกว่า...จากผลกระทบหมอกควันในเชียงใหม่ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ท่านคิดว่าจะเลิกเผาหรือเปล่า? พบว่าผู้ตอบส่วนใหญ่บอกจะเลิกเผา คิดเป็นร้อยละ 83.8 เพราะมีเจ้าหน้าที่ของรัฐมารณรงค์ให้ความรู้และถือเป็นการช่วยลดมลพิษ

มีเพียงร้อยละ 16.2 ที่บอกว่า...ยังคงเผาต่อไป เพราะเป็นการกำจัดเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร และไม่รู้จะกำจัดด้วยวิธีใด จึงจำเป็นต้องเผา

ส่วนประเด็นข้อถามที่ว่า...ปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อการประกอบอาชีพหรือไม่...เกินกว่าครึ่ง (58.1%) บอก...ส่งผล

กระทบต่อสุขภาพร่างกาย เป็นอุปสรรคต่อการทำงาน และยังทำให้เกิดความแห้งแล้ง ดินไม่อุดมสมบูรณ์ ผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ

คำถามสุดท้าย...ปัญหาหมอกควันจะเป็นสาเหตุของการเกิดปัญหาภาวะโลกร้อนหรือไม่ มีผู้ตอบว่า...ส่งผล ร้อยละ 85.5

การเกิดไฟไหม้ทำให้ต้นไม้ถูกทำลายและมีปริมาณลดลง ทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนมากขึ้น และเป็นการเพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ

มีเพียงร้อยละ 0.8 เท่านั้น...ที่บอกว่าไม่ส่งผล ส่วนผู้ที่ตอบว่า...ไม่ทราบ มีสัดส่วนมากกว่า คิดเป็นร้อยละ 13.7

หมอกควัน...แม้ว่าจะเกิดตามฤดูกาล มากน้อยตามสภาพความแห้งแล้ง ปัจจัยเกื้อหนุน...กระนั้นก็ยังเป็นปัญหาสะสมปลายเหตุ ที่มีสาเหตุหลักมาจากป่าไม้ที่ลดน้อยลงไป



วันที่ 21 มีนาคม ของทุกปี...23 รัฐบาลภาคีสมาชิกขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) มีมติให้เป็น "วันป่าไม้โลก" ด้วยจิตสำนึกที่ว่า... "พิทักษ์ป่า เพื่อรักษาชีวิต"

ศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) บอกว่า ในปีนี้ได้มอบหมายให้สมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ เป็นเจ้าภาพหลักในการจัดงานและกิจกรรมวันป่าไม้โลก ณ ลานอเนกประสงค์ อุทยานสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์

ใครที่พลาดโอกาส...รับกล้าสักมงคลสายพันธุ์เสาชิงช้า หรือกล้าไม้อื่นๆ สามารถลงทะเบียนจองเพิ่มเติมโดยใช้เลขที่บัตรประชาชน 13 หลัก...ได้ที่เว็บไซต์ www.klasakmongkol.org หรือที่เว็บกรมป่าไม้ www.forest.go.th

ศักดิ์สิทธิ์ บอกว่า ในปี 2552 มีประชาชนลงทะเบียนจองแล้ว 20,000 กล้า...ส่วนปี 2553 มีโควตาอยู่ที่ 280,000 กล้า โดยจะสิ้นสุดโครงการในปี 2554 จำนวน 700,000 กล้า

"รวมทั้งสิ้น 1 ล้านต้น...เพื่อนำไปปลูกเฉลิมฉลองในวโรกาสที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554"

ป่าไม้เป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ป่ามีส่วนสำคัญที่ช่วยให้ฝนตกต้องตามฤดูกาลผ่านทางวัฏจักรของน้ำ

ที่ผ่านมามนุษย์ทำลายป่าไปแล้วมหาศาล ขณะที่การปลูกป่าทดแทนก็เติบโตไม่ทันใช้ ในที่สุดก็เกิดวิกฤตการณ์ทางธรรมชาติมากขึ้นเรื่อยๆ ฝนฟ้า...ไม่ตกต้องตามฤดูกาล อากาศร้อนจัด...มากขึ้นยาวนานขึ้น ขณะที่ฤดูหนาว...สั้นลง

ความผันแปรของธรรมชาติเหล่านี้ อาจกำลังส่งสัญญาณ...คอยเตือนคนไทยให้รู้ถึงวิกฤตการณ์ครั้งใหญ่ที่กำลังมาเยือน.

[green-orange]

LNH เตรียมเสนอผถห.อนุมัติซื้อที่ดิน 250 ลบ.ตั้งศูนย์มะเร็งที่เชียงใหม่
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 เมษายน 2551 10:51:24 น.

บมจ.เชียงใหม่ธุรกิจการแพทย์ (LNH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 4 เม.ย.มีมติให้เสนอขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เม.ย.นี้ เพื่อซื้อที่ดินจาก บริษัท กอเงิน เอสเตท จำกัด (มิใช่บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน) ในตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ รวม 7 โฉนด รวมเนื้อที่ประมาณ 11 ไร่  3 งาน 25 ตารางวา รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 250 ล้านบาท

ที่ดินผืนดังกล่าวจะเตรียมไว้สำหรับจัดทำโครงการศูนย์มะเร็งตามที่ผู้ถือหุ้นได้เคยอนุมัติโครงการไว้แล้ว โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากเงินเพิ่มทุน และส่วนที่เหลือจากผลการดำเนินงานของบริษัทฯและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ซึ่งคาดว่าจะมีการทำรายการในช่วงเดือนมิ.ย.51

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

http://www.ryt9.com/s/iq05/338411

[green-orange]

โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ รับผู้ประกันตนเพิ่มปี 2553
ข่าวทั่วไป ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 25 มกราคม 2553 15:54:40 น.


ดูรูปทั้งหมด
กรุงเทพฯ--25 ม.ค.--โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่
ข่าวดีสำหรับผู้ประกันตน 2553 ..โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ เป็นสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม และมีนโยบายรับผู้ประกันตนเพิ่มขึ้น เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้สิทธิประกันสังคมในการรักษาพยาบาล ทั้งในจังหวัดเชียงใหม่และลำพูน ท่านที่ประสงค์จะเลือกโรงพยาบาลลานนาเป็นสถานพยาบาลหลัก สามารถยื่นแบบขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ที่ ฝ่ายบุคคล ของสถานประกอบการ หรือยื่นสมัครโดยตรงที่งานประกันสังคม ตั้งแต่วันที่ ๔ มกราคม ๒๕๕๓ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๓

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. โทร. 053 999755-7 แผนกสื่อสารการตลาด


http://www.ryt9.com/s/prg/783631

[nasesus]

[nasesus]

อ้าวไหงตกตัวสุดฮิตไปได้ล่ะเรา TNH ราคาปัจจุบัน 7.20 บาท pe ใน settrade 8.52 กำไรต่อหุ้นสองไตรมาส 0.40 บาท p/bv 2.56

[chansaiw]

ผมทำงานที่นี่

[chansaiw]

ผมว่ายังมีหลายจุดทีี่สามารถค่าใช้จ่ายได้อีกเยอะเลย

ไม่มีใครมาถาม ผมเลยเฉยๆ

[chansaiw]

โทษครับพิมพ์ตก ลดค่าใช้จ่าย นะครับ

[green-orange]

ผมทำงานที่นี่

รบกวนสาธยายให้ฟังหน่อยครับผม

[Dekfaifah]

แวะมาอ่านข้อมูลคุณชาญ ครับ