คิดแล้วก็แปลกดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 1
สมมุติว่าหุ้นตัวนึง กำไร 1 บาท ราคา 10 บาท แล้วราคาลงเหลือ 4 บาท
ถ้าเราบอกเพื่อนว่า ซื้อหุ้นตัวนี้มั๊ย
ราคาลงจาก 10 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อนก็คงจะถามว่า อ่า แล้วมันจะลงต่อมั๊ย
แต่ถ้าเรา บอกเพื่อนว่า หุ้นตัวนึง แต่ก่อนนะ ได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์
ตอนนี้ เขาเพิ่มผลตอบแทนให้ เป็น 25 % ต่อปี
สนใจซื้อมั๊ย
เพื่อนคงจะตอบว่า จริงเหรอ แล้วทำไมเขาเพิ่มผลตอบแทนให้หละ
เราก็ตอบไปว่า ไม่รู้ซิ จะซื้อมั๊ยหละ เพราะผลตอบแทนแบบนี้คุ้มค่า ไม่รู้อีกหน่อยจะซื้อได้หรือไม่
เขียนเล่นๆ ตอน dow rebound +19.1 %
โดยส่วนตัว ก็แปลกใจว่า เมืองไทย และทั่วโลก ทำไมต้องไปลงพร้อมๆกับ ดาวโจน
และที่สำคัญ ทำไมต้องมี ดัชนี
ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
ถ้าเราบอกเพื่อนว่า ซื้อหุ้นตัวนี้มั๊ย
ราคาลงจาก 10 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อนก็คงจะถามว่า อ่า แล้วมันจะลงต่อมั๊ย
แต่ถ้าเรา บอกเพื่อนว่า หุ้นตัวนึง แต่ก่อนนะ ได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์
ตอนนี้ เขาเพิ่มผลตอบแทนให้ เป็น 25 % ต่อปี
สนใจซื้อมั๊ย
เพื่อนคงจะตอบว่า จริงเหรอ แล้วทำไมเขาเพิ่มผลตอบแทนให้หละ
เราก็ตอบไปว่า ไม่รู้ซิ จะซื้อมั๊ยหละ เพราะผลตอบแทนแบบนี้คุ้มค่า ไม่รู้อีกหน่อยจะซื้อได้หรือไม่
เขียนเล่นๆ ตอน dow rebound +19.1 %
โดยส่วนตัว ก็แปลกใจว่า เมืองไทย และทั่วโลก ทำไมต้องไปลงพร้อมๆกับ ดาวโจน
และที่สำคัญ ทำไมต้องมี ดัชนี
ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 2141
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 6
พี่ jeng ครับ พูดตรงๆ เอาอะไรไม่ได้หรอกครับเรื่องแบบนี้ การ short ยังถูกคิดค้นขึ้นมาJeng เขียน:สมมุติว่าหุ้นตัวนึง กำไร 1 บาท ราคา 10 บาท แล้วราคาลงเหลือ 4 บาท
ถ้าเราบอกเพื่อนว่า ซื้อหุ้นตัวนี้มั๊ย
ราคาลงจาก 10 บาท เหลือ 4 บาท เพื่อนก็คงจะถามว่า อ่า แล้วมันจะลงต่อมั๊ย
แต่ถ้าเรา บอกเพื่อนว่า หุ้นตัวนึง แต่ก่อนนะ ได้ผลตอบแทน 10 % ต่อปี มากกว่าดอกเบี้ยแบงค์
ตอนนี้ เขาเพิ่มผลตอบแทนให้ เป็น 25 % ต่อปี
สนใจซื้อมั๊ย
เพื่อนคงจะตอบว่า จริงเหรอ แล้วทำไมเขาเพิ่มผลตอบแทนให้หละ
เราก็ตอบไปว่า ไม่รู้ซิ จะซื้อมั๊ยหละ เพราะผลตอบแทนแบบนี้คุ้มค่า ไม่รู้อีกหน่อยจะซื้อได้หรือไม่
เขียนเล่นๆ ตอน dow rebound +19.1 %
โดยส่วนตัว ก็แปลกใจว่า เมืองไทย และทั่วโลก ทำไมต้องไปลงพร้อมๆกับ ดาวโจน
และที่สำคัญ ทำไมต้องมี ดัชนี
ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
การทำกำไรจากหายนะของคนอื่น
ตรรกะมันยังไง.......... จุดประสงค์มันเปลี่ยนไปนานแล้วหละครับ
M aterial catalyst
A ttitude & Perception
D isclipine
A ttitude & Perception
D isclipine
- Packy_Kittiworawut
- Verified User
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 7
ผมเชื่อ Zero Sum game
ต่างชาติ สถาบันขายแพง = นลท.ในประเทศซื้อแพง
ทุนต่ำกำไรสูง ขายออกทำกำไร อีกด้านทุนสูง ติด โดน Force sell ,Cut loss, รอไม่ไหว ขายต่ำกว่าทุน
ปริมาณการซื้อขาย Peak แบบนี้ผมไม่กล้าลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ครับ น้ำมันเชี่ยว เรือผมลำเล็ก ขอรอให้คลื่นลมสงบครับ
ผมมือใหม่นะครับ
ต่างชาติ สถาบันขายแพง = นลท.ในประเทศซื้อแพง
ทุนต่ำกำไรสูง ขายออกทำกำไร อีกด้านทุนสูง ติด โดน Force sell ,Cut loss, รอไม่ไหว ขายต่ำกว่าทุน
ปริมาณการซื้อขาย Peak แบบนี้ผมไม่กล้าลงทุนเพิ่มเท่าไหร่ครับ น้ำมันเชี่ยว เรือผมลำเล็ก ขอรอให้คลื่นลมสงบครับ
ผมมือใหม่นะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 69
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 9
ผมคิดว่ามันก็ต้องดูหุ้นเป็นตัวๆไปน่ะครับ
ถ้ากิจการขาดทุนขึ้นมาล่ะครับ
ถ้ากิจการขาดทุนขึ้นมาล่ะครับ
- harlembeats
- Verified User
- โพสต์: 96
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 10
เป็นแนวคิดดีๆคับ ขอบคุณคับ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 11
เวลาหุ้นลงมันไม่เลือกหรอกครับ หุ้นตัวไหนพื้นฐานดีไม่ดี แดงทั้งกระดาน
ผ่านวิกฤติกันมาหลายรอบ ก้แดงทั้งกระดานก่อนทุกรอบแหล่ะครับ จริงไหม
เหมือนเทเพชรมั่งกากมั่งคนๆๆรวมๆๆกันไป แล้วเท ใครตาถึงก้ได้เพชร ใครตาบอด
ก้เอากากไป แต่ผมว่า การเลือกที่จะซื้อหุ้นที่ไม่กระทบต่อวิกฤตินั้นๆๆ ดีที่สุด
ดังนั้นเราต้องมองให้ออกว่า วิกฤตินี้ใครดีใครแย่
ปี2008 ซัพไพรม์ วนธนกิจ+แบงค์ล้ม
ปี2011 วนธนกิจรวย รัฐบาลเจ๊ง
แค่นี้ก้ ต่างกันมากแล้วครับ
แต่ส่วนหนึ่งที่เหมือนกันรอบนี้คือ หลังคาและเสาบ้านเค้า ก้ปลิวมาบ้านเราทุกครั้ง
เพราะมันคือ โกลบอลไรเซชั่น
ขอบคุณคุณเม่าอินเวสเตอร์ เครดิตรูปภาพจากคุณเม่าอินเวส
ผ่านวิกฤติกันมาหลายรอบ ก้แดงทั้งกระดานก่อนทุกรอบแหล่ะครับ จริงไหม
เหมือนเทเพชรมั่งกากมั่งคนๆๆรวมๆๆกันไป แล้วเท ใครตาถึงก้ได้เพชร ใครตาบอด
ก้เอากากไป แต่ผมว่า การเลือกที่จะซื้อหุ้นที่ไม่กระทบต่อวิกฤตินั้นๆๆ ดีที่สุด
ดังนั้นเราต้องมองให้ออกว่า วิกฤตินี้ใครดีใครแย่
ปี2008 ซัพไพรม์ วนธนกิจ+แบงค์ล้ม
ปี2011 วนธนกิจรวย รัฐบาลเจ๊ง
แค่นี้ก้ ต่างกันมากแล้วครับ
แต่ส่วนหนึ่งที่เหมือนกันรอบนี้คือ หลังคาและเสาบ้านเค้า ก้ปลิวมาบ้านเราทุกครั้ง
เพราะมันคือ โกลบอลไรเซชั่น
ขอบคุณคุณเม่าอินเวสเตอร์ เครดิตรูปภาพจากคุณเม่าอินเวส
แนบไฟล์
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 12
รอบนี้ก้จะเป็นรอบ คัดเลือกหาหุ้น ที่ไม่กระทบต่อวิกฤติทั้งเมกาและยุโรป
เมกา+ยุโรป ----->เน่า----->รัดเข็มขัด ---->ลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย
หุ้นที่จะเป็น perfect stock ที่จะต้องเจอกับ super strom แล้วรอดไปได้
คือ กิจการที่มีหนี้สินน้อย และไม่ไปยุ่งกะพวกเมกาหรือยุโรป ถึงมีโอกาศรอด
หรือเป็นกิจการที่กินใช้ในประเทศเท่านั้น
จึงจะรอด จากวิกฤติรอบนี้
เมกา+ยุโรป ----->เน่า----->รัดเข็มขัด ---->ลดการบริโภคสินค้าฟุ่มเฟือย
หุ้นที่จะเป็น perfect stock ที่จะต้องเจอกับ super strom แล้วรอดไปได้
คือ กิจการที่มีหนี้สินน้อย และไม่ไปยุ่งกะพวกเมกาหรือยุโรป ถึงมีโอกาศรอด
หรือเป็นกิจการที่กินใช้ในประเทศเท่านั้น
จึงจะรอด จากวิกฤติรอบนี้
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- blackninja
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 14
ผมว่าที่มันลงก็เป็นเพราะคนคิดล่วงหน้าไปว่าอนาคตกำไรมันจะได้ไม่ถึง 1บาทเหมือนเดิมทำให้ราคามันลงมา 4 บาทครับ แต่ถ้าคนเชื่อว่ากำไรนิ่งๆอยู่เหมือนเดิมอย่างพวก prop.fund คนก็จะไม่ขายครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 957
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 15
เขาว่ามนุษย์....เป็นสัตว์สังคมประเภทหนึ่ง(หยาบไป ขอโทษ ครับ)
จึงมีพฤติกรรม เแบบไทยมุง แล้วแตกตื่นเป็นหมู่คณะ
แล้วเดี๋ยวนี้..การสื่อสาร มันดีมาก ครับ เลย ออกอาการ ตามๆกัน เร็วมาก ตามตลาดหุ้นเมืองนอก
แต่ได้ยินมาว่า...คนมีความสามารถสูง(กว่าคนอื่น) ก็ทำความร่ำรวยจากเหตุการร์เช่นนี้เป็นประจำ ครับ
...คิดแล้วก็แปลกดี...จริงๆ ครับ พี่Jeng (ผมมือยังใหม่รอเรียนรู้...จากผู้มากประสบการณ์ ครับ)
จึงมีพฤติกรรม เแบบไทยมุง แล้วแตกตื่นเป็นหมู่คณะ
แล้วเดี๋ยวนี้..การสื่อสาร มันดีมาก ครับ เลย ออกอาการ ตามๆกัน เร็วมาก ตามตลาดหุ้นเมืองนอก
แต่ได้ยินมาว่า...คนมีความสามารถสูง(กว่าคนอื่น) ก็ทำความร่ำรวยจากเหตุการร์เช่นนี้เป็นประจำ ครับ
...คิดแล้วก็แปลกดี...จริงๆ ครับ พี่Jeng (ผมมือยังใหม่รอเรียนรู้...จากผู้มากประสบการณ์ ครับ)
- luangrit
- Verified User
- โพสต์: 376
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 18
เพราะงั้นเราถึงต้องใส่ใจพื้นฐานของบริษัทให้มากๆไงครับRadio เขียน:เพราะลงทุนในหุ้น เป็นการคาดเดาอนาคต หุ้นราคา 10 บาท
ปันผล 1 บาทในวันนี้ = 10% ปีหน้า อาจเหลือปันผล 0.4 บาท
ดังนั้น ราคาจึงลงล่วงหน้ามาเหลือ 4 บาท= ปันผล 10%เท่าเดิม
จะได้รู้ว่าปันผลที่จะได้มันแน่นอนแค่ไหน
ปันผลจะเท่าเดิม, เพิ่มขึ้น หรือ ลดลง
ก็เป็นโอกาสในการวิเคราะห์หุ้นอย่างมีประสิทธิภาพได้เท่าๆกัน
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 19
ไม่ว่าจะคิดแตกต่างกันอย่างไร ก็ไม่ผิด
การลงทุนเป็นศิลปะที่เราบรรเลงด้วยตัวเองน่ะครับ
การลงทุนเป็นศิลปะที่เราบรรเลงด้วยตัวเองน่ะครับ
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 20
อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพังJeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 21
ผมเห็นด้วยครับ ว่าแต่ละบริษัทควรเปรียบเทียบกันwj เขียน:อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพังJeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
แต่ผมหมายถึง ดัชนีตลาดหุ้นครับ ว่าไม่ีควรมี
ถ้าดัชนีลง แล้วหุ้นก็ลงไปด้วย
ใครที่คุม ptt ได้ คนนั้นก็คุม ดัชนีได้
ถ้าิเป็นแบบนี้ ตอน ptt ลง ดัชนีลง หุ้นบางตัวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย
กับ ptt ก็ต้องลงไปด้วย
ผมว่าไม่น่าจะดีเลย
ก็เลยแค่จินตนาการว่า ถ้าทั้งโลกไม่มีดัชนี จะดีมากครับ
คุณ wj
- Packy_Kittiworawut
- Verified User
- โพสต์: 242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คิดแล้วก็แปลกดี
โพสต์ที่ 22
โอ... น่าคิดมากครับ หรือไม่ก็ถือซะว่าตลาดหุ้นเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในการเป็นหุ้นส่วนของบริษัทที่เราชอบJeng เขียน:ผมเห็นด้วยครับ ว่าแต่ละบริษัทควรเปรียบเทียบกันwj เขียน:อันนี้ผมไม่เห็นด้วย ว่าไปแล้วการลงทุนที่คุ้มค่าน่าสนใจไม่ได้เกิดจากการมองผลตอบแทนเพียงลำพังJeng เขียน: ก็แค่ตลาดหุ้น มีหุ้น 580 ตัว ถ้าไม่มีดัชนี
คนก็จะไปดูที่หุ้นตัวนั้นๆ ไม่ต้องมาลงพร้อมๆกัน แบบนี้
และหากเปลี่ยนมุมมอง ว่าเดี่ยวนี้ หุ้นได้ผลตอบแทนมากขึ้น แทนที่จะดูว่าราคาลง น่าจะทำให้ ตลาดหุ้น
น่าสนใจ ในยามที่หุ้นให้ผลตอบแทนมากขึ้น
เพราะผลตอบแทนที่สมเหตุผล เกิดจากการเปรียบเทียบ เช่น ถ้ามีหุ้น 1 ตัวให้ 10% อันนี้อาจจะมองว่าดีหรือไม่ก็ได้ เราต้องเทียบกับหุ้นตัวอื่นๆ ถ้าตัวอื่นๆมัน >15% แล้วมันจะดีได้อย่างไร
หรือถ้าเป็นยุคที่ให้ดอกเบี้ย 15% แถวๆปี 40 มันจะดีได้อย่างไร
แต่ผมหมายถึง ดัชนีตลาดหุ้นครับ ว่าไม่ีควรมี
ถ้าดัชนีลง แล้วหุ้นก็ลงไปด้วย
ใครที่คุม ptt ได้ คนนั้นก็คุม ดัชนีได้
ถ้าิเป็นแบบนี้ ตอน ptt ลง ดัชนีลง หุ้นบางตัวที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลย
กับ ptt ก็ต้องลงไปด้วย
ผมว่าไม่น่าจะดีเลย
ก็เลยแค่จินตนาการว่า ถ้าทั้งโลกไม่มีดัชนี จะดีมากครับ
คุณ wj