อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
-
- Verified User
- โพสต์: 109
- ผู้ติดตาม: 0
อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
โพสต์ที่ 1
อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
ผมคือคนนึงที่เป็น "แมลงเม่า" ซ้ำซาก -
“แมลงเม่า” ในตลาดหุ้น ผมมักจะซื้อหุ้นที่ไม่ควรซื้อ (หุ้นพื้นฐานไม่ดี) และซื้อในเวลาที่ไม่ควรซื้อ (หุ้นวิ่งสูงมากแล้ว) และชอบขายหุ้นที่ดีในเวลาที่ไม่ควรขาย (ขายหมู) นี่คือเหตุผลที่ลงทุนแล้วไม่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ตัวอย่างเช่นถ้าหุ้นตัวหนึ่งราคาวันแรกตกไป 10% ก็ยังไม่ Cut Loss วันถัดไปตกต่อก็ไม่กล้า Cut Loss สุดท้ายพอตกลงไปถึง 40% ก็ยอมขายขาดทุนออกมา พอขายเสร็จไม่นานหุ้นจะขึ้นหลังจากนั้นเป็นประจำ แต่พอตลาดตกแรงๆ ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวจะลงไปอีก พอซื้อแล้วลงต่อก็ไม่กล้าเข้าไปซื้อเพิ่ม สุดท้ายไม่เคยซื้อหุ้นได้ในราคาถูกเลย
อีกกรณีหนึ่งคือแมลงเม่าจะทนเห็นตลาดหุ้นขึ้นแรงๆ ไม่ได้จะต้องมองหา "หุ้นที่ยังไม่ขึ้น" แล้วเข้าซื้อเพราะไม่อยาก “ตกขบวน” ผลคือมักจะไปได้หุ้นที่ไม่ดีในราคาที่ไม่ถูกมาเสมอ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคายังไม่แพง"
แต่ผมอยากจะกลับตัวและใจเป็น "นักลงทุน VI แล้ว"
มีจุดใหนที่ผมสมควรสึกสาบ้างครับถึงจะหาหุ้นที่มีอนาคต และ เป็นคนลงทุนเก่ง?
ที่ผมคิดออกคือ
1. ดูงบการเงินเป็น
2. รู้จัก Business Segmentation นั้นและ Business Company ให้ดี
3. ดู Global Economy + Domestic Economy และการกระทบต่อหุ้นนั้นๆ
Thank you krub
ผมคือคนนึงที่เป็น "แมลงเม่า" ซ้ำซาก -
“แมลงเม่า” ในตลาดหุ้น ผมมักจะซื้อหุ้นที่ไม่ควรซื้อ (หุ้นพื้นฐานไม่ดี) และซื้อในเวลาที่ไม่ควรซื้อ (หุ้นวิ่งสูงมากแล้ว) และชอบขายหุ้นที่ดีในเวลาที่ไม่ควรขาย (ขายหมู) นี่คือเหตุผลที่ลงทุนแล้วไม่ประสบความสำเร็จมากที่สุด
ตัวอย่างเช่นถ้าหุ้นตัวหนึ่งราคาวันแรกตกไป 10% ก็ยังไม่ Cut Loss วันถัดไปตกต่อก็ไม่กล้า Cut Loss สุดท้ายพอตกลงไปถึง 40% ก็ยอมขายขาดทุนออกมา พอขายเสร็จไม่นานหุ้นจะขึ้นหลังจากนั้นเป็นประจำ แต่พอตลาดตกแรงๆ ก็ไม่กล้าซื้อเพราะกลัวจะลงไปอีก พอซื้อแล้วลงต่อก็ไม่กล้าเข้าไปซื้อเพิ่ม สุดท้ายไม่เคยซื้อหุ้นได้ในราคาถูกเลย
อีกกรณีหนึ่งคือแมลงเม่าจะทนเห็นตลาดหุ้นขึ้นแรงๆ ไม่ได้จะต้องมองหา "หุ้นที่ยังไม่ขึ้น" แล้วเข้าซื้อเพราะไม่อยาก “ตกขบวน” ผลคือมักจะไปได้หุ้นที่ไม่ดีในราคาที่ไม่ถูกมาเสมอ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อหุ้นดีๆ ที่ราคายังไม่แพง"
แต่ผมอยากจะกลับตัวและใจเป็น "นักลงทุน VI แล้ว"
มีจุดใหนที่ผมสมควรสึกสาบ้างครับถึงจะหาหุ้นที่มีอนาคต และ เป็นคนลงทุนเก่ง?
ที่ผมคิดออกคือ
1. ดูงบการเงินเป็น
2. รู้จัก Business Segmentation นั้นและ Business Company ให้ดี
3. ดู Global Economy + Domestic Economy และการกระทบต่อหุ้นนั้นๆ
Thank you krub
"Not until just before dawn do people sleep best; not until people get old do they become wise."
-
- Verified User
- โพสต์: 872
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
โพสต์ที่ 2
แนะนำให้อ่านบทความนี้ครับ
ปันผลคือพื้นฐานหุ้น
http://www.thaivi.com/2010/09/551/
แล้วถามตัวเองว่าปันผลมาจากไหน จะจ่ายเท่าเดิม มากขึ้น หรือน้อยลงหรือไม่ เพราะอะไร
ถามต่อๆไปเรื่อยๆครับ
สำหรับพฤติกรรมของเม่า อันนี้ตรงเป๊ะครับ เมื่อมองเห็นแล้วก็อย่าไปทำตามนั้นเป็นพอ
ปันผลคือพื้นฐานหุ้น
http://www.thaivi.com/2010/09/551/
แล้วถามตัวเองว่าปันผลมาจากไหน จะจ่ายเท่าเดิม มากขึ้น หรือน้อยลงหรือไม่ เพราะอะไร
ถามต่อๆไปเรื่อยๆครับ
สำหรับพฤติกรรมของเม่า อันนี้ตรงเป๊ะครับ เมื่อมองเห็นแล้วก็อย่าไปทำตามนั้นเป็นพอ
-
- Verified User
- โพสต์: 2547
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
โพสต์ที่ 4
การกลับใจได้หรือไม่นั้น ผมคิดว่าอยู่ที่การปรับแนวคิดและพฤติกรรมให้ถูกต้องก่อนครับ ลองอ่านบทความนี้ดูก่อนนะครับ น่าจะเป็นประโยชน์ครับ
ส่วนความรู้ในเรื่องการเน้นคุณค่าหุ้นมีมากมาย หากตั้งใจและปรับใจไม่ให้ลุ่มหลงไปกับราคาระยะสั้น หรือสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งเร้า ไม่ว่าจะเป็นราคาขึ้นหรือลงได้แล้ว ที่เหลือก็ไม่ยากแล้วครับ
ขออนุญาตคุณวิบูลย์ พึงประเสริฐเจ้าของบทความที่ลงใน Thaivi ด้วยครับ
ลงทุนแบบเน้นคุณค่า
วิบูลย์ พึงประเสริฐ
ผู้ เขียนได้มีโอกาสร่วมงานสัมมนาของคุณเอก พิทยา เอี่ยมคงเอกของบริษัทหลักทรัพย์บีฟิท เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ร่วมกับคุณมนตรี ผู้เขียนร่วมของคอลัมน์ Value Way มีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ไม่ได้ทำงานประจำ เพราะเป็นช่วงเวลาบ่ายๆของวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุด
หัว ข้อที่สัมนาในวันนั้นพูดถึงเรื่องของการลง ทุนแบบเน้นคุณค่าว่าเป็นอย่างไร นักลงทุนรายย่อยโดยทั่วไปจะเริ่มลงทุนแนวนี้ด้วยวิธีไหน
นัก ลงทุนรายย่อยในตลาดเมืองไทยมักเป็น”นักเก็ง กำไร”ซะเป็นส่วนมาก เพราะการเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดหุ้นนั้น เป็นเรื่องที่สนุก ตื่นเต้น และท้าทายคล้ายๆกับการเล่นพนันในบ่อนการพนันอย่างไรอย่างนั้น มีได้มีเสีย รวมทั้งมีเรื่องให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา
เซียน หุ้นเมืองไทยมักเริ่มต้นจากการเก็งกำไรจน พอร์ตเติบโตกันเป็นร้อยเป็นพันล้านในเวลาไม่นาน ทำให้นักลงทุนทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าคิดว่าตนเองจะมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน เหมือนเซียนๆเหล่านั้นบ้าง การเก็งกำไรจึงไม่เคยจางหายจากตลาดหุ้นไทย
ถ้า การเก็งกำไรเป็นเรื่อง”ง่าย” ทุกคนในตลาดหุ้นคงเป็นเศรษฐีพันล้านกันหมดแล้ว แต่ในความเป็นจริงนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่มักขาดทุนในระยะยาวแสดงว่าการเก็งกำไรอาจไม่เหมาะกับทุกคนในตลาด หุ้นก็เป็นไปได้
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า จึงเป็น”คำตอบ”สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการค้นหาหลักการลงทุนในตลาดหุ้น แบบอื่นๆนอกเหนือจากการเก็งกำไร
แต่พบว่านักลงทุนแบบ เน้นคุณค่าในตลาดหุ้นไทยมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับนักเก็งกำไรสาเหตุที่การลงทุนแบบเน้นคุณค่าไม่ค่อยได้รับ ความนิยมจากนักลงทุนรายย่อยอาจเป็นุดังนี้
หนึ่ง การลงทุนที่แท้จริงเป็นเรื่องน่าเบื่อและไม่น่าตื่นเต้น การซื้อหุ้นแล้วทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่ได้ซื้อขายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการมีกิจกรรมในตลาดหุ้น การซื้อๆขายๆรายวันเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนรู้สึกสนุกกับตลาดหุ้น ถ้าปราศจากการเทรดหุ้นเสียแล้ว การลงทุนคงไร้ซึ่งสีสัน
สอง คิดว่าต้องมีความรู้ในทางบัญชีมาก นักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงินเลยคงคิดว่าการลงทุนแบบเน้น คุณค่าคง”ยาก”เกินไปสำหรับเขาแน่ๆ การอ่านงบการเงินจนแตกฉานคงทำได้เฉพาะผู้ที่จบบัญชีและบริหารเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การอ่านงบการเงินทำได้ไม่ยากนัก และไม่ต้องอาศัยปริญญาทางบัญชีแต่อย่างใด เพียงแค่ขยันและเข้าใจในหัวข้อทางการเงินต่างๆก็เพียงพอแล้ว
สาม การลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้องอดทนและใช้เวลานาน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้อง ใช้เวลาใน การที่จะทำให้เงินลงทุนงอกเงยด้วยหลักการของ”ผลตอบแทนทบต้น” ซึ่งในช่วงแรกๆที่เงินลงทุนน้อยคงยังเห็นผลได้ไม่ชัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลตอบแทนทบต้นที่ทำได้จะเพิ่มทวีคูณขึ้นในปีหลังๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการผลตอบแทนเร็วๆซะมากกว่า จึงไม่สามารถรอคอยเวลานั้นได้ จะ เห็นว่าการ เริ่มต้นลงทุนแบบเน้นคุณค่าคงต้องมากจากการเปลี่ยนแปลงใน”ความคิด”ของตัวนัก ลงทุนเองเสียก่อน ทั้งในเรื่องของความอดทน ความรู้และจิตใจที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจากการเก็งกำไรมาเป็นการลงทุน ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิดถ้าตั้งใจจริง
ส่วนความรู้ในเรื่องการเน้นคุณค่าหุ้นมีมากมาย หากตั้งใจและปรับใจไม่ให้ลุ่มหลงไปกับราคาระยะสั้น หรือสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งเร้า ไม่ว่าจะเป็นราคาขึ้นหรือลงได้แล้ว ที่เหลือก็ไม่ยากแล้วครับ
ขออนุญาตคุณวิบูลย์ พึงประเสริฐเจ้าของบทความที่ลงใน Thaivi ด้วยครับ
ลงทุนแบบเน้นคุณค่า
วิบูลย์ พึงประเสริฐ
ผู้ เขียนได้มีโอกาสร่วมงานสัมมนาของคุณเอก พิทยา เอี่ยมคงเอกของบริษัทหลักทรัพย์บีฟิท เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2550 ร่วมกับคุณมนตรี ผู้เขียนร่วมของคอลัมน์ Value Way มีผู้เข้าร่วมฟังการบรรยายจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนรายย่อยที่ไม่ได้ทำงานประจำ เพราะเป็นช่วงเวลาบ่ายๆของวันธรรมดา ไม่ใช่วันหยุด
หัว ข้อที่สัมนาในวันนั้นพูดถึงเรื่องของการลง ทุนแบบเน้นคุณค่าว่าเป็นอย่างไร นักลงทุนรายย่อยโดยทั่วไปจะเริ่มลงทุนแนวนี้ด้วยวิธีไหน
นัก ลงทุนรายย่อยในตลาดเมืองไทยมักเป็น”นักเก็ง กำไร”ซะเป็นส่วนมาก เพราะการเก็งกำไรระยะสั้นในตลาดหุ้นนั้น เป็นเรื่องที่สนุก ตื่นเต้น และท้าทายคล้ายๆกับการเล่นพนันในบ่อนการพนันอย่างไรอย่างนั้น มีได้มีเสีย รวมทั้งมีเรื่องให้ลุ้นกันอยู่ตลอดเวลา
เซียน หุ้นเมืองไทยมักเริ่มต้นจากการเก็งกำไรจน พอร์ตเติบโตกันเป็นร้อยเป็นพันล้านในเวลาไม่นาน ทำให้นักลงทุนทั้งรุ่นใหม่รุ่นเก่าคิดว่าตนเองจะมีเงินเป็นร้อยล้านพันล้าน เหมือนเซียนๆเหล่านั้นบ้าง การเก็งกำไรจึงไม่เคยจางหายจากตลาดหุ้นไทย
ถ้า การเก็งกำไรเป็นเรื่อง”ง่าย” ทุกคนในตลาดหุ้นคงเป็นเศรษฐีพันล้านกันหมดแล้ว แต่ในความเป็นจริงนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่มักขาดทุนในระยะยาวแสดงว่าการเก็งกำไรอาจไม่เหมาะกับทุกคนในตลาด หุ้นก็เป็นไปได้
การลงทุนแบบเน้นคุณค่า จึงเป็น”คำตอบ”สำหรับนักลงทุนรายย่อยที่ต้องการค้นหาหลักการลงทุนในตลาดหุ้น แบบอื่นๆนอกเหนือจากการเก็งกำไร
แต่พบว่านักลงทุนแบบ เน้นคุณค่าในตลาดหุ้นไทยมีไม่มากนักเมื่อเทียบกับนักเก็งกำไรสาเหตุที่การลงทุนแบบเน้นคุณค่าไม่ค่อยได้รับ ความนิยมจากนักลงทุนรายย่อยอาจเป็นุดังนี้
หนึ่ง การลงทุนที่แท้จริงเป็นเรื่องน่าเบื่อและไม่น่าตื่นเต้น การซื้อหุ้นแล้วทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่ได้ซื้อขายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการมีกิจกรรมในตลาดหุ้น การซื้อๆขายๆรายวันเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนรู้สึกสนุกกับตลาดหุ้น ถ้าปราศจากการเทรดหุ้นเสียแล้ว การลงทุนคงไร้ซึ่งสีสัน
สอง คิดว่าต้องมีความรู้ในทางบัญชีมาก นักลงทุนรายย่อยที่ไม่มีความรู้ทางด้านการเงินเลยคงคิดว่าการลงทุนแบบเน้น คุณค่าคง”ยาก”เกินไปสำหรับเขาแน่ๆ การอ่านงบการเงินจนแตกฉานคงทำได้เฉพาะผู้ที่จบบัญชีและบริหารเท่านั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การอ่านงบการเงินทำได้ไม่ยากนัก และไม่ต้องอาศัยปริญญาทางบัญชีแต่อย่างใด เพียงแค่ขยันและเข้าใจในหัวข้อทางการเงินต่างๆก็เพียงพอแล้ว
สาม การลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้องอดทนและใช้เวลานาน ปฏิเสธไม่ได้ว่าการลงทุนแบบเน้นคุณค่าต้อง ใช้เวลาใน การที่จะทำให้เงินลงทุนงอกเงยด้วยหลักการของ”ผลตอบแทนทบต้น” ซึ่งในช่วงแรกๆที่เงินลงทุนน้อยคงยังเห็นผลได้ไม่ชัด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ผลตอบแทนทบต้นที่ทำได้จะเพิ่มทวีคูณขึ้นในปีหลังๆ นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการผลตอบแทนเร็วๆซะมากกว่า จึงไม่สามารถรอคอยเวลานั้นได้ จะ เห็นว่าการ เริ่มต้นลงทุนแบบเน้นคุณค่าคงต้องมากจากการเปลี่ยนแปลงใน”ความคิด”ของตัวนัก ลงทุนเองเสียก่อน ทั้งในเรื่องของความอดทน ความรู้และจิตใจที่พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจากการเก็งกำไรมาเป็นการลงทุน ซึ่งไม่ยากอย่างที่คิดถ้าตั้งใจจริง
Circle of competence
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
I don't think it's as difficult to figure out competence as it may appear.
If you're 5-foot-2, you don't have much future in the NBA.
What I need to get ahead is to be better than idiots.
Charlie Munger
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 458
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อะไรคือพื้นฐานของ Value ในตัวหุ้นครับ?
โพสต์ที่ 5
"หนึ่ง การลงทุนที่แท้จริงเป็นเรื่องน่าเบื่อและไม่น่าตื่นเต้น การซื้อหุ้นแล้วทิ้งไว้เฉยๆโดยไม่ได้ซื้อขายนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าสนใจ สำหรับคนที่ต้องการมีกิจกรรมในตลาดหุ้น การซื้อๆขายๆรายวันเป็นสิ่งที่ช่วยให้นักลงทุนรู้สึกสนุกกับตลาดหุ้น ถ้าปราศจากการเทรดหุ้นเสียแล้ว การลงทุนคงไร้ซึ่งสีสัน"
ส่วนตัวผมว่าการลงทุนแนว VI ไม่น่าเบื่อเลยนะครับ ออกจะสนุกอีกต่างหาก
ส่วนตัวผมว่าการลงทุนแนว VI ไม่น่าเบื่อเลยนะครับ ออกจะสนุกอีกต่างหาก