หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 2
ถ้าหุ้นสองตัวมี
Dividen/Price เท่ากัน
Dividen/EPS ต่ำกว่า ย่อมดีกว่า
เพราะแสดงว่า
บริษัทยังมีกำไร แบ่งไปเป็นกำไรสะสม เยอะกว่า
หรือถ้าจะปันผลเพิ่ม ก็ปันผลเพิ่มได้มากกว่า
แต่เรื่องว่า ค่าเหมาะสมตรงไหน บอกไม่ถูก
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
แอะ หรือถาม D/E หมายถึง Debt/Equity กันละนี้
ถ้าตัวนี้ ยิ่งน้อยยิ่งดี
แต่หนี้ก็ไม่ใช่ไม่ดีนะ ถ้าดอกเบี้ยถูกๆ แล้วมีความสามารถนำมาสร้างกำไรเยอะๆ
มากกว่าดอกเบี้ยหลายเท่าได้ ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าไม่มีปัญญาสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น แล้วมีหนี้เยอะหนี้พอกหนี้บาน แล้วตายลูกเดียว
Dividen/Price เท่ากัน
Dividen/EPS ต่ำกว่า ย่อมดีกว่า
เพราะแสดงว่า
บริษัทยังมีกำไร แบ่งไปเป็นกำไรสะสม เยอะกว่า
หรือถ้าจะปันผลเพิ่ม ก็ปันผลเพิ่มได้มากกว่า
แต่เรื่องว่า ค่าเหมาะสมตรงไหน บอกไม่ถูก
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
แอะ หรือถาม D/E หมายถึง Debt/Equity กันละนี้
ถ้าตัวนี้ ยิ่งน้อยยิ่งดี
แต่หนี้ก็ไม่ใช่ไม่ดีนะ ถ้าดอกเบี้ยถูกๆ แล้วมีความสามารถนำมาสร้างกำไรเยอะๆ
มากกว่าดอกเบี้ยหลายเท่าได้ ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าไม่มีปัญญาสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น แล้วมีหนี้เยอะหนี้พอกหนี้บาน แล้วตายลูกเดียว
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
-
- Verified User
- โพสต์: 483
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 3
ยิ่งน้อยยิ่งดีครับ ปกติก็ไม่ควรจะเกิน 1 เท่าน่ะครับ
ที่ดีควรจะไปดูว่าเป็นหนี้แบบไหน ระยะสั้นหรือยาว เจ้าหนี้เป็นใคร เจ้าหนี้จะบ้าจี้เรียกเงินคืนแล้วจะกระทบกับสภาพคล่องบ.มั้ย หรือเป็นแบบหุ้นกู้คือไม่ว่ายังก็ต้องรอตามสัญญา 5 ปีก็ต้อง 5 ปีอันนี้ไม่วิตกเท่าไร
ที่ดีควรจะไปดูว่าเป็นหนี้แบบไหน ระยะสั้นหรือยาว เจ้าหนี้เป็นใคร เจ้าหนี้จะบ้าจี้เรียกเงินคืนแล้วจะกระทบกับสภาพคล่องบ.มั้ย หรือเป็นแบบหุ้นกู้คือไม่ว่ายังก็ต้องรอตามสัญญา 5 ปีก็ต้อง 5 ปีอันนี้ไม่วิตกเท่าไร
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 4
ตามความเข้าใจของผม พี่พูดสลับกันใช่ไหมครับครรชิต ไพศาล เขียน:บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูงบางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ลงทุนเพื่อชีวิต
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 5
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
ประโยคนี้หมายถึง D = Diveden / E = EPS ไม่ได้หมายถึง D = Debt / E = Equity
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่ต้องการเอาเงินไปลงทุนเพิ่ม
D/E = 10/10 =100%
D/P = 5 % ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 200 บาท
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น เพราะต้องการเอาเงินกำไรสะสมไปลงทุนต่อ 5 บาท
เพื่อว่าปีต่อๆไป กำไรต่อหุ้นจะได้เพิ่มขึ้นอีก
D/E = 5/10 = 50%
D/P = 5% ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาท
ผมว่าผมพูดถูกนะ
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
ประโยคนี้หมายถึง D = Diveden / E = EPS ไม่ได้หมายถึง D = Debt / E = Equity
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่ต้องการเอาเงินไปลงทุนเพิ่ม
D/E = 10/10 =100%
D/P = 5 % ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 200 บาท
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น เพราะต้องการเอาเงินกำไรสะสมไปลงทุนต่อ 5 บาท
เพื่อว่าปีต่อๆไป กำไรต่อหุ้นจะได้เพิ่มขึ้นอีก
D/E = 5/10 = 50%
D/P = 5% ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาท
ผมว่าผมพูดถูกนะ
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ
ผมปล่อยไก่ไปเลยครับ :lol: ผมอ่านไม่ละเอียดเอง
ขอคำแนะนำเพิ่มเติมหน่อยครับ
ถ้าเป็นกรณี Debt per Equity จะเป็นเช่นไรครับ
ขอบคุณครับ
ผมปล่อยไก่ไปเลยครับ :lol: ผมอ่านไม่ละเอียดเอง
ขอคำแนะนำเพิ่มเติมหน่อยครับ
ถ้าเป็นกรณี Debt per Equity จะเป็นเช่นไรครับ
ขอบคุณครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 7
ผมว่า บริษัท มันก็เหมือน คนธรรมดา เราๆนี้แหละ
บริษัทที่ 1 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินหมดทั้ง 100
บริษัทที่ 2 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินเพียง 50 เก็บ 50
นานๆไปหลายๆปีเข้า ใครจะมีฐานะมั่นคงกว่ากัน
วันไหนเกิดป่วยไข้ขึ้นมาต้องใช้เงินค่ารักษา ใครต้องกู้หนี้ยืมสิน
แล้วเกิดวันหนึ่งเศรษฐกิจตกต่ำ หารายได้ได้น้อยลง จำเป็นต้องใช้เงินเยอะขี้นมา
บริษัทที่ 1 ต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาดำเนินการ สู้วิกฤติ ทำได้เท่าไรก็เอาไปจ่ายแต่ดอกเบี้ย แทบไม่เหลือ
บริษัทที่ 2 มีเงินเเก็บของตัวเอง ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ทำได้เท่าไรก็เป็นของผู้ถือหุ้น
ปันผลครึ่งหนึ่ง เก็บ เพื่อความมั่นคงครึ่งหนึ่ง
หนี้น้อย นะมันดี กว่าหนี้มาก อยู่แล้วละ ครับ ยิ่งไม่มีหนี้ยิ่งดีใหญ่
มีเงินเก็บมากๆ จะได้ใช้เงินของตัวเองลงทุน ดีกว่าจะต้องไปกู้เขามาลงทุน
บริษัทที่ 1 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินหมดทั้ง 100
บริษัทที่ 2 เหมือนคนที่ทำงานหาเงินได้มา 100 แล้วกินเพียง 50 เก็บ 50
นานๆไปหลายๆปีเข้า ใครจะมีฐานะมั่นคงกว่ากัน
วันไหนเกิดป่วยไข้ขึ้นมาต้องใช้เงินค่ารักษา ใครต้องกู้หนี้ยืมสิน
แล้วเกิดวันหนึ่งเศรษฐกิจตกต่ำ หารายได้ได้น้อยลง จำเป็นต้องใช้เงินเยอะขี้นมา
บริษัทที่ 1 ต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาดำเนินการ สู้วิกฤติ ทำได้เท่าไรก็เอาไปจ่ายแต่ดอกเบี้ย แทบไม่เหลือ
บริษัทที่ 2 มีเงินเเก็บของตัวเอง ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน ทำได้เท่าไรก็เป็นของผู้ถือหุ้น
ปันผลครึ่งหนึ่ง เก็บ เพื่อความมั่นคงครึ่งหนึ่ง
หนี้น้อย นะมันดี กว่าหนี้มาก อยู่แล้วละ ครับ ยิ่งไม่มีหนี้ยิ่งดีใหญ่
มีเงินเก็บมากๆ จะได้ใช้เงินของตัวเองลงทุน ดีกว่าจะต้องไปกู้เขามาลงทุน
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
- penguin738
- Verified User
- โพสต์: 718
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 8
สอบถามพี่ครรชิตหน่อยครับว่าราคาหุ้นที่ว่ามาจากสมการอะไรครับครรชิต ไพศาล เขียน:บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
เพราะต้องกันกำไรส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม เพื่อให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น
ประโยคนี้หมายถึง D = Diveden / E = EPS ไม่ได้หมายถึง D = Debt / E = Equity
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
บางบริษัทเขาไม่ลงทุนเพิ่มหรือเพิ่มก็น้อยมาก กำไรได้มาเท่าไรก็ปันผลแทบหมด D/E ก็สูง
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 10 บาทต่อหุ้น เพราะไม่ต้องการเอาเงินไปลงทุนเพิ่ม
D/E = 10/10 =100%
D/P = 5 % ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 200 บาท
บางบริษัทที่ธรรมชาติของธุรกิจ แล้วมันต้องลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หยุดเพิ่มไม่ได้ D/E ก็ต่ำ
ถ้า กำไรมา 10 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผล 5 บาทต่อหุ้น เพราะต้องการเอาเงินกำไรสะสมไปลงทุนต่อ 5 บาท
เพื่อว่าปีต่อๆไป กำไรต่อหุ้นจะได้เพิ่มขึ้นอีก
D/E = 5/10 = 50%
D/P = 5% ราคาหุ้นจะอยู่ที่ 100 บาท
ผมว่าผมพูดถูกนะ
ขอบคุณล่วงหน้าครับ
เมื่อไม่เรียนใยเล่าเจ้าจะรู้
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 9
โดยผมตั้งเงื่อนไขว่า ถ้ามีหุ้นสองตัว อัตราปันผลต่อราคาหุ้น เท่ากัน สมมุติ D/P = 5 %
แล้วเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ก็สมมุติว่ามันกำไร 10 บาทเท่ากัน
แล้วปันผลออกมาอย่างนี้ ราคามันก็เลยออกมาอย่างนั้น
แล้วเพื่อให้ดูง่ายขึ้น ก็สมมุติว่ามันกำไร 10 บาทเท่ากัน
แล้วปันผลออกมาอย่างนี้ ราคามันก็เลยออกมาอย่างนั้น
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
-
- Verified User
- โพสต์: 1372
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 10
D/E (Debt/Equity) สูงไม่ใช่ไม่ดีครับ อยู่ที่ว่าสูงเพราะอะไร
ถ้าเจ้าหนี้ที่สูงเป็นหนี้การค้า หนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ ดีไหม?
อย่ายึดติดแค่ D/E (Debt/Equity)
ดูภาพรวมของธุรกิจและบริษัทจะดีกว่าไหมครับ
ถ้าเจ้าหนี้ที่สูงเป็นหนี้การค้า หนี้ที่ไม่มีดอกเบี้ย หรือดอกเบี้ยต่ำ ดีไหม?
อย่ายึดติดแค่ D/E (Debt/Equity)
ดูภาพรวมของธุรกิจและบริษัทจะดีกว่าไหมครับ
สติมา ปัญญาเกิด
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 11
คุณ sattaya พูดถึง หนี้การค้า ขึ้นมา
ทำให้ผม นึกขึ้นได้ว่า ผมควรเพิ่ม ฟังค์ชั่นใน ชีต PRIC&PE ของผม
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
ทำให้ผม นึกขึ้นได้ว่า ผมควรเพิ่ม ฟังค์ชั่นใน ชีต PRIC&PE ของผม
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
- ครรชิต ไพศาล
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4637
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 12
เสร็จแล้ว แจก EPS16YEAR มีฟังค์ชั่นนี้ เพิ่มไปดูเล่นได้เลย
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
ให้ผู้ใช้สามารถเลือกดู หนี้/ผู้ถือหุ้น ได้ 6 แบบ
1. หนี้เงินกู้1ปี/ผู้ถือหุ้น
2. หนี้การค้า/ผู้ถือหุ้น
3. หนี้หนุมอื่น/ผู้ถือหุ้น
4. หนี้หมุนรวม/ผู้ถือหุ้น
5. หนี้เงินกู้รวม/ผู้ถือหุ้น
6. หนี้สินรวม/ผู้ถือหุ้น
คงจะดี นะ ทำให้เรารู้ว่า หนี้ที่มากที่สุด มาจากอะไรกันแน่
ความสุขอื่น ยิ่งกว่าความสงบใจไม่มี นตฺถิ สนฺติ ปรํ สุขํ
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
หัดเล่น Facebook กะเขาบ้างแล้วนะครับ ใช้ชื่อ Kanchit Paisan ครับ
Facebook เพจ Eps16year Settrade Set ตลาดหลักทรัพย์ งบดุล ปันผล อัตราส่วนการเงิน กราฟ
Google เพจ kanchitpaisan
Google+ KANCHIT PAISAN
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 13
เป็นความคิดที่ดีครับ
แล้วรู้สึกดีใจมากที่ทุกท่านมาแบ่งปันความรู้กันครับ
แล้วรู้สึกดีใจมากที่ทุกท่านมาแบ่งปันความรู้กันครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- Verified User
- โพสต์: 1230
- ผู้ติดตาม: 0
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 15
d/e ratio = debt to equity ratio นั้น ระบุเจาะจงจำเพาะไม่ได้ว่าที่เหมาะสม สมควรเป็นเท่าไร
d/e บอกแต่ความเสี่ยง คือ d/e สูงมีความเสี่ยงสูงกว่า d/e ต่ำ เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันมักมีโครงสร้าง d/e ที่คล้ายกัน ซึ่งแต่ละอุต ฯอาจแตกต่างกันได้อย่างมาก เช่นสถาบันการเงินมักมี d/e สูง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคาร)
และก็บอกไม่ได้ด้วยว่า d/e สมควร สูง หรือ ต่ำดี เพราะหากนำเงินจากการสร้างหนี้ ไปทำประโยชน์ได้มากกว่าดอกเบี้ยจ่ายแล้ว ย่อมส่งผลทำให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมากกว่าการไม่ได้สร้างหนี้ขึ้น
ในเรื่องการพิจารณาความเสี่ยง เราก็ไม่สมควรดู d/e อย่างเดียว เราต้องดูในรายละเอียดของประเภทหนี้สิน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับส่วนของทรัพย์สินด้วย
แม้เราระบุเจาะจงไม่ได้ d/e เหมาะสมควรเป็นเท่าไร แต่ผู้บริหารองค์กร จะรู้ดีกว่า และมักจะกำหนดความเสี่ยง คือ d/e ที่เหมาะสมว่าสมควรไม่เกินเท่าไร แต่ก็จะไม่ยึดเป็นกฎเหล็ก เพราะบ่อยครั้งก็อนุโลมให้เกินได้เป็นการชั่วคราวเมื่อเห็นโอกาส
d/e บอกแต่ความเสี่ยง คือ d/e สูงมีความเสี่ยงสูงกว่า d/e ต่ำ เท่านั้น
อย่างไรก็ดี ธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกันมักมีโครงสร้าง d/e ที่คล้ายกัน ซึ่งแต่ละอุต ฯอาจแตกต่างกันได้อย่างมาก เช่นสถาบันการเงินมักมี d/e สูง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคาร)
และก็บอกไม่ได้ด้วยว่า d/e สมควร สูง หรือ ต่ำดี เพราะหากนำเงินจากการสร้างหนี้ ไปทำประโยชน์ได้มากกว่าดอกเบี้ยจ่ายแล้ว ย่อมส่งผลทำให้ผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นมากกว่าการไม่ได้สร้างหนี้ขึ้น
ในเรื่องการพิจารณาความเสี่ยง เราก็ไม่สมควรดู d/e อย่างเดียว เราต้องดูในรายละเอียดของประเภทหนี้สิน เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับส่วนของทรัพย์สินด้วย
แม้เราระบุเจาะจงไม่ได้ d/e เหมาะสมควรเป็นเท่าไร แต่ผู้บริหารองค์กร จะรู้ดีกว่า และมักจะกำหนดความเสี่ยง คือ d/e ที่เหมาะสมว่าสมควรไม่เกินเท่าไร แต่ก็จะไม่ยึดเป็นกฎเหล็ก เพราะบ่อยครั้งก็อนุโลมให้เกินได้เป็นการชั่วคราวเมื่อเห็นโอกาส
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
Re: หุ้นที่น่าสนใจ D/E ควรอยู่ประมาณเท่าไหร่หรอครับ
โพสต์ที่ 17
การบอกจุดที่พอดีของ D/E บางครั้งมันก็ลำบากเหมือนกัน การที่ดี D/E สูง บอกถึงว่าบริษัทใช้ leverage ในการเติบโต ซึ่งต้องแลกกับ
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆบริษัทมีแนวโน้มจะใช้เงินกู้เพิ่มขึ้น แต่ในช่วงอนาคตที่มองว่าไม่แน่นอน บริษัทอาจจะลดความ
เสี่ยงจากเงินกู้ แต่อย่างที่หลายคนพูดมาข้างต้น เราควรจะดูอัตราส่วนอื่น ๆประกอบด้วย รวมถึงลักษณะอุตสาหกรรมด้วย อย่างพวกค้าปลีก
หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้าไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้นเราควรดูอัตราส่วน Interest Bared Ratio (หนี้ที่มีดอกเบี้ย/ ทุน) ประกอบด้วย
ผมคิดว่าการจะใช้เงินกู้มากหรือน้อย บริษัทควรประเมินความแน่นอนของกระแสเงินสดในอนาคต บริษัทที่กระแสเงินสดในอนาคตไม่แน่ไม่
นอนอย่างพวกรับเหมา ประมูล อสังหา เป็นต้น ถ้ากู้เยอะ ๆอย่างนี้น่ากลัวครับ แต่อย่างพวกที่ต้องใช้เงินทุนสูง เช่นพวกโรงไฟฟ้า แต่มี
ความแน่นนอนของกระแสเงินสดกว่า ความเสี่ยงก็ไม่สูงเท่าถึงแม้ว่าจะมี D/E เท่า ๆกัน ผมเชื่อว่าหลักการเศรษฐกิจพอเพียงนำมาใช้ได้
ครับสำหรับกรณีนี้
ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ในช่วงเศรษฐกิจดี ๆบริษัทมีแนวโน้มจะใช้เงินกู้เพิ่มขึ้น แต่ในช่วงอนาคตที่มองว่าไม่แน่นอน บริษัทอาจจะลดความ
เสี่ยงจากเงินกู้ แต่อย่างที่หลายคนพูดมาข้างต้น เราควรจะดูอัตราส่วนอื่น ๆประกอบด้วย รวมถึงลักษณะอุตสาหกรรมด้วย อย่างพวกค้าปลีก
หนี้ส่วนใหญ่เป็นหนี้การค้าไม่มีดอกเบี้ย ดังนั้นเราควรดูอัตราส่วน Interest Bared Ratio (หนี้ที่มีดอกเบี้ย/ ทุน) ประกอบด้วย
ผมคิดว่าการจะใช้เงินกู้มากหรือน้อย บริษัทควรประเมินความแน่นอนของกระแสเงินสดในอนาคต บริษัทที่กระแสเงินสดในอนาคตไม่แน่ไม่
นอนอย่างพวกรับเหมา ประมูล อสังหา เป็นต้น ถ้ากู้เยอะ ๆอย่างนี้น่ากลัวครับ แต่อย่างพวกที่ต้องใช้เงินทุนสูง เช่นพวกโรงไฟฟ้า แต่มี
ความแน่นนอนของกระแสเงินสดกว่า ความเสี่ยงก็ไม่สูงเท่าถึงแม้ว่าจะมี D/E เท่า ๆกัน ผมเชื่อว่าหลักการเศรษฐกิจพอเพียงนำมาใช้ได้
ครับสำหรับกรณีนี้
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....