สรุปสัมนา 17/4/2554
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 1
ธรรมะกับการลงทุน
ขอสรุปคร่าวๆนะครับ
ธรรมะเกี่ยวกับการลงทุนอย่างไร
คุณดนัย : ธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมดา ที่เราเป็นส่วนหนึ่งเปป็นผู้อาศัยในธรรมชาติ ในสมัยพุทธกาลกเมีอภิมหาเศรษฐีมากมาย ร่ำรวย ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่เขามี เขาร่ำรวยไม่ช่ความสุข แต่เขามีความสุขจากการให้ การบริจาคใหทาน มหาทาน ซึ่งเทรนดังกล่าวก็มีมากขึ้ยเรียกว่าพวก Gen G คือคนรุ่นใหม่มีจิตใจแห่งการให้ ทั้ง บิลเกต บัฟเฟด ก็บริจาคเงินจำนวนมากให้การกุศลแล้วยังชักชวนเพื่อนๆทำบุญด้วย ธรรมะกับการลงทุนจึงเนสิ่งทีไปกันได้แต่ก็ต้องรู้จักการให้ควบคู่ไปด้วย
ขอสรุปคร่าวๆนะครับ
ธรรมะเกี่ยวกับการลงทุนอย่างไร
คุณดนัย : ธรรมะคือธรรมชาติ ธรรมดา ที่เราเป็นส่วนหนึ่งเปป็นผู้อาศัยในธรรมชาติ ในสมัยพุทธกาลกเมีอภิมหาเศรษฐีมากมาย ร่ำรวย ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งที่เขามี เขาร่ำรวยไม่ช่ความสุข แต่เขามีความสุขจากการให้ การบริจาคใหทาน มหาทาน ซึ่งเทรนดังกล่าวก็มีมากขึ้ยเรียกว่าพวก Gen G คือคนรุ่นใหม่มีจิตใจแห่งการให้ ทั้ง บิลเกต บัฟเฟด ก็บริจาคเงินจำนวนมากให้การกุศลแล้วยังชักชวนเพื่อนๆทำบุญด้วย ธรรมะกับการลงทุนจึงเนสิ่งทีไปกันได้แต่ก็ต้องรู้จักการให้ควบคู่ไปด้วย
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 2
อ.ไพบูลย์ : เล่าเรื่องคำปฏิญาณของบัพเฟด ที่ว่า เข้าบริษัทเงิน 99% เที่ยบไมได้กับคนที่มีเงิน 100 เหรียญแต่บริจาค 70 เหรียญเพราะถึงเขาบริจาคเงินที่มากแต่เขาก็ยังรวยอยู่ และที่สุดคือคนที่ไม่มีแต่อุทิศแรงกายในการทำงานเพื่อสังคมนี่น่าชื่นชมสุด
คุณหมอสม : เฉินหลงกฌประกาสที่จะมอบเงินทั้งหมดให้กับมูลนิธิ ส่วนของผทกำไรจากปันผลที่ได้หักภาษีไป 10% ก้คิดว่าเป้นการบริจาคทางอ้อมให้เขาเอาเงินไปช่วยคนยากจนอย่าไปคิดมาก
อ.ไพบูลย์: มีครั้งหนึ่งเคยไปบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน เจอผู้หยิงคนหนึ่งเป้นนักกายภาพบำบัดต้องมานวดแขนให้ผุ้พิการแขนขาลืบเพื่อไม่ให้เขาพิการไปเลย ซึ่งการไปมาก็อาศัยรถเมล์ เดินทางลำบาก ก้น่าชื่นชม
อ.ถาวร : เรื่องของการทำดี เราก็พยายามทำเท่าที่เราทำได้ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถือว่าเป็นการทำดีน้อยที่สุดที่เราควรทำ
คุณหมอสม : ส่วนตัวเชื่อว่าคนเราไม่ได้มีชาติเดียว แต่เป้นการสะสม คิดซะว่าทำไว้ใช้ในอนาคต คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นเบื้อหลังกรรมเก่าเค้าดี
คุณหมอสม : เฉินหลงกฌประกาสที่จะมอบเงินทั้งหมดให้กับมูลนิธิ ส่วนของผทกำไรจากปันผลที่ได้หักภาษีไป 10% ก้คิดว่าเป้นการบริจาคทางอ้อมให้เขาเอาเงินไปช่วยคนยากจนอย่าไปคิดมาก
อ.ไพบูลย์: มีครั้งหนึ่งเคยไปบ้านเด็กพิการซ้ำซ้อน เจอผู้หยิงคนหนึ่งเป้นนักกายภาพบำบัดต้องมานวดแขนให้ผุ้พิการแขนขาลืบเพื่อไม่ให้เขาพิการไปเลย ซึ่งการไปมาก็อาศัยรถเมล์ เดินทางลำบาก ก้น่าชื่นชม
อ.ถาวร : เรื่องของการทำดี เราก็พยายามทำเท่าที่เราทำได้ ไม่เบียดเบียนผู้อื่น ถือว่าเป็นการทำดีน้อยที่สุดที่เราควรทำ
คุณหมอสม : ส่วนตัวเชื่อว่าคนเราไม่ได้มีชาติเดียว แต่เป้นการสะสม คิดซะว่าทำไว้ใช้ในอนาคต คนที่ประสบความสำเร็จในตลาดหุ้นเบื้อหลังกรรมเก่าเค้าดี
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 3
คุณดนัย : ส่วนตัวเป้นคนไมได้ลงทุนในหุ้น แต่รอบตัวลงทุนหมดเลย ก็พบว่าหลายๆคนจิตใจว้าวุ่น ไม่เปเนสุข ไม่สงบจากสิ้งที่ต่างที่เราต้องการ ตนเลยไม่ลงทุนเพราะเหเนตัวอย่างที่ไม่สงบสุข การลงทุนที่ดีจิตต้องสงบสุขอย่าเอาอะไรไปผูกติดกับบางอย่าง อย่าฝากชีวิตไว้กับสิ่งอื่นที่ขึ้นๆลงๆ ความสุขที่แท้จริงต้องออกมาจากภายใน ถ้าลงทุนก็ขอห้สุขจากภายใน กำไรจากภายนอกก้ถือว่าเป็นโบนัส ส่วนในชีวิตการทำงานทุกคนก็มีทุกข์ แต่เราอย่าเอาทุกข์มาเรียกว่าทุกข์ไม่เอา ปัญหาในการทำงานมันต้องมีตรายเท่าที่เราทำงานสุขกับทุกข์มันก็ตัวเดียวกัน ถ้าเราไม่คาดหวังอยู่กลางๆก็ไม่รู้สึกอะไร
คุณหมอสม : ก่อนเข้าตลาดหุ้นก็สุข เข้ามาก็เครียด แต่เราอยู่ในโลกทุนนิยมการเอาเงินไปลงทุนต่อยอดก็เป็นเรื่องธรรมดา ไอ้การเล่นหุ้นแล้วขายแพงก็ไม่ได้ค้ากำไร เวลาขายหมูก็ไม่ชี่ว่าจะได้บุญ ขายแพงก็ไม่ได้บาปเป้นต้น
คุณหมอสม : ก่อนเข้าตลาดหุ้นก็สุข เข้ามาก็เครียด แต่เราอยู่ในโลกทุนนิยมการเอาเงินไปลงทุนต่อยอดก็เป็นเรื่องธรรมดา ไอ้การเล่นหุ้นแล้วขายแพงก็ไม่ได้ค้ากำไร เวลาขายหมูก็ไม่ชี่ว่าจะได้บุญ ขายแพงก็ไม่ได้บาปเป้นต้น
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 4
ถาม การลงทุนเป้นบาปไหม
คุณดนัย : ไม่บาปทุกอยางขึ้นอยู่กับจิต ขึ้นอยุ่กับเจตตนา คุณหมอสมเสริม ก็อย่าไปซื้อหุ้นที่ผิดศีลก็พอ
คุณดนัย : ไม่บาปทุกอยางขึ้นอยู่กับจิต ขึ้นอยุ่กับเจตตนา คุณหมอสมเสริม ก็อย่าไปซื้อหุ้นที่ผิดศีลก็พอ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 5
ถาม : ธุรกิจที่ฆ่าสัตว์ ขายสัตว์ ลงทุนบาปไหม
คุณหมอสม : เป้นบาปทางอ้อม เหมือนเรารู้ว่าเสียภาษีก็มีคนเอาไปโกงผลก้กระทบเราอ้อมๆไม่สะเทือนอะไรมากมาย อยู่ทีความสบายใจของเรา
คุณดนัย : บาป ถ้าเลือกได้ก็เลี่ยงๆ เพราะมนุษย์อยู่เหนือกรรมเรามีสิทธิจะเลือกที่จะทำหรือไม่ทำได้ อย่าไปให้เปเนไปตามยัดถากรรมมันดูไม่ดี เราจะเลือกลงทุนก็อย่าไปเลือกที่มันทำบาปทั้งทางตรงทางอ้อม พวกผิดศีล 5
คุณหมอสม : เป้นบาปทางอ้อม เหมือนเรารู้ว่าเสียภาษีก็มีคนเอาไปโกงผลก้กระทบเราอ้อมๆไม่สะเทือนอะไรมากมาย อยู่ทีความสบายใจของเรา
คุณดนัย : บาป ถ้าเลือกได้ก็เลี่ยงๆ เพราะมนุษย์อยู่เหนือกรรมเรามีสิทธิจะเลือกที่จะทำหรือไม่ทำได้ อย่าไปให้เปเนไปตามยัดถากรรมมันดูไม่ดี เราจะเลือกลงทุนก็อย่าไปเลือกที่มันทำบาปทั้งทางตรงทางอ้อม พวกผิดศีล 5
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 6
ถาม แล้ว ธุรกิจเกี่ยวเนื่องละ อย่างขาย
คุณดนัย : ทุกอย่างขึ้นอยุ่กับเจตนา มันเป้นเศษกรรม เหมือน บาปก็เป็นเกลือ บุญเป้นนำ เวลาเราทำบาปก้เอาเกลือใส่ไปในน้ำ ถ้าเราทำดีมากๆ ก้เหมือนเติมน้ำลงไปเกลือก็จางลงจนไม่ได้กระทบอะไร แต่การทำดีไม่ใช่ไปหักล้างกรรมได้ เพียงแต่ทำให้มันจางลง
คุณหมอสม : ถ้าคิดมากก็ไม่ต้องลงทุนกัน ทุกอย่างมันกระทบอ้อมๆไปหมด
อ.ไพบูลย์ ; ในตลาดหุ้นนี่เราเหมือนทำบุญทุกวัน เวลามีบิดเค้ามารอ เราขายให้ก็ช่วยให้เค้าสมหวังดีใจขายได้ หรือออฟเฟอ เราไปวื้อก็ช่วยให้เค้าสมหวังดีใจขายได้ 555 อันนี้มุข
คุณดนัย : ทุกอย่างขึ้นอยุ่กับเจตนา มันเป้นเศษกรรม เหมือน บาปก็เป็นเกลือ บุญเป้นนำ เวลาเราทำบาปก้เอาเกลือใส่ไปในน้ำ ถ้าเราทำดีมากๆ ก้เหมือนเติมน้ำลงไปเกลือก็จางลงจนไม่ได้กระทบอะไร แต่การทำดีไม่ใช่ไปหักล้างกรรมได้ เพียงแต่ทำให้มันจางลง
คุณหมอสม : ถ้าคิดมากก็ไม่ต้องลงทุนกัน ทุกอย่างมันกระทบอ้อมๆไปหมด
อ.ไพบูลย์ ; ในตลาดหุ้นนี่เราเหมือนทำบุญทุกวัน เวลามีบิดเค้ามารอ เราขายให้ก็ช่วยให้เค้าสมหวังดีใจขายได้ หรือออฟเฟอ เราไปวื้อก็ช่วยให้เค้าสมหวังดีใจขายได้ 555 อันนี้มุข
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 7
คุณดนัย สุดท้ายคือเราต้อวถามใจตัวเองว่าทำแล้วสบายใจไหม ถ้าทำด้วยฝจบริสุทธิ์ สบายใจก็ไม่ทุกข์ แต่ถ้าอะไรที่ซื้อแล้วเครียด ไม่แน่ใจว่าที่ซื้อเป้นธุรกิจดีไหม เอามาคิดเอามาเครียดก็เป้บบาปแล้ว เราดูเจตนาของเราเป้นหลัก ในพุทธศาสนา สิ่งที่คิดบางทีก้ทำให้ทุกข์ ก็อย่าไปคิดมากปล่อยวาง
อ.ไพบูลย์: เวลาหุ้นขึ้นเราก็ควรยินดีกับคนที่เขาได้ เราก็จะเป้นสุขด้วยเหมือนได้ด้วย ถ้าเราไปอิจฉา ริษยาไอ้ทุกข์นั้นก็อยู่กับเรา เวลาหุ้นตกก้อย้าไปสมน้ำหน้าเค้า เราไปเสียใจกับเค้าผลบุญก็เป้นของเรา
คุณหมอสม : เล่นหุ้นต้อวมีวิมังสา คือการีวิเคราะห์เยอะๆ
อ.ไพบูลย์: เวลาหุ้นขึ้นเราก็ควรยินดีกับคนที่เขาได้ เราก็จะเป้นสุขด้วยเหมือนได้ด้วย ถ้าเราไปอิจฉา ริษยาไอ้ทุกข์นั้นก็อยู่กับเรา เวลาหุ้นตกก้อย้าไปสมน้ำหน้าเค้า เราไปเสียใจกับเค้าผลบุญก็เป้นของเรา
คุณหมอสม : เล่นหุ้นต้อวมีวิมังสา คือการีวิเคราะห์เยอะๆ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 8
อ.ถาวร : หลักการลงทุนก็ยึดเอาอิทธิบาท 4 คือ
ฉันทะ พอใจ มีความสุข เล่นหุ้นชอบกำไรนิดๆหน่อยๆขายก็ทำไปถ้าสุข ,
วิริยะ มีความขัยน ศึกษาหาความรู้ ถ้าจะลงทุนไม่สำเร็จเพราะมี ไม่ 7 ประการคือ 1ไม่สนใจ 2 ไม่มีความรู้ 3 ไม่ดูมันนี่ทอก 4ไม่บอกความจริงคือรู้ไม่รู้ไม่บอกเลยไม่ใจตัวเอง 5 ไม่อิงธรรมะ ต้องมีการลงทุนที่ถูกต้อง 6 ไม่มีมานะ หวังโชค 7 ไม่เปลือยอกเล่นสงกราน อันนี้มุข T_T
จิตตะ ใจจดจ่อมุ่มมั่น
และวิมังสาคือวิเคราะห์
ฉันทะ พอใจ มีความสุข เล่นหุ้นชอบกำไรนิดๆหน่อยๆขายก็ทำไปถ้าสุข ,
วิริยะ มีความขัยน ศึกษาหาความรู้ ถ้าจะลงทุนไม่สำเร็จเพราะมี ไม่ 7 ประการคือ 1ไม่สนใจ 2 ไม่มีความรู้ 3 ไม่ดูมันนี่ทอก 4ไม่บอกความจริงคือรู้ไม่รู้ไม่บอกเลยไม่ใจตัวเอง 5 ไม่อิงธรรมะ ต้องมีการลงทุนที่ถูกต้อง 6 ไม่มีมานะ หวังโชค 7 ไม่เปลือยอกเล่นสงกราน อันนี้มุข T_T
จิตตะ ใจจดจ่อมุ่มมั่น
และวิมังสาคือวิเคราะห์
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 9
ถาม : เราลงทุนไปด้วยปฎิบัติธรรมไปด้วย อย่างไรให้ได้ประโยชน์
คุณดนัย : ไม่มีข้อห้ามว่าลงทุนแล้ว ปฏิบัติธรรมไม่ได้ ถ้าเลือกที่จะเล่นก็ให้เน้นเอากำไรทางใจเป็นหลัก สังเกตุการฝึกธรรมะจะทำให้เรามีความประนีทในเลือกเลือกการวิเคราะห์ต่างๆได้ดีเหมือนครูบาอาจารยืสมัยก่อน เวลาลงทุนก็ฌเลือกธุนะกิจที่ปลอดภัย เช่นองค์กรที่แสวงหาความสำดุลของ 4P คือ พีเพิล ดูแลคนทั้งในและนอกองค์กร เพลนเน็ทไม่เบียดเบียนโลกและธรรมชาติ โพรฟิต ไม่มุ่งเน้นกำไรมากไปองค์กรที่รักษา 2p แรกได้จำมีกำไรมากกว่าองคืกรธรรมดา 6 เท่า และเพรทชั่นคือ ความศรัทธาที่จะไม่ไกลไปตามกระแส รักษาสิ่งดีๆที่ทำไว้ในองค์กร
คุณหมอสม : ดูว่าเราต้องการบรรลุขั้นไหน โลกียะธรรม หรือโลกุตะระธรรม เพราะเราอยู่ในตลาดมันถูกกระตุ้นด้วยความ โลภตลอดเวลา
อ.ถาวร : ถ้าปฎิบัติธรรม เวลาลงทุนก้ดูในตัวเองเวลาขึ้นมีเวลา หาความรู้ไปด้วย เวลาหุ้นขึ้นลงเราจะได้เฉยๆ แต่ถ้าเราต้องการปฏิยิตธรรมขั้นพิเศษก็เนะนำให้เลิกเล่นไปเลยไปลงทุนกองทุนรวมดีกว่า
คุณดนัย : ไม่มีข้อห้ามว่าลงทุนแล้ว ปฏิบัติธรรมไม่ได้ ถ้าเลือกที่จะเล่นก็ให้เน้นเอากำไรทางใจเป็นหลัก สังเกตุการฝึกธรรมะจะทำให้เรามีความประนีทในเลือกเลือกการวิเคราะห์ต่างๆได้ดีเหมือนครูบาอาจารยืสมัยก่อน เวลาลงทุนก็ฌเลือกธุนะกิจที่ปลอดภัย เช่นองค์กรที่แสวงหาความสำดุลของ 4P คือ พีเพิล ดูแลคนทั้งในและนอกองค์กร เพลนเน็ทไม่เบียดเบียนโลกและธรรมชาติ โพรฟิต ไม่มุ่งเน้นกำไรมากไปองค์กรที่รักษา 2p แรกได้จำมีกำไรมากกว่าองคืกรธรรมดา 6 เท่า และเพรทชั่นคือ ความศรัทธาที่จะไม่ไกลไปตามกระแส รักษาสิ่งดีๆที่ทำไว้ในองค์กร
คุณหมอสม : ดูว่าเราต้องการบรรลุขั้นไหน โลกียะธรรม หรือโลกุตะระธรรม เพราะเราอยู่ในตลาดมันถูกกระตุ้นด้วยความ โลภตลอดเวลา
อ.ถาวร : ถ้าปฎิบัติธรรม เวลาลงทุนก้ดูในตัวเองเวลาขึ้นมีเวลา หาความรู้ไปด้วย เวลาหุ้นขึ้นลงเราจะได้เฉยๆ แต่ถ้าเราต้องการปฏิยิตธรรมขั้นพิเศษก็เนะนำให้เลิกเล่นไปเลยไปลงทุนกองทุนรวมดีกว่า
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 10
ถาม เงิน 1 บาททีได้จากอาชีพหมอ กับ 1 บาทที่ได้จากหุ้น มีค่ายังไง
คุณหมอสม 1 บาทจากอาชีพหมดชอมันก็มีค่ามากกว่า พอเรามีเงินมากๆ หลังๆเราจะเฉยๆไมได้ดีใจอะไร ทุกวันนี้คนเป็นพ่อแม่ก็ทำเพื่อลูกก็ต้องเลี้ยงลถกให้ดี เวลาให้อะไรก็เริ่มจากให้น้อยๆก่อนแล้วพอเราให้มากเขาจะสุขมาก อย่าง พอไปดรีมเวอ เค้าก็มีความสุข พอเราพาไปดีสนี่แลนเขาก็จะสุขกว่า ได้ 2 สุข ถ้าให้ไปดีสนี่แลนก่อนแล้วมาดรีมเวิลอันหลังมันไม่ค่อยสุข
อ.ถาวร : ถ้าเรามีความรู้ตามวิชาชีพเราก็ทำงานตามวิชาชีพ ส่วนการลงทุนเป้นตัวช่วยเสริมความมั่งคั่งของเรา
คุณหมอสม 1 บาทจากอาชีพหมดชอมันก็มีค่ามากกว่า พอเรามีเงินมากๆ หลังๆเราจะเฉยๆไมได้ดีใจอะไร ทุกวันนี้คนเป็นพ่อแม่ก็ทำเพื่อลูกก็ต้องเลี้ยงลถกให้ดี เวลาให้อะไรก็เริ่มจากให้น้อยๆก่อนแล้วพอเราให้มากเขาจะสุขมาก อย่าง พอไปดรีมเวอ เค้าก็มีความสุข พอเราพาไปดีสนี่แลนเขาก็จะสุขกว่า ได้ 2 สุข ถ้าให้ไปดีสนี่แลนก่อนแล้วมาดรีมเวิลอันหลังมันไม่ค่อยสุข
อ.ถาวร : ถ้าเรามีความรู้ตามวิชาชีพเราก็ทำงานตามวิชาชีพ ส่วนการลงทุนเป้นตัวช่วยเสริมความมั่งคั่งของเรา
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 11
ถาม ให้แนะนำการใช้ชีวิตถ้ายังวนเวียนในการลงทุน
คุณดนัย อะไรจะเสียก็ให้มันเสียไป อย่าให้เสียใจ ถ้าอะไรในได้ก็ให้ได้ไปแต่อย่าได้ใจ ต้องรักษาจิตใจให้เป้นปกติให้ดีเอาไว้ บ่อยครั้งเราก็มีความทุกข์การจากมีมากไป สุขจากการไม่มียังดีกว่า เช่นมีมากๆก็ห่วงลูกๆจะถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ ไปไหนมาไหนก็ต้องแยกกันไปกลัวเกิดอุบัติเหตุแล้วจะไม่มีคนดูธุรกิจ เราเราคิดว่าถ้าวันสุดท้ายที่เราต้องจากไปเราเอาอะไรติดไปได้บ้าง คนไทยชอบทำบุญนอกซึ่งก็เป้เนสิ่งดีแต่เราลืมทำบุญในให้ตัวเราเอง
คุณหมอสม : เราต้านกระแสทุนนิยไมได้ วิธีการคือเราต้องรู้เยอะๆเพือให้ทันเกมส์คนอื่น เล่นลงทุนด้วยสติ
อ.ถาวร : เคล็ดลับสำคัญคือการปล่อยวาง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะลงทุนหรือไม่ มีตัวอย่างคือมีพ่อ ทำงานยุ่งมาก จนวันหนึ่งลุกก็มาถามว่าพ่อทำงานได้เงิน ชั่วโมงละเท่าไหร พอรู้ว่า 30 บาทลุกขอก็เงินพ่อ 10 บาท เพื่อเอาเงินที่รวบรวมมาซื้อเวลาพ่อ 1 ชั่วโมงให้อยู่กับตน มันได้ข้อคิดว่า เรามีเวลาทำอะไรหลายๆอย่างแต่ไม่ได้ให้เวลากับสิ่งสำคัญ
คุณดนัย อะไรจะเสียก็ให้มันเสียไป อย่าให้เสียใจ ถ้าอะไรในได้ก็ให้ได้ไปแต่อย่าได้ใจ ต้องรักษาจิตใจให้เป้นปกติให้ดีเอาไว้ บ่อยครั้งเราก็มีความทุกข์การจากมีมากไป สุขจากการไม่มียังดีกว่า เช่นมีมากๆก็ห่วงลูกๆจะถูกลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่ ไปไหนมาไหนก็ต้องแยกกันไปกลัวเกิดอุบัติเหตุแล้วจะไม่มีคนดูธุรกิจ เราเราคิดว่าถ้าวันสุดท้ายที่เราต้องจากไปเราเอาอะไรติดไปได้บ้าง คนไทยชอบทำบุญนอกซึ่งก็เป้เนสิ่งดีแต่เราลืมทำบุญในให้ตัวเราเอง
คุณหมอสม : เราต้านกระแสทุนนิยไมได้ วิธีการคือเราต้องรู้เยอะๆเพือให้ทันเกมส์คนอื่น เล่นลงทุนด้วยสติ
อ.ถาวร : เคล็ดลับสำคัญคือการปล่อยวาง ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ว่าจะลงทุนหรือไม่ มีตัวอย่างคือมีพ่อ ทำงานยุ่งมาก จนวันหนึ่งลุกก็มาถามว่าพ่อทำงานได้เงิน ชั่วโมงละเท่าไหร พอรู้ว่า 30 บาทลุกขอก็เงินพ่อ 10 บาท เพื่อเอาเงินที่รวบรวมมาซื้อเวลาพ่อ 1 ชั่วโมงให้อยู่กับตน มันได้ข้อคิดว่า เรามีเวลาทำอะไรหลายๆอย่างแต่ไม่ได้ให้เวลากับสิ่งสำคัญ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 12
บทเรียนจากกูรูหุ้นระดับโลก
ถาม ; กูรูหุ้นระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมีใครบ้าง
อ.นิเวศ :
เบนจามิน เกรมแฮม บิดาแห่งการวิเคราะห์หลักทรัพย์ สมัยก่อนยังไม่มีการวิเคราะห์เลย
ฟิลิปฟิชเชอร์ เป้นแนวคิดการลงทุนหุ้นที่ดีที่สุดเน้นการเติบโต
บัฟเฟด เอา 2 คนแรกมารวมกัน
จอสโซรอส แนวเก็งกำไร อาศัยควาไม่สมดุลของตลาด เล่น ลวทุนได้หลากหลาย
ปีเตอร์ ลิช เป้นผู้บริหารกองทุนที่ประสบความสำเร้จ มีกองทุนที่ใหย่ที่สุดในโลกช่วงหนึ่ง
จอนเนฟ ลงทุนยาวนาน บริหารกองทุน 30 ปี เปเนการลงทุนที่คอนเซอเวทีฟมากๆ ผลตอบแนก็ดีสม่ำเสมอ
เทิมเพอตัน : เน้นการลงทุนไม่ควรจำกัดอยู่แต่ในประเทศตนเองคือเมกา เป้นเจ้าแรกในการลงทึนในอิมเมอจินมาเกตหรือตลาดเกิดใหม่
ถาม ; กูรูหุ้นระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมีใครบ้าง
อ.นิเวศ :
เบนจามิน เกรมแฮม บิดาแห่งการวิเคราะห์หลักทรัพย์ สมัยก่อนยังไม่มีการวิเคราะห์เลย
ฟิลิปฟิชเชอร์ เป้นแนวคิดการลงทุนหุ้นที่ดีที่สุดเน้นการเติบโต
บัฟเฟด เอา 2 คนแรกมารวมกัน
จอสโซรอส แนวเก็งกำไร อาศัยควาไม่สมดุลของตลาด เล่น ลวทุนได้หลากหลาย
ปีเตอร์ ลิช เป้นผู้บริหารกองทุนที่ประสบความสำเร้จ มีกองทุนที่ใหย่ที่สุดในโลกช่วงหนึ่ง
จอนเนฟ ลงทุนยาวนาน บริหารกองทุน 30 ปี เปเนการลงทุนที่คอนเซอเวทีฟมากๆ ผลตอบแนก็ดีสม่ำเสมอ
เทิมเพอตัน : เน้นการลงทุนไม่ควรจำกัดอยู่แต่ในประเทศตนเองคือเมกา เป้นเจ้าแรกในการลงทึนในอิมเมอจินมาเกตหรือตลาดเกิดใหม่
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 13
เกรมแฮม
พี่เวป : มี 2 ส่วนที่น่าสนใจคือ 1 ทัศนะคติ 2 วิธีการเลือกหุ้น
1.1ทัศนคติในการลงทุนคือเวลาซื้อหุ้นไมได้คิดว่าเป้นแค่ตัวอักษรแต่คิดว่าคือกิจการคือธุรกิจ
1.2ราคาหุ้นเป้นสิ้งที่ผันผวนขึ้นลง จะลงทุนให้สำเร้จต้องไม่ปล่อยให้ตนเองตัดสินใจไปตามราคาหุ้น เวลาซื้อหุ้นวันนี้แล้วมันอาจขึ้นไป 50% หรือตก 20% ก็ได้สุดท้ายแล้วมันจะสะท้อนไปตามผลประกอบการ
1.3เวลาซื้อหุ้นต้อวมที mos ส่วนเผื่อเพื่อึวามปลอดภัย เผื่อวิเคราะห์ผิด จะได้ไม่ขาดทุนมาก เช่นวิเคราะห์ได้ 100 บาทตอนนี้ 90 บาทก็ มอสน้อยไม่น่าสน แต่ถ้าวิเคราะหื 100 ราคา 60 มีมอส 40% ก้น่าสน
2ส่วนวิธีเลือกหุ้น ก็ดู พีอี พีบุค ต่ำๆ ปันผลสูงๆ หนี้น้อยๆ กำไรสม่ำเสมอ ไม่ได้ให้ควาสำคัญกับผู้บริหารเท่าไหรไม่ลงรายละเอียดเยอะ แก้โดยการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
พี่วิบูลย์ : เสริมเรื่อง net net ช่วงที่เกรแฮมลงุนนั้น ราคาหุ้นจะถูกมากๆ ตลากตกต่ำเลยมีหุ้นที่ทรัพสิน-หนี้สินแล้ว มีเงินสดยังมีมูลค่าสูงกกว่าราคาหุ้นซึ่งถือว่าถูกมากๆ
ดร กุสยา : เน้นประเด็นวิเคราะหืงบการเงินเป้นหลัก ดูตัวเลขต่างๆเป้นหลัก ให้ความสำคัญกับผู้บริหารน้อย เน้นที่ mos มากๆ
ดร นิเวศ ; เบนเป้นคนขี้สงสัย ไม่ค่อยเชือ่ผุ้บริหารมาก เพราะเขากลัวถูกหลอก การประมาณการกำไรงบในอนาคตมันกฌถูกครึ่งผิดครึ่ง เลยเอาข้อมูลจริงที่มีแล้วในอดีตมาดูเลยดีกว่า ซึ่งเวลาลาดูก็ย้อนหลังไปเป้เ 10 ปีเพื่อป้องกันการโดนงบกำไรแคไม่กี่ปีมาหลอกได้
พี่เวป : มี 2 ส่วนที่น่าสนใจคือ 1 ทัศนะคติ 2 วิธีการเลือกหุ้น
1.1ทัศนคติในการลงทุนคือเวลาซื้อหุ้นไมได้คิดว่าเป้นแค่ตัวอักษรแต่คิดว่าคือกิจการคือธุรกิจ
1.2ราคาหุ้นเป้นสิ้งที่ผันผวนขึ้นลง จะลงทุนให้สำเร้จต้องไม่ปล่อยให้ตนเองตัดสินใจไปตามราคาหุ้น เวลาซื้อหุ้นวันนี้แล้วมันอาจขึ้นไป 50% หรือตก 20% ก็ได้สุดท้ายแล้วมันจะสะท้อนไปตามผลประกอบการ
1.3เวลาซื้อหุ้นต้อวมที mos ส่วนเผื่อเพื่อึวามปลอดภัย เผื่อวิเคราะห์ผิด จะได้ไม่ขาดทุนมาก เช่นวิเคราะห์ได้ 100 บาทตอนนี้ 90 บาทก็ มอสน้อยไม่น่าสน แต่ถ้าวิเคราะหื 100 ราคา 60 มีมอส 40% ก้น่าสน
2ส่วนวิธีเลือกหุ้น ก็ดู พีอี พีบุค ต่ำๆ ปันผลสูงๆ หนี้น้อยๆ กำไรสม่ำเสมอ ไม่ได้ให้ควาสำคัญกับผู้บริหารเท่าไหรไม่ลงรายละเอียดเยอะ แก้โดยการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
พี่วิบูลย์ : เสริมเรื่อง net net ช่วงที่เกรแฮมลงุนนั้น ราคาหุ้นจะถูกมากๆ ตลากตกต่ำเลยมีหุ้นที่ทรัพสิน-หนี้สินแล้ว มีเงินสดยังมีมูลค่าสูงกกว่าราคาหุ้นซึ่งถือว่าถูกมากๆ
ดร กุสยา : เน้นประเด็นวิเคราะหืงบการเงินเป้นหลัก ดูตัวเลขต่างๆเป้นหลัก ให้ความสำคัญกับผู้บริหารน้อย เน้นที่ mos มากๆ
ดร นิเวศ ; เบนเป้นคนขี้สงสัย ไม่ค่อยเชือ่ผุ้บริหารมาก เพราะเขากลัวถูกหลอก การประมาณการกำไรงบในอนาคตมันกฌถูกครึ่งผิดครึ่ง เลยเอาข้อมูลจริงที่มีแล้วในอดีตมาดูเลยดีกว่า ซึ่งเวลาลาดูก็ย้อนหลังไปเป้เ 10 ปีเพื่อป้องกันการโดนงบกำไรแคไม่กี่ปีมาหลอกได้
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 14
ฟิลลิปฟิชเชอร์
ดร.กุสยา : ช่วนนั้น 1937 เป้นสงคราม การลงทุนมันยากลำบาก หลัการที่สำคัญคือ
1ลงทุนระยะยาว พิจารณาดเหตุการณ์สำคัญว่าควรซื้อหรือขายบ้างกรณีสำคัญๆ
2กระจายการลงทุนไม่มากนัก
3ลงทุนแบบ active ลงเอง กับ passive ลงทุนในกองทุนรวม
4 การลงทุนต้องรู้ต้นทุนคืออะไร การลงทุนที่ผิดพลาดคือมีต้นทุนที่สูง
จากทั้วหมดเลยต้องหาบริษัทที่มันมั่นคง เติบโต ให้ความสำคัยกับปันผลน้อยหน่อย เน้นการเติยบโตเป้นหลัก
พี่วิบูล ฟิลิปอยู่ ซานฟราน เกรแฮท อยู่นิวยอกเรียกว่าคนละฝั่งกันจนได้ ชาลีมังเกิลแนะนำบัฟเฟดให้ได้รู้จักฟิลลิฟ ที่เปเนการลงทุนในแนวทางที่ต่างวจากบัฟเฟดในขณะนั้น โดยฟิลลิปเน้นที่
1ผู้บริหารก่อน(ที่เกรแฮมไม่สนใจ) เพราะเขามองว่ากิจการจะโตได้ก็ด้วยผุ้บริหารเป้นหลัก
2ดูอุตสหกรรมที่ยบริษัทอยู่มันเติบโตไหม
3บริษัทนั้นเป็นที่ 1 2 ในอุตสหกรรมนั้นไหม มีอนาคตไหม
4งบการเงินเป้นไง
5แล้วค่อยมาดูราคาว่าได้สะท้อนผลกำไรไปยัง
พี่เวป(เล่าเรื่องไป AGM ที่เบิกไชด์) เปเนแนวคิดคนละด้านกับเกรแฮม โดยคิดว่าหุ้นต่ำบุค ถ้ามันขาดทุนไปเรื่อยๆอยาคตมันจะไม่เหลืออะไร เวลาเลือกหุ้นจึงต้องดูละเอียดทั้ง ผู้บริหาร กำไรโตเยอะๆ หาหุ้นเติบโต คุยกับซัพไพเออร์ ลุกค้า แล้วดฟกัสลงทุนไปเลยเพราะวิเคราะห์ละเอียดแล้ว
ดร.นิเวศ : ฟิชเชอร์ดูละเอียดมากเอาข้อมูลจากรอบบริษัทมาศึกษาให้ละเอียอด ว่าเป็น top กำลังเติบโต ทุกอย่างดีหมด ซื้อแพงก็ไม่ว่า แต่ถือยาวโตไปเรื่อยๆ กำไรเลยมหาศาล
ดร.กุสยา : ช่วนนั้น 1937 เป้นสงคราม การลงทุนมันยากลำบาก หลัการที่สำคัญคือ
1ลงทุนระยะยาว พิจารณาดเหตุการณ์สำคัญว่าควรซื้อหรือขายบ้างกรณีสำคัญๆ
2กระจายการลงทุนไม่มากนัก
3ลงทุนแบบ active ลงเอง กับ passive ลงทุนในกองทุนรวม
4 การลงทุนต้องรู้ต้นทุนคืออะไร การลงทุนที่ผิดพลาดคือมีต้นทุนที่สูง
จากทั้วหมดเลยต้องหาบริษัทที่มันมั่นคง เติบโต ให้ความสำคัยกับปันผลน้อยหน่อย เน้นการเติยบโตเป้นหลัก
พี่วิบูล ฟิลิปอยู่ ซานฟราน เกรแฮท อยู่นิวยอกเรียกว่าคนละฝั่งกันจนได้ ชาลีมังเกิลแนะนำบัฟเฟดให้ได้รู้จักฟิลลิฟ ที่เปเนการลงทุนในแนวทางที่ต่างวจากบัฟเฟดในขณะนั้น โดยฟิลลิปเน้นที่
1ผู้บริหารก่อน(ที่เกรแฮมไม่สนใจ) เพราะเขามองว่ากิจการจะโตได้ก็ด้วยผุ้บริหารเป้นหลัก
2ดูอุตสหกรรมที่ยบริษัทอยู่มันเติบโตไหม
3บริษัทนั้นเป็นที่ 1 2 ในอุตสหกรรมนั้นไหม มีอนาคตไหม
4งบการเงินเป้นไง
5แล้วค่อยมาดูราคาว่าได้สะท้อนผลกำไรไปยัง
พี่เวป(เล่าเรื่องไป AGM ที่เบิกไชด์) เปเนแนวคิดคนละด้านกับเกรแฮม โดยคิดว่าหุ้นต่ำบุค ถ้ามันขาดทุนไปเรื่อยๆอยาคตมันจะไม่เหลืออะไร เวลาเลือกหุ้นจึงต้องดูละเอียดทั้ง ผู้บริหาร กำไรโตเยอะๆ หาหุ้นเติบโต คุยกับซัพไพเออร์ ลุกค้า แล้วดฟกัสลงทุนไปเลยเพราะวิเคราะห์ละเอียดแล้ว
ดร.นิเวศ : ฟิชเชอร์ดูละเอียดมากเอาข้อมูลจากรอบบริษัทมาศึกษาให้ละเอียอด ว่าเป็น top กำลังเติบโต ทุกอย่างดีหมด ซื้อแพงก็ไม่ว่า แต่ถือยาวโตไปเรื่อยๆ กำไรเลยมหาศาล
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 15
บัฟเฟด
พี่วิบูลย์ : เป็นตำนานการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่เขาก็มองว่าเข้าไมได้คิด เกรแฮมเปเนคนคิด เรามาอาศัยร่มไม้ที่เกรแฮมปลุกไว้ ประวัติย์ย่อๆของบัฟเฟดคือ จบ ป ตรีก้ไปทำงานกับพ่อที่เป้นนายหน้าค้าหุ้น แรกๆก็ซื้อๆขายๆ แจต่เขาคิดว่าไม่ใช่วิธีลงทุนที่ถูกต้อง จนไปอ่านเจอ intelligent investor แล้วรู้ว่านี่เป้นวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง แล้วไปเรียน ป โทกับเกรแฮม ได้ 100 คะแนนเต็มคนแรกจองเกรแฮม จบแล้วก็ยังไมได้ทำงานกับเกรมแฮมจน 2 ปีตำแหน่งว่างจึงได้ทำงานกับเกรแฮมเป้นนักวิเคราะหืหลักทรัพยืให้กองทุนที่เกรแฮมบริหาร
หลักการลงทุนของบัฟเฟด ก็ 70% เป้นของเกรแฮม 30% เป้นของฟิชเชอ ตุถ้าไปดูตอนนี้จะพบว่าเริ่มเป็นวิธีของฟิชเชอร์มากขึ้น การลงทุนของเขาในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาจะทบต้นราวๆ 20%ต่อปี คือหุ้น 20เหรีญเป้น 2แสนเหรียญในปัจจุบัน
ดร.กุสยา หลักคือรู้ในสิ่งที่ตนเองไปลงทุนจริงๆ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจจะไม่เข้าไปลงทุน อย่างบัฟเฟดไม่รู้เทคโนโลยีไม่เช้าใจก็ไม่ลงทุน แต่ละลงทุนในบริษัทที่เป้นพื้นฐานทาง ศก คาดการได้ หัวใจสำคัญคือการ อ่านๆๆๆๆ แล้วจะรู้ว่ากำไร รายได้มาจากไหน ผู้บริหารซื่อสัตย์ เพราะเวลาซื้อแล้วเขาคิดว่าเป็นการซื้อ ธุรกิจถือไปได้ตลอด มีกฎคือ 2 ข้อคือ 1 ต้องไม่ขาดทุน 2 ต้องไม่ลืมกฎข้อแรก
พี่เวป ; ตอนแรกเงินยังน้อยก็เปเนแบบเกรแฮม พอเงินเยอะเข้าก็เปลี่ยนมาลงทุนแบบฟิชเชอเพราะพอทใหญ่ขยับยากเลยจ้องมองหากิจการที่เข้าใจแล้วลงทุนยาวอนาคตเป้นแบบไหน อย่างโนเกีย กับวินโด เมือ่ก่อนก็แข็งแกร่งแต่ตอนนี้มันก็อ่อนด้อนลงไปมาก ถ้าเข้าใจว่าอนยาคตจะโตไปยังไงก็ไม่ซื้อ บางตัวซื้อแล้วบัฟเฟดห็ขายออกไปบ้างเพราะต้องการเอาไปลงทุนอย่างอื่นแต่ราคาที่เขาซื้อถ้าถือก็สามารถถือได้ตลอดไป
ดร.นิเวศ ; วิธีการแบบบัฟเฟดบางทีก็เรียนแบบไมได้ บางทีเขาก็สามารถสั่งบริษัทได้อย่างที่เขาต้องการเพราะถือหุ้นจำนวนมาก อย่างเรื่องปันผล ซื้อหุ้นคืนเป้นต้น แต่ไม่ก้าวกายการบริหาร
หลักอีกข้อคือบัฟเฟดของกำไรจากการไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ชอบอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เช่น 10 ปีเคยทำธุรกิจอะไรก็ทำแบบเดิม ขายน้ำอัดลมแบบเดิม ชอคโกแลตแบบเดิม นสพก็เหมือนเดิม รถไฟก็ขนส่งแบบเดิมๆ ถ้ามันโตก้สบายๆ และบัฟเฟดไม่เคยลงทุนที่ปีไหนกำไรเกิน 100% แต่เน้นโต 20%ไปเรื่อยๆ
พี่วิบูลย์ : เป็นตำนานการลงทุนแบบเน้นคุณค่า แต่เขาก็มองว่าเข้าไมได้คิด เกรแฮมเปเนคนคิด เรามาอาศัยร่มไม้ที่เกรแฮมปลุกไว้ ประวัติย์ย่อๆของบัฟเฟดคือ จบ ป ตรีก้ไปทำงานกับพ่อที่เป้นนายหน้าค้าหุ้น แรกๆก็ซื้อๆขายๆ แจต่เขาคิดว่าไม่ใช่วิธีลงทุนที่ถูกต้อง จนไปอ่านเจอ intelligent investor แล้วรู้ว่านี่เป้นวิธีการลงทุนที่ถูกต้อง แล้วไปเรียน ป โทกับเกรแฮม ได้ 100 คะแนนเต็มคนแรกจองเกรแฮม จบแล้วก็ยังไมได้ทำงานกับเกรมแฮมจน 2 ปีตำแหน่งว่างจึงได้ทำงานกับเกรแฮมเป้นนักวิเคราะหืหลักทรัพยืให้กองทุนที่เกรแฮมบริหาร
หลักการลงทุนของบัฟเฟด ก็ 70% เป้นของเกรแฮม 30% เป้นของฟิชเชอ ตุถ้าไปดูตอนนี้จะพบว่าเริ่มเป็นวิธีของฟิชเชอร์มากขึ้น การลงทุนของเขาในช่วง 40 ปีที่ผ่านมาจะทบต้นราวๆ 20%ต่อปี คือหุ้น 20เหรีญเป้น 2แสนเหรียญในปัจจุบัน
ดร.กุสยา หลักคือรู้ในสิ่งที่ตนเองไปลงทุนจริงๆ ถ้าไม่รู้ไม่เข้าใจจะไม่เข้าไปลงทุน อย่างบัฟเฟดไม่รู้เทคโนโลยีไม่เช้าใจก็ไม่ลงทุน แต่ละลงทุนในบริษัทที่เป้นพื้นฐานทาง ศก คาดการได้ หัวใจสำคัญคือการ อ่านๆๆๆๆ แล้วจะรู้ว่ากำไร รายได้มาจากไหน ผู้บริหารซื่อสัตย์ เพราะเวลาซื้อแล้วเขาคิดว่าเป็นการซื้อ ธุรกิจถือไปได้ตลอด มีกฎคือ 2 ข้อคือ 1 ต้องไม่ขาดทุน 2 ต้องไม่ลืมกฎข้อแรก
พี่เวป ; ตอนแรกเงินยังน้อยก็เปเนแบบเกรแฮม พอเงินเยอะเข้าก็เปลี่ยนมาลงทุนแบบฟิชเชอเพราะพอทใหญ่ขยับยากเลยจ้องมองหากิจการที่เข้าใจแล้วลงทุนยาวอนาคตเป้นแบบไหน อย่างโนเกีย กับวินโด เมือ่ก่อนก็แข็งแกร่งแต่ตอนนี้มันก็อ่อนด้อนลงไปมาก ถ้าเข้าใจว่าอนยาคตจะโตไปยังไงก็ไม่ซื้อ บางตัวซื้อแล้วบัฟเฟดห็ขายออกไปบ้างเพราะต้องการเอาไปลงทุนอย่างอื่นแต่ราคาที่เขาซื้อถ้าถือก็สามารถถือได้ตลอดไป
ดร.นิเวศ ; วิธีการแบบบัฟเฟดบางทีก็เรียนแบบไมได้ บางทีเขาก็สามารถสั่งบริษัทได้อย่างที่เขาต้องการเพราะถือหุ้นจำนวนมาก อย่างเรื่องปันผล ซื้อหุ้นคืนเป้นต้น แต่ไม่ก้าวกายการบริหาร
หลักอีกข้อคือบัฟเฟดของกำไรจากการไม่เปลี่ยนแปลง เขาไม่ชอบอะไรที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ เช่น 10 ปีเคยทำธุรกิจอะไรก็ทำแบบเดิม ขายน้ำอัดลมแบบเดิม ชอคโกแลตแบบเดิม นสพก็เหมือนเดิม รถไฟก็ขนส่งแบบเดิมๆ ถ้ามันโตก้สบายๆ และบัฟเฟดไม่เคยลงทุนที่ปีไหนกำไรเกิน 100% แต่เน้นโต 20%ไปเรื่อยๆ
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 16
ปีเตอร์ลิช
พี่เวป จุดเด่นคือแบ่งหุ้นออกเป็น 6 กลุ่ม
1หุ้นโตช้า ตาม GDP ปันผลสม่ำเสมอ
2 หุ้นแข็งแกร่ง โต 10-15%
3หุ้นโตเร็ว 20-30%
4หุ้นวัฏจักร รายได้ กำรไ ขึ้นๆลงๆเป้นรอบๆ
5หุ้นฟื้นตัวบริษัทมีปัญหาแล้วกลับมาได้
6หุ้นมีทรัพย์สินมาก แล้วไมได้สะท้อนราคาหุ้น
ถ้าเราเลือหุ้นกลุ่มไหน ก็จะวิเคราะห์แนวทางนั้นเช่นหุ้นโตช้าเราเน้นปันผล ก็ดูว่ามีเงินเยอะไหมจะปันผลได้สม่ำเสมอไหม ถ้าวัฏจักร์ก้ดุว่าอุปสง อุปทานมีการฟื้นตัวหรือยัง
พี่วิบูลย์ แนวที่ที่เสริมคือ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ชอบคิดว่าตนเองเก่งสู้นักวิเคราะหืไมได้ แต่จริงๆแล้วลิชมองว่ารายย่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสารไวกว่านักวิเคราะห์ พอทเขากระจายการลงทุน 1500 ตัวแต่จของเรา 5-10 ตัวก็พอ
ดร.กุสยา ; ชอบที่เขาว่า ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ซื้อหุ้นที่ลง 25% ได้คุรก็จะไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน คือเขาเน้นเรื่อง หุ้นลงให้ซื้อ หุ้นขึ้นให้ขาย
ดร.นิเวศ : ลิชซทื้อขายหุ้นตามรอบๆ หาหุ้นตามห้างไปจ่ายตลาด ซื้อของก็คอยสังเกตไปด้วย ไม่ได้ไปหาหุ้นตามห้องค้าที่บอกมา
พี่เวป จุดเด่นคือแบ่งหุ้นออกเป็น 6 กลุ่ม
1หุ้นโตช้า ตาม GDP ปันผลสม่ำเสมอ
2 หุ้นแข็งแกร่ง โต 10-15%
3หุ้นโตเร็ว 20-30%
4หุ้นวัฏจักร รายได้ กำรไ ขึ้นๆลงๆเป้นรอบๆ
5หุ้นฟื้นตัวบริษัทมีปัญหาแล้วกลับมาได้
6หุ้นมีทรัพย์สินมาก แล้วไมได้สะท้อนราคาหุ้น
ถ้าเราเลือหุ้นกลุ่มไหน ก็จะวิเคราะห์แนวทางนั้นเช่นหุ้นโตช้าเราเน้นปันผล ก็ดูว่ามีเงินเยอะไหมจะปันผลได้สม่ำเสมอไหม ถ้าวัฏจักร์ก้ดุว่าอุปสง อุปทานมีการฟื้นตัวหรือยัง
พี่วิบูลย์ แนวที่ที่เสริมคือ นักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่ชอบคิดว่าตนเองเก่งสู้นักวิเคราะหืไมได้ แต่จริงๆแล้วลิชมองว่ารายย่อยรับรู้ข้อมูลข่าวสารไวกว่านักวิเคราะห์ พอทเขากระจายการลงทุน 1500 ตัวแต่จของเรา 5-10 ตัวก็พอ
ดร.กุสยา ; ชอบที่เขาว่า ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมตัวเองให้ซื้อหุ้นที่ลง 25% ได้คุรก็จะไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน คือเขาเน้นเรื่อง หุ้นลงให้ซื้อ หุ้นขึ้นให้ขาย
ดร.นิเวศ : ลิชซทื้อขายหุ้นตามรอบๆ หาหุ้นตามห้างไปจ่ายตลาด ซื้อของก็คอยสังเกตไปด้วย ไม่ได้ไปหาหุ้นตามห้องค้าที่บอกมา
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- champ_st
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 533
- ผู้ติดตาม: 0
Re: สรุปสัมนา 17/4/2554
โพสต์ที่ 17
โชรอส
ดร.กุสยา เรารู้จักกันตอนปี 40 ที่มาเก็งกำไรค่าเงินในบ้านเรา เป้นคนที่ลงทุนได้หลากหลายทั้งคอมโม หุ้น ค่าเงิน เน้นลงทุนหลือหวา หาข้อมูลได้มากกว่าคนอื่น
พี่เวป รู้เรื่องเขาน้อย คนที่เขียนถึงโซรอสก็ไม่น่าจะรู้มากจริง โวรอสเขียนหนังสือผมก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ชอบประโยคที่ว่า “เวลาขาดทุนกำไรไมได้สำคัยว่าคุณได้เสียกี่ % แต่สนใจว่าคุณได้กำไรหรือขาดทุนมากเท่าไหร่”
พี่วิบูลย์ หนังสือเขาอ่านเข้าใจยาก ซื้อโซรอสบอกว่าการลงทุนของเขาเสี่ยงน้อย ดูดาวไซมากกว่าอัพไซ ตอนที่ไปโจมตีค่าเงินอังกฤษ เพราเค้ามองว่าถ้าโจมตีค่าเงินให้ลดลง 10% เขาได้กำไร 100% แต่ถ้าไม่สำเร็จเขาก็เสี่ยแค่อัตราเงินที่กู้มา 4% เท่านั้น
ดร.นิเวศ ; หลังๆคนยอมรับเขามากขึ้นเพราแนวคิดปรัชญาเขาใชได้ อย่างเรื่อง รีเฟลกซิบิลี้ตี้ ที่ต่างจากวิทยาศาสตร์คือ พระอาทิตจะขึ้นตอนเข้าไม่ว่าเราจะเอาอะไรก้ตาม แต่ ทบในทางสังคม การกระทำของคนหนึ่งจะส่งผลกระทบไปยังอีกคนหนึ่งกระทบกันไปเป็นลูกโซ หรือคุณบุกเราก็บุก ถ้าคุณอยู่เฉยๆเราก็อยู่เฉยๆ เหมือนหุ้น ถ้าไม่มีการซื้อขายราคาก็อยู่แค่นั้นของมัน ถ้าเราเคาะซื้อ ราคาก็บวก พอคนเห๋นราคาบวกก็มาสนใจมาดูถ้าเขาซื้ออีกมันก็บวกอีกเราคนซื้อคนแรกเห้นมันบวกก็คิดว่าเราคิดถูกก็ซื้อไปอีก มันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ
กรณีฟองสบูอสังหาก็ด้วย คนซื้อบ้านก็ผ่อนบ้านจนวันหนึงก็เอาตราสารที่ผ่อนบ้านมาออก CDO ขายให้นักลงทุน ได้กำไร ก็เลยมาปล่อยกู้อีก ก็กู้กันไป ออกตราสารกันไป บ้านก็ราคาขึ้น คนผ่อนก็สบาย คนซื้อตราสารก็รวยสุดท้ายก็เป้นฟองสบู่
หรือตอนอังกฤษ EU จะรวมค่าเงินก็ต้องห้ค่าเงินประเทศต่างๆไม่ผันผวนมาก ขึ้นมากไมได้ ก็ไปเกิดวิกฤษเยอรมันเข้าก็แก้ปัยหาด้วยการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ประเทศต่างๆก้ต้องขึ้นตามๆกันไป แต่อังกฤษตอนนั้นมีปัญหา ศก ก็ไปขึ้นดอกเบี้ยตามมันก้แย่ ค่าเงิน ศก ไมได้ โซรอสเห้นโอกาสตรงนั้นก็เป็นคนแรกที่กระโดดเข้าไปโจมตี พอมีคนนำคนอื่นเห้นว่ามันไม่น่าจะไหว ก็เข้าไปใส่ด้วยมันก็เลยล้ม
ดร.กุสยา เรารู้จักกันตอนปี 40 ที่มาเก็งกำไรค่าเงินในบ้านเรา เป้นคนที่ลงทุนได้หลากหลายทั้งคอมโม หุ้น ค่าเงิน เน้นลงทุนหลือหวา หาข้อมูลได้มากกว่าคนอื่น
พี่เวป รู้เรื่องเขาน้อย คนที่เขียนถึงโซรอสก็ไม่น่าจะรู้มากจริง โวรอสเขียนหนังสือผมก็อ่านไม่รู้เรื่อง แต่ชอบประโยคที่ว่า “เวลาขาดทุนกำไรไมได้สำคัยว่าคุณได้เสียกี่ % แต่สนใจว่าคุณได้กำไรหรือขาดทุนมากเท่าไหร่”
พี่วิบูลย์ หนังสือเขาอ่านเข้าใจยาก ซื้อโซรอสบอกว่าการลงทุนของเขาเสี่ยงน้อย ดูดาวไซมากกว่าอัพไซ ตอนที่ไปโจมตีค่าเงินอังกฤษ เพราเค้ามองว่าถ้าโจมตีค่าเงินให้ลดลง 10% เขาได้กำไร 100% แต่ถ้าไม่สำเร็จเขาก็เสี่ยแค่อัตราเงินที่กู้มา 4% เท่านั้น
ดร.นิเวศ ; หลังๆคนยอมรับเขามากขึ้นเพราแนวคิดปรัชญาเขาใชได้ อย่างเรื่อง รีเฟลกซิบิลี้ตี้ ที่ต่างจากวิทยาศาสตร์คือ พระอาทิตจะขึ้นตอนเข้าไม่ว่าเราจะเอาอะไรก้ตาม แต่ ทบในทางสังคม การกระทำของคนหนึ่งจะส่งผลกระทบไปยังอีกคนหนึ่งกระทบกันไปเป็นลูกโซ หรือคุณบุกเราก็บุก ถ้าคุณอยู่เฉยๆเราก็อยู่เฉยๆ เหมือนหุ้น ถ้าไม่มีการซื้อขายราคาก็อยู่แค่นั้นของมัน ถ้าเราเคาะซื้อ ราคาก็บวก พอคนเห๋นราคาบวกก็มาสนใจมาดูถ้าเขาซื้ออีกมันก็บวกอีกเราคนซื้อคนแรกเห้นมันบวกก็คิดว่าเราคิดถูกก็ซื้อไปอีก มันก็ขึ้นไปเรื่อยๆ
กรณีฟองสบูอสังหาก็ด้วย คนซื้อบ้านก็ผ่อนบ้านจนวันหนึงก็เอาตราสารที่ผ่อนบ้านมาออก CDO ขายให้นักลงทุน ได้กำไร ก็เลยมาปล่อยกู้อีก ก็กู้กันไป ออกตราสารกันไป บ้านก็ราคาขึ้น คนผ่อนก็สบาย คนซื้อตราสารก็รวยสุดท้ายก็เป้นฟองสบู่
หรือตอนอังกฤษ EU จะรวมค่าเงินก็ต้องห้ค่าเงินประเทศต่างๆไม่ผันผวนมาก ขึ้นมากไมได้ ก็ไปเกิดวิกฤษเยอรมันเข้าก็แก้ปัยหาด้วยการขึ้นดอกเบี้ย ทำให้ประเทศต่างๆก้ต้องขึ้นตามๆกันไป แต่อังกฤษตอนนั้นมีปัญหา ศก ก็ไปขึ้นดอกเบี้ยตามมันก้แย่ ค่าเงิน ศก ไมได้ โซรอสเห้นโอกาสตรงนั้นก็เป็นคนแรกที่กระโดดเข้าไปโจมตี พอมีคนนำคนอื่นเห้นว่ามันไม่น่าจะไหว ก็เข้าไปใส่ด้วยมันก็เลยล้ม
"สิ่งที่ถูกต้องก็คือถูกต้อง แม้ไม่มีใครทำสิ่งนั้น สิ่งที่ผิดก็คือผิด แม้ทุกคนจะทำสิ่งนั้น" ศาสตราจารย์สังเวียน อินทรวิชัย
- MO101
- Verified User
- โพสต์: 3226
- ผู้ติดตาม: 1