ใครรู้จักหุ้น เอกรัฐวิศวกรรมบ้างครับ

[Quadrifoglio Verde]

เหมือนเคยได้ยินมาก่อน แต่ไม่ค่อยได้เห็นพูดคุยกันในนี้เลย ไม่ทราบเป็นยังไงบ้างครับ ตัวนี้ พอดีได้ยินข่าวนี้มาน่ะครับ


เอกรัฐทุ่มประกาศ 2 หมื่นล้านผลิตครบวงจร ลุย ยึดหัวหาดโซล่าร์เซลล์ [6 มิ.ย. 51 - 05:22]

จากความสำเร็จของอุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า เอกรัฐ ที่มีรากฐานอันมั่นคงด้วยระยะเวลาอันยาวนานกว่า 21 ปี ของบริษัทเอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธุรกิจพลังงานด้านไฟฟ้ากำลัง และเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความมั่นคง จนสามารถนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ และด้วยความยอมรับของลูกค้าและผู้ใช้หม้อแปลงไฟฟ้าแรงสูงของบริษัท จึงทำให้ชื่อเสียงของหม้อแปลงไฟฟ้า เอกรัฐ เป็นที่รู้จักและนิยมใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 30 ประเทศ




โดยนายเกียรติพงศ์ น้อยใจบุญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเอกรัฐวิศวกรรม กล่าวว่า เพื่อเป็นการต่อยอดในกิจการด้านพลังงาน บริษัทตัดสินใจก้าวเข้าสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ เพราะเล็งเห็นถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกัน จึงได้ทำการศึกษาด้านพลังงานทดแทน และตัดสินใจเลือกลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์ หรือโซล่าร์เซลล์ (Solar Cell) ที่จะเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า


การเติบโตของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา ที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นปีละกว่า 30% และโซล่าร์เซลล์จะเป็นพลังงานทดแทนที่จะมีความสำคัญในระยะยาว เพราะการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์จะเป็นพลังงานที่มั่นคง ไม่มีความเสี่ยง ด้วยเหตุผลที่ว่าแสงอาทิตย์จะไม่มีวันหมด และไม่ขึ้นราคา
 

ธุรกิจโซล่าร์เซลล์อนาคตสดใส



นายเกียรติพงศ์กล่าวว่า พลังงานแสงอาทิตย์ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่เป็นพลังงานสะอาด (Clean Energy) ที่ลดภาวะของโลกร้อน และไม่มีมลภาวะของสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาของโลก การพัฒนาพลังงานจากแสงอาทิตย์


เป็นอุตสาหกรรมการค้าที่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ยังมีไม่แพร่หลายมากนัก มีเพียง 1-2 บริษัทที่เริ่มดำเนินการ และยังเป็นเพียงการซื้อเซลล์แสงอาทิตย์มาประกอบเป็นแผงเซลล์แสงอาทิตย์ (Module) เท่านั้น



ผมจึงมองเห็นโอกาสและคิดว่าเป็นอนาคตที่สดใส จึงลงทุนสร้างโรง-งานผลิตเซลล์แสงอาทิตย์เป็นแห่งแรกของประเทศไทย และเป็นประเทศแรกในอาเซียน



ทั้งนี้ บริษัทมองว่าตลาดของพลังงานแสงอาทิตย์จะมีความต้องการอย่างต่อเนื่อง และเติบโตอย่างรวดเร็วในอนาคต จึงตัดสินในลงทุนเมื่อปี 2547 ด้วยการเริ่มก่อตั้งโรงงานผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ในเบื้องต้น และเมื่อปี 2549 นำบริษัทเอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) เข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนำเงิน 500 ล้านบาท มาลงทุนในบริษัทเอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูก และกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีก 1,000 ล้านบาท นำมาก่อสร้างโรงงานและซื้อเครื่องจักรจากเยอรมัน ผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ ซึ่งโรงงานได้ก่อสร้างเสร็จและติดตั้งเครื่องจักรพร้อมทดลองเรียบร้อยแล้ว จนสามารถผลิตเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อการพาณิชย์ได้ตั้งแต่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิต 30 เมกะวัตต์ต่อปี



อย่างไรก็ตาม จากความสามารถในการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์และแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ทำให้ในปีนี้ บริษัทได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทยในธุรกิจประเภทนี้ ทั้งในด้านการผลิตและการจำหน่าย เป้าหมายการตลาดของบริษัทจึงมุ่งเน้นไปยังตลาดต่างประเทศ โดยเน้นกลุ่มอียูเป็นลูกค้าหลัก เพราะมีกำลังซื้อสูง อาทิ ประเทศเยอรมนี อิตาลี สเปน เพราะอียูเป็นกลุ่มประเทศที่นโยบายด้านพลังงานที่ชัดเจน มีกฎหมายด้านพลังงานหมุนเวียน ซึ่งกฎหมายดังกล่าวมีสาระสำคัญว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการผลิตและจัดหาไฟฟ้าของแต่ละประเทศ จะต้องรับซื้อไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานหมุนเวียนจากภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนให้เกิดการใช้พลังงานทางเลือก



มีการสั่งซื้อไปติดตั้งใช้งานที่ประเทศเยอรมนี อิตาลี สเปน และในยุโรปตะวันตก จนทำให้มีใบสั่งซื้อเต็มกำลังการผลิตไปจนตลอดสิ้นปีนี้ คิดเป็นมูลค่าแล้ว 1,000 ล้านบาท



ทุ่ม 2 หมื่นล้านผลิตครบวงจร



นายเกียรติพงศ์กล่าวว่า สำหรับอนาคตบริษัทจะมุ่งเน้นในการวางแผนขยายงานธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ให้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในด้านการผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ในปี 2552 อีก 12 เมกะวัตต์ และศึกษาลู่ทางการตลาดว่าควรจะขยายการผลิตเซลล์แสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าตัว คือ 60 เมกะวัตต์หรือไม่ ซึ่งจะพิจารณาตัดสินใจภายในปี 2552



ส่วนการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำคือ การผลิตซิลิคอนจากการถลุงแร่ควอทซ์ การผลิตโลหะซิลิคอน การทำให้ซิลิคอนบริสุทธิ์ การปลูกผลึก และการตัดแผ่นเวเฟอร์ ที่จะทำให้ครบวงจรการผลิตของพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ให้เกิดขึ้นใน ประเทศ บริษัทจะสรุปผลให้ได้ในสิ้นปีนี้ ซึ่งต้องวางแนวทางว่าจะลงทุนเองทั้งหมดหรือร่วมทุนกับต่างประเทศ หรือขอความร่วมมือจากภาครัฐเข้ามาร่วมลงทุน เพราะใช้การลงทุนถึง 20,000 ล้านบาท แต่ประโยชน์จะตกอยู่ในประเทศไทย เพราะจะทำให้ต้นทุนการผลิตที่ถูกลง



ทั้งนี้ บริษัทมองว่าปัญหาอุปสรรคที่ทำให้ธุรกิจประเภทนี้ของประเทศไทยยังไม่มีความแข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างยั่งยืนเกิดจาก 1. นโยบายภาครัฐไม่แน่นอน เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาล นโยบายและมาตรการก็เปลี่ยนไป และในรัฐบาลชุดปัจจุบันก็กลับมาสนใจและส่งเสริมโซล่าร์เซลล์ แต่กระทรวงพลังงานก็ยังไม่มีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนว่าจะกำหนดนโยบายให้ภาคเอกชนเดินตามไปในทิศทางใด เพราะมีเพียงนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ แต่รับซื้อเพียง 8 บาทต่อหน่วย ทั้งๆที่ราคาต้นทุนของผู้ผลิตอยู่ที่ 12 บาทต่อหน่วย 2. ขาดการสนับสนุนการวิจัยและการพัฒนา เพื่อให้เกิดเป็นอุตสาหกรรมในประเทศ ในรัฐบาลที่แล้วให้งบการวิจัยพลังงานไฟฟ้านิวเคลียร์ 1,800 ล้านบาท ส่วนพลังงานทดแทน 0 บาท หรือไม่มีเลย.  

ที่มา นสพ.ไทยรัฐ

http://www.ekarat-transformer.com/profi ... =milestone

[beammy]

ห้อง AKR ก้อมีหนิครับ  :8)  ...

[adi]

ตอนเด็กๆชอบไปกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำตรงหน้าบริษัทนี้แหละครับ เผ็ดสุดๆ

[คลายเครียด]

ข่าวเก่าแล้วครับ
ผมซื้อตั้งแต่  บริษํทออกข่าวครั้งแรก
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว

:lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:  :lol:

[pak]

งานนี้...Case Study อีกแล้วครับ!!!


เริ่มต้นด้วย...

ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร (แบบ 59-2)
เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) บมจ.(AKR)

ข้อมูลย้อนหลัง 3 ปีนับจากวันที่สำนักงานรับเอกสาร ชื่อผู้บริหาร ความสัมพันธ์ * ประเภทหลักทรัพย์ วันที่รับเอกสาร วันที่ได้มา/จำหน่าย จำนวน ราคา วิธีการได้มา/จำหน่าย หมายเหตุ

เรียงข้อมูลตาม : | ชื่อผู้บริหาร | วันที่ได้มา/จำหน่าย |

ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/11/2552 28/09/2552 500,000 1.00 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/01/2553 29/12/2552 500,000 0.92 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/03/2553 08/03/2553 500,000 0.83 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/03/2553 10/03/2553 180,400 0.83 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/03/2553 16/03/2553 319,600 0.83 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 22/03/2553 18/03/2553 500,000 0.85 ขาย
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 07/04/2553 01/04/2553 300,000 0.83 ซื้อ
ชลิต สถิตย์ทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/10/2553 18/10/2553 300,000 1.12 ขาย
ดนุชา น้อยใจบุญ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 27/05/2552 26/05/2552 1,128,000 0.00 โอนออก
ดนุชา น้อยใจบุญ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 27/05/2552 26/05/2552 3,760,000 0.00 โอนออก
ปริญญา นาคฉัตรีย์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 29/06/2552 26/06/2552 100,000 0.00 โอนออก
วิวัฒน์ แสงเทียน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 22/07/2553 22/07/2553 1,202,780 0.00 โอนออก

[pak]

หลักทรัพย์ AKR
แหล่งข่าว AKR
หัวข้อข่าว สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย ไตรมาสที่ 3 F45-3
วันที่/เวลา 11 พ.ย. 2554 18:42:00

สรุปผลการดำเนินงานของบจ.และรวมของบริษัทย่อย (F45-3)
บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน)

(หน่วย : พันบาท)
งบการเงินรวม
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
สอบทาน สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน
ปี 2554 2553 2554 2553
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (29,458) (36,722) (118,792) (158,881)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ (0.037) (0.046) (0.15) (0.201)
ต่อหุ้น (บาท)


งบการเงินเฉพาะกิจการ
ไตรมาสที่ 3 งวด 9 เดือน
สอบทาน สอบทาน
สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 30 กันยายน
ปี 2554 2553 2554 2553
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 39,938 (35,911) 53,868 (482,766)
กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 0.051 (0.045) 0.068 (0.611)
ต่อหุ้น (บาท)

ประเภทรายงานของผู้สอบบัญชีในงบการเงิน
ไม่มีเงื่อนไขและมีข้อสังเกต

หมายเหตุ

โปรดดูรายละเอียดงบการเงิน รายงานของผู้สอบบัญชี และหมายเหตุประกอบ
งบการเงินจากระบบบริการข้อมูลตลาดหลักทรัพย์

"ข้าพเจ้าขอรับรองว่าข้อมูลที่รายงานข้างต้นนี้ถูกต้องทุกประการ พร้อมกันนี้บริษัทได้จัดส่งงบการเงิน
ฉบับเต็มผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ของตลาดหลักทรัพย์และส่งต้นฉบับให้กับสำนักงาน ก.ล.ต.
เรียบร้อยแล้ว"



ลงลายมือชื่อ ___________________________
( นายดนุชา น้อยใจบุญ )
กรรมการผู้จัดการ
ผู้มีอำนาจรายงานสารสนเทศ

[pak]

จากนั้นโดนดอกนี้เข้าไป!!!

เรื่อง แจ้งคำพิพากษาของบริษัท และบริษัทย่อย

เรียน กรรมการและผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอแจ้งให้ทราบว่า เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน
2554 บริษัทได้รับคำพิพากษาของศาลจังหวัดพระโขนง (“ศาล”) ระหว่างธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
(“โจทก์”) และ บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด (“จำเลยที่ 1”) และ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน)
(“จำเลยที่ 2”) โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

ศาลได้พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน 933,450,754.15 บาท (เก้าร้อยสามสิบสาม
ล้านสี่แสนห้าหมื่นเจ็ดร้อยห้าสิบสี่บาทสิบห้าสตางค์) พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15.50 ต่อปี ของต้นเงิน
จำนวน 885,731,137.05 บาท (แปดร้อยแปดสิบห้าล้านเจ็ดแสนสามหมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบเจ็ดบาทห้า
สตางค์) นับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 3 มิถุนายน 2552) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จสิ้น หากจำเลยทั้งสอง
ไม่ชำระให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินโฉนดเลขที่ 9887, 9888, 9985, 9986 ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง
จังหวัดระยอง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เครื่องเชื่อม เครื่องประกอบ เครื่องล้างฯ หมายเลขทะเบียน (48-309-404)
0001 ถึง 0007 รวม 7 เครื่อง และเครื่องตรวจสอบ เครื่องกัดผิว เครื่องลำเลียง เครื่องเคลือบ เครื่องล้าง
เครื่องพิมพ์ฯ หมายเลขทะเบียน (51-314-403) 0001 ถึง 0030 จำนวน 30 เครื่อง และยึดทรัพย์จำนำของ
จำเลยที่ 1 และทรัพย์สินอื่นของจำเลยทั้งสองออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบจำนวน
กับให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 80,000 บาท (แปดหมื่น
บาทถ้วน)

โดยให้จำเลยทั้งสองปฏิบัติตามคำพิพากษาหรือคำสั่งที่กล่าวข้างต้นภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่
วันที่ได้รับคำบังคับเป็นต้นไป

ที่มา : http://www.set.or.th/dat/prsnews/news/0 ... 50148T.pdf

[pak]

บริษัทฯจึงทำหนังสือออกมาแบบเร่งด่วนก่อน คือ...
http://www.set.or.th/dat/prsnews/news/0 ... 30963T.pdf

[pak]

แต่ที่น่าอ่าน และน่าศึกษา คือ ตา Link นี้ครับ
Case Study ที่น่าสนใจครับ
v
v

ท่านที่สนใจปูมหลัง เควี แอสเซ็ท ลองอ่านที่นี่ดูครับ
http://www.thaihoon.com/2009/index.php? ... ew&id=8604

ผมไม่มีส่วนได้เสียเรื่องนี้นะครับ แค่อยากให้ข้อมูลเพื่อนนักลงทุนหลายๆด้านครับ

ได้อ่านแล้วงงครับ แบบนี้นึกถึงเพลงพุ่มพวงจังเลยครับ...ถอยห่างอีกนิด

[pak]

ผมอ่านเองแล้วยังมึนๆ เดี๋ยวว่าจะตั้งใจอ่านอีกครั้งอ่ะนะขอรับ
ส่วนตัวผมเอง...ไม่มีหุ้น

ถ้ามีใครเป็น ผถห. อยู่ และอยากแชร์มุมมองหรือความรู้สึก ก็ยินดีเลยนะครับ
ผมอยากอ่านเป็นกรณีศึกษาครับ

ขอบคุณมากๆครับ
_/\_

[halogen]

อ่านแล้วก็งง เช่นกันครับ คงต้องอ่าน หลาย ๆ รอบหน่อย เพื่อจะเข้าใจกระบวนการได้เพิ่มขึ้น

[pak]

มี.ค. 54 ผู้บริหารบอกว่า อาจมีพันธมิตรใหม่
v
v
AKRเผยเจรจาผู้ร่วมทุนรายใหม่เอกรัฐโซล่าร์เป็นบริษัทในไทย1-2เดือนสรุป
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 7 มีนาคม 2554 12:06:58 น.

แหล่งข่าวจาก บมจ.เอกรัฐวิศวกรรม(AKR) เปิดเผยว่า สาเหตุที่บริษัทแจ้งยกเลิกสัญญาการร่วมลงทุนระหว่างบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยกับ Devonshire Capital(HK) Limited และบริษัท อินฟินิตี้ โซล่าร์ เนื่องจากกระทรวงพลังงานไม่ออกใบอนุญาตประกอบกิจการการค้า(CPA)ภายใต้เวลาที่กำหนดไว้ ทำให้กับทางฝ่ายผู้ร่วมทุนไม่ลงทุนกับทางบริษัทฯ

จากนี้ไปบริษัทก็ต้องสรรหาพันธมิตรรายใหม่ให้กับ"เอกรัฐโซล่าร์" โดยขณะนี้ก็อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทที่จัดตั้งในประเทศไทย 2 ราย ซึ่งเป็นบริษัทฯที่ลงทุนในธุรกิจโซลาร์เซลล์อยู่แล้ว คาดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างเร็วภายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

"ตอนนี้ก็ให้ที่ปรึกษาทางการเงินเป็นผู้คัดเลือกหาพันธมิตรรายใหม่ให้กับเรา ก็มีบริษัทในไทยที่อยู่ระหว่างการเจรจามีทั้งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจโซล่าร์เซลล์อยู่แล้ว คาดว่าจะสรุปผลการเจรจาได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้านี้"แหล่งข่าววงใน AKR กล่าว

แหล่งข่าว ยังกล่าวอีกว่า ขณะนี้งานของบริษัทฯมีเข้ามาค่อนข้างมาก เรียกได้ว่าทำกันไม่ทันเลย แม้ว่าจะยังไม่ได้พันธมิตรร่วมทุนในตอนนี้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อบริษัทฯเท่าไรนัก

ล่าสุด เมื่อ 11.51 น.หุ้น AKR อยู่ที่ 0.72 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

[pak]

แต่...

พ.ค.54 ผู้บริหารขายหุ้นออกมาหมด!!! - -"

จุลจิตต์ บุณยเกตุขาย AKR ออกทั้ง 5.06%
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม 2554 08:26:20 น.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.)เปิดเผยว่า ก.ล.ต.ได้รับแบบรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. เอกรัฐวิศวกรรม(AKR)โดย นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 28 เม.ย.54 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น -5.06% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 0.0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

[pak]

ตามติดๆมาด้วย ข่าวนี้...
v
v
กตพล กนกพฤกษ์โยกหุ้น AKR ทั้ง 14.82% ให้ชัชชฎา กนกพฤกษ์
ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2554 09:11:04 น.

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้รับรายงานการจำหน่าย หุ้นของบมจ. เอกรัฐวิศวกรรม (AKR)

โดย นายกตพล กนกพฤกษ์ ซึ่งเป็นการจำหน่าย เมื่อวันที่ 14 ต.ค.54 จำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายคิดเป็น -14.82% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการจำหน่ายคิดเป็น 0.0% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

ในวันเดียวกันได้ รายงานการได้มา หุ้นของบมจ. เอกรัฐวิศวกรรม โดย น.ส. ชัชชฎา กนกพฤกษ์ จำนวนหลักทรัพย์ที่ได้มาคิดเป็น 14.82% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 14.82% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: [email protected]--

[pak]

ภาพประกอบจาคุณ Shimi (พันทิพฯ)

[pak]

พี่ Luck me (ซึ่งเป็นคนที่ผมให้ความเคารพมากๆท่านหนึ่ง) กล่าวไว้ในพันทิพ ว่า...

==================================================================
ตัว akr เองไม่มีปัญหา ในอดีตสามารถจ่ายปันผลได้ จนกระทั่งกู้เงินเปิดโรงงาน solar บริษัทลูก ขาดทุนมาตลอด กินแรงบริษัทแม่ akr จนจะหมดเนื้อหมดตัว ไม่สามารถจ่ายชำระเงินกู้ 900 ล้านบาทให้ tmb ได้ตามกำหนด ปัญหานี้ดูๆจะแก้ได้ปลายปี่ 2010 จะได้พันธ์มิตรเกาหลีมาซื้อบริษัทลูก akr ดูเหมือนว่าได้มีข้อตกลงว่าจะชำระหนี้ให้ tmb ในเดือนพฤศจิกายน 2010 เลื่อนออกไปเป็น มกราคม 2011 และแล้วพันธ์มิตรเกาหลีเบี้ยวไท้ท่ค่ทรนัดฉีกสัญญา เคยมีข่าวว่า akr จะฟ้องพันธ์มิตรเกาหลีเรียกค่าเสียหาย

วิกฤติ akr หนักหนาสาหัสสากรรจ์ ปัญหานี้จะแก้ได้ต้องได้พันธ์มิติเข้ามา take over ร่วมทุนบริษัทลูกสถานเดียวเท่านั้น ปลดปล่อยบริษัท akr หมดเวรหมดกรรมไร้ภาระ เริมต้นชีวิตใหม่

ด้วยความปรารถนาดี
==================================================================

แม้ผมไม่มีหุ้น แต่ก็ชอบติดตามครับ

ว่าแต่...

"แล้วสถานการณ์แบบนี้ จะให้ นลท.รายย่อยทำยังไงหล่ะครับนี่???"

[pak]

AKR : รายงานพิเศษ ของ ข่าวหุ้น
รายงานพิเศษ วันอังคารที่ 06 ธันวาคม 2554

คำตัดสินของศาลฎีกาล่าสุดต่อบริษัทลูกของบริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR นอกจากจะทำให้เกิดคำถามถึงการบริหารจัดการบริษัทแล้ว ยังมีคำถามต่อเนื่องไปถึงยุทธศาสตร์การลงทุนของบริษัทอีกด้วย

คดีดังกล่าว AKR ตกเป็นจำเลยร่วมกับ บริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด บริษัทลูก ซึ่ง AKR ถือหุ้นร้อยละ 99.99 โดยโจทย์ คือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งปล่อยเงินกู้ให้กับเอกรัฐโซล่าร์ โดย AKR ค้ำประกันเงินกู้ เพื่อดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตเซลล์และผลิตแผงเซลล์แสงอาทิตย์

โครงการดังกล่าว ถือเป็นจุดขายสำคัญที่ AKR ใช้เป็นเหตุในการเข้าจดทะเบียนเพื่อระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์เมื่อหลายปีก่อน

ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจก็อยู่ที่ เมื่อมีการดำเนินการไปแล้ว ปรากฏว่า เอกรัฐโซล่าร์ เกิดปัญหาทางการเงิน ไม่สามารถชำระเงินต้นให้กับเจ้าหนี้ให้แก่ธนาคารทหารไทยตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ได้ โดยอ้างเหตุผลว่า มีความล่าช้าในการนำหลักทรัพย์ของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และภาวะเศรษฐกิจที่ไม่เอื้ออำนวยในการทําธุรกิจ

ในปี 2552 บริษัทและบริษัทลูก ได้มีการดำเนินการเจรจาและแก้ไขสัญญาการใช้วงเงินสินเชื่อกับทางธนาคารหลายครั้ง แต่แล้วท้ายที่สุด ในวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2552 ทางธนาคารได้มีหนังสือบอกเลิกสัญญาการใช้วงเงินสินเชื่อของทางธนาคาร และบอกกล่าวบังคับจำนองให้บริษัทย่อยในฐานะลูกหนี้ และบริษัทในฐานะผู้ค้ำประกัน ชำระหนี้จำนวน 901.81 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน ซึ่งทางบริษัทย่อยได้มีการเจรจาในเรื่องดังกล่าว และได้บรรลุข้อตกลงร่วมกับทางธนาคาร แต่เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำทำให้บริษัทย่อยไม่สามารถดำเนินการชำระหนี้ตามที่ได้ตกลงกันไว้ได้ทันตามกำหนด

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ แม้จะถูกฟ้องร้องดังกล่าว แต่การก่อสร้างโซลาร์ฟาร์มของเอกรัฐโซล่าร์ที่ระยองก็ดำเนินต่อไป จนในต้นเดือนมีนาคม 2553 ก็ได้มีการเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าได้ จากโรงงานที่มีขนาดการผลิต 630 กิโลวัตต์ ในพื้นที่ 8 ไร่ ที่อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ผลิตไฟฟ้าได้ปีละประมาณ 870,000 หน่วย หรือ 25 ล้านเมกะวัตต์ต่อปี มีรายได้ปีละประมาณ 9.5 ล้านบาท (ดูภาพประกอบ) ซึ่งไม่คุ้มทุน เพราะมียอดขาดทุนต่อเนื่อง

ระหว่างนั้นเอง ผลการดำเนินงานของ AKR ที่แจ้งเป็นทางการต่อตลาดหุ้น ก็ปรากฏว่า มียอดขาดทุนต่อเนื่องจนกระทั่งส่วนของผู้ถือหุ้นที่เคยสูงถึงระดับมากกว่า 1,200 ล้านบาท มาเหลืออยู่ในล่าสุด (ดูตารางประกอบ) ประมาณ 265.92 ล้านบาทเมื่อสิ้นงวดไตรมาสสามของปีนี้

ความเสื่อมโทรมของกิจการ เกิดจากเหตุผลหลักอยู่ที่ยอดขายธุรกิจหลัก คือ ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ แม้จะยังไปได้ แต่มีการถดถอยต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากยอดขายที่ลดลงเรื่อยๆ ตรงกันข้ามกับคู่แข่งขันในธุรกิจเดียวกันที่ยังเติบโตได้ดีและมีกำไรต่อเนื่อง

ส่วนจะเกิดขึ้นเพราะการเปลี่ยนแปลงตัวประธานกรรมการที่เปลี่ยนจาก นายจุลจิตต์ บุณยเกตุ ที่ได้ขอลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการบริษัทและกรรมการ ในเดือนพฤษภาคม 2552 มาเป็นนายวิชิต แย้มบุญเรือง ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าเกี่ยวเนื่องกันหรือไม่

ข้อเท็จจริงที่ชัดเจนอย่างหนึ่งที่น่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญ น่าจะอยู่ที่ความไม่แน่นอนในการทำธุรกิจพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นธุรกิจแห่งอนาคตเป็นสำคัญ เพราะล่าสุดเมื่อปลายปี 2553 AKR ได้ประกาศยกเลิกการร่วมลงทุนในเอกรัฐโซล่าร์ กับ Devonshire Capital (HK) Limited และบริษัท อินฟินิตี้ โซล่าร์ จำกัด เนื่องจากนักลงทุนเป้าหมายทั้งสองราย ผิดนัดจ่ายชำระค่าซื้อหุ้นในบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด จำนวน 41.03 ล้านบาท ซึ่งเอกรัฐโซล่าร์หวังจะเอาเงินลงทุนดังกล่าวไปซื้อหนี้สินของเอกรัฐโซล่าร์ที่มีต่อธนาคารทหารไทย พร้อมกับต่อมาได้แจ้งเรื่องนี้ต่อตลาดในเดือนมีนาคมปีนี้

การยกเลิกสัญญาร่วมทุนดังกล่าว ทำให้เอกรัฐโซล่าร์ต้องแสวงหาผู้ร่วมทุนรายใหม่ แต่การดำเนินการแบบ “หวังน้ำบ่อหน้า”ดังกล่าว ดูเหมือนยังไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะล่าสุด นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ AKR ก็ให้สัมภาษณ์ว่า อาจพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตในบริษัท เอกรัฐโซล่าร์ จำกัด อีกเท่าตัว โดยจะเป็นการเพิ่มเครื่องจักร แต่คงต้องรอผลสรุปผู้ร่วมทุนก่อน

พร้อมกันนั้นก็ยังยืนยันว่า ปี 2555 เอกรัฐโซล่าร์ จะขาดทุนลดลง และหากผลสรุปผู้ร่วมทุนบรรลุเป้าหมาย จะผลักดันบริษัทดังกล่าวเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายใน 2-3 ปีนี้

ความไม่ชัดเจนในแผนธุรกิจอันเกิดจากปัญหาผู้ร่วมทุนที่จะอัดฉีดเงินมาสนับสนุนโครงการโซลาร์ผลิตไฟฟ้า น่าจะเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้โครงการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับธนาคารทหารไทยของ AKR ไม่คืบหน้า จนกระทั่งยืดเยื้อเป็นผลถึงขั้นศาลฎีกา ลงวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 ได้พิพากษาให้ เอกรัฐโซล่าร์ และ AKR ร่วมรับผิดชอบชำระเงินจำนวน 933.45 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15.50 ต่อปี ของต้นเงินจำนวน 885.73 ล้านบาท โดยหากจำเลยทั้งสองไม่ชำระ ให้ยึดทรัพย์จำนองที่ดินหลายแปลง ที่อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง พร้อมสิ่งปลูกสร้าง เครื่องเชื่อม เครื่องประกอบ เครื่องล้างฯ และยึดทรัพย์จำนำออกขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์จนครบจำนวน ไม่นับค่าฤชาธรรมเนียมแก่โจทก์

ชะตากรรมจากการต้องถูกบังคับคดีจากศาลเต็มรูปเช่นนี้ ทำให้เกิดคำถามตามมาว่า หากต้องใช้หนี้เต็มจำนวนดังกล่าวตามคำสั่งศาลแล้ว ฐานะในอนาคตของบริษัทจะเป็นเช่นใด

จากนี้ไป การเดินหน้า หรือ ถอยของบริษัท คงต้องมีความชัดเจนมากกว่านี้ ถือเป็นบทเรียนสำหรับคณะกรรมการและผู้บริหารบริษัท รวมทั้งนักลงทุนทั่วไปด้วย เพราะการรุกเข้าไปในธุรกิจแห่งอนาคตนั้น จะต้องมีอนาคตที่จับต้องได้ มิใช่ลอยอยู่ในอากาศธาตุ

จากคุณ : luck me

[pak]

เอกรัฐแจงตลาดปัญหาหนี้ บ.ย่อยไม่กระทบส่วนทุน [ กรุงเทพธุรกิจ, 18 ม.ค. 55 ]

เอกรัฐวิศวกรรม แจงหนี้บริษัทย่อยไม่กระทบส่วนผู้ถือหุ้น เร่งหาพันธมิตรร่วมทุน-เจรจาปรับหนี้กับ
ทหารไทย คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปีนี้ ส่วนไทยยูนีคคอยล์เซ็นเตอร์ ลั่นเจรจาปรับโครงสร้างหนี้
เสร็จในไตรมาส 2/2555

[OMAC]

เอกรัฐโซล่า เป็นโรงงานที่ผลิตโซลาเซลล์เป็นหลัก

แต่ทำไมผลการดำเนินงานถึงได้สวนทางกับธุรกิจโซล่าฟาร์ม ซึ่งกำลังบูมมากมีการวิ่งหาใบอนุญาติ (Adder 8 บาท) สำหรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าขนาดเล็กกันให้วุ่น

ลองสังเกตนะครับเวลาข่าวลงว่าใครจะเริ่มสร้าง/ผลิต โซล่าฟาร์มกลับไม่มีชื่อเอกรัฐโซล่าเป็นผู้ผลิตแผงเลย ทั้งที่ในประเทศมีผู้ผลิตแผงเพียงไม่กี่ราย ส่วนใหญ่จะนำเข้าแผงมาจากต่างประเทศทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นประเทศจีน ญี่ปุ่น เยอรมัน(ซึ่งน้อย)

อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากกำลังการผลิตของโรงงานในประเทศพบว่า แต่ละที่มีกำลังการผลิตแค่ 30 MW/year เทียบกับ 300 MW - 2 GW จากต่างประเทศ ซึ่งพอจะบอกได้ว่าเมื่อนำเข้าแผง+ต้นทุนค่านำเข้าแล้วต้นทุนก็ยังต่ำกว่าผลิตในประเทศแน่ๆครับ ทำให้คนที่มีโรงงานตอนนี้หนักครับพูดได้คำเดียว

หนำซ้ำตอนนี้ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศมีปัญหาประเทศต่างๆลดการสนับสนุนพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งมีต้นทุนการผลิตสูงสุดดังนั้น ปริมาณความต้องการแผงในตลาดโลกน่าจะลดลงอย่างแน่นอน บริษัทเล็กๆที่ต้นทุนแข่งขันไม่ได้ ไม่มีนวัตกรรม ไม่น่าจะอยู่รอดครับ และโรงงานของเอกรัฐเข้าใจว่าก่อสร้างประมาณช่วงปี 2547 - 2548 แถวๆนั้นนะครับ ไม่น่าจะเป็นเครื่องที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ ผมขอเดาล้วนๆว่าไม่น่าจะรอดนะครับสำหรับบริษัทนี้

สำหรับตัวแม่ก็เป็นอีกธุรกิจนึง ต้องมองอีกมุมต่างหาก พอดีไม่ได้สนใจธุรกิจนี้เลยไมได้ศึกษาครับใครมีความเห็นอื่นๆก็แบ่งปันกันได้ครับ

[pak]

วันที่/เวลา 02 เม.ย. 2555 12:33:13
หัวข้อข่าว แจ้งการลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
หลักทรัพย์ AKR
แหล่งข่าว AKR
ที่ http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... country=TH