เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 1
ผมมีหุ้น SCC กับ PTT อยู่บ้าง และกำลังคิดจะซื้อเพิ่ม แต่เห็นหลายคนว่า เวลานี้น่าจะใกล้จุดสูงสุดของปิโตรเคมีขาขึ้นแล้ว ซึ่งเท่าที่ติดตามกำไรของ SCC กับ PTT กว่าครึ่งมาจากปิโตรเคมี หากดูคร่าวๆ P/E ของทั้ง SCC และ PTT เพียงแค่ 8x ทุกท่านเห็นว่าที่ราคานี้หุ้นทั้งสองตัวน่าลงทุนหรือไม่ครับ
ในส่วนเรื่องราคาปิโตรเคมี หลายบทวิเคราะห์กล่าวว่า จะมีทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงอย่างในปัจจุบัน ผลประกอบการของกลุ่มปิโตรฯ ก็น่าจะยังดีอยู่ (เราสังเกตจากราคาน้ำมันได้รึไม่ว่าวัฐจักรปิโตรฯใกล้สิ้นสุดรึยัง) และการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ เรียนถามผู้รู้
ที่ลงทุนในหุ้น SCC เนื่องจากผมเคยทำงานอยู่ในนั้น และมั่นใจในบรรษัทภิบาลของบริษัทฯมาก รวมถึงความแข็งแกร่งในส่วนของวัสดุก่อสร้าง เป็นผู้นำในเกือบทุกสินค้า ทั้งซิเมนต์ กระเบื้องใยหิน เซรามิค สุขภัณฑ์ คอนกรีตผสมเสร็จ รวมถึงช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ Cementhai Homemart
ในส่วนของ PTT ชอบเพราะ บริษัทเป็นผู้นำในด้านค้าน้ำมัน และแถบจะผูกขาดด้านก๊าซธรรมชาติ รวมถึงเส้นทางส่งก๊าซ และมีแผนงานลงทุน เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก น่าจะทำให้มีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ
ชอบทั้งสองบริษัท แต่ติดที่เรื่อง Cycle ของปิโตรนี่แหล่ะครับ จึงยังลังเลที่จะลงทุนเพิ่ม และไม่ค่อยเห็นเว็บนี้วิจารณ์ 2 บริษัทนี้ อาจเป็นเพราะทั้งสอง เป็นหุ้น วัฐจักร ไม่ใช่หุ้น value แท้
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าครับ ได้ข้อมูลดีๆจากเว็บนี้มากมาย ประเมินค่าไม่ได้เลยครับ
ในส่วนเรื่องราคาปิโตรเคมี หลายบทวิเคราะห์กล่าวว่า จะมีทิศทางเดียวกับราคาน้ำมัน หากราคาน้ำมันยังทรงตัวในระดับสูงอย่างในปัจจุบัน ผลประกอบการของกลุ่มปิโตรฯ ก็น่าจะยังดีอยู่ (เราสังเกตจากราคาน้ำมันได้รึไม่ว่าวัฐจักรปิโตรฯใกล้สิ้นสุดรึยัง) และการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้น่าจะให้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ ผมเข้าใจถูกต้องมั้ยครับ เรียนถามผู้รู้
ที่ลงทุนในหุ้น SCC เนื่องจากผมเคยทำงานอยู่ในนั้น และมั่นใจในบรรษัทภิบาลของบริษัทฯมาก รวมถึงความแข็งแกร่งในส่วนของวัสดุก่อสร้าง เป็นผู้นำในเกือบทุกสินค้า ทั้งซิเมนต์ กระเบื้องใยหิน เซรามิค สุขภัณฑ์ คอนกรีตผสมเสร็จ รวมถึงช่องทางการจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ Cementhai Homemart
ในส่วนของ PTT ชอบเพราะ บริษัทเป็นผู้นำในด้านค้าน้ำมัน และแถบจะผูกขาดด้านก๊าซธรรมชาติ รวมถึงเส้นทางส่งก๊าซ และมีแผนงานลงทุน เกี่ยวกับก๊าซธรรมชาติจำนวนมาก น่าจะทำให้มีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ
ชอบทั้งสองบริษัท แต่ติดที่เรื่อง Cycle ของปิโตรนี่แหล่ะครับ จึงยังลังเลที่จะลงทุนเพิ่ม และไม่ค่อยเห็นเว็บนี้วิจารณ์ 2 บริษัทนี้ อาจเป็นเพราะทั้งสอง เป็นหุ้น วัฐจักร ไม่ใช่หุ้น value แท้
ขอบคุณทุกความเห็นล่วงหน้าครับ ได้ข้อมูลดีๆจากเว็บนี้มากมาย ประเมินค่าไม่ได้เลยครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 3
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 4
สายปิโตรของ PTT เป็นสายแก็สธรรมชาติและคอนเดนเสท ซึ่งสามารถจัดหาได้ในอ่าวไทย ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบต่ำ ประเด็นนี้เป็นความได้เปรียบของ PTT อย่างแท้จริง เพราะวัตถุดิบเป็นต้นทุนส่วนใหญ่ของปิโตรเคมี
ส่วน SCC เป็นสายแนฟทาซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้จากน้ำมันดิบ ซึ่งต้องจัดหาจากต่างประเทศหลายส่วน ทำให้ต้นทุนค่อนข้างสูง แต่ SCC มีจุดเด่นที่เกิดจากประหยัดจากขนาด (เน้นสร้างโรงงานกำลังการผลิตมาก) การที่เป็นเอกชน ไม่เหมือน PTT ที่เหมือนเสือนอนกิน ทำให้มีความกระตือรือล้นมากกว่า นอกจากนั้นยังมีสินค้าอีกหลายกลุ่ม ทำให้ผลการดำเนินงานไม่ผันผวนตามวัฎจักรปิโตรเคมีมากเกินไป
แม้ว่าสินค้าปิโตรเคมีจะเป็นวัฎจักร แต่ผมคิดว่าแม้จะเป็นช่วงตกต่ำ กลุ่มปิโตรของทั้ง PTT SCC ก็ยังทำกำไรได้ เพราะทั้งสองกลุ่มมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคนี้
สรุปก็คือซื้อตอนที่ราคาตกต่ำ อาจจะเป็นเพราะต่างชาติขายหุ้นเอาเงินกลับบ้าน และถือยาว น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ความเสี่ยงลดลงครับ...
ส่วน SCC เป็นสายแนฟทาซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ได้จากน้ำมันดิบ ซึ่งต้องจัดหาจากต่างประเทศหลายส่วน ทำให้ต้นทุนค่อนข้างสูง แต่ SCC มีจุดเด่นที่เกิดจากประหยัดจากขนาด (เน้นสร้างโรงงานกำลังการผลิตมาก) การที่เป็นเอกชน ไม่เหมือน PTT ที่เหมือนเสือนอนกิน ทำให้มีความกระตือรือล้นมากกว่า นอกจากนั้นยังมีสินค้าอีกหลายกลุ่ม ทำให้ผลการดำเนินงานไม่ผันผวนตามวัฎจักรปิโตรเคมีมากเกินไป
แม้ว่าสินค้าปิโตรเคมีจะเป็นวัฎจักร แต่ผมคิดว่าแม้จะเป็นช่วงตกต่ำ กลุ่มปิโตรของทั้ง PTT SCC ก็ยังทำกำไรได้ เพราะทั้งสองกลุ่มมีต้นทุนการผลิตค่อนข้างต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาคนี้
สรุปก็คือซื้อตอนที่ราคาตกต่ำ อาจจะเป็นเพราะต่างชาติขายหุ้นเอาเงินกลับบ้าน และถือยาว น่าจะเป็นวิธีที่ทำให้ความเสี่ยงลดลงครับ...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 5
เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ
ทั้ง PTT , SCC เป็นบริษัทที่ผมมั่นใจได้ว่า ไม่มีวันเจ๊งไปจากประเทศไทย
SCC =====>>>> ถือได้ว่าเครือข่ายทั้งหมดผูกขาดด้านปิโตรเคมี รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ของไทย
PTT =====>>>> ทั้งมีหุ้นใหญ่-รับซื้อก๊าซ จาก PTTEP ผูกขาดเหมือนกัน
คือผมมองว่า ไม่ว่าธุรกิจในลักษณะไหนก็ตาม ถ้าธุรกิจถูกผูกขาดแต่เพียงเจ้าเดียว ยังไงก็มีกำไรแน่ๆ ถึงแม้productของธุรกิจทั้งสองจะขึ้น-ลงตามปัจจัยตลาดโลก แต่เนื่องด้วยธุรกิจผูกขาดในประเทศไทยแบบนี้น่าลงทุนที่สุดแล้วล่ะครับ
(ผมถือ SCC รู้สึกอุ่นใจที่สุดในบรรดาหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด ถืออยู่ราคาเฉลี่ย 206 บาท ได้ในผลมา 4 ครั้ง เครดิตภาษี 30% ดียิ่งๆๆๆกว่าฝากธนาคาร ถือยาวไปเลยครับสบายใจได้ )
ทั้ง PTT , SCC เป็นบริษัทที่ผมมั่นใจได้ว่า ไม่มีวันเจ๊งไปจากประเทศไทย
SCC =====>>>> ถือได้ว่าเครือข่ายทั้งหมดผูกขาดด้านปิโตรเคมี รวมถึงวัสดุก่อสร้าง ของไทย
PTT =====>>>> ทั้งมีหุ้นใหญ่-รับซื้อก๊าซ จาก PTTEP ผูกขาดเหมือนกัน
คือผมมองว่า ไม่ว่าธุรกิจในลักษณะไหนก็ตาม ถ้าธุรกิจถูกผูกขาดแต่เพียงเจ้าเดียว ยังไงก็มีกำไรแน่ๆ ถึงแม้productของธุรกิจทั้งสองจะขึ้น-ลงตามปัจจัยตลาดโลก แต่เนื่องด้วยธุรกิจผูกขาดในประเทศไทยแบบนี้น่าลงทุนที่สุดแล้วล่ะครับ
(ผมถือ SCC รู้สึกอุ่นใจที่สุดในบรรดาหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมด ถืออยู่ราคาเฉลี่ย 206 บาท ได้ในผลมา 4 ครั้ง เครดิตภาษี 30% ดียิ่งๆๆๆกว่าฝากธนาคาร ถือยาวไปเลยครับสบายใจได้ )
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 8
SCC ราคาตอนนี้น่าซื้อไหม ไม่รู้ครับ
บอกได้อย่างเดียว แนวโน้ม ปิโตรปีนี้โตไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ขึ้นมารับข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถ้าถือ SCC ข้ามปีแล้วจะเห็นว่าคุ้มค่ากว่าฝากธนาคารครับ
บอกได้อย่างเดียว แนวโน้ม ปิโตรปีนี้โตไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่แล้ว ทำให้ราคาหุ้นในกลุ่มนี้ขึ้นมารับข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถ้าถือ SCC ข้ามปีแล้วจะเห็นว่าคุ้มค่ากว่าฝากธนาคารครับ
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 9
ขอบคุณ คุณลูกอีสาน กับคุณโป้งมากครับ เรียนถามเพิ่มเติม ที่ว่า SCC และ PTT มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาค (Economie of scale) แล้วถ้าเทียบกับระดับโลกล่ะครับ ทั้งสองบริษัทสามารถแข่งขันได้รึไม่ แล้วสินค้าปิโตรฯ เหล่านี้พอที่จะสนองความต้องการตลาดภายในประเทศมั้ยครับ ต้องนำเข้าเพิ่มเติม หรือว่าต้องส่งออกผลผลิตส่วนเกิน อยากเข้าใจธุรกิจปิโตรฯให้มากกว่านี้น่ะครับ จะได้ลงทุนในหุ้นสองตัวนี้เพิ่มได้อย่างมั่นใจ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 10
momo29 เขียน:ขอบคุณ คุณลูกอีสาน กับคุณโป้งมากครับ เรียนถามเพิ่มเติม ที่ว่า SCC และ PTT มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่าคู่แข่งในภูมิภาค (Economie of scale) แล้วถ้าเทียบกับระดับโลกล่ะครับ ทั้งสองบริษัทสามารถแข่งขันได้รึไม่ แล้วสินค้าปิโตรฯ เหล่านี้พอที่จะสนองความต้องการตลาดภายในประเทศมั้ยครับ ต้องนำเข้าเพิ่มเติม หรือว่าต้องส่งออกผลผลิตส่วนเกิน อยากเข้าใจธุรกิจปิโตรฯให้มากกว่านี้น่ะครับ จะได้ลงทุนในหุ้นสองตัวนี้เพิ่มได้อย่างมั่นใจ
เท่าที่เคยทราบมา PTT มีต้นทุนวัตถุดิบที่ต่ำเพราะมีแก๊สในอ่าวไทยมาก และแก๊สเหล่านี้ก็ให้ยิลด์ที่เป็นสินค้าขั้นสุดท้ายสูง สูงกว่าแนฟทาที่ได้จากน้ำมันดิบมาก ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า PTT จะมีกำไรในปิโตรเคมี
ส่วน SCC ผมเคยอ่านในนิตยสารผู้จัดการประมาณ 2-3 ปีมาแล้ว มีการเปรียบเทียบต้นทุนผลิตของโรงงานโอเลฟินน์ในโลก ปรากฎว่า Rayon Olefin Company มีต้นทุนต่ำที่สุดครับ ส่วนที่สูงที่สุดเป็นผู้ผลิตจากอินโดนีเซีย
ประเทศไทยค่อนข้างโชคดี ที่มีตลาดในประเทศค่อนข้างใหญ่ทำให้สามารถตั้งโรงงานที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ต้นทุนการผลิตต่อหน่วยต่ำ และการขายในประเทศก็ให้กำไรที่สูงกว่าการส่งออกอยู่แล้ว เพราะไม่มีต้นทุนค่าขนส่ง และที่ผมเคยทราบ สินค้าปิโตรเคมีของไทยบางตัวก็มีการส่งออกมาก เช่น เบนซีน แต่บางตัวก็อยู่ในภาวะสมดุล และทั้งสองกลุ่มพยายามเพิ่มมูลค่าสินค้า โดยการนำผลิตภัณฑ์เคมีขั้นต้น ที่ต้องส่งออก ผลิตเป็นสินค้าปิโตรเคมีขั้นปลาย ทำให้ไม่ต้องส่งออกสินค้าขั้นต้นที่มีกำไรต่ำกว่า
แต่หากมีผลิตภัณฑ์ส่งออก ก็คิดว่ายังมีกำไรครับ เพราะเอเชียเป็นผู้บริโภคสินค้าปิโตรเคมีรายใหญ่ มีฐานะเป็นผู้นำเข้าสุทธิจำนวนมาก เพราะประเทศเหล่านี้ไม่มีวัตถุดิบ ทำให้สินค้าส่วนเกินที่เราส่งออกก็ยังทำกำไรได้ครับ ส่วนคู่แข่งที่น่ากลัวคือตะวันออกกลาง ซึ่งมีวัตถุดิบมาก ราคาถูก แต่หากส่งออกมาขายในแถบนี้ก็ต้อเสียค่าขนส่งมากครับ..
หากสนใจกลุ่มปิโตร แนะนำให้อ่าน 56-1 ของกลุ่มนี้ทั้งหมดครับ จะได้ภาพรวมที่ชัดเจนขึ้นครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
- วัวแดง
- Verified User
- โพสต์: 1429
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 11
ผมว่าที่ราคาตอนนี้ ผลตอบแทนคงไปแบบเรื่อยๆๆ ไม่น่าตื้นเต้นมากนัก
แลกกับความเป็น บ.ที่ได้เปรียบเชิงแข่งขัน คงพอให้ลงทุนได้
ผมมีทั้ง2ตัวนี้ แต่ไม่ใช้ราคาตอนนี้ ถ้าถามผม ผมชอบที่จะซื้อตอน ptt 160 , scc 230 มากกว่า
แลกกับความเป็น บ.ที่ได้เปรียบเชิงแข่งขัน คงพอให้ลงทุนได้
ผมมีทั้ง2ตัวนี้ แต่ไม่ใช้ราคาตอนนี้ ถ้าถามผม ผมชอบที่จะซื้อตอน ptt 160 , scc 230 มากกว่า
ถ้าผมคิดเหมือนคนทั่วๆไป ผลตอบแทนผมก็เหมือนคนทั่วๆไป
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
ใจผมคงละลาย ถ้าผมคิดตามคนอื่น
ผู้ชนะไม่แน่ว่าจะต้องเป็นคนที่วิ่งเร็วที่สุด...แต่เป็นผู้ที่อดทนที่สุดต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2326
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 12
ธุรกิจปิโตรเคมี ปีที่ผ่านมา ยกตัวอย่างกรณีเม็ดผลาสติกที่มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการที่สูงขึ้นแต่กำลังการผลิตยังป้อนตลาดไม่เพียงพอ อีกทั้งราคา Naphtha ก็ขึ้นกับราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งการซื้อเก็บใน stock ที่มากขึ้นของ supplier
ปีที่ผ่านมามีการส่งออกมาก รู้สึกจะเป็นพวก โพลีโอลีฟินส์ แต่โดยรวมส่วนใหญ่ตลาดยังอยู่ในประเทศครับ
ถึงแม้ปิโตรเคมีจะทำกำไรชูโรงให้ SCC ในปีที่ผ่านมา แต่ SCC ยังถือหุ้นในหมวดอื่นๆอยู่อีกเยอะครับ กำไรคร่าวๆ ปี 2547
- ปิโตรเคมี........................... 56%
- ซีเมนต์.............................. 18%
- กระดาษ............................. 11%
- วัสดุก่อสร้าง....................... 7%
- ซีเมนไทยโฮลดิ้ง................ 12% (การลงทุนในกลุ่มต่างๆของเครือ SCC เช่น Michelin , Hayes LEMMERZ,Toyota Motor,Kubota,Asahi,Yamato,Nippon)
ปีที่ผ่านมามีการส่งออกมาก รู้สึกจะเป็นพวก โพลีโอลีฟินส์ แต่โดยรวมส่วนใหญ่ตลาดยังอยู่ในประเทศครับ
ถึงแม้ปิโตรเคมีจะทำกำไรชูโรงให้ SCC ในปีที่ผ่านมา แต่ SCC ยังถือหุ้นในหมวดอื่นๆอยู่อีกเยอะครับ กำไรคร่าวๆ ปี 2547
- ปิโตรเคมี........................... 56%
- ซีเมนต์.............................. 18%
- กระดาษ............................. 11%
- วัสดุก่อสร้าง....................... 7%
- ซีเมนไทยโฮลดิ้ง................ 12% (การลงทุนในกลุ่มต่างๆของเครือ SCC เช่น Michelin , Hayes LEMMERZ,Toyota Motor,Kubota,Asahi,Yamato,Nippon)
งด เลิก เสพ สุรา บุหรี่ วันนี้ เพื่อชีวิตที่ดีของท่าน
-
- Verified User
- โพสต์: 211
- ผู้ติดตาม: 0
เรียนถามผู้รู้เรื่องปิโตรเคมี เกี่ยวกับ SCC, PTT
โพสต์ที่ 13
ผมมองว่าในระยะยาวนั้น ทั้งสองบริษัทมีความสามารถในการทำกำไรๆด้ต่อเนื่องแน่ๆครับ อีกทั้งความสามารถในการผูกขาดในธุรกิจของตัวเอง
SCC มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนดี ทั้งปิโตรเคมี กระดาษและก่อสร้าง เพราะงั้นแล้ว แม้ว่าจะเป็น down turn ของปิโตรเคมี บริษัทก็ยังน่าจะสามารถทำกำไรได้ (แต่อาจลดลงบ้าง เพราะ SCC เน้นหนักทางสายปิโตรเคมีขั้นปลายที่อีก 2-3 ปี Supply ในตลาดน่าจะมากขึ้นจากการเปิดโรงงานใหม่ในตะวันออกกลางซึ่งจะมีต้นทุนต่ำกว่ามาก)
PTT จะเน้นทางด้านปิโตรเลียมเป็นหลักซึ่งถือว่าผูกขาดในธุรกิจและมีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งมาก และจะเห็นว่าปตท.เริ่มรุกตลาดปิโตรเคมีมากขึ้น ซึ่งในระยะยาวน่าจะทำให้เกิด economy of scale ในธุรกิจปิโตรเคมีมากขึ้น ในระยะยาวน่าจะข้นมาเป็นคู่แข่งกับ SCC ได้สูสีครับ แต่ที่ต้องระวังคือปตท.ค่อนข้างใหม่สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีนี้ เมื่อเทียบกับ SCC ซึ่งอยู่ในธุรกิจมามากกว่า 15 ปีแล้ว การใช้เงินลงทุนอาจจะไม่มีประสิทธิภาพดีเท่า SCC (ความเห็นส่วนตัวนะครับ) ดังจะเห็นได้จากการที่ราคาก่อสร้างของ TOC (ที่ปตท.ถือหุ้น)แทบจะเท่ากันกับ ROC ของ SCC แต่มีกำลังการผลิตน้อยกว่าเท่านึง (แต่ความแตกต่างนี้กำลังจะลดลงจากการสร้างโรงงานเพิ่มและการ debottleneck ของ TOC)
สรุปคือ ทั้งสองตัวนี้สามารถซื้อได้ในระยะยาวครับ แต่ควรเลือกซื้อช่วงตลาดหมีมากกว่า
SCC มีการกระจายความเสี่ยงในการลงทุนดี ทั้งปิโตรเคมี กระดาษและก่อสร้าง เพราะงั้นแล้ว แม้ว่าจะเป็น down turn ของปิโตรเคมี บริษัทก็ยังน่าจะสามารถทำกำไรได้ (แต่อาจลดลงบ้าง เพราะ SCC เน้นหนักทางสายปิโตรเคมีขั้นปลายที่อีก 2-3 ปี Supply ในตลาดน่าจะมากขึ้นจากการเปิดโรงงานใหม่ในตะวันออกกลางซึ่งจะมีต้นทุนต่ำกว่ามาก)
PTT จะเน้นทางด้านปิโตรเลียมเป็นหลักซึ่งถือว่าผูกขาดในธุรกิจและมีต้นทุนต่ำกว่าคู่แข่งมาก และจะเห็นว่าปตท.เริ่มรุกตลาดปิโตรเคมีมากขึ้น ซึ่งในระยะยาวน่าจะทำให้เกิด economy of scale ในธุรกิจปิโตรเคมีมากขึ้น ในระยะยาวน่าจะข้นมาเป็นคู่แข่งกับ SCC ได้สูสีครับ แต่ที่ต้องระวังคือปตท.ค่อนข้างใหม่สำหรับธุรกิจปิโตรเคมีนี้ เมื่อเทียบกับ SCC ซึ่งอยู่ในธุรกิจมามากกว่า 15 ปีแล้ว การใช้เงินลงทุนอาจจะไม่มีประสิทธิภาพดีเท่า SCC (ความเห็นส่วนตัวนะครับ) ดังจะเห็นได้จากการที่ราคาก่อสร้างของ TOC (ที่ปตท.ถือหุ้น)แทบจะเท่ากันกับ ROC ของ SCC แต่มีกำลังการผลิตน้อยกว่าเท่านึง (แต่ความแตกต่างนี้กำลังจะลดลงจากการสร้างโรงงานเพิ่มและการ debottleneck ของ TOC)
สรุปคือ ทั้งสองตัวนี้สามารถซื้อได้ในระยะยาวครับ แต่ควรเลือกซื้อช่วงตลาดหมีมากกว่า