จันทร์ พ.ค. 07, 2012 9:30 am
อนาคตหุ้น 'จัสมิน' วันที่ไร้เงา 'เซียนวีไอ'
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์, วันที่ 7 พฤษภาคม 2555 01:00
ช่วงเดือนมิถุนายน 2553 ถึงเมษายน 2554 ถือเป็นยุคเฟื่องฟูที่สุดของหุ้น บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ภายในระยะเวลาเพียง 11 เดือน หุ้น JAS ทะยานจาก 0.41-0.42 บาท ขึ้นไป 3.92 บาท เป็นที่กล่าวขานกันในหมู่ "เซียนหุ้นวีไอ" ในฐานะหุ้น 10 เด้ง สร้างความร่ำรวยเฉลี่ยกันไปอย่างถ้วนหน้า
เบื้องหลังความมหัศจรรย์ของหุ้นจัสมินมีผู้บริหารหนุ่ม พิชญ์ โพธารามิก ทายาทเพียงคนเดียวของ ดร.อดิศัย โพธารามิก อยู่เบื้องหลัง พิชญ์ก้าวเข้ามาบริหารจัสมินเมื่อปี 2551 เขาเปลี่ยนวิสัยทัศน์จาก "ธุรกิจสัมปทาน" ที่มุ่งหากินกับภาครัฐที่มี "มาร์จินต่ำ" ก้าวเข้าสู่ธุรกิจให้บริการ "อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง" (บรอดแบนด์) ที่มีมาร์จินสูง จากนั้นก็โหมโฆษณา 3BB จนกลายเป็นแบรนด์ที่ติดตลาดอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน พิชญ์ใช้กลยุทธ์เรียกศรัทธาจากนักลงทุนโดยวิธีโหมซื้อหุ้น JAS ของตัวเอง "โชว์" ในตลาด อีกทางก็เปิดประตูให้เหล่าบรรดา "เซียนหุ้นวีไอ" เข้ามาลงทุน โดยให้ข้อมูลทั้ง "ในรอบ" และ "นอกรอบ" หรืออีกนัยหนึ่งก็คือใช้วิธี ยืมแรงส่งราคาหุ้นจากพลังของนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งขณะนั้นนำโดย นพ.บำรุง ศรีงาน อดีตประธานชมรมไทยวีไอ "โยโย่" สันติ สิงหวังชา นพ.พงศ์ศักดิ์ ธรรมธัชอารี นริศ จิระวงศ์ประภา ฯลฯ แม้แต่ “เสี่ยปู่” สมพงษ์ ชลคดีดำรงกุล และ วราณี เสรีวิวัฒนา (ภรรยาดร.ไพบูลย์) ก็ไม่ยอมพลาด
หลังจากนักลงทุนรายใหญ่ทำกำไรหุ้น JAS เป็นกอบเป็นก็พากัน "ขายหุ้น..หนีหน้า" พิชญ์ไปจนหมด ราคาหุ้น JAS ร่วงหนักจาก 3.92 บาท ลงมาต่ำสุด 1.40 บาท ทำให้พิชญ์ต้องแก้เกมโดยประกาศ "ซื้อหุ้นคืน" จำนวนไม่เกิน 724 ล้านหุ้น บวกกับตัวเลขกำไรสุทธิในปี 2554 ที่ประกาศออกมาดีเกินคาด มีการให้ข้อมูลผ่านสื่อและนักวิเคราะห์เน้นย้ำแนวโน้มธุรกิจที่สดใส แถมด้วย "แรงบวก" จากจำนวนหุ้นที่ลดลง สรุปว่าวิธีนี้ "ได้ผลเกินคาด" หุ้น JAS ดีดทะยานขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง โดยไม่ต้องพึ่งบารมี "เซียนหุ้น" เหมือนครั้งแรก
เห็นได้ชัดว่าการประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ JAS ครั้งล่าสุดนับว่า “บางตา” ลงไปมาก ไม่มีกลุ่มไทยวีไอมาคอยซักเหมือนเมื่อ 2 ปีก่อน
"เรื่องหุ้นก็เป็นหน้าที่ของนักลงทุนตัดสินใจ ทีมบริหารก็มีหน้าที่ทำธุรกิจให้ดีที่สุด" พิชญ์ โพธารามิก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล ตอบคำถามเรื่องหุ้นกับกรุงเทพธุรกิจ BizWeek
เขาเล่าว่า แนวโน้มธุรกิจของจัสมินกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี แม้รายได้รวมปี 2554 เทียบกับปี 2553 จะลดลงจาก 9,826 ล้านบาท เหลือ 9,582 ล้านบาท นั่นเป็นเพราะรายได้จากงานสัมปทานของ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) ได้หมดลงไป แต่รายได้หลักของบริษัทตอนนี้มาจากธุรกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (3BB) ที่มีสัดส่วนรายได้สำหรับปี 2554 จำนวน 6,366 ล้านบาท หรือคิดเป็น 67% ของรายได้รวมทั้งกลุ่ม เทียบกับปี 2553 มีรายได้ 5,013 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 51% จะเห็นว่าธุรกิจบรอดแบนด์มีอัตราการเติบโตอย่างมาก
ซีอีโอหนุ่มวัย 39 ปี พยายามชี้ไปที่ตัวเลข "กำไรสุทธิ" ซึ่งสวนทางตัวเลขรายได้รวมที่ "ลดลง" โดยในปี 2553 จัสมินมีกำไรสุทธิ 663 ล้านบาท แต่ปี 2554 ทำได้ 1,072 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 62% เพราะมีการรับรู้รายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์เข้ามามากขึ้น ทำให้ EBITDA Margin เพิ่มจาก 29% เมื่อสองปีที่แล้ว มาเป็น 45% ในปีที่ผ่านมา จากข้อมูลระบุว่าต้นทุนหลักของธุรกิจอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ ประกอบด้วยค่า Bandwidth ออกต่างประเทศ บุคลากร และค่าโฆษณา (3BB) ซึ่งต้นทุน 3 ตัวนี้ คิดเป็น 70-80% ของต้นทุนธุรกิจบรอดแบนด์ ขณะที่ต้นทุน Bandwidth ออกต่างประเทศลดลง การเพิ่มขึ้นของบุคลากร และค่าโฆษณาก็เพิ่มในอัตราที่ลดลง
"ผลงานในปีที่ผ่านมาถือว่าเราทำได้ตามเป้าหมายคือมีจำนวนผู้ใช้บริการ 3BB สมัครใหม่ 235,000 ราย ลูกค้า WiFi ที่ร่วมกับ AIS และที่ทำการตลาดเองมี 230,000 ราย และมีจุดกระจายสัญญาณ (Hotspot) 50,000 จุด นอกจากนี้ยังได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นใน บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) จาก 75% เหลือ 51% โดยเป็นการขายหุ้นในตลาดตามปกติ"
พิชญ์ กล่าวว่า เป้าหมายของจัสมินภายในปี 2556 ตั้งเป้ามีผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (3BB) จำนวน 2 ล้านราย และลูกค้า WiFi จำนวน 1 ล้านราย และมีจุด Hotspot จำนวน 100,000 จุด หากดูจากอัตราการใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของคนไทยมีการเติบโตขึ้นตลอด ตอนนี้อยู่ที่ 5% ของจำนวนประชากร คาดการณ์ว่าภายใน 3 ปีข้างหน้าอาจจะขึ้นไปแตะที่ระดับ 9-10% ของประชากร ซึ่งจะอยู่ในระดับเดียวกับประเทศที่มีขนาดจีดีพีต่อหัวเท่ากับไทยอย่างตุรกีและเม็กซิโก การที่อัตราการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของคนไทยยังต่ำจึงยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
"ปัจจุบัน 3BB มีมาร์เก็ตแชร์อันดับหนึ่งในตลาดอยู่ที่ 32% สูงกว่า TRUE และทีโอที ถ้าเรายังคงรักษามาร์เก็ตแชร์นี้ไว้ได้โอกาสที่จะทำได้ตามเป้าหมายลูกค้า 2 ล้านราย ภายในปี 2556 ก็ไม่ยาก” เขาบอก
ด้านเงินลงทุนในการวางโครงข่าย พิชญ์ กล่าวว่า จากนี้คงไม่มีการลงทุนหนักๆ อีก เพราะได้ลงทุนหนักไปแล้วตั้งแต่สองปีก่อน คาดว่าจากนี้ไปจะใช้เงินลงทุนเพิ่มอีกปีละ 2,300 ล้านบาทบวกลบ โดยเป็นการทยอยลงทุน ตอนนี้มี Capacity รองรับการให้บริการอยู่ที่ 75% ถือว่าเพียงพอ นอกจากนี้พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะพึงพอใจที่ "ความเร็ว" มากกว่า "ราคา" เนื่องจากผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับความเร็วสูงๆ มาก่อนจะไม่กลับไปใช้บริการความเร็วต่ำอีกถึงแม้ว่าราคาจะถูกกว่า ขณะที่ 3จี ไม่สามารถแทนที่อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงได้
สำหรับแผนงานที่จะร่วมมือกับ "ดีแทค" ให้บริการ WiFi ตอนนี้กำลังพูดคุยกันอยู่ โดยยังติดขัดในด้านเทคนิคเท่านั้น พิชญ์ ยังกล่าวถึง ทิศทางธุรกิจของ บมจ.จัสมิน เทเลคอม ซิสเต็มส์ (JTS) ด้วยว่า ตอนนี้ได้ลดงานสัมปทานภาครัฐลงเพราะเป็นงานที่มีกำไรน้อย และกำลังจะหารายได้ทางอื่นเข้ามา เช่น กำลังศึกษาที่จะทำธุรกิจ MVNO ให้กับค่ายมือถือถ้าหากมีการประมูล 3จี เกิดขึ้น แต่ไม่คิดที่จะไปลงทุนประมูลเอง
นอกจากนี้ ยังมองโอกาสที่จะขยายธุรกิจในต่างประเทศเน้นไปที่ "ประเทศเพื่อนบ้าน" เป้าหมายต้องการเป็น International Internet Gateway ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตามต้องศึกษาข้อกฎหมายและระเบียบการลงทุนแต่ละประเทศให้ดีก่อน เป็นไปได้ว่าอาจจะต้องมีพันธมิตรท้องถิ่นร่วมลงทุน
เขายังพูดถึง "คดีฟ้องร้อง" เรียกค่าเสียหายกับทีโอทีในประเด็นเกี่ยวกับสัมปทานของบริษัท จัสมิน ซับมารีน เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ (JSTC) คาดว่าผลจะเป็นบวกกับบริษัทและน่าจะได้เงินคืน รวมถึงได้ยื่นฟ้องทีทีแอนด์ที มูลค่า 2,439 ล้านบาท ฐานที่ทำให้บริษัทได้รับความเสียหายในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
พิชญ์ ปิดท้ายว่าทิศทางธุรกิจในอนาคตยังดูสดใสมาก ในแง่ตัวบริษัทก็เริ่มมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นคือจะมุ่งธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) เป็นหลัก สำหรับข่าวลือว่า บมจ.ชิน คอร์ปอเรชั่น จะมาเทคโอเวอร์จัสมิน เขาตอบสั้นๆว่า "แค่ข่าวลือเท่านั้น"
“สำหรับปีนี้ รายได้รวมจัสมินน่าจะเติบโตได้ 15% (จาก 9,582 ล้านบาท) โดยหลักๆ ยังมาจากธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง" พิชญ์บอก
ต้องติดตามอนาคตหุ้น JAS ภายใต้การคุมเกมของผู้บริหารหนุ่ม พิชญ์ โพธารามิก ในวันที่ไร้เงาเซียนหุ้นวีไอหนุนหลัง...ขณะที่ธีมหุ้นสื่อสารกำลังแรง "ภาคสอง" ความฮึกเหิมของหุ้นจัสมินกำลังน่าติดตาม!!!