รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 1
ปัจจุบันผมเป็นพนักงานบริษัทครับ รายได้เงินเดือน+โบนัสราวปีละ1.6 ล้าน
(Gross ครับ) ในช่วง 3-4ปีที่ผ่านมาก็ได้เงินปันผลมาบ้างแต่เพิ่งใช้เครดิตภาษีปีที่แล้วนี้เอง
มีคนรู้จักกันบอกให้ผมลองรับปันผลโดยใช้ "คณะบุคคล" แทนให้ผมไปลองศึกษาดู เพราะเงินเดือนผมเข้าไปที่เกณฑ์ 30%
ซึ่งจะได้เครดิตภาษีน้อยลงแล้ว .....จริงหรือไม่ครับ
มีใครในที่นี้พอแนะนำได้มั๊ยครับว่าถ้าผมใช้ "คณะบุคคล" เพื่อซื้อหุ้นรับปันผลและใช้ "บุคคลธรรมดา" เพื่อรับเงินเดือน
มันจะเครดิตได้มากกว่าใช้บุคคลธรรมดารับทั้งสองอย่าง อย่างที่เคยทำหรือไม่ แล้วขั้นตอนการจดฯ จะยุ่งยากมั๊ย รบกวนด้วยครับ
(Gross ครับ) ในช่วง 3-4ปีที่ผ่านมาก็ได้เงินปันผลมาบ้างแต่เพิ่งใช้เครดิตภาษีปีที่แล้วนี้เอง
มีคนรู้จักกันบอกให้ผมลองรับปันผลโดยใช้ "คณะบุคคล" แทนให้ผมไปลองศึกษาดู เพราะเงินเดือนผมเข้าไปที่เกณฑ์ 30%
ซึ่งจะได้เครดิตภาษีน้อยลงแล้ว .....จริงหรือไม่ครับ
มีใครในที่นี้พอแนะนำได้มั๊ยครับว่าถ้าผมใช้ "คณะบุคคล" เพื่อซื้อหุ้นรับปันผลและใช้ "บุคคลธรรมดา" เพื่อรับเงินเดือน
มันจะเครดิตได้มากกว่าใช้บุคคลธรรมดารับทั้งสองอย่าง อย่างที่เคยทำหรือไม่ แล้วขั้นตอนการจดฯ จะยุ่งยากมั๊ย รบกวนด้วยครับ
Cartoon
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 4
บริษัททำอะไรครับเนี้ย น่าไปทำด้วยจังเลยครับ แสดงว่าเป็นระดับบริหาร รับผมไปทำด้วยมั้ยครับ ของผมยังอยู่เกณท์ 10% อยู่เลยครับ ตอนนี้ขอเงินเดือน หักนู้นหักนี้ จ่ายภาษีอยู่ในเกณฑ์ 20% ก็พอใจแล้วครับ
เข้าเรื่องดีกว่า เฉพาะเงินเดือน โบนัสได้ 1.6 ล้านแล้ว ผมคิดว่าใช่นะครับ เครดิตได้น้อยลงแน่ๆ หรืออาจไม่ได้เลย เพราะภาษีธุรกิจ ที่จ่าย 30% ก็มีหลายบริษัทนะครับ ที่จ่ายภาษีน้อยกว่า 30% คือจ่าย 20% หรือ 25% ก็มาก อันนี้ผมว่าไม่ได้แน่ๆ อาจขาดทุนด้วยครับ ไม่เครดิตจะดีกว่า ถ้าผมไม่ผิดรายได้จากปันผลหักภาษี ณ ที่จ่ายแค่ 10% เองครับ ไม่ต้องมาคิดรวมดีกว่าครับ
ถ้าต้องการลดภาษี ผมว่าบริษัทพี่ต้องมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แน่ๆสมัครเลยครับ ช่วยได้เยอะ ถ้าไม่พอซื้อประกันอีกปีละ 50000 ก็พอ มีผ่อนบ้านมั้ยครับ หักดอกได้ปีละ 50000 ถ้ายังไม่พออีกก็ซื้อ RMF หรือ LTF เพิ่มก็ลดภาษีไปได้เยอะครับ แถมได้ลงทุน เป็นการออมอีก การบริจาคก็ช่วยนะครับ
สอนจรเข้ให้ว่ายน้ำแน่ๆเลย :lol: :lol: ผมว่าพี่ทำหมดแล้วละ :lovl:
ส่วนเรื่องคณะบุคคล ข้อมูลเลือนลางครับ ไว้ให้ผู้รู้ดีกว่า
เข้าเรื่องดีกว่า เฉพาะเงินเดือน โบนัสได้ 1.6 ล้านแล้ว ผมคิดว่าใช่นะครับ เครดิตได้น้อยลงแน่ๆ หรืออาจไม่ได้เลย เพราะภาษีธุรกิจ ที่จ่าย 30% ก็มีหลายบริษัทนะครับ ที่จ่ายภาษีน้อยกว่า 30% คือจ่าย 20% หรือ 25% ก็มาก อันนี้ผมว่าไม่ได้แน่ๆ อาจขาดทุนด้วยครับ ไม่เครดิตจะดีกว่า ถ้าผมไม่ผิดรายได้จากปันผลหักภาษี ณ ที่จ่ายแค่ 10% เองครับ ไม่ต้องมาคิดรวมดีกว่าครับ
ถ้าต้องการลดภาษี ผมว่าบริษัทพี่ต้องมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แน่ๆสมัครเลยครับ ช่วยได้เยอะ ถ้าไม่พอซื้อประกันอีกปีละ 50000 ก็พอ มีผ่อนบ้านมั้ยครับ หักดอกได้ปีละ 50000 ถ้ายังไม่พออีกก็ซื้อ RMF หรือ LTF เพิ่มก็ลดภาษีไปได้เยอะครับ แถมได้ลงทุน เป็นการออมอีก การบริจาคก็ช่วยนะครับ
สอนจรเข้ให้ว่ายน้ำแน่ๆเลย :lol: :lol: ผมว่าพี่ทำหมดแล้วละ :lovl:
ส่วนเรื่องคณะบุคคล ข้อมูลเลือนลางครับ ไว้ให้ผู้รู้ดีกว่า
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 5
คุณ Cartoon ครับ เรื่องเครดิตภาษี โดยใช้คณะบุคลผมก็เคยคิดเหมือนกัน และเห็นชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ในบางบ.ก็จดทะเบียนภาษีเป็นคณะบุคคล
แต่เมื่อผมถามมาร์ มาร์บอกว่าเคยทำได้ แต่ตอนนี้เขาไม่อนุญาตแล้วครับ
เรื่องภาษีถ้าจัดการดีๆ จะช่วยลดภาระเราได้เยอะเหมือนกันครับ แต่ก่อนจะทำอะไรควรศึกษาให้ละเอียดเสียก่อนเช่น
คณะบุคคลเป็นคู่ความในศาลไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
ผมมีคำแนะนำเล็กน้อย ถ้าคุณ Cartoon มีพ่อแม่ที่มีกิจการเล็กๆอายุเกิน 60 อาจจดกิจการพวกนั้นเป็นคณะบุคคล แล้วเอาพ่อแม่มาเป็นผู้ไม่มีรายได้ มาหักลดหย่อนก็จะได้เป็นเงินถึง 18000 บาทครับ
แต่เมื่อผมถามมาร์ มาร์บอกว่าเคยทำได้ แต่ตอนนี้เขาไม่อนุญาตแล้วครับ
เรื่องภาษีถ้าจัดการดีๆ จะช่วยลดภาระเราได้เยอะเหมือนกันครับ แต่ก่อนจะทำอะไรควรศึกษาให้ละเอียดเสียก่อนเช่น
คณะบุคคลเป็นคู่ความในศาลไม่ได้ เพราะไม่ได้เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
ผมมีคำแนะนำเล็กน้อย ถ้าคุณ Cartoon มีพ่อแม่ที่มีกิจการเล็กๆอายุเกิน 60 อาจจดกิจการพวกนั้นเป็นคณะบุคคล แล้วเอาพ่อแม่มาเป็นผู้ไม่มีรายได้ มาหักลดหย่อนก็จะได้เป็นเงินถึง 18000 บาทครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณครับทุกท่านครับ
สงสัยคงต้องโอน Port หุ้นไปให้ภรรยาน่าจะดี
ส่วนเรื่องประกันกับ RMF LTF นั้น ทำไปพอสมควรแล้วครับ และโดยส่วนตัวคิดว่าการซื้อหุ้นที่มีกิจการที่ดีก้าวหน้า
มีปันผลพอสมควร ผู้บริหารที่ดี ผลที่ได้จะดีกว่าการซื้อกองทุนแน่นอน
สงสัยคงต้องโอน Port หุ้นไปให้ภรรยาน่าจะดี
ส่วนเรื่องประกันกับ RMF LTF นั้น ทำไปพอสมควรแล้วครับ และโดยส่วนตัวคิดว่าการซื้อหุ้นที่มีกิจการที่ดีก้าวหน้า
มีปันผลพอสมควร ผู้บริหารที่ดี ผลที่ได้จะดีกว่าการซื้อกองทุนแน่นอน
Cartoon
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 7
การโอนไปให้พอร์ตภรรยาก็ไม่ช่วยครับ เพราะจะถูกรวมในการคำณวนเงินได้ของสามีอยู่ดีครับ
เรื่องคณะบุคคลนั้น เคยทำได้ในอดีต แต่ปัจจุบันทำไม่ได้เพราะรัฐบาลป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยวิธีดังกล่าวครับ
เพิ่มเติมจาก RMF LTF ประกัน ก็คือเงินบริจาค และเลี้ยงดูบุพการี ครับ
เรื่องคณะบุคคลนั้น เคยทำได้ในอดีต แต่ปัจจุบันทำไม่ได้เพราะรัฐบาลป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยวิธีดังกล่าวครับ
เพิ่มเติมจาก RMF LTF ประกัน ก็คือเงินบริจาค และเลี้ยงดูบุพการี ครับ
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 8
ยืนยันตามพี่ธันวาครับ เงินได้ถ้าไม่ใช่ 40 (1) ของภรรยาต้องรวมกับสามียื่นเสียภาษีครับ
เรื่องภาษีบุคคลธรรมดา เขาคิดจากกระแสเงินสดครับ ดังนั้นคุณ Cartoon อาจมองดูบ.ที่มีสินทรัพย์เยอะๆ กำไรโตพอประมาณ แต่ไม่ค่อยปันผล และผู้บริหารไว้ใจได้ ยิ่งผู้บริหารมีหุ้นในบ.ยิ่งดี เพราะไม่แน่เขาอาจไม่อยากได้เงินปันผลในช่วงนี้เพราะมีเงินเดือนเยอะ และเสียภาษีมาก
หรือไม่คุณ Cartoon อาจตั้งกิจการเป็น หสม.ทีอยากทำแต่ไม่ค่อยมีกำไร เช่น WEB TVI นี่ไงครับ แล้วใช้หสม.ไปถือหุ้น บ.ที่ต้องการ และใช้ค่าใช้จ่ายในกิจการเช่น ค่าเช่าWEB ช่วยลดหย่อนภาษีไงครับ หสม.นี้จะมีรายได้จากเงินปันผล แต่มีค่าใช้จ่ายจากการทำ WEB
เอนี่ ผมคิดอะไรที่เป็นไปได้หรือเปล่านี่
เรื่องภาษีบุคคลธรรมดา เขาคิดจากกระแสเงินสดครับ ดังนั้นคุณ Cartoon อาจมองดูบ.ที่มีสินทรัพย์เยอะๆ กำไรโตพอประมาณ แต่ไม่ค่อยปันผล และผู้บริหารไว้ใจได้ ยิ่งผู้บริหารมีหุ้นในบ.ยิ่งดี เพราะไม่แน่เขาอาจไม่อยากได้เงินปันผลในช่วงนี้เพราะมีเงินเดือนเยอะ และเสียภาษีมาก
หรือไม่คุณ Cartoon อาจตั้งกิจการเป็น หสม.ทีอยากทำแต่ไม่ค่อยมีกำไร เช่น WEB TVI นี่ไงครับ แล้วใช้หสม.ไปถือหุ้น บ.ที่ต้องการ และใช้ค่าใช้จ่ายในกิจการเช่น ค่าเช่าWEB ช่วยลดหย่อนภาษีไงครับ หสม.นี้จะมีรายได้จากเงินปันผล แต่มีค่าใช้จ่ายจากการทำ WEB
เอนี่ ผมคิดอะไรที่เป็นไปได้หรือเปล่านี่
-
- Verified User
- โพสต์: 40
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 9
คุณ WPONG ช่วยอธิบายหน่อยครับ ผมงง???เรื่องภาษีบุคคลธรรมดา เขาคิดจากกระแสเงินสดครับ ดังนั้นคุณ Cartoon อาจมองดูบ.ที่มีสินทรัพย์เยอะๆ กำไรโตพอประมาณ แต่ไม่ค่อยปันผล และผู้บริหารไว้ใจได้ ยิ่งผู้บริหารมีหุ้นในบ.ยิ่งดี เพราะไม่แน่เขาอาจไม่อยากได้เงินปันผลในช่วงนี้เพราะมีเงินเดือนเยอะ และเสียภาษีมาก
ผมไม่ได้จดทะเบียนครับ ดังนั้นควรจะทำได้ ถูกมั๊ยครับ?การโอนไปให้พอร์ตภรรยาก็ไม่ช่วยครับ เพราะจะถูกรวมในการคำณวนเงินได้ของสามีอยู่ดีครับ
Cartoon
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1011
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 10
ผมคิดว่าคุณ wpong น่าจะแนะนำให้ลงทุนให้หุ้นลักษณะดังกล่าว
เพราะหากไม่จ่ายเงินปันผลออกมา BV ก็จะสูงขึ้น ราคาหุ้นก็น่าจะขึ้นตามมาให้ที่สุด
วิธีนี้จะไม่เสียภาษีครับ เพราะ capital gain ที่เมืองไทยยังไม่เสียภาษี
สำหรับเรื่องภรรยาที่ไม่ได้สมรส หากทำภรรยาไม่มีเงินได้
ในทางนิตินัย ทำได้เลยครับ ได้เครดิตปันผลคืนเยอะแน่นอนครับ
ที่ผมไม่แน่ใจคือ เนื่องจากทางพฤตินัยครับ ไม่ทราบทางกรมสรรพกรจะเรียกเก็บในกรณีนี้หรือเปล่า คงต้องให้ผู้รู้มาเฉลยครับ
เพราะหากไม่จ่ายเงินปันผลออกมา BV ก็จะสูงขึ้น ราคาหุ้นก็น่าจะขึ้นตามมาให้ที่สุด
วิธีนี้จะไม่เสียภาษีครับ เพราะ capital gain ที่เมืองไทยยังไม่เสียภาษี
สำหรับเรื่องภรรยาที่ไม่ได้สมรส หากทำภรรยาไม่มีเงินได้
ในทางนิตินัย ทำได้เลยครับ ได้เครดิตปันผลคืนเยอะแน่นอนครับ
ที่ผมไม่แน่ใจคือ เนื่องจากทางพฤตินัยครับ ไม่ทราบทางกรมสรรพกรจะเรียกเก็บในกรณีนี้หรือเปล่า คงต้องให้ผู้รู้มาเฉลยครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 11
เท่าที่ผมทราบให้ภรรยาขอคืนได้เลยครับ
ถึงกรมสรรพากรจะรู้ว่าเป็น สามี ภรรยากัน แต่ไม่ได้จดทะเบียน กฎหมายไม่ได้รับรองอยู่แล้วนิครับ ยกเว้นว่าเป็นลูก พ่อแม่ ไม่จดทะเบียนกัน แต่กฎหมายก็รับรอง
ถึงกรมสรรพากรจะรู้ว่าเป็น สามี ภรรยากัน แต่ไม่ได้จดทะเบียน กฎหมายไม่ได้รับรองอยู่แล้วนิครับ ยกเว้นว่าเป็นลูก พ่อแม่ ไม่จดทะเบียนกัน แต่กฎหมายก็รับรอง
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
- ch_army
- Verified User
- โพสต์: 1352
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 12
ก็โอนชื่อให้ลูกก็ได้นิครับ แต่ถ้ายังไม่มีก็ขออำภัยด้วยครับ แต่ได้คืนเต็มที่แน่นอน ผมเองมีเครดิตภาษีดอกเบี้ยตั้งแต่ยังเด็กๆนู้นเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 14
[quote="CopyWriter"]เท่าที่ผมทราบให้ภรรยาขอคืนได้เลยครับ
ถึงกรมสรรพากรจะรู้ว่าเป็น สามี ภรรยากัน แต่ไม่ได้จดทะเบียน กฎหมายไม่ได้รับรองอยู่แล้วนิครับ ยกเว้นว่าเป็นลูก พ่อแม่ ไม่จดทะเบียนกัน แต่กฎหมายก็รับรอง[/quote]
ถ้าไม่จดทะเบียน
ทางภาษีถือว่าไม่ได้สมรสครับ
คงต้องแยกกันยื่นครับ
ส่วนบุตรก็คงหักกันไปคนละครึ่ง
หรือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาไปหักลดหย่อน
.
ถึงกรมสรรพากรจะรู้ว่าเป็น สามี ภรรยากัน แต่ไม่ได้จดทะเบียน กฎหมายไม่ได้รับรองอยู่แล้วนิครับ ยกเว้นว่าเป็นลูก พ่อแม่ ไม่จดทะเบียนกัน แต่กฎหมายก็รับรอง[/quote]
ถ้าไม่จดทะเบียน
ทางภาษีถือว่าไม่ได้สมรสครับ
คงต้องแยกกันยื่นครับ
ส่วนบุตรก็คงหักกันไปคนละครึ่ง
หรือว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเอาไปหักลดหย่อน
.
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 15
[quote="thanwa"]
เรื่องคณะบุคคลนั้น เคยทำได้ในอดีต แต่ปัจจุบันทำไม่ได้เพราะรัฐบาลป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยวิธีดังกล่าวครับ
[/quote]
คนที่มีเงินฝากเยอะๆ
ก็ยังเปิดบัญชีเป็นคณะบุคคลอยู่เลยครับ
เป็นช่องว่างทางกฎหมายอย่างหนึ่ง
สำหรับคนรวยครับ
ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่ยอมแก้กฎหมายคณะบุคคล
ผมก็ว่าน่าจะยังทำได้ครับ
รวมถึงการถือครองหุ้นด้วยครับ
ในเมื่อธนาคารยังยอมให้เปิดในชื่อคณะบุคคล
ทำไมบริษัทหลักทรัพย์ถึงไม่ยอมให้เปิดชื่อคณะบุคคลละครับ
ส่วนที่ว่ามาร์ไม่ยอมให้เปิดบัญชีคณะบุคคล
ลองอ้างกับมาร์ได้ไหมครับว่า
เราร่วมหุ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง
เพื่อต้องการจะลงทุนร่วมในหุ้นครับ
โดยเป็นการตัดสินใจร่วมกัน
จึงเปิดชื่อเป็นคณะบุคคลครับ
(หาเหตุผลอ้างไป เผื่อมาร์ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง)
ส่วนใครที่ซื้อหุ้นในชื่อคณะบุคคลไปแล้ว
ขอเครดิตภาษีได้ครับ
เพราะคณะบุคคลตามกฎหมาย
ถือเป็นบุคคลธรรมดาคนใหม่คนหนึ่งครับ
.
เรื่องคณะบุคคลนั้น เคยทำได้ในอดีต แต่ปัจจุบันทำไม่ได้เพราะรัฐบาลป้องกันการเลี่ยงภาษีด้วยวิธีดังกล่าวครับ
[/quote]
คนที่มีเงินฝากเยอะๆ
ก็ยังเปิดบัญชีเป็นคณะบุคคลอยู่เลยครับ
เป็นช่องว่างทางกฎหมายอย่างหนึ่ง
สำหรับคนรวยครับ
ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่ยอมแก้กฎหมายคณะบุคคล
ผมก็ว่าน่าจะยังทำได้ครับ
รวมถึงการถือครองหุ้นด้วยครับ
ในเมื่อธนาคารยังยอมให้เปิดในชื่อคณะบุคคล
ทำไมบริษัทหลักทรัพย์ถึงไม่ยอมให้เปิดชื่อคณะบุคคลละครับ
ส่วนที่ว่ามาร์ไม่ยอมให้เปิดบัญชีคณะบุคคล
ลองอ้างกับมาร์ได้ไหมครับว่า
เราร่วมหุ้นกับใครคนใดคนหนึ่ง
เพื่อต้องการจะลงทุนร่วมในหุ้นครับ
โดยเป็นการตัดสินใจร่วมกัน
จึงเปิดชื่อเป็นคณะบุคคลครับ
(หาเหตุผลอ้างไป เผื่อมาร์ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง)
ส่วนใครที่ซื้อหุ้นในชื่อคณะบุคคลไปแล้ว
ขอเครดิตภาษีได้ครับ
เพราะคณะบุคคลตามกฎหมาย
ถือเป็นบุคคลธรรมดาคนใหม่คนหนึ่งครับ
.
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 16
แล้วขั้นตอนการจดฯ จะยุ่งยากมั๊ย รบกวนด้วยครับ
จดไม่ยากเลยครับ
แค่กรอกแบบ หนังสือสัญญาจัดตั้งคณะบุคคล
แล้วไปจดในพื้นที่ตามทะเบียนบ้านของคนใดคนหนึ่ง
ติดอากร แล้วขอหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีในนามคณะบุคคล
แค่นี้ก็เสร็จแล้วครับ
และสามารถจดได้หลายคณะบุคคลด้วย
โดยการจับคู่สลับคน
หรือถ้าคนในบ้านสลับคนกันหมดแล้ว
ก็จดเป็นสามคน เอามาสลับกันใหม่
สามคนหมดก็เป็นสี่คนครับ
งงกันไหมครับ
.
-
- Verified User
- โพสต์: 674
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 17
รู้สึกว่ารายได้บุตรที่มีอายุไม่ถึง 20 ปี ก็ให้นำไปรวมคำนวณเป็นรายได้ch_army เขียน:ก็โอนชื่อให้ลูกก็ได้นิครับ แต่ถ้ายังไม่มีก็ขออำภัยด้วยครับ แต่ได้คืนเต็มที่แน่นอน ผมเองมีเครดิตภาษีดอกเบี้ยตั้งแต่ยังเด็กๆนู้นเลย
ของบิดานะครับ ถ้าอายุเกิน 20 แล้วก็ระวังมันเอาไปขายนะครับ
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 18
คุณ Cartoon ครับ ผมหมายความคล้ายกับที่พี่ธันวาพูดแหละครับ พวกหุ้นอย่าง TR , WG , SFP , LRH ก็น่าสนใจในกรณีนี้ครับ
ภาษีเขาคิดจากเงินสดที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละปี ดังนั้นหาก บ. บางบ.มีสินทรัพย์ซ่อนเร้นเยอะ และบังเอิญมาจ่ายปันผลในปีที่คุณ Cartoon เกษียนแล้ว ก็ไม่ต้องเสียภาษีแพง
เรื่องภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียน คงต้องมองรอบด้านเพราภรรยาจะเสียสิทธิ์อื่นๆ เช่น สิทธิ์ในการใช้สวัสดิการของบ.ที่คุณทำงานอยู่
ถ้าใช้ชื่อภรรยา อาจให้เธอช่วยทำพินัยกรรมไว้ด้วยก็ดี เผื่อมีปัญหากับญาติเธอในภายหลัง
ภรรยาถ้าไม่ได้จดทะเบียน ก็ไม่ต้องยื่นภาษีรวมถูกต้องแล้วครับ
ภาษีเขาคิดจากเงินสดที่เกิดขึ้นจริงในแต่ละปี ดังนั้นหาก บ. บางบ.มีสินทรัพย์ซ่อนเร้นเยอะ และบังเอิญมาจ่ายปันผลในปีที่คุณ Cartoon เกษียนแล้ว ก็ไม่ต้องเสียภาษีแพง
เรื่องภรรยาที่ไม่ได้จดทะเบียน คงต้องมองรอบด้านเพราภรรยาจะเสียสิทธิ์อื่นๆ เช่น สิทธิ์ในการใช้สวัสดิการของบ.ที่คุณทำงานอยู่
ถ้าใช้ชื่อภรรยา อาจให้เธอช่วยทำพินัยกรรมไว้ด้วยก็ดี เผื่อมีปัญหากับญาติเธอในภายหลัง
ภรรยาถ้าไม่ได้จดทะเบียน ก็ไม่ต้องยื่นภาษีรวมถูกต้องแล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 232
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 20
เรื่องภรรยาไม่ได้จดทะเบียนต้องระวังประเด็นหนึ่ง คือ หากเคยจดทะเบียนกันมาก่อน แล้วมาหย่ากันแต่ยังอยู่ด้วยกันทางพฤตินัย เพื่อแยกฐานภาษี สรรพากรอาจไม่ยอมให้แยกฐานรายได้เพราะเคยมีคนเล่าให้ฟังกรณีเช่นนี้ แต่หากไม่เคยจดทะเบียนกันมาก่อนเลย ไม่น่ามีปัญหาครับ
จดทะเบียนคณะบุคคล รู้สึกว่าต้องมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งด้วยว่าจัดตั้งเพื่ออะไร ไม่รู้ว่าหากจะจัดตั้งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สรรพากรจะยอมให้จดหรือไม่ ส่วนหากจัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์อื่น แต่มามีรายได้จากเงินปันผลที่ไม่ได้ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ระวังสรรพากรจะไม่ยอมหากเกิดการตรวจสอบขึ้นมานะครับ ระยะหลังสรรพากรจะสนใจตรวจสอบคณะบุคคลเป็นพิเศษ เก็บหลักฐานต่างๆไว้ให้ดีนะครับ พวกหมอโดนกันเยอะแล้ว
จดทะเบียนคณะบุคคล รู้สึกว่าต้องมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งด้วยว่าจัดตั้งเพื่ออะไร ไม่รู้ว่าหากจะจัดตั้งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สรรพากรจะยอมให้จดหรือไม่ ส่วนหากจัดตั้งเพื่อวัตถุประสงค์อื่น แต่มามีรายได้จากเงินปันผลที่ไม่ได้ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ระวังสรรพากรจะไม่ยอมหากเกิดการตรวจสอบขึ้นมานะครับ ระยะหลังสรรพากรจะสนใจตรวจสอบคณะบุคคลเป็นพิเศษ เก็บหลักฐานต่างๆไว้ให้ดีนะครับ พวกหมอโดนกันเยอะแล้ว
"Much success can be attributed to inactivity. Most investors cannot resist the temptation to constantly buy and sell."
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 21
จดทะเบียนคณะบุคคล รู้สึกว่าต้องมีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งด้วยว่าจัดตั้งเพื่ออะไร ไม่รู้ว่าหากจะจัดตั้งเพื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์สรรพากรจะยอมให้จดหรือไม่
ถ้าต้องแจ้งวัตถุประสงค์เป็นลายลักษณ์อักษร
ไม่เห็นมีนิครับ
แต่อาจจะถูกถามจากพนักงานได้ว่า
จะจดคณะบุคคลไปทำอะไร
ประเด็นนี้จึงไม่น่าเป็นห่วงครับ
.
- wpong
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1356
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 25
คุณ TOMOKI ครับ จดทะเบียนคณะบุคคลต้องบอกจุดประสงค์ด้วยครับ ผมเคยติดต่อสรรพากรมาแล้ว อันที่จริงคณะบุคคลเขาตั้งขึ้นมาเพื่อกิจการที่ไม่ค่อยเน้นกำไร หรือชั่วคราว เช่น พวกจัดงานกุศล ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันผลกำไร แต่เมื่อก่อนคนเขาจดเพื่อกิจการที่หวังผลกำไร สรรพากรเลยให้ใส่วัตถุประสงค์ซะเลยปัจจุบันสรรพากรจะยอมให้จดในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนนิติบุคคลมากกว่าครับ
คุณ KNOTT ครับ ปัญหาของพวกหมอส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการจดคณะบุคคล แต่เกิดจากความเข้าใจผิดของเงินได้ ระหว่าง 40(1) , 40(2), 40(6) มากกว่าครับ
ที่ต้องระวังคือ
40(1) หักค่าใช้จ่ายได้น้อย แต่ข้อดีคือสามีภรรยาคนละฐานภาษี
40(2) แย่สุดๆ
40(6) ดีที่สุด
สำหรับเพื่อนๆที่ทำกิจการด้านคลีนิก แล้วคิดว่าเราใช้ 40 (6) แล้วได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว ..... อาจไม่ใช่ก็ได้เพราะยังมี
40(7) หักค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
ยกตัวอย่างพวกเปิดห้อง Lab นะครับ
หากในคลีนิกมีของขายทั่วไปเช่นหนังสือ หรือพวกที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาโดยตรง ส่วนนี้แยกไปใช้ 40(8) ดีกว่าหักค่าใช้จ่ายได้ 80%
ผมรู้ไม่มาก แต่พอมีประสบการณ์ครับ หากผิดพลาดประการไดโปรดแก้ไข
ตัวสรรพากรเอง หากเราถาม 10 คน บางเรื่องก็ได้ 10 คำตอบ
คุณ KNOTT ครับ ปัญหาของพวกหมอส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการจดคณะบุคคล แต่เกิดจากความเข้าใจผิดของเงินได้ ระหว่าง 40(1) , 40(2), 40(6) มากกว่าครับ
ที่ต้องระวังคือ
40(1) หักค่าใช้จ่ายได้น้อย แต่ข้อดีคือสามีภรรยาคนละฐานภาษี
40(2) แย่สุดๆ
40(6) ดีที่สุด
สำหรับเพื่อนๆที่ทำกิจการด้านคลีนิก แล้วคิดว่าเราใช้ 40 (6) แล้วได้ประโยชน์สูงสุดแล้ว ..... อาจไม่ใช่ก็ได้เพราะยังมี
40(7) หักค่าใช้จ่ายได้มากกว่า
ยกตัวอย่างพวกเปิดห้อง Lab นะครับ
หากในคลีนิกมีของขายทั่วไปเช่นหนังสือ หรือพวกที่ไม่เกี่ยวกับการรักษาโดยตรง ส่วนนี้แยกไปใช้ 40(8) ดีกว่าหักค่าใช้จ่ายได้ 80%
ผมรู้ไม่มาก แต่พอมีประสบการณ์ครับ หากผิดพลาดประการไดโปรดแก้ไข
ตัวสรรพากรเอง หากเราถาม 10 คน บางเรื่องก็ได้ 10 คำตอบ
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 26
บอกด้วยปากเปล่าไม่ใช่หรือครับคุณ TOMOKI ครับ จดทะเบียนคณะบุคคลต้องบอกจุดประสงค์ด้วยครับ ผมเคยติดต่อสรรพากรมาแล้ว อันที่จริงคณะบุคคลเขาตั้งขึ้นมาเพื่อกิจการที่ไม่ค่อยเน้นกำไร หรือชั่วคราว เช่น พวกจัดงานกุศล ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีวัตถุประสงค์ที่จะแบ่งปันผลกำไร แต่เมื่อก่อนคนเขาจดเพื่อกิจการที่หวังผลกำไร สรรพากรเลยให้ใส่วัตถุประสงค์ซะเลยปัจจุบันสรรพากรจะยอมให้จดในรูปแบบของห้างหุ้นส่วนสามัญที่ไม่จดทะเบียนนิติบุคคลมากกว่าครับ
แต่ไม่เห็นต้องจดแจ้งวัตถุประสงค์เลยนะครับ
ถ้าเหตุผลที่บอกฟังแล้ว ok เขาก็ให้จดแล้วครับ
แล้วหลังจากนั้นเราก็เอาชื่อคณะบุคคลนี้
เปลี่ยนไปทำอย่างอื่นได้ไม่ใช่หรือครับ
.
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 27
หนังสือสัญญาจัดตั้งคณะบุคคล
ในรายละเอียดที่กรอกคือ ชื่อผู้จัดการคณะบุคคล
ที่อยู่ รายละเอียดบัตรประชาชน และบุคคลที่ร่วมด้วย
ชื่อคณะบุคคล ที่อยู่ที่คณะบุคคลจะใช้
เลือกเอาจากบุคคลในคณะบุคคล
และตั้งใครเป็นผู้จัดการคณะบุคคล
แล้วก็เซนต์ชื่อครับ
ไม่เห็นมีส่วนไหนต้องกรอกวัตถุประสงค์เลยนะครับ คุณ wpong
.
ในรายละเอียดที่กรอกคือ ชื่อผู้จัดการคณะบุคคล
ที่อยู่ รายละเอียดบัตรประชาชน และบุคคลที่ร่วมด้วย
ชื่อคณะบุคคล ที่อยู่ที่คณะบุคคลจะใช้
เลือกเอาจากบุคคลในคณะบุคคล
และตั้งใครเป็นผู้จัดการคณะบุคคล
แล้วก็เซนต์ชื่อครับ
ไม่เห็นมีส่วนไหนต้องกรอกวัตถุประสงค์เลยนะครับ คุณ wpong
.
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 28
เรื่องของหมอนี่ปวดหัวกันมามากจริงๆครับคุณ KNOTT ครับ ปัญหาของพวกหมอส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการจดคณะบุคคล แต่เกิดจากความเข้าใจผิดของเงินได้ ระหว่าง 40(1) , 40(2), 40(6) มากกว่าครับ
รู้สึกจะมี 40( 8 ) อีกตัวครับถ้าสถานพยาบาล
เรามีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อย
.
-
- Verified User
- โพสต์: 285
- ผู้ติดตาม: 0
รบกวนถามพี่ๆ เกี่ยวกับภาษีครับ
โพสต์ที่ 29
งั้นผมลองยกตัวอย่างที่แพทย์เจอกันบ่อยๆให้นะครับ
กรณีอย่างง่ายๆ ก่อนเลย คือ
กรณีที่แพทย์รับเงินเดือนเท่านั้น
ไม่ว่าจากโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
กรณีนี้ถือเป็นเงินได้ 40(1) ครับ
ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคิดเหมือนพนักงานบริษัททั่วๆไปครับ
.
กรณีอย่างง่ายๆ ก่อนเลย คือ
กรณีที่แพทย์รับเงินเดือนเท่านั้น
ไม่ว่าจากโรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน
กรณีนี้ถือเป็นเงินได้ 40(1) ครับ
ภาษีหัก ณ ที่จ่ายคิดเหมือนพนักงานบริษัททั่วๆไปครับ
.