สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 61
เมื่อยอมให้เกิด ก็ต้องยอมรับภาระที่จะเกิด
แน่นอนหน้าที่ทางสังคมเปลี่ยนไป เริ่มแรกมุมมอง ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ดูแลตัวเองแล้ว เมื่อเป็นที่ปรึกษาหรือที่เรียกว่า “กุนซือ” นั่นคือส่วนของการเป็นผู้นำ ย่อมแปลว่าดูแลคนจำนวนมาก คนจำนวนมากก็จะมีมากเรื่อง เมื่อมากเรื่องต้องวางกฎเกณฑ์ให้ดี ต้องมีการวางแผนการต่างๆ รวมถึงการศึก ทั้งเป็นฝ่ายรับ และรุก
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ กุนซือมือใหม่ที่เก๋าเกม(เก๋ดีแฮะ) เหล่าแม่ทัพก็ไม่นับถือเกรงกันว่าจะดีแต่ชื่อ เล่าปี่ ขณะนั้นเป็นก๊กที่ดูเล็กมากพึ่งพิงเล่าเปียวแถวเกงจิ๋ว โจโฉก็อยากปราบเล่าปี่ ดูค่อนข้างเป็นสภาวะคับขัน แต่ด้วยการวางแผนของขงเบ้ง ใช้น้อยชนะมากได้ จึงได้การยอมรับอย่างดี
และด้วยเหตุเกงจิ๋วเมืองที่เล่าเปียวครองนั้นเป็นเมืองชัยภูมิสำคัญ และถือเป็นเมืองใหญ่ ใครๆก็อยากยึดครอง แต่เล่าเปียวอายุมากใกล้สิ้นแล้ว เคยพูดกับเล่าปี่ว่าลูกๆเค้าไม่เก่ง ถ้าเค้าสิ้นให้เล่าปี่ครอง แต่เล่าปี่ปฏิเสธ ซึ่งก่อนหน้านั้นขงเบ้งได้บอกเล่าปี่ว่าถ้าเจอคำถามนี้ให้ตอบรับ แต่เมื่อเล่าปี่ปฏิเสธไปจึงบอกเล่าปี่ว่า “ทำไมไม่ตอบตกลง ถ้าเราไม่ยึดไว้ คนอื่นเค้าก็จะมายึด และตอนนั้นเรานั่นแหละที่จะลำบาก” เล่าปี่ตอบด้วยความเป็นคนจิตใจดีว่า เป็นเมืองของคนแซ่เดียวกัน ญาติกันจะมาแย่งยึดได้ยังไง เป็นอะไรที่ผมไม่รู้จะออกความเห็นยังไง แต่ผมเชื่อในความดี แต่การทำความดีก็ได้หลายรูปแบบนะ และในที่สุดโจโฉก็ได้เกงจิ๋ว รวมถึงทหาร เสบียงไปครอง
แต่ประโยคที่ว่า “ถ้าเราไม่ยึด คนอื่นเค้าก็จะมายึด” น่าสนใจนะครับ มันดูเหมือนอ้างอิงได้ในระบบทุนนิยม ระบบธุรกิจ
แน่นอนหน้าที่ทางสังคมเปลี่ยนไป เริ่มแรกมุมมอง ไม่ใช่แล้ว ไม่ใช่แค่ดูแลตัวเองแล้ว เมื่อเป็นที่ปรึกษาหรือที่เรียกว่า “กุนซือ” นั่นคือส่วนของการเป็นผู้นำ ย่อมแปลว่าดูแลคนจำนวนมาก คนจำนวนมากก็จะมีมากเรื่อง เมื่อมากเรื่องต้องวางกฎเกณฑ์ให้ดี ต้องมีการวางแผนการต่างๆ รวมถึงการศึก ทั้งเป็นฝ่ายรับ และรุก
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับ กุนซือมือใหม่ที่เก๋าเกม(เก๋ดีแฮะ) เหล่าแม่ทัพก็ไม่นับถือเกรงกันว่าจะดีแต่ชื่อ เล่าปี่ ขณะนั้นเป็นก๊กที่ดูเล็กมากพึ่งพิงเล่าเปียวแถวเกงจิ๋ว โจโฉก็อยากปราบเล่าปี่ ดูค่อนข้างเป็นสภาวะคับขัน แต่ด้วยการวางแผนของขงเบ้ง ใช้น้อยชนะมากได้ จึงได้การยอมรับอย่างดี
และด้วยเหตุเกงจิ๋วเมืองที่เล่าเปียวครองนั้นเป็นเมืองชัยภูมิสำคัญ และถือเป็นเมืองใหญ่ ใครๆก็อยากยึดครอง แต่เล่าเปียวอายุมากใกล้สิ้นแล้ว เคยพูดกับเล่าปี่ว่าลูกๆเค้าไม่เก่ง ถ้าเค้าสิ้นให้เล่าปี่ครอง แต่เล่าปี่ปฏิเสธ ซึ่งก่อนหน้านั้นขงเบ้งได้บอกเล่าปี่ว่าถ้าเจอคำถามนี้ให้ตอบรับ แต่เมื่อเล่าปี่ปฏิเสธไปจึงบอกเล่าปี่ว่า “ทำไมไม่ตอบตกลง ถ้าเราไม่ยึดไว้ คนอื่นเค้าก็จะมายึด และตอนนั้นเรานั่นแหละที่จะลำบาก” เล่าปี่ตอบด้วยความเป็นคนจิตใจดีว่า เป็นเมืองของคนแซ่เดียวกัน ญาติกันจะมาแย่งยึดได้ยังไง เป็นอะไรที่ผมไม่รู้จะออกความเห็นยังไง แต่ผมเชื่อในความดี แต่การทำความดีก็ได้หลายรูปแบบนะ และในที่สุดโจโฉก็ได้เกงจิ๋ว รวมถึงทหาร เสบียงไปครอง
แต่ประโยคที่ว่า “ถ้าเราไม่ยึด คนอื่นเค้าก็จะมายึด” น่าสนใจนะครับ มันดูเหมือนอ้างอิงได้ในระบบทุนนิยม ระบบธุรกิจ
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 62
หลังจากนั้น โจโฉ ต้องการปราบทั้งเล่าปี่ ยึดดินแดนของ ซุนกวน ผู้ครองดินแดนทางใต้ ดังนั้น ทั้งสองฝ่ายจึงร่วมมือกันต่อต้านโจโฉ โดยขงเบ้งได้เดินทางไปเข้าวางแผนช่วยเหลือกับฝ่ายซุนกวน
วันหนึ่งที่ปรึกษาฝ่ายซุนกวน ชื่อโลซก ได้เข้าไปคุยบนเรือกับขงเบ้ง ซึ่งขงเบ้งกำลังดูกระดานปฏิทินโบราณอยู่
โลซก “ท่านดูสบายใจจริงนะ”
ขงเบ้ง “ข้าดูกระดานอยู่ นานมาแล้วมีคนหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้) แบ่ง 1 ปี ออกเป็น 365 วัน แบ่งออกไปเป็นเดือน แบ่งออกเป็นฤดูกาล ทุกๆปีหมุนเวียนมาบรรจบ ถ้าศึกษาให้ลึกซึ้งจะรู้ว่าเวลาใด จะเป็นเช่นไร”
โลซก “แล้วท่านดูเพื่อการใด”
ขงเบ้ง “อันแม่ทัพนายกองมีกิจใดบ้าง”
โลซก “รบทัพ จับศึก รับบำเหน็จ”
ขงเบ้ง “นั่นก็ใช่ แต่ถ้าไม่รู้ชัดใน มรรควิธี ก็เป็นแค่แม่ทัพถ่อย(ไม่เก่ง) คือยึดแค่ฝ่ายใดมีทหารมาก ฝ่ายใดมีทหารน้อย อย่างเช่น ...(ชื่อแม่ทัพ...)”
โลซก “งั้นท่านพูดให้ข้าเข้าใจด้วยเถอะ”
ขงเบ้ง “แม่ทัพที่ดีมีการวางแผน ดูแลคนเคร่งครัด มีน้อยก็ชนะมากได้เช่น ... (ชื่อแม่ทัพ) แต่เท่านี้ก็ยังไม่ชัดในมรรควิธี”
โลซก “ แล้วต้องยังไงล่ะท่าน”
ขงเบ้ง “ อันพลัง มีทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ที่มองเห็น ก็ทหาร อาวุธ ม้าศึก ที่มองไม่เห็นก็ ดิน น้ำ ฟ้า ไฟ ภูเขา ทุกอย่างล้วนเป็นพลัง หากเข้าใจ ใช้ได้เข้าที่ จะมีพลังเปรียบคนนับล้าน”
หลังจากนั้น การศึกก็เกิด ฝ่ายซุนกวนสามารถปราบโจโฉได้ทางเรือ โดยใช้ ไฟ และ แรงลม ทั้งๆที่มีกำลังทหารน้อยกว่ามากๆ
และเล่าปี่ที่มีขงเบ้งช่วยวางแผนก็เริ่มตั้งหลักได้ ขยายดินแดน กลายเป็นก๊กใหญ่ก๊กหนึ่ง รวมถึงสามารถยึดเกงจิ๋ว จากโจโฉได้ (แต่ตอนหลังก็ถูกแย่งไปอีกโดย...)
ขงเบ้ง เปลี่ยนหน้าที่ทางสังคม
ขงเบ้งคนนี้ก็เป็นคนๆเดียวกัน กับ ตอนที่ขงเบ้งเป็นชาวบ้าน แต่สิ่งที่มอบให้สังคมกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนแรกหน้าที่ทางสังคมก็สามัญชน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ กินเอง มีเหลือก็ขายแลกเปลี่ยน สอนความรู้ให้ผู้อื่น มอบให้สังคม พอเป็นกุนซือ ไม่ต้องไปนั่งปลูกพืช ไม่ต้องนั่งเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องนั่งขายของ หรือจะให้กุนซือ มานั่งปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ดี 555 แต่หน้าที่ทางสังคม ก็จัดหาหาคน ใช้คน ให้ดูแล การเพาะปลูกของเมือง ปศุสัตว์ เพื่อเสบียงและการบริโภค ดูแลเรื่องภาษีที่จะได้รับ จัดการเพื่อสังคม
“ อันพลัง มีทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ที่มองเห็น ก็ทหาร อาวุธ ม้าศึก ที่มองไม่เห็นก็ ดิน น้ำ ฟ้า ไฟ ภูเขา ทุกอย่างล้วนเป็นพลัง หากเข้าใจ ใช้ได้เข้าที่ จะมีพลังเปรียบคนนับล้าน” ผมว่าประโยคนี้น่าสนใจมากนะครับ
ขออภัยถ้าเนื้อเรื่องเกิดผิดพลาดประการใดนะครับ
วันหนึ่งที่ปรึกษาฝ่ายซุนกวน ชื่อโลซก ได้เข้าไปคุยบนเรือกับขงเบ้ง ซึ่งขงเบ้งกำลังดูกระดานปฏิทินโบราณอยู่
โลซก “ท่านดูสบายใจจริงนะ”
ขงเบ้ง “ข้าดูกระดานอยู่ นานมาแล้วมีคนหนึ่ง(จำชื่อไม่ได้) แบ่ง 1 ปี ออกเป็น 365 วัน แบ่งออกไปเป็นเดือน แบ่งออกเป็นฤดูกาล ทุกๆปีหมุนเวียนมาบรรจบ ถ้าศึกษาให้ลึกซึ้งจะรู้ว่าเวลาใด จะเป็นเช่นไร”
โลซก “แล้วท่านดูเพื่อการใด”
ขงเบ้ง “อันแม่ทัพนายกองมีกิจใดบ้าง”
โลซก “รบทัพ จับศึก รับบำเหน็จ”
ขงเบ้ง “นั่นก็ใช่ แต่ถ้าไม่รู้ชัดใน มรรควิธี ก็เป็นแค่แม่ทัพถ่อย(ไม่เก่ง) คือยึดแค่ฝ่ายใดมีทหารมาก ฝ่ายใดมีทหารน้อย อย่างเช่น ...(ชื่อแม่ทัพ...)”
โลซก “งั้นท่านพูดให้ข้าเข้าใจด้วยเถอะ”
ขงเบ้ง “แม่ทัพที่ดีมีการวางแผน ดูแลคนเคร่งครัด มีน้อยก็ชนะมากได้เช่น ... (ชื่อแม่ทัพ) แต่เท่านี้ก็ยังไม่ชัดในมรรควิธี”
โลซก “ แล้วต้องยังไงล่ะท่าน”
ขงเบ้ง “ อันพลัง มีทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ที่มองเห็น ก็ทหาร อาวุธ ม้าศึก ที่มองไม่เห็นก็ ดิน น้ำ ฟ้า ไฟ ภูเขา ทุกอย่างล้วนเป็นพลัง หากเข้าใจ ใช้ได้เข้าที่ จะมีพลังเปรียบคนนับล้าน”
หลังจากนั้น การศึกก็เกิด ฝ่ายซุนกวนสามารถปราบโจโฉได้ทางเรือ โดยใช้ ไฟ และ แรงลม ทั้งๆที่มีกำลังทหารน้อยกว่ามากๆ
และเล่าปี่ที่มีขงเบ้งช่วยวางแผนก็เริ่มตั้งหลักได้ ขยายดินแดน กลายเป็นก๊กใหญ่ก๊กหนึ่ง รวมถึงสามารถยึดเกงจิ๋ว จากโจโฉได้ (แต่ตอนหลังก็ถูกแย่งไปอีกโดย...)
ขงเบ้ง เปลี่ยนหน้าที่ทางสังคม
ขงเบ้งคนนี้ก็เป็นคนๆเดียวกัน กับ ตอนที่ขงเบ้งเป็นชาวบ้าน แต่สิ่งที่มอบให้สังคมกลับแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ตอนแรกหน้าที่ทางสังคมก็สามัญชน ปลูกพืช เลี้ยงสัตว์ กินเอง มีเหลือก็ขายแลกเปลี่ยน สอนความรู้ให้ผู้อื่น มอบให้สังคม พอเป็นกุนซือ ไม่ต้องไปนั่งปลูกพืช ไม่ต้องนั่งเลี้ยงสัตว์ ไม่ต้องนั่งขายของ หรือจะให้กุนซือ มานั่งปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ดี 555 แต่หน้าที่ทางสังคม ก็จัดหาหาคน ใช้คน ให้ดูแล การเพาะปลูกของเมือง ปศุสัตว์ เพื่อเสบียงและการบริโภค ดูแลเรื่องภาษีที่จะได้รับ จัดการเพื่อสังคม
“ อันพลัง มีทั้งมองเห็นและมองไม่เห็น ที่มองเห็น ก็ทหาร อาวุธ ม้าศึก ที่มองไม่เห็นก็ ดิน น้ำ ฟ้า ไฟ ภูเขา ทุกอย่างล้วนเป็นพลัง หากเข้าใจ ใช้ได้เข้าที่ จะมีพลังเปรียบคนนับล้าน” ผมว่าประโยคนี้น่าสนใจมากนะครับ
ขออภัยถ้าเนื้อเรื่องเกิดผิดพลาดประการใดนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 63
การแข่งขันระดับโลก
คงจะเป็นที่รู้กันดีว่า โลกนี้นั้นดูเล็กลงด้วยการติดต่อสื่อสารไร้พรมแดน ระบบเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน เชื่อมกัน การโอนเงินข้ามไปมาดูเป็นเรื่องง่ายๆ และคงเคยได้ยินว่า บริษัทจากประเทศหนึ่ง ได้เข้าไปซื้อกิจการบริษัทอีกประเทศหนึ่ง และตามที่ผมเข้าใจ ระบบการเงินของทางอเมริกา หรือทางด้านยุโรปหลายๆประเภทนั้น ได้พัฒนาระบบการเงิน จนมีเทคนิคมากสูงกว่าประเทศของเรา และมีบุคลากรทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญลึกซึ้ง
และประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งซึ่งอยู่ในระบบทุนนิยม และ ก็เสรีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไม่แปลกเลยถ้าจะมีคนนำเงินไหลเข้ามาเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่ทั้งหมดนั้นล้วนต้องการผลตอบแทน ซื้อพันธบัตร เอาดอกเบี้ย ซื้อหุ้นเอาส่วนต่างราคา เอาปันผล แปลว่าเขาต้องการผลประโยชน์จากประเทศเรา แล้วอะไรล่ะที่จะไปปรับสมดุล หรือ ช่วยรักษาผลประโยชน์ของคนไทยเอาไว้
คงจะเป็นที่รู้กันดีว่า โลกนี้นั้นดูเล็กลงด้วยการติดต่อสื่อสารไร้พรมแดน ระบบเศรษฐกิจ ธุรกิจ การเงิน เชื่อมกัน การโอนเงินข้ามไปมาดูเป็นเรื่องง่ายๆ และคงเคยได้ยินว่า บริษัทจากประเทศหนึ่ง ได้เข้าไปซื้อกิจการบริษัทอีกประเทศหนึ่ง และตามที่ผมเข้าใจ ระบบการเงินของทางอเมริกา หรือทางด้านยุโรปหลายๆประเภทนั้น ได้พัฒนาระบบการเงิน จนมีเทคนิคมากสูงกว่าประเทศของเรา และมีบุคลากรทางการเงินที่มีความเชี่ยวชาญลึกซึ้ง
และประเทศไทยก็เป็นประเทศหนึ่งซึ่งอยู่ในระบบทุนนิยม และ ก็เสรีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไม่แปลกเลยถ้าจะมีคนนำเงินไหลเข้ามาเพื่อทำอะไรบางอย่าง แต่ทั้งหมดนั้นล้วนต้องการผลตอบแทน ซื้อพันธบัตร เอาดอกเบี้ย ซื้อหุ้นเอาส่วนต่างราคา เอาปันผล แปลว่าเขาต้องการผลประโยชน์จากประเทศเรา แล้วอะไรล่ะที่จะไปปรับสมดุล หรือ ช่วยรักษาผลประโยชน์ของคนไทยเอาไว้
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 64
งั้นขอวาดภาพต่อ สมมุติ นาย a เป็นคนต่างประเทศ อาศัยที่ต่างประเทศ นาย ก เป็นคนไทย อาศัยที่ประเทศไทย ซื้อหุ้น ไทย หุ้นละ 10 บาท 10 ล้านหุ้น รวมลงทุน 100 ล้านบาท ผ่านไป 1 ปี ราคาหุ้นไทย ขึ้นไป 20 บาท แล้วต้องการขาย จะได้เงินสด 200 ล้านบาท ถ้านาย a เป็นผู้ลงทุนชุดนี้ เมื่อขายได้เงินก็จะโอนกลับภูมิลำเนา เสียภาษีต่างๆ เงินก็จะถูกโอนกลับต่างประเทศทั้งหมด และเงินนั้นก็เข้าไปอยู่ในระบบของประเทศนาย a ไทยอาจจะได้ภาษีอยู่บ้างแต่แค่ทีเดียว สำหรับ นาย ก เป็นคนไทยเมื่อขายได้เงินก็ไปอยู่ในบัญชี 200 ล้านบาท ความมั่งคั่งของนาย ก เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเงินที่ยังคงอยู่ในประเทศนี้ แค่ได้ดอกเบี้ยก็ยังคงจ่ายภาษีให้รัฐไทยอยู่ดี หรืออาจจะไปลงทุนต่อได้อีก ดังนั้นเงินต้นรวมกำไรของนาย ก ดูจะเพิ่มความมั่งคั่งให้ประเทศไทย ดังนั้นถ้าเราเป็นคนไทย เราอยากจะเห็น นาย a หรือ นาย ก เป็นคนลงทุน แน่นอนต้องอยากให้นาย ก เป็นผู้ลงทุน เพราะประเทศไทยได้ประโยชน์
และนาย ก ก็คือ investor และถ้าไม่มีนาย ก มีเฉพาะ นาย a ประเทศไทยจะทำยังไง
ใช่ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรให้สังคมโดยตรง แต่บังเอิญกำลังต่อกร กับนาย a
และนาย ก ก็คือ investor และถ้าไม่มีนาย ก มีเฉพาะ นาย a ประเทศไทยจะทำยังไง
ใช่ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรให้สังคมโดยตรง แต่บังเอิญกำลังต่อกร กับนาย a
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 65
กลับไปดูนาย a สมมุติ นาย a คน usa อยู่ usa ไปลงทุนในจีน ตามที่เคยเห็นได้ยินในข่าว ซึ่งนาย a เป็น investor ที่มีฝีมือมากคนหนึ่ง ตัดสินใจไปลงทุนในหุ้นบริษัทน้ำมัน ในประเทศจีน 1000 ล้าน ดอลลาร์ ผ่านไป 1 ปี ราคาหุ้นขึ้นไป 2 เท่า นั่นแปลว่าการลงทุน มีมูลค่า 3000 ล้าน ดอลลาร์ ในขณะนี้ และได้ขายได้เงินสดมา นาย a ก็นำเงินกลับ usa นั่นแปลว่า ประเทศ usa มีความมั่งคั่ง เพิ่มขึ้น 2000 ล้านดอลลาร์ จากฝีมือ นาย a ซึ่งเมื่อเงินจำนวนนี้ทำเงินเมื่อไหร่ usa ก็ยังคงได้ภาษี และภาษีเข้าสู่สังคมอยู่ดี
ดูเหมือนความมั่งคั่งจะวิ่งเข้าสู่คนที่มีทุน (เงิน) และความรู้
และถ้านาย ก สามารถทำได้แบบ นาย a ล่ะ ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
ใช่ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรให้สังคมโดยตรง แต่นาย a ได้สร้างความมั่งคั่งให้ usa เพิ่ม 2000 ล้านดอลลาร์
ดูเหมือนความมั่งคั่งจะวิ่งเข้าสู่คนที่มีทุน (เงิน) และความรู้
และถ้านาย ก สามารถทำได้แบบ นาย a ล่ะ ประเทศไทย จะเป็นอย่างไร
ใช่ดูเหมือนไม่ได้ทำอะไรให้สังคมโดยตรง แต่นาย a ได้สร้างความมั่งคั่งให้ usa เพิ่ม 2000 ล้านดอลลาร์
-
- Verified User
- โพสต์: 164
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 66
เม่า งง มากเลยฮะ
โพสโดนลบ ที่หน้าแรก
ความเห็นที่คิดว่า ไม่ใช่ วีไอเท่านั้นที่ให้อะไรกับสังคม ???
การยกตัวอย่าง วีไอที่ให้อะไรกับสังคม ไม่ได้แปลว่า วีไอทั้งหมด หรือคนที่เป็นวีไอให้อะไรกับสังคม ฮะ
เม่ายังคิดไม่ออกว่าถ้า ตลาดมีแต่วีไอ จะเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็เดาๆ ว่าน่าจะ เกิดการย้อนกลับความคิดทำให้ เกิดสังคมนักเทคนิค เล็กๆแล้วขยายใหญ่ สลับกับวีไอ วนไปวนมา ไปเรื่อยๆ ก็เป็นได้ฮะ
โพสโดนลบ ที่หน้าแรก
ความเห็นที่คิดว่า ไม่ใช่ วีไอเท่านั้นที่ให้อะไรกับสังคม ???
การยกตัวอย่าง วีไอที่ให้อะไรกับสังคม ไม่ได้แปลว่า วีไอทั้งหมด หรือคนที่เป็นวีไอให้อะไรกับสังคม ฮะ
เม่ายังคิดไม่ออกว่าถ้า ตลาดมีแต่วีไอ จะเกิดอะไรขึ้น
แต่ก็เดาๆ ว่าน่าจะ เกิดการย้อนกลับความคิดทำให้ เกิดสังคมนักเทคนิค เล็กๆแล้วขยายใหญ่ สลับกับวีไอ วนไปวนมา ไปเรื่อยๆ ก็เป็นได้ฮะ
วันนึงผมจะเป็นแมงเม่าที่ยิ่งใหญ่ฮะ !!!
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 67
และรวมถึงการลงทุน ในรูปแบบระยะยาว แปลว่ารายได้ก็อยู่ในรูปปันผล ซึ่งได้ทุกปี ก็จะมีการเสียภาษี ซึ่งก็เข้าประเทศอยู่ดี ไม่ว่ามาจากการลงทุนภายในหรือภายนอกประเทศ อาจจะแตกต่างจากแบบข้างต้นที่ได้เงินจากส่วนต่างราคาก้อนเดียว
ถ้าสังคมอยู่ในประเทศ ประเทศมั่งคั่งขึ้น รายได้มากขึ้น สังคมจะไม่ได้ประโยชน์เหรอ
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เล่าว่า สมมุติมีที่ดินเปล่าผืนใหญ่ผืนหนึ่งว่างอยู่ แล้วมีคนมาลงทุนสร้างเป็นที่พักขนาดใหญ่ ด้วยการจ้างคน ก่อสร้าง อิฐหินปูนทรายต่างๆ การตกแต่ง เมื่อสร้างเสร็จ ก็มีคนเดินทางสัญจรไปมาทั้งพักผ่อน ท่องเที่ยว แล้วถามว่า ที่ดินรอบข้างมูลค่าจะเป็นอย่างไร ที่ดินรอบข้างไม่ต้องทำอะไรเลยแต่มูลค่ากลับสูงขึ้น การจ้างงาน เงินลงวัสดุก่อสร้างต่างๆ การตกแต่ง ที่ลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่จะสูญเปล่าเหรอ ไม่เลย มันไปเพิ่มค่าให้ที่ใกล้เคียงอีกด้วย
ถ้าสังคมอยู่ในประเทศ ประเทศมั่งคั่งขึ้น รายได้มากขึ้น สังคมจะไม่ได้ประโยชน์เหรอ
เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง เล่าว่า สมมุติมีที่ดินเปล่าผืนใหญ่ผืนหนึ่งว่างอยู่ แล้วมีคนมาลงทุนสร้างเป็นที่พักขนาดใหญ่ ด้วยการจ้างคน ก่อสร้าง อิฐหินปูนทรายต่างๆ การตกแต่ง เมื่อสร้างเสร็จ ก็มีคนเดินทางสัญจรไปมาทั้งพักผ่อน ท่องเที่ยว แล้วถามว่า ที่ดินรอบข้างมูลค่าจะเป็นอย่างไร ที่ดินรอบข้างไม่ต้องทำอะไรเลยแต่มูลค่ากลับสูงขึ้น การจ้างงาน เงินลงวัสดุก่อสร้างต่างๆ การตกแต่ง ที่ลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่จะสูญเปล่าเหรอ ไม่เลย มันไปเพิ่มค่าให้ที่ใกล้เคียงอีกด้วย
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 68
งั้นมาโฟกัสที่ไทย
“ถ้าเราไม่ยึดไว้ คนอื่นเค้าก็จะมายึด”
ถ้าเปรียบเป็นอาวุธ ต่างประเทศ ที่เข้ามา เขาจะใช้ ข้อมูล ความรู้ และทุน(เงิน) ดังนั้นถ้าเราจะป้องกันเราจะใช้อะไร 555 ใช้กฎหมายเหรอ มันก็ไม่เสรีนะสิ ถึงแม้บางทีต้องเอามาใช้เพื่อปกป้อง
ตามที่เห็นผมก็เห็นมีปรับสมดุลอยู่ ทั้งในด้านส่วนกองทุนรวม สถาบันการเงิน ประกัน ดูมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนนี้จะขึ้นชื่อบริหารจัดการโดยมืออาชีพและมีความรู้ และก็มีนักลงทุน อาจจะเรียกว่ากลุ่ม VI ที่มีความรู้ และ กำลังเรียนรู้ ซึ่งนั่นดูเหมือนความรู้ของกลุ่มนักลงทุนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Value Investment การลงทุนแบบเน้นคุณค่า นั่นแปลว่านักลงทุนกลุ่มนี้ ลงทุนโดยมองมูลค่าหุ้นให้ออก และเมื่อนักลงทุนกลุ่มนี้มองว่าหุ้นอะไรที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ก็ย่อมพร้อมจะนำเงินเข้าไปซื้อ นั่นแปลว่ากลุ่มนี้ก็จะเข้าไปยึดครองเป็นเจ้าของไว้ก่อน ดังนั้นประสิทธิภาพด้านราคาก็มีเหตุผลมากขึ้น และถ้าคนอื่นต่างชาติจะมายึด ถ้าไม่ได้ผลตอบแทนมากพอเค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจ หรือถ้าพยายามจริง ผลประโยชน์ก็จะตกถึงผู้ยึดครองก่อนซึ่งเป็นคนไทย และผมยังเชื่อว่า ถ้าทุกอย่างพร้อมสำหรับนักลงทุนไทยในการออกไปลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนกลุ่มนี้ที่กำลังพัฒนาความรู้อยู่จะพร้อมที่จะออกไปลงทุนในที่ต่างๆ และน่าจะนำความมั่งคั่งกลับสู่สังคมประเทศไทยได้อีกด้วย
ผมว่า นักลงทุนไทย VI ก็เหมือนพืชคลุมดิน(แต่ถ้าคนไทยเล่นหุ้นกันเองผลประโยชน์ก็อยู่กับคนไทย) ประเทศไทยเป็นผืนดิน ต่างชาติอยากได้ผลประโยชน์ อยากตักดินไปก็ยากหน่อยเพราะเราพืชคลุมดินไว้ไม่อยากให้ใครเอาไป 555 ไปซะนั่น
ถ้าถามว่าสังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ผมก็คงตอบว่า ผมเป็นนักลงทุนไงครับ
ถ้าคนปลูกผัก สังคมก็ได้ผัก
ถ้าคนสร้างบ้าน สังคมก็ได้บ้าน
ถ้าคนกวาดถนน สังคมก็ได้ถนนสะอาด
แต่ผมเป็นนักลงทุน หน้าที่ผมคือใช้เงินไปทำงาน นั่นแปลว่าผมไม่ได้ออกแรง ไม่มีงานที่ถูกมองเห็นได้ชัดนัก ดังนั้น ผมไม่ได้ออกแรง ก็ต้องแปลว่าตัวผมไม่ได้ทำอะไรให้สังคมแบบที่มองเห็นได้ แต่ผมใช้เงินไปทำงาน แปลว่าเงินของผมทำงานอยู่ในสังคม และถ้าอยากรู้ว่า เงินผมทำอะไรให้กับสังคม ก็ต้องไปถามเงินผมดู เงินของผมจะตอบว่า “ผมทำเต็มที่แล้ว” และถ้าเงินผมทำเต็มที่แล้วให้กับสังคม แปลว่าผมผู้เป็นเจ้าของก็ได้ทำเต็มที่แล้วเช่นกันผ่านเงินของผม
เต๋า เขาว่าแปลว่า หลัก หรือ วิธีการ หรือ ทางของมัน และทุกๆอย่างมีทางของมัน
ผู้ใดเห็นธรรม ก็จะมองเห็นทาง
“ถ้าเราไม่ยึดไว้ คนอื่นเค้าก็จะมายึด”
ถ้าเปรียบเป็นอาวุธ ต่างประเทศ ที่เข้ามา เขาจะใช้ ข้อมูล ความรู้ และทุน(เงิน) ดังนั้นถ้าเราจะป้องกันเราจะใช้อะไร 555 ใช้กฎหมายเหรอ มันก็ไม่เสรีนะสิ ถึงแม้บางทีต้องเอามาใช้เพื่อปกป้อง
ตามที่เห็นผมก็เห็นมีปรับสมดุลอยู่ ทั้งในด้านส่วนกองทุนรวม สถาบันการเงิน ประกัน ดูมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งส่วนนี้จะขึ้นชื่อบริหารจัดการโดยมืออาชีพและมีความรู้ และก็มีนักลงทุน อาจจะเรียกว่ากลุ่ม VI ที่มีความรู้ และ กำลังเรียนรู้ ซึ่งนั่นดูเหมือนความรู้ของกลุ่มนักลงทุนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
Value Investment การลงทุนแบบเน้นคุณค่า นั่นแปลว่านักลงทุนกลุ่มนี้ ลงทุนโดยมองมูลค่าหุ้นให้ออก และเมื่อนักลงทุนกลุ่มนี้มองว่าหุ้นอะไรที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ก็ย่อมพร้อมจะนำเงินเข้าไปซื้อ นั่นแปลว่ากลุ่มนี้ก็จะเข้าไปยึดครองเป็นเจ้าของไว้ก่อน ดังนั้นประสิทธิภาพด้านราคาก็มีเหตุผลมากขึ้น และถ้าคนอื่นต่างชาติจะมายึด ถ้าไม่ได้ผลตอบแทนมากพอเค้าก็อาจจะเปลี่ยนใจ หรือถ้าพยายามจริง ผลประโยชน์ก็จะตกถึงผู้ยึดครองก่อนซึ่งเป็นคนไทย และผมยังเชื่อว่า ถ้าทุกอย่างพร้อมสำหรับนักลงทุนไทยในการออกไปลงทุนต่างประเทศ นักลงทุนกลุ่มนี้ที่กำลังพัฒนาความรู้อยู่จะพร้อมที่จะออกไปลงทุนในที่ต่างๆ และน่าจะนำความมั่งคั่งกลับสู่สังคมประเทศไทยได้อีกด้วย
ผมว่า นักลงทุนไทย VI ก็เหมือนพืชคลุมดิน(แต่ถ้าคนไทยเล่นหุ้นกันเองผลประโยชน์ก็อยู่กับคนไทย) ประเทศไทยเป็นผืนดิน ต่างชาติอยากได้ผลประโยชน์ อยากตักดินไปก็ยากหน่อยเพราะเราพืชคลุมดินไว้ไม่อยากให้ใครเอาไป 555 ไปซะนั่น
ถ้าถามว่าสังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
ผมก็คงตอบว่า ผมเป็นนักลงทุนไงครับ
ถ้าคนปลูกผัก สังคมก็ได้ผัก
ถ้าคนสร้างบ้าน สังคมก็ได้บ้าน
ถ้าคนกวาดถนน สังคมก็ได้ถนนสะอาด
แต่ผมเป็นนักลงทุน หน้าที่ผมคือใช้เงินไปทำงาน นั่นแปลว่าผมไม่ได้ออกแรง ไม่มีงานที่ถูกมองเห็นได้ชัดนัก ดังนั้น ผมไม่ได้ออกแรง ก็ต้องแปลว่าตัวผมไม่ได้ทำอะไรให้สังคมแบบที่มองเห็นได้ แต่ผมใช้เงินไปทำงาน แปลว่าเงินของผมทำงานอยู่ในสังคม และถ้าอยากรู้ว่า เงินผมทำอะไรให้กับสังคม ก็ต้องไปถามเงินผมดู เงินของผมจะตอบว่า “ผมทำเต็มที่แล้ว” และถ้าเงินผมทำเต็มที่แล้วให้กับสังคม แปลว่าผมผู้เป็นเจ้าของก็ได้ทำเต็มที่แล้วเช่นกันผ่านเงินของผม
เต๋า เขาว่าแปลว่า หลัก หรือ วิธีการ หรือ ทางของมัน และทุกๆอย่างมีทางของมัน
ผู้ใดเห็นธรรม ก็จะมองเห็นทาง
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
Re:
โพสต์ที่ 70
บัดนี้กล่องแพนโดราได้ถูกเปิดออกแล้วสามัญชน เขียน:ที่ดาวแพนโดราซึ่งมีวิทยาการสูงมาก
เขาดูดข้อมูลจากตลาดหุ้นโลกเราได้แบบเรียลไทม์(เขาค้นพบวิธีอัพโหลดข้อมูลด้วยความเร็วที่สูงกว่าแสงมาก)
เขาก็เล่นหุ้นตัวเดียวกันกับเราเหมือนที่เราเล่นนี่แหละครับ ช่วงนี้มนุษย์ต่างดาวที่เล่น AJ กับ PTL กำลังรวยเละ. แต่เราไม่รู้ใช่ไหมครับ. ก็วิทยาการเรายังไม่ถึงขั้นนั้น
สติมา ปัญญาเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 26
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 71
ขอ quote คำพูดในหนังสือ Learn to Earn ของ Peter Lynch มานะครับ
เล่มนี้อ่ะครับ http://www.se-ed.com/eShop/Products/Det ... 6167061818
เล่มนี้อ่ะครับ http://www.se-ed.com/eShop/Products/Det ... 6167061818
ผมคิดว่าว่า บทแรกในหนังสือ เรื่อง ประวัติย่อทุนนิยม น่าจะตอบได้ตรงกับคำถามนี้เลยครับยิ่งลงทุนมากเท่าใดก็ยิ่งดีสำหรับคุณมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ยังดีสำหรับประเทศชาติของคุณด้วย เพราะว่าที่สุดแล้วเงินลงทุนของคุณจะช่วยสร้างธุรกิจและงานขึ้นใหม่
-
- Verified User
- โพสต์: 43
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 72
การมีนักลงทุนลงทุนแบบเน้นคุณค่า ทำให้กิจการที่เราลงทุนมีเงินไปพัฒนาและขยายกิจการให้เจริญเติบโต ทำให้มีกำไรที่ต้องเสียภาษีมากขึ้น เมื่อรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ก็สามารถนำเงินจากการจัดเก็บภาษีไปพัฒนาประเทศชาติ ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง (แต่ทั้งผู้บริหารบริษัทและผู้บริหารประเทศก็ต้องมีธรรมาภิบาลด้วยนะ)
การที่บริษัทมีเงินไปพัฒนาและขยายกิจการ ก็ย่อมทำให้มีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น คนตกงานก็น้อยลง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในสังคมก็จะดีขึ้น และเมื่อคนมีงานทำมากขึ้น รัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีก
ฉะนั้น แม้นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจริง ๆ จะไม่ได้ช่วยสังคมโดยตรง แต่ก็สามารถช่วยสังคมได้โดยทางอ้อม
การที่บริษัทมีเงินไปพัฒนาและขยายกิจการ ก็ย่อมทำให้มีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น คนตกงานก็น้อยลง ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในสังคมก็จะดีขึ้น และเมื่อคนมีงานทำมากขึ้น รัฐบาลก็สามารถเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นอีก
ฉะนั้น แม้นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าจริง ๆ จะไม่ได้ช่วยสังคมโดยตรง แต่ก็สามารถช่วยสังคมได้โดยทางอ้อม
-
- Verified User
- โพสต์: 2938
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 73
[/quote]VIB007 เขียน:ห้า คืนกำไรสู่สังคม
ในข้อนี้ นักลงทุนไทยหรือแม้แต่คนไทยทำกันน้อยมาก
นั่นคือบริจาคเงินเพื่อการกุศล
บัฟเฟตบริจาคเงินของเขา 99% เข้ามูลนิธิ
เพื่อความก้าวหน้าและความกินดีอยู่ดีของสังคมโลก
ในเมืองไทยยังหาคนทำยาอย่างนี้ยาก
ทั้งหมดน่าจะทำให้มองเห็นภาพมากขึ้นว่า
วีไอก็ทำประโยชน์ให้กับสังคมได้เหมือนกัน(นะ)
วีไอแถวนี้ ก็น่าจะทำกันเยอะนะครับ
ซื้อก่อน บอกทีหลัง ขายก่อนแล้วไม่บอกใคร
วีไอหลายๆ หรือกำลังจะเป็นกระแสแนวทางวีไอแบบใหม่
คือพยายามโน้มน้าวเหตุผลให้คนอื่นซื้อตาม
วอเรนต์ บัฟเฟต หลีกเลี่ยงภาษีอย่างโจ่งครื้ม โดยการถือหุ้นระยะยาว
ถ้าวอเรนต์ บัฟเฟต เอาหุ้นออกมาเล่นรอบบ้างไรบ้าง การเสียภาษีจากการเทรดก็จะมากขึ้น
ภาษีจากค่าคอมก็จะคืนสู่รัฐมากขึ้น ภาษีจากกำไรหุ้นก็ต้องจ่ายให้รัฐ
เออ อันนี้โจ๊กเฉยๆ แต่เรื่องทุกเรื่องมันก็มีสองด้านทั้งนั้นแหละ
เฝ้าดูไป โดยใจที่เป็นกลาง
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 75
ลองดู link นี้ดูนะครับ เกี่ยวกับโครงการ giving pledge ของ Buffett กับ Bill Gates เป็นรูปแบบใหม่ของการบริจาคตอบแทนสังคมทีเดียว
http://givingpledge.org/Content/media/G ... ge_FAQ.pdf
http://givingpledge.org/Content/media/G ... ge_FAQ.pdf
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 76
ผมมองว่าการบริจาคเงินเข้ากองทุนการกุศล
เป็นการคืนเงินให้กับสังคมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
และตรงตามจุดประสงค์ของผู้บริจาค
กว่าการเสียภาษีครับ
ไม่แปลกหรอกที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะลงทุนยาวๆเพื่อเสียภาษีน้อยๆ
เก็บเงินกำไรไว้บริจาคให้ กับมูลนิธิ เพื่อใช้จ่ายในสังคมตรงส่วนตัวเองต้องการ
การเสียภาษี พึ่งนักการเมืองนำเงินไปคืนสู่สังคม มันไม่ได้ดังใจเรา
และไม่ได้ครบจำนวนที่ให้ไปแน่ๆ
เป็นการคืนเงินให้กับสังคมได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย
และตรงตามจุดประสงค์ของผู้บริจาค
กว่าการเสียภาษีครับ
ไม่แปลกหรอกที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะลงทุนยาวๆเพื่อเสียภาษีน้อยๆ
เก็บเงินกำไรไว้บริจาคให้ กับมูลนิธิ เพื่อใช้จ่ายในสังคมตรงส่วนตัวเองต้องการ
การเสียภาษี พึ่งนักการเมืองนำเงินไปคืนสู่สังคม มันไม่ได้ดังใจเรา
และไม่ได้ครบจำนวนที่ให้ไปแน่ๆ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 77
อ่านแล้วงง VI เกี่ยวอะไรกับการทำให้กิจการได้รับเงินwhitesky เขียน:การมีนักลงทุนลงทุนแบบเน้นคุณค่า ทำให้กิจการได้รับเงินไปบริหารกิจการให้เจริญเติบโต ทำให้มีกำไรที่ต้องเสียภาษีมากขึ้น เมื่อรัฐบาลสามารถจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น ก็สามารถนำเงินจากการจัดเก็บภาษีไปพัฒนาประเทศชาติ ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรือง (แต่ผู้บริหารประเทศก็ต้องมีธรรมาภิบาลด้วยนะ)
หุ้นที่เทรดในตลาดรองหรือที่เรียกว่าตลาดหลักทรัพย์ บริษัทไม่ได้ประโยชน์จากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเท่าไรนะครับนอกจากจะเพิ่มทุนได้ราคาสูงขึ้น
สติมา ปัญญาเกิด
-
- Verified User
- โพสต์: 432
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สังคมได้อะไรจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า
โพสต์ที่ 78
แบบว่า
สมมุติ นาย x มีเงิน 1 ล้านบาท นำไปซื้อหุ้น z ในตลาดหุ้น ซึ่งคุณ a,b,c,d เป็นผู้ขาย คนละเท่าๆกัน(สมมุตินะ) ดังนั้น นาย x จะได้หุ้น z มามูลค่า 1ล้านบาท จาก a,b,c,d ซึ่งเป็นผู้ขาย และนาย a,b,c,d ก็ได้เงินจากนาย x ไปคนละ 250000 บาท และเงินที่ a,b,c,d ได้ไปนั้นคงไม่ได้นำไปเก็บไว้ที่บ้านเฉยๆ ดังนั้นเงินนี้ก็จะวิ่งไปทางอื่นต่อไปเรื่อยๆ
นาย a อาจจะนำเงินไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทหนึ่ง พอลงทุนได้ปันผลก็ได้เงินและก็เสียภาษี
นาย b อาจจะนำเงินไปซื้อหุ้น zz ในตลาดหุ้นจาก นาย e 250000 บาท นาย b ก็ได้หุ้น zz มา นาย e ก็ได้เงินไป 250000 บาท แล้วเงินก็จะวิ่งไปทางอื่นต่อไป
นาย c เอาเงินไปซื้อชุดโฮมเธียเตอร์ มูลค่า 250000 บาท ซึ่งเป็น สินค้าที่ผลิตโดยบริษัท z ที่นาย x ซื้อไป ดังนั้นก็เป็นรายของ บริษัท z 250000 บาท(สมมุติได้เต็มๆ) บริษัท z ก็นำไปจ่ายต้นทุนต่างๆ และก็แบ่งกำไร และปันผลไปอยู่ที่ นาย x ผู้เป็นเจ้าของหุ้น
นาย d นำเงินไปฝากธนาคารก่อน และก็ได้ดอกเบี้ย ธนาคารก็เอาเงินไปปล่อยกู้ บริษัท zz ก็ไปกู้เงินเพื่อมาทำธุรกิจ
คงไม่ค่อยจะมีใครที่ได้เงินมาไปวางไว้ที่บ้านเฉยๆเพราะจะไม่ได้ผลตอบแทน
ประมาณนี้อ่ะครับ
สมมุติ นาย x มีเงิน 1 ล้านบาท นำไปซื้อหุ้น z ในตลาดหุ้น ซึ่งคุณ a,b,c,d เป็นผู้ขาย คนละเท่าๆกัน(สมมุตินะ) ดังนั้น นาย x จะได้หุ้น z มามูลค่า 1ล้านบาท จาก a,b,c,d ซึ่งเป็นผู้ขาย และนาย a,b,c,d ก็ได้เงินจากนาย x ไปคนละ 250000 บาท และเงินที่ a,b,c,d ได้ไปนั้นคงไม่ได้นำไปเก็บไว้ที่บ้านเฉยๆ ดังนั้นเงินนี้ก็จะวิ่งไปทางอื่นต่อไปเรื่อยๆ
นาย a อาจจะนำเงินไปซื้อหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทหนึ่ง พอลงทุนได้ปันผลก็ได้เงินและก็เสียภาษี
นาย b อาจจะนำเงินไปซื้อหุ้น zz ในตลาดหุ้นจาก นาย e 250000 บาท นาย b ก็ได้หุ้น zz มา นาย e ก็ได้เงินไป 250000 บาท แล้วเงินก็จะวิ่งไปทางอื่นต่อไป
นาย c เอาเงินไปซื้อชุดโฮมเธียเตอร์ มูลค่า 250000 บาท ซึ่งเป็น สินค้าที่ผลิตโดยบริษัท z ที่นาย x ซื้อไป ดังนั้นก็เป็นรายของ บริษัท z 250000 บาท(สมมุติได้เต็มๆ) บริษัท z ก็นำไปจ่ายต้นทุนต่างๆ และก็แบ่งกำไร และปันผลไปอยู่ที่ นาย x ผู้เป็นเจ้าของหุ้น
นาย d นำเงินไปฝากธนาคารก่อน และก็ได้ดอกเบี้ย ธนาคารก็เอาเงินไปปล่อยกู้ บริษัท zz ก็ไปกู้เงินเพื่อมาทำธุรกิจ
คงไม่ค่อยจะมีใครที่ได้เงินมาไปวางไว้ที่บ้านเฉยๆเพราะจะไม่ได้ผลตอบแทน
ประมาณนี้อ่ะครับ